บัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ด หรือ บัลลังก์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด หรือ บัลลังก์ราชาภิเษก (อังกฤษ: St Edward's Chair หรือ King Edward's Chair หรือ The Coronation Chair) บัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ดเป็นพระราชบัลลังก์ที่ใช้ประทับโดยพระมหากษัตริย์อังกฤษในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่สร้างตามพระราชโองการของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 โดยให้มีที่ใส่หินแห่งสโคน (Stone of Scone) ซึ่งเป็นหินสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ที่เดิมเก็บไว้ (Scone Abbey) ที่พระองค์ทรงยึดมา พระราชบัลลังก์มาได้รับชื่อภายหลังตามพระนามของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพผู้เป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษพระองค์เดียวที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นนักบุญ ตัวบัลลังก์เก็บไว้ที่ชาเปลเซนต์เอ็ดเวิร์ดในแอบบีเวสต์มินสเตอร์ พระมหากษัตริย์อังกฤษและพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรทุกพระองค์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1308 ต่างก็ประทับบนบัลลังก์นี้เมื่อได้รับการสวมมงกุฎอย่างเป็นทางการยกเว้นพระราชินีนาถแมรีที่ 1 ผู้ทรงเลือกประทับบนบังลังก์ที่ได้รับการประทานจากพระสันตะปาปา และพระราชินีนาถแมรีที่ 2 ผู้ประทับบนบังลังก์ที่สร้างเลียนแบบบัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ด วาระสุดท้ายที่บัลลังก์นี้ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์คือในพระราชวโรกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในปี ค.ศ. 1953
บัลลังก์เป็นเก้าอี้หลังตรงแบบกอธิคทำจากไม้โอ้คโดยช่างไม้ชื่อมาสเตอร์วอลเตอร์ผู้ได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 100 ชิลลิง ตัวบัลลังก์ตั้งอยู่บนสิงห์ปิดทองสี่ตัวซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับการซ่อมแซมในปี ค.ศ. 1727 แทนสิงห์ที่มาเพิ่มในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ภายไต้ที่นั่งเป็นช่องสำหรับวางหินแห่งสโคนจนกระทั่งปี ค.ศ. 1996 เมื่อถูกส่งคืนไปยังสกอตแลนด์โดยมีข้อแม้ว่าต้องถูกส่งกลับในโอกาสที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งต่อไป บัลลังก์ครั้งหนึ่งอาจจะทาสีสดใสและปิดทอง—และเชื่อกันว่ามีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพอยู่บนด้านหลังของบัลลังก์ แต่ในปัจจุบันเป็นแต่เพียงไม้เปล่าๆ ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 ที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยว, นักแสวงบุญ และเด็กร้องเพลงสวดในแอบบีช่วยกันสลักกราฟฟิตีบนบัลลังก์ และบางส่วนของลวดลายแกะสลักด้านหลังบัลลังก์ก็ถูกเฉือนออกไป
ในระหว่างแปดร้อยปีที่ผ่านมาบัลลังก์ถูกนำออกจากแอบบีเวสต์มินสเตอร์เพียงสองครั้ง ครั้งแรกในการนำไปทำพิธีในท้องพระโรงของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ในโอกาสที่โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าผู้พิทักษ์แห่งอังกฤษ และครั้งที่สองระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อถูกย้ายหนีภัยจากสงครามไปไว้ที่มหาวิหารกลอสเตอร์
ในปัจจุบันพระราชบัลลังก์ตั้งอยู่ในที่ที่ปลอดภัยไม่ไกลจากที่บรรจุพระบรมศพของพระเจ้าเฮนรีที่ 5 และนำออกมาตั้งในบริเวณแท่นบูชาเอกเมื่อมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
