ท้าวอุปละ (มุง รามางกูร) อดีตนายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม หรือผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม หรือนายกองบ้านธาตุพนมลำดับ 4 ก่อน พ.ศ. 2417 ในราชวงศ์เวียงจันทน์ปกครองธาตุพนมลำดับ 7 บรรดาศักดิ์เดิมท้าวสุวันนะเสฏฐากรมการธาตุพนม เชื้อสายราชวงศ์เวียงจันทน์และจำปาสัก เลื่อนเป็นที่เพี้ยอัคคะฮาดกรมการธาตุพนมก่อนยุบเป็นกองบ้านธาตุพนม นามเดิมท้าวสุวันนะคำมุงหรือท้าวคำมุง พื้นเมืองพนมออกนามพ่อออกอุปละคำมุงหรือยาพ่อผ้าขาวหรือผ้าขาวอุปละ เป็นต้นสกุลอุปละหรืออุประของอำเภอธาตุพนม
ท้าวอุปละ (มุง รามางกูร) | |
---|---|
นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนมหรือหัวหน้าผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม อดีตกรมการบ้านธาตุพนม | |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง รามางกูร) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ธาตุพนม |
เสียชีวิต | ธาตุพนม |
ศาสนา | ศาสนาพุทธ |
คู่สมรส | อาดยานางจันทาวะดี |
ประวัติ
เป็นบุตรลำดับแรกของพระอุปละ (คำมั่น) กรมการธาตุพนมเดิม มารดานามอาดยานางรัตนะหน่อแก้วชาวบ้านธาตุพนม เป็นหลานพระมหาสุระนันทากับอาดยานางแก้วอาไพธิดาเจ้าพระรามราชฯ (ราม) พระมหาสุระนันทาเป็นบุตรเจ้าสุทธฮาชและน้องอาดยานางยอดแก้วสีบุนมาภรรยาเจ้าพระรามราชฯ เจ้าสุทธฮาชและนางยอดแก้วสีบุนมาเป็นบุตรธิดาเจ้าสีสุมังกับนางคำส่วงตา เป็นหลานเจ้าพระยาหลวงกางสมคาม (คำวิสุด) โอรสกษัตริย์จำปาสักกับสนมไม่ปรากฏนาม ท้าวอุปละ (มุง) จึงมีเชื้อและขุนโอกาสธาตุพนมทางนางแก้วอาไพผู้ย่าและราชวงศ์จำปาสักทางพระมหาสุระนันทาผู้ปู่ ก่อน พ.ศ. 2402 พระอุปละ (คำมั่น) บิดาร้องขอหลวงอามาตย์ (อำนาจ) นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนมลำดับแรกหลังการแตกศึกเจ้าอนุวงศ์ ตั้งบุตรชายตนเป็นท้าวสุวันนะเสฏฐากรมการ ครั้นบิดาถึงแก่กรรมเลื่อนเป็นท้าวอุปละแทนบิดา ต่อมาท้าวราชวัตริ์ (คูณ) นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนมลำดับ 3 ญาติชาวบ้านชะโนดเมืองมุกดาหารถึงแก่กรรม เจ้าเมืองนครพนมและมุกดาหารเห็นควรเลื่อนเป็นนายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนมแทน พ.ศ. 2402 พระยายมราชขุนนางสยามเป็นแม่กองสักเลกไพร่พลเมืองหัวเมืองลาวตั้งขึ้นเป็นท้าวอุปละนายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนมเป็นหัวหน้ามีอำนาจควบคุมตัวเลกข้าพระธาตุพนม ให้กรมการท้าวเพี้ยบ้านธาตุพนมฟังบังคับบัญชาท้าวอุปละ (มุง) ธาตุพนมมีเลกข้าพระจำนวน 1,548 คน ตัวเลกมากใกล้เคียงหัวเมืองอื่น แต่เลกข้าพระตั้งเรือนย้ายทำกินในแดนเมืองนครพนมและมุกดาหารซึ่งมักแทรกแซงกิจการไพร่ส่วยกองข้าเลกพระธาตุพนมเสมอ ท้าวอุปละจึงขัดแย้งเจ้าเมืองใกล้เคียงบ่อยครั้ง พ.ศ. 2422 เลื่อนเป็นเพี้ยอัคคะฮาชเทียบอุปฮาตเมืองเล็กเดือนเศษถึงแก่กรรม ราชการตั้งท้าวสุวันนะคำถงบุตรคนโตเป็นท้าวอุปละหัวหน้าควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนมแทน ดังเอกสาร ร.5 ม.2 (12ก.) เล่ม 20 ร.ศ.107 ว่า ...ครั้นถึง จศก (พ.ศ. 2417) ท้าวอุปละ (มุง) ถึงแก่กรรม ท้าวถงบุตรอุปละ (มุง) เลื่อนขึ้นเป็นท้าวอุปละแทนบิดาควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกสืบต่อมา...
