พระเจ้าอีริคที่ 6 แห่งเดนมาร์ก หรือ อีริคที่ 6 เม็นเว็ด (Eric VI Menved; ค.ศ. 1274 - 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1319) พระราชโอรสในพระเจ้าอีริคที่ 5 แห่งเดนมาร์กกับอักเนสแห่งบรันเดินบวร์ค พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ตั้งแต่ค.ศ. 1286 ขณะมีพระชนมายุ 12 พรรษา หลังจากพระราชบิดาถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 22 พฤศจิกายน โดนมือสังหารที่ตามจับไม่ได้ ดังนั้นในช่วงทรงพระเยาว์ พระราชมารดาจึงขึ้นสำเร็จราชการแผ่นดินเดนมาร์กแทนพระองค์ขนถึงปีค.ศ. 1294
พระเจ้าอีริคที่ 6 แห่งเดนมาร์ก | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
พระบรมสาทิสลักษณ์พระเจ้าอีริคที่ 6 แห่งเดนมาร์ก บนโลงพระศพ | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 1286 – 13 พฤศจิกายน 1319 | ||||
ราชาภิเษก | 25 ธันวาคม ค.ศ. 1287 | ||||
ก่อนหน้า | อีริคที่ 5 | ||||
ถัดไป | คริสตอฟเฟอร์ที่ 2 | ||||
ผู้สำเร็จราชการ สมเด็จพระพันปีหลวงอักเนส (1286-1293) | |||||
ประสูติ | ราว ค.ศ. 1274 | ||||
สวรรคต | 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1319 รอสกิลด์, เดนมาร์ก | (45 ปี)||||
ฝังพระศพ | , , เดนมาร์ก | ||||
คู่อภิเษก | เจ้าหญิงอิงเงอร์บอร์ก มักนุสด็อทเทอร์แห่งสวีเดน | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | |||||
พระราชบิดา | พระเจ้าอีริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | อักเนสแห่งบรันเดินบวร์ค | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
สมัยผู้สำเร็จราชการ
รัชกาลของพระเจ้าอีริค เม็นเว็ดอยู่ในช่วงกลางสมัยตกต่ำของเดนมาร์กในปีค.ศ. 1241 - 1340 ช่วงต้นรัชกาลของพระองค์ปกครองโดยพระราชมารดาและพระญาติวงศ์ฝ่ายเยอรมันของพระนาง นำมาซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบและสงครามที่เป็นผลมาจากการลองปลงพระชนม์พระราชบิดาของพระองค์
การดำเนินการครั้งแรกของรัชสมัยนี้คือ การดำเนินการยุติคดีการปลงพระชนม์อดีตกษัตริย์โดยศาลที่ในวันของปีค.ศ. 1287 มีการแต่งตั้งบุรุษผู้ทรงเกียรติ 27 คนเพื่อพิจารณาคดีนี้ และมีการกล่าวหาแม่ทัพ หรือมาร์ค สติกและ รวมถึงคนอีกเจ็ดคนในข้อหานี้ หลังจากพิจารณาคดีทั้งวัน คณะลูกขุนตัดสินว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีความผิด ทรัพย์สินของนักโทษทั้งหมดถูกริบและพวกเขาถูกเนรเทศออกจากเดนมาร์กด้วยความกลัวตาย แม้แต่สมเด็จพระสันตะปาปายังประกาศขับผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้ออกจากศาสนา
คำตัดสินนั้นเป็นที่น่าสงสัยหลายจุด ไม่มีการพิสูจน์ว่าผู้ถูกกล่าวหาคนหนึ่งคนใดอยู่บริเวณใกล้กับที่กษัตริย์สวรรคต ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับอนุญาตให้กล่าวคำสาบานความบริสุทธิ์ต่อหน้าศาลหรือบุรุษผู้ทรงเกียรติ ซึ่งเป็นสิทธิที่พวกเขาควรได้รับตามกฎหมาย แม้ว่าจะมีความไม่ชัดเจนในการสวรรคตของกษัตริย์อีริคที่ 5 แต่คณะลูกขุนใช้เวลาวันเดียวตัดสินว่ามีความผิด ผู้ต้องหาทั้งหมดล้วนเป็นข้าราชบริพารวงในของกษัตริย์อีริคที่ 5 ซึ่งพวกเขาไม่ได้อะไรจากการสวรรคตของกษัตริย์
นักประวัติศาสตร์อย่าง (ค.ศ. 1876-1951) และฮูโก เยอร์วิง (ค.ศ. 1908 - 2002) ได้ระบุว่าการตัดสินครั้งนี้เป็น และได้มองว่าการปลงพระชนม์กษัตริย์เกิดจากความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจระหว่างขุนนางสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งนำโดยมาร์ค สติก กับอีกกลุ่มหนึ่งนำโดย กลุ่มตระกูลอเบล ดยุกวัลเดมาร์หมดอิทธิพลในปีค.ศ. 1283 แต่ก็ก้าวขึ้นมามีอิทธิพลอย่างรวดเร็วในปีค.ศ. 1288 เหล่านักประวัติศาสตร์มองว่า วัลเดมาร์กับพันธมิตรของเขาอาจวางแผนลอบปลงพระชนม์กษัตริย์และใส่ความแก่ศัตรูในศาล นักประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งคือ คาอี ออร์บี (ค.ศ. 1935-1993) ชี้ให้เห็นว่าการปลงพระชนม์เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในราชวงศ์ที่ต้องการครองราชบัลลังก์เดนมาร์ก มีผู้อ้างสิทธิคนอื่นๆ ที่อ้างว่ามีสิทธิในบัลลังก์เดนมาร์กมากกว่าหรือทัดเทียมกษัตริย์อีริคที่ 5 ได้แก่ กษัตริย์นอร์เวย์ และ พระอนุชา ซึ่งเป็นพระราชนัดดาในพระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
