บ่อเหล็กลอง หรือ บ่อเหล็กเมืองลอง เป็นแหล่งสินแร่เหล็กตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างบ้านนาตุ้ม หมู่ที่ 2 และบ้านแม่ลอง หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเหล็กลอง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยแร่เหล็กเมืองลองยุคจารีตถือว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดี และสันนิษฐานว่านำไปใช้อย่างกว้างขวางในล้านนา กล่าวกันว่าบ่อเหล็กเมืองลองเป็นบ่อเหล็กที่ใช้ทำศาสตราวุธหรือที่เรียกว่า ดาบสรีกัญไชย ของกษัตริย์ล้านนา และมีความเชื่อมาแต่โบราณว่าเหล็กจากแหล่งแร่เหล็กเมืองลองมีความแข็งแกร่ง ความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพ์ในตัว โดยจัดให้เหล็กเมืองลองอยู่ในโลหะธาตุตระกูลเดียวกับเหล็กไหล คือเป็นโคตรเหล็กไหล หรือเหล็กไหลงอก คือเหล็กที่แข็งตัวไปตามธรรมชาติแล้ว แต่สามารถงอกออกมาได้
ประวัติ
บ่อเหล็กลอง หรือ บ่อเหล็กเมืองลอง มีแร่เหล็กที่มีความสำคัญมากในยุคจารีต เพราะใช้ผลิตทั้งอาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้ และสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งแร่เหล็กเมืองลองยุคจารีตถือว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดี และสันนิษฐานว่านำไปใช้อย่างกว้างขวางในล้านนาดังมีคำเปรียบว่า เหล็กดีเหล็กเมืองลอง ตองดีตองพะเยา กล่าวกันว่าบ่อเหล็กเมืองลองเป็นบ่อเหล็กที่ใช้ทำศาสตราวุธหรือที่เรียกว่า ดาบสรีกัญไชย ของกษัตริย์ล้านนา โดยจะคัดเลือกเอา ม้อนเหล็กลอง คือ เม็ดก้อนแร่เหล็กที่เกิดอยู่ภายในก้อนแร่เหล็กลองที่หุ้มคล้ายตลับอยู่ภายนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเขย่าจะเกิดเสียงอยู่ภายในมีสีเขียวปีกแมลงทับ ช่างตีเหล็กจะนำมาตีผสมกับเหล็กปิว (เหล็กลองน้ำหนึ่งหลุมแรก) เป็นดาบสรีกัญไชยของกษัตริย์ ส่วนเหล็กปิวที่ไม่ตีผสมม้อนเหล็กลองใช้ทำอาวุธสำหรับเจ้าเมือง และขุนนาง ประกอบกับภายในเมืองลองมีการสืบทอดช่างเหล็กเป็นตระกูลมาหลายชั่วอายุคน เช่น ตระกูลช่างเหล็ก ตระกูลฟูเหล็ก ฯลฯ อาวุธที่ผลิตขึ้นในเมืองลองจึงถือกันว่าเป็นอาวุธชั้นหนึ่ง มีคุณสมบัติสนิมไม่กินเนื้อเหล็ก มีความคมหากเอาเส้นผมวางบนคมแล้วเป่าเส้นผมจะขาดออกจากกันทันทีโดยเฉพาะเหล็กลองน้ำหนึ่งที่เรียกว่า เหล็กปิว มีความเหนียวหากตีเป็นดาบที่บางจะสามารถหักทบงอหรือขดม้วนได้ ถ้าตีหนาสามารถตัดดาบเหล็กลองที่น้ำต่ำกว่า หรือดาบจากเหล็กบ่ออื่นได้
ตำนานบ่อเหล็กลอง
