พระธาตุยาคู เป็นโบราณสถานทางตอนเหนือของเมืองฟ้าแดดสงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าสร้างราวสมัยทวารวดีช่วงพุทธศตวรรษที่ 12–16
เจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมสมัยอยุธยาของพระธาตุยาคู | |
ชื่ออื่น |
|
---|---|
ที่ตั้ง | , จังหวัดกาฬสินธุ์, ประเทศไทย |
พิกัด | 16°19′09.0″N 103°31′13.0″E / 16.319167°N 103.520278°E |
ประเภท | โบราณสถาน |
ส่วนหนึ่งของ | เมืองฟ้าแดดสงยาง |
ความเป็นมา | |
วัสดุ | อิฐ |
สร้าง | ราวพุทธศตวรรษที่ 12–16 |
สมัย | ทวารวดี |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | พระธาตุยาคู (ธาตุนายใหญ่) |
ขึ้นเมื่อ | 3 มกราคม พ.ศ. 2480 |
เป็นส่วนหนึ่งของ | โบราณสถานในจังหวัดกาฬสินธุ์ |
เลขอ้างอิง | 0003341 |
ลักษณะทางกายภาพ
โบราณสถาน
โบราณสถานประกอบไปด้วยพระธาตุ เป็นศาสนสถานเนื่องในศาสนาพุทธในสมัยทวารวดี โดยลักษณะฐานอิฐสี่เหลี่ยมยกเก็จมีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน ก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่แบบอิฐที่พบในโบราณสถานสมัยทวารวดี ไม่สอปูน ด้านบนเป็นฐานแปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์แบบสมัยอยุธยาซ้อนทับและมีหลักฐานว่าบูรณะใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ รวมความสูงปัจจุบันสูง 15 เมตร มีขนาดกว้าง 16 เมตร
ลักษณะของพระธาตุยาคูจากการขุดแต่งของกรมศิลปากรพบว่า กํอนที่จะเป็นองค์สถูปเจดีย์ ได้พบฐานเดิมซึ่งลึกลงไปจากสถานสถูปเจดีย์ในปัจจุบันอีกชั้นหนึ่ง กํอด้วยอิฐมีผังคล้ายรูปกากบาท แตํมีการยํอมุม ที่ตรงปลายของแตํละด้านที่ยื่นออกไปมีความสูงจากพื้นลํางขึ้นมาประมาณ 1 เมตรเศษ ตํอจากนั้นจึงเป็นฐานที่บูรณะขึ้นใหมํจากลักษณะที่เป็นกองอิฐธรรมดาตามรอยเดิมในลักษณะของฐานเขียง ผังแปดเหลี่ยมซ้อนกันสามชั้น และอีกชั้นที่สี่มีความสูงมากกวําทุกชั้นแตํทําสํวนบนสอบเข้าเล็กน้อย จากนั้นทําตอนบนเหนือขึ้นไปผายออกเล็กน้อย ทําส่วนบนสอบเข้าหาจุดศูนย์กลางโดยการกํออิฐลดหลั่นเป็นขั้นบันไดขึ้นไปตอนบน แล้วจึงเป็นองค์ระฆังแปดเหลี่ยม ทรงอวบอ้วนสอบเข้าตอนปลายเล็กน้อยจากองค์ระฆังขึ้นไปชํารุดแตํถูกบูรณะขึ้นใหม่
