บทความนี้ไม่มีจาก |
หยงสตาร์ เป็นชื่อเรียกชุมชนมุสลิมที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ มีเนื้อที่ประมาณ 13 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันตอนใต้สุดของจังหวัดตรัง ในเขตพื้นที่ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ลักษณะทางกายภาพของเกาะตันหยงสตาร์บริเวณตรงกลางจะเป็นสันเนินทอดตัวไปตามแนวทิศเหนือใต้ เทลาดลดระดับลงสู่ที่ราบจรดป่าชายเลนทั้ง 4 ทิศรอบเกาะ โดยแบ่งการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 2 บ้านหยงสตาร์ (ในบ้าน หรือบ้านออก) หมู่ที่ 3 บ้านพิกุลทอง (หรือบ้านตีน) หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง (หรือบ้านปลักคนตาย) และหมู่ที่ 7 บ้านควน (หรือบ้านตก)
ลักษณะโครงสร้างทางสังคม จะมีลักษณะเป็นสังคมเครือญาติที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างสงบสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และยังคงรักษาสืบทอดวิถีชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะทั้งประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นอันทรงคุณค่าที่บรรพบุรุษได้ส่งทอดจากรุ่นสู่รุ่นจวบจนปัจจุบัน ซึ่งจังหวัดตรัง โดยคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และศิลปกรรมประจำจังหวัดตรัง ได้ประกาศลงวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ให้ย่านชุมชนเก่าตันหยงสตาร์ เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัด เป็นการส่งเสริมและการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจในความอุดมสมบูรณ์ ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และความเจริญรุ่งเรืองของท้องถิ่น
ตันหยงสตาร์ : ตันจงสิตา (Tunjong Setar) หรือ แหลมมะปริง เป็นคำประสมที่มาจากภาษามาลายูท้องถิ่น คือ ตันจุง (Tunjong แปลว่า แหลม) กับคำว่า สิตา (Setar แปลว่า มะปริง หรือผลไม้รูปทรงกลมที่มีรสเปรี้ยว เมล็ดในสีม่วง) เป็นที่ชาวเรือมาลายูในอดีตเรียกเนินควนที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกมาตรงบริเวณปากคลองสังหลังหน้าร่องน้ำที่ใช้จอดเรือบริเวณด้านทิศเหนือของเกาะเหลาตรง ซึ่งมีต้นมะปริงขึ้นอยู่หนาแน่น และเมื่อถึงฤดูที่ผลสุกก็จะมองเห็นเป็นสีเหลืองจากระยะทางไกล ๆ (ชาวบ้านหยงสตาร์เรียกบริเวณนี้ว่า ควนปริง) ส่วนแหลมหยงสตาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระโจมไฟอาโลกวชิรยุตต์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เป็นสถานที่ที่นักเดินเรือใช้เรียกขานชื่อชุมชนตันหยงสตาร์ เนื่องจากเป็นเขตน้ำตื้น ไม่มีร่องน้ำ มีสันดอนทราย และหินโสโครกโดยรอบ เรือจึงไม่สามารถเข้าจอดในบริเวณนี้ได้ เพียงแต่ใช้เป็นที่หมายในการเดินเรือคู่กับเกาะเขาบันจากระยะทางไกล ๆ เพื่อนำเรือแล่นเข้ามาตามร่องน้ำเท่านั้น
ประวัติ
ชุมชนหยงสตาร์ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัยใดยังไม่ปรากฏหลักฐานหรือสิ่งบ่งชี้ตามหลักวิชาการมาอ้างอิงให้ทราบเป็นที่แน่ชัด เพียงแต่มีข้อสันนิษฐานพอที่จะสืบย้อนกลับไปถึงยุคร่วมสมัยได้ว่าน่าจะเป็นย่านชุมชนเก่าของคนชาติพันธุ์มาลายูที่รวมตัวกันก่อนยุครัตนโกสินทร์ (โดยอนุมานจากพฤติกรรมทางสังคม เช่น การนับถือศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา ลักษณะการตั้งถิ่นฐาน การสืบสายเลือด เศรษฐกิจ การเมือง และการปกครอง เป็นต้น) โดยในระยะแรกจะตั้งบ้านเรือนเป็นหย่อมบ้านขนาดเล็กจำนวนไม่กี่ครัวเรือนรวมทั้งสร้างมัสยิดเพื่อใช้ประกอบศาสนากิจแถบบริเวณบ้านออกใกล้กับท่าใหญ่ (ท่าเทียบเรือที่ตั้งอยู่ประมาณช่วงตอนกลางของคลองหยงสตาร์) บ้านเรือนจะมีลักษณะเป็นตัวเรือนใต้ถุนยกสูงมีระเบียงและนอกชานลดหลั่นกัน ฝากั้นด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ หรือแผ่นไม้กระดาน หลังคาทรงจั่วส่วนใหญ่มุงด้วยจาก หรือถ้าเจ้าของเรือนมาฐานะดีจะมุงด้วยกระเบื้องดินเผาหรือกระเบื้องขนมเปียกปูน คนมุสลิมในยุคนั้นจะประกอบอาชีพหลักด้วยการทำนาและประมงพื้นบ้าน พื้นที่ทำนาก็จะบุกเบิกพื้นที่ที่เป็นที่ราบรอบเกาะที่น้ำทะเลขึ้นไม่ถึง แหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ นาออก นาใต้ นาโคกปลวกใหญ่ นาปลักคนตาย นาแหลมออก นาแหลมตก นาหินหัวช้าง นาตก นาปาดัง นาตีน นาหินแตก นาท่าได เป็นต้น ต่อมาเมื่อมีคนจากต่างถิ่นย้ายเข้ามาติดต่อค้าขาย หรือเข้ามาแต่งงานกับคนในชุมชนมากขึ้น การตั้งบ้านเรือนก็เริ่มขยับขยายไปยังรอบๆพื้นที่ กลายเป็นหย่อมบ้านย่อย ๆ เกิดขึ้นมาใหม่ ได้แก่ หย่อมบ้านตีน หย่อมบ้านควน และหย่อมบ้านปลักคนตาย ทำให้บ้านตันหยงสตาร์กลายเป็นชุมชนมุสลิมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนกระทั่งถึงยุคประมาณรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมาได้มีชาวจีนเริ่มอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนตันหยงสตาร์ เริ่มแรกได้เข้ามาทำการค้าขาย โดยตั้งบ้านเรือนอยู่รอบ ๆ ชุมชนมุสลิมแถบบ้านออก โดยนิยมสร้างเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นดินอัดแน่นไว้สำหรับค้าขาย ส่วนชั้นบนที่เรียกว่าเล่าเต็งไว้สำหรับพักอยู่อาศัย รวมทั้งได้สร้างศาลเจ้าเพื่อใช้ประกอบกิจทางศาสนาอยู่บริเวณนี้ด้วย เช่น ศาลเจ้าพระ 108 ศาลเจ้าพระขี้แย่ง (ฮกเซ็กเพ็ก : หมายถึงเทพผู้นำโชคลาภในยุทธนาวีผาแดง ยุคสมัยสามก๊ก) ส่วนชาวไทยพุทธก็ได้สร้างสำนักสงฆ์หยงสตา (วัดพิกุลเรือง) ขึ้นมาในบริเวณใกล้เคียงด้วยเช่นกัน ต่อมาเมื่อชาวจีนได้เล็งเห็นโอกาสและช่องทางด้านการค้าจึงได้ทำการบุกเบิกจับจองพื้นที่ที่เป็นดอนบนเกาะเพื่อทำการเกษตร เช่น ปลูกพืชผัก พริกไทย และยางพารา (พื้นที่ดอนส่วนใหญ่จะเป็นของคนจีน ส่วนพื้นที่นาจะเป็นของคนมุสลิม) ตันหยงสตาร์ในยุคนั้นจึงกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยคนต่างเชื้อชาติศาสนา แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ในลักษณะพาหุสังคม ชุมชนตันหยงสตาร์จึงได้กลายเป็นย่านการค้าที่ติดต่อค้าขายกับเมืองท่าต่างๆ ในชายฝั่งทะเลอันดามันด้วยเรือใบ และเรือสำเภา โดยเฉพาะเมืองท่าที่อยู่ในการปกครองของเมืองไทรบุรีทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เมืองสุไหงอุเป (ทุ่งหว้า) สะโตย (สตูล) เมืองเกาะ (ลังกาวี) เปอร์ลิส และเกาะหมาก (ปีนัง)
และเนื่องจากในเขตพื้นที่ตอนใต้ทั้งหมดของเมืองตรังรวมทั้งเมืองปะเหลียน และเกาะตันหยงสตาร์อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองพัทลุงมาตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมแห่งอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเจ้าเมืองพัทลุงจึงได้ให้ความสำคัญกับเกาะตันหยงสตาร์ ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของพื้นที่ชายแดนใต้สุดของราชอาณาจักรสยาม จึงได้แต่งตั้งคนในเชื้อสายซึ่งเป็นมุสลิม ขึ้นมาปกครองในตำแหน่ง “จอม” ดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งจัดระบบการเก็บภาษีอากรจากการค้าขาย โดยให้ขึ้นตรงกับผู้ปกครองเมืองปะเหลียน และได้ตั้งโรงภาษีขึ้นสำหรับเก็บภาษีทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณทางด้านทิศใต้ของชุมชนใกล้ ๆ กับท่าใหญ่โดยให้พ่อค้าชาวจีนทำหน้าที่เป็นนายภาษีอากรจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยชักสาม ส่งให้ทางราชการต่อไป
ในยุครัชสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปฏิรูประบบการปกครอง และทำนุบำรุงพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เจริญรุ่งเรืองเท่าเทียมชาติตะวันตก โดยในปี พ.ศ.2429 ได้ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ให้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองตรัง
พ.ศ. 2430 พระยาบริรักษ์ (น้อย) เจ้าเมืองพัทลุง ได้ย้ายที่ตั้งเมืองปะเหลียนจากบ้านนา ไปอยู่ที่บริเวณบ้านโคกทำเนียบ ริมคลองหินขวาง (เนินดินหลังสถานีไฟฟ้าย่อยย่านตาขาว หมู่ที่ 1 ตำบลท่าพญา อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ) มีพระปริยันต์เกษตรรานุรักษ์ เป็นผู้ปกครอง ต่อมาในปีพ.ศ.2434 ได้ยุบเมืองปะเหลียน โดยให้มีฐานะเป็นแขวงท่าพญา และขึ้นตรงกับเมืองตรัง ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายที่เมืองปะเหลียนอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองพัทลุง มาตั้งแต่ พ.