การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นกระบวนการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลวิธีหนึ่ง โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติวิธีการตรวจสอบด้วยวิธีนี้เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ๆ แต่ได้เพิ่มหลักการสำคัญซึ่งแตกต่างไปจากฉบับอื่น เรียกว่า "การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล" ซึ่งถูกนำมาใช้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ด้วย
ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 การอภิปรายไม่ไว้วางใจจำแนกได้เป็น:
- การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
- การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในสภา (โดยทั่วไปคือ 100 คน) มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ โดยเมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐมนตรีหลีกหนีการถูกอภิปราย
การออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจ ห้ามมิให้กระทำในวันเดียวกันกับที่การอภิปรายสิ้นสุด ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีเวลาไตร่ตรอง มติไม่ไว้วางใจจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร (โดยทั่วไปคือเท่ากับหรือเกินกว่า 251 เสียง) หากสภาลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีผู้นั้นจะต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีตามมาตรา 170
นายกรัฐมนตรีมีสถานภาพเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งที่อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ หากนายกรัฐมนตรีถูกลงมติไม่ไว้วางใจ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 167
ประวัติศาสตร์
มหกรรม 7 วัน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ถึง 26 พฤษภาคม ปีเดียวกัน โดย พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้าน เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ทั้งคณะ อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองอย่างรุนแรง ข้าวปลาอาหารราคาแพง การทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาล รวมไปถึงกรณีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ที่ก่อให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติอย่างกว้างขวาง เพราะรัฐบาลไม่สามารถให้ความกระจ่างได้แม้จะผ่านมาแล้วถึงหนึ่งปี
การอภิปรายครั้งนี้ดำเนินอย่างยาวนานต่อเนื่องถึง 8 วัน 7 คืน ด้วยกัน จนถูกเรียกว่า "มหกรรม 7 วัน" ผู้นำการอภิปรายคือ นายควง อภัยวงศ์ และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นการอภิปรายครั้งแรกที่ถ่ายทอดเสียงทางวิทยุกระจายเสียง แม้ผลการอภิปราย รัฐบาลจะได้รับเสียงไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ด้วยมติ 86 ต่อ 55 จากสมาชิกทั้งหมด 178 คน แต่หลังจากนั้นเพียงสองวัน คือ ในวันที่ 28 พฤษภาคม ปีเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องลาออกเพื่อลดแรงกดดันและปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี
การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย
อ้างอิง
- มานิตย์ จุมปา. สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. ๒๕๔๐) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง ๖. การอภิปรายไม่ไว้วางใจ. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544. 75 หน้า. ISBN
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550, หมวด 6 ส่วนที่ 9 การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
- สยามาธิปไตย (17), คอลัมน์ ส่วนร่วมสังคมไทย โดย นรนิติ เศรษฐบุตร หน้า 8: เดลินิวส์ฉบับที่ 23,059 ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 แรม 2 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karxphiprayimiwwangic epnkrabwnkartrwcsxbkarbriharngankhxngrthbalwithihnung odyrththrrmnuyaehngrachxanackrithy ph s 2540 idbyytiwithikartrwcsxbdwywithiniechnediywkbrththrrmnuychbbkxn aetidephimhlkkarsakhysungaetktangipcakchbbxun eriykwa karesnxyttikhxepidxphipraythwip ephuxlngmtiimiwwangicnaykrthmntrihruxrthmntriepnraybukhkhl sungthuknamaichinrththrrmnuyaehngrachxanackrithy ph s 2560 dwy tammatra 151 khxngrththrrmnuyaehngrachxanackrithy phuththskrach 2560 karxphiprayimiwwangiccaaenkidepn karxphiprayimiwwangicrthmntriepnraybukhkhl karxphiprayimiwwangicrthmntrithngkhna rththrrmnuyaehngrachxanackrithy phuththskrach 2560 