บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ เพราะใช้โปรแกรมแปล คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
การปิดล้อมไซ่ง่อน เกิดขึ้นเป็นเวลานานสองปี โดยฝ่ายเวียดนาม หลังจากที่มันถูกยึดโดยกองเรือฝรั่งเศส-สเปนที่นำโดยพลเรือเอก ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1859 ยุทธการนี้ถือเป็นยุทธการสำคัญใน (ค.ศ. 1856-1862) เมืองไซ่ง่อนมีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นทั้งพื้นที่ผลิตอาหารหลักของเวียดนาม และยังเป็นประตูไปสู่ภูมิภาคโคชินจีนที่เหลืออีกด้วย
ภูมิหลัง
ในปี 1858 พลเรือเอก ชาลส์ ริโก เดอ เยนูลีโจมตีเวียดนามภายใต้คำสั่งของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 หลังจากที่ภารกิจของทูตล้มเหลว ภารกิจของเขาคือการหยุดการดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกในเวียดนาม และทำให้การเผยแพร่ศาสนาเป็นไปอย่างไม่ติดขัด เพื่อยกพลขึ้นเวียดนาม ริโก เดอ เยนูลีนำเรือรบ 14 ลำ, ทหารนาวิกโยธินฝรั่งเศส 1,000 นาย และทหารสเปนที่ประจำการอยู่ในฟิลิปปินส์อีก 1,000 นาย (ประกอบไปด้วยทหารราบชาวสเปน 550 นาย และทหารราบเบาชาวฟิลิปปินส์อีก 450 นาย) กองกำลังพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่ท่าเรือของเมืองทูฮาน (ดานัง) ในเดือนกันยายน ปี 1858 และยึดเมืองได้ หลังจากระดมยิงด้วยปืนใหญ่สักพักหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยึดเมืองได้ไม่นานเท่าไร ฝ่ายพันธมิตรก็ถูกปิดล้อมโดยฝ่ายเวียดนาม ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนทัพเข้าไปได้ไกลเกินว่าการคุ้มกันจากปืนใหญ่ของกองเรือ และจำต้องประจำการอยู่ที่เมืองทูฮาน
การยึดเมืองไซง่อน (17 กุมภาพันธ์ 1859)
เนื่องด้วยตระหนักดีว่าทหารที่ประจำการอยู่ที่เมืองทูฮานไม่สามารถทำประโยชน์ใด ๆ ริโก เดอ เยนูลีจึงตัดสินใจที่จะตีเมืองอื่นในเวียดนาม เขาพิจารณาและปฏิเสธความคิดที่จะยกพลขึ้นบกที่เมืองตังเกี๋ย และในเดือนมกราคม ปี 1850 เขาก็เสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงนาวีที่จะยกพลขึ้นบกที่เมืองไซง่อนแห่งภูมิภาคโคชินจีน เมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในระดับสำคัญ เนื่องจากเป็นเหล่งอาหารของกองทัพเวียดนาม ข้อเสนอได้รับการอนุมัติ และในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยปล่อยเมืองทูฮานให้อยู่ใต้การควบคุมของร้อยเอกโตยงกับทหารประจำการอีกเล็กน้อยและอีกสองลำ รีโก เดอ เยนูลีล่องเรือไปทางใต้ของไซ่ง่อน กองเรือของเขาประกอบด้วยเรือคอร์เวตฟลีจิตง และพริโมเกต์, เรือปืนอลาร์ม อาวาลอนช์ และดรากอน , เรือเอล คาโน ที่สเปนส่งมาช่วย และเรือขนส่งโซว์น ดูฮองซ์ และเมิร์ธ