ศ.2163 ยุคกรุงศรีอยุธยา รวมระยะเวลามากกว่า 271 ปี เจ้าเมืองพัทลุงในขณะนั้น คือพระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) และผู้ปกครองเมืองปะเหลียนคนสุดท้ายที่แต่งตั้งโดยเจ้าเมืองพัทลุง คือพระปริยันต์เกษตรานุรักษ์ และเมื่อมีการตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2440 ได้ยกฐานะแขวงท่าพญา ขึ้นเป็นอำเภอท่าพญา และได้ย้ายที่ตั้งอำเภอท่าพญา มาตั้งอยู่ที่เกาะตันหยงสตาร์ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอปะเหลียน (ที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่บริเวณเนินดินด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของลานกีฬาต้านยาเสพติด โรงเรียนบ้านหยงสตาร์ (หลังเก่า) หมู่ที่ 2 ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ในปัจจุบัน) โดยมีหลวงพิทักษ์โยธา (ปาน) เป็นนายอำเภอคนแรก นอกจากนี้ยังได้มีการก่อสร้างสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น สถานีตำรวจ ที่ทำการด่านป่าไม้ และโรงเรียนประชาบาล ใกล้ๆ ที่ว่าการอำเภออีกด้วย (ตั้งอำเภออยู่ที่หยงสตาร์เป็นเวลา 10 ปี มีนายอำเภอ 6 คน) และในปีเดียวกันนั้นประเทศสยามได้ใช้ระบบแบ่งเขตการปกครองส่วนภูมิภาค เป็นแบบระบบมณฑลเทศาภิบาล โดยพระราชดำริของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยเอาแบบอย่างการปกครองของอังกฤษในประเทศพม่า และมาเลเซียมาใช้ โดยให้มีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้ปกครอง สำหรับเมืองตรัง ได้ขึ้นอยู่ภายใต้มณฑลภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วยเมืองภูเก็ต เมืองถลาง เมืองระนอง เมืองพังงา เมืองตะกั่วป่า เมืองกระบี่ เมืองตรัง และเมืองสตูล (เดิมเมืองสตูลเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลไทรบุรีทางทิศใต้ ได้มารวมอยู่กับมณฑลนี้ในปี พ.ศ. 2451 หลังจากที่สยามได้ยกพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลไทรบุรีให้แก่อังกฤษไป)
ในยุคที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นเจ้าเมืองตรัง ได้ทำการพัฒนาบุกเบิกเส้นทางสัญจรทางบกระหว่างตัวเมืองตรัง ไปสู่อำเภอต่าง ๆ และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้าแทนทางเรือ ในยุคนี้ได้มีพ่อค้าและผู้ใช้แรงงานทั้งที่เป็นชาวจีน มาลายู และเปอร์เชีย เข้ามาอยู่อาศัยในชุมชนตันหยงสตาร์มากขึ้น การค้าขายกับเมืองท่าต่าง ๆ ในคาบสมุทรมาลายูก็ดำเนินไปอย่างคึกคักด้วยเรือสำเภาขนาดใหญ่ และเรือกลไฟ โดยใช้เส้นทางเดินเรือสายหลักตันหยงสตาร์ - ปีนัง ในการขนส่งสินค้าระหว่างตันหยงสตาร์กับเมืองปีนัง สินค้านำเข้าในยุคนั้น ได้แก่ ถ้วยชาม เครื่องแก้ว น้ำมันก๊าด และสิ่งของเครื่องใช้จากยุโรป ส่วนสินค้าส่งออก ได้แก่ ข้าวสาร พริกไทย เครื่องเทศ สัตว์ปีก น้ำมันยาง ไม้ฟืน ถ่าน และของป่าอื่นๆ รวมทั้งยางพาราก้อนรมควัน (ในยุคนั้นมีโรงรมควันยางพาราก้อน อยู่ 2 แห่ง คือ ที่บริเวณริมท่าใหญ่ และท่าเหนือใกล้วัดพิกุลเรือง) เมื่อตลาดชุมชนตันหยงสตาร์ขยายใหญ่ขึ้น ผู้ปกครองเกาะจึงได้ย้ายตลาดจากบริเวณหย่อมบ้านออก มาตั้งเป็นย่านตลาดใหม่อยู่บริเวณที่ต่ำด้านทิศใต้ของที่ว่าการอำเภอ (ปัจจุบันคือบริเวณที่ต่ำทั้งสองฝั่งถนนด้านทิศใต้ของศาลาเอนกประสงค์หมู่ที่ 2 และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 22 ปะเหลียน ตรัง) โดยร้านค้าทั้งหมดจะเป็นของชาวจีน ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องแถวสองชั้น และในบริเวณใกล้เคียงกันนี้พ่อค้าชาวจีนได้สร้างโกดังเก็บสินค้า และโกดังเก็บน้ำมันก๊าดอีกด้วย สำหรับตลาดใหม่ชุมชนตันหยงสตาร์แห่งนี้ นับว่าเป็นตลาดจีนที่มีการจับจ่ายกันอย่างคึกคัก มีทั้งร้านค้า โรงฝิ่น โรงมหรสพ โรงงิ้ว (แสดงกันวันละหลาย ๆ รอบทั้งกลางวันและกลางคืน) โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ถึงกำหนดที่เรือสำเภา และเรือกลไฟนำสินค้ามาจากปีนังเข้ามาเทียบท่า จะมีผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดแห่งนี้กันอย่างเนืองแน่น (ผู้สูงอายุในชุมชนที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2500 เรียกบริเวณนี้ว่า “มาราเก็ต” ซึ่งน่าจะหมายถึง MarKet หรือตลาดในภาษาอังกฤษ)
ต่อมาในปี พ.ศ.2450 (รัชกาลที่ 5) พระสถลสถานพิทักษ์ (คอยูเคียด ณ ระนอง) ผู้ว่าราชการเมืองตรัง ได้ย้ายที่ตั้งอำเภอปะเหลียนจากเกาะตันหยงสตาร์ ไปตั้งบริเวณเนินดินที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของคลองท่าข้ามฝั่งตรงกันข้ามเกาะตันหยงสตาร์ (ที่ว่าการอำเภอปะเหลียนในปัจจุบัน หมู่ที่ 1 ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง) โดยได้ย้ายส่วนราชการต่าง ๆ เช่น โรงพัก ด่านป่าไม้ โรงเรียนประชาบาล มาตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ ที่ตั้งอำเภอ สาเหตุที่พระสถลสถานพิทักษ์ ผู้ว่าราชการเมืองตรัง ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอจากเกาะตันหยงสตาร์มาตั้งอยู่อีกฝั่งที่บ้านท่าข้าม ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นมีบ้านเรือนตั้งอยู่ไม่กี่หลัง