จากการขุดค้นทางโบราณคดี ทำให้กำหนดอายุพระธาตุยาคูไว้ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12–16 ฐานของเจดีย์ขุดพบใบเสมาสลักเป็นภาพเล่าเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติปักไว้ที่ฐาน โดยมีเสมาหินทรายแผ่นหนึ่ง พบระหว่างการขุดแต่งองค์พระธาตุห่างไป 11 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอยู่ในลักษณะที่คว่ำหน้าหันส่วยอดของปลายใบเสมาเข้าสู่องค์เจดีย์ ในความลึกจากระดับดินเดิมประมาณ 30 เซนติเมตร จากการศึกษาลักษณะของภาพสลัก แปลความได้ว่าเป็นภาพสลักเล่าเรื่องมโหสถชาดก กำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 14–15: 75 เช่นเดียวกับการกำหนดอายุของใบเสมาที่เมืองฟ้าแดดสงยาง: 11
พระธาตุยาคูตั้งอยู่ภายในพื้นที่หมู่ 7 บ้านเสมา ตำบลหนองแปนอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
โบราณวัตถุ
บริเวณพระธาตุยาคูชาวบ้านขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างหลายอย่าง เช่น ใบเสมา ภาชนะเครื่องใช้ดินเผา กำไล แหวน กระดูกสัตว์ ลูกปัดแก้ว และเครื่องประดับชนิดต่าง ๆ และพระพิมพ์ดินเผาวางเรียงซ้อนทับกันจำนวนหลายร้อยองค์ เมื่อขุดลึกไปประมาณ 70 เซนติเมตร
โดยรอบพระธาตุยาคูมีใบเสมาจำนวนหนึ่งปักไว้ ใบเสมาสลักบางแผ่นสลักภาพเล่าเรื่องชาดกในพุทธศาสนา เช่น ชาดกเรื่องมโหสถชาดก ชาดกเรื่อง เป็นต้น ถัดออกไปทางทิศใต้ประมาณ 25 เมตร มีซากเจดีย์สมัยทวารวดีกระจายตัวอยู่รวมกันห้าองค์
พระพิมพ์มีทั้งสมบูรณ์และแตกหักชำรุด พระพิมพ์ดินเผาในพื้นที่พระธาตุยาคู เรียกว่า กรุฟ้าแดดสงยางสมัยทวารวดี ซึ่งมีหลายพิมพ์ด้วยกันคือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็กพิมพ์กลีบบัว (หลังกุ้ง) พิมพ์ปกโพธิ์ และพิมพ์พระแผง แต่พระพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของพระกรุฟ้าแดดสงยางคือ พิมพ์ใหญ่นิยม องค์พระมีขนาดกว้าง 5 นิ้ว สูง 7 นิ้ว
ประวัติ
ชาวบ้านเชื่อกันว่าพระธาตุยาคูเป็นที่บรรจุอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ผู้ตั้งหมู่บ้านที่ชาวเมืองเคารพนับถือ เนื่องจากคำว่า "ยาคู" เป็นคำเรียกสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ของภาคอีสานโบราณ ซึ่งเมื่อพระสงฆ์รูปใดเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติดีมีคุณธรรมและบวชมาแล้วไม่น้อยกว่าสามพรรษา ชาวบ้านจะนิมนต์มาทำพิธีฮึดสรง จากนั้นก็ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "ยาคู ยาซา"
ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ชาวบ้านผู้สูงอายุกล่าวถึงเมืองโบราณบริเวณที่ตั้งพระธาตุยาคูว่า เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่รกร้างปรากฏมีซากเจดีย์และแผ่นหินรูปใบเสมาอยู่มากมาย ชาวบ้านเห็นเป็นทำเลดี จึงได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งอพยพออกมาจากเมืองกมลาไสย มาตั้งบ้านเรือนและจับจองที่ทำไร่นา และเรียกหมู่บ้านตัวเองว่าบ้านบักก้อม ซึ่งเรียกตามชื่อเสือโคร่งหางด้วนที่พบบริเวณป่าใกล้หมู่บ้าน: 222–225