อันเดอร์เซนและพรรคพวกหลบหนีไปยังนอร์เวย์และได้รับการต้อนรับจากกษัตริย์อีริคแห่งนอร์เวย์ ผู้ทรงยินดีต้อนรับศัตรูของกษัตริย์เดนมาร์ก พระองค์ได้พระราชทานป้อมคองเชลเลอใกล้ชายแดนเดนมาร์กให้แก่อันเดอร์เซน อันเดอร์เซนกลายเป็นโจรสลัดและยึดครองพื้นที่บริเวณชายฝั่งเดนมาร์กเป็นเวลาหลายปี กลุ่มผู้ถูกเนรเทศได้สร้างท่าเรือที่แซมเซอ เฮล์ม สโปรเกอและเฮลเกอเนส ไม่มีเรือใดๆ ปลอดภัย ไม่มีเมืองริมชายฝั่งใดๆ ปลอดภัยจากสติก อันเดอร์เซน ไวด์ การปล้นสะดมครั้งร้ายแรงที่สุดของเขาเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1289 เมื่อเขาขึ้นฝั่งพร้อมกับกองทัพนอร์เวย์ขนาดเล็กที่เมือง เกาะฟาลสเตอร์ วิสเลาที่ 2 แห่งรือเงิน ผู้สำเร็จราชการเดนมาร์กได้ใช้กองเรือชาวเวนด์ขับไล่อันเดอร์เซนกลับไปยังนอร์เวย์ การกระทำของอันเดอร์เซนได้จุดประกายสงครามและความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรนอร์ดิกที่ยืดเยื้อกว่าสี่ทศวรรษ
รัชกาล
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าอีริคที่ 6 | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | Hans Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
ในเวลาเดียวกันความขัดแย้งทางศาสนาได้เกิดขึ้นเนื่องจาก อาร์กบิชอปแห่งลุนด์คนใหม่ผู้ทะเยอทะยาน ได้สนับสนุนพวกนอกกฎหมาย รวมถึงญาติพี่น้องของเขาแทนที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ เมื่อเขาได้รับเลือกสู่ตำแหน่งโดยสมเด็จพระสันตะปาปา เขาก็รับปากต่อพระองค์ว่าจะสาบานตนจงรักภักดีต่อกษัตริย์ เขากล่าวว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่ากษัตริย์เดนมาร์กจะเป็นดยุกวัลเดมาร์ ชาวยิว ชาวเติร์ก พวกนอกศาสนาหรือเป็นปีศาจ แต่ต้องไม่ใช่อีริคหรือคริสตอฟเฟอร์" บิชอปเจนส์ดำเนินแผนการไปไกลกว่านั้น เขามอบที่ดินของคริสตจักรที่ฮุนเดอฮัลด์แก่พวกกบฏที่ถูกเนรเทศเพื่อสร้างป้อมปราการและยังให้ความบันเทิงแก่พวกเขาด้วย กษัตริย์ทรงทนไม่ไหวทรงมีพระราชโองการให้จับกุมบิชอปเจนส์ในปีค.ศ. 1294 อาร์กบิชอปถูกส่งไปคุมขังล่ามโซ่โดยดยุกคริสตอฟเฟอร์ที่ "หอคอยมืด" ในซอบอร์ก หลังจากต้องทนกับสภาพเลวร้ายหลายเดือน กษัตริย์ทรงส่งคนไปตรวจสอบบิชอปเจนส์เพื่อดูว่าเขาจะสาบานจงรักภักดีอีกครั้งหรือไม่และต้องสัญญาว่าจะไม่แก้แค้นจากการถูกจองจำครั้งนี้ บิชอปตอบว่า "แทนที่ข้าจะยอมก้มหัวตามพระราชประสงค์ ข้ายอมให้กษัตริย์สับร่างข้าเป็นชิ้นๆ เสียยังดีกว่าที่จะยอมทำตามคำสั่งของพระองค์" หลังจากเขาถูกกักขังด้วยสภาพที่เลวร้ายเป็นเวลาสองปี บิชอปเจนส์สามารถหลบหนีได้ด้วยความช่วยเหลือของคนรับใช้ในครัว บิชอปเจนส์หลบหนีไปยังกรุงโรมเพื่อให้สันตะสำนักพิจารณาคดีของเขา สมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกาศขับไล่กษัตริย์อีริคออกจากศาสนา ชาวเดนมาร์กทั้งหมดถูกคว่ำบาตรจนกว่าอาณาจักรจะจ่ายเงินชดเชยให้บิชอปเจนส์ กรันด์ 49,000 เหรียญ เดนมาร์กไม่สามารถหาเงินจำนวนดังกล่าวได้จึงต้องอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรเป็นเวลาสี่ปี ในปีค.ศ. 1302 กษัตริย์อีริคทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเพื่อขอความเมตตาแก่พระองค์เองและราชอาณาจักรที่ปราศจากการรับศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาหลายปี พระองค์สัญญาว่าจะทำทุกสิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาดำรัสสั่ง กษัตริย์อีริคทรงถ่อมตนต่อหน้าสาธารณชน ทรงได้รับการเจรจาจากตัวแทนเดนมาร์กอย่าง พระองค์ยินดีที่จะลดค่าปรับลงถึง 80% จะมีการยกเลิกการคว่ำบาตรและการขับออกจากศาสนา และอาร์กบิชอปเจนส์ได้รับตำแหน่งจากสมเด็จพระสันตะปาปาอีกครั้ง โดยเขาไม่ต้องขึ้นตรงต่อกษัตริย์อีริค
