พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 บริเวณกิโลเมตรที่ 14 ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | พระตำหนัก |
เมือง | จังหวัดสกลนคร |
ประเทศ | ประเทศไทย |
เริ่มสร้าง | 2518 |
ผู้สร้าง | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
ประวัติ
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์จังหวัดสกลนคร เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในบริเวณเทือกเขาภูพาน ใน พ.ศ. 2518 โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเป็นผู้ทรงเลือกพื้นที่สร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ทรงใช้แผนที่ทางอากาศและการเสด็จสำรวจเส้นทางบริเวณ ป่าเขา น้ำตก เป็นปัจจัยในการกำหนดเขตพื้นที่ก่อสร้างพระตำหนักและบริเวณพระตำหนักซึ่งประกอบด้วยเขตพระราชฐานชั้นในและเขตพระราชฐานชั้นนอก
พื้นที่ของพระตำหนัก
พื้นที่บริเวณพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เมื่อแรกตั้งพระตำหนักมี 940 ไร่ ในเวลาต่อมาได้ขยายเขตพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการฟื้นฟูสภาพป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติอีกประมาณ 1,010 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 1,950 ไร่
หมู่พระตำหนัก
- 1.หมู่พระตำหนัก หมู่พระตำหนักประกอบด้วย อาคารหลังพระตำหนักปีกไม้ เป็นพระตำหนักหลังแรก สร้างใน พ.ศ. 2518 เป็นรูปแบบล็อกเคบินใช้เป็นเรือนรับรองหลังแรก ต่อมาใน พ.ศ. 2519 ทรงมีพระบรมราชโองการให้สร้างพระตำหนักใหญ่เป็นตึกสองชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ บริเวณเนินหน้าผาห่างจากพระตำหนักปีกไม้ ประมาณ 500 เมตร และยังได้ก่อสร้างพระตำหนักที่มีรูปแบบใกล้เคียงกัน และต่อมาได้มีการสร้างพระตำหนักหลังหนึ่งในบริเวณใกล้เคียงกัน รวมเป็นพระตำหนัก 4 หลัง
ห่างจากพระตำหนักใหญ่ประมาณ 1,500 เมตร ได้สร้างบ้านพัก พลโท เปรม ติณสูลานนท์ แม่ทัพภาคที่ 2 (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) นอกจากอาคารพระตำหนักและบ้านพักพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดังกล่าวแล้ว ยังมีอาคารบ้านพักข้าราชการฝ่ายในอีก 68 หลังอยู่รายรอบมีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม ตามลักษณะภูมิทัศน์ช่วยส่งเสริมให้พระตำหนักมีความสดชื่น งดงาม ดูเด่นเป็นสง่าน่าประทับใจ 2.งานภูมิทัศน์ งานภูมิทัศน์ถือว่าเป็นส่วนที่ดึงดูดให้ประชาชนเข้าชมด้วยความประทับใจ การจัดภูมิทัศน์อาศัยสภาพพื้นที่เป็นพื้นฐานในการจัดคือ ลักษณะพื้นที่เป็นเชิงเนินชายเทือกเขาภูพานตอนกลาง และอาศัยสภาพผิวหน้าดินเป็นหลักในการปลูกไม้ดอกไม้ประดับคือ เป็นภูเขาหินทรายปกคลุมด้วยผังดินทรายสลายบนดินลูกรัง โดยหลักการดังกล่าว สวนในพระตำหนักภูพานอาจจัดสวนได้ 5 รูปแบบคือ
- 1. สวนรวมพันธุ์ไม้ (Mixed garden)
- 2. สวนแบบประดิษฐ์ (Formal Style)
- 3. สวนแบบธรรมชาติ (Informal Style)
- 4. สวนหินประดับประดา (Rock garden)
- 5. สวนประดับหิน (Stone garden)
