บ่าง | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Dermoptera |
วงศ์: | Cynocephalidae |
สกุล: | Galeopterus Thomas, 1908 |
สปีชีส์: | G. variegatus |
ชื่อทวินาม | |
Galeopterus variegatus (, 1799) | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของบ่าง | |
ชื่อพ้อง | |
|
บ่าง หรือ พุงจง หรือ พะจง ในภาษาใต้ หรือ ปักขพิฬาร เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกหนึ่งในอันดับบ่าง (Dermoptera) มีรูปร่างคล้ายกระรอกบินขนาดใหญ่ พบได้แต่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Galeopterus variegatus นับเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Galeopterus
ลักษณะ
มีรูปร่างคล้ายกระรอกบินขนาดใหญ่ ผิวหนังย่น ตามีขนาดใหญ่สีแดง ใบหูเล็ก มีนิ้วทั้งหมด 5 นิ้ว สีขนมีหลากหลายมาก โดยสามารถเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม ทั้งน้ำตาลแดง หรือเทา รวมทั้งอาจมีลายเลอะกระจายไปทั่วตัวด้วย โดยตัวเมียมีสีอ่อนกว่าตัวผู้ หางมีลักษณะแหลมยาว มีพังผืดเชื่อมติดต่อกันทั่วตัว โดยเชื่อมระหว่างขาหน้าและขาหลัง ขาหลังกับหาง ระหว่างขาหน้ากับคอ และระหว่างนิ้วทุกนิ้ว มีนิ้วทั้งหมด 5 นิ้ว โดยที่ไม่มีหัวแม่มือ เล็บแหลมคมมากใช้สำหรับไต่และเกาะเกี่ยวต้นไม้ มีความยาวหัวและลำตัวโตเต็มที่ราว 34-42 เซนติเมตร หาง 22-27 เซนติเมตร น้ำหนัก 1-1.8 กิโลกรัม
พฤติกรรมและถิ่นที่อยู่
บ่างอาศัยและหากินอยู่บนต้นไม้สูง และสามารถอาศัยได้ในป่าทุกสภาพ ไม่เว้นแม้กระทั่งป่าเสื่อมโทรม หรือตามเรือกสวนไร่นาที่มีการทำเกษตรกรรม บ่างเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถเดินบนพื้นดินได้ เมื่อตกลงพื้นจะรีบกระเสือกกระสนตัวเองปีนขึ้นสู่ต้นไม้ทันที เนื่องจากบ่างก็สามารถตกเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อชนิดต่าง ๆ ได้ ออกหากินในเวลากลางคืน โดยตอนกลางวันจะนอนหลับพักผ่อนตามยอดไม้หรือโพรงไม้ กินอาหารจำพวกพืช ได้แก่ ยอดไม้, ดอกไม้ เป็นหลัก แต่จากการศึกษาด้วยเครื่องติดตามตัวของบ่างที่เกาะชวา โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพบว่า บ่างเป็นสัตว์ที่ช่างเลือกกิน โดยจะกินยอดไม้จากต้นไม้เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น และบ่างตัวเมียจะมีอาณาเขตการหากินที่ชัดเจน แน่นอน ส่วนตัวผู้จะไต่ต้นไม้และร่อนไปทั่ว บ่างสามารถร่อนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นหนึ่งได้ไกลกว่ากระรอกบินมาก โดยใช้นิ้วและผังผืดเป็นตัวควบคุมความเร็วและระยะทางระหว่างร่อน ใช้เวลาตั้งท้องนานประมาณ 60 วัน ออกลูกครั้งละตัว เนื่องจากแม่บ่างสามารถรับน้ำหนักลูกได้เพียงคราวละตัว ลูกบ่างแรกเกิดมักมีการพัฒนาไม่มากนักคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม่บ่างจะเลี้ยงลูกไว้โดยให้เกาะที่ท้อง เวลาเกาะอยู่กับต้นไม้ ผังผืดระหว่างขาจึงทำหน้าที่เหมือนเปลเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม้ยามมีลูกอ่อน แม่บ่างก็ร่อนหาอาหารได้เหมือนเดิม โดยลูกบ่างจะยึดเกาะขนที่หน้าท้องแม่ไว้แน่น ลูกบ่างจะกินมูลของแม่ เนื่องจากภายในมีแบคทีเรียที่ช่วยในการย่อยอาหาร ขณะที่แม่บ่างเมื่อเลียตัวทำความสะอาดลูกอาจเลียฉี่ของลูกบ่างไปด้วย ลูกบ่างจะเกาะอาศัยอยู่กับแม่จนกว่าอายุได้ 2-3 ปี จึงแยกตัวออกไปหากินเองเป็นอิสระ จากนั้นแม่บ่างจึงจะมีลูกใหม่ แต่พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของบ่างยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัด
บ่าง เป็นสัตว์ที่มีเสียงร้องคล้ายเสียงคน และความเป็นสัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดและหากินในเวลากลางคืน จึงเป็นที่รับรู้กันดีของผู้ที่อาศัยอยู่ชายป่าหรือผู้ที่นิยมการผจญภัย ว่าเสียงร้องของบ่างน่ากลัวเหมือนผี
เมื่อพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า หรือ ยามโพล้เพล้ บ่างจะแสดงพฤติกรรมแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ จะออกมาจากที่หลบนอน แล้วห้อยตัวลงมาคล้ายค้างคาว โดยใช้เท้าหลังทั้งสองเกาะกิ่งไม้ แล้วทิ้งลำตัวห้อยลงมาในแนวดิ่ง ส่วนหัวและเท้าหน้าจะม้วนงอเข้าหาลำตัว (หากมองผิวเผินจะเหมือนกำลังห้อยหัวมาก) พฤติกรรมนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ชัดเจน บ่างจะห้อยตัวเช่นนี้ไปจนกว่าแสงสุดท้ายจะลับขอบฟ้าไป แล้วจะปีนป่ายไปหาต้นไม้ต้นประจำในการร่อน มักจะเป็นต้นไม้ที่มีทรงพุ่มสูง ๆ ที่ยืนอยู่เดี่ยว ๆ เพราะจะทำให้มีพื้นที่ในการร่อนมาก
บ่างในบางครั้งอาจจะสับสนกับ กระรอกบิน ซึ่งที่จริงแล้วบ่างกับกระรอกบินเป็นสัตว์คนละอันดับกัน โดยภาษาใต้จะเรียกบ่างว่า "พะจง" หรือ "พุงจง" แต่ในภาษาเหนือและภาษาอีสานจะเรียกกระรอกบินว่า "บ่าง" จึงทำให้อาจเกิดความสับสนกัน
ในสำนวนไทยมีคำที่กล่าวเกี่ยวกับบ่างว่า บ่างช่างยุ มีความหมายเปรียบกับ คนที่ชอบยุแยงให้ผู้อื่นแตกแยกกัน
อ้างอิง
- Boeadi & Steinmetz, R. (2008). Galeopterus variegatus. In: IUCN 2008. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 8 Apr 2010.
- จาก พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-04. สืบค้นเมื่อ 2011-07-07.
- บ่าง, "สีสันสัตว์โลก สเปเชี่ยล", สารคดีทางช่อง 9: 17 ธันวาคม 2556
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-23. สืบค้นเมื่อ 2010-01-21.
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Galeopterus variegatus ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bangsthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Mammaliaxndb Dermopterawngs Cynocephalidaeskul Galeopterus Thomas 1908spichis G variegatuschuxthwinamGaleopterus variegatus 1799 aephnthiaesdngkarkracayphnthukhxngbangchuxphxngCynocephalus variegatus Audebert 1799 Galeopterus variegates Audebert 1799 bang hrux phungcng hrux phacng inphasait hrux pkkhphilar epnstweliynglukdwynmcaphwkhnunginxndbbang Dermoptera miruprangkhlaykrarxkbinkhnadihy phbidaetinphumiphakhexechiytawnxxkechiyngit michuxwithyasastrwa Galeopterus variegatus nbepnsingmichiwitephiyngchnidediywethannthixyuinskul Galeopteruslksnamiruprangkhlaykrarxkbinkhnadihy phiwhnngyn tamikhnadihysiaedng ibhuelk miniwthnghmd 5 niw sikhnmihlakhlaymak odysamarthepliyniptamsphaphaewdlxm thngnatalaedng hruxetha rwmthngxacmilayelxakracayipthwtwdwy odytwemiymisixxnkwatwphu hangmilksnaaehlmyaw miphngphudechuxmtidtxknthwtw odyechuxmrahwangkhahnaaelakhahlng khahlngkbhang rahwangkhahnakbkhx aelarahwangniwthukniw miniwthnghmd 5 niw odythiimmihwaemmux elbaehlmkhmmakichsahrbitaelaekaaekiywtnim mikhwamyawhwaelalatwotetmthiraw 34 42 esntiemtr hang 22 27 esntiemtr nahnk 1 1 8 kiolkrmphvtikrrmaelathinthixyuokhrngkradukkhxngbangphaphwadaembanghxtwlukdwyphngphud bangxasyaelahakinxyubntnimsung aelasamarthxasyidinpathuksphaph