Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
งูลายสอใหญ่ หรือ งูลายสอบ้าน (อังกฤษ: checkered keelback; ชื่อวิทยาศาสตร์: Fowlea piscator) หรือที่เรียกในชื่อสามัญอีกชื่อหนึ่งว่า Asiatic water snake เป็นสปีชีส์ทั่วไปในวงศ์ย่อย ของวงศ์งูพิษเขี้ยวหลัง สปีชีส์นี้เป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นในทวีปเอเชีย ซึ่งงูชนิดนี้ไม่มีพิษ
| งูลายสอใหญ่ | |
|---|---|
 | |
| ในอัสสัม | |
| สถานะการอนุรักษ์ | |
| การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
| โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
| อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
| ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
| ชั้น: | สัตว์เลื้อยคลาน Reptilia |
| อันดับ: | กิ้งก่าและงู Squamata |
| อันดับย่อย: | Serpentes Serpentes |
| วงศ์: | วงศ์งูพิษเขี้ยวหลัง Colubridae |
| สกุล: | Fowlea (, 1799) |
| สปีชีส์: | Fowlea piscator |
| ชื่อทวินาม | |
| Fowlea piscator (, 1799) | |
| ชื่อพ้อง | |
| |
คำอธิบาย
หัวกลมรีและส่วนของหัวกว้างกว่าลําคอเล็กน้อย ส่วนปลายของหัวเรียว ตาค่อนข้างใหญ่ ลําตัวป้อม หางยาวและส่วนปลายหางเรียว ผิวหนังลําตัวมีเกล็ดปกคลุม เกล็ดบนหัวเป็น แผ่นกว้าง เกล็ดบนหลังมีสัน โดยสันของแผ่นเกล็ดมีขนาดใหญ่ขึ้นตามลําดับไปทางด้านท้ายของ ลําตัว เกล็ดท้องขยายกว้าง เกล็ดใต้หางเป็นแถวคู่ เกล็ดรอบลําตัวในตําแหน่งกึ่งกลางตัวจํานวน 19 เกล็ด เกล็ดท้องจํานวน 132 เกล็ด และเกล็ดใต้หางจํานวน 80 เกล็ด ลําตัวมีด้านบนของหัวและบนหลังสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอมเขียว ด้านข้างของหัวมีเส้นสีดําจากด้านล่างของตาลงไปที่เกล็ดขอบปากบนแผ่นที่ 6 และมีเส้นสีดําจากทางด้านท้ายตา (แต่ไม่ติดกับตา) ลงไปที่มุมขากรรไกร ทางด้านท้ายของมุมขากรรไกรมีเส้นสีดําพาดเฉียงขึ้นไปที่ ส่วนบนของท้ายทอย บนหลังและทางด้านบนของหางมีจุดสีดําและจุดสีขาวกระจายปะปนกัน และเรียงตัวในลักษณะที่ประไปทั่วลําตัว คาง ใต้คอ ด้านท้อง และใต้หางสีขาว แต่เกล็ดท้องมี ขอบด้านนอกสีเทาเข้ม และเกล็ดใต้หางมีขอบด้านนอกสีดํา
งูลายสอใหญ่เป็นงูขนาดกลาง แต่สามารถเติบโตเป็นงูขนาดใหญ่ได้ โตเต็มวัยสามารถมีความยาวตั้งแต่ความยาวจากปลายจมูกจนถึงรูทวาร (SVL) ได้ถึง 1.75 เมตร (5.7 ฟุต)
พฤติกรรมการป้องกันตนเอง
ส่วนใหญ่แล้ว งูชนิดนี้จะพยายามยกหัวขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขยายผิวหนังบริเวณคอเพื่อเลียนแบบงูเห่า เพื่อขู่ผู้ที่มาคุกคาม แม้ว่าจะไม่มีพิษต่อมนุษย์ แต่ก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและทำให้เกิดการอักเสบหลังถูกกัดได้
งูลายสอใหญ่ อาจสูญเสียหางไปเพื่อเป็นกลไกในการหลบหนี มีรายงานกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากของลักษณะนี้ในเวียดนาม
ที่อยู่อาศัย
แหล่งที่อยู่ที่เหมาะสมของงูลายสอใหญ่ คือในหรือใกล้ทะเลสาบหรือแม่น้ำน้ำจืด
อาหาร
งูลายสอใหญ่จะกินปลาขนาดเล็กและกบน้ำเป็นหลัก
