บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
ท้าวเวสวัณ (สันสกฤต: वैश्रवण Vaiśravaṇa ไวศฺรวณ; บาลี: वेस्सवण Vessavaṇa เวสฺสวณ) หรือ ท้าวเวสสุวัณ เป็นเจ้าแห่งยักษ์ เป็นหนึ่งในจาตุมหาราช ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ในรามเกียรติ์เป็นโอรสของท้าวลัสเตียนกับนางศรีสุมณฑา มีพระอนุชาคือ ท้าวกุเปรัน ท้าววัสวตีวัณ (เจ้าแห่งสวรรค์ชั้นที่ 6) ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก เคยตัดเศียรของท้าวราวณะขาดไป 1 เศียร ครองโลกบาลทิศเหนือ ท้าวเวสวัณคือท้าวกุเวร ในศาสนาฮินดู
ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงท้าวเวสสุวัณ ว่าเป็น 1 ใน 5 ผู้มีสุดยอดอาวุธวิเศษ คือ วชิราวุธของพระอินทร์ ไม้ตะบองของท้าวเวสสุวัณ นัยตาของพระยม ผ้าพันคอของ และจักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ
ในพระอภิธรรมของเถรวาท ได้จัดให้ยมทูตและที่ลงโทษสัตว์นรกในนรกนั้นเป็นเทวดาประเภทยักษ์ ซึ่งเป็นบริวารของท้าวเวสสุวัณโดยตรง จึงถือกันว่าท้าวเวสสุวัณเป็นจ้าวแห่งวิญญาณที่ควบคุมเหล่าภูตผีปีศาจสัมภเวสีต่าง ๆ อีกด้วย ผ่านยมทูตและนิรยบาลนั่นเอง
คนไทยโบราณนิยมนำรูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกามาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน โดยมอบบทอาฏานาฏิยปริตรให้แก่พระสงฆ์ เพื่อไว้สวดเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจที่จะมารบกวน และเชื่อว่าถ้าสวดอาฏานาฏิยปริตร โดยพระสงฆ์ จะขับไล่ภูตผีอาถรรพ์มนต์ดำได้ทั้งสิ้น ปัจจุบันจะเรียกการสวดอาฏานาฏิยปริตรอีกชื่อหนึ่งว่าการสวด"ภาณยักษ์"นั่นเอง
ท้าวกุเวรนั้น บางทีก็เรียกว่าท้าวไวศรวัน (เวสสุวัณ) ภาษาทมิฬเรียก "กุเวร" ว่า "กุเปรัน" ซึ่งมีเรื่องอยู่ในรามเกียรติ์ว่า เป็นพี่ต่างมารดาของทศกัณฐ์ และทศกัณฐ์ไปแย่งบุษบกของท้าวกุเวรไป ท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการผิวขาว มีฟัน 8 ซี่ และมีขาสามขา (ภาพท้าวเวสวัณจึงมักเขียนท่ายืนแยงแย่ ถือไม้กระบองยาว อยู่หว่างขา) เมืองท้าวกุเวรชื่อ "อลกา" อยู่บนเขาหิมาลัย มีสวนอุทยานอยู่ไหล่เขาแห่งหนึ่งของเขาพระสุเมรุ ชื่อว่า "สวนไจตรต" หรือ "มนทร" มีพวกกินนรและคนธรรพ์เป็นผู้รับใช้ ท้าวกุเวรเป็นโลกบาลประจำทิศเหนือ คนจีนเรียกว่า "ตัวเหวิน" (多聞) คนญี่ปุ่นเรียกว่า "บิชะมนเตง" (毘沙門天(びしゃもんてん)
เชื่อกันว่าการบูชาท้าวเวสสุวัณจะทำให้ค้าขายดี และเชื่อว่าจะทำให้ทรัพย์สมบัติมั่นคง ไม่มีใครจะมาทำลายหรือแย่งชิงไปได้เพราะท้าวเวสสุวัณเป็นผู้ชื่อว่าปกป้องรักษาขุมทรัพย์สมบัติ (ตามตำนานที่ท้าวเวสสุวัณจะสั่งให้คุยหกะยักษ์เฝ้ารักษาขุมทรัพย์ไว้) รวมทั้งเชื่อว่าการบูชาท้าวเวสสุวัณจะป้องกันมนต์ดำจากผู้ไม่หวังดีที่มุ่งประสงค์ให้กิจการค้าขายหรือครอบครัวเดือดร้อนอยู่ไม่สุข หรือใช้เล่ห์เหลี่ยมมาแกล้ง เพื่อเป็นการทำลายคู่แข่งทางการค้า
