บาศกนิยม (อังกฤษ: cubism) เป็นลัทธิการสร้างสรรค์ศิลปะที่ได้รับผลสะท้อนมาจากอิทธิพลด้านความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และจากลักษณะรูปแบบหน้ากากของชนเผ่าดั้งเดิมในแอฟริกา ซึ่งได้ปลุกเร้าการสร้างสรรค์แบบใหม่ รวมทั้งลักษณะการของศิลปินสมัยใหม่ที่พยายามแสวงหาลักษณะเฉพาะตัวให้กับตนเอง เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับลักษณะรูปแบบศิลปะกลุ่มอื่นที่ผ่านมาหรือที่มีอยู่ในยุคนั้น ซึ่งมีหลักสุนทรียภาพที่แสดงรูปทรงศิลปะในลักษณะผันแปรความจริง โดยให้มีลักษณะเป็นเหลี่ยมมุม เป็นลูกบาศก์ เป็นทรงเรขาคณิต เพื่อสร้างความคิดรวบยอดเชิงสามมิติให้ปรากฏในผืนระนาบสองมิติหรือสามมิติ แสดงออกทั้งงานจิตรกรรมและประติมากรรม หากเป็นงานจิตรกรรมรูปแบบผลงานก็จะสามารถแสดงลักษณะปรากฏทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังบนพื้นระนาบไปพร้อมกัน บางทีก็แสดงการทับซ้อนและปิดบังระหว่างกัน รวมทั้งมีการตัดทอนรูปทรงให้ดูง่ายขึ้นกว่ารูปจริงของวัตถุหรือสภาวะที่แท้จริงของรูปทรงนั้น ๆ ด้วย
ประวัติ
แนวคิดและจุดเริ่มต้น
บาศกนิยมนับเป็นวิวัฒนาการของวงการศิลปะอย่างสำคัญ โดยศิลปินสองคน คือ ฌอร์ฌ บรัก และปาโบล ปีกัสโซ ซึ่งทั้งสองต่างมีจุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจจากผลงานของปอล เซซาน ซึ่งมีความคิดว่า "โครงสร้างเรขาคณิตเป็นรากฐานของรูปทรงธรรมชาติทั้งมวล" และถ้าเข้าใจรูปทรงของโลกภายนอก และโครงสร้างตามความเป็นจริงแล้ว จงมองดูรูปเหล่านั้นให้เป็นเหลี่ยมเป็นลูกบาศก์ง่าย ๆ ทั้งปีกัสโซและบรักพยายามเน้นคุณค่าของปริมาตร ของวัสดุกับอากาศซึ่งสัมพันธ์กันเต็มไปหมดในภาพ อีกทั้งยังปฏิเสธหลักการของลัทธิประทับใจซึ่งละเลยความสำคัญของรูปทรงและมวลปริมาตร ศิลปินทั้งสองต่างสำรวจรายละเอียดของสิ่งที่พวกเขาต้องการวาด ด้วยการวิเคราะห์และแยกแยะทำลายรูปทรงเหล่านั้นให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่ปะติดปะต่อกัน จากนั้นก็นำมาสังเคราะห์ประกอบกันใหม่ ให้รูปทรงบางรูปทับกัน ซ้อนกัน หรือเหลื่อมล้ำกันก็ได้ โดยมีจุดประสงค์สำคัญในเรื่องการสร้างความงามที่เกิดจากมวลปริมาตรเป็นเป้าหมายสูงสุด
โดยที่มาของชื่อบาศกนิยมนั้นมาจากการที่ฌอร์ฌ บรัก ได้ส่งงานของเขาไปแสดงในนิทรรศการศิลปะที่หอศิลป์ศิลปินอิสระ (Salon des Artistes Indépendants) ในกรุงปารีส และถูกปฏิเสธไม่ให้แสดงงาน และนำผลงานทั้งหมดออกจากนิทรรศการ โดยมีนักวิจารณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลงานของบรักว่า เป็นการสร้างสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขนาดเล็กทั้งสิ้น และเป็นผลงานที่ไม่เห็นความสำคัญของรูปทรงและตัดทอนทุกอย่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน รูปร่างของสิ่งต่าง ๆ โดยบรักตัดทอนให้เกิดรูปทรงเรขาคณิตและนำไปสู่รูปทรงแบบลูกบาศก์
โดยในแรกเริ่มนั้น ปีกัสโซและบรักเริ่มทำงานในแบบบาศกนิยมร่วมกันนั้น ปีกัสโซเปิดเผยว่า "ตอนที่เริ่มเขียนภาพในแนวทางนี้นั้น พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างรูปสี่เหลี่ยม แต่เพียงแต่ต้องการแสดงความคิดพวกเขาออกมาเท่านั้น" และในการที่จะแสดงออกให้ตรงกับความคิดของทั้งสอง ก็จำเป็นต้องทำการค้นหาโครงสร้างใหม่ และต้องเปลี่ยนแนวศิลปะไปในทางตรงกันข้ามกับศิลปะลัทธิประทับใจ ด้วยเหตุดังนี้ เขาจึงต้องละเลยเรื่องสีและสัมผัสเพื่อหันไปค้นหาเรื่องโครงสร้างซึ่งจะเป็นพื้นฐานขององค์ประกอบ โดยจัดระเบียบเสียใหม่
มุมมองเทคนิคและรูปแบบ