กษัตริย์อีริคทรงรักในการประลองอย่างมาก และพระราชทรัพย์ก็หลั่งไหลออกจากท้องพระคลังเพราะการจัดงานบันเทิงของพระองค์ การประลองอัศวินครั้งหนึ่งที่ร็อสท็อค ไวน์ เหล้าน้ำผึ้งและเบียร์ มีให้เติมตลอดทั้งเดือนสำหรับทุกคนที่ต้องการดื่ม กษัตริย์ทรงจ่ายค่าบำรุงม้าและปศุสัตว์ทั้งหมดตลอดทั้งงานประลอง รวมถึงข้าวโอ๊ตกองเท่าภูเขาสำหรับแขกในงานทุกคน พระองค์ทรงสร้างระบบภาษีแบบใหม่และไม่ธรรมดาที่ขูดรีดทั้งชาวนาและขุนนางไปพร้อมๆ กัน เมื่อภาษีไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของกษัตริย์ พระองค์ได้ยืมเงินจำนวนมากจากเหล่าขุนนางเยอรมัน รวมถึงการจำนองที่ดินของเดนมาร์กให้แก่พวกเขา กษัตริย์อีริคทรงยกทัพไปแสวงหาที่ดินใหม่ๆ ในเยอรมนีเพื่อจะกู้คืนความเป็นมหาอำนาจแห่งสแกนดิเนเวียของเดนมาร์กโดยผ่านการเป็นพันธมิตรกับเจ้านครเยอรมัน ได้แก่ ดยุกแห่ง พระองค์พยายามเป็นเจ้าเหนือหัวของเมืองสันนิบาตฮันเซอหลายเมืองเพื่อต่อสู้กับบรันเดินบวร์คและรัฐอื่นๆ พระองค์ยังทรงแทรกแซงสวีเดนเพื่อสนับสนุนพระอนุชาของพระมเหสีในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านในปีค.ศ. 1305 และอีกครั้งในปีค.ศ. 1307 - 1309 ในขณะเดียวกันทรงสู้รบอยู่ในเยอรมนี พระองค์ทรงว่าจ้างทหารเยอรมันเพื่อพลิกสถานการณ์ด้วยเงิน
ในปีค.ศ. 1312 เกิดทุพภิกขภัยในเดนมาร์ก เมื่อกษัตริย์ทรงเรียกเก็บภาษีเช่นเดิม ชาวนาในเชลลันด์จึงก่อกบฏ กษัตริย์อีริคทรงปราบปรามกบฏอย่างโหดร้าย มีการแขวนคอชาวนาหลายร้อยคนรอบกรุงโคเปนเฮเกน ปีถัดมามีการประชุมสภาที่ ชาวนาและขุนนางประกาศก่อบกบฏต่อกษัตริย์อย่างเปิดเผย ใครที่ไม่ยอมช่วยเหลือกบฏและยังสนับสนุนกษัตริย์ จะถูกจับแขวนคอที่คานบ้านของคนนั้นเอง กษัตริย์อีริคทรงปราบปรามกบฏด้วยกองกำลังทหารรับจ้างเยอรมัน ซึ่งกวาดล้างพวกกบฏไปไกลถึงราเนอส์ กษัตริย์ทรงสร้างป้อมปราการด้วยการใช้แรงงานทาสชาวนา ซึ่งเป็นบทลงโทษสำหรับพวกกบฏ ขุนนางที่เกี่ยวข้องต่างถูกเนรเทศหรือประหารชีวิต ทรัพย์สินถูกริบเข้าท้องพระคลัง มีการก่อสร้างฐานที่มั่นทั้งสี่ ได้แก่ ในฮอร์เซนส์ ในทางตอนเหนือของออร์ฮูส ปราสาทบอร์กโวลด์ในวีบอร์ก และปราสาทอูลสตรัปทางตะวันออกของ นีลส์ บร็อคถูกประหารด้วยโทษฐานที่ให้ที่ซ่อนแก่ราเนอ จ็อนเซน (ค.ศ. 1254-1294) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมคบคิดลอบปลงพระชนม์พระราชบิดาของกษัตริย์อีริคที่ 6 ที่ฟินเดอรัป
ในปีค.ศ. 1313 กษัตริย์อีริคทรงยอมมอบทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ทั้งหมดในจัตแลนด์ตอนใต้แก่ดยุกเพื่อแลกกับเงินสด ในช่วงปีค.ศ. 1315 ถึง 1317 พืชผลไม่เจริญเติบโตอีกครั้ง ทำให้ไม่มีอะไรเหลือในการเก็บภาษี ท้องพระคลังว่างเปล่า ในปีค.ศ. 1317 กษัตริย์อีริคทรงจำนองเกาะฟึนทั้งหมดแก่และ เพื่อแลกกับอัศวิน 200 นาย ก่อนพระองค์จะสวรรคตพระองค์ยังจำนองแก่ขุนนางเยอรมันเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่อไป ความยิ่งใหญ่ของเดนมาร์กถูกทำลายลงครั้งสุดท้ายด้วยทำการยึดป้อมปราการเดนมาร์กที่ร็อสท็อค
เมื่อกษัตริย์อีริคสวรรคตในปีค.ศ. 1319 พระองค์ทรงสวรรคตหลังพระราชบุตร 14 พระองค์ เดนมาร์กกำลังล้มละลาย ผู้สืบบัลลังก์ต่อคือ พระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 2 พระอนุชา ซึ่งปกครองเดนมาร์กในช่วงปีค.ศ. 1320 - 1326
การตัดสินกษัตริย์อีริคที่ 6