พระไพศรพณ์
ในประเทศไทยมีคติการบูชาท้าวเวสวัณอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเรียกเทพเจ้าองค์นี้ว่า พระไพศรพณ์ ตามนามในภาษาสันสกฤต ไวศฺรวณ มือขวาถือตะบอง มือซ้ายยกเสมอหน้าอกแสดงการห้ามปรามมิให้ (เทวดา) ทำผิด เนื่องจากมีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยยุติธรรมในสวรรค์ ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของอัยการมานาน คาดว่าตั้งแต่แรกตั้งเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้วเนื่องจากยกกระบัตร (ชื่อเรียกอัยการในสมัยโบราณ) หรืออัยการในปัจจุบันก็มีหน้าที่รักษาความยุติธรรมและกฎหมายเช่นเดียวกับหน้าที่ของพระไพศรพณ์ในสวรรค์ แต่ยังตรวจไม่พบหลักฐานว่าได้มีประกาศเป็นทางการให้ใช้รูปพระไพศรพณ์เป็นเครื่องหมายราชการของอัยการตั้งแต่เมื่อใด
สัญลักษณ์ของอัยการ
ตามพระราชกฤษฎีกาเครื่องแบบข้าราชการอัยการและระเบียบการแต่งกายฯ พ.ศ. 2524 กำหนดเครื่องแบบข้าราชการอัยการซึ่งรวมถึงเครื่องหมายที่ประดับ จึงตรวจสอบดูปรากฏคำว่า "รูปพระไพศรพณ์" เป็นโลหะสีทองซึ่งกฎหมายนี้กำหนดวิธีการใช้ ดังนี้
- กรณีเครื่องแบบพิธีการ เช่น เครื่องแบบปกติขาว เครื่องแบบเต็มยศ ฯลฯ ให้ติดทับอยู่บนอินทรธนูค่อนมาทางด้านไหล่
- สำหรับเครื่องแบบสีกากีคอพับ กับเครื่องแบบสีกากีคอแบะ ให้ประดับทับอยู่บนพื้นอินทรธนูภายในขมวดวงกลม ฐานของรูปพระไพศรพณ์อยู่เหนือแถบต้น (กรณีอัยการชั้น 3 ขึ้นไป) หรืออยู่บนแถบที่สองของอินทรธนู (กรณีอัยการชั้น 1 และชั้น 2)
ต่อมาใน พ.ศ. 2503 ได้มีกฎหมายออกมากำหนดให้ข้าราชการอัยการใช้เครื่องหมายนี้มาประดับบนอินทรธนูเพื่อบ่งแสดงให้เห็นว่าข้าราชการอัยการแตกต่างจากข้าราชการพลเรือน และต่อมาใน พ.ศ. 2513 ก็ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดให้ใช้รูปท้าวกุเวร (หรือท้าวเวสสุวัณ) เป็นเครื่องหมายราชการของกรมการสารวัตรทหารบกซึ่งเป็นหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยของฝ่ายทหาร
ส่วนพระไพศรพณ์ยังคงเป็นสัญลักษณ์ประดับบ่าเสื้อเครื่องแบบอัยการทั้งสองข้างตลอดมา และใน พ.ศ. 2535 สำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้รูปพระมหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตราแผ่นดินวางอยู่บนตราชั่งซึ่งเป็นเครื่องหมายของนักกฎหมาย ประกอบกับอีก 3 รูปรวมกันเป็นเครื่องหมายราชการของสำนักอัยการสูงสุด คือ พระขรรค์ รองรับด้วย