ศิลปะแบบบาศกนิยมเกิดจากการที่ศิลปินไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางศิลปะที่ต่างไปจากแบบเก่าโดยสิ้นเชิง มันยากแก่การจำกัดความให้ เพราะบาศกนิยมมันไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎี ระบบ หรือแม้แต่รูปแบบเพียงแบบเดียว หากแต่บาศกนิยมได้พยายามค้นคว้าจากแนวทางในการสร้างสรรค์ งานศิลปะ ที่แสดงให้เห็นวัตถุ โดยให้ความรู้สึกว่าภาพนั้น ๆ ถูกสร้างขึ้นด้วยสีบนผืนผ้าใบ ไม่ใช่เพียงแค่การเลียนแบบวัตถุเท่านั้น ให้สายตามองเห็นเป็นจริงอย่างธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม ศิลปะแบบบาศกนิยมก็ไม่ใช่ศิลปะนามธรรมโดยแท้จริง เพราะว่าบาศกนิยมยังมีเนื้อหาเรื่องราวในภาพอยู่ แต่สิ่งที่บาศกนิยมให้ความสนใจคือการมุ่งไปที่ลักษณะของวัตถุทางรูปทรงที่เราเห็นได้ด้วยความคิด ดังนั้น บาศกนิยมจึงเป็นแนวทางศิลปะที่พยายามจะเชื่อมโยงทั้งความคิดและสายตาเข้าด้วยกัน
ปีกัสโซและบรักนั้นได้แรงบันดาลใจในการทำศิลปะแบบบาศกนิยมจากเซซานในเรื่องโครงสร้างและการไม่ลวงตา บาศกนิยมทำตามหลักการวิเคราะห์ โครงสร้าง และการแปรระนาบ แล้วสร้างรูปทรงที่เป็นเหลี่ยมเป็นสันขึ้นมา โดยลดระยะในช่วงความลึกจากโลกแห่งทิวทัศน์จริงลงมา ทำให้มวลสารทั้งหลายอัดรวมกันเหมือนภาพนูน บาศกนิยมแบบวิเคราะห์ (analytical cubism) จะตัดรายละเอียดซับซ้อนของวัตถุจริงออกไป บ้านและต้นไม้จะลดรูปทรงลง เหลือแค่ก้อนเหลี่ยมหรือรูปโค้งอย่างง่าย ๆ
บาศกนิยมจะมีแนวทางที่ไม่แสดงให้เห็นได้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร แต่จะใช้ให้สิ่งต่าง ๆ นั้นมาปรากฏคู่กันเสมอ เช่น ในการสร้างปริมาตร (volume) แต่ในขณะที่ก็มีการใช้สีแบนราบตามผืนผ้าใบในบริเวณใกล้เคียง มีการจับลักษณะวัตถุตามที่ตาเห็น ขณะเดียวกันก็จงใจใช้สีที่แสดงให้รู้ว่านี่คือ ผืนผ้าใบแท้ ๆ ไม่ใช่อย่างอื่น ในเรื่องเส้นวาดและสีก็เช่นเดียวกัน เส้นอาจจะถูกกลืนหายเข้าไปในบริเวณสี ขอบร่างที่คมชัดของคนอาจจะเลือนหายเข้าไป กลืนกับระนาบรอบตัวได้โดยง่าย วิธีการทำระนาบให้เชื่อมโยงกันไปเรื่อย ๆ นั้นจะทำโดยการเปลี่ยนระดับสายตาไปด้วยกัน จะพบกับความตื้นลึกที่ต่างกัน แม้มันจะอยู่บนระนาบเดียวกันก็ตาม
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปีกัสโซได้เปลี่ยนแนวทางการทำงานแบบบาศกนิยมมาเป็นบาศกนิยมแบบสังเคราะห์ (synthetic cubism) บาศกนิยมแบบนี้จะมีวัสดุต่าง ๆ เท่าที่หาได้มาปะติดเข้าไปด้วย ภาพที่ใช้วัสดุมาประกอบกันนี้เรียกว่า "ภาพปะติด" (collage) อาจจะใช้แผ่นกระดาษ เศษหนังสือพิมพ์ แผ่นกระจกเงา เส้นเชือก ทราย หรือไพ่ การนำเอาเศษวัสดุเหล่านี้มาใส่ในภาพ สามารถอำพรางความรู้สึกที่ว่า "โลกของภาพเขียนกับโลกของจิตรกรหรือผู้ดูไม่มีอะไรเกี่ยวกัน เป็นคนละโลก" ลดลง ซึ่งจะทำให้คนดูภาพกับจิตรกรมีความเชื่อมโยงกันทางความคิดมากยิ่งขึ้น วัสดุที่เลือกมาใช้นี้จะยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติทางการใช้สอย เมื่อนำมาจัดองค์ประกอบทางศิลปะก็จะได้คุณลักษณะใหม่ที่เป็นนามธรรมในแบบแผนที่แปลกออกไป
บาศกนิยมยุคแรก
ระยะที่ 1 บาศกนิยมแบบหน้าตัด (facet cubism) ระหว่าง ค.ศ. 1907-1909 เป็นบาศกนิยมแบบเริ่มต้น ระยะนี้ศิลปินจะสร้างสรรค์ผลงานโดยการแบ่งแยกวัตถุหรือรูปภาพออกเป็นส่วนประกอบทางเรขาคณิตที่แน่นอน หรืออาจเรียกว่าตัดเป็นเหลี่ยมมุมอย่างหน้าเพชร (facet) ก็ได้ แล้วจึงนำเอาส่วนประกอบย่อยเหล่านั้นมาจัดองค์ประกอบใหม่เข้าด้วยกัน ซึ่งการแสดงออกในระยะเริ่มต้นของบาศกนิยมนี้แสดงให้เห็นอิทธิพลของเซซานอย่างชัดเจน ด้วยพวกเขาได้นำลักษณะรูปแบบของเซซานมาเป็นจุดดลใจและแนวทางการพัฒนาของตน นอกจากนั้น ศิลปินบาศกนิยมยังสนใจศึกษาศิลปกรรมของอนารยชนชาวแอฟริกาและศิลปกรรมแบบอาร์เคอิกของกรีกโบราณด้วย
บาศกนิยมยุคที่สอง
