ความอัปยศแห่งฆิฆอน (อังกฤษ: Disgrace of Gijón) เป็นชื่อที่ใช้เรียกการแข่งขันในฟุตบอลโลก 1982 ระหว่างเยอรมนีตะวันตกกับออสเตรียซึ่งจัดขึ้นที่สนามเอลโมลินอน ในเมืองฆิฆอน ประเทศสเปน ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1982 ซึ่งเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่มที่ 2 หลังจากที่แอลจีเรียและชิลีแข่งขันไปแล้วก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ในการแข่งขันนัดนี้ ถ้าเยอรมนีตะวันตกชนะ 1 หรือ 2 ประตูก็จะทำให้เยอรมนีตะวันตกและออสเตรียผ่านเข้ารอบไปด้วยกัน และแอลจีเรียซึ่งเอาชนะเยอรมนีตะวันตกได้ก่อนหน้านี้นั้นตกรอบ เยอรมนีตะวันตกออกนำก่อนใน 10 นาทีแรก และ 80 นาทีที่เหลือหลังจากนั้นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ตั้งใจจะทำประตูเพิ่มเลย ทั้งสองทีมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าล้มบอล แม้ว่าฟีฟ่าจะตัดสินว่าทั้งสองทีมไม่ได้ทำผิดกติกาก็ตาม
สนามซึ่งใช้จัดการแข่งขัน | |||||||
รายการ | ฟุตบอลโลก 1982 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
| |||||||
วันที่ | 25 มิถุนายน ค.ศ. 1982 | ||||||
สนาม | เอลโมลินอน, ฆิฆอน | ||||||
ผู้ตัดสิน | บ็อบ วาเลนไทน์ (สกอตแลนด์) | ||||||
ผู้ชม | 41,000 |
สืบเนื่องจากการแข่งขันนัดนี้ และเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อนหน้านี้ที่อาร์เจนตินา ฟีฟ่าได้เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มโดยให้สองนัดสุดท้ายของแต่ละกลุ่มแข่งขันพร้อมกัน เหตุการณ์นี้มีชื่อเรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า "สนธิสัญญาไม่รุกรานกันแห่งฆิฆอน" (Nichtangriffspakt von Gijón) หรือ "ความอัปยศแห่งฆิฆอน" (Schande von Gijón) ในขณะที่ชาวแอลจีเรียเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "เรื่องอื้อฉาวแห่งฆิฆอน" (อาหรับ: فضيحة خيخون, อักษรโรมัน: Faḍīḥa Khīkhūn) นอกจากนี้เหตุการณ์นี้ยังมีชื่อเรียกว่า อันชลุส ซึ่งอ้างอิงถึงการผนวกรวมออสเตรียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมนีในปี ค.ศ. 1938
ปูมหลัง
ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ออสเตรีย | 2 | 2 | 0 | 0 | 3 | 0 | +3 | 4 |
แอลจีเรีย | 3 | 2 | 0 | 1 | 5 | 5 | 0 | 4 |
เยอรมนีตะวันตก | 2 | 1 | 0 | 1 | 5 | 3 | +2 | 2 |
ชิลี | 3 | 0 | 0 | 3 | 3 | 8 | −5 | 0 |
- หมายเหตุ: ชนะได้ 2 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน ถ้าคะแนนเท่ากันจะตัดสินด้วยผลต่างประตูได้เสีย
แอลจีเรียเริ่มต้นการแข่งขันด้วยการพลิกล็อกเอาชนะเยอรมนีตะวันตกด้วยผล 2–1 ในการแข่งขันวันแรก ซึ่งเรียกขานกันว่าเป็น "การพลิกล็อกที่เหลือเชื่อที่สุดนับตั้งแต่เกาหลีเหนือชนะอิตาลีในปี 1966" และเป็น "หนึ่งในเหตุการณ์สุดช็อกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก" แอลจีเรียกลายเป็นชาติแอฟริกาและชาติอาหรับชาติแรกที่เอาชนะชาติจากยุโรปได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ก่อนจะแพ้ออสเตรีย 0–2 และชนะชิลี 3–2 ในนัดสุดท้าย ซึ่งทำให้แอลจีเรียกลายเป็นชาติจากแอฟริกาและชาติอาหรับชาติแรกที่ชนะได้สองครั้งในการแข่งขันฟุตบอลโลกคราวเดียวกันอีกด้วย
