สูรยวรรมันที่ 2 เอกสารไทยมักเรียก สุริยวรมันที่ 2 (เขมร: សូរ្យវរ្ម័នទី២ สูรฺยวรฺมันที ๒) สวรรคตแล้วได้พระนามว่า บรมวิษณุโลก เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรพระนคร ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 1113 ถึง ค.ศ. 1145/1150 และเป็นผู้สร้างนครวัดซึ่งเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งอุทิศให้กับพระวิษณุ สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ในรัชสมัยของพระองค์ การสู้รบทางทหารหลายครั้งและการฟื้นฟูรัฐบาลให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ทำให้นักประวัติศาสตร์จัดให้พระเจ้าสูรยวรรมันที่ 2 เป็น 1 ในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบาทบรมวิษณุโลก | |||||
รูปสลักสูรยวรรมันที่นครวัด | |||||
พระมหากษัตริย์พระนคร | |||||
ครองราชย์ | ค.ศ. 1113 – 1145/50 | ||||
พระองค์ก่อน | พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 | ||||
พระองค์ถัดไป | พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 | ||||
พระราชสมภพ | คริสต์ศตวรรษที่ 11 อาณาจักรพระนคร | ||||
สวรรคต | ค.ศ. 1145/1150 อาณาจักรพระนคร | ||||
พระมเหสี | พระนางวิชเยนทรลักษมี | ||||
| |||||
พระราชบิดา | |||||
พระราชมารดา | |||||
ศาสนา | ศาสนาฮินดูนิกายไวษณพ |
พระนาม
พระนาม "สูรยวรรมัน" แปลว่า ผู้มีพระอาทิตย์เป็นเกราะ หรือผู้มีสุริยเทพคุ้มครอง มาจากคำสันสกฤต สูรฺย แปลว่า พระอาทิตย์ + วรฺมัน แปลว่า ผู้มีเกราะ คำนี้เพี้ยนมาจาก สูรยวรรม และภายหลังเพี้ยนต่อเป็น สุริโยพรรณ เช่น ในพระนามของพระบรมราชาที่ 7 (พระศรีสุริโยพรรณ) และของนักองค์เอง (พระนารายณ์รามาธิบดีศรีสุริโยพรรณ)
พระนามหลังสวรรคต คือ "พระบาทกมรเตงอัญบรมวิษณุโลก" (វ្រះបាទកម្រតេងអញបរមវិឝ្ណុលោក วฺระบาทกมฺรเตงอญบรมวิศฺณุโลก) พระนาม "บรมวิษณุโลก" นี้สื่อว่า ทรงเข้าถึงแล้วซึ่งพิภพอันยิ่งใหญ่ของพระวิษณุ คือ สรวงสวรรค์: 118
พระราชกำเนิด
สูรยวรรมันน่าจะเติบใหญ่ในชนบทช่วงที่จักรวรรดิเขมรกำลังเสื่อมการปกครองจากศูนย์กลาง จารึกอันหนึ่งระบุว่า พระบิดามีนามว่า (ក្សិតេន្ទ្រាទិត្យ กฺสิเตนฺทฺราทิตฺย) ส่วนพระมารดา คือ (នរេន្ទ្រលក្ឝ្មី นเรนฺทฺรลกฺศฺมี)