ระยะที่ 2 บาศกนิยมแบบวิเคราะห์ (analytical cubism) ระหว่าง ค.ศ. 1909-1912 เป็นบาศกนิยมที่ได้รับการสร้างขึ้นด้วยการแตกแยกรูปแบบจริงของวัตถุเพิ่มมากขึ้น แล้วจึงนำมาวิเคราะห์ประกอบผ่านผลงาน แสดงให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของวัตถุไปพร้อมกัน บาศกนิยมแบบวิเคราะห์นี้เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับรูปทรงและพื้นที่ พื้นระนาบของวัตถุได้ถูกสร้างขึ้นในแนวใหม่ จากการศึกษาโครงสร้าง และการแสดงให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ (angular and faceted planes) ของวัตถุสิ่งเดียวกันได้หลายด้าน ในส่วนเนื้อหาศิลปะนั้นศิลปินสามารถสร้างสรรค์ด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น เป็นภาพคน หุ่นนิ่ง หรือทิวทัศน์ โดยการใช้สีที่มีลักษณะไม่ฉูดฉาด ภาพระยะนี้มักถูกคลุมไว้ด้วยสีเทา สีน้ำตาลอมแดง สีเขียว และสีดิน
บาศกนิยมยุคที่สาม
ระยะที่ 3 บาศกนิยมแบบสังเคราะห์ (synthetic cubism) ระหว่าง ค.ศ. 1912-1914 บาศกนิยมแบบสังเคราะห์มีพัฒนาการล้ำหน้าเกินกว่าบาศกนิยมที่ผ่านมามาก ศิลปินแสดงออกด้วยการจัดองค์ประกอบมากขึ้น และหยิบเอาเรื่องราวที่ง่ายและใกล้ตัวมาเป็นเนื้อหาแสดงออก เช่น แผ่นกระจก วัตถุที่ปรากฏนห้องทำงาน อาทิ แก้วเหล้า กล่องยาสูบ บุหรี่ ขวดเหล้า ไพ่ เศษผ้า เครื่องดนตรี หนังสือพิมพ์ โดยการใช้เทคนิคภาพปะติดเข้ามาช่วย หรือที่เรียกว่า "flat pattern cubism" จัดวางลงบนผิวระนาบด้านตั้งและนอนในลักษณะแบนราบ ด้วยโครงสร้างของสีที่เข้ากันในลักษณะลึกลับน่าอัศจรรย์ จิตรกรรมบาศกนิยมในระยะหลังนี้จะแสดงรูปทรงต่าง ๆ ของวัตถุด้วยการแบ่งแยกออกจากกันและวางทับซ้อนกันด้วยผิวระนาบ (overlapping planes) และเส้น มีค่าของสีและลักษณะผิวพื้นที่แตกต่างกัน ดังเช่น ภาพหญิงสาวกับกีตาร์ ของฌอร์ฌ บรัก และภาพคนเล่นไพ่ของปีกัสโซ ซึ่งศิลปินทั้งสองมีเป้าหมายด้านการแสดงออกมากกว่าคำนึงถึงเนื้อหา
จุดมุ่งหมายและการตีความ
กระแสบาศกนิยมมีความเชื่อทางศิลปะว่า การแสดงออกทางศิลปะนั้น นอกจากจะต้องไม่ถ่ายทอดตามความเป็นจริงตามตาเห็นแล้ว ศิลปินยังจะต้องกลั่นกรองรูปทรงด้วยการวิเคราะห์และสังเคราะห์รูปทรงให้เหลือเพียงแก่นที่แท้จริงและมั่นคงแข็งแรงด้วยปริมาตรของรูปทรงที่แข็งแรงอัดแน่นอีกด้วย ส่วนมิติแห่งความลึกถูกทำให้ปรากฏด้วยการใช้เหลี่ยมมุมประดุจเพชรที่ถูกเจียระไน ทำให้เกิดเงาทับซ้อนและเล่นแง่มุมด้วยขอบเขตของภาพที่ประสานสัมผัสกันอย่างเป็นจังหวะภายใต้การให้สีที่ไม่ฉูดฉาดรุนแรง เปลี่ยนแปลงรูปทรงธรรมชาติ มาสู่การจัดองค์ประกอบแบบนามธรรมทางเรขาคณิต ในลักษณะทับซ้อนกันบ้าง หรือมีรูปทรงบางใสซ้อนสลับกันบ้าง ใช้สีแบนราบปราศจากแสงและเงา มีความกลมกลืนหรือตัดกัน
หากพิจารณารูปแบบศิลปะของกระแสบาศกนิยมโดยภาพรวม จะเห็นมีลักษณะเป็นลูกบาศก์ ดังนั้นผลงานดังกล่าวจึงถูกเรียกว่าบาศกนิยม อย่างไรก็ตามลักษณะเฉพาะประการแรกของบาศกนิยมประการสำคัญคือ การแสดงออกด้านการสร้างสรรค์ของศิลปินจะอยู่ภายใต้การควบคุมขอบเขตของผลงานและความรู้สึกของศิลปินให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์และหลักการเสมอ ศิลปินคำนึงถึงความมีระยะใกล้ไกลในภาพ ด้วยรูปทรงขนาด การทับซ้อน การบัง และความโปร่งใสเหมือนภาพเอกซเรย์ จะคำนึงถึงการตัดทอน การย่อและขยายส่วน และการบิดเบือนรูปทรง ให้อิสรเสรีแก่ผู้ชม และการสร้างสรรค์งานศิลปะจะคำนึงถึงหลังการจัดองค์ประกอบศิลป์
ประติมากรรมบาศกนิยม
จิตรกรรมกระแสบาศกนิยมยังมีอิทธิพลต่อประติมากรรมอย่างเด่นชัด ด้วยปีกัสโซเคยสร้างประติมากรรมเพื่อเพิ่มพูนการค้นคว้าของกระแสนี้ควบคู่ไปกับจิตรกรรมด้วย เพราะบางอย่างในประติมากรรมแสดงออกเป็นรูปธรรมได้มากกว่าจิตรกรรม นอกจากการปั้นรูปด้วยดินเหนียวและหล่อด้วยโลหะแล้ว ปีกัสโซยังได้พัฒนาสร้างงานด้วยไม้ระบายสีด้วย เขาริเริ่มนำเศษโลหะมาเชื่อมต่อกันเป็นรูป โดยนำเศษชิ้นส่วนของเครื่องจักรซึ่งมีรูปร่างต่าง ๆ แต่ละชิ้นมีรูปทรงสำเร็จรูปอยู่แล้ว นำชิ้นสำเร็จรูปเหล่านั้นเข้ามารวมกันอยู่ในรูปเดียว ซึ่งก่อให้เกิดความคิดแก่พวกดาดาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม มีประติมากรแท้ ๆ หลายคนทำงานตามแนวอุดมคติของกระแสบาศกนิยมอย่างสัมฤทธิผล