ตามลักษณะแล้วกษัตริย์อีริคที่ 6 ทรงถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลเพียงไม่กี่คนที่โดดเด่นในยุคนั้น เนื่องจากทรงพยายามกอบกู้ดินแดนที่ห่างไกลของอาณาจักรเดนมาร์ก พระองค์ได้รับการยกย่องในวรรณกรรมสมัยโรแมนติกของเดนมาร์ก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการมองว่านโยบายของพระองค์เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของจักรวรรดิเดนมาร์กในบอลติกและยุโรปเหนือที่จะเกิดขึ้นในยุคต่อไป
พระสมัญญาของกษัตริย์อีริคที่ 6 ได้รับการกล่าวถึงอย่างมาก คำอธิบายที่เป็นที่นิยมคือเป็นคำย่อของคติพจน์ของรัชกาลของพระองค์ (“ved alle hellige mænd” แปลว่า all holy men หรือ เหล่าบุรุษผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล) และมีการอธิบายสมัญญาภาษาเดนมาร์กโบราณว่า "เม็นเว็ด" (“menvett” แปลว่า bird of ill omen หรือ นกแห่งลางร้าย)
พระโอรสธิดา
พระองค์อภิเษกสมรสในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1296 กับเจ้าหญิงอิงเงอร์บอร์ก มักนุสด็อทเทอร์แห่งสวีเดน พระราชธิดาใน และเป็นพระเชษฐภคินีใน ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรส 8 พระองค์ ซึ่งสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระราชินีทรงแท้งพระบุตร 6 ครั้ง แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลกล่าวว่าทรงแท้งพระบุตรในช่วงระหว่าง 8 - 14 ครั้ง การทรงพระครรภ์หลายครั้งนำมาซึ่งการแท้ง หรือมีพระประสูติกาลแต่พระบุตรสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระโอรสที่มีบันทึกไว้ได้แก่
- เจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก (สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1302)
- เจ้าชายอีริคแห่งเดนมาร์ก
- เจ้าชายมักนุสแห่งเดนมาร์ก
- เจ้าชายไม่ปรากฏพระนาม (ประสูติและสิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1318) ตามพงศาวดารระบุว่า สมเด็จพระราชินีอิงเงอร์บอร์กทรงยินดียิ่งนักที่พระโอรสประสูติมาแล้วมีพระชนม์ชีพ พระนางทรงนำพระโอรสออกนั่งรถเกวียนม้าเพื่อแสดงต่อหน้าสาธารณชน แต่พระนางทรงทำพระโอรสลื่นหลุดพระหัตถ์ พระโอรสจึงตกกระแทกพื้น พระศอหักสิ้นพระชนม์ ต่อมาสมเด็จพระราชินีอิงเงอร์บอร์กเสด็จเข้าไปประทับอยู่ในคอนแวนต์นักบุญแคลร์ในรอสคิลด์ พระนางสิ้นพระชนม์ในปีต่อมา
มีบางหลักฐานระบุว่ากษัตริย์อีริคที่ 6 ทรงมีพระโอรสนอกสมรส คือ (ราวค.ศ. 1300 - 1364) ที่ในเกาะ ซึ่งศพของเขาถูกฝังที่พร้อมมงกุฎ แต่บางหลักฐานอ้างว่านั้นเป็นพระโอรสของพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
อ้างอิง
- "Kong Erik VI Menved". Danmarks Konger. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Erik Menved, 1274-1319". Danmarks Historien. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Stig Andersen Hvide d.æ". Den Store Danske, Gyldendal. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Grev Jakob af Hallands arv". Den Store Danske, Gyldendal. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Erik Arup". Den Store Danske, Gyldendal. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Kai Hørby". Den Store Danske, Gyldendal. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- . Danmarks Riges Krønike
- "Jens Grand". roskildehistorie.dk. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Rane Jonsen". Dansk Biografisk Leksikon. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Gerhard III. (Graf von Holstein)". Allgemeine Deutsche Biographie. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Heinrich II. (Fürst von Mecklenburg)". Allgemeine Deutsche Biographie. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Christoffer 2. 1276-1332". Danmarks Historien (Aarhus University). สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Ingeborg, –1319, Dronning". Dansk biografisk Lexikon. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- http://www.roskildehistorie.dk/stamtavler/konger/4_Middelalder/Klipping.htm