รูปตราใหม่นี้ถือเป็นเครื่องหมายราชการของหน่วยงานตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2535 ในวาระที่หน่วยงานของอัยการได้เปลี่ยนแปลงสถานะภาพจากหน่วยงานระดับกรมขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย มาเป็นสำนักงานไม่สังกัดกระทรวง ส่วนพนักงานอัยการในปัจจุบันรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ ได้ขยายบทบาทออกไปมาก รวมทั้งกำหนดหน้าที่อัยการไปถึงเรื่องทางการเมืองเพราะอัยการมีหน้าที่ต้องอำนวยความยุติธรรมทางการเมืองด้วยนั่นเอง
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับท้าวเวสสุวัณกับคุยหกะยักษ์
สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 3 หน้า 1439 กล่าวถึงท้าวกุเวรหรือท้าวเวสวัณไว้ว่า กุเวร-ท้าว พระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์มียักษ์ และคุยหกะ (ยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์) เป็นบริวาร
สมัยหนึ่งพระโพธิสัตว์เสวยชาติเกิดเป็นบิดาของเด็กหญิงตาบอด พระโพธิสัตว์รักและสงสารลูกสาวตาบอดคนนี้มาก อยู่มาวันหนึ่งได้ยินข่าวว่ามีหมอที่เก่งดุจเทวดา จึงเดินทางนำลูกสาวตาบอดไปหาหมอคนนั้น เพื่อให้รักษาดวงตาของลูกสาว หมอจึงบอกว่าต้องใช้สมุนไพรชนิดหนึ่งมาทำเป็นเครื่องประกอบยาจึงรักษาโรคตาของลูกสาวได้ แต่หมอไม่มีสมุนไพรชนิดนั้น และสมุนไพรชนิดนั้นหายาก ต้องไปเอาในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่อันตรายมากจึงจะได้มา เมื่อคนเป็นพ่อรู้สถานที่และลักษณะสมุนไพรแล้ว จึงฝากภรรยาให้ดูแลบุตรสาวในขณะที่ตนเองไปหาสมุนไพร ถ้าหายไปนานเกินไปแปลว่าตายแล้ว เมื่อฝากฝังเรียบร้อยจึงออกเดินทางไปหายาสมุนไพร คนเป็นพ่อนั้นได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ของคุยหกะยักษ์หรือยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์ ซึ่งเป็นบริวารของท้าวเวสสุวัณรักษาอยู่ โดยท้าวเวสสุวัณให้ยักษ์ให้รักษาสิ่งสำคัญบางอย่าง และให้อนุญาตไว้ว่าใครเข้ามาในอาณาเขตที่เฝ้ารักษาให้ฆ่าและจับกินเป็นอาหารได้ จึงทำให้คนเป็นพ่อนั้นถูกยักษ์จับและจะกินเป็นอาหาร แต่ท้าวเวสสุวัณได้ให้ปริศนาธรรมเอาไว้ ถ้าใครตอบได้ ห้ามฆ่าเด็ดขาด เพื่อให้โอกาสกับคนมีบุญ คนยังมีโชค ยังไม่ถึงคราวตาย ผู้มีปัญญา และคนมีธรรมะ ได้รอดชีวิต ซึ่งแต่ละสถานที่จะให้ปริศนาธรรมที่แตกต่างกันกับยักษ์คุยหกะแต่ละตน ซึ่งยักษ์คุยหกะตนนี้ได้ปริศนาธรรมชื่อว่าพรหมวิหารปัญหา ซึ่งถามว่า ในพรหมวิหารทั้ง 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ข้อไหนสำคัญที่สุด ผู้เป็นพ่อจึงพิจารณาว่า ลูกสาวของตนตาบอด นำอาหารดี เสื้อผ้าสวยๆให้ใส่ก็ไม่ช่วยให้มีความสุข คนที่ป่วยเป็นโรคที่ทุกข์ทรมาณต่อให้หาอาหาร การแสดงดีๆอย่างไร ก็ไม่ช่วยให้มีความสุขได้ คำตอบจึงไม่ใช่เมตตา จึงพิจารณาต่อไปว่า ลูกสาวของเขาตาบอด จึงไม่มีใครมาอิจฉาริษยาลูกสาวเขาแน่ๆ ลูกสาวของเขาไม่ต้องการมุทิตา คำตอบจึงไม่ใช่มุทิตา ลูกสาวเขาตาบอด ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร จึงไม่ต้องการให้ใครวางเฉยหรือให้อภัยเพราะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ลูกสาวเขาไม่ต้องการอุเบกขา คำตอบจึงไม่ใช่อุเบกขา แต่ลูกสาวของเขาต้องการพ้นทุกข์ ต้องการหายตาบอด ลูกสาวของเขาต้องการความกรุณา คำตอบจึงต้องเป็นกรุณาแน่ๆ จึงตอบคำถามยักษ์คุยหกะไปว่ากรุณา ยักษ์จึงเฉลยว่าถูกต้องแล้ว จึงฆ่าคนเป็นพ่อไม่ได้ ตามคำสั่งท้าวเวสสุวัณ จึงปล่อยตัวคนเป็นพ่อแล้วถามว่ามาทำอะไรที่นี้ จึงได้คำตอบว่ามาหาสมุนไพรลักษณะเช่นนี้นำไปรักษาดวงตาลูกสาว ยักษ์รู้จักจึงชี้บอกต้นสมุนไพร ให้คนเป็นพ่อ คนเป็นพ่อจึงได้ต้นสมุนไพรและกลับบ้านไปเพื่อนำสมุนไพรให้หมอนำไปรักษาดวงตาลูกสาวจนหายเป็นปกติ
ดังนั้น ในพุทธคุณทั้ง 3 คือ ปัญญาธิคุณ กรุณาธิคุณ บริสุทธิคุณ หนึ่งในนั้นคือกรุณา ไม่ใช่เมตตา มุทิตา หรืออุเบกขา เพราะกรุณา เป็นธรรมที่สำคัญที่สุดใน พรหมวิหาร 4
อีกเรื่องหนึ่ง
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นเจ้าชาย ที่หลงเข้าไปในพื้นที่ของยักษ์คุยหกะ ซึ่งยักษ์คุยหกะนั้นได้รับปริศนาธรรมชื่อว่าเทวธรรมปัญหา คือถามว่าธรรมที่ทำให้คนเป็นเทวดาคืออะไร พระโพธิสัตว์ตอบว่าหิริโอตตัปปะและกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นคำตอบที่ถูกต้องเช่นกัน เพราะแม้จะยังไม่ตายผู้มีธรรมสองอย่างนี้ได้ขึ้นชื่อเป็นเทวดาตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2556, หน้า 1130
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul thawewswn khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir thawewswn snskvt व श रवण Vaisravaṇa iws rwn bali व स सवण Vessavaṇa ews swn hrux thawewssuwn epnecaaehngyks epnhnungincatumharach phukhumkhrxngaeladuaelolkmnusy sthitxyubnswrrkhchncatumharachika inramekiyrtiepnoxrskhxngthawlsetiynkbnangsrisumntha miphraxnuchakhux thawkueprn thawwswtiwn ecaaehngswrrkhchnthi 6 thrngxiththivththixanuphaphmak ekhytdesiyrkhxngthawrawnakhadip 1 esiyr khrxngolkbalthisehnux thawewswnkhuxthawkuewr insasnahinduthawewswn silpacintrapracacnghwdxudrthani aesdngrupthawewswnthawewswn thiwdphrathatudxysuethphwdothid inkhmphirthangphuththsasna idklawthungthawewssuwn waepn 1 in 5 phumisudyxdxawuthwiess khux wchirawuthkhxngphraxinthr imtabxngkhxngthawewssuwn nytakhxngphraym phaphnkhxkhxng aelackraekwkhxngphraecackrphrrdi inphraxphithrrmkhxngethrwath idcdihymthutaelathilngothsstwnrkinnrknnepnethwdapraephthyks sungepnbriwarkhxngthawewssuwnodytrng cungthuxknwathawewssuwnepncawaehngwiyyanthikhwbkhumehlaphutphipisacsmphewsitang xikdwy phanymthutaelanirybalnnexng