ตำนานบ่อเหล็กเมืองลอง เป็นตำนานที่มีต้นเค้ามาจากเรื่องเล่าภายในท้องถิ่น ก่อนมีการจดบันทึกเป็นอักษรธรรมล้านนาลงในใบลานก้อมจำนวน ๑๗ ลาน และคัดลอกอีกทอดใส่สมุดโหราโดย (บุตรชายพ่อนายอินหวัน ต้นตระกูลจาอาบาล สืบเชื้อสายมาจากคหบดีเมืองเชียงใหม่) ตำนานได้กล่าวถึงการเสด็จขึ้นมาของพระนางจามเทวีทางแม่น้ำยม มาขึ้นฝั่งที่วังต๊ะครัวหน้าวัดพระธาตุไฮสร้อย แล้วเสด็จขึ้นไปตามลำน้ำแม่ลอง และกล่าวถึงความสันพันธ์ในการสร้างเวียงลอง การก่อตั้งบ้านนาตุ้ม ที่มาของบ่อเหล็กเมืองลอง ตลอดถึงเชื่อมความสัมพันธ์กับการก่อสร้างพระธาตุศรีดอนคำ ซึ่งตำนานฉบับนี้คล้ายกับตำนานบอกเล่า ต่างกันเพียงตำนานเรื่องนี้ได้ถูกนำมาเรียบเรียงจารลงในใบลานให้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่กระนั้นก็ยังคงกลิ่นอายของตำนานบอกเล่าอยู่อย่างมาก
ตำนานภายในเมืองลองโดยเฉพาะตำนานประเภทมุขปาฐะ(บอกเล่า) นิยมกล่าวถึง “พระเจ้ากกุสันธะ” พระพุทธเจ้าองค์แรกในภัทรกัปนี้ หรือ “พระนางจามเทวี” ปฐมกษัตริย์ เป็นตัวเดินเรื่องโดยมีเค้าโครงเรื่องเหมือนกัน ตำนานฉบับนี้ก็เช่นกันแต่เดิมเมื่อครั้งเป็นตำนานบอกเล่า ผู้เล่าอาจให้พระเจ้ากกุสันธะหรือพระนางจามเทวีองค์ใดองค์หนึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง แต่เมื่อได้นำมาบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจึงนำมากล่าวรวมกัน คือ ให้ทั้ง “พระเจ้ากกุสันธะ” และ “พระนางจามเทวี” เสด็จมาพร้อมในคราวเดียวกัน ผู้เขียนขอเน้นย้ำว่าตำนานบ่อเหล็กเมืองลองและบ้านนาตุ้ม เมืองลอง ฉบับนี้ อาจไม่ใช่การบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ต้องการเสนอความจริงทั้งหมด แต่บรรพบุรุษในอดีตใช้เป็นเพียงคำอธิบายถึงที่มา ให้ความสำคัญ เน้นย้ำความเก่าแก่ และแสดงถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันของสถานที่ของชุมชนต่างๆ ของชุมชน
พระเจ้ากกุสันธะ นายสมศักดิ์ และพระนางจามเทวี เสด็จมาเมืองลอง บัวราณมาตั้งบ้านทีแรกฅนเชียงใหม่มาตั้งลี้เสิก็ม่านมาไท 1992 ปีมานี้ ทีแรก พ.ศ. 115 ปี 1.นายสุธัมม์ 2.นายอนันต์ 3.แม่ฅำแฮ 3 ครอบครัวมาตั้งอยู่ที่บ้านยังบ่มีชื่อบ้านคำเทื่อ พ.ศ. 425 ปีมาตั้งบ้านนาทุ้ม(บ้านนาตุ้ม ในปัจจุบันมี 4 หมู่บ้าน คือ บ้านนาตุ้มหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 (บ้านทุ่งเจริญ) และหมู่ที่ 9 ตำบลบ่อเหล็กลอง อำเภอลอง จังหวัดแพร่) พระพุทธเจ้า กับนายสมสักดิ์ นางจามเทวี ฅนทังหลายมาเซาะหาหนองอ้อ ทีแรกมานอนที่วังทะครัวแม่ยม กินเข้างายแล้วพากันขึ้นห้วยมา ขึ้นแง่ซ้ายมาด้วนกลับล่องห้วยขึ้นแง่ขวามาแผวผาขวางอยู่น้อย 1 พระเจ้าก็หนาวเอาผ้ามาทุ้มอุ่นแล้วขึ้นมาแถมแผวสบห้วยก็ปวดน่อง เอาผ้าเข้าคั้นมันอุ่นหายปวดไป พากันล่องห้วยมาที่ปางพระพุทธเจ้าคึดว่าไปมาเปนห้วยแม่ลองทั้ง 2 ห้วย
พญายักษ์บ่อเหล็กเมืองลองพบพระเจ้ากกุสันธะ