การจัดสวน นับจากเขตพระราชฐานชั้นนอกพระตำหนักริมถนนมีสระน้ำขอบตั้งหินทรายแดง (Red Stone) ปลูกบัวสายสีแดง ชมพู ม่วง ประดับเรียงราย สลับกับต้นตะแบก ส่วนประดู่ อีกทั้งปลูกไม้ทั้งปลูกไม้ดอกและไม้ใบ สลับให้สวยงาม หน้ากองรักษาการได้จัดสวนแบบประดิษฐ์ มีต้นปกปิดสีเขียว แดง เหลือง ปลูกและตัดแต่งเป็นรูปทหารท่าสะพายปืนดูน่าเกรงขาม เขตพระราชฐานชั้นใน ทางสำหรับรับเสด็จพระราชดำเนินต้องผ่านธารน้ำมีการก่อสร้างสะพานเหล็กทอดข้าม มุมถนนสามแยกจัดสวนประดิษฐ์เป็นเครื่องหมายประจำพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เป็นรูปยอดพระธาตุเชิงชุม ล้อมรอบด้วยพระมหามงกุฎ ปลูกต้นปาล์ม พัดโบก ปาล์มบังสูรย์ ต้นเข็ม และต้นยักเป็ดประดับด้วยหินทราย (Stone garden) ด้านหลังปลูกต้นปาล์มพัด หรือกล้วยลังกาในหมู่ไม้หมากผู้เมียสีแดง และหมู่สนมูลคลุมต้นด้วยต้นผักชมแดงเป็นจุดเด่น ฝั่งตรงข้ามหมู่หินประดับ จัดเสริมไม้ดอกสีต่าง ๆ ตามฤดูกาลแบบรวบรวมพันธุ์ไม้ (Mixed Garden) บริเวณที่เป็นสวนประดับทั่วไปริมถนนภายในเขตพระราชฐาน ปลูกปาล์มพัดคู่สลับเป็นระยะกับร่องไม้ดอก มีดอกบานเช้ากระดุมทอง บานชื่น และหมู่ไม้ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ข้างพระตำหนักเป็นพรรณไม้พุ่ม เนื่องจากแสงส่องถึงน้อยจึงเหมาะที่ใช้ไม้พวกคาลาเธีย สาวน้อยประแป้ง บอนสี และเฟิร์น มาปลูกประดับ สวนหน้าพระตำหนักจัดประดับหิน แทรกต้นหน้าวัว เทียนหยดด่าง หลิวไทเป กล้วยไม้สกุลอีฟิเดนดัม สีส้ม กุหลาบ อาซาเลีย หรือ กุหลาบพันปีของไทยชยาฮาวายสีต่าง ๆ ปลูกเป็นไม้พุ่มทั่วไป จุดเด่นในบริเวณนี้อยู่ที่ไม้พันธุ์ต่าง ๆ จะมีดอกออกดอกตลอดปี และในที่นี้มีต้นพลองออกดอกสีม่วง เป็นต้นไม้ป่าซึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงหลวงทรงโปรดมาก ที่เรือนคำหอมบริเวณนี้ประดับด้วยพันธุ์ไม้ดอกจากป่าภูพาน เช่น ดุสิตา มณีเทวา สวิสจันทร์ ทิพย์เกสร ดอกสร้อยสุวรรณ รวมทั้งดอกเทียนป่า การปลูกประดับจะปลูกได้ในปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว ดอกไม้เหล่านี้เป็นที่ชื่นชมของประชาชนผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก และยังมีโรงช้างต้นอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในพระตำหนัก
สิ่งอำนวยความสะดวกในพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เป็นแหล่งที่สะดวกต่อการเดินทางไปท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองสกลนครอยู่ริมถนนหลวงสายสกลนคร - กาฬสินธุ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทั้งรถยนต์ส่วนตัวและการนำพาหนะเข้าชม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่กองรักษาการเพื่อเข้าชมพระตำหนักชั้นนอกได้โดยสะดวก หากต้องการชมพระตำหนักชั้นในต้องติดต่อทางราชการเพื่อขออนุญาตจากผู้ดูแลพระตำหนักเป็นการล่วงหน้า ปัจจุบันพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์มีประชาชนเข้าชมอย่างต่อเนื่องแสดงถึงความสนใจในความงดงามของพระตำหนักแห่งนี้
การเดินทางมายังพระตำหนัก
