ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
พระมหากษัตริย์แห่งเยรูซาเลม เป็นตำแหน่งสูงสุดของประมุขแห่งราชอาณาจักรเยรูซาเลม หนึ่งในรัฐนักรบครูเสดที่ได้รับการสถาปนาขึ้นโดยเหล่าเจ้าผู้ปกครองชาวคริสต์ที่เข้ายึดเมืองในคราวสงครามครูเสดครั้งที่ 1
พระมหากษัตริย์ แห่งราชอาณาจักรละตินแห่งเยรูซาเลม | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
Arms of the Kingdom of Jerusalem (Ströhl).svg | |
ตราแผ่นดินราชอาณาจักรเยรูซาเลม | |
พระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งเยรูซาเลม พระมหากษัตริย์แห่งเยรูซาเลมองค์สุดท้าย | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | กอดฟรีย์แห่งบูยง |
องค์สุดท้าย | |
สถานพำนัก | , ราชอาณาจักรเยรูซาเลม |
เริ่มระบอบ | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1099 |
สิ้นสุดระบอบ | 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1291 (194 ปี 300 วัน) |
ผู้อ้างสิทธิ์ | จำนวนมาก |
กอดฟรีย์แห่งบูยง หรือภาษาฝรั่งเศส คือ โกเดอฟรอย เป็นประมุขคนแรกของราชอาณาจักรเยรูซาเลม แต่ตัวเขาเองปฏิเสธตำแหน่ง "กษัตริย์" และใช้ตำแหน่ง "ผู้พิทักษ์โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์" แทน ดังนั้นตำแหน่ง "กษัตริย์" อย่างเป็นทางการถูกใช้โดยผู้สืบบัลลังก์ของเขาคือ พระเจ้าบอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม ในปีค.ศ. 1100 เมืองเยรูซาเลม แต่ราชอาณาจักรเยรูซาเลมยังคงอยู่รอด และได้ย้ายเมืองหลวงไปยังเอเคอร์ในปีค.ศ. 1191 เมืองเยรูซาเลมถูกยึดคืนกลับมาอีกครั้งในสงครามครูเสดครั้งที่ 6 ช่วงค.ศ. 1229 - 1239 และค.ศ. 1241 - 1244 ราชอาณาจักรเยรูซาเลมสุดท้ายถูกยุบเลิกจาก นำมาซึ่งจุดจบของพวกครูเสดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ปีค.ศ. 1291
หลังจากรัฐนักรบครูเสดล่มสลายไปแล้ว พระอิสริยยศ "พระมหากษัตริย์แห่งเยรูซาเลม" ถูกอ้างสิทธิโดยเหล่าพระราชตระกูลของยุโรปที่สืบเชื้อสายมาจากพระมหากษัตริย์ไซปรัสหรือพระมหากษัตริย์เนเปิลส์ ตามตำแหน่งโดยพิธีการของกษัตริย์เยรูซาเลมถูกใช้โดยสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน อีกทั้งตำแหน่งนี้เคยถูกอ้างสิทธิโดยอ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์คและพระมหากษัตริย์อิตาลีจนถึงค.ศ. 1946
พระมหากษัตริย์แห่งเยรูซาเลม (1099-1291)
ราชอาณาจักรเยรูซาเลมมีจุดเริ่มต้นมาจากสงครามครูเสดครั้งที่ 1 โดยกอดฟรีย์แห่งบูยง แต่เขาปฏิเสธการสวมมงกุฎและตำแหน่งพระมหากษัตริย์ "ตามคำร้องขอของเขา เขาจะไม่สวมมงกุฎทองคำ ในขณะที่พระผู้ไถ่ต้องสวม" เขาได้ใช้อิสริยยศ "แอดโวเคตุส ซังก์ตี เซปุลชรี" (Advocatus Sancti Sepulchri; ผู้พิทักษ์โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์) ในปีค.ศ. 1099 และสาบานตนเป็นประมุขแห่งเยรูซาเลมในโบสถ์พระคริสตสมภพที่เมืองเบธเลเฮม
ปีต่อมา กอดฟรีย์เสียชีวิต พี่ชายของเขาคือ บอลด์วินที่ 1 เป็นพระองค์แรกที่ใช้ตำแหน่ง "พระมหากษัตริย์" และเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ประกอบพิธีราชาภิเษกในโบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเลม
ตำแหน่งพระมหากษัตริย์แห่งเยรูซาเลมเดิมมีลักษณะเลือกตั้งและมีการสืบสันตติวงศ์บางส่วน ในช่วงยุครุงเรืองของราชอาณาจักรในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 มีราชวงศ์และลำดับการสืบราชสันตติวงศ์เริ่มชัดเจนมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นกษัตริย์จะได้รับการเลือกตั้ง หรืออย่างน้อยต้องได้รับการยอมรับจาก ที่นี่กษัตริย์จะได้รับการพิจารณาว่าเป็น (Primus inter pares; เป็นลำดับแรกท่ามกลางคนทั้งหลาย) และเมื่อกษัตริย์ไม่ทรงอยู่การปฏิบัติหน้าที่จะดำเนินการโดย (Seneschal)
พระราชวังถูกสร้างตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ตั้งอยู่ทางใต้ของ ราชอาณาจักรเยรูซาเลมได้แนะนำโครงสร้างระบอบศักดินาแบบฝรั่งเศสให้แก่ชาวลิแวนต์ กษัตริย์จะทรงมีจำนวนมากรวมเข้าในฐานะของกษัตริย์ซึ่งมีความผันแผรจากกษัตริย์องค์หนึ่งไปยังอีกองค์หนึ่ง กษัตริย์จะต้องทรงรับผิดชอบในการนำราชอาณาจักรเข้าสู่สมรภูมิรบ แม้ว่าหน้าที่นี้จะเป็นของพวกพลตระเวน
ในขณะที่หลายอาณาจักรในยุโรปช่วงนั้นกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ราชาธิปไตยแบบรวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง แต่กษัตริย์เยรูซาเลมสูญเสียพระราชอำนาจอย่างต่อเนื่องให้แก่เหล่าบารอน เหตุนี้เพราะส่วนใหญ่กษัตริย์หลายพระองค์มักจะมีพระชนมายุน้อย และมีความถี่ของการตั้งผู้สำเร็จราชการบ่อยครั้ง
หลังจากการล่มสลายของเมืองเยรูซาเลมในปีค.ศ. 1187 เมืองหลวงถูกย้ายไปยังเอเคอร์ และอยู่ที่นั่นจนถึงค.ศ. 1291 แต่พิธีราชาภิเษกมักจะถูกจัดที่ไทร์ ในช่วงนี้ตำแหน่งกษัตริย์เป็นเพียงตำแหน่งในนาม ซึ่งถูกกำหนดโดยเหล่ากษัตริย์ยุโรปที่ไม่เคยประทับในเอเคอร์ เมื่อ ได้เป็นพระมหากษัตริย์แต่ประทับอยู่ที่ทางตอนใต้ของเยอรมนี พระญาติฝ่ายพระราชบิดาของพระองค์ คือ อ้างสิทธิเป็นผู้สำเร็จราชการแห่งราชอาณาจักรเยรูซาเลม และตั้งเขาเป็นผู้สืบทอดทางอ้อม การอ้างสิทธินี้เกิดขึ้นในปี 1264 ในฐานะผู้สืบเชื้อสายที่อาวุโสสูงสุดและเป็นทายาทผู้มีสิทธิอันชอบธรรมของ พระราชธิดาองค์ที่สองใน อูกเป็นพระโอรสในพระราชธิดาองค์โตของพระนางอาลิกซ์ แต่ถูกข้ามสิทธิโดยสภาฮูตกูร์ให้แก่พระญาติ คือ ซึ่งในอนาคตคือ พระเจ้าอูกที่ 3 แห่งไซปรัส และอูกที่ 1 แห่งเยรูซาเลม
หลังจากพระเจ้าคอนราดที่ 3 ถูกประหารชีวิตโดยพระเจ้าการ์โลที่ 1 แห่งเนเปิลส์ในปีค.ศ. 1268 ตำแหน่งกษัตริย์กลายเป็นของ ซึ่งได้เป็นพระมหากษัตริย์ไซปรัสพร้อมกัน แต่พระเจ้าการ์โลที่ 1 ก็ใช้พระราชทรัพย์ซื้อสิทธิในบัลลังก์จากหนึ่งในผู้อ้างสิทธิในปีค.ศ. 1277
ในปีนั้น พระองค์ส่งไปยังตะวันออกในฐานะ โรเจอร์ยึดครองเมืองเอเคอร์และบังคับให้เหล่าบารอนสวามิภักดิ์ โรเจอร์ถูกเรียกตัวกลับในปี 1282 เนื่องด้วยเหตุการณ์ และปล่อยให้ดำเนินการแทน ทรัพยากรและอำนาจของเขามีน้อยและเขาถูกขับไล่โดย เมื่อพระองค์เสด็จมาจากไซปรัสเพื่อประกอบราชาภิเษกเป็นกษัตริย์เยรูซาเลม