การสืบพันธุ์
งูลายสอใหญ่เป็นงูที่ จำนวนไข่ในแต่ละ โดยปกติจะอยู่ที่ 30 ถึง 70 ฟอง แต่บางครั้งอาจมีเพียง 4 ฟองหรือมากถึง 100 ฟองก็ได้ ขนาดของไข่ก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ไข่แต่ละฟองอาจมีความยาว 1.5 ถึง 4 เซนติเมตร (0.59 ถึง 1.57 นิ้ว) ตัวเมียจะคอยเฝ้าดูแลไข่จนกระทั่งไข่ฟักออกมา ลูกฟักแต่ละตัวจะยาวประมาณ 11 เซนติเมตร (4.3 นิ้ว)
ที่อยู่ทางภูมิศาสตร์
งูลายสอใหญ่สามารถพบได้ในประเทศอัฟกานิสถาน, ประเทศบังกลาเทศ, ประเทศปากีสถาน, ประเทศศรีลังกา, ประเทศอินเดีย, ประเทศพม่า, ประเทศเนปาล, ประเทศไทย, ประเทศลาว, ประเทศกัมพูชา, ประเทศเวียดนาม, มาเลเซียตะวันตก, ประเทศจีน (ในมณฑลเจ้อเจียง, มณฑลเจียงซี, มณฑลฝูเจี้ยน, มณฑลกวางตุ้ง, มณฑลไหหลำ, เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลยูนนาน), ประเทศไต้หวัน, ประเทศออสเตรเลีย, และประเทศอินโดนีเซีย (บนเกาะสุมาตรา, เกาะชวา, เกาะบอร์เนียว และเกาะเซเลบีสหรือซูลาเวซี)
ตัวอย่างที่ตั้งชนิด: "อินเดียตะวันออก"
ชนิดย่อย
- F. p. melanzostus (, 1807) – ประเทศอินโดนีเซีย (บนเกาะบอร์เนียว [?], เกาะชวา, เกาะซูลาเวซี [?]; เกาะสุมาตรา) และประเทศอินเดีย (หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์)
- F. p. piscator (, 1799) – ประเทศบังกลาเทศ, ประเทศภูฏาน, ประเทศอินเดีย, ประเทศเมียนมาร์, ประเทศปากีสถาน, ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน (รวมถึงไหหลำ), ประเทศศรีลังกา, ประเทศไต้หวัน และประเทศไทย
: (ชื่อที่ประกอบด้วย 3 คำ) ในวงเล็บแสดงว่าสกุลย่อยนี้ได้รับการอธิบายไว้ครั้งแรกในสกุลอื่นที่ไม่ใช่สกุล Fowlea
ชนิดย่อย F. p. melanzostus ได้รับการยกระดับสถานะเป็นชนิด โดยอินดรานีล ดาส ในปี ค.ศ. 1996
แกลเลอรี่สำหรับการระบุลักษณะเฉพาะ
-
![image]()
แผ่นภาพที่ 1 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 2 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 3 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 4 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 5 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 6 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 7 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 8 -
![image]()
แผ่นภาพที่ 9 -
![image]()
ลำตัวของงูลายสอใหญ่ -
![image]()
-
![image]()
งูลายสอใหญ่ขณะอยู่นิ่ง -
![image]()
รูปแบบของเกล็ด
เชิงอรรถและรายการอ้างอิง
- Stuart, B.L., Wogan, G., Thy, N., Nguyen, T.Q., Vogel, G., Srinivasulu, C., Srinivasulu, B., Shankar, G., Mohapatra, P., Thakur, S. & Papenfuss, T. (2021). "Fowlea asperrimus". . IUCN. 2021: e.T172646A1358305. สืบค้นเมื่อ 15 January 2021.
{{}}: CS1 maint: multiple names: authors list () - ชนิด Xenochrophis piscator ที่ The Reptile Database . www.reptile-database.org.
- (1890).
- Das I (2002).
- , Orlov NL (1994).