เนื่องจากแอลจีเรียแข่งขันนัดสุดท้ายไปแล้วก่อนที่เยอรมนีตะวันตกจะพบกับออสเตรีย ทีมยุโรปทั้งสองทีมจึงรู้ดีว่าผลการแข่งขันจะมีผลอย่างไรต่อการเข้ารอบหรือตกรอบ ถ้าเยอรมนีตะวันตกชนะ 1 หรือ 2 ประตู ทั้งเยอรมนีตะวันตกและออสเตรียก็จะเข้ารอบไปด้วยกัน ถ้าเยอรมนีตะวันตกชนะมากกว่านั้นเยอรมนีตะวันตกกับแอลจีเรียจะเข้ารอบ แต่ถ้าเสมอกันหรือออสเตรียชนะ เยอรมนีตะวันตกจะตกรอบ
การแข่งขัน
สรุปเหตุการณ์
หลังจากที่สิบนาทีแรกเป็นไปอย่างดุเดือด เยอรมนีตะวันตกก็ทำประตูแรกได้จากฮอสท์ รูเบ็ช และหลังจากที่มีประตูเกิดขึ้นแล้ว ผู้เล่นฝ่ายที่ครองบอลได้ก็ส่งลูกไปมาระหว่างฝ่ายตัวเอง จนกว่าผู้เล่นของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้ ผู้เล่นก็ส่งลูกกลับไปที่ผู้รักษาประตู บางครั้งผู้เล่นก็เล่นลูกยาวบ้างแต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น ไม่ค่อยมีการเข้าแย่งลูกเกิดขึ้นมากนัก และผู้เล่นทั้งสองฝ่ายแทบจะไม่พยายามทำประตูเพิ่มเลย ผู้เล่นออสเตรียเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะพยายามเล่นอย่างจริงจังคือวัลเทอร์ ชัคเนอร์ แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้มากนักก็ตาม ในขณะที่ว็อลฟ์กัง เดร็มเลอร์ ของเยอรมนีตะวันตกเป็นผู้เล่นหนึ่งในไม่กี่คนที่พยายามทำประตู
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างแสดงความไม่พอใจ เอเบอร์ฮาร์ท สตันเย็ค ผู้บรรยายของสถานีโทรทัศน์ อาแอร์เด ของเยอรมนีตะวันตกไม่บรรยายหรือออกความเห็นใด ๆ กับการแข่งขันอีกเลย โรแบร์ท เซเกอร์ ผู้บรรยายของออสเตรียผิดหวังกับสิ่งที่เห็นและบอกให้ผู้ชมปิดโทรทัศน์ จอร์จ เวกซีย์ นักข่าวของ เดอะนิวยอร์กไทมส์ กล่าวว่าทั้งสองทีม "ดูเหมือนจะร่วมมือกัน" แม้ว่าจะกล่าวเสริมว่าพิสูจน์ได้ยากก็ตามเอลโกเมร์ซิโอ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตีพิมพ์รายงานการแข่งขันนัดนี้ลงในหมวดข่าวอาชญากรรม
ผู้ชมในสนามก็ไม่พอใจและแสดงอาการโกรธเคืองต่อผู้เล่นในสนามเช่นกัน ผู้ชมชาวสเปนตะโกนว่า "Fuera, fuera" ("ออกไป ออกไป") "Argelia, Argelia" ("แอลจีเรีย แอลจีเรีย") และ "Que se besen, que se besen" ("จูบกันเลยสิ จูบกันเลยสิ") ในขณะที่ผู้ชมชาวแอลจีเรียโบกธนบัตรใส่ผู้เล่น แม้แต่ผู้ชมชาวเยอรมันและออสเตรียเองก็แสดงอาการไม่พอใจเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาหวังจะได้การแข่งขันที่ดุเดือดเช่นเดียวกับ "ปาฏิหาริย์แห่งกอร์โดบา" ซึ่งออสเตรียเอาชนะเยอรมนีตะวันตกได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1978 แฟนบอลชาวเยอรมันคนหนึ่งถึงกับเผาธงชาติเพื่อประท้วง
รายละเอียด
เยอรมนีตะวันตก | 1–0 | ออสเตรีย |
---|---|---|
10' | รายงาน |