เอเคอร์ถูกยึดครองโดยมัมลูก ในปี 1291 พวกครูเสดก็ถูกกำจัดออกจากแผ่นดินใหญ่
ราชวงศ์บูลอญ (ค.ศ. 1099-1118)
ราชอาณาจักรเยรูซาเลม : Kingdom of Jerusalem (ค.ศ. 1099 - ค.ศ. 1118) | ||||||
พระปรมาภิไธย | พระราชสมภพ | อภิเษกสมรส | สวรรคต | |||
---|---|---|---|---|---|---|
1 | กอดฟรีย์แห่งบูยง ("ผู้พิทักษ์โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์") (Godfrey of Bouillon) โกเดอฟรอย (Godefroy) 1099-1100 | ราว ค.ศ. 1060 พระราชสมภพที่ ฝรั่งเศส หรือ บราบันต์ โอรสในกับ | ไม่อภิเษกสมรส | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1100 พระชนมายุราว 40 พรรษา | ||
2 | พระเจ้าบอล์ดวินที่ 1 (Baldwin I) โบดวงที่ 1 (Baudouin I) 1100-1118 | ราว ค.ศ. 1058 พระราชสมภพที่ลอแรน โอรสในกับ | โกเดอฮิลด์ เดอ โทนี ไม่มีโอรสธิดา ค.ศ. 1097 ไม่มีโอรสธิดา ค.ศ. 1112 ไม่มีโอรสธิดา | 2 เมษายน ค.ศ. 1118 อียิปต์ พระชนมายุราว 60 พรรษา |
ราชวงศ์เรเธล (ค.ศ. 1118-1153)
ราชอาณาจักรเยรูซาเลม : Kingdom of Jerusalem (ค.ศ. 1118 - ค.ศ. 1153) | ||||||
พระปรมาภิไธย | พระราชสมภพ | อภิเษกสมรส | สวรรคต | |||
---|---|---|---|---|---|---|
3 | พระเจ้าบอล์ดวินที่ 2 (Baldwin II) โบดวงที่ 2 (Baudouin II) 1118-1131 | ไม่ปรากฏ พระราชสมภพที่ฝรั่งเศส โอรสในกับเมลีแซนเดอแห่งม็องต์แตร์รี | ค.ศ. 1101 พระราชธิดา 4 พระองค์ | 21 สิงหาคม ค.ศ. 1131 เยรูซาเลม | ||
4 | สมเด็จพระราชินีนาถ เมลิเซนเดอ (Melisende) 1131-1153 ร่วมราชบัลลังก์กับฟูล์ค จนถึงปี 1143 ร่วมราชบัลลังก์กับบอลด์วินที่ 3 จนถึงปี 1153 | ค.ศ. 1105 พระราชสมภพที่เยรูซาเลม โอรสในพระเจ้าบอล์ดวินที่ 2กับ | 2 มิถุนายน ค.ศ. 1129 พระราชโอรส 2 พระองค์ | 11 กันยายน ค.ศ. 1161 เยรูซาเลม พระชนมายุราว 56 พรรษา |
ราชวงศ์อ็องฌู (ค.ศ. 1153-1203)
ในปีค.ศ. 1127 ได้รับคณะทูตจากพระเจ้าบอลด์วินที่ 2 แห่งเยรูซาเลม พระเจ้าบอลด์วินที่ 2 ไม่ทรงมีรัชทายาทชาย แต่ทรงกำหนดให้ พระราชธิดาองค์โตเป็นผู้สืบราชบัลลังก์ พระเจ้าบอลด์วินที่ 2 ทรงต้องการความปลอดภัยในการปกป้องมรดกที่พระราชธิดาจะได้รับ โดยมีพระราชประสงค์ให้เจ้าหญิงอภิเษกสมรสกับขุนนางผู้ทรงอำนาจ ฟูล์คเป็นนักรบครูเสดที่ร่ำรวยและเป็นผู้นำทางทหารที่มีประสบการณ์ อีกทั้งเป็นม่ายชายาถึงแก่กรรม ประสบการณ์ในสนามรบได้พิสูจน์ว่าเขาเป็นบุคคลที่มีค่าในรัฐชายแดนที่มักจะมีสงครามเช่นนี้
แต่ฟูล์คได้ยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าในการเป็นแค่พระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถ ก็คือตัวเขาต้องการเป็นพระมหากษัตริย์เคียงข้างราชบัลลังก์ของเมลีแซนเดอ พระเจ้าบอลด์วินที่ 2 ทรงยอมรับข้อเสนออย่างไม่ขัดข้องเนื่องด้วยประสงค์จะใช้อำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์ทางกองทัพของฟูล์ค ฟูล์คจึงสละตำแหน่งเคานท์แห่งอ็องชูให้แก่เจฟฟรีย์ โอรสของเขาที่เกิดจากชายาคนแรก และล่องเรือไปเพื่อรับตำแหน่งกษัตริย์แห่งเยรูซาเลมในอนาคต ซึ่งเขาเสกสมรสกับเจ้าหญิงเมลีแซนเดอในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1129 หลังจากนั้นพระเจ้าบอลด์วินทรงสนับสนุนตำแหน่งของเจ้าหญิงเมลีแซนเดอในราชอาณาจักร โดยให้พระนางเป็นผู้ปกครองเพียงพระองค์เดียวของพระราชโอรสที่ประสูติจากฟูล์ค ในอนาคตประสูติในปี 1130
ฟูล์คและเมลีแซนเดอกลายเป็นพระประมุขร่วมแห่งเยรูซาเลมในปีค.ศ. 1131 หลังการสวรรคตของพระเจ้าบอลด์วินที่ 3 ในช่วงแรกพระเจ้าฟูล์คทรงเข้าควบคุมกิจการในราชอาณาจักรทั้งหมดและกีดกันสมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอออกไป พระองค์ทรงโปรดเพื่อนร่วมชาติจากอ็องฌูมากกว่าขุนนางพื้นเมือง รัฐนักรบครูเสดทางตอนเหนือหวาดกลัวว่า พระเจ้าฟูล์คจะใช้พระราชอำนาจของอาณาจักรเยรูซาเลมเหนือดินแดนของพวกเขา ดังที่พระเจ้าบอลด์วินที่ 2 เคยทำไป แต่พระเจ้าฟูล์คมีพลังพระราชอำนาจน้อยกว่าพระสัสสุระมาก ทำให้รัฐทางตอนเหนือปฏิเสธอำนาจของพระองค์
ในเยรูซาเลมเอง พระเจ้าฟูล์คก็ไม่เป็นที่พอใจของเหล่าชาวเยรูซาเลมคริสต์รุ่นที่สองซึ่งเติบโตมากตั้งแต่สงครามครูเสดครั้งแรก "คนพื้นเมือง"เหล่านี้ชื่นชอบพระญาติของสมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอ คือ ผู้ซึ่งจงรักภักดีต่อสมเด็จพระราชินีนาถ พระเจ้าฟูล์คทรงมองอูกเป็นศัตรู และในปีค.ศ. 1134 พระองค์ต้องการกำจัดอูก โดยกล่าวหาว่าเขามีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอ อูกก่อการจลาจลเพื่อประท้วงและหลบซ่อนตัวในดินแดนของเขาเองที่จัฟฟา อีกทั้งเป็นพันธมิตรกับมุสลิมที่ เขาได้ชัยชนะต่อกองทัพของพระเจ้าฟูล์ค แต่ก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ อัครบิดรแห่งเยรูซาเลมได้เข้ามาไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอ พระเจ้าฟูล์คทรงเห็นด้วยกับการสงบศึกและอูกต้องถูกเนรเทศออกจากราชอาณาจักรเป็นเวลาสามปี ซึ่งเป็นโทษสถานเบา
แต่มีความพยายามในการลอบสังหารอูก พระเจ้าฟูล์คและผู้สนับสนุนพระองค์ถูกมองโดยทั่วไปว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์คดีจริงๆ เรื่องอื้อฉาวเหล่านี้กลายเป็นประโยชน์แก่พรรคพระราชินีในการยึดอำนาจการปกครอง ซึ่งพระนางทรงก่อการรัฐประหารวังหลวง เบอร์นาร์ด แฮมิลตัน นักเขียนและนักประวัติศาสตร์ได้เขียนว่า กลุ่มผู้สนับสนุนพระเจ้าฟูล์คต้อง "อยู่อย่างหวาดกลัวชีวิตภายในวัง" นักประวัติศาสตร์และนักเขียนร่วมสมัยอย่าง เขียนถึงฟูล์คว่า "พระองค์ไม่สามารถที่จะออกความคิดได้แม้แต่เรื่องที่เล็กๆน้อยๆโดยปราศจากความเห็นชอบ (ของเมลีแซนเดอ)" ผลก็คือสมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอทรงควบคุมอำนาจของรัฐบาลโดยตรงอย่างไม่ต้องสงสัยตั้งแต่ค.ศ. 1136 เป็นต้นไป ก่อนปี 1136 พระเจ้าฟูล์คทรงไกล่เกลี่ยกับพระมเหสี และทำให้พระราชโอรสองค์ที่สองประสูติคือ
ในปีค.ศ. 1143 ขณะที่พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีนาถประทับพักผ่อนในเอเคอร์ พระเจ้าฟูล์คเสด็จสวรรคตจากอุบัติเหตุขณะล่าสัตว์ ม้าของพระองค์พลาดสะดุดและล้มลง และกะโหลกพระเศียรของพระองค์ถูกทับโดยอานม้า "มันสมองของพระองค์พุ่งออกมาจากหูทั้งสองข้างและรูจมูก" ตามคำบรรยายของวิลเลียมแห่งไทร์ พระวรกายของพระองค์ถูกนำกับมายังเอเคอร์ ทรงหมดสติไปสามวันและสวรรคต พระบรมศพถูกฝังที่โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ในเยรูซาเลม แม้ว่าชีวิตสมรสจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง สมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอทรงเสียพระทัยต่อการจากไปของพระเจ้าฟูล์คทั้งแสดงออกในที่สาธารณะและการส่วนพระองค์ พระเจ้าฟูล์คมีพระราชโอรสสามคน คือ เจฟฟรีย์ที่ประสูติจากชายาคนแรก และเจ้าชายบอลด์วินกับเจ้าชายอามาลริคที่ประสูติแต่พระนางเมลีแซนเดอ
พระเจ้าบอลด์วินที่ 3 ขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นประมุขร่วมกับพระราชชนนี ในปีค.ศ. 1143 การครองราชย์ช่วงต้นรัชกาลของพระองค์เป็นการทะเลาะขัดแย้งกับพระราชชนนีอย่างรุนแรงในเรื่องสิทธิในการครอบครองเยรูซาเลม จนกระทั่งค.ศ. 1153 เมื่อพระองค์สามารถยึดครองอำนาจของรัฐบาลภายใต้พระองค์เอง สมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอสละราชบัลลังก์ พระองค์กับพระราชชนนีก็ไกล่เกลี่ยกันภายหลัง พระราชชนนีเมลีแซนเดอสวรรคตในปีค.ศ. 1161 ส่วนพระเจ้าบอลด์วินที่ 3 สวรรคตในปีค.ศ. 1163 โดยไร้รัชทายาท ราชอาณาจักรสืบทอดไปยังพระราชอนุชา ครองราชย์เป็น พระเจ้าอามาลริคที่ 1 แม้ว่าจะมีความขัดแย้งในหมู่ขุนนางกับพระมเหสีในพระเจ้าอามาลริค คือ แต่พวกเขาก็ยินดีที่จะยอมรับการสมรสนี้ในปีค.ศ. 1157 ในช่วงที่พระเจ้าบอลด์วินที่ 3 ยังคงสามารถสืบทายาทได้ แต่ในช่วงนี้สภาฮูตกูร์ปฏิเสธที่จะยอมรับอามาลริคเป็นกษัตริย์ จนกว่าพระองค์จะยอมหย่าขาดจากพระราชินีอานแย็ส ความเป็นปฏิปักษ์ต่อพระราชินีอานแย็สนั้นต้องยอมรับว่าอาจกล่าวเกินจริงโดยนักพงศาวดารร่วมสมัยอย่าง วิลเลียมแห่งไทร์ ซึ่งอคติจากการที่พระราชินีอานแย็สกีดกันไม่ให้เขารับตำแหน่งอัครบิดรแห่งเยรูซาเลมในช่วงทศวรรษต่อมา และผู้สืบทอดงานของวิลเลียม คือ ได้กล่าวถึงบุคลิกของพระนางในด้านศีลธรรมว่า "ไม่ควรมีพระราชินีเช่นนี้ในเมืองอันศักดิ์สิทธิ์อย่างเยรูซาเลม" ("car telle n'est que roine doie iestre di si haute cite comme de Jherusalem")
แต่อย่างไรก็ตาม ข้อหาก็เพียงพอแล้วสำหรับฝ่ายที่จะโค่นพระนางออกจากตำแหน่งราชินี พระเจ้าอามาลริคทรงเห็นด้วยและขึ้นสืบราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการโดยปราศจากพระราชินี แต่อานแย็สยังครองตำแหน่งเคานท์เตสแห่งจัฟฟาและอัสเคลอน และได้รับเงินรายได้จากศักดินาที่ดิน คริสตจักรตัดสินว่าทายาทของพระเจ้าอามาลริคกับอดีตพระราชินีอานแย็สนั้นเป็นทายาทที่ชอบโดยกฎหมาย และยังคงลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ดังเดิม ต่อมาพระโอรสธิดาของอานแย็สจะมีอำนาจสูงในเยรูซาเลมเป็นเวลาเกือบ 20 ปี พระเจ้าอามาลริคสวรรคตและสืบบัลลังก์โดยพระโอรสที่ประสูติแต่อานแย็ส คือ พระเจ้าบอลด์วินที่ 4
อานแย็สแห่งกูร์เตอแนสมรสใหม่กับ และเสกสมรสกับ ในปีค.ศ. 1177 พระราชธิดาของพระเจ้าอามาลริคที่ประสูติแต่อานแย็ส คือ เจ้าหญิงซีบิลลา มีความพร้อมด้านพระชันษา และพร้อมมีทายาท และมีสถานะที่มั่นคงในการสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระอนุชา แต่พระราชธิดาของพระเจ้าอามาลริคที่ประสูติแต่พระพันปีหลวงมาเรีย คือ เจ้าหญิงอิซาเบลลา ทรงได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของพระบิดาเลี้ยง คือ พวก
ในปีค.ศ. 1179 พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 เริ่มต้นวางแผนให้เจ้าหญิงซีบิลลาเสกสมรสกับ หลังจากพระสวามีองค์แรกของเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ แต่ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1180 แผนนี้ก็ไม่ได้ดำเนินการ พยายามก่อการรัฐประหาร โดยระดมพลในเยรูซาเลมร่วมกับ ในการบีบบังคับให้กษัตริย์จัดการเสกสมรสของพระเชษฐภคินีกับขุนนางท้องถิ่นที่เขาเลือก อาจจะเป็น พี่ชายของเบเลียน เพื่อต่อต้านแผนการนี้ กษัตริย์ทรงรีบจัดงานเสกสมรสของพระขนิษฐากับ น้องชายของ กรมวังของราชอาณาจักร การจับคู่กับชาวต่างชาติเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถนำความช่วยเหลือทางทหารจากภายนอกเข้ามาในราชอาณาจักรได้ เมื่อพระเจ้าฟีลิปที่ 2 แห่งฝรั่งเศสยังทรงพระเยาว์ สถานะของกีคือเป็นขุนนางของกษัตริย์ฝรั่งเศส และพระญาติของเจ้าหญิงซีบิลลาคือ พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ผู้ซึ่งเป็นหนี้ในการแสวงบุญของสมเด็จพระสันตะปาปา พันธมิตรทั้งสองนี้จำเป็นสำหรับเยรูซาเลม
ในปีค.ศ. 1182 พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 ก็เริ่มทรงทุพพลภาพมากขึ้น จากพระอาการโรคเรื้อน พระองค์ทรงแต่งตั้งกีเป็น บาอิลลี เรย์มอนด์ต่อต้านเรื่องนี้ แต่เมื่อกีไม่เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์บอลด์วินอีกต่อไปแล้ว ในปีถัดมาเรย์มอนด์ได้รัยการแต่งตั้งเป็นบาอิลลีใหม่อีกครั้ง และได้รับสิทธิในการครอบครองเบรุต พระเจ้าบอลด์วินหันมาทำข้อตกลงกับเรย์มอนด์และสภาฮุตกูร์ ให้บอลด์วินแห่งมงแฟรา พระโอรสของเจ้าหญิงซีบิลลาที่ประสูติแต่พระสวามีองค์แรก ให้มีสิทธิสืบบัลลังก์ก่อนซีบิลลาและกี บอลด์วินองค์น้อยได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ร่วมของพระมาตุลาในปีค.ศ. 1183 ในพระราชพิธีมีเรย์มอนด์เป็นประธาน เป็นที่ตกลงว่าหากยุวกษัตริย์สวรรคตในช่วงที่ยังทรงพระเยาว์ คณะผู้สำเร็จราชการจะเปลี่ยนผ่านไปยัง "ทายาทผู้มีความชอบธรรมที่สุด" และต่อจากนั้นคือเหล่าญาติวงศ์ ได้แก่ กษัตริย์แห่งอังกฤษและฝรั่งเศส และจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาจะสามารถตัดสินชี้ระหว่างสิทธิของซีบิลลาและสิทธิของอิซาเบลลา "ทายาทผู้มีความชอบธรรมที่สุด" เหล่านี้จะไม่ถูกเสนอชื่อ
พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 สวรรคตในฤดูใบไม้ผลิ ปีค.ศ. 1185 และพระนัดดาขึ้นสืบบัลลังก์ เรย์มอนด์ได้เป็นบาอิลลี แต่เขาส่งผ่านการเป็นผู้ปกครองของพระเจ้าบอลด์วินที่ 5 ไปยัง อาฝ่ายแม่ของเขา โดยอ้างว่าเขาไม่ต้องการให้แก่ข้อกังขาเมื่อยุวกษัตริย์ที่ดูเหมือนอ่อนแอนั้นสวรรคตขึ้นมา พระเจ้าบอลด์วินที่ 5 สวรรคตในฤดูร้อน ค.ศ. 1186 ที่เอเคอร์ ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสนใจในพระราชพินัยกรรมของพระเจ้าบอลด์วินที่ 4
หลังจากพระราชพิธีพระศพ จอสแลงตั้งให้เจ้าหญิงซีบิลลาเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ของพระอนุชา แต่พระนางต้องยินยอมที่จะหย่าขาดจากกี เช่นเดียวกับที่พระราชชนกของพระนางหย่าขาดจากพระราชชนนี ด้วยการรับประกันว่าพระนางจะได้รับอนุญาตให้เลือกพระสวามีองค์ใหม่ ในวันราชาภิเษก สมเด็จพระราชินีนาถซีบิลลาทรงสวมมงกุฎให้กับกีทันที ในขณะที่เรย์มอนด์ก็เดินทางไปยังซึ่งเป็นที่พำนักของเบเลียนและสมเด็จพระพันปีหลวงมาเรีย และทำการเรียกประชุมขุนนางที่จงรักภักดีต่อเจ้าหญิงอิซาเบลลาและตระกูลอีเบลิน เรย์มอนด์ต้องการให้เจ้าหญิงอิซาเบลลากับ พระสวามีของพระนางสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ แต่อ็องฟรอยมีบิดาเลี้ยงคือ นั้นเป็นพันธมิตรของกี อ็องฟรอยจึงละทิ้งเรย์มอนด์และหันไปถวายความจงรักภักดีต่อซีบิลลาและกี
ราชอาณาจักรเยรูซาเลม : Kingdom of Jerusalem (ค.ศ. 1153 - ค.ศ. 1205) • ราชวงศ์อ็องฌู • | ||||||
พระปรมาภิไธย | พระราชสมภพ | อภิเษกสมรส | สวรรคต | |||
---|---|---|---|---|---|---|
5 | (Fulk) ฟลูเกต์ (Foulques) 1131-1143 ร่วมราชบัลลังก์กับเมลีแซนเดอ | ค.ศ. 1089/1092 พระราชสมภพที่อ็องเฌ ฝรั่งเศส โอรสในกับ | ค.ศ. 1109 พระโอรสธิดา 4 พระองค์ สมเด็จพระราชินีนาถเมลีแซนเดอแห่งเยรูซาเลม 2 มิถุนายน ค.ศ. 1129 พระราชโอรส 2 พระองค์ | 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1143 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 52 พรรษา | ||
6 | (Baldwin III) โบดวงที่ 3 (Baudouin III) 1143-1163 ร่วมราชบัลลังก์กับเมลีแซนเดอ จนถึงปี 1153 | ค.ศ. 1130 โอรสในกับ | ค.ศ. 1158 ไม่มีพระราชโอรสธิดา | 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1163 เบรุต ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 33 พรรษา | ||
7 | (Amalric) อามอรี (Amaury) 1163-1174 | ค.ศ. 1136 โอรสในกับ | ค.ศ. 1157 มีพระราชโอรสธิดา 3 พระองค์ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1167 พระราชธิดา 2 พระองค์ | 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1174 เยรูซาเลม ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 38 พรรษา | ||
8 | พระเจ้าบอลด์วินที่ 4 กษัตริย์เรื้อน (Baldwin IV the Leprous) โบดวงที่ 4 (Baudouin IV) 1174-1185 ร่วมราชบัลลังก์กับบอลด์วินที่ 5 ตั้งแต่ปี 1183 | ค.ศ. 1161 เยรูซาเลม โอรสในกับ | ไม่อภิเษกสมรส | 16 มีนาคม ค.ศ. 1185 เยรูซาเลม ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 24 พรรษา | ||
9 | (Baldwin V) โบดวงที่ 5 (Baudouin V) 1183-1186 ร่วมราชบัลลังก์กับบอลด์วินที่ 4 จนถึงปี 1185 | ค.ศ. 1177 โอรสในกับ | ไม่อภิเษกสมรส | สิงหาคม ค.ศ. 1186 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 9 พรรษา | ||
10 | (Sibylla) ซีบิลล์ (Sibylle) 1186-1190 ร่วมราชบัลลังก์กับกี | ราวค.ศ. 1157 ธิดาในกับ | ค.ศ.1176 พระราชโอรส 1 พระองค์ เมษายน ค.ศ. 1180 พระราชธิดา 2 พระองค์ | 25 มกราคม (คาดว่า) ค.ศ. 1190 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 40 พรรษา | ||
11 | พระเจ้ากี (Guy of Lusignan) กี เดอ ลูซียง (Guy de Lusignan) 1186-1190/1192 ร่วมราชบัลลังก์กับซีบิลลา จนถึงปี 1190 | ราวค.ศ. 1150 หรือ 1159/1160 โอรสในกับบรูกอญ เดอ ราญกง | เมษายน ค.ศ.1180 พระราชธิดา 2 พระองค์ | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1194 นิโคเซีย ไซปรัส พระชนมายุราว 45 พรรษา | ||
12 | (Isabella I) อีซาเบลที่ 1 (Isabelle I) 1190/1192-1205 ร่วมราชบัลลังก์กับคอนราด จนถึงปีค.ศ. 1192 ร่วมราชบัลลังก์กับอ็องรีที่ 1 ค.ศ. 1192-1197 ร่วมราชบัลลังก์กับอามาลริคที่ 2 ตั้งแต่ ค.ศ. 1197 | ราวค.ศ. 1172 ราชอาณาจักรเยรูซาเลม ธิดาในกับ | พฤศจิกายน ค.ศ.1183 ไม่มีพระโอรสธิดา 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1190 พระราชธิดา 1 พระองค์ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1192 พระราชธิดา 2 พระองค์ มกราคม ค.ศ. 1198 พระราชธิดา 3 พระองค์ | 5 เมษายน ค.ศ. 1205 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 33 พรรษา | ||
13 | พระเจ้าคอนราดที่ 1 (Conrad of Montferrat) 1190/1192-1192 ร่วมราชบัลลังก์กับ อิซาเบลลาที่ 1 | กลางทศวรรษที่ 1140 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โอรสในกับ | ไม่ปรากฏนาม ก่อนค.ศ. 1179 ไม่มีโอรสธิดา ธีโอโดรา แองเจลินา ค.ศ. 1186/1187 ไม่มีโอรสธิดา 24 พฤศจิกายน ค.ศ.1180 พระราชธิดา 1 พระองค์ | 28 เมษายน ค.ศ. 1192 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 40 พรรษา | ||
14 | พระเจ้าอ็องรีที่ 1 (Henry II of Champagne; Henry I) 1192-1197 ร่วมราชบัลลังก์กับ อิซาเบลลาที่ 1 | 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1166 ช็องปาญ โอรสในกับมารีแห่งฝรั่งเศส | 6 พฤษภาคม ค.ศ.1192 พระราชธิดา 2 พระองค์ | 10 กันยายน ค.ศ. 1197 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 31 พรรษา | ||
15 | พระเจ้าอามาลริคที่ 2 (Amalric of Lusignan; Amalric II) อามอรี เดอ ลูซียง (Amaury de Lusignan) 1198-1205 ร่วมราชบัลลังก์กับ อิซาเบลลาที่ 1 | ค.ศ. 1145 โอรสในกับบรูกอญ เดอ ราญกง | ก่อน 29 ตุลาคม ค.ศ. 1114 พระโอรสธิดา 6 พระองค์ มกราคม ค.ศ.1198 พระราชธิดา 3 พระองค์ | 1 เมษายน ค.ศ. 1205 เอเคอร์ ราชอาณาจักรเยรูซาเลม พระชนมายุราว 60 พรรษา |
อ้างอิง
- Guy. 2012. Encyclopædia Britannica Online. Retrieved 27 August 2012, from http://www.britannica.com/EBchecked/topic/249989/Guy