kahndihsmachiksphaphuaethnrasdrcanwnimnxykwa 1 in 5 khxngcanwnsmachikthnghmdethathimixyuinspha odythwipkhux 100 khn misiththiekhachuxesnxyttikhxepidxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriepnraybukhkhlhruxthngkhna odyemuxidmikaresnxyttiaelw naykrthmntricayubsphaphuaethnrasdrmiid thngniephuxpxngknimihrthmntrihlikhnikarthukxphipray karxxkesiynglngmtiimiwwangic hammiihkrathainwnediywknkbthikarxphipraysinsud thngniephuxihsmachiksphaphuaethnrasdridmiewlaitrtrxng mtiimiwwangiccatxngmikhaaennesiyngmakkwakunghnungkhxngcanwnsmachikthnghmdethathimixyukhxngsphaphuaethnrasdr odythwipkhuxethakbhruxekinkwa 251 esiyng haksphalngmtiimiwwangic rthmntriphunncatxngphncaktaaehnngthnthitammatra 170 naykrthmntrimisthanphaphepnrthmntrikhnhnungthixacthukxphiprayimiwwangicid haknaykrthmntrithuklngmtiimiwwangic khnarthmntrithngkhnakcatxngphncaktaaehnngtammatra 167prawtisastrmhkrrm 7 wn karxphiprayimiwwangickhrngthinbidwaepnprawtisastr ekidkhunemuxwnthi 19 phvsphakhm ph s 2490 thung 26 phvsphakhm piediywkn ody phrrkhprachathipty inthanafaykhan epidkarxphiprayimiwwangicrthbal phl r t thwly tharngnawaswsdi thngkhna xnenuxngmacakphawaesrsthkicthifudekhuxngxyangrunaerng khawplaxaharrakhaaephng karthucritpraphvtimichxbkhxngrthbal rwmipthungkrniswrrkhtkhxngrchkalthi 8 thikxihekidkhwamaetkaeykkhxngkhninchatixyangkwangkhwang ephraarthbalimsamarthihkhwamkracangidaemcaphanmaaelwthunghnungpi karxphipraykhrngnidaeninxyangyawnantxenuxngthung 8 wn 7 khun dwykn cnthukeriykwa mhkrrm 7 wn phunakarxphipraykhux naykhwng xphywngs aela m r w esniy praomch hwhnaaelarxnghwhnaphrrkhprachathipty aelaepnkarxphipraykhrngaerkthithaythxdesiyngthangwithyukracayesiyng aemphlkarxphipray rthbalcaidrbesiyngiwwangiccaksphaphuaethnrasdr dwymti 86 tx 55 caksmachikthnghmd 178 khn aethlngcaknnephiyngsxngwn khux inwnthi 28 phvsphakhm piediywkn rthbalktxnglaxxkephuxldaerngkddnaelaprbepliynkhnarthmntrikarxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithyrthmntri echphaabukhkhlhlk wnthilngmti hwkhx enuxhahlk phlkarlngmtiiwwangic echphaabukhkhlhlk smkhr sunthrewch naykrthmntri 17 mithunayn ph s 2551 ehnchxbkarkhunthaebiynprasathphrawiharepnmrdkolkkhxngkmphucha 280 162xphisiththi ewchchachiwa naykrthmntri 21 minakhm ph s 2552 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy ph s 2552 enginsnbsnunnkkaremuxng 246 176 amp 272 mithunayn ph s 2553 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy ph s 2553 karslaykarchumnum phvsphakhm ph s 2553 246 186 amp 3219 minakhm ph s 2554 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy minakhm ph s 2554 249 184 amp 34pracha phrhmnxk rmt krathrwngyutithrrm 27 phvscikayn ph s 2554 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy phvscikayn ph s 2554 karaekikhpyhaxuthkphy 273 188 amp 20yinglksn chinwtr naykrthmntri 28 phvscikayn ph s 2555 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy ph s 2555 canakhaw 308 159 amp 1325 phvscikayn ph s 2556 297 134 amp 2prayuthth cnthroxcha naykrthmntri 28 kumphaphnth ph s 2563 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy ph s 2563 lmlangrththrrmnuy 272 49 amp 220 kumphaphnth ph s 2564 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy kumphaphnth ph s 2564 karepidephyexksartarwc twchang 272 206 amp 34 knyayn ph s 2564 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy singhakhm knyayn ph s 2564 phvtikarnoxhngkhlngxanac 264 208 amp 323 krkdakhm ph s 2565 karxphipraythwipephuxlngmtiimiwwangicrthmntriithy ph s 2565 sukskfxk 256 206 amp 9xangxingmanity cumpa saranukrmrththrrmnuyaehngrachxanackrithy ph s 2540 hmwdxngkhkrthangkaremuxng eruxng 6 karxphiprayimiwwangic krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2544 75 hna ISBN 974 00 8336 6 rththrrmnuyaehngrachxanackrithy phuththskrach 2550 hmwd 6 swnthi 9 karkhwbkhumkarbriharrachkaraephndin syamathipity 17 khxlmn swnrwmsngkhmithy ody nrniti esrsthbutr hna 8 edliniwschbbthi 23 059 pracawnthi 30 phvscikayn ph s 2555 aerm 2 kha eduxn 12 pimaorng