ในฐานะเชื้อพระวงศ์วัยหนุ่ม สูรยวรรมันฝึกรบด้วยปรารถนาราชบัลลังก์ในวันหน้า ทรงปราบปรามผู้อื่นที่อ้างสิทธิในราชสมบัติเหมือนพระองค์ ในการนี้ น่าจะได้รบรากับเชื้อสายของ (ហស៌វរ្ម័នទី២ หรฺสวรฺมันที ๒) ที่ครองอำนาจอยู่ทางใต้ เช่น (ន្ឫបតីន្ទ្រវម៌្មទី២ นฺฤบตีนฺทฺรวรฺมฺมที๒) แล้วน่าจะได้กระทำสงครามกับธรณินทรวรมันที่ 1 (ធរណីន្ទ្រវរ្ម័នទី១ ธรณีนฺทฺรวรฺมันที ๑) ผู้เป็นพระมหากษัตริย์เขมร จารึกพรรณนาว่า ทรงประหารศัตรูดังพญาครุฑประหารนาคราช แต่นักประวัติศาสตร์ยังไม่ยุติว่า ศัตรูที่ถูกประหารนี้เป็นผู้ใด
เสวยราชย์
ราชาภิเษก
สูรยวรรมันขึ้นครองราชบัลลังก์จักรวรรดิเขมรสืบต่อจากธรณินทรวรมันที่ 1 ใน ค.ศ. 1113: 159 พราหมณ์ผู้เฒ่านามว่า ทิวการบัณฑิต (Divakarapandita) เป็นประธานในการราชาภิเษก นับเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์เขมรที่นักบวชเป็นประธานพิธีนี้[6]
จารึกหลายหลักว่า ในการราชาภิเษก สูรยวรรมันจัดมหรสพ และพระราชทานทรัพย์นานัปการแก่ทิวการบัณฑิต เช่น เสลี่ยง พัชนี ศิราภรณ์ ธำมรงค์ และคนโท เสร็จพิธีแล้ว พราหมณ์เฒ่าผู้นี้เดินทางต่อไปยังศาสนสถานต่าง ๆ ในแว่นแคว้นของพระองค์ รวมถึงปราสาทพระวิหาร (ប្រាសាទព្រះវិហារ บฺราสาทพฺระวิหาร) บนเทือกเขาพนมดงรัก (ជួរភ្នំដងរែក ชัวรภฺนํฎงแรก) ที่ซึ่งเขาได้รับปฏิมากรรมทองคำรูปศิวนาฏราช[6]
ใน ค.ศ. 1119 สูรยวรรมันจัดราชาภิเษกอีกครั้ง เชิญทิวการบัณฑิตเป็นประธานในพิธีเช่นเดิม[6]
สงคราม
ตลอดรัชกาล สูรยวรรมันทรงรวบรวมจักรวรรดิที่แตกแยกเข้าเป็นหนึ่งอีกครั้ง เมืองขึ้นทั้งปวงส่งบรรณาการถวาย พระองค์ยังเปิดศึกกับชนชาติจามทางด้านตะวันออก แต่โดยมากแล้วทรงพ่ายแพ้: 113–114
จารึกของชาวจามและบันทึกของเวียดนามว่า สูรยวรรมันทำสงครามใหญ่กับรัฐของชาวเวียดนามที่เรียก (Đại Việt) ถึงสามครั้ง แต่ไม่ชนะสักครั้ง บางครั้ง ทรงได้รับความสงเคราะห์จากชาวจาม สงครามครั้งแรกเกิดใน ค.ศ. 1128 สูรยวรรมันนำทหาร 20,000 นายบุกไปด่ายเวียต แต่แพ้ยับเยินจนต้องถอยกลับ ปีต่อมา ทรงส่งกองเรือกว่า 700 ลำไปตีชายฝั่งด่ายเวียต ครั้น ค.ศ. 1132 กองผสมเขมรจามบุกด่ายเวียตอีกครั้ง สงครามครั้งสุดท้ายมีใน ค.ศ. 1138 เขมรพ่ายแพ้ดังเคย ภายหลัง (ឥន្ទ្រវរ្ម័នទី៣ อินฺทฺรวรฺมันที ๓) พระมหากษัตริย์จาม ทรงเป็นไมตรีกับด่ายเวียต จามจึงเลิกสนับสนุนเขมร ฉะนั้น ใน ค.ศ. 1145 สูรยวรรมันจึงหันไปตีจามแทน จามแพ้ เขมรปล้นเอาราชธานี คือ เมือง ได้: 75–76 สูรยวรรมันตั้งน้องเขย คือ (Harideva) ให้เป็นพระมหากษัตริย์จามพระองค์ใหม่ แต่ต่อมา ชาวจามยึดเมืองวิชัยคืนได้ แล้วประหารหริเทวะเสีย การสงครามระหว่างชนชาติเหล่านี้มีขึ้นครั้งสุดท้ายใน ค.ศ. 1150 ผลลัพธ์ คือ เขมรพ่ายหนีกลับบ้านเมือง: 159–160