- (2013). A History of the Knights of Malta. Cambridge Library Collection - European History. . p. 18. ISBN . สืบค้นเมื่อ 20 May 2014.
Refusing the title of King and the diadem which were offered him, upon the plea that he would never wear a crown of gold where his Saviour had worn a crown of thorns, he modestly contented him with the title of Defender and Advocate of the Holy Sepulchre.
- Adrian J. Boas. Jerusalem in the Time of the Crusades: Society, Landscape and Art in the Holy City under Frankish Rule. Pages 79-82. Routledge 2009. ISBN . [1]
- Adam G. Beaver, A Holy Land for the Catholic Monarchy: Palestine in the Making of Modern Spain, 1469–1598
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud phramhakstriyaehngeyrusaelm epntaaehnngsungsudkhxngpramukhaehngrachxanackreyrusaelm hnunginrthnkrbkhruesdthiidrbkarsthapnakhunodyehlaecaphupkkhrxngchawkhristthiekhayudemuxnginkhrawsngkhramkhruesdkhrngthi 1phramhakstriy aehngrachxanackrlatinaehngeyrusaelmrachathipityinxditArms of the Kingdom of Jerusalem Strohl svgtraaephndinrachxanackreyrusaelmphraecaxxngrithi 2 aehngeyrusaelm phramhakstriyaehngeyrusaelmxngkhsudthaypthmkstriy kxdfriyaehngbuyngxngkhsudthaysthanphank rachxanackreyrusaelmerimrabxb 22 krkdakhm kh s 1099sinsudrabxb 18 phvsphakhm kh s 1291 194 pi 300 wn phuxangsiththi canwnmak kxdfriyaehngbuyng hruxphasafrngess khux okedxfrxy epnpramukhkhnaerkkhxngrachxanackreyrusaelm aettwekhaexngptiesthtaaehnng kstriy aelaichtaaehnng phuphithksobsthphrakhuhaskdisiththi aethn dngnntaaehnng kstriy xyangepnthangkarthukichodyphusubbllngkkhxngekhakhux phraecabxldwinthi 1 aehngeyrusaelm inpikh s 1100 emuxngeyrusaelm aetrachxanackreyrusaelmyngkhngxyurxd aelaidyayemuxnghlwngipyngexekhxrinpikh s 1191 emuxngeyrusaelmthukyudkhunklbmaxikkhrnginsngkhramkhruesdkhrngthi 6 chwngkh s 1229 1239 aelakh s 1241 1244 rachxanackreyrusaelmsudthaythukyubelikcak namasungcudcbkhxngphwkkhruesdindinaednskdisiththi pikh s 1291 hlngcakrthnkrbkhruesdlmslayipaelw phraxisriyys phramhakstriyaehngeyrusaelm thukxangsiththiodyehlaphrarachtrakulkhxngyuorpthisubechuxsaymacakphramhakstriyisprshruxphramhakstriyenepils tamtaaehnngodyphithikarkhxngkstriyeyrusaelmthukichodysmedcphrarachathibdiefliepthi 6 aehngsepn xikthngtaaehnngniekhythukxangsiththiodyxxthoth fxn haphsbwrkhaelaphramhakstriyxitalicnthungkh s 1946phramhakstriyaehngeyrusaelm 1099 1291 rachxanackreyrusaelmmicuderimtnmacaksngkhramkhruesdkhrngthi 1 odykxdfriyaehngbuyng aetekhaptiesthkarswmmngkudaelataaehnngphramhakstriy tamkharxngkhxkhxngekha ekhacaimswmmngkudthxngkha inkhnathiphraphuithtxngswm ekhaidichxisriyys aexdowekhtus sngkti espulchri Advocatus Sancti Sepulchri phuphithksobsthphrakhuhaskdisiththi inpikh s 1099 aelasabantnepnpramukhaehngeyrusaelminobsthphrakhristsmphphthiemuxngebthelehm pitxma kxdfriyesiychiwit phichaykhxngekhakhux bxldwinthi 1 epnphraxngkhaerkthiichtaaehnng phramhakstriy aelaepnkstriyphraxngkhaerkthiprakxbphithirachaphieskinobsthphrakhuhaskdisiththiinemuxngeyrusaelm taaehnngphramhakstriyaehngeyrusaelmedimmilksnaeluxktngaelamikarsubsnttiwngsbangswn inchwngyukhrungeruxngkhxngrachxanackrinklangkhriststwrrsthi 12 mirachwngsaelaladbkarsubrachsnttiwngserimchdecnmakkhun aetthungkrannkstriycaidrbkareluxktng hruxxyangnxytxngidrbkaryxmrbcak thinikstriycaidrbkarphicarnawaepn Primus inter pares epnladbaerkthamklangkhnthnghlay aelaemuxkstriyimthrngxyukarptibtihnathicadaeninkarody Seneschal phrarachwngthuksrangtngaetthswrrsthi 1960 tngxyuthangitkhxng rachxanackreyrusaelmidaenanaokhrngsrangrabxbskdinaaebbfrngessihaekchawliaewnt kstriycathrngmicanwnmakrwmekhainthanakhxngkstriysungmikhwamphnaephrcakkstriyxngkhhnungipyngxikxngkhhnung kstriycatxngthrngrbphidchxbinkarnarachxanackrekhasusmrphumirb aemwahnathinicaepnkhxngphwkphltraewn inkhnathihlayxanackrinyuorpchwngnnkalngepliynphansurachathipityaebbrwmxanacsusunyklang aetkstriyeyrusaelmsuyesiyphrarachxanacxyangtxenuxngihaekehlabarxn ehtuniephraaswnihykstriyhlayphraxngkhmkcamiphrachnmayunxy aelamikhwamthikhxngkartngphusaercrachkarbxykhrng hlngcakkarlmslaykhxngemuxngeyrusaelminpikh s 1187 emuxnghlwngthukyayipyngexekhxr aelaxyuthinncnthungkh s 1291 aetphithirachaphieskmkcathukcdthiithr inchwngnitaaehnngkstriyepnephiyngtaaehnnginnam sungthukkahndodyehlakstriyyuorpthiimekhyprathbinexekhxr emux idepnphramhakstriyaetprathbxyuthithangtxnitkhxngeyxrmni phrayatifayphrarachbidakhxngphraxngkh khux xangsiththiepnphusaercrachkaraehngrachxanackreyrusaelm aelatngekhaepnphusubthxdthangxxm karxangsiththiniekidkhuninpi 1264 inthanaphusubechuxsaythixawuossungsudaelaepnthayathphumisiththixnchxbthrrmkhxng phrarachthidaxngkhthisxngin xukepnphraoxrsinphrarachthidaxngkhotkhxngphranangxaliks aetthukkhamsiththiodysphahutkurihaekphrayati khux sunginxnakhtkhux phraecaxukthi 3 aehngisprs aelaxukthi 1 aehngeyrusaelm hlngcakphraecakhxnradthi 3 thukpraharchiwitodyphraecakarolthi 1 aehngenepilsinpikh s 1268 taaehnngkstriyklayepnkhxng sungidepnphramhakstriyisprsphrxmkn aetphraecakarolthi 1 kichphrarachthrphysuxsiththiinbllngkcakhnunginphuxangsiththiinpikh s 1277 inpinn phraxngkhsngipyngtawnxxkinthana orecxryudkhrxngemuxngexekhxraelabngkhbihehlabarxnswamiphkdi orecxrthukeriyktwklbinpi 1282 enuxngdwyehtukarn aelaplxyihdaeninkaraethn thrphyakraelaxanackhxngekhaminxyaelaekhathukkhbilody emuxphraxngkhesdcmacakisprsephuxprakxbrachaphieskepnkstriyeyrusaelm exekhxrthukyudkhrxngodymmluk inpi 1291 phwkkhruesdkthukkacdxxkcakaephndinihy rachwngsbulxy kh s 1099 1118 rachxanackreyrusaelm Kingdom of Jerusalem kh s 1099 kh s 1118 phraprmaphiithy phrarachsmphph xphiesksmrs swrrkht1 kxdfriyaehngbuyng phuphithksobsthphrakhuhaskdisiththi Godfrey of Bouillon okedxfrxy Godefroy 1099 1100 raw kh s 1060 phrarachsmphphthi frngess hrux brabnt oxrsinkb imxphiesksmrs 18 krkdakhm kh s 1100 phrachnmayuraw 40 phrrsa2 phraecabxldwinthi 1 Baldwin I obdwngthi 1 Baudouin I 1100 1118 raw kh s 1058 phrarachsmphphthilxaern oxrsinkb okedxhild edx othni immioxrsthida kh s 1097 immioxrsthida kh s 1112 immioxrsthida 2 emsayn kh s 1118 xiyipt phrachnmayuraw 60 phrrsarachwngserethl kh s 1118 1153 rachxanackreyrusaelm Kingdom of Jerusalem kh s 1118 kh s 1153 phraprmaphiithy phrarachsmphph xphiesksmrs swrrkht3 phraecabxldwinthi 2 Baldwin II obdwngthi 2 Baudouin II 1118 1131 imprakt phrarachsmphphthifrngess oxrsinkbemliaesnedxaehngmxngtaetrri kh s 1101 phrarachthida 4 phraxngkh 21 singhakhm kh s 1131 eyrusaelm4 smedcphrarachininath emliesnedx Melisende 1131 1153 rwmrachbllngkkbfulkh cnthungpi 1143 rwmrachbllngkkbbxldwinthi 3 cnthungpi 1153 kh s 1105 phrarachsmphphthieyrusaelm oxrsinphraecabxldwinthi 2kb 2 mithunayn kh s 1129 phrarachoxrs 2 phraxngkh 11 knyayn kh s 1161 eyrusaelm phrachnmayuraw 56 phrrsarachwngsxxngchu kh s 1153 1203 inpikh s 1127 idrbkhnathutcakphraecabxldwinthi 2 aehngeyrusaelm phraecabxldwinthi 2 imthrngmirchthayathchay aetthrngkahndih phrarachthidaxngkhotepnphusubrachbllngk phraecabxldwinthi 2 thrngtxngkarkhwamplxdphyinkarpkpxngmrdkthiphrarachthidacaidrb odymiphrarachprasngkhihecahyingxphiesksmrskbkhunnangphuthrngxanac fulkhepnnkrbkhruesdthirarwyaelaepnphunathangthharthimiprasbkarn xikthngepnmaychayathungaekkrrm prasbkarninsnamrbidphisucnwaekhaepnbukhkhlthimikhainrthchayaednthimkcamisngkhramechnni aetfulkhidyunkhxesnxthidikwainkarepnaekhphrarachswamikhxngsmedcphrarachininath kkhuxtwekhatxngkarepnphramhakstriyekhiyngkhangrachbllngkkhxngemliaesnedx phraecabxldwinthi 2 thrngyxmrbkhxesnxxyangimkhdkhxngenuxngdwyprasngkhcaichxanacinkaraeswnghaphlpraoychnthangkxngthphkhxngfulkh fulkhcungslataaehnngekhanthaehngxxngchuihaekecffriy oxrskhxngekhathiekidcakchayakhnaerk aelalxngeruxipephuxrbtaaehnngkstriyaehngeyrusaelminxnakht sungekhaesksmrskbecahyingemliaesnedxinwnthi 2 mithunayn kh s 1129 hlngcaknnphraecabxldwinthrngsnbsnuntaaehnngkhxngecahyingemliaesnedxinrachxanackr odyihphranangepnphupkkhrxngephiyngphraxngkhediywkhxngphrarachoxrsthiprasuticakfulkh inxnakhtprasutiinpi 1130 fulkhaelaemliaesnedxklayepnphrapramukhrwmaehngeyrusaelminpikh s 1131 hlngkarswrrkhtkhxngphraecabxldwinthi 3 inchwngaerkphraecafulkhthrngekhakhwbkhumkickarinrachxanackrthnghmdaelakidknsmedcphrarachininathemliaesnedxxxkip phraxngkhthrngoprdephuxnrwmchaticakxxngchumakkwakhunnangphunemuxng rthnkrbkhruesdthangtxnehnuxhwadklwwa phraecafulkhcaichphrarachxanackhxngxanackreyrusaelmehnuxdinaednkhxngphwkekha dngthiphraecabxldwinthi 2 ekhythaip aetphraecafulkhmiphlngphrarachxanacnxykwaphrasssuramak thaihrththangtxnehnuxptiesthxanackhxngphraxngkh ineyrusaelmexng phraecafulkhkimepnthiphxickhxngehlachaweyrusaelmkhristrunthisxngsungetibotmaktngaetsngkhramkhruesdkhrngaerk khnphunemuxng ehlanichunchxbphrayatikhxngsmedcphrarachininathemliaesnedx khux phusungcngrkphkditxsmedcphrarachininath phraecafulkhthrngmxngxukepnstru aelainpikh s 1134 phraxngkhtxngkarkacdxuk odyklawhawaekhamikhwamsmphnthchnthchusawkbsmedcphrarachininathemliaesnedx xukkxkarclaclephuxprathwngaelahlbsxntwindinaednkhxngekhaexngthicffa xikthngepnphnthmitrkbmuslimthi ekhaidchychnatxkxngthphkhxngphraecafulkh aetkimxackhwbkhumsthankarnid xkhrbidraehngeyrusaelmidekhamaiklekliykrniphiphath tamphrarachesawniykhxngsmedcphrarachininathemliaesnedx phraecafulkhthrngehndwykbkarsngbsukaelaxuktxngthukenrethsxxkcakrachxanackrepnewlasampi sungepnothssthaneba karswrrkhtkhxngphraecafulkh cakphaphprakxbhnngsuxkhxngwileliymaehngithr Historia and Old French Continuation wadthiexekhxr rawstwrrsthi 13 Bib Nat Francaise aetmikhwamphyayaminkarlxbsngharxuk phraecafulkhaelaphusnbsnunphraxngkhthukmxngodythwipwatxngmiswnrbphidchxbinehtukarnni aemwacaimmikarphisucnkhdicring eruxngxuxchawehlaniklayepnpraoychnaekphrrkhphrarachiniinkaryudxanackarpkkhrxng sungphranangthrngkxkarrthpraharwnghlwng ebxrnard aehmiltn nkekhiynaelankprawtisastridekhiynwa klumphusnbsnunphraecafulkhtxng xyuxyanghwadklwchiwitphayinwng nkprawtisastraelankekhiynrwmsmyxyang ekhiynthungfulkhwa phraxngkhimsamarththicaxxkkhwamkhididaemaeteruxngthielknxyodyprascakkhwamehnchxb khxngemliaesnedx phlkkhuxsmedcphrarachininathemliaesnedxthrngkhwbkhumxanackhxngrthbalodytrngxyangimtxngsngsytngaetkh s 1136 epntnip kxnpi 1136 phraecafulkhthrngiklekliykbphramehsi aelathaihphrarachoxrsxngkhthisxngprasutikhux inpikh s 1143 khnathiphramhakstriyaelasmedcphrarachininathprathbphkphxninexekhxr