บานประตูวัดพระฝาง เป็นบานประตูไม้จำหลักปิดทองประดับกระจกโบราณสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์ และเป็นบานประตูพุทธศาสนสถานที่มีความสวยงามมากที่สุด 1 ใน 3 คู่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ คือ บานประตูวิหารวัดพระฝาง, บานประตูพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ และบานประตูวิหารวัดดอนสัก โดยประตูวิหารวัดพระฝางนี้เป็น 1 ใน 2 คู่ บานประตูสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
บานประตูวิหารวัดพระฝาง | |
---|---|
ชื่อสามัญ | ประตูวัดพระฝาง |
บานประตูศาสนสถาน | |
ศิลปะ | ศิลปะอยุธยา |
ความกว้าง | 1.20 เมตร (หนา 0.20 เมตร) |
ความสูง | 5.30 เมตร (อกเลาขนาด 0.15 x 0.24 เมตร) |
วัสดุ | ไม้เนื้อแข็ง |
สถานที่ประดิษฐาน | บานจริง จัดแสดงอยู่ที่อาคารธรรมสภา วัดธรรมาธิปไตย, บานจำลอง จัดแสดงในวิหารหลวงวัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ |
ความสำคัญ | บานประตูไม้จำหลักปิดทองโบราณขนาดใหญ่ แสดงถึงชั้นเชิงในฝีมือช่างไม้ของคนในสมัยอยุธยาที่หาชมได้ยาก และได้รับการยกย่องว่าเป็นบานประตูไม้จำหลักที่มีความใหญ่และสวยงามที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์ |
ส่วนหนึ่งของ |
ปัจจุบันบานประตูวัดพระฝางบานเดิมจัดแสดงอยู่ที่อาคารธรรมสภา วัดธรรมาธิปไตย ภายในตัวเมืองอุตรดิตถ์ ส่วนบานจำลองสร้างใหม่ติดตั้งจัดแสดงอยู่ในกรอบประตูวิหารหลวงวัดพระฝาง สามารถเข้าชมได้ทุกวัน
ประวัติ
ความสำคัญ
บานประตูวัดพระฝาง คู่นี้แกะสลักในสมัยอยุธยา เป็นบานประตูไม้จำหลักปิดทองโบราณขนาดใหญ่ แสดงถึงชั้นเชิงในฝีมือช่างไม้ของคนในสมัยอยุธยาที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน บานประตูคู่นี้แต่ละบานมีขนาดกว้าง 1.2 เมตร สูง 5.5 เมตร และหนาถึง 16 เซนติเมตร ทำจากไม้ปรุแกะสลักเป็นลายกนกก้านขด ลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์ บานละ 7 พุ่ม ระหว่างพุ่มทรงข้าวบิณฑ์มีกนกใบเทศขนาบ สองข้างขวามือด้านบนมีอกเลาประตูอยู่ตรงกลาง แกะสลักเป็นลายเทพพนม ตอนบนอกเลา 4 องค์ตอนล่างอกเลา 4 องค์ กล่าวกันว่างดงามเป็นที่สองรองจากประตูพระวิหารหลวง วัดสุทัศน์ในกรุงเทพมหานครฯ
ในพระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ พุทธศักราช 2444 ได้ทรงกล่าวถึงบานประตูวัดพระฝางไว้ว่า
"พระวิหารหลวงที่เมืองฝางก็เปนลักษณเดียวกันกับที่ทุ่งยั้ง ลายประตูก็เปนลายสลักก้านขด แต่ที่ซึ่งเปนภาพต่าง ๆ นั้นเปนกระหนกใบตั้งปิดทอง... แต่สลักลายเช่นนี้ ใช้ขุดไม้ลงไปให้ลายเด่นออกมา เช่นบานวัดสุทัศน์ แต่เด่นออกมามากกว่าวัดสุทัศน์ ใช้ไม้หนาขุดเอาจริง ๆ ไม่ได้สลักลายมาทาบ ทำงามดีมาก"
— พระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ คราวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ พุทธศักราช ๒๔๔๔
สถานที่จัดแสดง
เดิมบานประตูคู่นี้ติดตั้งเป็นบานประตูของพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุประจำเมืองฝาง (วัดพระฝาง) มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในระยะหลังเมืองฝางเสื่อมความเจริญ วัดพระฝางและวิหารหลวงจึงถูกทิ้งให้รกร้างทรุดโทรมขาดการดูแลรักษา อันตรายต่อการถูกโจรกรรมและถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 พระสุธรรมเมธี (บันลือ ธมฺมธโช) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ในสมัยนั้นจึงได้ขออนุญาตกรมศิลปากรนำมาเก็บรักษาไว้อาคารธรรมสภา วัดธรรมาธิปไตย ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์แทน โดยจากประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในรายการที่ 29.1-29.2 ลงวันที่ 9 กันยายน 2530 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 104 หน้าที่ 10 ตอนที่ 235 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2530 ได้ระบุว่าบานประตูทั้งคู่นี้ ยังคงเป็น "สมบัติของวัดพระฝาง" จนถึงปัจจุบัน
การอนุรักษ์
ในปี พ.ศ. 2534 กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาอนุรักษ์เนื้อไม้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ บานประตูวัดพระฝางจึงมีสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