เยอรมนีตะวันตก | ออสเตรีย |
|
|
หลังจากเหตุการณ์
ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เยอรมนีตะวันตก | 2 | 2 | 0 | 1 | 6 | 3 | +3 | 4 |
ออสเตรีย | 3 | 2 | 0 | 1 | 3 | 1 | +2 | 4 |
แอลจีเรีย | 3 | 2 | 0 | 1 | 5 | 5 | 0 | 4 |
ชิลี | 3 | 0 | 0 | 3 | 3 | 8 | −5 | 0 |
เนื่องจากเยอรมนีตะวันตกชนะ 1–0 ทำให้มี 4 คะแนนเท่ากับออสเตรียและแอลจีเรีย เยอรมนีตะวันตกและออสเตรียผ่านเข้ารอบต่อไปเนื่องจากผลต่างประตูได้-เสียดีกว่าแอลจีเรีย ออสเตรียผ่านเข้ารอบที่สองไปพบกับฝรั่งเศสและไอร์แลนด์เหนือ ในขณะที่เยอรมนีตะวันตกผ่านเข้าไปพบกับสเปนซึ่งเป็นเจ้าภาพ และอังกฤษซึ่งเอาชนะฝรั่งเศสมาได้ก่อนหน้านี้
หลังจบการแข่งขัน แฟนฟุตบอลชาวเยอรมันบางส่วนที่โกรธแค้นมารวมตัวกันที่โรงแรมที่พักของนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีตะวันตก พร้อมทั้งขว้างปาไข่และสิ่งของต่าง ๆ ใส่ผู้เล่น ผู้บรรยายทางโทรทัศน์ของทั้งเยอรมนีตะวันตกและออสเตรียไม่พอใจถึงกับบอกให้ผู้ชมเปลี่ยนช่องไปดูรายการอื่นแทน สหพันธ์ฟุตบอลแอลจีเรียประกาศประท้วงอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้น ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแอลจีเรียแสดงความเห็นว่าบ็อบ วาเลนไทน์ ผู้ตัดสินในการแข่งขันนัดนี้ควรเข้าจัดการ และการที่บ็อบไม่เข้าไปจัดการนั้นเป็นเหตุสมควรที่จะประท้วง อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่าพิจารณาว่าไม่มีการทำผิดกติกาเกิดขึ้น และตัดสินใจไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งสองฝ่ายปฏิเสธการสมรู้ร่วมคิด ยุพ แดร์วัล ผู้จัดการทีมชาติเยอรมนีตะวันตกปกป้องลูกทีมจากข้อวิจารณ์ โดยอ้างว่าสภาพร่างกายของอุลลี ชตีลีเคอ และคาร์ล-ไฮนทซ์ รุมเมอนิกเกอไม่พร้อมลงแข่งขัน เยอรมนีตะวันตกผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับอิตาลีก่อนจะแพ้ไปด้วยผล 3–1 ส่วนออสเตรียตกรอบในรอบถัดมา
เนื่องจากการแข่งขันนัดนี้ ทำให้การแข่งขันนับตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1984 และฟุตบอลโลก 1986 เป็นต้นมา นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มในกลุ่มเดียวกันจะแข่งพร้อมกัน
อ้างอิง
- Booth, Lawrence; Smyth, Rob (11 August 2004). "What's the dodgiest game in football history?". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 16 June 2018.
- Smyth, Rob (25 February 2014). "No3: West Germany 1–0 Austria in 1982". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 23 June 2014.
- Spurling, Jon (2010). Death or Glory The Dark History of the World Cup. p. 67. ISBN .
- (29 June 1982). "When West Germany and Austria danced a Vienna waltz". . p. 12. สืบค้นเมื่อ 24 July 2014.
- Murray, Scott; Walker, Rowan (2008). "June 25 - West Germany 1-0 Austria: 'El Anchluss' (1982)". Day of the Match. Boxtree. p. 183. ISBN .