- Arup, Erik (1951) Danmarks historie (Copenhagen: Hagerup)
- Fagerland, Tor Einar (2006) Krigføring og politisk kultur i nordisk middelalder, (NTNU)
- Hørby, Kai (1989) Gyldendals og Politikens -danmarkshistorie. 1250-1400 (Copenhagen: Gyldendal)
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Eric VI of Denmark
ก่อนหน้า | พระเจ้าอีริคที่ 6 แห่งเดนมาร์ก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าอีริคที่ 5 | พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก (ค.ศ. 1286 - ค.ศ. 1319) | พระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 2 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecaxirikhthi 6 aehngednmark hrux xirikhthi 6 emnewd Eric VI Menved kh s 1274 13 phvscikayn kh s 1319 phrarachoxrsinphraecaxirikhthi 5 aehngednmarkkbxkensaehngbrnedinbwrkh phraxngkhthrngepnphramhakstriyaehngednmark tngaetkh s 1286 khnamiphrachnmayu 12 phrrsa hlngcakphrarachbidathuklxbplngphrachnminwnthi 22 phvscikayn odnmuxsngharthitamcbimid dngnninchwngthrngphraeyaw phrarachmardacungkhunsaercrachkaraephndinednmarkaethnphraxngkhkhnthungpikh s 1294phraecaxirikhthi 6 aehngednmarkphramhakstriyaehngednmarkphrabrmsathislksnphraecaxirikhthi 6 aehngednmark bnolngphrasphphramhakstriyaehngednmarkkhrxngrachy1286 13 phvscikayn 1319rachaphiesk25 thnwakhm kh s 1287kxnhnaxirikhthi 5thdipkhristxfefxrthi 2phusaercrachkar smedcphraphnpihlwngxkens 1286 1293 prasutiraw kh s 1274swrrkht13 phvscikayn kh s 1319 1319 11 13 45 pi rxskild ednmarkfngphrasph ednmarkkhuxphieskecahyingxingengxrbxrk mknusdxthethxraehngswiednphrarachbutrecachaywledmaraehngednmark ecachayxirikhaehngednmark ecachaymknusaehngednmark ecachayimpraktphranamphranametmxirikh xirikhesn aexstridesnrachwngsphrarachbidaphraecaxirikhthi 5 aehngednmarkphrarachmardaxkensaehngbrnedinbwrkhsasnaormnkhathxliksmyphusaercrachkarrchkalkhxngphraecaxirikh emnewdxyuinchwngklangsmytktakhxngednmarkinpikh s 1241 1340 chwngtnrchkalkhxngphraxngkhpkkhrxngodyphrarachmardaaelaphrayatiwngsfayeyxrmnkhxngphranang namasungehtukarnkhwamimsngbaelasngkhramthiepnphlmacakkarlxngplngphrachnmphrarachbidakhxngphraxngkh kardaeninkarkhrngaerkkhxngrchsmynikhux kardaeninkaryutikhdikarplngphrachnmxditkstriyodysalthiinwnkhxngpikh s 1287 mikaraetngtngburusphuthrngekiyrti 27 khnephuxphicarnakhdini aelamikarklawhaaemthph hruxmarkh stikaela rwmthungkhnxikecdkhninkhxhani hlngcakphicarnakhdithngwn khnalukkhuntdsinwaphutxnghathnghmdmikhwamphid thrphysinkhxngnkothsthnghmdthukribaelaphwkekhathukenrethsxxkcakednmarkdwykhwamklwtay aemaetsmedcphrasntapapayngprakaskhbphuthukklawhaehlanixxkcaksasna khatdsinnnepnthinasngsyhlaycud immikarphisucnwaphuthukklawhakhnhnungkhnidxyubriewniklkbthikstriyswrrkht phuthukklawhaimidrbxnuyatihklawkhasabankhwambrisuththitxhnasalhruxburusphuthrngekiyrti sungepnsiththithiphwkekhakhwridrbtamkdhmay aemwacamikhwamimchdecninkarswrrkhtkhxngkstriyxirikhthi 5 aetkhnalukkhunichewlawnediywtdsinwamikhwamphid phutxnghathnghmdlwnepnkharachbripharwnginkhxngkstriyxirikhthi 5 sungphwkekhaimidxaircakkarswrrkhtkhxngkstriy nkprawtisastrxyang kh s 1876 1951 aelahuok eyxrwing kh s 1908 2002 idrabuwakartdsinkhrngniepn aelaidmxngwakarplngphrachnmkstriyekidcakkhwamkhdaeyngaeyngchingxanacrahwangkhunnangsxngklum klumhnungnaodymarkh stik kbxikklumhnungnaody klumtrakulxebl dyukwledmarhmdxiththiphlinpikh s 1283 aetkkawkhunmamixiththiphlxyangrwderwinpikh s 1288 ehlankprawtisastrmxngwa wledmarkbphnthmitrkhxngekhaxacwangaephnlxbplngphrachnmkstriyaelaiskhwamaekstruinsal nkprawtisastrxikkhnhnungkhux khaxi xxrbi kh s 1935 1993 chiihehnwakarplngphrachnmepncuderimtnkhxngkhwamkhdaeynginrachwngsthitxngkarkhrxngrachbllngkednmark miphuxangsiththikhnxun thixangwamisiththiinbllngkednmarkmakkwahruxthdethiymkstriyxirikhthi 5 idaek kstriynxrewy aela phraxnucha sungepnphrarachnddainphraecaxirikhthi 4 aehngednmark xnedxresnaelaphrrkhphwkhlbhniipyngnxrewyaelaidrbkartxnrbcakkstriyxirikhaehngnxrewy phuthrngyinditxnrbstrukhxngkstriyednmark phraxngkhidphrarachthanpxmkhxngechlelxiklchayaednednmarkihaekxnedxresn xnedxresnklayepnocrsldaelayudkhrxngphunthibriewnchayfngednmarkepnewlahlaypi klumphuthukenrethsidsrangthaeruxthiaesmesx ehlm soprekxaelaehlekxens immieruxid plxdphy immiemuxngrimchayfngid plxdphycakstik xnedxresn iwd karplnsadmkhrngrayaerngthisudkhxngekhaekidkhuninpikh s 1289 emuxekhakhunfngphrxmkbkxngthphnxrewykhnadelkthiemuxng ekaafalsetxr wiselathi 2 aehngruxengin phusaercrachkarednmarkidichkxngeruxchawewndkhbilxnedxresnklbipyngnxrewy karkrathakhxngxnedxresnidcudprakaysngkhramaelakhwamkhdaeyngrahwangxanackrnxrdikthiyudeyuxkwasithswrrsrchkalthrrmeniymphrayskhxng smedcphraecaxirikhthi 6trapracaphraxisriyyskarthulHans Majestaet itfalaxxngthuliphrabath karaethntnkhaphraphuththecakarkhanrbDeres Majestaet phraphuththecakha ephkha traphrarachlyckrphraecaxirikhthi 6 aehngednmark rupnkxinthrikhangtraxarmepnkaraesdngthungphrarachmardakhxngphraxngkh xkensaehngbrnedinbwrkh inewlaediywknkhwamkhdaeyngthangsasnaidekidkhunenuxngcak xarkbichxpaehnglundkhnihmphuthaeyxthayan idsnbsnunphwknxkkdhmay rwmthungyatiphinxngkhxngekhaaethnthicaaesdngkhwamcngrkphkditxkstriy emuxekhaidrbeluxksutaaehnngodysmedcphrasntapapa ekhakrbpaktxphraxngkhwacasabantncngrkphkditxkstriy ekhaklawwa mnimsakhyhrxkwakstriyednmarkcaepndyukwledmar chawyiw chawetirk phwknxksasnahruxepnpisac aettxngimichxirikhhruxkhristxfefxr bichxpecnsdaeninaephnkaripiklkwann ekhamxbthidinkhxngkhristckrthihunedxhldaekphwkkbtthithukenrethsephuxsrangpxmprakaraelayngihkhwambnethingaekphwkekhadwy kstriythrngthnimihwthrngmiphrarachoxngkarihcbkumbichxpecnsinpikh s 1294 xarkbichxpthuksngipkhumkhnglamosodydyukkhristxfefxrthi hxkhxymud insxbxrk hlngcaktxngthnkbsphaphelwrayhlayeduxn kstriythrngsngkhniptrwcsxbbichxpecnsephuxduwaekhacasabancngrkphkdixikkhrnghruximaelatxngsyyawacaimaekaekhncakkarthukcxngcakhrngni bichxptxbwa aethnthikhacayxmkmhwtamphrarachprasngkh khayxmihkstriysbrangkhaepnchin esiyyngdikwathicayxmthatamkhasngkhxngphraxngkh hlngcakekhathukkkkhngdwysphaphthielwrayepnewlasxngpi bichxpecnssamarthhlbhniiddwykhwamchwyehluxkhxngkhnrbichinkhrw bichxpecnshlbhniipyngkrungormephuxihsntasankphicarnakhdikhxngekha smedcphrasntapapathrngprakaskhbilkstriyxirikhxxkcaksasna chawednmarkthnghmdthukkhwabatrcnkwaxanackrcacayenginchdechyihbichxpecns krnd 49 000 ehriyy ednmarkimsamarthhaengincanwndngklawidcungtxngxyuphayitkarkhwabatrepnewlasipi inpikh s 