บานประตูวัดพระฝางจำลอง
ในปี พ.ศ. 2550 สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำบานประตูวัดพระฝางจำลอง เพื่อนำไปติดตั้งที่เดิม ยังกรอบประตูของวิหารหลวงวัดพระฝาง ในคราวงานสมโภชพระฝางทรงเครื่องจำลอง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ในปัจจุบันมีบานประตูวัดพระฝาง 2 คู่
- ลายเทพพนม ศิลปะอยุธยา (บานดั้งเดิม)
- ลวดลายบานประตูวัดพระฝาง (บานดั้งเดิม) ในอาคารธรรมสภา (ชั้นสอง)
ดูเพิ่ม
- วัดธรรมาธิปไตย สถานที่เก็บรักษาบานประตูวิหารวัดพระฝางบานจริง
- เมืองสวางคบุรี
- วัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ ศูนย์กลางเมืองสวางคบุรีโบราณ
- ชุมนุมพระเจ้าฝาง ชุมนุมอิสระหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
- โบราณสถานวัดคุ้งตะเภา สถานที่เกี่ยวเนื่องกับที่ตั้งค่ายพระตำหนักหาดสูงคราวปราบชุมนุมพระเจ้าฝางตามพระราชพงศาวดาร
- พระฝางจำลอง (พระพุทธรูป) องค์จำลองสร้างใหม่ ที่ประดิษฐานในอุโบสถวัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ
- พระฝาง (พระพุทธรูป) องค์จริงที่ประดิษฐานในวิหารสมเด็จ วัดเบญจมบพิตร
อ้างอิง
- ______. (2550). อุตรดิตถ์. แพร่: ห้างหุ้นส่วนจำกัดแพร่ไทยการพิมพ์.
- ราชกิจจานุเบกษา, เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ[], เล่ม 92, ตอน 109, 10 มิถุนายน พ.ศ. 2518, หน้า 1422
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (2465). พระราชหัตถเลขา คราวเสด็จมณฑลฝ่ายเหนือ ในรัชกาลที่ 5 นับในหนังสือเรื่องเที่ยวที่ต่าง ๆเปนภาคที่ 5. กรุงเทพ : โรงพิมพ์ไทย. หน้า 46-47
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ, เล่ม 104, ตอน 235, 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530, หน้า 10
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2518/D/109/1422.PDF
- โครงการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานวัดพระฝางสว่างคบุรีมุนีนาถ (วัดพระฝาง).เว็บไซต์สำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง[]
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
banpratuwdphrafang epnbanpratuimcahlkpidthxngpradbkrackobransmyxyuthyathimikhnadihythisudincnghwdxutrditth aelaepnbanpratuphuththsasnsthanthimikhwamswyngammakthisud 1 in 3 khukhxngcnghwdxutrditth khux banpratuwiharwdphrafang banpratuphrawiharwdphraaethnsilaxasn aelabanpratuwiharwddxnsk odypratuwiharwdphrafangniepn 1 in 2 khu banpratusakhykhxngcnghwdxutrditth thiyngkhnghlngehluxmacnthungpccubnbanpratuwiharwdphrafangchuxsamypratuwdphrafangbanpratusasnsthansilpasilpaxyuthyakhwamkwang1 20 emtr hna 0 20 emtr khwamsung5 30 emtr xkelakhnad 0 15 x 0 24 emtr wsduimenuxaekhngsthanthipradisthanbancring cdaesdngxyuthixakharthrrmspha wdthrrmathipity bancalxng cdaesdnginwiharhlwngwdphrafangswangkhburimuninathkhwamsakhybanpratuimcahlkpidthxngobrankhnadihy aesdngthungchnechinginfimuxchangimkhxngkhninsmyxyuthyathihachmidyak aelaidrbkarykyxngwaepnbanpratuimcahlkthimikhwamihyaelaswyngamthisudincnghwdxutrditthswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna pccubnbanpratuwdphrafangbanedimcdaesdngxyuthixakharthrrmspha wdthrrmathipity phayintwemuxngxutrditth swnbancalxngsrangihmtidtngcdaesdngxyuinkrxbpratuwiharhlwngwdphrafang samarthekhachmidthukwnprawtibanpratuwiharwdphrafangcalxng phayinwiharhlwngwdphrafangswangkhburimuninathkhwamsakhy banpratuwdphrafang khuniaekaslkinsmyxyuthya epnbanpratuimcahlkpidthxngobrankhnadihy aesdngthungchnechinginfimuxchangimkhxngkhninsmyxyuthyathiyngkhnghlngehluxmacnthungpccubn banpratukhuniaetlabanmikhnadkwang 1 2 emtr sung 5 5 emtr aelahnathung 16 esntiemtr thacakimpruaekaslkepnlayknkkankhd layphumthrngkhawbinth banla 7 phum rahwangphumthrngkhawbinthmiknkibethskhnab sxngkhangkhwamuxdanbnmixkelapratuxyutrngklang