ตัวอย่างศิลปินสำคัญ
- ปาโบล ปีกัสโซ (Pablo Picasso, ค.ศ. 1881-1973) ผลงานสำคัญคือ La Vie, 1903; Family of Saltimbanques, 1905; Les Demoisselles D’AVIGON, 1907; Woman with Mandolin, 1910; Girl with Mandolin, 1910; Pierrot and Harlequin, 1910; Women in White, 1923; Three Dances, 1925; Woman of Algiers, 1932; Girl before for a mirror, 1932; Weeping Woman, 1937; Guernica, 1937
- ฌอร์ฌ บรัก (George Braque, ค.ศ. 1882-1963) ผลงานสำคัญคือ Houses at L’estaque, 1908; The Musician’s Table, 1913; The Black Pedestal Table, 1919; Horse’s Head, 1943; The Salon, 1944
- (Fernand Leger, ค.ศ. 1881-1955) ผลงานสำคัญคือ Nudes in the Forest, 1910; City Landscape, 1914; The Builders, 1955
- (Alexander Archipenko, ค.ศ. 1887-1964) ผลงานสำคัญคือ Woman Combing her Hair, 1915
- (Jacques Lipchitz, ค.ศ. 1891-1973) ผลงานสำคัญคือ The Large Bathers, 1923-1925; Mother and Child, 1941-1945
- (Henri Laurens, ค.ศ. 1885-1954) ผลงานสำคัญคือ Man With Pipe, 1919
- (Ossip Zadkine, ค.ศ. 1890-1967) ผลงานสำคัญคือ Commemorative Monument to the Destruction of Rotterdam, 1953-1954
- (Sompot Upa-in, 1934-2014)
อิทธิพลของบาศกนิยมต่อลัทธิอื่น
(orphism) เป็นชื่อที่กีโยม อาปอลีแนร์ กวีและนักวิจารณ์ศิลปะคนสำคัญเป็นคนตั้งให้ในปี ค.ศ. 1911 อธิบายว่า "เป็นงานศิลปะทางจิตรกรรมที่ให้โครงสร้างใหม่ ๆ โดยปราศจากรายละเอียด ศิลปะแบบนี้ไม่ได้นำมาจากสิ่งที่มองเห็นด้วยตาธรรมดา แต่มีอยู่ในการสร้างสรรค์ของศิลปินและแสดงออกโดยศิลปินต่อความสมบูรณ์ของจริง" งานของกลุ่มออร์ฟิสต์ก็คือบาศกนิยมในรูปลักษณะหนึ่งที่ได้พัฒนาขึ้นอีกขั้น เป็นงานที่มีหลักการอยู่บนพื้นฐานของการใช้สีอันงดงาม แสดงออกถึงการเกี่ยวพันกันระหว่างสีกับรูปทรง จิตรกรที่ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้นำในกลุ่มนี้คือ (Robert Delaunay) ผลงานส่วนมากจะเป็นเรื่องของปริมาตรกับสี เขาชอบแสดงผลของอารมณ์ต่อสีที่บริสุทธิ์สดใสซึ่งเกิดจากการเคยฝึกฝนตามแนวคิดของลัทธิประทับใจมาก่อน แต่พอปี ค.ศ. 1911 ก็ได้มีการนำความคิดของบาศกนิยมมาปรับใช้ เขาจัดแสดงงานร่วมกลับกลุ่มจิตรกรอิสระในห้องแสดงของพวกบาศกนิยม อาปอลีแนร์ได้กล่าวถึงผลงานของเขาระยะนั้นว่า "มีคุณค่าของสีที่ให้ความรู้สึกร่าเริงดุจดนตรีอันบริสุทธิ์" ระหว่างปี ค.ศ. 1910-1912 เดอโลแนได้วาดภาพชุดกรุงปารีสและหอไอเฟลไว้หลายภาพ ภาพชุดนี้มีรูปแบบวิธีการสังเคราะห์เรื่องรูปทรงเช่นเดียวกับบาศกนิยม ต่างกันตรงที่ผลงานของเดอโลแนเต็มไปด้วยแสงสีอันสดใส แลดูมีความเคลื่อนไหว อันได้รับอิทธิพลบางประการของพวกอนาคตนิยมเข้าผสมด้วย และต่อมาแนวคิดนี้ได้ผ่านเข้าไปในความคิดของวาซีลี คันดินสกี และกลายเป็นต้นกำเนิดอย่างหนึ่งในหลายสาเหตุของการเกิดลัทธิศิลปะนามธรรม ซึ่งกฎเกณฑ์นี้คือ การใช้แสงอาทิตย์ผสมกับรูปทรงในทรรศนะของบาศกนิยม
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- กำจร สุนพงษ์ศรี. ศิลปะสมัยใหม่ (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554)หน้า 423-426.
- จิระพัฒน์ พิตรปรีชา. โลกศิลปะศตวรรษที่ 20 (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2545).
- สมยศ ยังตาล. ประติมากรรมสร้างสรรค์ : กรณีศึกษาประติมากรรมรูปทรงคนศิลปะบาศกนิยมของอเล็กซานเดอร์ อาร์คิเปงโก และจากส์ ลิปซิทซ์ ช่วง ค.ศ. 1909-1930 = Creative sculpture : a case study of Cubist figure sculpture : Alexander Archipenko and Jaques Liphit วิทยานิพนธ์ ((ศป.ม (ทัศนศิลป์)) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2546.