พระญายักข์ได้พบพระเจ้าที่ห้วยแม่ลอง ว่าท่านจะไปไหน พระเจ้าก็ว่าเรานี้มาเซาะหาหนองอ้อ พระญายักข์ก็ว่ากูอยากกินตับมึงแท้ พระเจ้าก็ลุกขึ้นจกเอาตับหื้อผียักข์กิน ผียักข์ก็รับเอาตับพระเจ้ามากิน กินบ่ได้เปนตับเหล็ก ผียักข์ก็ยอมือขึ้นไหว้พระเจ้าขอขืน พระเจ้าว่าขืนบ่ได้ ขอนี้แพงเหลือซื้อ ผียักข์ก็ยอมือกราบไหว้ว่า ภันเตภะคะวา เจ้ากูจักยะชาใด พระเจ้าก็หันแร่เหล็กที่ดอยขุนห้วยแม่ลอง เอาตับแห่งท่านมาเปาะแร่เหล็ก แล้วบอกหื้อผียักข์หื้อมึงเฝ้าที่ดอยบ่อแร่นี้ 10 ปีก็ช่าง 20 ปีก็ช่างหื้อมึงเฝ้าอยู่นี้ เหล็กเสี้ยงเมื่อใดหื้อมึงหนีเมื่อนั้นเนอ
ความเชื่อเรื่องอำนาจศักดิ์สิทธิ์
เหล็กจากบ่อเหล็กลองเป็นเหล็กที่มีความแกร่ง มีความเหนียวและเกิดสนิมยาก เหล็กลองเป็นโลหะมหัศจรรย์อานุภาพ มีพลังในตัว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ทุก ๆ อณูสามารถป้องกันคุณไสยและสิ่งเลวร้ายที่มองไม่เห็นด้วยตาดำได้ ปัจจุบันแร่เหล็กลอง ถือว่าเป็นวัตถุมงคล โดยเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเหล็กลองอยู่ในตระกูลเดียวกันกับเหล็กไหล
นอกจากนี้ยังแฝงความเชื่อผี คือผีป่อเฒ่าหลวง ผีที่ปกปักรักษาบ่อแฮ่(บ่อเหล็ก)เข้าไปด้วย เช่น เชื่อว่าก้อนแร่เหล็กลองที่เรียกว่า “ตับเหล็ก” ก้อนสีดำเงาหากพกพาจะอยู่ยงคงกระพัน เอาใส่ในหม้อน้ำดินเผาเพื่อดื่มกิน น้ำจะชุ่มเย็นตลอด ลูกหลานพกไว้จะป้องกันภัยต่างๆได้ ด้วยความคุ้มครองของผีป่อเฒ่าหลวง อาวุธที่ทำจากแร่เหล็กลองหากถูกบาดจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด มีไว้ในบ้านเรือนโจรขโมยจะไม่ขึ้นเรือนและผีกลัว ฯลฯ ซึ่งคนภายนอกก็ยอมรับว่าอาวุธหรือเหล็กลองมีคุณภาพและเป็นเหล็กศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏในวรรณกรรมของพญาพรหมโวหาร กวีราชสำนักนครลำปาง (ภายหลังเป็นกวีประจำราชสำนักนครเชียงใหม่) ว่า ชาติเหล็กปิวดำ บ่จัดเลือกเนื้อ ปืนเก่าเกื้อโบราณ (แปลว่า เหล็กน้ำหนึ่งไม่รู้เลือกที่จะฟัน ก็ไม่ต่างกับปืนเก่าแก่คร่ำคร่า) จักขัดขวาง บ่เมือสู่ห้อง กลัวเหล็กเมืองลอง ว้องคัด หรือศรีวิไจย โข้ กวีเชื้อสายเจ้านายนครแพร่ กล่าวในค่าวฉลองคุ้มหลวงของเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ เมื่อพ.ศ. 2435 ว่า มีเจ็ดสิบสอง เหล็กลองกล๋มเกลี้ยง จดจันเจียง แซ่ไว้ . ..ห้าสิบสอง เหล็กลองไหลดั้น ข่ามคงกะพัน มากนัก ถ้วนเจ็ดสิบสอง เหล็กลองแข็งนัก ต๋ำหนักมิ่งแก้ว มงคล
ประเพณี
ประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อบ่อเหล็กลอง (เลี้ยงผีบ่อเหล็กลอง) โดยจัดขึ้นทุกวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 (เหนือ) ของทุกปี สิ่งที่ใช้บวงสรวงในอดีตคือ คนปีละ1คน ซึ่งในอดีต ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใดในแถบนี้ ก็นิยมบูชายัญด้วยมนุษย์แทบทั้งสิ้น เช่น การตอกคนลงในเสาบ้านเสาเมือง จับคนที่มีชื่อมงคล อินทร์ จันทร์ มั่น คง อยู่ ดี เป็นต้น เพื่อมาบวงสรวงตอกลงไปใต้เสา ส่วนการบวงสรวงเซ่นไหว้ผีบ่อเหล็กนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นเด็ก จะมีการสังเวยหรือบูชายัญด้วยการจิ้มคอหรือปาดคอ แล้วดื่มเลือดของเด็ก โดยบุคคลที่เรียกว่า"จ้ำข้าว" จะมีผู้สื่อสารกับเจ้าพ่อเป็นร่างทรงเรียก"ตี่นั่ง" สมัยก่อนการจับคนมาสังเวยจำทำกันลับๆ จะมีเพียงแค่เจ้านายที่จะร่วมพิธี และคนในตระกูลที่ทำพิธีเท่านั้นที่จะรู้เห็นการเซ่นบวงสรวงนี้ ย้อนกลับไปประมาณพ.ศ.2480โดยประมาณ ได้มีการจับตัวคนมาผิด เจ้าพ่อจึงบ่ย่ำ(ไม่เหยียบหรือไม่กิน) คนที่ไปร่วมพิธีจึงไปอ้อนวอนขอเจ้าพ่อในร่างทรง เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นวัว1ตัว เจ้าพ่อก็อนุญาต หลังจากนั้นมา จึงเปลี่ยนมาเซ่นบวงสรวงพลีกรรมด้วยสัตว์ใหญ่ คือวัว ควาย หรือหมู 1ตัว บางปีที่ข้าวยากหมากแพงก็มีไก่16ตัวบ้าง สลับกันไปทุกปี โดยจะไปเก็บเงินจากทุกหลังคาเรือนในอ.ลอง จนปัจจุบันเก็บหลังคาละ1บาท และจะเปิดบ่อให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้ขุดหาแร่เหล็กลอง ซึ่งถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในตัวด้วยมีผีบ้านผีเมืองรักษา ซึ่งหากอยากให้ศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นต้องให้ผีพ่อเฒ่าหลวงที่ผ่านร่างทรง มนต์ คาถาเสกเป่าให้
โครงสร้างตำแหน่งหน้าที่ผู้ประกอบพิธีเลี้ยงผีเมืองลอง ในอดีตผู้นำในการเลี้ยงผีบ่อเหล็กลอง ประกอบ หนึ่งคือเจ้าผู้ครองนครลำปาง (เมืองลองเป็นเมืองขึ้นของนครลำปาง ก่อนจะโอนมาขึ้นกับจังหวัดแพร่ พ.ศ. 2475) เป็นองค์ประธาน เจ้าเมืองลอง พ่อเมืองทั้ง 4 ขุนนางนครลำปาง เมืองลอง เมืองต้า ตีนจองรองบ่อ และชาวเมือง ภายหลังการพิราลัยของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย ก็ได้มีบุตรหลานของเจ้านครลำปางมาเป็นองค์ประธานแทนเจ้าผู้ครองนครลำปางคือ เจ้าน้อยศรีสองเมือง ณ ลำปาง จนถึงแก่อนิจกรรม ในปี พ.ศ. 2497 สองคือร่างทรง เรียกว่า"ตี่นั่ง" ตี่นั่งในอดีตที่สามารถสืบชื่อได้ คือตี่นั่งล้อม ตี่นั่งน้อย มีหน้าที่เป็นร่างทรงให้ผีป่อเฒ่าหลวงสิงร่าง สามคือจ้ำข้าว คือคนที่ต้องคอยป้อนเลือด ข้าว น้ำ เหล้า หรือหมากพลู สวมเสื้อผ้า ประเคนดาบ ฯลฯให้แก่ผีป่อเฒ่าหลวง ตระกูลจ้ำข้าวจะเป็นตระกูลคนลั๊วะดั้งเดิมของอ.ลอง ที่อยู่มานานมากตรงนั้น จะมีผิวแทนถึงดำเข้มผมหยักศกตัวอวบร่างกายไม่สูง รายชื่อจ้ำข้าวในอดีตที่สามารถสืบค้นมาได้คือพ่อใหญ่แสน(สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล) ,พ่อใหญ่เหมย มาแก้ว,พ่อใหญ่เกี่ยงคำ มาแก้ว(บุตรชายพ่อใหญ่เหมย) ,พ่อน้อยอุ่นเรือน และสี่คือหงอน หงอนคือคนที่เป็นเหมือนเพชรฆาต ก็จะเป็นพวกลูกหลาน ถ้าคนมีน้อยบางครั้งจ้ำข้าวก็มาช่วยหงอนในการสังหารเพื่อเซ่นบูชา ปัจจุบันสภาวัฒนธรรมตำบลบ่อเหล็กลองเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับพิธีนี้