aekaslkepnlayethphphnm txnbnxkela 4 xngkhtxnlangxkela 4 xngkh klawknwangdngamepnthisxngrxngcakpratuphrawiharhlwng wdsuthsninkrungethphmhankhr inphrarachhtthelkha phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 khrawesdcpraphasmnthlfayehnux phuththskrach 2444 idthrngklawthungbanpratuwdphrafangiwwa phrawiharhlwngthiemuxngfangkepnlksnediywknkbthithungyng laypratukepnlayslkkankhd aetthisungepnphaphtang nnepnkrahnkibtngpidthxng aetslklayechnni ichkhudimlngipihlayednxxkma echnbanwdsuthsn aetednxxkmamakkwawdsuthsn ichimhnakhudexacring imidslklaymathab thangamdimak phrarachhtthelkha phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 khrawesdcpraphasmnthlfayehnux phuththskrach 2444 sthanthicdaesdng edimbanpratukhunitidtngepnbanpratukhxngphrawiharhlwngwdmhathatupracaemuxngfang wdphrafang matngaetsmyxyuthya inrayahlngemuxngfangesuxmkhwamecriy wdphrafangaelawiharhlwngcungthukthingihrkrangthrudothrmkhadkarduaelrksa xntraytxkarthukocrkrrmaelathukthalaycakphythrrmchati dngnnineduxnkumphaphnth ph s 2494 phrasuthrrmemthi bnlux thm mthoch ecakhnacnghwdxutrditthinsmynncungidkhxxnuyatkrmsilpakrnamaekbrksaiwxakharthrrmspha wdthrrmathipity sungxyuintwemuxngxutrditthaethn odycakprakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobranwtthu silpwtthu inraykarthi 29 1 29 2 lngwnthi 9 knyayn 2530 sungprakasinrachkiccanuebksa elmthi 104 hnathi 10 txnthi 235 lngwnthi 18 phvscikayn 2530 idrabuwabanpratuthngkhuni yngkhngepn smbtikhxngwdphrafang cnthungpccubn karxnurks inpi ph s 2534 krmsilpakridsngecahnathimaxnurksenuximdwykrabwnkarthangwithyasastr banpratuwdphrafangcungmisphaphxyangthiehninpccubn banpratuwdphrafangcalxng inpi ph s 2550 sanksilpakrthi 6 suokhthy krmsilpakr krathrwngwthnthrrm idcdthabanpratuwdphrafangcalxng ephuxnaiptidtngthiedim yngkrxbpratukhxngwiharhlwngwdphrafang inkhrawngansmophchphrafangthrngekhruxngcalxng ephuxsngesrimkarthxngethiyw thaihinpccubnmibanpratuwdphrafang 2 khu layethphphnm silpaxyuthya bandngedim lwdlaybanpratuwdphrafang bandngedim inxakharthrrmspha chnsxng duephimwdthrrmathipity sthanthiekbrksabanpratuwiharwdphrafangbancring emuxngswangkhburi wdphrafangswangkhburimuninath sunyklangemuxngswangkhburiobran chumnumphraecafang chumnumxisrahlngesiykrungsrixyuthyakhrngthisxng obransthanwdkhungtaepha sthanthiekiywenuxngkbthitngkhayphratahnkhadsungkhrawprabchumnumphraecafangtamphrarachphngsawdar phrafangcalxng phraphuththrup xngkhcalxngsrangihm thipradisthaninxuobsthwdphrafangswangkhburimuninath phrafang phraphuththrup xngkhcringthipradisthaninwiharsmedc wdebycmbphitrxangxing 2550 xutrditth aephr hanghunswncakdaephrithykarphimph rachkiccanuebksa eruxng khunthaebiynobranwtthu lingkesiy elm 92 txn 109 10 mithunayn ph s 2518 hna 1422 culcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra 2465 phrarachhtthelkha khrawesdcmnthlfayehnux inrchkalthi 5 nbinhnngsuxeruxngethiywthitang epnphakhthi 5 krungethph orngphimphithy hna 46 47 rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobranwtthu elm 104 txn 235 18 phvscikayn ph s 2530 hna 10 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2518 D 109 1422 PDF okhrngkarburnptisngkhrn obransthanwdphrafangswangkhburimuninath wdphrafang ewbistsankmatrthankarcdsuxcdcangphakhrth krmbychiklang krathrwngkarkhlng lingkesiy aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sthanthicdaesdngpratuwdphrafangbanedim wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sthanthicdaesdngpratuwdphrafangbancalxng bthkhwamsilpkrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk