ตี้หฺวัง (地皇, Dìhuáng) เป็นกษัตริย์ในตำนานของจีนพระองค์ที่สอง หลังจากยุคของผานกู่ ตามบันทึก (藝文類聚) พระองค์เป็นราชาพระองค์ที่สองในสามราชาของยุคสามราชาห้าจักรพรรดิ
หลังจากที่ตี้หฺวังเกิดมาโลกก็เต็มไปด้วยความโกลาหล ในปีนั้นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่เกิดจากดวงตาทั้งสองของผานกู่ และดวงดาวจากขนของผานกู่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและถูกต้อง ซึ่งทำให้มีหลายวันไม่มีดวงอาทิตย์หรือมีหลายวันที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงตลอดทั้งวัน หรือเกิดอันตรายขึ้นมากมายจากอุบัติเหตุจากดวงดาว ด้วยพลังของตี้หฺวังจึงได้แก้ไขข้อผิดพลาด พระองค์ทรงทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เคลื่อนที่ได้อย่างถูกต้อง และก่อให้เกิดการกำหนดวันในแต่ละเดือนและเดือนในแต่ละปี
ตี้หฺวัง ปกครองเป็นเวลา 11000 ปี เหรินหฺวังจึงได้เป็นผู้ปกครองต่อมา
อ้างอิง
- . แปลโดย Allen, Herbert J. "Ssŭma Ch'ien's Historical Records, Introductory Chapter". Journal of the Royal Asiatic Society. 26 (2): 269–295. 1894. doi:10.1017/S0035869X00143916.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
tih wng 地皇 Dihuang epnkstriyintanankhxngcinphraxngkhthisxng hlngcakyukhkhxngphanku tambnthuk 藝文類聚 phraxngkhepnrachaphraxngkhthisxnginsamrachakhxngyukhsamrachahackrphrrditih wng hlngcakthitih wngekidmaolkketmipdwykhwamoklahl inpinndwngxathityaeladwngcnthrthiekidcakdwngtathngsxngkhxngphanku aeladwngdawcakkhnkhxngphanku imsamarthekhluxnihwidxyangrabrunaelathuktxng sungthaihmihlaywnimmidwngxathityhruxmihlaywnthidwngxathitysxngaesngtlxdthngwn hruxekidxntraykhunmakmaycakxubtiehtucakdwngdaw dwyphlngkhxngtih wngcungidaekikhkhxphidphlad phraxngkhthrngthaihdwngxathityaeladwngcnthrekhluxnthiidxyangthuktxng aelakxihekidkarkahndwninaetlaeduxnaelaeduxninaetlapi tih wng pkkhrxngepnewla 11000 pi ehrinh wngcungidepnphupkkhrxngtxmaxangxing aeplody Allen Herbert J Ssŭma Ch ien s Historical Records Introductory Chapter Journal of the Royal Asiatic Society 26 2 269 295 1894 doi 10 1017 S0035869X00143916