- Honigstein, Raphael (29 June 2014). "Germany won't repeat 1982 mistakes". ESPNFC.com. ESPN Internet Ventures, LLC. สืบค้นเมื่อ 16 July 2014.
- https://www.youtube.com/watch?t=290&v=PosNh9VGMPI
- . twohundredpercent.net. London. 9 May 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 30 December 2010.
- Doyle, Paul (13 June 2010). "The day in 1982 when the world wept for Algeria". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 30 December 2011.
- "Cup game labeled as 'fix'". . Eugene. 26 June 1982. สืบค้นเมื่อ 24 July 2014.
- Molinaro, John (16 June 2008). "No agreement between Germany and Austria this time around". . สืบค้นเมื่อ 15 September 2009.
- "German victory in World Cup stirs controversy". . Associated Press; United Press International. 26 June 1982. p. 10. สืบค้นเมื่อ 24 July 2014.[]
- "The Game that Changed the World Cup — Algeria". algeria.com. สืบค้นเมื่อ 15 September 2009.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khwamxpysaehngkhikhxn xngkvs Disgrace of Gijon epnchuxthiicheriykkaraekhngkhninfutbxlolk 1982 rahwangeyxrmnitawntkkbxxsetriysungcdkhunthisnamexlomlinxn inemuxngkhikhxn praethssepn inwnthi 25 mithunayn kh s 1982 sungepnkaraekhngkhnndsudthayinrxbaebngklumkhxngklumthi 2 hlngcakthiaexlcieriyaelachiliaekhngkhnipaelwkxnhnanihnungwn inkaraekhngkhnndni thaeyxrmnitawntkchna 1 hrux 2 pratukcathaiheyxrmnitawntkaelaxxsetriyphanekharxbipdwykn aelaaexlcieriysungexachnaeyxrmnitawntkidkxnhnaninntkrxb eyxrmnitawntkxxknakxnin 10 nathiaerk aela 80 nathithiehluxhlngcaknnklayepnthiwiphakswicarnenuxngcakthngsxngfayimtngiccathapratuephimely thngsxngthimthuktngkhxklawhawalmbxl aemwafifacatdsinwathngsxngthimimidthaphidktikaktameyxrmnitawntk phbkb xxsetriysnamsungichcdkaraekhngkhnraykarfutbxlolk 1982eyxrmnitawntk xxsetriy1 0wnthi25 mithunayn kh s 1982snamexlomlinxn khikhxnphutdsinbxb waelnithn skxtaelnd phuchm41 000 subenuxngcakkaraekhngkhnndni aelaehtukarnthikhlaykhlungkninkaraekhngkhnfutbxlolkkhrngkxnhnanithixarecntina fifaidepliynrupaebbkaraekhngkhninrxbaebngklumodyihsxngndsudthaykhxngaetlaklumaekhngkhnphrxmkn ehtukarnnimichuxeriykepnphasaeyxrmnwa snthisyyaimrukranknaehngkhikhxn Nichtangriffspakt von Gijon hrux khwamxpysaehngkhikhxn Schande von Gijon inkhnathichawaexlcieriyeriykehtukarnniwa eruxngxuxchawaehngkhikhxn xahrb فضيحة خيخون xksrormn Faḍiḥa Khikhun nxkcakniehtukarnniyngmichuxeriykwa xnchlus sungxangxingthungkarphnwkrwmxxsetriyekhaepnswnhnungkhxngnasieyxrmniinpi kh s 1938pumhlngthim eln chna esmx aeph id esiy tang khaaenn xxsetriy 2 2 0 0 3 0 3 4 aexlcieriy 3 2 0 1 5 5 0 4 eyxrmnitawntk 2 1 0 1 5 3 2 2 chili 3 0 0 3 3 8 5 0hmayehtu chnaid 2 khaaenn esmxid 1 khaaenn thakhaaennethakncatdsindwyphltangpratuidesiy aexlcieriyerimtnkaraekhngkhndwykarphliklxkexachnaeyxrmnitawntkdwyphl 2 1 inkaraekhngkhnwnaerk sungeriykkhanknwaepn