khnithyobranniymnarupyksphukiwthihwetiyngedkephuxpxngknwiyyanchwrayimihmarngkhwanaekedk thawkuewrxngkhnimiklawthunginwanaethwdainswrrkhchncatumharachikamaekhaefaphraphuththeca aelaidthwaystythicaduaelphraphuththecaaelaehlasawkimihykshruxbriwarxun khxngthawctuolkbaliprngkhwan odymxbbthxatanatiypritrihaekphrasngkh ephuxiwswdephuxkhbilphutphipisacthicamarbkwn aelaechuxwathaswdxatanatiypritr odyphrasngkh cakhbilphutphixathrrphmntdaidthngsin pccubncaeriykkarswdxatanatiypritrxikchuxhnungwakarswd phanyks nnexng thawkuewrnn bangthikeriykwathawiwsrwn ewssuwn phasathmileriyk kuewr wa kueprn sungmieruxngxyuinramekiyrtiwa epnphitangmardakhxngthsknth aelathsknthipaeyngbusbkkhxngthawkuewrip thawkuewrmiruprangphikarphiwkhaw mifn 8 si aelamikhasamkha phaphthawewswncungmkekhiynthayunaeyngaey thuximkrabxngyaw xyuhwangkha emuxngthawkuewrchux xlka xyubnekhahimaly miswnxuthyanxyuihlekhaaehnghnungkhxngekhaphrasuemru chuxwa swnictrt hrux mnthr miphwkkinnraelakhnthrrphepnphurbich thawkuewrepnolkbalpracathisehnux khncineriykwa twehwin 多聞 khnyipuneriykwa bichamnetng 毘沙門天 びしゃもんてん echuxknwakarbuchathawewssuwncathaihkhakhaydi aelaechuxwacathaihthrphysmbtimnkhng immiikhrcamathalayhruxaeyngchingipidephraathawewssuwnepnphuchuxwapkpxngrksakhumthrphysmbti tamtananthithawewssuwncasngihkhuyhkayksefarksakhumthrphyiw rwmthngechuxwakarbuchathawewssuwncapxngknmntdacakphuimhwngdithimungprasngkhihkickarkhakhayhruxkhrxbkhrweduxdrxnxyuimsukh hruxichelhehliymmaaeklng ephuxepnkarthalaykhuaekhngthangkarkhaphraiphsrphnifl iphsrphn jpgphraiphsrphn inpraethsithymikhtikarbuchathawewswnxikrupaebbhnung odyeriykethphecaxngkhniwa phraiphsrphn tamnaminphasasnskvt iws rwn muxkhwathuxtabxng muxsayykesmxhnaxkaesdngkarhamprammiih ethwda thaphid enuxngcakmihnathirksakhwameriybrxyyutithrrminswrrkh thuknamaepnsylksnkhxngxykarmanan khadwatngaetaerktngemuxkwa 100 pimaaelwenuxngcakykkrabtr chuxeriykxykarinsmyobran hruxxykarinpccubnkmihnathirksakhwamyutithrrmaelakdhmayechnediywkbhnathikhxngphraiphsrphninswrrkh aetyngtrwcimphbhlkthanwaidmiprakasepnthangkarihichrupphraiphsrphnepnekhruxnghmayrachkarkhxngxykartngaetemuxid sylksnkhxngxykar tamphrarachkvsdikaekhruxngaebbkharachkarxykaraelaraebiybkaraetngkay ph s 2524 kahndekhruxngaebbkharachkarxykarsungrwmthungekhruxnghmaythipradb cungtrwcsxbdupraktkhawa rupphraiphsrphn epnolhasithxngsungkdhmaynikahndwithikarich dngni krniekhruxngaebbphithikar echn ekhruxngaebbpktikhaw ekhruxngaebbetmys l ihtidthbxyubnxinthrthnukhxnmathangdanihl sahrbekhruxngaebbsikakikhxphb kbekhruxngaebbsikakikhxaeba ihpradbthbxyubnphunxinthrthnuphayinkhmwdwngklm thankhxngrupphraiphsrphnxyuehnuxaethbtn krnixykarchn 3 khunip hruxxyubnaethbthisxngkhxngxinthrthnu krnixykarchn 1 aelachn 2 txmain ph s 2503 idmikdhmayxxkmakahndihkharachkarxykarichekhruxnghmaynimapradbbnxinthrthnuephuxbngaesdngihehnwakharachkarxykaraetktangcakkharachkarphleruxn aelatxmain ph s 2513 kidmiprakassanknaykrthmntrikahndihichrupthawkuewr hruxthawewssuwn epnekhruxnghmayrachkarkhxngkrmkarsarwtrthharbksungepnhnwynganrksakhwamsngberiybrxykhxngfaythhar swnphraiphsrphnyngkhngepnsylksnpradbbaesuxekhruxngaebbxykarthngsxngkhangtlxdma aelain ph s 2535 sanknganxykarsungsudkidrbphrarachthanphrabrmrachanuyatihichrupphramhaphichymngkud sungepnswnhnungkhxngtraaephndinwangxyubntrachngsungepnekhruxnghmaykhxngnkkdhmay prakxbkbxik 3 ruprwmknepnekhruxnghmayrachkarkhxngsankxykarsungsud khux phrakhrrkh rxngrbdwy ruptraihmnithuxepnekhruxnghmayrachkarkhxnghnwyngantamprakassanknaykrthmntri lngwnthi 26 minakhm ph s 2535 inwarathihnwyngankhxngxykaridepliynaeplngsthanaphaphcakhnwynganradbkrmkhunkbkrathrwngmhadithy maepnsanknganimsngkdkrathrwng swnphnknganxykarinpccubnrththrrmnuyaelakdhmaytang idkhyaybthbathxxkipmak rwmthngkahndhnathixykaripthungeruxngthangkaremuxngephraaxykarmihnathitxngxanwykhwamyutithrrmthangkaremuxngdwynnexngekrdkhwamruekiywkbthawewssuwnkbkhuyhkaykssaranukrmithy chbbrachbnthitysthan elmthi 3 hna 1439 klawthungthawkuewrhruxthawewswniwwa kuewr thaw phrayayksphuepnecaaehngkhumthrphymiyks aelakhuyhka yksphuefakhumthrphy epnbriwar smyhnungphraophthistweswychatiekidepnbidakhxngedkhyingtabxd phraophthistwrkaelasngsarluksawtabxdkhnnimak xyumawnhnungidyinkhawwamihmxthiekngducethwda cungedinthangnaluksawtabxdiphahmxkhnnn ephuxihrksadwngtakhxngluksaw hmxcungbxkwatxngichsmuniphrchnidhnungmathaepnekhruxngprakxbyacungrksaorkhtakhxngluksawid aethmximmismuniphrchnidnn aelasmuniphrchnidnnhayak txngipexainsthanthiaehnghnung thixntraymakcungcaidma emuxkhnepnphxrusthanthiaelalksnasmuniphraelw cungfakphrryaihduaelbutrsawinkhnathitnexngiphasmuniphr thahayipnanekinipaeplwatayaelw emuxfakfngeriybrxycungxxkedinthangiphayasmuniphr khnepnphxnnidedinthangekhasuphunthikhxngkhuyhkaykshruxyksphuefakhumthrphy