และธุรกิจการค้าขายกับเมืองท่าต่าง ๆ ในชายฝั่งทะเลอันดามันก็ยังคงดำเนินอยู่อย่างคึกคักที่ตลาดหยงสตาร์ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากบริเวณที่ตั้งอำเภอที่ตันหยงสตาร์นั้นเริ่มคับแคบด้วยมีพื้นที่จำกัด ประกอบกับการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างเมืองตรัง กับอำเภอต่าง ๆ ได้เสร็จสิ้นลงสามารถใช้สัญจรและขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น และในห้วงเวลานั้นได้มีการก่อสร้างสะพานข้ามคลองท่าข้ามจากฝั่งที่ตั้งที่ว่าการอำเภอใหม่ เชื่อมต่อไปยังเกาะตันหยงสตาร์ ทำให้มีผู้คนโดยเฉพาะชาวจีนได้โยกย้ายบ้านเรือนและร้านค้าจากชุมชนตันหยงสตาร์มาตั้งอยู่บริเวณริมคลองท่าข้ามฝั่งที่ตั้งอำเภอใหม่กันมากขึ้น จนเกิดเป็นย่านชุมชนใหม่ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งควบคู่กับชุมชนตันหยงสตาร์ในระยะต่อมา
ในปี พ.ศ.2468 ช่วงปลายรัชกาลที่ 6 ได้มีการย้ายโรงภาษี หรือด่านเก็บภาษีจากที่ตั้งเดิมไปอยู่บริเวณริมปากคลองหยงสตาร์ พร้อมกับสร้างท่าเทียบเรือสำเภาและเรือกลไฟขึ้นมา (สะพานเภา ในปัจจุบัน) เพื่อขนถ่ายสินค้า ส่งต่อไปทางบก ทำให้ท่าเทียบเรือในคลองหยงสตาร์ (ท่าใหญ่) ที่ได้ใช้มาตั้งแต่อดีตจึงได้ลดความสำคัญลง
ต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 (พ.ศ.2457 - 2461) ต่อเนื่องมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482 -2488) ส่งผลทำให้ธุรกิจการค้าในคาบสมุทรมาลายูได้หยุดชะงักและซบเซาลง ทำให้พ่อค้าชาวจีนต่างทยอยออกจากชุมชนตันหยงสตาร์ไปทำมาค้าขาย และบุกเบิกพื้นที่เพื่อประกอบอาชีพทางการเกษตร ณ ที่แห่งใหม่กันมากขึ้น เช่น ทุ่งยาว ย่านตาขาว ตลาดทับเที่ยง หาดใหญ่ เป็นต้น จึงทำให้ย่านการค้าในตลาดชุมชนตันหยงสตาร์ได้ถดถอยซบเซาลงตามลำดับ
และถึงแม้ว่าในปัจจุบันชุมชนตันหยงสตาร์ไม่ได้หลงเหลือความเจริญรุ่งเรืองจากการเป็นเมืองท่าเหมือนเมื่อครั้งในอดีต แต่ยังคงปรากฏร่องรอยของความเจริญทางอารยธรรมที่บรรพชนซึ่งประกอบด้วยชาติพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งชาวมาลายู ชาวไทยท้องถิ่น ชาวจีน และชาวเปอร์เชีย ได้ร่วมกันบุกเบิกก่อร่างสร้างฐานชุมชนตันหยงสตาร์ขึ้นมา จึงทำให้เกิดการผสมผสานทางสายเลือด และวัฒนธรรมได้อย่างกลมกลืนลงตัว กลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ดีงามทั้งทางด้านความเชื่อ ค่านิยม ศิลปะประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาประดิษฐ์ส่งต่อเป็นมรดกสู่คนรุ่นหลังได้อย่างมั่นคง และแข็งแรงจวบจนปัจจุบัน
ภูมิประเทศ
ภูมิประเทศของชุมชนตันหยงสตาร์ มีส่วนสำคัญต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนนิสัยใจคอ เพราะพื้นที่ของตันหยงสตาร์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงสู่ทะเลอันดามันโดยมีแหลมหยงสตาร์อยู่ตรงปลายสุด ถ้ามอบจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นชุมชนตันหยงสตาร์คล้ายหัวเผือก คือ คอดกิ่วด้านบนแล้วค่อย ๆ ป่องออกตรงกลางพอไปด้านล่างจะค่อย ๆ เรียวเล็กลงตรงจุดปลายแหลม หยงสตาร์ เดิมเรียกว่า ตันหยงสตาส หมายถึง เกาะมะปราง (หยง หมายถึงเกาะ สตาส หรือสตา หมายถึงต้นมะปราง ต่อมาเรียกว่า หยงสตาร์จนถึงปัจจุบัน
- ทิศเหนือ จดคลองท่าข้ามโดยมีคลองเล็ก ๆ เชื่อมต่อมาจากคลองสังหลัง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก และมีคลองใหญ่ที่อยู่อีกคลองหนึ่ง คือคลองหลักขัน ด้านนี้มีสะพานท่าข้าม เป็นตัวเชื่อมสู่โลกภายนอก
- ทิศตะวันออก จดคลองหลักขันและปากคลองมีตะกอน และสันดอนทราย ตั้งแต่อดีตนับพันล้านปีจนเกิดเป็นเกาะ คือ เกาะเหลาตรงและบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา ทิศตะวันออกมีอ่าวที่ลึกเข้าไปถึงอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
- ทิศตะวันตก จดทะเลอันดามัน ซึ่งมีแนวชายฝั่งที่ยาวเป็นแหล่งสัตว์น้ำหลายชนิด โดยเฉพาะ หอยแครง ลอเนาะ ฝั่งนี้ในอดีตเคยมีกุ้งชุกชุมและมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ หัวแหลมและหินหัวช้าง ห่างออกไปไม่ไกลมีเกาะค้างคาว ซึ่งคงเป็นดินตะกอน และทรายที่พัดตามน้ำมาจากคลองสุโสะซึ่งเป็นคลองใหญ่อีกคลองหนึ่ง