karphliklxkthiehluxechuxthisudnbtngaetekahliehnuxchnaxitaliinpi 1966 aelaepn hnunginehtukarnsudchxkinprawtisastrkhxngfutbxlolk aexlcieriyklayepnchatiaexfrikaaelachatixahrbchatiaerkthiexachnachaticakyuorpidinkaraekhngkhnfutbxlolk kxncaaephxxsetriy 0 2 aelachnachili 3 2 inndsudthay sungthaihaexlcieriyklayepnchaticakaexfrikaaelachatixahrbchatiaerkthichnaidsxngkhrnginkaraekhngkhnfutbxlolkkhrawediywknxikdwy enuxngcakaexlcieriyaekhngkhnndsudthayipaelwkxnthieyxrmnitawntkcaphbkbxxsetriy thimyuorpthngsxngthimcungrudiwaphlkaraekhngkhncamiphlxyangirtxkarekharxbhruxtkrxb thaeyxrmnitawntkchna 1 hrux 2 pratu thngeyxrmnitawntkaelaxxsetriykcaekharxbipdwykn thaeyxrmnitawntkchnamakkwanneyxrmnitawntkkbaexlcieriycaekharxb aetthaesmxknhruxxxsetriychna eyxrmnitawntkcatkrxbkaraekhngkhnsrupehtukarn hlngcakthisibnathiaerkepnipxyangdueduxd eyxrmnitawntkkthapratuaerkidcakhxsth ruebch aelahlngcakthimipratuekidkhunaelw phuelnfaythikhrxngbxlidksnglukipmarahwangfaytwexng cnkwaphuelnkhxngfaytrngkhamekhamaikl phuelnksnglukklbipthiphurksapratu bangkhrngphuelnkelnlukyawbangaetkimkhxymixairekidkhunhlngcaknn imkhxymikarekhaaeynglukekidkhunmaknk aelaphuelnthngsxngfayaethbcaimphyayamthapratuephimely phuelnxxsetriyephiyngkhnediywthiduehmuxncaphyayamelnxyangcringcngkhuxwlethxr chkhenxr aemwacathaxairimidmaknkktam inkhnathiwxlfkng edrmelxr khxngeyxrmnitawntkepnphuelnhnunginimkikhnthiphyayamthapratu phuthiehnehtukarntangaesdngkhwamimphxic exebxrharth stneykh phubrryaykhxngsthaniothrthsn xaaexred khxngeyxrmnitawntkimbrryayhruxxxkkhwamehnid kbkaraekhngkhnxikely oraebrth esekxr phubrryaykhxngxxsetriyphidhwngkbsingthiehnaelabxkihphuchmpidothrthsn cxrc ewksiy nkkhawkhxng edxaniwyxrkithms klawwathngsxngthim duehmuxncarwmmuxkn aemwacaklawesrimwaphisucnidyakktamexlokemrsiox hnngsuxphimphthxngthintiphimphrayngankaraekhngkhnndnilnginhmwdkhawxachyakrrm phuchminsnamkimphxicaelaaesdngxakarokrthekhuxngtxphuelninsnamechnkn phuchmchawsepntaoknwa Fuera fuera xxkip xxkip Argelia Argelia aexlcieriy aexlcieriy aela Que se besen que se besen cubknelysi cubknelysi inkhnathiphuchmchawaexlcieriyobkthnbtrisphueln aemaetphuchmchaweyxrmnaelaxxsetriyexngkaesdngxakarimphxicechnkn enuxngcakphwkekhahwngcaidkaraekhngkhnthidueduxdechnediywkb patihariyaehngkxrodba sungxxsetriyexachnaeyxrmnitawntkidinkaraekhngkhnfutbxlolk 1978 aefnbxlchaweyxrmnkhnhnungthungkbephathngchatiephuxprathwng raylaexiyd 25 mithunayn kh s 198217 15 n ewlaxxmaesngyuorpklangeyxrmnitawntk 1 0 xxsetriy 10 rayngankhikhxnphuchm 41 000 khnphutdsin bxb waelnithn skxtaelnd eyxrmnitawntk xxsetriyGK 1SW 15RB 20CB 4LB 2CM 3CM 6CM 14 eflikhs makthRF 11 66 CF 9 68 LF 7twsarxng GK 22DF 5MF 18 olthar mthethxus 66 FW 8 68 FW 13phucdkar GK 1DF 2DF 3DF 4DF 5MF 6FW 7 32 MF 8FW 9MF 10 32 DF 19twsarxng GK 22DF 12DF 13MF 14FW 20phucdkar aelahlngcakehtukarnthim eln chna esmx aeph id esiy tang khaaenn eyxrmnitawntk 2 2 0 1 6 3 3 4 xxsetriy 