ดูเพิ่มเติม
- Boulenger GA (1893). Catalogue of the Snakes in the .Volume I., Containing the Families ... Colubridæ Aglyphæ, part. London: Trustees of the British Museum (Natural History). (Taylor and Francis, printers). xiii + 448 pp. + Plates I-XXVIII. (Tropidonotus piscator, pp. 230–232).
- Dutt, Kalma (1970). "Chromosome Variation in Two Populations of Xenochrophis piscator Schn. from North and South India (Serpentes, Colubridae)". Cytologia 35: 455–464.
- Schneider JG (1799). Historiae Amphibiorum naturalis et literariae. Fasciculus Primus, continens Ranas, Calamitas, Bufones, Salamandras et Hydros. Jena: F. Frommann. xiii + 264 pp. + corrigenda + Plate I. (Hydrus piscator, new species, pp. 247–248). (in Latin).
- Smith MA (1943). The Fauna of British India, Ceylon and Burma, Including the Whole of the Indo-Chinese Sub-region. Amphibia and Reptilia. Vol. III.—Serpentes. London: Secretary of State for India. (Taylor and Francis, printers). xii + 583 pp. (Tropidonotus piscator, pp. 293–296, Figures 95–96).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ngulaysxihy hrux ngulaysxban xngkvs checkered keelback chuxwithyasastr Fowlea piscator hruxthieriykinchuxsamyxikchuxhnungwa Asiatic water snake epnspichisthwipinwngsyxy khxngwngsnguphisekhiywhlng spichisniepnsingmichiwitechphaathininthwipexechiy sungnguchnidniimmiphisngulaysxihyinxssmsthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxt Eukaryotaxanackr stw Animaliaiflm stwmiaeknsnhlng Chordatachn stweluxykhlan Reptiliaxndb kingkaaelangu Squamataxndbyxy Serpentes Serpenteswngs wngsnguphisekhiywhlng Colubridaeskul Fowlea 1799 spichis Fowlea piscatorchuxthwinamFowlea piscator 1799 chuxphxngHydrus piscator Schneider 1799 Natrix piscator 1820 Tropidonotus quincunciatus 1837 Tropidonotus piscator 1893 Nerodia piscator 1921 Xenochrophis piscator et al 1998inrthekrlangulaysxihykalngkdpladuk inkathmanthukhaxthibayhwklmriaelaswnkhxnghwkwangkwalakhxelknxy swnplaykhxnghweriyw takhxnkhangihy latwpxm hangyawaelaswnplayhangeriyw phiwhnnglatwmiekldpkkhlum ekldbnhwepn aephnkwang ekldbnhlngmisn odysnkhxngaephnekldmikhnadihykhuntamladbipthangdanthaykhxng latw ekldthxngkhyaykwang ekldithangepnaethwkhu ekldrxblatwintaaehnngkungklangtwcanwn 19 ekld ekldthxngcanwn 132 ekld aelaekldithangcanwn 80 ekld latwmidanbnkhxnghwaelabnhlngsinatalhruxsinatalxmekhiyw dankhangkhxnghwmiesnsidacakdanlangkhxngtalngipthiekldkhxbpakbnaephnthi 6 aelamiesnsidacakthangdanthayta aetimtidkbta lngipthimumkhakrrikr thangdanthaykhxngmumkhakrrikrmiesnsidaphadechiyngkhunipthi swnbnkhxngthaythxy bnhlngaelathangdanbnkhxnghangmicudsidaaelacudsikhawkracaypapnkn aelaeriyngtwinlksnathipraipthwlatw khang itkhx danthxng aelaithangsikhaw aetekldthxngmi khxbdannxksiethaekhm aelaekldithangmikhxbdannxksida ngulaysxihyepnngukhnadklang aetsamarthetibotepnngukhnadihyid otetmwysamarthmikhwamyawtngaetkhwamyawcakplaycmukcnthungruthwar SVL idthung 1 75 emtr 5 7 fut phvtikrrmkarpxngkntnexngswnihyaelw nguchnidnicaphyayamykhwkhunihmakthisudethathicathaid aelakhyayphiwhnngbriewnkhxephuxeliynaebbngueha ephuxkhuphuthimakhukkham aemwacaimmiphistxmnusy aetksamarththaihekidxakarecbpwdaelathaihekidkarxkesbhlngthukkdid ngulaysxihy xacsuyesiyhangipephuxepnklikinkarhlbhni