อ้างอิง
- Illustrated History Of Furniture, by Frederick Litchfield
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ด
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha bllngkesntexdewird hrux bllngkphraecaexdewird hrux bllngkrachaphiesk xngkvs St Edward s Chair hrux King Edward s Chair hrux The Coronation Chair bllngkesntexdewirdepnphrarachbllngkthiichprathbodyphramhakstriyxngkvsinphrarachphithibrmrachaphiesk thisrangtamphrarachoxngkarkhxngphraecaexdewirdthi 1 odyihmithiishinaehngsokhn Stone of Scone sungepnhinsahrbphrarachphithibrmrachaphieskkhxngphramhakstriyaehngskxtaelndthiedimekbiw Scone Abbey thiphraxngkhthrngyudma phrarachbllngkmaidrbchuxphayhlngtamphranamkhxngphraecaexdewirdphusarphaphphuepnphramhakstriyxngkvsphraxngkhediywthiidrbkarsthapnaihepnnkbuy twbllngkekbiwthichaeplesntexdewirdinaexbbiewstminsetxr phramhakstriyxngkvsaelaphramhakstriyaehngshrachxanackrthukphraxngkhtngaetpi kh s 1308 tangkprathbbnbllngkniemuxidrbkarswmmngkudxyangepnthangkarykewnphrarachininathaemrithi 1 phuthrngeluxkprathbbnbnglngkthiidrbkarprathancakphrasntapapa aelaphrarachininathaemrithi 2 phuprathbbnbnglngkthisrangeliynaebbbllngkesntexdewird warasudthaythibllngkniichinphrarachphithibrmrachaphieskkhxngphramhakstriykhuxinphrarachworkasthismedcphrarachininathexlisaebththi 2 thrngthaphrarachphithibrmrachaphieskinpi kh s 1953hinaehngsokhnphayitbllngkesntexdewirdthiaexbbiewstminsetxr kh s 1855bllngkesntexdewirdthiimmihinaehngsokhninpccubn bllngkepnekaxihlngtrngaebbkxthikhthacakimoxkhodychangimchuxmasetxrwxletxrphuidrbkhacangepncanwn 100 chilling twbllngktngxyubnsinghpidthxngsitwsungepnswnthiidrbkarsxmaesminpi kh s 1727 aethnsinghthimaephiminkhriststwrrsthi 16 phayitthinngepnchxngsahrbwanghinaehngsokhncnkrathngpi kh s 1996 emuxthuksngkhunipyngskxtaelndodymikhxaemwatxngthuksngklbinoxkasthicamiphrarachphithibrmrachaphieskkhrngtxip bllngkkhrnghnungxaccathasisdisaelapidthxng aelaechuxknwamiphrabrmchayalksnkhxngphraecaexdewirdphusarphaphxyubndanhlngkhxngbllngk aetinpccubnepnaetephiyngimepla rahwangkhriststwrrsthi 18 aela 19 thiphanmakminkthxngethiyw nkaeswngbuy aelaedkrxngephlngswdinaexbbichwyknslkkraffitibnbllngk aelabangswnkhxnglwdlayaekaslkdanhlngbllngkkthukechuxnxxkip inrahwangaepdrxypithiphanmabllngkthuknaxxkcakaexbbiewstminsetxrephiyngsxngkhrng khrngaerkinkarnaipthaphithiinthxngphraorngkhxngphrarachwngewstminsetxrinoxkasthioxliewxr khrxmewllidrbkaraetngtngihepnecaphuphithksaehngxngkvs aelakhrngthisxngrahwangsngkhramolkkhrngthisxngemuxthukyayhniphycaksngkhramipiwthimhawiharklxsetxr inpccubnphrarachbllngktngxyuinthithiplxdphyimiklcakthibrrcuphrabrmsphkhxngphraecaehnrithi 5 aelanaxxkmatnginbriewnaethnbuchaexkemuxmiphrarachphithibrmrachaphieskxangxingIllustrated History Of Furniture by Frederick Litchfieldduephimaexbbiewstminsetxraehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb bllngkesntexdewird