- Lynn Gamwell. Cubist criticism (Ann Arbor, Mich. : UMI Research Press, c1980).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
baskniym xngkvs cubism epnlththikarsrangsrrkhsilpathiidrbphlsathxnmacakxiththiphldankhwamecriythangwithyasastr aelacaklksnarupaebbhnakakkhxngchnephadngediminaexfrika sungidplukerakarsrangsrrkhaebbihm rwmthnglksnakarkhxngsilpinsmyihmthiphyayamaeswnghalksnaechphaatwihkbtnexng ephuximihthbsxnkblksnarupaebbsilpaklumxunthiphanmahruxthimixyuinyukhnn sungmihlksunthriyphaphthiaesdngrupthrngsilpainlksnaphnaeprkhwamcring odyihmilksnaepnehliymmum epnlukbask epnthrngerkhakhnit ephuxsrangkhwamkhidrwbyxdechingsammitiihpraktinphunranabsxngmitihruxsammiti aesdngxxkthngngancitrkrrmaelapratimakrrm hakepnngancitrkrrmrupaebbphlngankcasamarthaesdnglksnapraktthngdanhna dankhang aeladanhlngbnphunranabipphrxmkn bangthikaesdngkarthbsxnaelapidbngrahwangkn rwmthngmikartdthxnrupthrngihdungaykhunkwarupcringkhxngwtthuhruxsphawathiaethcringkhxngrupthrngnn dwyphlnganaebbbaskniymprawtiaenwkhidaelacuderimtn baskniymnbepnwiwthnakarkhxngwngkarsilpaxyangsakhy odysilpinsxngkhn khux chxrch brk aelapaobl piksos sungthngsxngtangmicuderimtnaerngbndaliccakphlngankhxngpxl essan sungmikhwamkhidwa okhrngsrangerkhakhnitepnrakthankhxngrupthrngthrrmchatithngmwl aelathaekhaicrupthrngkhxngolkphaynxk aelaokhrngsrangtamkhwamepncringaelw cngmxngdurupehlannihepnehliymepnlukbaskngay thngpiksosaelabrkphyayamennkhunkhakhxngprimatr khxngwsdukbxakassungsmphnthknetmiphmdinphaph xikthngyngptiesthhlkkarkhxnglththiprathbicsunglaelykhwamsakhykhxngrupthrngaelamwlprimatr silpinthngsxngtangsarwcraylaexiydkhxngsingthiphwkekhatxngkarwad dwykarwiekhraahaelaaeykaeyathalayrupthrngehlannihklayepnchinelkchinnxyimpatidpatxkn caknnknamasngekhraahprakxbknihm ihrupthrngbangrupthbkn sxnkn hruxehluxmlaknkid odymicudprasngkhsakhyineruxngkarsrangkhwamngamthiekidcakmwlprimatrepnepahmaysungsud odythimakhxngchuxbaskniymnnmacakkarthichxrch brk idsngngankhxngekhaipaesdnginnithrrskarsilpathihxsilpsilpinxisra Salon des Artistes Independants inkrungparis aelathukptiesthimihaesdngngan aelanaphlnganthnghmdxxkcaknithrrskar odyminkwicarnaesdngkhwamehnekiywkbphlngankhxngbrkwa epnkarsrangsiehliymlukbaskkhnadelkthngsin aelaepnphlnganthiimehnkhwamsakhykhxngrupthrngaelatdthxnthukxyangxxkip imwacaepnxakharbaneruxn ruprangkhxngsingtang odybrktdthxnihekidrupthrngerkhakhnitaelanaipsurupthrngaebblukbask odyinaerkerimnn piksosaelabrkerimthanganinaebbbaskniymrwmknnn piksosepidephywa txnthierimekhiynphaphinaenwthangninn phwkekhaimidtngiccasrangrupsiehliym aetephiyngaettxngkaraesdngkhwamkhidphwkekhaxxkmaethann aelainkarthicaaesdngxxkihtrngkbkhwamkhidkhxngthngsxng kcaepntxngthakarkhnhaokhrngsrangihm aelatxngepliynaenwsilpaipinthangtrngknkhamkbsilpalththiprathbic dwyehtudngni ekhacungtxnglaelyeruxngsiaelasmphsephuxhnipkhnhaeruxngokhrngsrangsungcaepnphunthankhxngxngkhprakxb odycdraebiybesiyihm mummxngethkhnikhaelarupaebb silpaaebbbaskniymekidcakkarthisilpinipepliynaeplngokhrngsrangthangsilpathitangipcakaebbekaodysineching mnyakaekkarcakdkhwamih ephraabaskniymmnimichephiyngaekhthvsdi rabb hruxaemaetrupaebbephiyngaebbediyw hakaetbaskniymidphyayamkhnkhwacakaenwthanginkarsrangsrrkh ngansilpa