การศาสนา
พื้นเมืองพนมระบุเป็นผู้ใฝ่รักษาอุโบสถศีลนุ่งขาวในวัดพระธาตุพนมประจำชาวบ้านจึงออกนามพ่อออกอุปละ บำรุงศาสนาในธาตุพนมหลายประการ เช่น ให้ข้าโอกาสบูรณะฐานพระธาตุพนมและกมมะเลียน บูรณะพระธาตุตุ้มพะวังบ้านนาวาง เมืองหนองบก แขวงคำม่วน โดยนำเศษปูนจากธาตุพนมไปผสม บูรณะพระธาตุน้อยและสิมวัดสีบุญเฮือง บ้านศรีบุญเรืองทิศเหนือธาตุพนม สร้างหอมเหสักเจ้าเฮือน 3 พระองค์ซึ่งพังทลายลง ให้คนทำความสะอาดต้นโพธิ์ปากก่ำประจำ ให้พวกพระเสพบรรเลงมโหรีถวายพระธาตุพนม
พี่น้องและบุตรธิดา
มีพี่น้อง 7 ท่านคือท้าวอุปละ (มุง), เพี้ยคำบุ่งกวานบ้านปากก่ำ, พระหานลือไซย (ผูย) บ้านนาวาง, นางคำทุง, นางคำเผาะ, นางหนู, นางแสนคำติ้ว ภริยาปรากฏนาม 1 ท่านคือนางจันทาวะดีชาวธาตุพนม บุตรธิดา 7 ท่านคือพระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) หรือท้าวสุวันนะคำถง นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม หรือผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม หรือนายกองบ้านธาตุพนมลำดับ 5, ท้าวไซยะเสน (เหลา) หรือท้าวสุวันนะคำเหลา, เพี้ยไซยะบุตร (ลือ) หรือท้าวสุวันนะคำลือ, นางแดง, นางสุเทพาวะดี, นางประทุมมาวะดี, นางหล่า
ถึงแก่อนิจกรรม
พื้นเมืองพนมระบุถึงแก่กรรม ณ บ้านธาตุพนม ฉศก พ.ศ. 2417 บ้างว่า 2422 กรมการชาวบ้านจัดเมรุพิธีที่หอขวางดงฮ้างริมฝั่งโขงบ้านหนองหอย ตำบลธาตุพนม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งวัดป่าสุริโย สร้างธาตุบรรจุอัฐิทิศเหนือนอกกำแพงแก้วพระธาตุพนมต่อมารกร้าง พ.ศ. 2518 พระธาตุพนมถล่มจึงรื้อธาตุที่พังทั้งหมดออก
สายสกุล
ทายาทตั้งชื่อสกุลว่าอุปละแปลว่าดอกบัว มาจากบรรดาศักดิ์เดิมท้าวอุปละ (มุง) ณ ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม บ้างเขียนเป็นอุประ ผู้ใช้สกุลท่านแรกคือท้าวคำลื้อหรือนายลื้อ อุประ หลานพระพิทักษ์เจดีย์ (ศรี รามางกูร) น้องชายพระพิทักษ์เจดีย์ (แก่น รามางกูร) ท้าวคำลื้อเป็นหลานปู่พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) เป็นเหลนทวดท้าวอุปละ (มุง) มีภริยานามนางใบ อุประ (สกุลเดิมพรหมอารักษ์) ทายาทบ้างระบุว่าผู้ตั้งสกุลท่านแรกคือบิดาท้าวคำลื้อ บ้างระบุว่าแรกตั้งสกุลใช้อุประ ส่วนอุปละเกิดจากการเขียนพลาด
ก่อนหน้า | ท้าวอุปละ (มุง รามางกูร) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ท้าวสุริยะราชวัตร์ (คูณ รามางกูร) | นายกองข้าพระธาตุพนม หรือหัวหน้าผู้ควบคุมข้าพระธาตุพนม หรือนายกองบ้านธาตุพนม | พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง รามางกูร) |
อ้างอิง
- ประวิทย์ คำพรหม และคณะ, ประวัติอำเภอธาตุพนมː: จัดพิมพ์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, (กาฬสินธุ์: ประสารการพิมพ์, 2545), หน้า 108.
- พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), (ม.ป.ท.: วัดบวรนิเวศวิหาร คณะแดงรังสี, ม.ป.ป.), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
- พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
- เรื่องเดียวกัน.
- พจนีย์ เพ็งเปลี่ยน, นิทานอุรังคธาตุฉบับหลวงพระบาง, (ม.ป.ท.: กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, 2543), หน้า 154.
- พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
- สุรจิตต์ จันทรสาขา, เมืองมุกดาหาร, (มุกดาหาร: ม.ป.พ., 2543), หน้า 43.
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสาร ร.5 ม.2 (12ก.) เล่ม 20 ร.ศ. 107.
- สัมภาษณ์นางสาวจันเนา รามางกูร เรื่อง ประวัติขุนโอกาสธาตุ อายุ 90 ปี อาชีพค้าขาย เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2550.
- พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
- เรื่องเดียวกัน.
- สัมภาษณ์นางสาวจันเนา รามางกูร เรื่อง ประวัติดงฮ้างบ้านหนองหอย อาชีพค้าขาย อายุ 90 ปี เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2550.
- สัมภาษณ์นางพิศมัย อุประ เรื่อง ประวัตินายคำลื้อ อุประ และสกุลอุประ อาชีพค้าขาย เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2550.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thawxupla mung ramangkur xditnaykxngkhaxuptthakphrathatuphnm hruxphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnmladb 4 kxn ph s 2417 inrachwngsewiyngcnthnpkkhrxngthatuphnmladb 7 brrdaskdiedimthawsuwnnaestthakrmkarthatuphnm echuxsayrachwngsewiyngcnthnaelacapask eluxnepnthiephiyxkhkhahadkrmkarthatuphnmkxnyubepnkxngbanthatuphnm namedimthawsuwnnakhamunghruxthawkhamung phunemuxngphnmxxknamphxxxkxuplakhamunghruxyaphxphakhawhruxphakhawxupla epntnskulxuplahruxxuprakhxngxaephxthatuphnmthawxupla mung ramangkur naykxngkhaxuptthakphrathatuphnmhruxhwhnaphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm xditkrmkarbanthatuphnmkxnhnathdipphraphithksecdiy thng ramangkur khxmulswnbukhkhlekidthatuphnmesiychiwitthatuphnmsasnasasnaphuththkhusmrsxadyanangcnthawadiprawtiepnbutrladbaerkkhxngphraxupla khamn krmkarthatuphnmedim mardanamxadyanangrtnahnxaekwchawbanthatuphnm epnhlanphramhasurannthakbxadyanangaekwxaiphthidaecaphraramrach ram phramhasurannthaepnbutrecasuththhachaelanxngxadyanangyxdaekwsibunmaphrryaecaphraramrach ecasuththhachaelanangyxdaekwsibunmaepnbutrthidaecasisumngkbnangkhaswngta epnhlanecaphrayahlwngkangsmkham khawisud oxrskstriycapaskkbsnmimpraktnam thawxupla mung cungmiechuxaelakhunoxkasthatuphnmthangnangaekwxaiphphuyaaelarachwngscapaskthangphramhasurannthaphupu kxn ph s 2402 phraxupla khamn bidarxngkhxhlwngxamaty xanac naykxngkhaxuptthakphrathatuphnmladbaerkhlngkaraetksukecaxnuwngs tngbutrchaytnepnthawsuwnnaestthakrmkar khrnbidathungaekkrrmeluxnepnthawxuplaaethnbida txmathawrachwtri khun naykxngkhaxuptthakphrathatuphnmladb 3 yatichawbanchaondemuxngmukdaharthungaekkrrm ecaemuxngnkhrphnmaelamukdaharehnkhwreluxnepnnaykxngkhaxuptthakphrathatuphnmaethn ph s 2402 phrayaymrachkhunnangsyamepnaemkxngskelkiphrphlemuxnghwemuxnglawtngkhunepnthawxuplanaykxngkhaxuptthakphrathatuphnmepnhwhnamixanackhwbkhumtwelkkhaphrathatuphnm ihkrmkarthawephiybanthatuphnmfngbngkhbbychathawxupla mung thatuphnmmielkkhaphracanwn 1 548 khn twelkmakiklekhiynghwemuxngxun aetelkkhaphratngeruxnyaythakininaednemuxngnkhrphnmaelamukdaharsungmkaethrkaesngkickariphrswykxngkhaelkphrathatuphnmesmx thawxuplacungkhdaeyngecaemuxngiklekhiyngbxykhrng ph s 2422 eluxnepnephiyxkhkhahachethiybxuphatemuxngelkeduxnessthungaekkrrm