1302 kstriyxirikhthrngmiphrarachhtthelkhathungsmedcphrasntapapaephuxkhxkhwamemttaaekphraxngkhexngaelarachxanackrthiprascakkarrbsilskdisiththiepnewlahlaypi phraxngkhsyyawacathathuksingthismedcphrasntapapadarssng kstriyxirikhthrngthxmtntxhnasatharnchn thrngidrbkarecrcacaktwaethnednmarkxyang phraxngkhyindithicaldkhaprblngthung 80 camikarykelikkarkhwabatraelakarkhbxxkcaksasna aelaxarkbichxpecnsidrbtaaehnngcaksmedcphrasntapapaxikkhrng odyekhaimtxngkhuntrngtxkstriyxirikh kstriyxirikhthrngrkinkarpralxngxyangmak aelaphrarachthrphykhlngihlxxkcakthxngphrakhlngephraakarcdnganbnethingkhxngphraxngkh karpralxngxswinkhrnghnungthirxsthxkh iwn ehlanaphungaelaebiyr miihetimtlxdthngeduxnsahrbthukkhnthitxngkardum kstriythrngcaykhabarungmaaelapsustwthnghmdtlxdthngnganpralxng rwmthungkhawoxtkxngethaphuekhasahrbaekhkinnganthukkhn phraxngkhthrngsrangrabbphasiaebbihmaelaimthrrmdathikhudridthngchawnaaelakhunnangipphrxm kn emuxphasiimephiyngphxtxkhaichcaykhxngkstriy phraxngkhidyumengincanwnmakcakehlakhunnangeyxrmn rwmthungkarcanxngthidinkhxngednmarkihaekphwkekha kstriyxirikhthrngykthphipaeswnghathidinihm ineyxrmniephuxcakukhunkhwamepnmhaxanacaehngsaekndienewiykhxngednmarkodyphankarepnphnthmitrkbecankhreyxrmn idaek dyukaehng phraxngkhphyayamepnecaehnuxhwkhxngemuxngsnnibathnesxhlayemuxngephuxtxsukbbrnedinbwrkhaelarthxun phraxngkhyngthrngaethrkaesngswiednephuxsnbsnunphraxnuchakhxngphramehsiinkarsurbkbfaytxtaninpikh s 1305 aelaxikkhrnginpikh s 1307 1309 inkhnaediywknthrngsurbxyuineyxrmni phraxngkhthrngwacangthhareyxrmnephuxphliksthankarndwyengin inpikh s 1312 ekidthuphphikkhphyinednmark emuxkstriythrngeriykekbphasiechnedim chawnainechllndcungkxkbt kstriyxirikhthrngprabpramkbtxyangohdray mikaraekhwnkhxchawnahlayrxykhnrxbkrungokhepnehekn pithdmamikarprachumsphathi chawnaaelakhunnangprakaskxbkbttxkstriyxyangepidephy ikhrthiimyxmchwyehluxkbtaelayngsnbsnunkstriy cathukcbaekhwnkhxthikhanbankhxngkhnnnexng kstriyxirikhthrngprabpramkbtdwykxngkalngthharrbcangeyxrmn sungkwadlangphwkkbtipiklthungraenxs kstriythrngsrangpxmprakardwykarichaerngnganthaschawna sungepnbthlngothssahrbphwkkbt khunnangthiekiywkhxngtangthukenrethshruxpraharchiwit thrphysinthukribekhathxngphrakhlng mikarkxsrangthanthimnthngsi idaek inhxresns inthangtxnehnuxkhxngxxrhus prasathbxrkowldinwibxrk aelaprasathxulstrpthangtawnxxkkhxng nils brxkhthukprahardwyothsthanthiihthisxnaekraenx cxnesn kh s 1254 1294 sungepnhnunginphusmkhbkhidlxbplngphrachnmphrarachbidakhxngkstriyxirikhthi 6 thifinedxrp inpikh s 1313 kstriyxirikhthrngyxmmxbthrphysinkhxngphramhakstriythnghmdinctaelndtxnitaekdyukephuxaelkkbenginsd inchwngpikh s 1315 thung 1317 phuchphlimecriyetibotxikkhrng thaihimmixairehluxinkarekbphasi thxngphrakhlngwangepla inpikh s 1317 kstriyxirikhthrngcanxngekaafunthnghmdaekaela ephuxaelkkbxswin 200 nay kxnphraxngkhcaswrrkhtphraxngkhyngcanxngaekkhunnangeyxrmnephuxhaenginmaichcayfumefuxytxip khwamyingihykhxngednmarkthukthalaylngkhrngsudthaydwythakaryudpxmprakarednmarkthirxsthxkh emuxkstriyxirikhswrrkhtinpikh s 1319 phraxngkhthrngswrrkhthlngphrarachbutr 14 phraxngkh ednmarkkalnglmlalay phusubbllngktxkhux phraecakhristxfefxrthi 2 phraxnucha sungpkkhrxngednmarkinchwngpikh s 1320 1326kartdsinkstriyxirikhthi 6tamlksnaaelwkstriyxirikhthi 6 