thiaesdngihehnwtthu odyihkhwamrusukwaphaphnn thuksrangkhundwysibnphunphaib imichephiyngaekhkareliynaebbwtthuethann ihsaytamxngehnepncringxyangthrrmchati aetxyangirktam silpaaebbbaskniymkimichsilpanamthrrmodyaethcring ephraawabaskniymyngmienuxhaeruxngrawinphaphxyu aetsingthibaskniymihkhwamsnickhuxkarmungipthilksnakhxngwtthuthangrupthrngthieraehniddwykhwamkhid dngnn baskniymcungepnaenwthangsilpathiphyayamcaechuxmoyngthngkhwamkhidaelasaytaekhadwykn piksosaelabrknnidaerngbndalicinkarthasilpaaebbbaskniymcakessanineruxngokhrngsrangaelakarimlwngta baskniymthatamhlkkarwiekhraah okhrngsrang aelakaraeprranab aelwsrangrupthrngthiepnehliymepnsnkhunma odyldrayainchwngkhwamlukcakolkaehngthiwthsncringlngma thaihmwlsarthnghlayxdrwmknehmuxnphaphnun baskniymaebbwiekhraah analytical cubism catdraylaexiydsbsxnkhxngwtthucringxxkip banaelatnimcaldrupthrnglng ehluxaekhkxnehliymhruxrupokhngxyangngay baskniymcamiaenwthangthiimaesdngihehnidchdwaxairepnxair aetcaichihsingtang nnmapraktkhuknesmx echn inkarsrangprimatr volume aetinkhnathikmikarichsiaebnrabtamphunphaibinbriewniklekhiyng mikarcblksnawtthutamthitaehn khnaediywknkcngicichsithiaesdngihruwanikhux phunphaibaeth imichxyangxun ineruxngesnwadaelasikechnediywkn esnxaccathukklunhayekhaipinbriewnsi khxbrangthikhmchdkhxngkhnxaccaeluxnhayekhaip klunkbranabrxbtwidodyngay withikartharanabihechuxmoyngkniperuxy nncathaodykarepliynradbsaytaipdwykn caphbkbkhwamtunlukthitangkn aemmncaxyubnranabediywknktam inchwngsngkhramolkkhrngthi 1 piksosidepliynaenwthangkarthanganaebbbaskniymmaepnbaskniymaebbsngekhraah synthetic cubism baskniymaebbnicamiwsdutang ethathihaidmapatidekhaipdwy phaphthiichwsdumaprakxbknnieriykwa phaphpatid collage xaccaichaephnkradas esshnngsuxphimph aephnkrackenga esnechuxk thray hruxiph karnaexaesswsduehlanimaisinphaph samarthxaphrangkhwamrusukthiwa olkkhxngphaphekhiynkbolkkhxngcitrkrhruxphuduimmixairekiywkn epnkhnlaolk ldlng sungcathaihkhnduphaphkbcitrkrmikhwamechuxmoyngknthangkhwamkhidmakyingkhun wsduthieluxkmaichnicayngkhngiwsungkhunsmbtithangkarichsxy emuxnamacdxngkhprakxbthangsilpakcaidkhunlksnaihmthiepnnamthrrminaebbaephnthiaeplkxxkip baskniymyukhaerk rayathi 1 baskniymaebbhnatd facet cubism rahwang kh s 1907 1909 epnbaskniymaebberimtn rayanisilpincasrangsrrkhphlnganodykaraebngaeykwtthuhruxrupphaphxxkepnswnprakxbthangerkhakhnitthiaennxn hruxxaceriykwatdepnehliymmumxyanghnaephchr facet kid aelwcungnaexaswnprakxbyxyehlannmacdxngkhprakxbihmekhadwykn sungkaraesdngxxkinrayaerimtnkhxngbaskniymniaesdngihehnxiththiphlkhxngessanxyangchdecn dwyphwkekhaidnalksnarupaebbkhxngessanmaepncuddlicaelaaenwthangkarphthnakhxngtn nxkcaknn silpinbaskniymyngsnicsuksasilpkrrmkhxngxnarychnchawaexfrikaaelasilpkrrmaebbxarekhxikkhxngkrikobrandwy baskniymyukhthisxng rayathi 2 baskniymaebbwiekhraah analytical cubism rahwang kh s 1909 1912 epnbaskniymthiidrbkarsrangkhundwykaraetkaeykrupaebbcringkhxngwtthuephimmakkhun aelwcungnamawiekhraahprakxbphanphlngan aesdngihehnaengmumtang khxngwtthuipphrxmkn baskniymaebbwiekhraahniepnkarwiekhraahekiywkbrupthrngaelaphunthi phunranabkhxngwtthuidthuksrangkhuninaenwihm cakkarsuksaokhrngsrang aelakaraesdngihehnaengmumtang angular and faceted planes khxngwtthusingediywknidhlaydan