- ทิศใต้ จดทะเลอันดามัน โดยมีหัวแหลมอยู่ปลายสุดของพื้นที่ ทั้งหมดห่อหุ้มไปด้วยป่าชายเลน แต่ปัจจุบันแปลสภาพเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำบางส่วนโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ส่วนตรงกลางเป็นที่ราบสูง ดังนั้น ชุมชนตันหยงสตาร์ จึงไม่มีภัยธรรมชาติจากวาตภัย เพราะมีป่าชายเลนห่อหุ้ม และไม่มีอุทกภัย เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่สูงจากระดับน้ำทะเล จากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและไม่มีภัยธรรมชาติจึงอยู่กันด้วยความสงบสุข
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของหมู่บ้านหยงสตาร์ในปัจจุบัน คือ การทำประมง ทำสวนยางพารา และรับราชการ เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เป็นเกาะมีน้ำทะเลล้อมรอบ ทำให้เอื้อในการประกอบอาชีพการทำประมง ส่งผลให้อาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา อุดมสมบูรณ์มาก และมีหลายครอบครัวที่ทำสวนยางพารา แม้พื้นที่ของหยงสตาร์จะไม่มากนัก แต่ก็ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และคนหยงสตาร์ให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างยิ่ง แทบทุกบ้านจะมีคนที่จบการศึกษาค่อนข้างสูง และรับราชการกันมากทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ทำให้บ้านหยงสตาร์ไม่ค่อยมีปัญหาทางด้านสังคม แม้จะเป็นชุมชนขนาดเล็ก แต่มีความเข้มแข็ง เพราะมีพื้นฐานการศึกษาที่ดีนั่นเอง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir hyngstar epnchuxeriykchumchnmuslimthimilksnaphumipraethsepnekaa mienuxthipraman 13 tarangkiolemtr tngxyubriewnchayfngthaelxndamntxnitsudkhxngcnghwdtrng inekhtphunthitablthakham xaephxpaehliyn cnghwdtrng lksnathangkayphaphkhxngekaatnhyngstarbriewntrngklangcaepnsneninthxdtwiptamaenwthisehnuxit ethladldradblngsuthirabcrdpachayelnthng 4 thisrxbekaa odyaebngkarpkkhrxngxxkepn 4 hmuban idaek hmuthi 2 banhyngstar inban hruxbanxxk hmuthi 3 banphikulthxng hruxbantin hmuthi 4 banthungrwngthxng hruxbanplkkhntay aelahmuthi 7 bankhwn hruxbantk lksnaokhrngsrangthangsngkhm camilksnaepnsngkhmekhruxyatithixasyxyurwmknxyangsngbsukh thxythithxyxasy exuxefuxephuxaeph aelayngkhngrksasubthxdwithichumchnthiepnxtlksnechphaathngpraephni wthnthrrm aelaphumipyyathxngthinxnthrngkhunkhathibrrphburusidsngthxdcakrunsuruncwbcnpccubn sungcnghwdtrng odykhnaxnukrrmkarxnurkssingaewdlxmthrrmchati aelasilpkrrmpracacnghwdtrng idprakaslngwnthi 6 singhakhm 2563 ihyanchumchnekatnhyngstar epnaehlngmrdkthangwthnthrrmkhxngcnghwd epnkarsngesrimaelakarxnurksthangwthnthrrmihmisingaewdlxmthiexuxtxkardarngiwsungkhwamphakhphumiicinkhwamxudmsmburn khwamoddednepnexklksn aelakhwamecriyrungeruxngkhxngthxngthin tnhyngstar tncngsita Tunjong Setar hrux aehlmmapring epnkhaprasmthimacakphasamalayuthxngthin khux tncung Tunjong aeplwa aehlm kbkhawa sita Setar aeplwa mapring hruxphlimrupthrngklmthimirsepriyw emldinsimwng epnthichaweruxmalayuinxditeriykeninkhwnthimilksnaepnaehlmyunxxkmatrngbriewnpakkhlxngsnghlnghnarxngnathiichcxderuxbriewndanthisehnuxkhxngekaaehlatrng sungmitnmapringkhunxyuhnaaenn aelaemuxthungvduthiphlsukkcamxngehnepnsiehluxngcakrayathangikl chawbanhyngstareriykbriewnniwa khwnpring swnaehlmhyngstar sungepnthitngkhxngkraocmifxaolkwchiryutt aelaepnsthanthithxngethiywinpccubnnn imichepnsthanthithinkedineruxicheriykkhanchuxchumchntnhyngstar enuxngcakepnekhtnatun immirxngna misndxnthray aelahinosokhrkodyrxb eruxcungimsamarthekhacxdinbriewnniid ephiyngaetichepnthihmayinkaredineruxkhukbekaaekhabncakrayathangikl ephuxnaeruxaelnekhamatamrxngnaethann prawti chumchnhyngstar kxtngkhunmatngaetyukhsmyidyngimprakthlkthanhruxsingbngchitamhlkwichakarmaxangxingihthrabepnthiaenchd ephiyngaetmikhxsnnisthanphxthicasubyxnklbipthungyukhrwmsmyidwanacaepnyanchumchnekakhxngkhnchatiphnthumalayuthirwmtwknkxnyukhrtnoksinthr odyxnumancakphvtikrrmthangsngkhm echn karnbthuxsasna praephni wthnthrrm phasa lksnakartngthinthan karsubsayeluxd esrsthkic karemuxng aelakarpkkhrxng epntn odyinrayaaerkcatngbaneruxnepnhyxmbankhnadelkcanwnimkikhrweruxnrwmthngsrangmsyidephuxichprakxbsasnakicaethbbriewnbanxxkiklkbthaihy thaethiyberuxthitngxyupramanchwngtxnklangkhxngkhlxnghyngstar