thrngthuxwaepnhnunginbukhkhlephiyngimkikhnthioddedninyukhnn enuxngcakthrngphyayamkxbkudinaednthihangiklkhxngxanackrednmark phraxngkhidrbkarykyxnginwrrnkrrmsmyoraemntikkhxngednmark xyangirktaminpccubnmikarmxngwanoybaykhxngphraxngkhepncuderimtnkhxngkarlmslaykhxngckrwrrdiednmarkinbxltikaelayuorpehnuxthicaekidkhuninyukhtxip phrasmyyakhxngkstriyxirikhthi 6 idrbkarklawthungxyangmak khaxthibaythiepnthiniymkhuxepnkhayxkhxngkhtiphcnkhxngrchkalkhxngphraxngkh ved alle hellige maend aeplwa all holy men hrux ehlaburusphuskdisiththithngmwl aelamikarxthibaysmyyaphasaednmarkobranwa emnewd menvett aeplwa bird of ill omen hrux nkaehnglangray phraoxrsthidaphraxngkhxphiesksmrsineduxnmithunayn kh s 1296 kbecahyingxingengxrbxrk mknusdxthethxraehngswiedn phrarachthidain aelaepnphraechsthphkhiniin thngsxngphraxngkhmiphrarachoxrs 8 phraxngkh sungsinphrachnmtngaetyngthrngphraeyaw phrarachinithrngaethngphrabutr 6 khrng aemwabangaehlngkhxmulklawwathrngaethngphrabutrinchwngrahwang 8 14 khrng karthrngphrakhrrphhlaykhrngnamasungkaraethng hruxmiphraprasutikalaetphrabutrsinphrachnmtngaetyngthrngphraeyaw phraoxrsthimibnthukiwidaek ecachaywledmaraehngednmark sinphrachnm kh s 1302 ecachayxirikhaehngednmark ecachaymknusaehngednmark ecachayimpraktphranam prasutiaelasinphrachnm kh s 1318 tamphngsawdarrabuwa smedcphrarachinixingengxrbxrkthrngyindiyingnkthiphraoxrsprasutimaaelwmiphrachnmchiph phranangthrngnaphraoxrsxxknngrthekwiynmaephuxaesdngtxhnasatharnchn aetphranangthrngthaphraoxrslunhludphrahtth phraoxrscungtkkraaethkphun phrasxhksinphrachnm txmasmedcphrarachinixingengxrbxrkesdcekhaipprathbxyuinkhxnaewntnkbuyaekhlrinrxskhild phranangsinphrachnminpitxma mibanghlkthanrabuwakstriyxirikhthi 6 thrngmiphraoxrsnxksmrs khux rawkh s 1300 1364 thiinekaa sungsphkhxngekhathukfngthiphrxmmngkud aetbanghlkthanxangwannepnphraoxrskhxngphraecawledmarthi 4 aehngednmarkxangxing Kong Erik VI Menved Danmarks Konger subkhnemux August 1 2018 Erik Menved 1274 1319 Danmarks Historien subkhnemux August 1 2018 Stig Andersen Hvide d ae Den Store Danske Gyldendal subkhnemux August 1 2018 Grev Jakob af Hallands arv Den Store Danske Gyldendal subkhnemux August 1 2018 Erik Arup Den Store Danske Gyldendal subkhnemux August 1 2018 Kai Horby Den Store Danske Gyldendal subkhnemux August 1 2018 Danmarks Riges Kronike Jens Grand roskildehistorie dk subkhnemux August 1 2018 Rane Jonsen Dansk Biografisk Leksikon subkhnemux August 1 2018 Gerhard III Graf von Holstein Allgemeine Deutsche Biographie subkhnemux August 1 2018 Heinrich II Furst von Mecklenburg Allgemeine Deutsche Biographie subkhnemux August 1 2018 Christoffer 2 1276 1332 Danmarks Historien Aarhus University subkhnemux August 1 2018 Ingeborg 1319 Dronning Dansk biografisk Lexikon subkhnemux August 1 2018 http www roskildehistorie dk stamtavler konger 4 Middelalder Klipping htm Arup Erik 1951 Danmarks historie Copenhagen Hagerup Fagerland Tor Einar 2006 Krigforing og politisk kultur i nordisk middelalder NTNU Horby Kai 1989 Gyldendals og Politikens danmarkshistorie 1250 1400 Copenhagen Gyldendal wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Eric VI of Denmark kxnhna phraecaxirikhthi 6 aehngednmark thdipphraecaxirikhthi 5 phramhakstriyaehngednmark kh s 1286 kh s 1319 phraecakhristxfefxrthi 2