3 2 0 1 3 1 2 4 aexlcieriy 3 2 0 1 5 5 0 4 chili 3 0 0 3 3 8 5 0 enuxngcakeyxrmnitawntkchna 1 0 thaihmi 4 khaaennethakbxxsetriyaelaaexlcieriy eyxrmnitawntkaelaxxsetriyphanekharxbtxipenuxngcakphltangpratuid esiydikwaaexlcieriy xxsetriyphanekharxbthisxngipphbkbfrngessaelaixraelndehnux inkhnathieyxrmnitawntkphanekhaipphbkbsepnsungepnecaphaph aelaxngkvssungexachnafrngessmaidkxnhnani hlngcbkaraekhngkhn aefnfutbxlchaweyxrmnbangswnthiokrthaekhnmarwmtwknthiorngaermthiphkkhxngnkfutbxlthimchatieyxrmnitawntk phrxmthngkhwangpaikhaelasingkhxngtang isphueln phubrryaythangothrthsnkhxngthngeyxrmnitawntkaelaxxsetriyimphxicthungkbbxkihphuchmepliynchxngipduraykarxunaethn shphnthfutbxlaexlcieriyprakasprathwngxyangepnthangkar nxkcaknn prathanshphnthfutbxlaexlcieriyaesdngkhwamehnwabxb waelnithn phutdsininkaraekhngkhnndnikhwrekhacdkar aelakarthibxbimekhaipcdkarnnepnehtusmkhwrthicaprathwng xyangirktam fifaphicarnawaimmikarthaphidktikaekidkhun aelatdsinicimdaeninkarid thngsxngfayptiesthkarsmrurwmkhid yuph aedrwl phucdkarthimchatieyxrmnitawntkpkpxnglukthimcakkhxwicarn odyxangwasphaphrangkaykhxngxulli chtiliekhx aelakharl ihnths rumemxnikekximphrxmlngaekhngkhn eyxrmnitawntkphanekharxbchingchnaelisipphbkbxitalikxncaaephipdwyphl 3 1 swnxxsetriytkrxbinrxbthdma enuxngcakkaraekhngkhnndni thaihkaraekhngkhnnbtngaetfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 1984 aelafutbxlolk 1986 epntnma ndsudthaykhxngrxbaebngkluminklumediywkncaaekhngphrxmknxangxingBooth Lawrence Smyth Rob 11 August 2004 What s the dodgiest game in football history The Guardian London subkhnemux 16 June 2018 Smyth Rob 25 February 2014 No3 West Germany 1 0 Austria in 1982 The Guardian subkhnemux 23 June 2014 Spurling Jon 2010 Death or Glory The Dark History of the World Cup p 67 ISBN 978 1905326 80 8 29 June 1982 When West Germany and Austria danced a Vienna waltz p 12 subkhnemux 24 July 2014 Murray Scott Walker Rowan 2008 June 25 West Germany 1 0 Austria El Anchluss 1982 Day of the Match Boxtree p 183 ISBN 978 0 7522 2678 1 Honigstein Raphael 29 June 2014 Germany won t repeat 1982 mistakes ESPNFC com ESPN Internet Ventures LLC subkhnemux 16 July 2014 https www youtube com watch t 290 amp v PosNh9VGMPI twohundredpercent net London 9 May 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 19 subkhnemux 30 December 2010 Doyle Paul 13 June 2010 The day in 1982 when the world wept for Algeria The Guardian London subkhnemux 30 December 2011 Cup game labeled as fix Eugene 26 June 1982 subkhnemux 24 July 2014 Molinaro John 16 June 2008 No agreement between Germany and Austria this time around subkhnemux 15 September 2009 German victory in World Cup stirs controversy Associated Press United Press International 26 June 1982 p 10 subkhnemux 24 July 2014 lingkesiy The Game that Changed the World Cup Algeria algeria com subkhnemux 15 September 2009