baneruxncamilksnaepntweruxnitthunyksungmiraebiyngaelanxkchanldhlnkn fakndwyimiphkhdaeta hruxaephnimkradan hlngkhathrngcwswnihymungdwycak hruxthaecakhxngeruxnmathanadicamungdwykraebuxngdinephahruxkraebuxngkhnmepiykpun khnmusliminyukhnncaprakxbxachiphhlkdwykarthanaaelapramngphunban phunthithanakcabukebikphunthithiepnthirabrxbekaathinathaelkhunimthung aehlngplukkhawthisakhy idaek naxxk nait naokhkplwkihy naplkkhntay naaehlmxxk naaehlmtk nahinhwchang natk napadng natin nahinaetk nathaid epntn txmaemuxmikhncaktangthinyayekhamatidtxkhakhay hruxekhamaaetngngankbkhninchumchnmakkhun kartngbaneruxnkerimkhybkhyayipyngrxbphunthi klayepnhyxmbanyxy ekidkhunmaihm idaek hyxmbantin hyxmbankhwn aelahyxmbanplkkhntay thaihbantnhyngstarklayepnchumchnmuslimthimikhnadihykhun cnkrathngthungyukhpramanrchkalthi 3 epntnmaidmichawcinerimxphyphekhamaxasyxyuinchumchntnhyngstar erimaerkidekhamathakarkhakhay odytngbaneruxnxyurxb chumchnmuslimaethbbanxxk odyniymsrangepnban 2 chn chnlangepnphundinxdaenniwsahrbkhakhay swnchnbnthieriykwaelaetngiwsahrbphkxyuxasy rwmthngidsrangsalecaephuxichprakxbkicthangsasnaxyubriewnnidwy echn salecaphra 108 salecaphrakhiaeyng hkeskephk hmaythungethphphunaochkhlaphinyuththnawiphaaedng yukhsmysamkk swnchawithyphuththkidsrangsanksngkhhyngsta wdphikuleruxng khunmainbriewniklekhiyngdwyechnkn txmaemuxchawcinidelngehnoxkasaelachxngthangdankarkhacungidthakarbukebikcbcxngphunthithiepndxnbnekaaephuxthakarekstr echn plukphuchphk phrikithy aelayangphara phunthidxnswnihycaepnkhxngkhncin swnphunthinacaepnkhxngkhnmuslim tnhyngstarinyukhnncungklayepnchumchnkhnadihythiprakxbdwykhntangechuxchatisasna aetksamarthxyurwmknidinlksnaphahusngkhm chumchntnhyngstarcungidklayepnyankarkhathitidtxkhakhaykbemuxngthatang inchayfngthaelxndamndwyeruxib aelaeruxsaepha odyechphaaemuxngthathixyuinkarpkkhrxngkhxngemuxngithrburithnghmd erimtngaetemuxngsuihngxuep thunghwa saoty stul emuxngekaa lngkawi epxrlis aelaekaahmak pinng aelaenuxngcakinekhtphunthitxnitthnghmdkhxngemuxngtrngrwmthngemuxngpaehliyn aelaekaatnhyngstarxyuphayitkarpkkhrxngkhxngemuxngphthlungmatngaetrchsmyphraecathrngthrrmaehngxanackrkrungsrixyuthyaecaemuxngphthlungcungidihkhwamsakhykbekaatnhyngstar sungidklayepnsunyklangthangkarkhakhxngphunthichayaednitsudkhxngrachxanackrsyam cungidaetngtngkhninechuxsaysungepnmuslim khunmapkkhrxngintaaehnng cxm duaelkhwamsngberiybrxy rwmthngcdrabbkarekbphasixakrcakkarkhakhay odyihkhuntrngkbphupkkhrxngemuxngpaehliyn aelaidtngorngphasikhunsahrbekbphasithngkhaekhaaelakhaxxk briewnthangdanthisitkhxngchumchnikl kbthaihyodyihphxkhachawcinthahnathiepnnayphasixakrcdekbphasiinxtrarxychksam sngihthangrachkartxip inyukhrchsmyrchkalthi 5 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idthrngptiruprabbkarpkkhrxng aelathanubarungphthnapraethsinthuk dan ephuxihecriyrungeruxngethaethiymchatitawntk odyinpi ph s 2429 idthrngoprdeklaaetngtngphrayarsdanupradisthmhisrphkdi khxsimbi n ranxng ihmadarngtaaehnngepnecaemuxngtrng ph s 2430 phrayabrirks nxy ecaemuxngphthlung idyaythitngemuxngpaehliyncakbanna ipxyuthibriewnbanokhkthaeniyb rimkhlxnghinkhwang enindinhlngsthaniiffayxyyantakhaw hmuthi 1 tablthaphya xaephxpaehliyn cnghwdtrng miphrapriyntekstrranurks epnphupkkhrxng txmainpiph s 2434 idyubemuxngpaehliyn odyihmithanaepnaekhwngthaphya aelakhuntrngkbemuxngtrng sungthuxepnpisudthaythiemuxngpaehliynxyuphayitkarpkkhrxngkhxngemuxngphthlung matngaet ph s 2163 yukhkrungsrixyuthya rwmrayaewlamakkwa 271 pi ecaemuxngphthlunginkhnann khuxphrayaxphybrirks entr aelaphupkkhrxngemuxngpaehliynkhnsudthaythiaetngtngodyecaemuxngphthlung khuxphrapriyntekstranurks aelaemuxmikartraphrarachbyytilksnapkkhrxngthxngthi ph s 2440 idykthanaaekhwngthaphya khunepnxaephxthaphya aelaidyaythitngxaephxthaphya matngxyuthiekaatnhyngstar aelwepliynchuxepnxaephxpaehliyn