อ้างอิง
- ภูเดช แสนสา .ประวัติศาสตร์เมืองลอง ตอนที่ ๒๗ .หมู่บ้าน วัง ฟ่อน .สืบค้น 5 ธันวาคม 2559
- ภูเดช แสนสา .ร้อยเรียงร้อยเรื่องเมืองลอง ตอนที่ ๔ .หมู่บ้าน วัง ฟ่อน .สืบค้น 5 ธันวาคม 2559
- ภูเดช แสนสา .ประวัติศาสตร์เมืองลอง ตอนที่ ๔๑ .หมู่บ้าน วัง ฟ่อน ;สืบค้น 5 ธันวาคม 2559
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bxehlklxng hrux bxehlkemuxnglxng epnaehlngsinaerehlktamthrrmchati tngxyurahwangbannatum hmuthi 2 aelabanaemlxng hmuthi 4 tablbxehlklxng xaephxlxng cnghwdaephr odyaerehlkemuxnglxngyukhcaritthuxwaepnehlkthimikhunphaphdi aelasnnisthanwanaipichxyangkwangkhwanginlanna klawknwabxehlkemuxnglxngepnbxehlkthiichthasastrawuthhruxthieriykwa dabsrikyichy khxngkstriylanna aelamikhwamechuxmaaetobranwaehlkcakaehlngaerehlkemuxnglxngmikhwamaekhngaekrng khwamskdisiththiaelaxathrrphintw odycdihehlkemuxnglxngxyuinolhathatutrakulediywkbehlkihl khuxepnokhtrehlkihl hruxehlkihlngxk khuxehlkthiaekhngtwiptamthrrmchatiaelw aetsamarthngxkxxkmaidprawtibxehlklxng hrux bxehlkemuxnglxng miaerehlkthimikhwamsakhymakinyukhcarit ephraaichphlitthngxawuth ekhruxngmuxekhruxngich aelasrangsingkxsrangtang sungaerehlkemuxnglxngyukhcaritthuxwaepnehlkthimikhunphaphdi aelasnnisthanwanaipichxyangkwangkhwanginlannadngmikhaepriybwa ehlkdiehlkemuxnglxng txngditxngphaeya klawknwabxehlkemuxnglxngepnbxehlkthiichthasastrawuthhruxthieriykwa dabsrikyichy khxngkstriylanna odycakhdeluxkexa mxnehlklxng khux emdkxnaerehlkthiekidxyuphayinkxnaerehlklxngthihumkhlaytlbxyuphaynxkxikchnhnung emuxekhyacaekidesiyngxyuphayinmisiekhiywpikaemlngthb changtiehlkcanamatiphsmkbehlkpiw ehlklxngnahnunghlumaerk epndabsrikyichykhxngkstriy swnehlkpiwthiimtiphsmmxnehlklxngichthaxawuthsahrbecaemuxng aelakhunnang prakxbkbphayinemuxnglxngmikarsubthxdchangehlkepntrakulmahlaychwxayukhn echn trakulchangehlk trakulfuehlk l xawuththiphlitkhuninemuxnglxngcungthuxknwaepnxawuthchnhnung mikhunsmbtisnimimkinenuxehlk mikhwamkhmhakexaesnphmwangbnkhmaelwepaesnphmcakhadxxkcakknthnthiodyechphaaehlklxngnahnungthieriykwa ehlkpiw mikhwamehniywhaktiepndabthibangcasamarthhkthbngxhruxkhdmwnid thatihnasamarthtddabehlklxngthinatakwa