inswnenuxhasilpannsilpinsamarthsrangsrrkhdwyenuxhathihlakhlay echn epnphaphkhn hunning hruxthiwthsn odykarichsithimilksnaimchudchad phaphrayanimkthukkhlumiwdwysietha sinatalxmaedng siekhiyw aelasidin baskniymyukhthisam rayathi 3 baskniymaebbsngekhraah synthetic cubism rahwang kh s 1912 1914 baskniymaebbsngekhraahmiphthnakarlahnaekinkwabaskniymthiphanmamak silpinaesdngxxkdwykarcdxngkhprakxbmakkhun aelahyibexaeruxngrawthingayaelaikltwmaepnenuxhaaesdngxxk echn aephnkrack wtthuthipraktnhxngthangan xathi aekwehla klxngyasub buhri khwdehla iph esspha ekhruxngdntri hnngsuxphimph odykarichethkhnikhphaphpatidekhamachwy hruxthieriykwa flat pattern cubism cdwanglngbnphiwranabdantngaelanxninlksnaaebnrab dwyokhrngsrangkhxngsithiekhakninlksnaluklbnaxscrry citrkrrmbaskniyminrayahlngnicaaesdngrupthrngtang khxngwtthudwykaraebngaeykxxkcakknaelawangthbsxnkndwyphiwranab overlapping planes aelaesn mikhakhxngsiaelalksnaphiwphunthiaetktangkn dngechn phaphhyingsawkbkitar khxngchxrch brk aelaphaphkhnelniphkhxngpiksos sungsilpinthngsxngmiepahmaydankaraesdngxxkmakkwakhanungthungenuxha cudmunghmayaelakartikhwam kraaesbaskniymmikhwamechuxthangsilpawa karaesdngxxkthangsilpann nxkcakcatxngimthaythxdtamkhwamepncringtamtaehnaelw silpinyngcatxngklnkrxngrupthrngdwykarwiekhraahaelasngekhraahrupthrngihehluxephiyngaeknthiaethcringaelamnkhngaekhngaerngdwyprimatrkhxngrupthrngthiaekhngaerngxdaennxikdwy swnmitiaehngkhwamlukthukthaihpraktdwykarichehliymmumpraducephchrthithukeciyrain thaihekidengathbsxnaelaelnaengmumdwykhxbekhtkhxngphaphthiprasansmphsknxyangepncnghwaphayitkarihsithiimchudchadrunaerng epliynaeplngrupthrngthrrmchati masukarcdxngkhprakxbaebbnamthrrmthangerkhakhnit inlksnathbsxnknbang hruxmirupthrngbangissxnslbknbang ichsiaebnrabprascakaesngaelaenga mikhwamklmklunhruxtdkn Woman Combing Her Hair khxngxarkhiepnokh kh s 1914 hrux 1915 35 9 x 9 2 x 8 1 cm Raymond and Patsy Nasher Collection Dallas Texas 1984 A 40 hakphicarnarupaebbsilpakhxngkraaesbaskniymodyphaphrwm caehnmilksnaepnlukbask dngnnphlngandngklawcungthukeriykwabaskniym xyangirktamlksnaechphaaprakaraerkkhxngbaskniymprakarsakhykhux karaesdngxxkdankarsrangsrrkhkhxngsilpincaxyuphayitkarkhwbkhumkhxbekhtkhxngphlnganaelakhwamrusukkhxngsilpinihepniptamkdeknthaelahlkkaresmx silpinkhanungthungkhwammirayaikliklinphaph dwyrupthrngkhnad karthbsxn karbng aelakhwamoprngisehmuxnphaphexksery cakhanungthungkartdthxn karyxaelakhyayswn aelakarbidebuxnrupthrng ihxisresriaekphuchm aelakarsrangsrrkhngansilpacakhanungthunghlngkarcdxngkhprakxbsilp pratimakrrmbaskniym citrkrrmkraaesbaskniymyngmixiththiphltxpratimakrrmxyangednchd dwypiksosekhysrangpratimakrrmephuxephimphunkarkhnkhwakhxngkraaesnikhwbkhuipkbcitrkrrmdwy ephraabangxyanginpratimakrrmaesdngxxkepnrupthrrmidmakkwacitrkrrm nxkcakkarpnrupdwydinehniywaelahlxdwyolhaaelw piksosyngidphthnasrangngandwyimrabaysidwy ekharierimnaessolhamaechuxmtxknepnrup odynaesschinswnkhxngekhruxngckrsungmiruprangtang aetlachinmirupthrngsaercrupxyuaelw nachinsaercrupehlannekhamarwmknxyuinrupediyw sungkxihekidkhwamkhidaekphwkdadainphayhlng xyangirktam mipratimakraeth hlaykhnthangantamaenwxudmkhtikhxngkraaesbaskniymxyangsmvththiphltwxyangsilpinsakhypaobl piksos Pablo Picasso kh s 1881 