การอพยพมาตั้งบ้านเรือนมีพระภิกษุอันเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านตามมาและตั้งสำนักสงฆ์และกลายเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ภิกษุรูปนี้ชาวบ้านเรียกว่า ยาคูง่อม เมื่อภิกษุรูปนี้มรณภาพลง ชาวบ้านจึงทำศาลใส่อัฐิไว้ในบริเวณบ้านบักก้อม ภายหลังหมู่บ้านแห่งนี้ได้ชื่อใหม่ว่า "บ้านเสมา”"บริเวณที่ตั้งศาลเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ชื่อว่า ต่อมา เมื่อชาวบ้านยุคใหม่เห็นว่ามีซากเจดีย์ขนาดใหญ่สมบูรณ์กว่าที่อื่น ชาวบ้านจึงคิดว่าเป็นที่บรรจุอัฐิของภิกษุยาคูง่อม จึงเรียกเจดีย์แห่งนี้ว่า พระธาตุยาคู จวบจนปัจจุบัน: 222–225
อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรได้ขุดแต่งและบูรณะเจดีย์องค์นี้ในช่วงปี พ.ศ. 2510–2522 ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่พระธาตุยาคู ทราบว่าพระธาตุยาคูมีมาแล้วตั้งแต่สมัยทวารวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12–16 ขัดแย้งกับความเชื่อของชาวบ้านในปัจจุบันเกี่ยวกับการบรรจุอัฐิของพระภิกษุที่ชาวบ้านนับถือในช่วงที่เพิ่งตั้งหมู่บ้านซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่นานมานี้ ประกอบกับผลการขุดพบใบเสมาสลักภาพเล่าเรื่องในพุทธศาสนาปักไว้ที่ฐานพระธาตุ ดังนั้น พระธาตุยาคูคงไม่ใช่เจดีย์ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระเถระดังความเชื่อของชาวบ้านในปัจจุบัน ส่วนคำเรียก "พระธาตุยาคู" เป็นคำเรียกต่อกันมาจนกระทั่งทางกรมศิลปากรเข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์จึงเรียกตามชาวบ้านด้วย: 224
พระธาตุยาคู ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545
หมายเหตุ
- ในราชกิจจานุเบกษาว่า บ้างก็ว่า
อ้างอิง
- หวัน แจ่งวิมล. รายงานการสำรวจและขุดแต่งโบราณสถาน โบราณวัตถุ เมืองฟ้าแดดสงยาง บ้านเสมา ตำบลหนองแปน อำเภอมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์. กรมศิลปากร, 2511.
- อรุณศักดิ์ กิ่งมณี. ศิลปวัฒนธรรม. “ใบเสมาสลักภาพ “มโหสถชาดก” จากพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง.”, 2548.
- สมชาติ มณีโชติ. ประติมากรรมชิ้นสำคัญจากเมืองฟ้าแดดสงยาง. 2528.
- ผู้จัดการออนไลน์. หาทุนบูรณะเมืองฟ้าแดดสงยาง นำดินโบราณพันปีสร้างพระพิมพ์ให้เช่า. 2550.
- ไชยยศ วันอุทา. ศิลปวัฒนธรรม. “พระธาตุยาคูหรือพระบรมธาตุ.”, 2538.
