คาเรล โพบอร์สกี้ย์

กาแร็ล โปโบร์สกี (เช็ก: Karel Poborský, ออกเสียง: [ˈkarɛl ˈpoborskiː] ( ฟังเสียง); เกิดวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1972) เป็นนักฟุตบอลชาวเช็ก โดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง โปโบร์สกีได้เริ่มค้าแข้งกับในฤดูกาล 1991–1994 ลงสนาม 82 นัด ทำประตูได้ 15 ประตู หลังจากนั้นโปโบร์สกีได้ย้ายไปร่วมสโมสรในฤดูกาล 1994–1995 ลงสนาม 28 นัด 10 ประตู และได้ย้ายไปร่วมสโมสรสลาวิยาปราฮาในฤดูกาล 1995–1996 26 นัด 11 ประตู โปโบร์สกีเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติสาธารณรัฐเช็กชุดยูโร 1996 ด้วยประตูสุดคลาสสิกที่งัดข้ามหัว นายทวารโปรตุเกส พร้อมช่วยให้สาธารณรัฐเช็กเอาชนะ 1–0 ในยูโรครั้งนั้น ทำให้เขากลายเป็นที่หมายปองของหลายสโมสรในยุโรปและสุดท้าย อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้ฝึกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในขณะนั้นได้ดึงตัวมาเล่นด้วยเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1996

กาแร็ล โปโบร์สกี

โปโบร์สกีใน ค.ศ. 2012
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม	กาแร็ล โปโบร์สกี
วันเกิด	(1972-03-30) 30 มีนาคม ค.ศ. 1972 (52 ปี)
สถานที่เกิด	เชโกสโลวาเกีย
ส่วนสูง	1.74 เมตร (5 ฟุต 9 นิ้ว)
ตำแหน่ง	(ปีก)
สโมสรเยาวชน
1978–1984	แตแย แชโบญ
1984–1987
1987–1988
1988–1990
สโมสรอาชีพ*
ปี	ทีม	ลงเล่น	(ประตู)
1991–1994		82	(15)
1994–1995		28	(10)
1995–1996	สลาวิยาปราฮา	26	(11)
1996–1998	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	32	(5)
1998–2000	ไบฟีกา	61	(11)
2000–2002	ลัตซีโย	46	(5)
2002–2005		87	(26)
2005–2007		26	(10)
รวม		388	(93)
ทีมชาติ
1994–2006	สาธารณรัฐเช็ก	118	(8)
เกียรติประวัติ ฟุตบอลชาย ตัวแทนของ  เช็กเกีย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รองชนะเลิศ อังกฤษ 1996 โปรตุเกส 2004 ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

แต่เนื่องจากดาวรุ่งอย่างเดวิด เบ็คแฮม กำลังก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ทำให้โปโบร์สกีจำต้องย้ายทีมออกไป รวมแล้วเขาอยู่กับทีมปีศาจแดงแค่ปีครึ่ง แต่ก็สามารถคว้าเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 1996–97 ได้ โดยในปีนั้นเขาได้ลงเล่น 32 นัด จากทั้งหมด 38 นัด ยิงได้ 6 ประตู แถมยังช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกด้วย ในเดือนมกราคมปีถัดมา เขาย้ายไปเล่นกับไบฟีกา ก่อนที่จะย้ายไปลัตซีโย, สลาวิยาปราฮา และใน ค.ศ. 2006 ได้กลับมาค้าแข้งกับสโมสรแรกของเขาคือซึ่งอยู่ในดิวิชัน 2 ขณะนั้น ก่อนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสำเร็จ ฤดูกาลถัดมา โปโบร์สกีปิดฉากอาชีพค้าแข้งด้วยการเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้ง

อ้างอิง

1. (PDF). FIFA. 21 March 2014. p. 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 10 June 2019.