การทูต
เมื่อเข้าสู่พระราชสมบัติแล้ว สูรยวรรมันส่งเพชรนิลจินดาไปถวาย (Kulothunga I) พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์โจฬะทางอินเดียใต้ ใน ค.ศ. 1114
สูรยวรรมันยังสานไมตรีกับประเทศจีน โดยสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการขึ้นใน ค.ศ. 1116 จดหมายเหตุจีนในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ว่า ปีนั้น เขมรส่งทูต 14 คนไปจีน ทูตเหล่านี้พอไปถึงราชสำนักแล้วได้รับชุดขุนนางพิเศษ คณะทูตกลับคืนเขมรในปีถัดมา ครั้น ค.ศ. 1120 เขมรส่งทูตไปจีนอีกครั้ง และใน ค.ศ. 1128 ราชสำนักจีนมอบบรรดาศักดิ์สูงส่งแก่สูรยวรรมัน โดยถือว่า เป็นเจ้าเมืองขึ้นอันยิ่งใหญ่ของจีน ครั้งนี้ยังได้เจรจาปัญหาทางการค้ากันจนลุล่วง: 159, 162
สถาปัตยกรรม
รัชกาลสูรยวรรมันบังเกิดความก้าวหน้าทางศิลปะและสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง สูรยวรรมันทรงถือไวษณพนิกาย (ถือพระวิษณุเป็นใหญ่) ต่างจากพระมหากษัตริย์เขมรพระองค์อื่น ๆ ที่ถือไศวนิกาย (ถือพระศิวะเป็นใหญ่) พระองค์จึงสร้างนครวัดถวายพระวิษณุ: 372, 378–379 แต่นครวัดมาสำเร็จเอาเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว
สูรยวรรมันเป็นพระมหากษัตริย์เขมรพระองค์แรกที่ปรากฏโฉมในงานศิลปะ เช่น ที่นครวัดมีรูปสลักนูนต่ำของพระองค์ประทับนั่งบนราชอาสน์ สวมเครื่องทรงต่าง ๆ เช่น ศิราภรณ์ ต่างหู กำไลแขน กำไลเท้า สังวาลย์ ฯลฯ หัตถ์ขวาถือซากงู รายล้อมด้วยบริพารถือพัชนี แส้ และฉัตร ทั้งมีพราหมณ์ที่ดูเหมือนกำลังเตรียมพิธีอยู่ใกล้ ๆ และเหมือนกำลังประทับอยู่กลางป่า
พระองค์ยังสร้างเทวสถานอื่น ๆ เช่น ปราสาทบันทายสำเหร่ (ប្រាសាទបន្ទាយសំរែ บฺราสาทบนฺทายสํแร), (ប្រាសាទធម្មនន្ទ บฺราสาทธมฺมนนฺท), (ប្រាសាទចៅសាយទេវតា บฺราสาทเจาสายเทวตา), และ (ប្រាសាទបឹងមាលា บฺราสาทบึงมาลา)
สวรรคต
สูรยวรรมันเสกสมรสกับสตรีซึ่งไม่มีบันทึกนามเอาไว้ จารึกระบุว่า พระองค์สวรรคตในระหว่าง ค.ศ. 1145–50 ซึ่งน่าจะในระหว่างทำสงครามกับชาวจาม: 120 จากนั้น สูรยวรรมันทรงได้รับเฉลิมพระนามว่า "บรมวิษณุโลก": 118
เมื่อสิ้นพระองค์แล้ว เชื้อพระวงศ์ของพระองค์ คือ ธรณินทรวรรมันที่ 2 (ធរណីន្ទ្រវរ្ម័នទី២ ธรณีนฺทฺรวรฺมันที ๒) สืบราชสมบัติต่อ บ้านเมืองเขมรกลับสู่ความอ่อนแออีกครั้ง: 120
อ้างอิง
- ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 12. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. 2549. p. 929. ISBN .
- ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 12. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. 2549. p. 71. ISBN .
- Higham, C., 2001, The Civilization of Angkor, London: Weidenfeld & Nicolson,
- Briggs, "The Ancient Khmer Empire," p. 187.
- Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN .
- Higham, "The Civilization of Angkor," p. 113.
- Maspero, G., 2002, The Champa Kingdom, Bangkok: White Lotus Co., Ltd.,
- Briggs, "The Ancient Khmer Empire," p. 192.
- A History of India Hermann Kulke, Dietmar Rothermund: p.125
- Briggs, "The Ancient Khmer Empire," p. 189.
- Higham, C., 2014, Early Mainland Southeast Asia, Bangkok: River Books Co., Ltd.,
บรรณานุกรม
- Briggs, Lawrence Palmer. The Ancient Khmer Empire. Transactions of the American Philosophical Society, Volume 41, Part 1. 1951
- Vickery, Michael, The Reign of Suryavarman I and Royal Factionalism at Angkor. Journal of Southeast Asian Studies, 16 (1985) 2: 226-244.
ก่อนหน้า | พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งจักรวรรดิเขมร (ค.ศ. 1113–1145/50) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
surywrrmnthi 2 exksarithymkeriyk suriywrmnthi 2 ekhmr ស រ យវរ ម នទ ២ sur ywr mnthi 2 swrrkhtaelwidphranamwa brmwisnuolk epnphramhakstriyaehngxanackrphrankhr khrxngrachyrahwang kh s 1113 thung kh s 1145 1150 aelaepnphusrangnkhrwdsungepnsasnsthanthiihythisudinolksungxuthisihkbphrawisnu sthaptykrrmthiyingihyinrchsmykhxngphraxngkh karsurbthangthharhlaykhrngaelakarfunfurthbalihklbmaaekhngaekrngxikkhrng thaihnkprawtisastrcdihphraecasurywrrmnthi 2 epn 1 inkstriythiyingihythisudkhxngckrwrrdiphraecasuriywrmnthi 2phrabathbrmwisnuolkrupslksurywrrmnthinkhrwdphramhakstriyphrankhrkhrxngrachykh s 1113 1145 50phraxngkhkxnphraecathrninthrwrmnthi 1phraxngkhthdipphraecathrninthrwrmnthi 2phrarachsmphphkhriststwrrsthi 11 xanackrphrankhrswrrkhtkh s 1145 1150 xanackrphrankhrphramehsiphranangwicheynthrlksmiphramrnnamphrabathbrmwisnuolkphrarachbidaphrarachmardasasnasasnahindunikayiwsnphphranamphranam surywrrmn aeplwa phumiphraxathityepnekraa hruxphumisuriyethphkhumkhrxng macakkhasnskvt sur y aeplwa phraxathity wr mn aeplwa phumiekraa khaniephiynmacak surywrrm aelaphayhlngephiyntxepn surioyphrrn echn inphranamkhxngphrabrmrachathi 7 phrasrisurioyphrrn aelakhxngnkxngkhexng phranaraynramathibdisrisurioyphrrn phranamhlngswrrkht khux phrabathkmretngxybrmwisnuolk វ រ ប ទកម រត ងអញបរមវ ឝ ណ ល ក w rabathkm retngxybrmwis nuolk phranam brmwisnuolk nisuxwa thrngekhathungaelwsungphiphphxnyingihykhxngphrawisnu khux srwngswrrkh 118 phrarachkaenidsurywrrmnnacaetibihyinchnbthchwngthickrwrrdiekhmrkalngesuxmkarpkkhrxngcaksunyklang carukxnhnungrabuwa phrabidaminamwa ក ស ត ន ទ រ ទ ត យ k sietn