- ราชกิจจานุเบกษา. ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่โบราณสถานเพิ่มเติม 2019-11-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. (พฤศจิกายน 2545, 29).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrathatuyakhu epnobransthanthangtxnehnuxkhxngemuxngfaaeddsngyang cnghwdkalsinthu khadwasrangrawsmythwarwdichwngphuththstwrrsthi 12 16phrathatuyakhuecdiythanaepdehliymsmyxyuthyakhxngphrathatuyakhuchuxxunecdiyhmayelkh 10 emuxngfaaeddsngyangthatuihythitng cnghwdkalsinthu praethsithyphikd16 19 09 0 N 103 31 13 0 E 16 319167 N 103 520278 E 16 319167 103 520278praephthobransthanswnhnungkhxngemuxngfaaeddsngyangkhwamepnmawsduxithsrangrawphuththstwrrsthi 12 16smythwarwdiobransthanthikhunthaebiynodykrmsilpakrchuxthikhunthaebiynphrathatuyakhu thatunayihy khunemux3 mkrakhm ph s 2480epnswnhnungkhxngobransthanincnghwdkalsinthuelkhxangxing0003341lksnathangkayphaphobransthan obransthanprakxbipdwyphrathatu epnsasnsthanenuxnginsasnaphuththinsmythwarwdi odylksnathanxithsiehliymykekcmibnidthangkhunthngsidan kxdwyxithkhnadihyaebbxiththiphbinobransthansmythwarwdi imsxpun danbnepnthanaepdehliym epnecdiyaebbsmyxyuthyasxnthbaelamihlkthanwaburnaihminsmyrtnoksinthr rwmkhwamsungpccubnsung 15 emtr mikhnadkwang 16 emtr lksnakhxngphrathatuyakhucakkarkhudaetngkhxngkrmsilpakrphbwa kxnthicaepnxngkhsthupecdiy idphbthanedimsungluklngipcaksthansthupecdiyinpccubnxikchnhnung kxdwyxithmiphngkhlayrupkakbath aetmikaryxmum thitrngplaykhxngaetladanthiyunxxkipmikhwamsungcakphunlangkhunmapraman 1 emtress txcaknncungepnthanthiburnakhunihmcaklksnathiepnkxngxiththrrmdatamrxyediminlksnakhxngthanekhiyng phngaepdehliymsxnknsamchn aelaxikchnthisimikhwamsungmakkwathukchnaetthaswnbnsxbekhaelknxy caknnthatxnbnehnuxkhunipphayxxkelknxy thaswnbnsxbekhahacudsunyklangodykarkxxithldhlnepnkhnbnidkhuniptxnbn aelwcungepnxngkhrakhngaepdehliym thrngxwbxwnsxbekhatxnplayelknxycakxngkhrakhngkhunipcharudaetthukburnakhunihm cakkarkhudkhnthangobrankhdi thaihkahndxayuphrathatuyakhuiwinchwngphuththstwrrsthi 12 16 thankhxngecdiykhudphbibesmaslkepnphaphelaeruxngekiywkbphuththprawtipkiwthithan odymiesmahinthrayaephnhnung phbrahwangkarkhudaetngxngkhphrathatuhangip 11 emtr thangdanthistawnxxkechiyngehnux odyxyuinlksnathikhwahnahnswyxdkhxngplayibesmaekhasuxngkhecdiy inkhwamlukcakradbdinedimpraman 30 esntiemtr cakkarsuksalksnakhxngphaphslk aeplkhwamidwaepnphaphslkelaeruxngmohsthchadk kahndxayuidpramanphuththstwrrsthi 14 15 75 echnediywkbkarkahndxayukhxngibesmathiemuxngfaaeddsngyang 11 phrathatuyakhutngxyuphayinphunthihmu 7 banesma tablhnxngaepnxaephxkmlaisy cnghwdkalsinthu obranwtthu briewnphrathatuyakhuchawbankhudkhnphbobranwtthutanghlayxyang echn ibesma phachnaekhruxngichdinepha kail aehwn kradukstw lukpdaekw aelaekhruxngpradbchnidtang aelaphraphimphdinephawangeriyngsxnthbkncanwnhlayrxyxngkh emuxkhudlukippraman 70 esntiemtr odyrxbphrathatuyakhumiibesmacanwnhnungpkiw ibesmaslkbangaephnslkphaphelaeruxngchadkinphuththsasna echn chadkeruxngmohsthchadk chadkeruxng epntn thdxxkipthangthisitpraman 