imewnaemkrathngpaesuxmothrm hruxtameruxkswnirnathimikarthaekstrkrrm bangepnstwthiimsamarthedinbnphundinid emuxtklngphuncaribkraesuxkkrasntwexngpinkhunsutnimthnthi enuxngcakbangksamarthtkepnxaharkhxngstwkinenuxchnidtang id xxkhakininewlaklangkhun odytxnklangwncanxnhlbphkphxntamyxdimhruxophrngim kinxaharcaphwkphuch idaek yxdim dxkim epnhlk aetcakkarsuksadwyekhruxngtidtamtwkhxngbangthiekaachwa odynkwithyasastrchawyipunphbwa bangepnstwthichangeluxkkin odycakinyxdimcaktnimephiyng 2 3 chnidethann aelabangtwemiycamixanaekhtkarhakinthichdecn aennxn swntwphucaittnimaelarxnipthw bangsamarthrxncaktnimtnhnungipyngtnhnungidiklkwakrarxkbinmak odyichniwaelaphngphudepntwkhwbkhumkhwamerwaelarayathangrahwangrxn ichewlatngthxngnanpraman 60 wn xxklukkhrnglatw enuxngcakaembangsamarthrbnahnklukidephiyngkhrawlatw lukbangaerkekidmkmikarphthnaimmaknkkhlaystwthimikraepahnathxng aembangcaeliynglukiwodyihekaathithxng ewlaekaaxyukbtnim phngphudrahwangkhacungthahnathiehmuxnepleliynglukepnxyangdikhlaystwthimikraepahnathxng aemyammilukxxn aembangkrxnhaxaharidehmuxnedim odylukbangcayudekaakhnthihnathxngaemiwaenn lukbangcakinmulkhxngaem enuxngcakphayinmiaebkhthieriythichwyinkaryxyxahar khnathiaembangemuxeliytwthakhwamsaxadlukxaceliychikhxnglukbangipdwy lukbangcaekaaxasyxyukbaemcnkwaxayuid 2 3 pi cungaeyktwxxkiphakinexngepnxisra caknnaembangcungcamilukihm aetphvtikrrmkarphsmphnthukhxngbangyngimepnthiruaenchd bang epnstwthimiesiyngrxngkhlayesiyngkhn aelakhwamepnstwthimihnatanaekliydaelahakininewlaklangkhun cungepnthirbrukndikhxngphuthixasyxyuchaypahruxphuthiniymkarphcyphy waesiyngrxngkhxngbangnaklwehmuxnphi emuxphraxathitycalbkhxbfa hrux yamophlephl bangcaaesdngphvtikrrmaeplkxyuxyanghnung khux caxxkmacakthihlbnxn aelwhxytwlngmakhlaykhangkhaw odyichethahlngthngsxngekaakingim aelwthinglatwhxylngmainaenwding swnhwaelaethahnacamwnngxekhahalatw hakmxngphiwephincaehmuxnkalnghxyhwmak phvtikrrmniynghakhxsrupimidchdecn bangcahxytwechnniipcnkwaaesngsudthaycalbkhxbfaip aelwcapinpayiphatnimtnpracainkarrxn mkcaepntnimthimithrngphumsung thiyunxyuediyw ephraacathaihmiphunthiinkarrxnmak banginbangkhrngxaccasbsnkb krarxkbin sungthicringaelwbangkbkrarxkbinepnstwkhnlaxndbkn odyphasaitcaeriykbangwa phacng hrux phungcng aetinphasaehnuxaelaphasaxisancaeriykkrarxkbinwa bang cungthaihxacekidkhwamsbsnkn insanwnithymikhathiklawekiywkbbangwa bangchangyu mikhwamhmayepriybkb khnthichxbyuaeyngihphuxunaetkaeykknxangxingBoeadi amp Steinmetz R 2008 Galeopterus variegatus In IUCN 2008 IUCN Red List of Threatened Species Downloaded on 8 Apr 2010 cakphcnanukrmchbbrachbnthitysthan khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 07 04 subkhnemux 2011 07 07 bang sisnstwolk sepechiyl sarkhdithangchxng 9 17 thnwakhm 2556 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 03 23 subkhnemux 2010 01 21 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Galeopterus variegatusaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Galeopterus variegatus thiwikispichis