ชอพูร์ แบฆทียอร์ (เปอร์เซีย: شاپور بختیار) เป็นนักการเมืองชาวอิหร่าน เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายในรัชสมัยพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี นอกจากนี้เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและสมาชิกสภาผู้สำเร็จราชการแห่งรัฐอีกด้วย ในคำพูดของนักประวัติศาสตร์อับบาส มิลานี : "มากกว่าหนึ่งครั้งในน้ำเสียงของเยเรมีย์เขาเตือนประเทศชาติถึงอันตรายของเผด็จการลัทธิอำนาจนิยมและว่าลัทธิฟาสซิสต์ของมุลละฮ์จะมืดมนกว่าคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองใดๆ"
ชอพูร์ แบฆทียอร์ | |
---|---|
นายกรัฐมนตรีอิหร่าน คนที่ 45 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี |
ก่อนหน้า | โกลอมเรซอ แอซฮอรี |
ถัดไป | (ในฐานะนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน) |
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงแรงงาน | |
ดำรงตำแหน่ง 1 กรกฎาคม 1952 – 9 เมษายน 1953 | |
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 13 มกราคม 1979 – 23 มกราคม 1979 | |
แต่งตั้งโดย | พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี |
ก่อนหน้า | แอบบอส แกเรบอฆี |
ถัดไป | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 26 มิถุนายน ค.ศ. 1914 แชฮ์เรโคร์ด แชฮอร์แมฮอลและแบฆทียอรี รัฐเปอร์เซียอันประเสริฐ |
เสียชีวิต | 6 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ซูว์แรน ฝรั่งเศส | (77 ปี)
ศาสนา | อิสลาม |
คู่สมรส | มาดแลน แชฮีนทอจ |
นายกรัฐมนตรี
การประท้วงใหญ่เกิดขึ้นอีกที่เมืองมาชาดมีการลุกฮือเผาบ้านของชาวอเมริกัน ตลอดจนกิจการต่าง ๆ ของชาวตะวันตก ทหารได้สกัดกั้นและทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายนับร้อย เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตจนรัฐบาลอเมริกา และยุโรปสั่งให้คนของตนออกจากอิหร่าน ความตึงเครียดที่กดดันทำให้ชาห์ทำตามคำแนะนำของอเมริกา โดยการเสด็จออกนอกประเทศพร้อมครอบครัว เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1979 โดยที่รัฐบาลของนายชาห์ปูร์ บัคเตียร์ ได้ออกประกาศว่า พระองค์มิได้สละบัลลังก์แต่อย่างใด และแล้วในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โคมัยนีพร้อมผู้ช่วยราว 500 คน และนักหนังสือพิมพ์อีก 150 คน ได้โดยสารเครื่องบิน ของสายการบินฝรั่งเศสกลับสู่อิหร่าน โดยมีประชาชนต้อนรับอย่างเนืองแน่น แม้ระยะแรกกองทัพบกประกาศว่าพร้อมหลั่งเลือดเพื่อค้ำบัลลังก์ชาห์ หรือหนุนรัฐบาลนายบัคเตียร์ ภายหลังกองทัพบกได้วางตัวเป็นกลาง ประชาชนฝ่ายโคมัยนีจึงได้เข้าควบคุมเตหะรานไว้ได้โดยบุกยึดที่ทำการรัฐบาล กระทรวงทบวงกรม ตึกรัฐสภา และสถานีตำรวจไว้ได้หมด
ต่อมารัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากโคมัยนีก็เข้ารับหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศ และนำอิหร่านเข้าสู่การปกครองของตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีผู้นำสูงสุดคือ อิหม่ามโคมัยนี เรียกว่า ฟากิฮ์ หรือ รอฮ์บัรร์ ถือเป็นผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณมีอำนาจครอบคลุมทั้งการเมืองและการปกครองทั้งหมด
อ้างอิง
- (2008). Eminent Persians: The Men and Women Who Made Modern Iran, 1941–1979. Syracuse University Press and Persian World Press. p. 109. ISBN .