hruxdabcakehlkbxxunid tananbxehlklxng tananbxehlkemuxnglxng epntananthimitnekhamacakeruxngelaphayinthxngthin kxnmikarcdbnthukepnxksrthrrmlannalnginiblankxmcanwn 17 lan aelakhdlxkxikthxdissmudohraody butrchayphxnayxinhwn tntrakulcaxabal subechuxsaymacakkhhbdiemuxngechiyngihm tananidklawthungkaresdckhunmakhxngphranangcamethwithangaemnaym makhunfngthiwngtakhrwhnawdphrathatuihsrxy aelwesdckhuniptamlanaaemlxng aelaklawthungkhwamsnphnthinkarsrangewiynglxng karkxtngbannatum thimakhxngbxehlkemuxnglxng tlxdthungechuxmkhwamsmphnthkbkarkxsrangphrathatusridxnkha sungtananchbbnikhlaykbtananbxkela tangknephiyngtananeruxngniidthuknamaeriyberiyngcarlnginiblanihepnlaylksnxksr aetkrannkyngkhngklinxaykhxngtananbxkelaxyuxyangmak tananphayinemuxnglxngodyechphaatananpraephthmukhpatha bxkela niymklawthung phraecakkusntha phraphuththecaxngkhaerkinphthrkpni hrux phranangcamethwi pthmkstriy epntwedineruxngodymiekhaokhrngeruxngehmuxnkn tananchbbnikechnknaetedimemuxkhrngepntananbxkela phuelaxacihphraecakkusnthahruxphranangcamethwixngkhidxngkhhnungepntwedineruxng aetemuxidnamabnthukepnlaylksnxksrcungnamaklawrwmkn khux ihthng phraecakkusntha aela phranangcamethwi esdcmaphrxminkhrawediywkn phuekhiynkhxennyawatananbxehlkemuxnglxngaelabannatum emuxnglxng chbbni xacimichkarbnthukthangprawtisastrthitxngkaresnxkhwamcringthnghmd aetbrrphburusinxditichepnephiyngkhaxthibaythungthima ihkhwamsakhy ennyakhwamekaaek aelaaesdngthungkhwamekiywkhxngsmphnthknkhxngsthanthikhxngchumchntang khxngchumchn phraecakkusntha naysmskdi aelaphranangcamethwi esdcmaemuxnglxng bwranmatngbanthiaerkKhnechiyngihmmatngliesikmanmaith 1992 pimani thiaerk ph s 115 pi 1 naysuthmm 2 nayxnnt 3 aemKhaaeh 3 khrxbkhrwmatngxyuthibanyngbmichuxbankhaethux ph s 425 pimatngbannathum bannatum inpccubnmi 4 hmuban khux bannatumhmuthi 1 hmuthi 2 hmuthi 3 banthungecriy aelahmuthi 9 tablbxehlklxng xaephxlxng cnghwdaephr phraphuththeca kbnaysmskdi nangcamethwi Khnthnghlaymaesaahahnxngxx thiaerkmanxnthiwngthakhrwaemym kinekhangayaelwphaknkhunhwyma khunaengsaymadwnklblxnghwykhunaengkhwamaaephwphakhwangxyunxy 1 phraecakhnawexaphamathumxunaelwkhunmaaethmaephwsbhwykpwdnxng exaphaekhakhnmnxunhaypwdip phaknlxnghwymathipangphraphuththecakhudwaipmaepnhwyaemlxngthng 2 hwy phyayksbxehlkemuxnglxngphbphraecakkusntha phrayaykkhidphbphraecathihwyaemlxng