mirayngankrnithiekidkhunidyakkhxnglksnaniinewiydnamthixyuxasyaehlngthixyuthiehmaasmkhxngngulaysxihy khuxinhruxiklthaelsabhruxaemnanacud phbngulaysxihy inthxngthineriykwa Joldhora kalngwaynaxyuthi Beel Dakatia emuxngkhulna praethsbngklaethsxaharngulaysxihycakinplakhnadelkaelakbnaepnhlkkarsubphnthungulaysxihyepnnguthi canwnikhinaetla odypkticaxyuthi 30 thung 70 fxng aetbangkhrngxacmiephiyng 4 fxnghruxmakthung 100 fxngkid khnadkhxngikhkepliynaeplngidechnkn ikhaetlafxngxacmikhwamyaw 1 5 thung 4 esntiemtr 0 59 thung 1 57 niw twemiycakhxyefaduaelikhcnkrathngikhfkxxkma lukfkaetlatwcayawpraman 11 esntiemtr 4 3 niw thixyuthangphumisastrngulaysxihysamarthphbidinpraethsxfkanisthan praethsbngklaeths praethspakisthan praethssrilngka praethsxinediy praethsphma praethsenpal praethsithy praethslaw praethskmphucha praethsewiydnam maelesiytawntk praethscin inmnthlecxeciyng mnthleciyngsi mnthlfueciyn mnthlkwangtung mnthlihhla ekhtpkkhrxngtnexngkwangsicwng aelamnthlyunnan praethsithwn praethsxxsetreliy aelapraethsxinodniesiy bnekaasumatra ekaachwa ekaabxreniyw aelaekaaeselbishruxsulaewsi twxyangthitngchnid xinediytawnxxk chnidyxyF p melanzostus 1807 praethsxinodniesiy bnekaabxreniyw ekaachwa ekaasulaewsi ekaasumatra aelapraethsxinediy hmuekaaxndamnaelaniokhbar F p piscator 1799 praethsbngklaeths praethsphutan praethsxinediy praethsemiynmar praethspakisthan praethssatharnrthprachachncin rwmthungihhla praethssrilngka praethsithwn aelapraethsithy chuxthiprakxbdwy 3 kha inwngelbaesdngwaskulyxyniidrbkarxthibayiwkhrngaerkinskulxunthiimichskul Fowlea chnidyxy F p melanzostus idrbkarykradbsthanaepnchnid odyxindranil das inpi kh s 1996aeklelxrisahrbkarrabulksnaechphaaaephnphaphthi 1 aephnphaphthi 2 aephnphaphthi 3 aephnphaphthi 4 aephnphaphthi 5 aephnphaphthi 6 aephnphaphthi 7 aephnphaphthi 8 aephnphaphthi 9 latwkhxngngulaysxihy ngulaysxihykhnaxyuning rupaebbkhxngekldechingxrrthaelaraykarxangxingStuart B L Wogan G Thy N Nguyen T Q Vogel G Srinivasulu C Srinivasulu B Shankar G Mohapatra P Thakur S amp Papenfuss T 2021 Fowlea asperrimus IUCN 2021 e T172646A1358305 subkhnemux 15 January 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk chnid Xenochrophis piscator thi The Reptile Database www reptile database org 1890 Das I 2002 Orlov NL 1994 duephimetimBoulenger GA 1893 Catalogue of the Snakes in the Volume I Containing the Families Colubridae Aglyphae part London Trustees of the British Museum Natural History Taylor and Francis printers xiii 448 pp Plates I XXVIII Tropidonotus piscator pp 230 232 Dutt Kalma 1970 Chromosome Variation in Two Populations of Xenochrophis piscator Schn from North and South India Serpentes Colubridae Cytologia 35 455 464 Schneider JG 1799 Historiae Amphibiorum naturalis et literariae Fasciculus Primus continens Ranas Calamitas Bufones Salamandras et Hydros Jena F Frommann xiii 264 pp corrigenda Plate I Hydrus piscator new species pp 247 248 in Latin Smith MA 1943 The Fauna of British India Ceylon and Burma Including the Whole of the Indo Chinese Sub region Amphibia and Reptilia Vol III Serpentes London Secretary of State for India Taylor and Francis printers xii 583 pp Tropidonotus piscator pp 293 296 Figures 95 96