thiwakarxaephxtngxyubriewnenindindanthistawnxxkechiyngitkhxnglankilatanyaesphtid orngeriynbanhyngstar hlngeka hmuthi 2 tablthakham xaephxpaehliyn cnghwdtrng inpccubn odymihlwngphithksoytha pan epnnayxaephxkhnaerk nxkcakniyngidmikarkxsrangsthanthirachkarhlayaehng echn sthanitarwc thithakardanpaim aelaorngeriynprachabal ikl thiwakarxaephxxikdwy tngxaephxxyuthihyngstarepnewla 10 pi minayxaephx 6 khn aelainpiediywknnnpraethssyamidichrabbaebngekhtkarpkkhrxngswnphumiphakh epnaebbrabbmnthlethsaphibal odyphrarachdarikhxngsmedckrmphrayadarngrachanuphaph odyexaaebbxyangkarpkkhrxngkhxngxngkvsinpraethsphma aelamaelesiymaich odyihmikhahlwngethsaphibalepnphupkkhrxng sahrbemuxngtrng idkhunxyuphayitmnthlphuekt sungprakxbdwyemuxngphuekt emuxngthlang emuxngranxng emuxngphngnga emuxngtakwpa emuxngkrabi emuxngtrng aelaemuxngstul edimemuxngstulepnswnhnungkhxngmnthlithrburithangthisit idmarwmxyukbmnthlniinpi ph s 2451 hlngcakthisyamidykphunthiswnihykhxngmnthlithrburiihaekxngkvsip inyukhthiphrayarsdanupradisth khxsimbi n ranxng epnecaemuxngtrng idthakarphthnabukebikesnthangsycrthangbkrahwangtwemuxngtrng ipsuxaephxtang aelacnghwdiklekhiyngephuxkhwamsadwkinkaredinthangaelakhnsngsinkhaaethnthangerux inyukhniidmiphxkhaaelaphuichaerngnganthngthiepnchawcin malayu aelaepxrechiy ekhamaxyuxasyinchumchntnhyngstarmakkhun karkhakhaykbemuxngthatang inkhabsmuthrmalayukdaeninipxyangkhukkhkdwyeruxsaephakhnadihy aelaeruxklif odyichesnthangedineruxsayhlktnhyngstar pinng inkarkhnsngsinkharahwangtnhyngstarkbemuxngpinng sinkhanaekhainyukhnn idaek thwycham ekhruxngaekw namnkad aelasingkhxngekhruxngichcakyuorp swnsinkhasngxxk idaek khawsar phrikithy ekhruxngeths stwpik namnyang imfun than aelakhxngpaxun rwmthngyangpharakxnrmkhwn inyukhnnmiorngrmkhwnyangpharakxn xyu 2 aehng khux thibriewnrimthaihy aelathaehnuxiklwdphikuleruxng emuxtladchumchntnhyngstarkhyayihykhun phupkkhrxngekaacungidyaytladcakbriewnhyxmbanxxk matngepnyantladihmxyubriewnthitadanthisitkhxngthiwakarxaephx pccubnkhuxbriewnthitathngsxngfngthnndanthisitkhxngsalaexnkprasngkhhmuthi 2 aelasunyxnurksthrphyakrpachayelnthi 22 paehliyn trng odyrankhathnghmdcaepnkhxngchawcin sungmilksnaepnhxngaethwsxngchn aelainbriewniklekhiyngknniphxkhachawcinidsrangokdngekbsinkha aelaokdngekbnamnkadxikdwy sahrbtladihmchumchntnhyngstaraehngni nbwaepntladcinthimikarcbcayknxyangkhukkhk mithngrankha orngfin orngmhrsph orngngiw aesdngknwnlahlay rxbthngklangwnaelaklangkhun odyechphaainchwngewlathithungkahndthieruxsaepha aelaeruxklifnasinkhamacakpinngekhamaethiybtha camiphukhncakthwsarthisekhamacbcaysuxsinkhaintladaehngniknxyangenuxngaenn phusungxayuinchumchnthiekidkxnpi ph s 2500 eriykbriewnniwa maraekt sungnacahmaythung MarKet hruxtladinphasaxngkvs txmainpi ph s 2450 rchkalthi 5 phrasthlsthanphithks khxyuekhiyd n ranxng phuwarachkaremuxngtrng idyaythitngxaephxpaehliyncakekaatnhyngstar iptngbriewnenindinthixyuthangdanthisehnuxkhxngkhlxngthakhamfngtrngknkhamekaatnhyngstar thiwakarxaephxpaehliyninpccubn hmuthi 1 tablthakham xaephxpaehliyn cnghwdtrng odyidyayswnrachkartang echn orngphk danpaim orngeriynprachabal matngxyuinbriewnikl thitngxaephx saehtuthiphrasthlsthanphithks phuwarachkaremuxngtrng idyaythiwakarxaephxcakekaatnhyngstarmatngxyuxikfngthibanthakham thng thiinkhnannmibaneruxntngxyuimkihlng aelathurkickarkhakhaykbemuxngthatang inchayfngthaelxndamnkyngkhngdaeninxyuxyangkhukkhkthitladhyngstar thngnixacenuxngmacakbriewnthitngxaephxthitnhyngstarnnerimkhbaekhbdwymiphunthicakd prakxbkbkarkxsrangthnnechuxmtxrahwangemuxngtrng kbxaephxtang idesrcsinlngsamarthichsycraelakhnsngsinkhaidxyangsadwkrwderwkhun aelainhwngewlannidmikarkxsrangsaphankhamkhlxngthakhamcakfngthitngthiwakarxaephxihm echuxmtxipyngekaatnhyngstar thaihmiphukhnodyechphaachawcinidoykyaybaneruxnaelarankhacakchumchntnhyngstarmatngxyubriewnrimkhlxngthakhamfngthitngxaephxihmknmakkhun