th rathit y swnphramarda khux នរ ន ទ រលក ឝ ម nern th rlk s mi inthanaechuxphrawngswyhnum surywrrmnfukrbdwyprarthnarachbllngkinwnhna thrngprabpramphuxunthixangsiththiinrachsmbtiehmuxnphraxngkh inkarni nacaidrbrakbechuxsaykhxng ហស វរ ម នទ ២ hr swr mnthi 2 thikhrxngxanacxyuthangit echn ន ឫបត ន ទ រវម មទ ២ n vbtin th rwr m mthi2 aelwnacaidkrathasngkhramkbthrninthrwrmnthi 1 ធរណ ន ទ រវរ ម នទ ១ thrnin th rwr mnthi 1 phuepnphramhakstriyekhmr carukphrrnnawa thrngpraharstrudngphyakhruthpraharnakhrach aetnkprawtisastryngimyutiwa struthithukpraharniepnphuideswyrachyrachaphiesk surywrrmnkhunkhrxngrachbllngkckrwrrdiekhmrsubtxcakthrninthrwrmnthi 1 in kh s 1113 159 phrahmnphuethanamwa thiwkarbnthit Divakarapandita epnprathaninkarrachaphiesk nbepnkhrngthisaminprawtisastrekhmrthinkbwchepnprathanphithini 6 carukhlayhlkwa inkarrachaphiesk surywrrmncdmhrsph aelaphrarachthanthrphynanpkaraekthiwkarbnthit echn esliyng phchni siraphrn thamrngkh aelakhnoth esrcphithiaelw phrahmnethaphuniedinthangtxipyngsasnsthantang inaewnaekhwnkhxngphraxngkh rwmthungprasathphrawihar ប រ ស ទព រ វ ហ រ b rasathph rawihar bnethuxkekhaphnmdngrk ជ រភ ន ដងរ ក chwrph ndngaerk thisungekhaidrbptimakrrmthxngkharupsiwnatrach 6 in kh s 1119 surywrrmncdrachaphieskxikkhrng echiythiwkarbnthitepnprathaninphithiechnedim 6 sngkhram tlxdrchkal surywrrmnthrngrwbrwmckrwrrdithiaetkaeykekhaepnhnungxikkhrng emuxngkhunthngpwngsngbrrnakarthway phraxngkhyngepidsukkbchnchaticamthangdantawnxxk aetodymakaelwthrngphayaeph 113 114 carukkhxngchawcamaelabnthukkhxngewiydnamwa surywrrmnthasngkhramihykbrthkhxngchawewiydnamthieriyk Đại Việt thungsamkhrng aetimchnaskkhrng bangkhrng thrngidrbkhwamsngekhraahcakchawcam sngkhramkhrngaerkekidin kh s 1128 surywrrmnnathhar 20 000 naybukipdayewiyt aetaephybeyincntxngthxyklb pitxma thrngsngkxngeruxkwa 700 laiptichayfngdayewiyt khrn kh s 1132 kxngphsmekhmrcambukdayewiytxikkhrng sngkhramkhrngsudthaymiin kh s 1138 ekhmrphayaephdngekhy phayhlng ឥន ទ រវរ ម នទ ៣ xin th rwr mnthi 3 phramhakstriycam thrngepnimtrikbdayewiyt camcungeliksnbsnunekhmr chann in kh s 1145 surywrrmncunghnipticamaethn camaeph ekhmrplnexarachthani khux emuxng id 75 76 surywrrmntngnxngekhy khux Harideva ihepnphramhakstriycamphraxngkhihm aettxma chawcamyudemuxngwichykhunid aelwpraharhriethwaesiy karsngkhramrahwangchnchatiehlanimikhunkhrngsudthayin kh s 1150 phllphth khux ekhmrphayhniklbbanemuxng 159 160 karthut emuxekhasuphrarachsmbtiaelw surywrrmnsngephchrnilcindaipthway Kulothunga I phramhakstriyaehngrachwngsoclathangxinediyit in kh s 1114 surywrrmnyngsanimtrikbpraethscin odysthapnakhwamsmphnthxyangepnthangkarkhunin kh s 1116 cdhmayehtucininkhriststwrrsthi 13 wa pinn ekhmrsngthut 14 khnipcin thutehlaniphxipthungrachsankaelwidrbchudkhunnangphiess khnathutklbkhunekhmrinpithdma khrn kh s 1120 ekhmrsngthutipcinxikkhrng aelain kh s 1128 rachsankcinmxbbrrdaskdisungsngaeksurywrrmn odythuxwa epnecaemuxngkhunxnyingihykhxngcin khrngniyngidecrcapyhathangkarkhakncnlulwng 159 162 sthaptykrrm rupslksurywrrmnthinkhrwd rchkalsurywrrmnbngekidkhwamkawhnathangsilpaaelasthaptykrrmxyangying surywrrmnthrngthuxiwsnphnikay thuxphrawisnuepnihy tangcakphramhakstriyekhmrphraxngkhxun thithuxiswnikay thuxphrasiwaepnihy phraxngkhcungsrangnkhrwdthwayphrawisnu 372 378 379 aetnkhrwdmasaercexaemuxsinphrachnmaelw surywrrmnepnphramhakstriyekhmrphraxngkhaerkthipraktochminngansilpa echn thinkhrwdmirupslknuntakhxngphraxngkhprathbnngbnrachxasn swmekhruxngthrngtang echn siraphrn tanghu kailaekhn kailetha sngwaly l htthkhwathuxsakngu raylxmdwybripharthuxphchni aes aelachtr thngmiphrahmnthiduehmuxnkalngetriymphithixyuikl aelaehmuxnkalngprathbxyuklangpa phraxngkhyngsrangethwsthanxun echn prasathbnthaysaehr ប រ ស ទបន ទ យស រ b rasathbn thaysaer ប រ ស ទធម មនន ទ b rasaththm mnn th ប រ ស ទច ស យទ វត b rasathecasayethwta aela ប រ ស ទប ងម ល b rasathbungmala nkhrwd prasathbnthaysaehrswrrkhtsurywrrmnesksmrskbstrisungimmibnthuknamexaiw carukrabuwa phraxngkhswrrkhtinrahwang kh s 1145 50 sungnacainrahwangthasngkhramkbchawcam 120 caknn surywrrmnthrngidrbechlimphranamwa brmwisnuolk 118 emuxsinphraxngkhaelw echuxphrawngskhxngphraxngkh khux thrninthrwrrmnthi 2 ធរណ ន ទ រវរ ម នទ ២ thrnin th rwr mnthi 2 subrachsmbtitx banemuxngekhmrklbsukhwamxxnaexxikkhrng 120 xangxingprachumphngsawdar chbbkaycnaphiesk elm 12 krungethph krmsilpakr 2549 p 929 ISBN 9749528476 prachumphngsawdar chbbkaycnaphiesk elm 12 krungethph krmsilpakr 2549 p 71 ISBN 9749528476 Higham C 2001 The Civilization of Angkor London Weidenfeld amp Nicolson ISBN 9781842125847 Briggs The Ancient Khmer Empire p 187 Coedes George 1968 Walter F Vella b k The Indianized States of Southeast Asia trans Susan Brown Cowing University of Hawaii Press ISBN 978 0 8248 0368 1 Higham The Civilization of Angkor p 113 Maspero G 2002 The Champa Kingdom Bangkok White Lotus Co Ltd ISBN 9747534991 Briggs The Ancient Khmer Empire p 192 A History of India Hermann Kulke Dietmar Rothermund p 125 Briggs The Ancient Khmer Empire p 189 Higham C 2014 Early Mainland Southeast Asia Bangkok River Books Co Ltd ISBN 9786167339443brrnanukrmBriggs Lawrence Palmer The Ancient Khmer Empire Transactions of the American Philosophical Society Volume 41 Part 1 1951 Vickery Michael The Reign of Suryavarman I and Royal Factionalism at Angkor Journal of Southeast Asian Studies 16 1985 2 226 244 kxnhna phraecasuriywrmnthi 2 thdipphramhakstriyaehngckrwrrdiekhmr kh s 1113 1145 50