wathancaipihn phraecakwaeranimaesaahahnxngxx phrayaykkhkwakuxyakkintbmungaeth phraecaklukkhunckexatbhuxphiykkhkin phiykkhkrbexatbphraecamakin kinbidepntbehlk phiykkhkyxmuxkhunihwphraecakhxkhun phraecawakhunbid khxniaephngehluxsux phiykkhkyxmuxkrabihwwa phnetphakhawa ecakuckyachaid phraecakhnaerehlkthidxykhunhwyaemlxng exatbaehngthanmaepaaaerehlk aelwbxkhuxphiykkhhuxmungefathidxybxaerni 10 pikchang 20 pikchanghuxmungefaxyuni ehlkesiyngemuxidhuxmunghniemuxnnenxkhwamechuxeruxngxanacskdisiththiehlkcakbxehlklxngepnehlkthimikhwamaekrng mikhwamehniywaelaekidsnimyak ehlklxngepnolhamhscrryxanuphaph miphlngintw misingskdisiththisthitxyuthuk xnusamarthpxngknkhunisyaelasingelwraythimxngimehndwytadaid pccubnaerehlklxng thuxwaepnwtthumngkhl odyechuxknmaaetobranwaehlklxngxyuintrakulediywknkbehlkihl nxkcakniyngaefngkhwamechuxphi khuxphipxethahlwng phithipkpkrksabxaeh bxehlk ekhaipdwy echn echuxwakxnaerehlklxngthieriykwa tbehlk kxnsidaengahakphkphacaxyuyngkhngkraphn exaisinhmxnadinephaephuxdumkin nacachumeyntlxd lukhlanphkiwcapxngknphytangid dwykhwamkhumkhrxngkhxngphipxethahlwng xawuththithacakaerehlklxnghakthukbadcathaiheluxdihlimhyud miiwinbaneruxnocrkhomycaimkhuneruxnaelaphiklw l sungkhnphaynxkkyxmrbwaxawuthhruxehlklxngmikhunphaphaelaepnehlkskdisiththi dngpraktinwrrnkrrmkhxngphyaphrhmowhar kwirachsanknkhrlapang phayhlngepnkwipracarachsanknkhrechiyngihm wa chatiehlkpiwda bcdeluxkenux punekaekuxobran aeplwa ehlknahnungimrueluxkthicafn kimtangkbpunekaaekkhrakhra ckkhdkhwang bemuxsuhxng klwehlkemuxnglxng wxngkhd hruxsriwiicy okh kwiechuxsayecanaynkhraephr klawinkhawchlxngkhumhlwngkhxngecahlwngphiriyethphwngs ecaphukhrxngnkhraephr emuxph s 2435 wa miecdsibsxng ehlklxngklmekliyng cdcneciyng aesiw hasibsxng ehlklxngihldn khamkhngkaphn maknk thwnecdsibsxng ehlklxngaekhngnk tahnkmingaekw mngkhlpraephnipraephnibwngsrwngecaphxbxehlklxng eliyngphibxehlklxng odycdkhunthukwnkhun 3 kha eduxn 3 ehnux khxngthukpi singthiichbwngsrwnginxditkhux khnpila1khn sunginxdit imwacaepnxanackridinaethbni kniymbuchayydwymnusyaethbthngsin echn kartxkkhnlnginesabanesaemuxng cbkhnthimichuxmngkhl xinthr cnthr mn khng xyu di epntn ephuxmabwngsrwngtxklngipitesa swnkarbwngsrwngesnihwphibxehlknn swnihyaelwepnedk camikarsngewyhruxbuchayydwykarcimkhxhruxpadkhx aelwdumeluxdkhxngedk odybukhkhlthieriykwa cakhaw camiphusuxsarkbecaphxepnrangthrngeriyk tinng smykxnkarcbkhnmasngewycathaknlb camiephiyngaekhecanaythicarwmphithi aelakhnintrakulthithaphithiethannthicaruehnkaresnbwngsrwngni yxnklbippramanph s 2480odypraman idmikarcbtwkhnmaphid ecaphxcungbya imehyiybhruximkin khnthiiprwmphithicungipxxnwxnkhxecaphxinrangthrng ephuxaelkepliynepnww1tw ecaphxkxnuyat hlngcaknnma cungepliynmaesnbwngsrwngphlikrrmdwystwihy khuxww khway hruxhmu 1tw bangpithikhawyakhmakaephngkmiik16twbang slbknipthukpi odycaipekbengincakthukhlngkhaeruxninx lxng cnpccubnekbhlngkhala1bath aelacaepidbxihphuekharwmphithiidkhudhaaerehlklxng sungthuxwamikhwamskdisiththixyuphayintwdwymiphibanphiemuxngrksa sunghakxyakihskdisiththimakkhuntxngihphiphxethahlwngthiphanrangthrng mnt khathaeskepaih okhrngsrangtaaehnnghnathiphuprakxbphithieliyngphiemuxnglxng inxditphunainkareliyngphibxehlklxng prakxb hnungkhuxecaphukhrxngnkhrlapang emuxnglxngepnemuxngkhunkhxngnkhrlapang kxncaoxnmakhunkbcnghwdaephr ph s 2475 epnxngkhprathan ecaemuxnglxng phxemuxngthng 4 khunnangnkhrlapang emuxnglxng emuxngta tincxngrxngbx aelachawemuxng phayhlngkarphiralykhxngecabuywathywngsmanit ecaphukhrxngnkhrlapangxngkhsudthay kidmibutrhlankhxngecankhrlapangmaepnxngkhprathanaethnecaphukhrxngnkhrlapangkhux ecanxysrisxngemuxng n lapang cnthungaekxnickrrm inpi ph s 2497 sxngkhuxrangthrng eriykwa tinng tinnginxditthisamarthsubchuxid khuxtinnglxm tinngnxy mihnathiepnrangthrngihphipxethahlwngsingrang samkhuxcakhaw khuxkhnthitxngkhxypxneluxd khaw na ehla hruxhmakphlu swmesuxpha praekhndab lihaekphipxethahlwng trakulcakhawcaepntrakulkhnlwadngedimkhxngx lxng thixyumananmaktrngnn camiphiwaethnthungdaekhmphmhyksktwxwbrangkayimsung raychuxcakhawinxditthisamarthsubkhnmaidkhuxphxihyaesn smynnyngimminamskul phxihyehmy maaekw phxihyekiyngkha maaekw butrchayphxihyehmy phxnxyxuneruxn aelasikhuxhngxn hngxnkhuxkhnthiepnehmuxnephchrkhat kcaepnphwklukhlan thakhnminxybangkhrngcakhawkmachwyhngxninkarsngharephuxesnbucha pccubnsphawthnthrrmtablbxehlklxngepnphuduaelekiywkbphithinixangxingphuedch aesnsa prawtisastremuxnglxng txnthi 27 hmuban wng fxn subkhn 5 thnwakhm 2559 phuedch aesnsa rxyeriyngrxyeruxngemuxnglxng txnthi 4 hmuban wng fxn subkhn 5 thnwakhm 2559 phuedch aesnsa prawtisastremuxnglxng txnthi 41 hmuban wng fxn subkhn 5 thnwakhm 2559