25 emtr misakecdiysmythwarwdikracaytwxyurwmknhaxngkh phraphimphmithngsmburnaelaaetkhkcharud phraphimphdinephainphunthiphrathatuyakhu eriykwa krufaaeddsngyangsmythwarwdi sungmihlayphimphdwyknkhux phimphihy phimphklang phimphelkphimphklibbw hlngkung phimphpkophthi aelaphimphphraaephng aetphraphimphthiidrbkhwamniymsungsudkhxngphrakrufaaeddsngyangkhux phimphihyniym xngkhphramikhnadkwang 5 niw sung 7 niwprawtichawbanechuxknwaphrathatuyakhuepnthibrrcuxthikhxngphraethraphuihyphutnghmubanthichawemuxngekharphnbthux enuxngcakkhawa yakhu epnkhaeriyksmnskdikhxngphrasngkhkhxngphakhxisanobran sungemuxphrasngkhrupidepnphupraphvtiptibtidimikhunthrrmaelabwchmaaelwimnxykwasamphrrsa chawbancanimntmathaphithihudsrng caknnkideluxnsmnskdiepn yakhu yasa khxmulcakkarsmphasnchawbanphusungxayuklawthungemuxngobranbriewnthitngphrathatuyakhuwa edimphunthibriewnniepnthirkrangpraktmisakecdiyaelaaephnhinrupibesmaxyumakmay chawbanehnepnthaeldi cungidmichawbanklumhnungxphyphxxkmacakemuxngkmlaisy matngbaneruxnaelacbcxngthithairna aelaeriykhmubantwexngwabanbkkxm sungeriyktamchuxesuxokhrnghangdwnthiphbbriewnpaiklhmuban 222 225 karxphyphmatngbaneruxnmiphraphiksuxnepnthiekharphnbthuxkhxngchawbantammaaelatngsanksngkhaelaklayepnwdpracahmuban phiksurupnichawbaneriykwa yakhungxm emuxphiksurupnimrnphaphlng chawbancungthasalisxthiiwinbriewnbanbkkxm phayhlnghmubanaehngniidchuxihmwa banesma briewnthitngsalepnwdpracahmuban chuxwa txma emuxchawbanyukhihmehnwamisakecdiykhnadihysmburnkwathixun chawbancungkhidwaepnthibrrcuxthikhxngphiksuyakhungxm cungeriykecdiyaehngniwa phrathatuyakhu cwbcnpccubn 222 225 xyangirktam krmsilpakridkhudaetngaelaburnaecdiyxngkhniinchwngpi ph s 2510 2522 phlcakkarkhudkhnthangobrankhdithiphrathatuyakhu thrabwaphrathatuyakhumimaaelwtngaetsmythwarwdi xayupramanphuththstwrrsthi 12 16 khdaeyngkbkhwamechuxkhxngchawbaninpccubnekiywkbkarbrrcuxthikhxngphraphiksuthichawbannbthuxinchwngthiephingtnghmubansungepnchwngewlaimnanmani prakxbkbphlkarkhudphbibesmaslkphaphelaeruxnginphuththsasnapkiwthithanphrathatu dngnn phrathatuyakhukhngimichecdiythibrrcuxthithatukhxngphraethradngkhwamechuxkhxngchawbaninpccubn swnkhaeriyk phrathatuyakhu epnkhaeriyktxknmacnkrathngthangkrmsilpakrekhamaburnptisngkhrncungeriyktamchawbandwy 224 phrathatuyakhu idkhunthaebiynepnobransthanodyprakasinrachkiccanuebksa emuxwnthi 29 phvscikayn ph s 2545hmayehtuinrachkiccanuebksawa bangkwaxangxinghwn aecngwiml rayngankarsarwcaelakhudaetngobransthan obranwtthu emuxngfaaeddsngyang banesma tablhnxngaepn xaephxmlaisy cnghwdkalsinthu krmsilpakr 2511 xrunskdi kingmni silpwthnthrrm ibesmaslkphaph mohsthchadk cakphrathatuyakhu emuxngfaaeddsngyang 2548 smchati mniochti pratimakrrmchinsakhycakemuxngfaaeddsngyang 2528 phucdkarxxniln hathunburnaemuxngfaaeddsngyang nadinobranphnpisrangphraphimphihecha 2550 ichyys wnxutha silpwthnthrrm phrathatuyakhuhruxphrabrmthatu 2538 rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng kahndekhtphunthiobransthanephimetim 2019 11 26 thi ewyaebkaemchchin phvscikayn 2545 29