sungepnbriwarkhxngthawewssuwnrksaxyu odythawewssuwnihyksihrksasingsakhybangxyang aelaihxnuyatiwwaikhrekhamainxanaekhtthiefarksaihkhaaelacbkinepnxaharid cungthaihkhnepnphxnnthukykscbaelacakinepnxahar aetthawewssuwnidihprisnathrrmexaiw thaikhrtxbid hamkhaeddkhad ephuxihoxkaskbkhnmibuy khnyngmiochkh yngimthungkhrawtay phumipyya aelakhnmithrrma idrxdchiwit sungaetlasthanthicaihprisnathrrmthiaetktangknkbykskhuyhkaaetlatn sungykskhuyhkatnniidprisnathrrmchuxwaphrhmwiharpyha sungthamwa inphrhmwiharthng 4 khux emtta kruna muthita xuebkkha khxihnsakhythisud phuepnphxcungphicarnawa luksawkhxngtntabxd naxahardi esuxphaswyihiskimchwyihmikhwamsukh khnthipwyepnorkhthithukkhthrmantxihhaxahar karaesdngdixyangir kimchwyihmikhwamsukhid khatxbcungimichemtta cungphicarnatxipwa luksawkhxngekhatabxd cungimmiikhrmaxiccharisyaluksawekhaaen luksawkhxngekhaimtxngkarmuthita khatxbcungimichmuthita luksawekhatabxd imekhyipsrangkhwameduxdrxnihikhr cungimtxngkarihikhrwangechyhruxihxphyephraaipsrangkhwameduxdrxnihkbkhnxun luksawekhaimtxngkarxuebkkha khatxbcungimichxuebkkha aetluksawkhxngekhatxngkarphnthukkh txngkarhaytabxd luksawkhxngekhatxngkarkhwamkruna khatxbcungtxngepnkrunaaen cungtxbkhathamykskhuyhkaipwakruna ykscungechlywathuktxngaelw cungkhakhnepnphximid tamkhasngthawewssuwn cungplxytwkhnepnphxaelwthamwamathaxairthini cungidkhatxbwamahasmuniphrlksnaechnninaiprksadwngtaluksaw yksruckcungchibxktnsmuniphr ihkhnepnphx khnepnphxcungidtnsmuniphraelaklbbanipephuxnasmuniphrihhmxnaiprksadwngtaluksawcnhayepnpkti dngnn inphuththkhunthng 3 khux pyyathikhun krunathikhun brisuththikhun hnunginnnkhuxkruna imichemtta muthita hruxxuebkkha ephraakruna epnthrrmthisakhythisudin phrhmwihar 4 xikeruxnghnung phraophthistwekidepnecachay thihlngekhaipinphunthikhxngykskhuyhka sungykskhuyhkannidrbprisnathrrmchuxwaethwthrrmpyha khuxthamwathrrmthithaihkhnepnethwdakhuxxair phraophthistwtxbwahirioxttppaaelaktyyuktewthi sungepnkhatxbthithuktxngechnkn ephraaaemcayngimtayphumithrrmsxngxyangniidkhunchuxepnethwdatngaetyngmichiwitxyuxangxingrachbnthitysthan phcnanukrm chbbrachbnthitysthan ph s 2554 echlimphraekiyrtiphrabathsmedcphraecaxyuhw krungethph rachbnthitysthan 2556 hna 1130duephimwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb thawewswn bthkhwamkhwamechuxniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk