ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ หมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน
ตามตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุมีว่า ในสมัยที่พระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ กำลังดำเนินการสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าแถบยาวชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลายเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ (เรียกว่า พระบฎ หรือ พระบต) ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง จึงนำผ้าผืนนั้นไปถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์จึงรับสั่งให้ซักจนสะอาด แต่ลายเขียนพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือนยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง จะเดินทางไปลังกา เพื่อนำพระบฎไปถวายเป็นพุทธบูชาพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว แต่เรือถูกมรสุมซัดแตกที่ชายฝั่งเมืองนครมีรอดชีวิต 10 คน ส่วนพระบฏถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งปากพนัง พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงพิจารณาเห็นว่าควรจะนำขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ เจ้าของพระบฎที่รอดชีวิตก็ยินดีด้วย จึงโปรดให้ชาวเมืองนครจัดเครื่องประโคมแห่แหนผ้าห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ จึงเป็นประเพณีประจำเมืองนครสืบมาจนทุกวันนี้
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้มีการแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 คือ วันวิสาขบูชา เรียกว่า “แห่พระบฎขึ้นธาตุ” มีการเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้มีการแห่ผ้าขึ้นธาตุ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 คือ วันมาฆบูชา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่อยู่ห่างไกลหรือไม่มีโอกาสกระทำพุทธบูชาในวันวิสาขบูชาได้มีโอกาสแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชาตามศรัทธาด้วย ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุของเมืองนครจึงมีปีละ 2 ครั้ง คือ ในวันเพ็ญเดือน 3 (วันมาฆบูชา) และในวันเพ็ญเดือน 6 (วันวิสาขบูชา) สืบมาจนทุกวันนี้
เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุกระทำกันโดยพร้อมเพรียงเป็นขบวนที่เอิกเกริกเพียงขบวนเดียว ต่อมา ประชาชนมาจากหลายทิศหลายทาง แต่ละคนต่างเตรียมผ้ามาเองทำให้การแห่ผ้าขึ้นธาตุไม่พร้อมเพรียงเป็นขบวนเดียวกัน เพราะใครจะแห่ผ้าขึ้นธาตุในเวลาใดก็ได้ตามสะดวกตลอดทั้งวัน เมื่อขบวนแห่มาถึงวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร ก็แห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารม้า ซึ่งมีบันไดขึ้นสู่ลานภายในกำแพงแก้วล้อมฐานพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อนำผ้าขึ้นห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
praephniaehphakhunthatu hmaythung karnaphaphunyawkhuniphmxngkhphrabrmthatuecdiyinwnsakhythangsasna chawnkhridrwmmuxrwmicknbricakhengintamkalngsrththanaenginthiidipsuxphamaeybtxknepnaethwyawnbphnhla aelwcdepnkhbwnaehphakhunhmphrabrmthatuecdiy phathikhuniphmxngkhphrabrmthatuecdiyeriykwa phaphrabd hrux phrabt niymichsikhaw siehluxng siaedng sahrbphasikhawniymekhiynphaphenuxhaekiywkbphuththprawtitngaetprasuti esdcxxkbrrphcha trsru pthmethsna aelapriniphphan praephniaehphakhunthatuepnexklksnpracaemuxngnkhrsrithrrmrach aeknaethxyuthikarbuchaphraphuththecaxyangiklchid odyichxngkhphrabrmthatuecdiyepntwaethnpraephniaehphakhunthatu tamtananpraephniaehphakhunthatumiwa insmythiphraecasamphinxng khux phraecasrithrrmoskrach phraecacnthrphanu aelaphraecaphngsasura kalngdaeninkarsmophchphrabrmthatuxyunn khlunidsdphaaethbyawchinhnung sungmilayekhiyneruxngrawphuththprawti eriykwa phrabd hrux phrabt khunthichayhadpakphnng cungnaphaphunnnipthwayphraecasrithrrmoskrach phraxngkhcungrbsngihskcnsaxad aetlayekhiynphuththprawtikimlbeluxnyngkhngsmburndithukprakar cungrbsngihprakashaecakhxng idkhwamwachawphuththklumhnung caedinthangiplngka ephuxnaphrabdipthwayepnphuththbuchaphrathntthatu khux phraekhiywaekw aeteruxthukmrsumsdaetkthichayfngemuxngnkhrmirxdchiwit 10 khn swnphrabtthukkhlunsdkhunfngpakphnng phraecasrithrrmoskrachthrngphicarnaehnwakhwrcanakhuniphmphrabrmthatuecdiyenuxnginoxkassmophchphrabrmthatu ecakhxngphrabdthirxdchiwitkyindidwy cungoprdihchawemuxngnkhrcdekhruxngpraokhmaehaehnphahmoxbthanphrabrmthatuecdiy cungepnpraephnipracaemuxngnkhrsubmacnthukwnni insmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly idmikaraehphakhunthatuinwnkhun 15 kha eduxn 6 khux wnwisakhbucha eriykwa aehphrabdkhunthatu mikarewiynethiynrxbxngkhphrabrmthatu txmainsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw idoprdihmikaraehphakhunthatu inwnkhun 15 kha eduxn 3 khux wnmakhbucha ephuxihphuththsasnikchnthixyuhangiklhruximmioxkaskrathaphuththbuchainwnwisakhbuchaidmioxkasaehphakhunthatuinwnmakhbuchatamsrththadwy praephniaehphakhunthatukhxngemuxngnkhrcungmipila 2 khrng khux inwnephyeduxn 3 wnmakhbucha aelainwnephyeduxn 6 wnwisakhbucha submacnthukwnni edimkaraehphakhunthatukrathaknodyphrxmephriyngepnkhbwnthiexikekrikephiyngkhbwnediyw txma prachachnmacakhlaythishlaythang aetlakhntangetriymphamaexngthaihkaraehphakhunthatuimphrxmephriyngepnkhbwnediywkn ephraaikhrcaaehphakhunthatuinewlaidkidtamsadwktlxdthngwn emuxkhbwnaehmathungwdphrabrmthatuwrmhawihar kaehthksinawtrrxbxngkhphrabrmthatuecdiy 3 rxb aelwnaphaekhasuwiharma sungmibnidkhunsulanphayinkaaephngaekwlxmthanphrabrmthatuecdiy ephuxnaphakhunhmoxbthanphrabrmthatuecdiysungbrrcuphrabrmsaririkthatu thuxwaepnkarbuchaphraphuththecaxyangiklchid