ธรรมศาสตรบัณฑิต เป็นชื่อหลักสูตรการศึกษา ของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ม.ธ.ก.) ซึ่งเปิดเป็นตลาดวิชา (ไม่มีการสอบเข้า) ผู้สำเร็จหลักสูตรนี้ จะได้รับปริญญาเรียกว่า ปริญญาธรรมศาสตรบัณฑิต (ธ.บ.) หลักสูตรนี้เปิดสอนระหว่าง พ.ศ. 2477 จนถึง พ.ศ. 2491 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย เป็น ธรรมศาสตร์ ในเวลาต่อมา
เมื่อแรกก่อตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ตั้งแต่ พ.ศ. 2477 มีหลักสูตรที่เปิดสอน 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิต (ธ.บ.) กล่าวคือ เป็นซึ่งเน้นวิชากฎหมายเป็นหลัก และหลักสูตร วิชาการบัญชี
การเรียนหลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิต ทำพิธีเปิดเมื่อเริ่มภาคการศึกษา วันที่ 27 มิถุนายน โดยมีระยะเวลาภาคการศึกษาที่ 1 ระหว่าง วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันนายน และทำพิธีเปิดภาคการศึกษที่ 2 วันที่ 10 ธันวาคม มีระยะเวลาภาคการศึกษาที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม – 15 มีนาคม
นักวิชาการด้านนิติศาสตร์และศิษย์เก่าของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า
ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบกับท่านผู้ประศาสน์การ ได้เรียนถามท่านถึงความคิดที่วางหลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิตขึ้นในสมัยนั้นว่าท่านมีความประสงค์อย่างไร ท่านผู้ประศาสน์การได้กรุณาชี้แจงให้ฟังว่าหลักสูตร ธ.บ. ที่วางไว้นั้น ได้คำนึงถึงการที่จะให้นักศึกษาที่สำเร็จไปมีโอกาสประกอบอาชีพได้อย่างกว้างขวง โดยมิให้จำกัดอยู่เพียงวิชาทางกฎหมาย แต่อย่างเดียวเพราะว่าอาชีพนี้มีจำกัดอยู่เฉพาะผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ หรือที่ปรึกษากฎหมายเท่านั้น ท่านต้องการให้จบปริญญา ธ.บ. สามารถเลือกอาชีพได้โดยกว้างโดยจะไปเป็นอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ เป็นนายตำรวจ สหกรณ์หรือเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการคลัง การเศรษฐกิจ การทูต หรือจะรับราชการในกระทรวงได้เรียนระเบียบปฏิบัติราชการทุกกระทรวง รวมทั้งอยากจะไปทำการค้าก็ได้ เพราะเรียนรู้หลักเศรษฐศาสตร์แล้ว ท่านบอกว่าท่านภูมิใจเหลือเกินที่ลูกศิษย์ลูกหาชาวธรรมศาสตร์ของท่านมีอยู่ในทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ผู้ที่เรียนไม่จบปริญญา ก็ยังสามารถใช้ความรู้ทางวิชาดนตรีที่ร่ำเรียนเตรียมปริญญาเป็นหัวหน้าดนตรีได้ และการที่ท่านวางหลักสูตรให้นักศึกษาชั้นปริญญาตรีทุกคนได้วิชาเศรษฐศาสตร์ และลัทธิเศรษฐกิจด้วยนั้น ก็โดยมีเหตุผลว่ามนุษยชาติที่อยู่ร่วมกันในสังคมนั้นต้องมีเศรษฐกิจเป็นรากฐานนักกฎหมายต้องรู้หลักเศรษฐกิจด้วย เพื่อจะได้รู้ถึงพื้นฐานของสังคม กฎหมายที่ออกมาก็ต้องคำนึงถึงพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสังคม เพราะฉะนั้นท่านจึงเห็นว่านักกฎหมายจะต้องเรียนรู้หลักเศรษฐศาสตร์ควบคู่กันไปด้วย
ระดับการศึกษา
หลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิตมีสามระดับ ดังนี้
- หลักสูตรปริญญาตรี มี 6 ภาคการศึกษา มีวิชาเรียน 28 วิชา เป็นวิชาเกี่ยวกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 13 วิชา กฎหมายอื่นๆ 12 วิชา วิชาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 2 วิชา และวิชา "ระเบียบวิธีปฏิบัติราชการของทะบวงการเมือง" 1 วิชา
- หลักสูตรปริญญาโท มี 4 ภาคการศึกษา แบ่งเป็น 4 สาขาวิชา ได้แก่ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการทูต
- หลักสูตรปริญญาเอก มี 4 สาขาวิชาเช่นเดิม หลักสูตรกำหนดให้ต้องค้นและแต่งตำราภาษาไทย (theses) ส่งสำเนา 4 ชุดให้ประธานกรรมการ เพื่อนัดสอบปากเปล่า
เมื่อ พ.ศ. 2492 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แบ่งการศึกษาเป็น 4 คณะ แทนหลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิต ได้แก่ นิติศาสตร์, พาณิชยศาสตร์และการบัญชี, รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิตเป็นอันสิ้นสุด ณ บัดนั้น
จำนวนนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เข้าเรียนหลักสูตร "ธรรมศาสตรบัณฑิต" ตั้งแต่ พ.ศ. 2477 จนถึงรุ่นสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2491 มีทั้งสิ้น 21,053 คน และจบการศึกษาตามหลักสูตร 5,254 คน
หลักสูตรปริญญาตรี
- ระดับปริญญาตรี แบ่งเป็นหกภาคการศึกษา ดังต่อไปนี้
- ภาคการศึกษาที่หนึ่งถึงที่สี่ เป็นการศึกษาวิชากฎหมายโดยเฉพาะซึ่งได้แก่ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป ธรรมนูญศาลยุติธรรม กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายการเลือกตั้ง กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์ กฎหมายอาญา วิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการประกันด้วยบุคคลและทรัพย์ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยซื้อขาย แลกเปลี่ยนให้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ จ้างแรงงาน จ้างทำของ รับขน กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยยืม ฝากทรัพย์ เก็บของในคลังสินค้าประนีประนอม การพนันและขันต่อ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า จัดการงานนอกสั่ง กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยบัญชีเดินสะพัด ตั๋วเงินประกันภัย กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัทและสมาคม วิธีพิจารณาความแพ่ง กฎหมายลักษณะพยานและจิตวิทยา กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัวและมรดก กฎหมายลักษณะล้มละลาย
- ภาคการศึกษาที่ห้าถึงที่หก เป็นศึกษาวิชาเกี่ยวกับการเมือง คือ สิทธิเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ กฎหมายการคลัง กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง คดีบุคคล คดีอาญา กฎหมายปกครอง และระเบียบวิธีปฏิบัติราชการของทบวงการเมือง
อ้างอิง
- วีรศักดิ์ กีรติวรนันท์. "ประชาคมธรรมศาสตร์ : อัตลักษณ์แห่งพื้นที่สาธารณะ ท่าพระจันทร์". จุลสารหอจดหมายเหตุธรรมศาสตร์. ฉบับที่ 13 มิถุนายน 2552 - พฤษภาคม 2553.
- ทวี กสิยพงศ์. (2515, สิงหาคม). "โรงเรียนกฎหมายของกรมหลวงราชบุรี". บทบัณฑิตย์, (เล่ม 26, ตอน 3). หน้า 433.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thrrmsastrbnthit epnchuxhlksutrkarsuksa khxngmhawithyalywichathrrmsastraelakaremuxng m th k sungepidepntladwicha immikarsxbekha phusaerchlksutrni caidrbpriyyaeriykwa priyyathrrmsastrbnthit th b hlksutrniepidsxnrahwang ph s 2477 cnthung ph s 2491 kxncaepliynchuxmhawithyaly epn thrrmsastr inewlatxma sastracary dr pridi phnmyngkh phuprasasnkarhlksutrthrrmsastrbnthit emuxaerkkxtngmhawithyalywichathrrmsastraelakaremuxng tngaet ph s 2477 mihlksutrthiepidsxn 2 hlksutr khux hlksutrthrrmsastrbnthit th b klawkhux epnsungennwichakdhmayepnhlk aelahlksutr wichakarbychi kareriynhlksutrthrrmsastrbnthit thaphithiepidemuxerimphakhkarsuksa wnthi 27 mithunayn odymirayaewlaphakhkarsuksathi 1 rahwang wnthi 1 krkdakhm 30 knnayn aelathaphithiepidphakhkarsuksthi 2 wnthi 10 thnwakhm mirayaewlaphakhkarsuksathi 2 rahwangwnthi 15 thnwakhm 15 minakhm nkwichakardannitisastraelasisyekakhxngkhnanitisastr mhawithyalythrrmsastr klawwa khrnghnungkhaphecaidmioxkasphbkbthanphuprasasnkar ideriynthamthanthungkhwamkhidthiwanghlksutrthrrmsastrbnthitkhuninsmynnwathanmikhwamprasngkhxyangir thanphuprasasnkaridkrunachiaecngihfngwahlksutr th b thiwangiwnn idkhanungthungkarthicaihnksuksathisaercipmioxkasprakxbxachiphidxyangkwangkhwng odymiihcakdxyuephiyngwichathangkdhmay aetxyangediywephraawaxachiphnimicakdxyuechphaaphuphiphaksa xykar thnaykhwam hruxthipruksakdhmayethann thantxngkarihcbpriyya th b samartheluxkxachiphidodykwangodycaipepnxaephxhruxphuwarachkarcnghwdkid epnnaytarwc shkrnhruxecahnathiinkrathrwngkarkhlng karesrsthkic karthut hruxcarbrachkarinkrathrwngideriynraebiybptibtirachkarthukkrathrwng rwmthngxyakcaipthakarkhakid ephraaeriynruhlkesrsthsastraelw thanbxkwathanphumiicehluxekinthiluksisylukhachawthrrmsastrkhxngthanmixyuinthuksakhaxachiph aemaetphuthieriynimcbpriyya kyngsamarthichkhwamruthangwichadntrithiraeriynetriympriyyaepnhwhnadntriid aelakarthithanwanghlksutrihnksuksachnpriyyatrithukkhnidwichaesrsthsastr aelalththiesrsthkicdwynn kodymiehtuphlwamnusychatithixyurwmkninsngkhmnntxngmiesrsthkicepnrakthannkkdhmaytxngruhlkesrsthkicdwy ephuxcaidruthungphunthankhxngsngkhm kdhmaythixxkmaktxngkhanungthungphunthanthangesrsthkickhxngsngkhm ephraachannthancungehnwankkdhmaycatxngeriynruhlkesrsthsastrkhwbkhuknipdwyradbkarsuksahlksutrthrrmsastrbnthitmisamradb dngni s dr pwy xungphakrn nksuksathrrmsastrbnthitrunaerk cbkarsuksapi ph s 2480hlksutrpriyyatri mi 6 phakhkarsuksa miwichaeriyn 28 wicha epnwichaekiywkbkdhmayaephngaelaphanichy 13 wicha kdhmayxun 12 wicha wichaekiywkbesrsthkic 2 wicha aelawicha raebiybwithiptibtirachkarkhxngthabwngkaremuxng 1 wicha hlksutrpriyyaoth mi 4 phakhkarsuksa aebngepn 4 sakhawicha idaek nitisastr rthsastr esrsthsastr aelakarthut hlksutrpriyyaexk mi 4 sakhawichaechnedim hlksutrkahndihtxngkhnaelaaetngtaraphasaithy theses sngsaena 4 chudihprathankrrmkar ephuxndsxbpakepla emux ph s 2492 mhawithyalythrrmsastridaebngkarsuksaepn 4 khna aethnhlksutrthrrmsastrbnthit idaek nitisastr phanichysastraelakarbychi rthsastr aelaesrsthsastr hlksutrthrrmsastrbnthitepnxnsinsud n bdnn canwnnksuksathrrmsastrthiekhaeriynhlksutr thrrmsastrbnthit tngaet ph s 2477 cnthungrunsudthayemux ph s 2491 mithngsin 21 053 khn aelacbkarsuksatamhlksutr 5 254 khnhlksutrpriyyatriradbpriyyatri aebngepnhkphakhkarsuksa dngtxipni phakhkarsuksathihnungthungthisi epnkarsuksawichakdhmayodyechphaasungidaek khwamruebuxngtnekiywkbkdhmaythwip thrrmnuysalyutithrrm kdhmayrththrrmnuy kdhmaykareluxktng kdhmayaephngaelaphanichywadwythrphy kdhmayxaya withiphicarnakhwamxaya kdhmayaephngaelaphanichywadwythrphy kdhmayaephngaelaphanichywadwykarprakndwybukhkhlaelathrphy kdhmayaephngaelaphanichywadwysuxkhay aelkepliynih kdhmayaephngaelaphanichywadwyechathrphy echasux cangaerngngan cangthakhxng rbkhn kdhmayaephngaelaphanichywadwyyum fakthrphy ekbkhxnginkhlngsinkhapranipranxm karphnnaelakhntx kdhmayaephngaelaphanichywadwytwaethn nayhna cdkarngannxksng kdhmayaephngaelaphanichywadwybychiedinsaphd twenginpraknphy kdhmayaephngaelaphanichywadwyhunswnbristhaelasmakhm withiphicarnakhwamaephng kdhmaylksnaphyanaelacitwithya kdhmayaephngaelaphanichywadwykhrxbkhrwaelamrdk kdhmaylksnalmlalay phakhkarsuksathihathungthihk epnsuksawichaekiywkbkaremuxng khux siththiesrsthkic esrsthsastr kdhmaykarkhlng kdhmayrahwangpraethsaephnkkhdiemuxng khdibukhkhl khdixaya kdhmaypkkhrxng aelaraebiybwithiptibtirachkarkhxngthbwngkaremuxngxangxingwirskdi kirtiwrnnth prachakhmthrrmsastr xtlksnaehngphunthisatharna thaphracnthr culsarhxcdhmayehtuthrrmsastr chbbthi 13 mithunayn 2552 phvsphakhm 2553 thwi ksiyphngs 2515 singhakhm orngeriynkdhmaykhxngkrmhlwngrachburi bthbnthity elm 26 txn 3 hna 433 bthkhwamniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmul hmayehtu khxaenanaihcdhmwdhmuokhrngihekhakbenuxhakhxngbthkhwam duephimthi wikiphiediy okhrngkarcdhmwdhmuokhrngthiyngimsmburn dkhk