rachkartngthawsuwnnakhathngbutrkhnotepnthawxuplahwhnakhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnmaethn dngexksar r 5 m 2 12k elm 20 r s 107 wa khrnthung csk ph s 2417 thawxupla mung thungaekkrrm thawthngbutrxupla mung eluxnkhunepnthawxuplaaethnbidakhwbkhumthawephiytwelksubtxma karsasna phunemuxngphnmrabuepnphuifrksaxuobsthsilnungkhawinwdphrathatuphnmpracachawbancungxxknamphxxxkxupla barungsasnainthatuphnmhlayprakar echn ihkhaoxkasburnathanphrathatuphnmaelakmmaeliyn burnaphrathatutumphawngbannawang emuxnghnxngbk aekhwngkhamwn odynaesspuncakthatuphnmipphsm burnaphrathatunxyaelasimwdsibuyehuxng bansribuyeruxngthisehnuxthatuphnm sranghxmehskecaehuxn 3 phraxngkhsungphngthlaylng ihkhnthakhwamsaxadtnophthipakkapraca ihphwkphraesphbrrelngmohrithwayphrathatuphnm phinxngaelabutrthida miphinxng 7 thankhuxthawxupla mung ephiykhabungkwanbanpakka phrahanluxisy phuy bannawang nangkhathung nangkhaephaa nanghnu nangaesnkhatiw phriyapraktnam 1 thankhuxnangcnthawadichawthatuphnm butrthida 7 thankhuxphraphithksecdiy thng hruxthawsuwnnakhathng naykxngkhaxuptthakphrathatuphnm hruxphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnmladb 5 thawisyaesn ehla hruxthawsuwnnakhaehla ephiyisyabutr lux hruxthawsuwnnakhalux nangaedng nangsuethphawadi nangprathummawadi nanghla thungaekxnickrrm phunemuxngphnmrabuthungaekkrrm n banthatuphnm chsk ph s 2417 bangwa 2422 krmkarchawbancdemruphithithihxkhwangdnghangrimfngokhngbanhnxnghxy tablthatuphnm pccubnepnthitngwdpasurioy srangthatubrrcuxthithisehnuxnxkkaaephngaekwphrathatuphnmtxmarkrang ph s 2518 phrathatuphnmthlmcungruxthatuthiphngthnghmdxxksayskulthayathtngchuxskulwaxuplaaeplwadxkbw macakbrrdaskdiedimthawxupla mung n thiwakarxaephxthatuphnm tablthatuphnm xaephxthatuphnm cnghwdnkhrphnm bangekhiynepnxupra phuichskulthanaerkkhuxthawkhaluxhruxnaylux xupra hlanphraphithksecdiy sri ramangkur nxngchayphraphithksecdiy aekn ramangkur thawkhaluxepnhlanpuphraphithksecdiy thng epnehlnthwdthawxupla mung miphriyanamnangib xupra skuledimphrhmxarks thayathbangrabuwaphutngskulthanaerkkhuxbidathawkhalux bangrabuwaaerktngskulichxupra swnxuplaekidcakkarekhiynphlad kxnhna thawxupla mung ramangkur thdipthawsuriyarachwtr khun ramangkur naykxngkhaphrathatuphnm hruxhwhnaphukhwbkhumkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnm phraphithksecdiy thng ramangkur xangxing prawithy khaphrhm aelakhna prawtixaephxthatuphnmː cdphimphodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrphnm kalsinthu prasarkarphimph 2545 hna 108 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm m p th wdbwrniewswihar khnaaedngrngsi m p p imprakthna xdsaena phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm imprakthna xdsaena eruxngediywkn phcniy ephngepliyn nithanxurngkhthatuchbbhlwngphrabang m p th krmsngesrimwthnthrrm krathrwngwthnthrrm 2543 hna 154 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm imprakthna xdsaena surcitt cnthrsakha emuxngmukdahar mukdahar m p ph 2543 hna 43 hxcdhmayehtuaehngchati exksar r 5 m 2 12k elm 20 r s 107 smphasnnangsawcnena ramangkur eruxng prawtikhunoxkasthatu xayu 90 pi xachiphkhakhay emux 1 emsayn ph s 2550 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm imprakthna xdsaena eruxngediywkn smphasnnangsawcnena ramangkur eruxng prawtidnghangbanhnxnghxy xachiphkhakhay xayu 90 pi emux 1 emsayn ph s 2550 smphasnnangphismy xupra eruxng prawtinaykhalux xupra aelaskulxupra xachiphkhakhay emux 1 emsayn ph s 2550