1973 phlngansakhykhux La Vie 1903 Family of Saltimbanques 1905 Les Demoisselles D AVIGON 1907 Woman with Mandolin 1910 Girl with Mandolin 1910 Pierrot and Harlequin 1910 Women in White 1923 Three Dances 1925 Woman of Algiers 1932 Girl before for a mirror 1932 Weeping Woman 1937 Guernica 1937 chxrch brk George Braque kh s 1882 1963 phlngansakhykhux Houses at L estaque 1908 The Musician s Table 1913 The Black Pedestal Table 1919 Horse s Head 1943 The Salon 1944 Fernand Leger kh s 1881 1955 phlngansakhykhux Nudes in the Forest 1910 City Landscape 1914 The Builders 1955 Alexander Archipenko kh s 1887 1964 phlngansakhykhux Woman Combing her Hair 1915 Jacques Lipchitz kh s 1891 1973 phlngansakhykhux The Large Bathers 1923 1925 Mother and Child 1941 1945 Henri Laurens kh s 1885 1954 phlngansakhykhux Man With Pipe 1919 Ossip Zadkine kh s 1890 1967 phlngansakhykhux Commemorative Monument to the Destruction of Rotterdam 1953 1954 Sompot Upa in 1934 2014 xiththiphlkhxngbaskniymtxlththixun orphism epnchuxthikioym xapxliaenr kwiaelankwicarnsilpakhnsakhyepnkhntngihinpi kh s 1911 xthibaywa epnngansilpathangcitrkrrmthiihokhrngsrangihm odyprascakraylaexiyd silpaaebbniimidnamacaksingthimxngehndwytathrrmda aetmixyuinkarsrangsrrkhkhxngsilpinaelaaesdngxxkodysilpintxkhwamsmburnkhxngcring ngankhxngklumxxrfistkkhuxbaskniyminruplksnahnungthiidphthnakhunxikkhn epnnganthimihlkkarxyubnphunthankhxngkarichsixnngdngam aesdngxxkthungkarekiywphnknrahwangsikbrupthrng citrkrthiidrbykyxngwaepnphunainklumnikhux Robert Delaunay phlnganswnmakcaepneruxngkhxngprimatrkbsi ekhachxbaesdngphlkhxngxarmntxsithibrisuththisdissungekidcakkarekhyfukfntamaenwkhidkhxnglththiprathbicmakxn aetphxpi kh s 1911 kidmikarnakhwamkhidkhxngbaskniymmaprbich ekhacdaesdngnganrwmklbklumcitrkrxisrainhxngaesdngkhxngphwkbaskniym xapxliaenridklawthungphlngankhxngekharayannwa mikhunkhakhxngsithiihkhwamrusukraeringducdntrixnbrisuththi rahwangpi kh s 1910 1912 edxolaenidwadphaphchudkrungparisaelahxixefliwhlayphaph phaphchudnimirupaebbwithikarsngekhraaheruxngrupthrngechnediywkbbaskniym tangkntrngthiphlngankhxngedxolaenetmipdwyaesngsixnsdis aeldumikhwamekhluxnihw xnidrbxiththiphlbangprakarkhxngphwkxnakhtniymekhaphsmdwy aelatxmaaenwkhidniidphanekhaipinkhwamkhidkhxngwasili khndinski aelaklayepntnkaenidxyanghnunginhlaysaehtukhxngkarekidlththisilpanamthrrm sungkdeknthnikhux karichaesngxathityphsmkbrupthrnginthrrsnakhxngbaskniymduephimhttp www cubistro com cubotimeline html 2012 09 04 thi ewyaebkaemchchin http www metmuseum org toah hd cube hd cube htm http www huntfor com arthistory C20th cubism htm http artyfactory com art appreciation art movements cubism htmxangxingkacr sunphngssri silpasmyihm krungethph sankphimphaehngculalngkrnmhawithyaly 2554 hna 423 426 ciraphthn phitrpricha olksilpastwrrsthi 20 krungethph emuxngobran 2545 smys yngtal pratimakrrmsrangsrrkh krnisuksapratimakrrmrupthrngkhnsilpabaskniymkhxngxelksanedxr xarkhiepngok aelacaks lipsiths chwng kh s 1909 1930 Creative sculpture a case study of Cubist figure sculpture Alexander Archipenko and Jaques Liphit withyaniphnth sp m thsnsilp mhawithyalysrinkhrinthrwiorth 2546 Lynn Gamwell Cubist criticism Ann Arbor Mich UMI Research Press c1980