phraecafulkhesdcswrrkhtcakxubtiehtukhnalastw makhxngphraxngkhphladsadudaelalmlng aelakaohlkphraesiyrkhxngphraxngkhthukthbodyxanma mnsmxngkhxngphraxngkhphungxxkmacakhuthngsxngkhangaelarucmuk tamkhabrryaykhxngwileliymaehngithr phrawrkaykhxngphraxngkhthuknakbmayngexekhxr thrnghmdstiipsamwnaelaswrrkht phrabrmsphthukfngthiobsthphrakhuhaskdisiththiineyrusaelm aemwachiwitsmrscaetmipdwykhwamkhdaeyng smedcphrarachininathemliaesnedxthrngesiyphrathytxkarcakipkhxngphraecafulkhthngaesdngxxkinthisatharnaaelakarswnphraxngkh phraecafulkhmiphrarachoxrssamkhn khux ecffriythiprasuticakchayakhnaerk aelaecachaybxldwinkbecachayxamalrikhthiprasutiaetphranangemliaesnedx phraecabxldwinthi 3 khunsubrachbllngkepnpramukhrwmkbphrarachchnni inpikh s 1143 karkhrxngrachychwngtnrchkalkhxngphraxngkhepnkarthaelaakhdaeyngkbphrarachchnnixyangrunaerngineruxngsiththiinkarkhrxbkhrxngeyrusaelm cnkrathngkh s 1153 emuxphraxngkhsamarthyudkhrxngxanackhxngrthbalphayitphraxngkhexng smedcphrarachininathemliaesnedxslarachbllngk phraxngkhkbphrarachchnnikiklekliyknphayhlng phrarachchnniemliaesnedxswrrkhtinpikh s 1161 swnphraecabxldwinthi 3 swrrkhtinpikh s 1163 odyirrchthayath rachxanackrsubthxdipyngphrarachxnucha khrxngrachyepn phraecaxamalrikhthi 1 aemwacamikhwamkhdaeynginhmukhunnangkbphramehsiinphraecaxamalrikh khux aetphwkekhakyindithicayxmrbkarsmrsniinpikh s 1157 inchwngthiphraecabxldwinthi 3 yngkhngsamarthsubthayathid aetinchwngnisphahutkurptiesththicayxmrbxamalrikhepnkstriy cnkwaphraxngkhcayxmhyakhadcakphrarachinixanaeys khwamepnptipkstxphrarachinixanaeysnntxngyxmrbwaxacklawekincringodynkphngsawdarrwmsmyxyang wileliymaehngithr sungxkhticakkarthiphrarachinixanaeyskidknimihekharbtaaehnngxkhrbidraehngeyrusaelminchwngthswrrstxma aelaphusubthxdngankhxngwileliym khux idklawthungbukhlikkhxngphranangindansilthrrmwa imkhwrmiphrarachiniechnniinemuxngxnskdisiththixyangeyrusaelm car telle n est que roine doie iestre di si haute cite comme de Jherusalem aetxyangirktam khxhakephiyngphxaelwsahrbfaythicaokhnphranangxxkcaktaaehnngrachini phraecaxamalrikhthrngehndwyaelakhunsubrachbllngkxyangepnthangkarodyprascakphrarachini aetxanaeysyngkhrxngtaaehnngekhanthetsaehngcffaaelaxsekhlxn aelaidrbenginrayidcakskdinathidin khristckrtdsinwathayathkhxngphraecaxamalrikhkbxditphrarachinixanaeysnnepnthayaththichxbodykdhmay aelayngkhngladbkarsubrachsnttiwngsdngedim txmaphraoxrsthidakhxngxanaeyscamixanacsungineyrusaelmepnewlaekuxb 20 pi phraecaxamalrikhswrrkhtaelasubbllngkodyphraoxrsthiprasutiaetxanaeys khux phraecabxldwinthi 4 karxphiesksmrskhxngphraecaxamalrikhthi 1 kbmaeriy okhmenenthiithr xanaeysaehngkuretxaensmrsihmkb aelaesksmrskb inpikh s 1177 phrarachthidakhxngphraecaxamalrikhthiprasutiaetxanaeys khux ecahyingsibilla mikhwamphrxmdanphrachnsa aelaphrxmmithayath aelamisthanathimnkhnginkarsubrachbllngktxcakphraxnucha aetphrarachthidakhxngphraecaxamalrikhthiprasutiaetphraphnpihlwngmaeriy khux ecahyingxisaeblla thrngidrbkarsnbsnuncakkhrxbkhrwkhxngphrabidaeliyng khux phwk inpikh s 1179 phraecabxldwinthi 4 erimtnwangaephnihecahyingsibillaesksmrskb hlngcakphraswamixngkhaerkkhxngecahyingsinphrachnm aetinvduibimphli kh s 1180 aephnnikimiddaeninkar phyayamkxkarrthprahar odyradmphlineyrusaelmrwmkb inkarbibbngkhbihkstriycdkaresksmrskhxngphraechsthphkhinikbkhunnangthxngthinthiekhaeluxk xaccaepn phichaykhxngebeliyn ephuxtxtanaephnkarni kstriythrngribcdnganesksmrskhxngphrakhnisthakb nxngchaykhxng krmwngkhxngrachxanackr karcbkhukbchawtangchatiepnsingcaepnthisamarthnakhwamchwyehluxthangthharcakphaynxkekhamainrachxanackrid emuxphraecafilipthi 2 aehngfrngessyngthrngphraeyaw sthanakhxngkikhuxepnkhunnangkhxngkstriyfrngess aelaphrayatikhxngecahyingsibillakhux phraecaehnrithi 2 aehngxngkvs phusungepnhniinkaraeswngbuykhxngsmedcphrasntapapa phnthmitrthngsxngnicaepnsahrbeyrusaelm wileliymaehngithrkhnphbxakarorkheruxnkhxngbxldwinthi 4 khrngaerk cakhnngsux L Estoire d Eracles chbbphasafrngess wadinfrngessthswrrsthi 1250 inpikh s 1182 phraecabxldwinthi 4 kerimthrngthuphphlphaphmakkhun cakphraxakarorkheruxn phraxngkhthrngaetngtngkiepn baxilli erymxndtxtaneruxngni aetemuxkiimepnthioprdprankhxngkstriybxldwinxiktxipaelw inpithdmaerymxndidrykaraetngtngepnbaxilliihmxikkhrng aelaidrbsiththiinkarkhrxbkhrxngebrut phraecabxldwinhnmathakhxtklngkberymxndaelasphahutkur ihbxldwinaehngmngaefra phraoxrskhxngecahyingsibillathiprasutiaetphraswamixngkhaerk ihmisiththisubbllngkkxnsibillaaelaki bxldwinxngkhnxyidkhunkhrxngrachyepnkstriyrwmkhxngphramatulainpikh s 1183 inphrarachphithimierymxndepnprathan epnthitklngwahakyuwkstriyswrrkhtinchwngthiyngthrngphraeyaw khnaphusaercrachkarcaepliynphanipyng thayathphumikhwamchxbthrrmthisud aelatxcaknnkhuxehlayatiwngs idaek kstriyaehngxngkvsaelafrngess aelackrphrrdifridrichthi 1 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi sungsmedcphrasntapapacasamarthtdsinchirahwangsiththikhxngsibillaaelasiththikhxngxisaeblla thayathphumikhwamchxbthrrmthisud ehlanicaimthukesnxchux phraecabxldwinthi 4 swrrkhtinvduibimphli pikh s 1185 aelaphranddakhunsubbllngk erymxndidepnbaxilli aetekhasngphankarepnphupkkhrxngkhxngphraecabxldwinthi 5 ipyng xafayaemkhxngekha