- จักรพันธุ์ กังวาฬ และคนอื่นๆ. หน้า 22
- "อิหร่าน (๓)". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-26. สืบค้นเมื่อ 2009-10-26.
- จักรพันธุ์ กังวาฬ และคนอื่นๆ. หน้า 23
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
chxphur aebkhthiyxr epxresiy شاپور بختیار epnnkkaremuxngchawxihran ekhaepnnaykrthmntrikhnsudthayinrchsmyphraecachah omhmhmd ersa pahlawi nxkcakniekhaepnrthmntriwakarkrathrwngmhadithyaelasmachiksphaphusaercrachkaraehngrthxikdwy inkhaphudkhxngnkprawtisastrxbbas milani makkwahnungkhrnginnaesiyngkhxngeyermiyekhaetuxnpraethschatithungxntraykhxngephdckarlththixanacniymaelawalththifassistkhxngmullahcamudmnkwakhnaphuyudxanackarpkkhrxngid chxphur aebkhthiyxrnaykrthmntrixihran khnthi 45kstriyphraecachah omhmhmd ersa pahlawikxnhnaoklxmersx aexshxrithdip inthananaykrthmntrisatharnrthxislamxihran rthmntrichwykrathrwngaerngngandarngtaaehnng 1 krkdakhm 1952 9 emsayn 1953rthmntrikrathrwngmhadithydarngtaaehnng 13 mkrakhm 1979 23 mkrakhm 1979aetngtngodyphraecachah omhmhmd ersa pahlawikxnhnaaexbbxs aekerbxkhithdipkhxmulswnbukhkhlekid26 mithunayn kh s 1914 1914 06 26 aechherokhrd aechhxraemhxlaelaaebkhthiyxri rthepxresiyxnpraesrithesiychiwit6 singhakhm kh s 1991 1991 08 06 77 pi suwaern frngesssasnaxislamkhusmrsmadaeln aechhinthxcnaykrthmntrikarprathwngihyekidkhunxikthiemuxngmachadmikarlukhuxephabankhxngchawxemrikn tlxdcnkickartang khxngchawtawntk thharidskdknaelathaihmiphubadecblmtaynbrxy ehtukarnluklamihyotcnrthbalxemrika aelayuorpsngihkhnkhxngtnxxkcakxihran khwamtungekhriydthikddnthaihchahthatamkhaaenanakhxngxemrika odykaresdcxxknxkpraethsphrxmkhrxbkhrw emuxwnthi 13 mkrakhm kh s 1979 odythirthbalkhxngnaychahpur bkhetiyr idxxkprakaswa phraxngkhmiidslabllngkaetxyangid aelaaelwinwnthi 1 kumphaphnth okhmyniphrxmphuchwyraw 500 khn aelankhnngsuxphimphxik 150 khn idodysarekhruxngbin khxngsaykarbinfrngessklbsuxihran odymiprachachntxnrbxyangenuxngaenn aemrayaaerkkxngthphbkprakaswaphrxmhlngeluxdephuxkhabllngkchah hruxhnunrthbalnaybkhetiyr phayhlngkxngthphbkidwangtwepnklang prachachnfayokhmynicungidekhakhwbkhumetharaniwidodybukyudthithakarrthbal krathrwngthbwngkrm tukrthspha aelasthanitarwciwidhmd txmarthbalthiidrbkaraetngtngcakokhmynikekharbhnathikhwbkhumsthankarnphayinpraeths aelanaxihranekhasukarpkkhrxngkhxngtngaetnnepntnma odymiphunasungsudkhux xihmamokhmyni eriykwa fakih hrux rxhbrr thuxepnphunasungsudthangcitwiyyanmixanackhrxbkhlumthngkaremuxngaelakarpkkhrxngthnghmdxangxing 2008 Eminent Persians The Men and Women Who Made Modern Iran 1941 1979 Syracuse University Press and Persian World Press p 109 ISBN 978 0815609070 ckrphnthu kngwal aelakhnxun hna 22 xihran 3 ekbcakaehlngedimemux 2009 10 26 subkhnemux 2009 10 26 ckrphnthu kngwal aelakhnxun hna 23