เส้นทางเข้าสู่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 บริเวณกิโลเมตรที่ 14 ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร
ข้อมูลเพิ่มเติม
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phratahnkphuphanrachniewsn tngxyurimthanghlwngsaysklnkhr kalsinthu hmayelkh 213 briewnkiolemtrthi 14 hangcaktwemuxngsklnkhrpraman 16 kiolemtrphratahnkphuphanrachniewsnkhxmulthwippraephthphratahnkemuxngcnghwdsklnkhrpraethspraethsithyerimsrang2518phusrangphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedchprawtiphratahnkphuphanrachniewsncnghwdsklnkhr epnphratahnkthisrangkhuninbriewnethuxkekhaphuphan in ph s 2518 odyphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrepnphuthrngeluxkphunthisrangphratahnkdwyphraxngkhexng thrngichaephnthithangxakasaelakaresdcsarwcesnthangbriewn paekha natk epnpccyinkarkahndekhtphunthikxsrangphratahnkaelabriewnphratahnksungprakxbdwyekhtphrarachthanchninaelaekhtphrarachthanchnnxkphunthikhxngphratahnkphunthibriewnphratahnkphuphanrachniewsn emuxaerktngphratahnkmi 940 ir inewlatxmaidkhyayekhtphunthiephuxcdthaokhrngkarfunfusphaphpakhunchiwitsuthrrmchatixikpraman 1 010 ir rwmepnphunthi 1 950 irhmuphratahnk1 hmuphratahnk hmuphratahnkprakxbdwy xakharhlngphratahnkpikim epnphratahnkhlngaerk srangin ph s 2518 epnrupaebblxkekhbinichepneruxnrbrxnghlngaerk txmain ph s 2519 thrngmiphrabrmrachoxngkarihsrangphratahnkihyepntuksxngchn rupaebbsthaptykrrmsmyihm briewneninhnaphahangcakphratahnkpikim praman 500 emtr aelayngidkxsrangphratahnkthimirupaebbiklekhiyngkn aelatxmaidmikarsrangphratahnkhlnghnunginbriewniklekhiyngkn rwmepnphratahnk 4 hlng hangcakphratahnkihypraman 1 500 emtr idsrangbanphk phloth eprm tinsulannth aemthphphakhthi 2 ysaelataaehnngkhnann nxkcakxakharphratahnkaelabanphkphlexkeprm tinsulannth dngklawaelw yngmixakharbanphkkharachkarfayinxik 68 hlngxyurayrxbmikarplukimdxkimpradbxyangswyngam tamlksnaphumithsnchwysngesrimihphratahnkmikhwamsdchun ngdngam duednepnsnganaprathbic 2 nganphumithsn nganphumithsnthuxwaepnswnthidungdudihprachachnekhachmdwykhwamprathbic karcdphumithsnxasysphaphphunthiepnphunthaninkarcdkhux lksnaphunthiepnechingeninchayethuxkekhaphuphantxnklang aelaxasysphaphphiwhnadinepnhlkinkarplukimdxkimpradbkhux epnphuekhahinthraypkkhlumdwyphngdinthrayslaybndinlukrng odyhlkkardngklaw swninphratahnkphuphanxaccdswnid 5 rupaebbkhux 1 swnrwmphnthuim Mixed garden 2 swnaebbpradisth Formal Style 3 swnaebbthrrmchati Informal Style 4 swnhinpradbprada Rock garden 5 swnpradbhin Stone garden karcdswn nbcakekhtphrarachthanchnnxkphratahnkrimthnnmisranakhxbtnghinthrayaedng Red Stone plukbwsaysiaedng chmphu mwng pradberiyngray slbkbtntaaebk swnpradu xikthngplukimthngplukimdxkaelaimib slbihswyngam hnakxngrksakaridcdswnaebbpradisth mitnpkpidsiekhiyw aedng ehluxng plukaelatdaetngepnrupthharthasaphaypundunaekrngkham ekhtphrarachthanchnin thangsahrbrbesdcphrarachdaenintxngphantharnamikarkxsrangsaphanehlkthxdkham mumthnnsamaeykcdswnpradisthepnekhruxnghmaypracaphratahnkphuphanrachniewsnepnrupyxdphrathatuechingchum lxmrxbdwyphramhamngkud pluktnpalm phdobk palmbngsury tnekhm aelatnykepdpradbdwyhinthray Stone garden danhlngpluktnpalmphd hruxklwylngkainhmuimhmakphuemiysiaedng aelahmusnmulkhlumtndwytnphkchmaedngepncudedn fngtrngkhamhmuhinpradb cdesrimimdxksitang tamvdukalaebbrwbrwmphnthuim Mixed Garden briewnthiepnswnpradbthwiprimthnnphayinekhtphrarachthan plukpalmphdkhuslbepnrayakbrxngimdxk midxkbanechakradumthxng banchun aelahmuimthikhunxyutamthrrmchati khangphratahnkepnphrrnimphum enuxngcakaesngsxngthungnxycungehmaathiichimphwkkhalaethiy sawnxypraaepng bxnsi aelaefirn maplukpradb swnhnaphratahnkcdpradbhin aethrktnhnaww ethiynhyddang hliwithep klwyimskulxifiedndm sism kuhlab xasaeliy hrux kuhlabphnpikhxngithychyahawaysitang plukepnimphumthwip cudedninbriewnnixyuthiimphnthutang camidxkxxkdxktlxdpi aelainthinimitnphlxngxxkdxksimwng epntnimpasung smedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwnghlwngthrngoprdmak thieruxnkhahxmbriewnnipradbdwyphnthuimdxkcakpaphuphan echn dusita mniethwa swiscnthr thiphyeksr dxksrxysuwrrn rwmthngdxkethiynpa karplukpradbcaplukidinplayvdufnthungvduhnaw dxkimehlaniepnthichunchmkhxngprachachnphuekhachmepnxyangmak aelayngmiorngchangtnxyuphayinbriewnphratahnkdwysingxanwykhwamsadwkphayinphratahnksingxanwykhwamsadwkinphratahnkphuphanrachniewsn phratahnkphuphanrachniewsn epnaehlngthisadwktxkaredinthangipthxngethiyw thngniephraaxyuimhangcaktwemuxngsklnkhrxyurimthnnhlwngsaysklnkhr kalsinthu nkthxngethiywsamarthedinthangekhasuaehlngthxngethiywthngrthyntswntwaelakarnaphahnaekhachm samarthtidtxecahnathithikxngrksakarephuxekhachmphratahnkchnnxkidodysadwk haktxngkarchmphratahnkchnintxngtidtxthangrachkarephuxkhxxnuyatcakphuduaelphratahnkepnkarlwnghna pccubnphratahnkphuphanrachniewsnmiprachachnekhachmxyangtxenuxngaesdngthungkhwamsnicinkhwamngdngamkhxngphratahnkaehngnikaredinthangmayngphratahnkesnthangekhasuphratahnkphuphanrachniewsn phratahnkphuphanrachniewsntngxyurimthanghlwngsaysklnkhr kalsinthu hmayelkh 213 briewnkiolemtrthi 14 hangcaktwemuxngsklnkhrpraman 16 kiolemtrkhxmulephimetimphratahnkphuphanrachniewsn bthkhwamxakhar hrux sthanthisakhyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk