คาร์โนทอรัส ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: (),71Ma | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Reptilia |
อันดับใหญ่: | Dinosauria |
อันดับ: | Saurischia |
อันดับย่อย: | Theropoda |
วงศ์: | |
วงศ์ย่อย: | |
เผ่า: | |
สกุล: | Carnotaurus , 1985 |
Species | |
C. sastrei Bonaparte, 1985 () |
คาร์โนทอรัส (อังกฤษ: En:Carnotaurus) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ถูกค้นพบที่อเมริกาใต้ โดยมันมีชีวิตอยูในช่วงยุคครีเทเชียสตอนปลาย ระหว่าง 71 - 69 ล้านปีก่อน โดยในตอนนี้ยังค้นพบพวกมันแค่เพียงสปีชีส์เดียวคือ Carnotaurus Sastrei โดยมันเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์จากซีกโลกใต้ที่มีคนรู้จักมากที่สุด จากสื่อภาพยนตร์หรือสารคดี อีกทั้งมันยังเป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดที่ต่างจากเทอโรพอดชนิดอื่นๆ อย่างชัดเจน เพราะมันมีเขาทั้งสองข้างตรงบริเวณเหนือตาที่เป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของมัน จึงทำให้มันดูเตะตาสำหรับกลุ่มคนที่เป็นเด็กอย่างมาก
คาร์โนทอรัส เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดที่เรารู้ข้อมูลมันค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีการค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกของมันที่มีความสมบูรณ์มากถึง 70% จึงทำให้นักบรรพชีวินวิทยามีความรู้เกี่ยวกับมันมาก โดยมันถูกค้นพบที่รัฐชูบุต ประเทศอาร์เจนตินา ทวีปอเมริกาใต้ เมื่อปี 1984 โดยถูกค้นพบในหมวดหิน La Colonia Formation โดย คาร์โนทอรัส ถูกจัดอยู่ในวงศ์ของไดโนเสาร์ (เอบิลิซอริดี) ซึ่งเป็นวงศ์ของไดโนเสาร์เทอโรพอดขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นของไดโนเสาร์วงศ์นี้ คือมีขาหน้าที่เล็กจิ๋วจนเหมือนจะใช้การไม่ได้ และมีรูปร่างที่ปราดเปรียวเหมาะสำหรับการวิ่ง แต่ไม่เหมาะกับการวิ่งแบบเลี้ยวไปเลี้ยวมาจะทำให้ตัวของพวกมันล้มทันที
คาร์โนทอรัส เป็นเทอโรพอดขนาดใหญ่ โดยมันเป็นนักล่าที่มีน้ำหนักเบามาก มีความยาวลำตัวอยู่ที่ 7.4 - 8 เมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.3 - 2.1 ตัน คาร์โนทอรัสนับเป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก และคงจะหลีกไม่พ้นเขาทั้งสองข้างที่อยู่บนหัวของมันที่ทำให้มันดูมีเอกลักษณ์ขึ้นมา นักบรรพชีวินวิทยาหลายต่อหลายคนยังมีการศึกษากันอยู่ว่าพวกมันมีเขาไว้ใช้ทำสิ่งใด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะสันนิษฐานกันว่าเขาของคาร์โนทอรัสมีไว้ใช้ในการป้องกันตัวและการหาคู่ ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับโครงสร้างร่างกายส่วนอื่นๆของพวกมันโดยเฉพาะ บริเวณหลังของพวกมันมีการค้นพบขนาด 5 มิลลิเมตร เรียงเป็นแถวตรงกระจัดกระจายอยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง โดยหลักฐานนี้ มีการค้นพบจากรอยประทับของผิวหนังที่กลายเป็นฟอสซิล และยังเป็นการยืนยันได้อีกว่าตัวของคาร์โนทอรัสนั้นไม่มีขน
รายละเอียด
คาร์โนทอรัส เป็นเทอโรพอดประเภทกินเนื้อขนาดใหญ่ คาร์โนทอรัสมีความยาวลำตัวอยู่ที่ 7.4 - 8 เมตร (24.6 ฟุต - 26.2 ฟุต) ซึ่งคาร์โนทอรัสเป็นไดโนเสาร์วงศ์ (เอบิลิซอริดี) ที่มีขนาดใหญ่เกือบที่สุดในวงศ์ของมัน โดยมันมีขนาดเป็นรอง (เอคริกซินาโทซอรัส) จากปาตาโกเนีย ที่มีการคาดการณ์ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 10 - 11 เมตร คาร์โนทอรัสมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.3 - 2.1 ตัน เปรียบเทียบได้กับช้างประมาณครึ่งตัว
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCerroni2020
- https://en.wikipedia.org/wiki/Carnotaurus ข้อมูลบางส่วนจากวิกิพีเดียภาษาต่างประเทศ
- https://www.quora.com/Which-member-of-the-Abelisauridae-is-truly-the-largest อะเบลิซอริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จากที่ราบปาตาโกเนีย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kharonthxrs chwngewlathimichiwitxyu 71Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Reptiliaxndbihy Dinosauriaxndb Saurischiaxndbyxy Theropodawngs wngsyxy epha skul Carnotaurus 1985SpeciesC sastrei Bonaparte 1985 kharonthxrs xngkvs En Carnotaurus epnidonesarethxorphxd thukkhnphbthixemrikait odymnmichiwitxyuinchwngyukhkhriethechiystxnplay rahwang 71 69 lanpikxn odyintxnniyngkhnphbphwkmnaekhephiyngspichisediywkhux Carnotaurus Sastrei odymnepnhnunginidonesarcaksikolkitthimikhnruckmakthisud caksuxphaphyntrhruxsarkhdi xikthngmnyngepnidonesarethxorphxdthitangcakethxorphxdchnidxun xyangchdecn ephraamnmiekhathngsxngkhangtrngbriewnehnuxtathiepnlksnaednechphaatwkhxngmn cungthaihmnduetatasahrbklumkhnthiepnedkxyangmak kharonthxrs epnidonesarethxorphxdthierarukhxmulmnkhxnkhangeyxa enuxngcakmikarkhnphbfxssilokhrngkradukkhxngmnthimikhwamsmburnmakthung 70 cungthaihnkbrrphchiwinwithyamikhwamruekiywkbmnmak odymnthukkhnphbthirthchubut praethsxarecntina thwipxemrikait emuxpi 1984 odythukkhnphbinhmwdhin La Colonia Formation ody kharonthxrs thukcdxyuinwngskhxngidonesar exbilisxridi sungepnwngskhxngidonesarethxorphxdkhnadklangthungkhnadihy lksnaednkhxngidonesarwngsni khuxmikhahnathielkciwcnehmuxncaichkarimid aelamiruprangthipradepriywehmaasahrbkarwing aetimehmaakbkarwingaebbeliywipeliywmacathaihtwkhxngphwkmnlmthnthi phaphthikradukpraktxyubnphaphokhrngsrangrangkaykhxng kharonthxrs khuxkradukthinkbrrphchiwinwithyakhnphb n ewlann kharonthxrs epnethxorphxdkhnadihy odymnepnnklathiminahnkebamak mikhwamyawlatwxyuthi 7 4 8 emtr aelaminahnktwxyuthi 1 3 2 1 tn kharonthxrsnbepnidonesarethxorphxdthimikhwamepnexklksnechphaatwxyangmak aelakhngcahlikimphnekhathngsxngkhangthixyubnhwkhxngmnthithaihmndumiexklksnkhunma nkbrrphchiwinwithyahlaytxhlaykhnyngmikarsuksaknxyuwaphwkmnmiekhaiwichthasingid aetodyswnihyaelwcasnnisthanknwaekhakhxngkharonthxrsmiiwichinkarpxngkntwaelakarhakhu sungxaccasxdkhlxngkbokhrngsrangrangkayswnxunkhxngphwkmnodyechphaa briewnhlngkhxngphwkmnmikarkhnphbkhnad 5 milliemtr eriyngepnaethwtrngkracdkracayxyutamaenwkraduksnhlng odyhlkthanni mikarkhnphbcakrxyprathbkhxngphiwhnngthiklayepnfxssil aelayngepnkaryunynidxikwatwkhxngkharonthxrsnnimmikhnraylaexiydkharonthxrs epnethxorphxdpraephthkinenuxkhnadihy kharonthxrsmikhwamyawlatwxyuthi 7 4 8 emtr 24 6 fut 26 2 fut sungkharonthxrsepnidonesarwngs exbilisxridi thimikhnadihyekuxbthisudinwngskhxngmn odymnmikhnadepnrxng exkhriksinaothsxrs cakpataokeniy thimikarkhadkarnkhnadihythisudxyuthi 10 11 emtr kharonthxrsminahnktwxyuthi 1 3 2 1 tn epriybethiybidkbchangpramankhrungtw bthkhwamstwniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Cerroni2020 https en wikipedia org wiki Carnotaurus khxmulbangswncakwikiphiediyphasatangpraeths https www quora com Which member of the Abelisauridae is truly the largest xaeblisxridthimikhnadihythisud cakthirabpataokeniy