cnekidepnyanchumchnihmkhunmaxikaehnghnungkhwbkhukbchumchntnhyngstarinrayatxma inpi ph s 2468 chwngplayrchkalthi 6 idmikaryayorngphasi hruxdanekbphasicakthitngedimipxyubriewnrimpakkhlxnghyngstar phrxmkbsrangthaethiyberuxsaephaaelaeruxklifkhunma saphanepha inpccubn ephuxkhnthaysinkha sngtxipthangbk thaihthaethiyberuxinkhlxnghyngstar thaihy thiidichmatngaetxditcungidldkhwamsakhylng txmaemuxekidsngkhramolk khrngthi 1 ph s 2457 2461 txenuxngmacnthungsngkhramolkkhrngthi 2 ph s 2482 2488 sngphlthaihthurkickarkhainkhabsmuthrmalayuidhyudchangkaelasbesalng thaihphxkhachawcintangthyxyxxkcakchumchntnhyngstaripthamakhakhay aelabukebikphunthiephuxprakxbxachiphthangkarekstr n thiaehngihmknmakkhun echn thungyaw yantakhaw tladthbethiyng hadihy epntn cungthaihyankarkhaintladchumchntnhyngstaridthdthxysbesalngtamladb aelathungaemwainpccubnchumchntnhyngstarimidhlngehluxkhwamecriyrungeruxngcakkarepnemuxngthaehmuxnemuxkhrnginxdit aetyngkhngpraktrxngrxykhxngkhwamecriythangxarythrrmthibrrphchnsungprakxbdwychatiphnthutang thngchawmalayu chawithythxngthin chawcin aelachawepxrechiy idrwmknbukebikkxrangsrangthanchumchntnhyngstarkhunma cungthaihekidkarphsmphsanthangsayeluxd aelawthnthrrmidxyangklmklunlngtw klayepnxtlksnechphaathinthidingamthngthangdankhwamechux khaniym silpapraephni wthnthrrm aelaphumipyyapradisthsngtxepnmrdksukhnrunhlngidxyangmnkhng aelaaekhngaerngcwbcnpccubnphumipraethsphumipraethskhxngchumchntnhyngstar miswnsakhytxwithichiwitkhwamepnxyu karprakxbxachiph aelakhnbthrrmeniympraephni tlxdcnnisyickhx ephraaphunthikhxngtnhyngstar milksnaepnaehlmyunlngsuthaelxndamnodymiaehlmhyngstarxyutrngplaysud thamxbcakphaphthaydawethiymcaehnchumchntnhyngstarkhlayhwephuxk khux khxdkiwdanbnaelwkhxy pxngxxktrngklangphxipdanlangcakhxy eriywelklngtrngcudplayaehlm hyngstar edimeriykwa tnhyngstas hmaythung ekaamaprang hyng hmaythungekaa stas hruxsta hmaythungtnmaprang txmaeriykwa hyngstarcnthungpccubn thisehnux cdkhlxngthakhamodymikhlxngelk echuxmtxmacakkhlxngsnghlng sungxyuthangthistawnxxk aelamikhlxngihythixyuxikkhlxnghnung khuxkhlxnghlkkhn dannimisaphanthakham epntwechuxmsuolkphaynxkthistawnxxk cdkhlxnghlkkhnaelapakkhlxngmitakxn aelasndxnthray tngaetxditnbphnlanpicnekidepnekaa khux ekaaehlatrngaelabriewnnimikhwamxudmsmburnipdwykung hxy pu pla thistawnxxkmixawthilukekhaipthungxaephxthunghwa cnghwdstulthistawntk cdthaelxndamn sungmiaenwchayfngthiyawepnaehlngstwnahlaychnid odyechphaa hxyaekhrng lxenaa fngniinxditekhymikungchukchumaelamiaehlngthxngethiywthisakhy khux hwaehlmaelahinhwchang hangxxkipimiklmiekaakhangkhaw sungkhngepndintakxn aelathraythiphdtamnamacakkhlxngsuosasungepnkhlxngihyxikkhlxnghnungthisit cdthaelxndamn odymihwaehlmxyuplaysudkhxngphunthi thnghmdhxhumipdwypachayeln aetpccubnaeplsphaphepnphunthieliyngkungkuladabangswnodyechphaafngtawntk swntrngklangepnthirabsung dngnn chumchntnhyngstar cungimmiphythrrmchaticakwatphy ephraamipachayelnhxhum aelaimmixuthkphy ephraatngxyuinthaelthisungcakradbnathael cakkhwamxudmsmburnkhxngthrphyakrthrrmchatiaelaimmiphythrrmchaticungxyukndwykhwamsngbsukhesrsthkicesrsthkickhxnghmubanhyngstarinpccubn khux karthapramng thaswnyangphara aelarbrachkar enuxngcaksphaphphunthithiepnekaaminathaellxmrxb thaihexuxinkarprakxbxachiphkarthapramng sngphlihxaharthael imwacaepn kung hxy pu pla xudmsmburnmak aelamihlaykhrxbkhrwthithaswnyangphara aemphunthikhxnghyngstarcaimmaknk aetkichpraoychnidetmthi aelakhnhyngstarihkhwamsakhykbkarsuksaxyangying aethbthukbancamikhnthicbkarsuksakhxnkhangsung aelarbrachkarknmakthnginphunthi aelanxkphunthi thaihbanhyngstarimkhxymipyhathangdansngkhm aemcaepnchumchnkhnadelk aetmikhwamekhmaekhng ephraamiphunthankarsuksathidinnexng 7 09 07 N 99 40 47 E 7 15193 N 99 67959 E 7 15193 99 67959