odyxangwaekhaimtxngkarihaekkhxkngkhaemuxyuwkstriythiduehmuxnxxnaexnnswrrkhtkhunma phraecabxldwinthi 5 swrrkhtinvdurxn kh s 1186 thiexekhxr immifayhnungfayidsnicinphrarachphinykrrmkhxngphraecabxldwinthi 4 hlngcakphrarachphithiphrasph cxsaelngtngihecahyingsibillaepnphusubsnttiwngskhxngphraxnucha aetphranangtxngyinyxmthicahyakhadcakki echnediywkbthiphrarachchnkkhxngphrananghyakhadcakphrarachchnni dwykarrbpraknwaphranangcaidrbxnuyatiheluxkphraswamixngkhihm inwnrachaphiesk smedcphrarachininathsibillathrngswmmngkudihkbkithnthi inkhnathierymxndkedinthangipyngsungepnthiphankkhxngebeliynaelasmedcphraphnpihlwngmaeriy aelathakareriykprachumkhunnangthicngrkphkditxecahyingxisaebllaaelatrakulxieblin erymxndtxngkarihecahyingxisaebllakb phraswamikhxngphranangswmmngkudepnkstriy aetxxngfrxymibidaeliyngkhux nnepnphnthmitrkhxngki xxngfrxycunglathingerymxndaelahnipthwaykhwamcngrkphkditxsibillaaelaki rachxanackreyrusaelm Kingdom of Jerusalem kh s 1153 kh s 1205 rachwngsxxngchu phraprmaphiithy phrarachsmphph xphiesksmrs swrrkht5 Fulk fluekt Foulques 1131 1143 rwmrachbllngkkbemliaesnedx kh s 1089 1092 phrarachsmphphthixxngech frngess oxrsinkb kh s 1109 phraoxrsthida 4 phraxngkh smedcphrarachininathemliaesnedxaehngeyrusaelm 2 mithunayn kh s 1129 phrarachoxrs 2 phraxngkh 13 phvscikayn kh s 1143 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 52 phrrsa6 Baldwin III obdwngthi 3 Baudouin III 1143 1163 rwmrachbllngkkbemliaesnedx cnthungpi 1153 kh s 1130 oxrsinkb kh s 1158 immiphrarachoxrsthida 10 kumphaphnth kh s 1163 ebrut rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 33 phrrsa7 Amalric xamxri Amaury 1163 1174 kh s 1136 oxrsinkb kh s 1157 miphrarachoxrsthida 3 phraxngkh 29 singhakhm kh s 1167 phrarachthida 2 phraxngkh 11 krkdakhm kh s 1174 eyrusaelm rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 38 phrrsa8 phraecabxldwinthi 4 kstriyeruxn Baldwin IV the Leprous obdwngthi 4 Baudouin IV 1174 1185 rwmrachbllngkkbbxldwinthi 5 tngaetpi 1183 kh s 1161 eyrusaelm oxrsinkb imxphiesksmrs 16 minakhm kh s 1185 eyrusaelm rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 24 phrrsa9 Baldwin V obdwngthi 5 Baudouin V 1183 1186 rwmrachbllngkkbbxldwinthi 4 cnthungpi 1185 kh s 1177 oxrsinkb imxphiesksmrs singhakhm kh s 1186 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 9 phrrsa10 Sibylla sibill Sibylle 1186 1190 rwmrachbllngkkbki rawkh s 1157 thidainkb kh s 1176 phrarachoxrs 1 phraxngkh emsayn kh s 1180 phrarachthida 2 phraxngkh 25 mkrakhm khadwa kh s 1190 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 40 phrrsa11 phraecaki Guy of Lusignan ki edx lusiyng Guy de Lusignan 1186 1190 1192 rwmrachbllngkkbsibilla cnthungpi 1190 rawkh s 1150 hrux 1159 1160 oxrsinkbbrukxy edx raykng emsayn kh s 1180 phrarachthida 2 phraxngkh 18 krkdakhm kh s 1194 niokhesiy isprs phrachnmayuraw 45 phrrsa12 Isabella I xisaeblthi 1 Isabelle I 1190 1192 1205 rwmrachbllngkkbkhxnrad cnthungpikh s 1192 rwmrachbllngkkbxxngrithi 1 kh s 1192 1197 rwmrachbllngkkbxamalrikhthi 2 tngaet kh s 1197 rawkh s 1172 rachxanackreyrusaelm thidainkb phvscikayn kh s 1183 immiphraoxrsthida 24 phvscikayn kh s 1190 phrarachthida 1 phraxngkh 6 phvsphakhm kh s 1192 phrarachthida 2 phraxngkh mkrakhm kh s 1198 phrarachthida 3 phraxngkh 5 emsayn kh s 1205 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 33 phrrsa13 phraecakhxnradthi 1 Conrad of Montferrat 1190 1192 1192 rwmrachbllngkkb xisaebllathi 1 klangthswrrsthi 1140 ckrwrrdiormnxnskdisiththi oxrsinkb impraktnam kxnkh s 1179 immioxrsthida thioxodra aexngeclina kh s 1186 1187 immioxrsthida 24 phvscikayn kh s 1180 phrarachthida 1 phraxngkh 28 emsayn kh s 1192 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 40 phrrsa14 phraecaxxngrithi 1 Henry II of Champagne Henry I 1192 1197 rwmrachbllngkkb xisaebllathi 1 29 krkdakhm kh s 1166 chxngpay oxrsinkbmariaehngfrngess 6 phvsphakhm kh s 1192 phrarachthida 2 phraxngkh 10 knyayn kh s 1197 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 31 phrrsa15 phraecaxamalrikhthi 2 Amalric of Lusignan Amalric II xamxri edx lusiyng Amaury de Lusignan 1198 1205 rwmrachbllngkkb xisaebllathi 1 kh s 1145 oxrsinkbbrukxy edx raykng kxn 29 tulakhm kh s 1114 phraoxrsthida 6 phraxngkh mkrakhm kh s 1198 phrarachthida 3 phraxngkh 1 emsayn kh s 1205 exekhxr rachxanackreyrusaelm phrachnmayuraw 60 phrrsaxangxingGuy 2012 Encyclopaedia Britannica Online Retrieved 27 August 2012 from http www britannica com EBchecked topic 249989 Guy 2013 A History of the Knights of Malta Cambridge Library Collection European History p 18 ISBN 9781108066228 subkhnemux 20 May 2014 Refusing the title of King and the diadem which were offered him upon the plea that he would never wear a crown of gold where his Saviour had worn a crown of thorns he modestly contented him with the title of Defender and Advocate of the Holy Sepulchre Adrian J Boas Jerusalem in the Time of the Crusades Society Landscape and Art in the Holy City under Frankish Rule Pages 79 82 Routledge 2009 ISBN 9780415488754 1 Adam G Beaver A Holy Land for the Catholic Monarchy Palestine in the Making of Modern Spain 1469 1598