ริโก เดอ เยนูลีหยุดพักที่อ่าวคามรานเพื่อรอเรือเสบียงสี่ลำที่จะเข้ามาร่วมการบุก และได้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เขาก็กลับมาเดินทางต่อ ในวันที่ 10 กองเรือพันธมิตรระดมยิงปืนใหญ่ใส่ป้อมปราการที่ป้องกันท่าจอดเรือที่อยู่ลึกเข้าไปในแหลมแซงแชค (หวุงต่าว) และสักพักเสียงปืนใหญ่ก็ซาลง ต่อมากองร้อยเบิกทาง ซึ่งประกอบไปด้วยกองกำลังผสมระหว่างทหารฝรั่งเศสและสเปน ที่อยู่ภายใต้การนำของร้อยเอกเรนอด์ ก็ยกพลขึ้นบกและบุกยึดป้อมปราการ
เมื่อมาถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ การเดินทางขึ้นไปตามแม่น้ำเป็นเวลาห้าวันก็เริ่มต้นขึ้น เรือขนส่งและสัมภาระถูกทิ้งไว้ที่แหลมแซงแชค เรือปืนดรากอนนำหน้าไปก่อน ตามด้วยเรือปืนสองลำ, เรือคอร์เวตสองลำ และเรือที่สเปนส่งมาช่วย กองร้อยเบิกทางประกอบด้วยทหารราบนาวิกโยธินสามกองร้อยและทหารสเปนอีกสองกองร้อย รวมทั้งหมดมี 2,000 นาย ถูกกระจายไปยังเรือลำต่าง ๆ ที่พ่วงมากับกองเรือ กองเรือพันธมิตรเคลื่อนทัพไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังเมื่อไม่รู้กระแสทิศทางน้ำ และเมื่อตกค่ำ ก็ทอดสมอกลางแม่น้ำ ระหว่างการเดินทาง เรือของฝรั่งเศสและสเปนต้องหยุดเพื่อระดมยิงป้อมริมแม่น้ำหกป้อม และหมู่ทหารช่างภายใต้บังคับบัญชาของทหารช่างเอกแกลลิมาร์ด ถูกปล่อยขึ้นบกเพื่อเผารั้วไม้ที่เชื่อมป้อมปราการเข้าไว้ด้วยกัน ฝ่ายเวียดนามป้องกันตนเองอย่างแข็งขัน เรือดรากอนถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงใส่สามนัด ในขณะที่อวาลอนช์โดนเจ็ดนัด ผู้รุกรานจัดการให้แน่ใจว่าแม่น้ำจะไม่ถูกปิดล้อมจากด้านหลัง หลังจากที่แต่ละป้อมถูกยึดแล้ว ปืนใหญ่ของป้อมจะถูกอุดหรือไม่ก็ถูกนำขึ้นเรือ
ในตอนเย็นของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ กองเรือที่มีเรือพริฌองเพิ่มเข้ามาก็เข้ามาใกล้ป้อมปราการสองป้อมที่ถูกสร้างโดยทหารช่างชาวฝรั่งเศสของ ป้อมทั้งสองทำหน้าที่ป้องกันไซง่อนจากทางทิศใต้ ในตอนกลางคืน ก็มีการส่งกองกำลังติดอาวุธไปทำลายทำนบที่สร้างมาจากเรือที่ถูกต่อเข้าไว้ด้วยกันและถูกยัดระเบิดไว้ ในรุ่งสางของวันที่ 16 เรือฟลีจิตง, พริโมเกต์, อลาร์ม และอาวาลอนช์ทอดสมอห่างจากป้อมปราการไป 800 เมตร ช่องแคบนั้นแคบมากเสียจนพลเรือเอก ชาร์เน่ที่อยู่บนสามารถตะโกนสั่งกัปตันของเรือลำอื่น ๆ ได้ ในขณะที่เรือพรีฌอง, ดรากอนและเอล คาโนตามหลังมาไม่ห่าง
กองเรือพันธมิตรเปิดฉากยิงใส่ป้อมปราการของฝ่ายเวียดนาม และภายในเวลาไม่นานก็หาระยะยิงได้ พลแม่นปืนแห่งกองทหารราบนาวิกโยธินสังหารพลปืนของเวียดนามจากเสาเรือของฝรั่งเศสและสเปน ฝ่ายเวียดนามตอบโต้อย่างดุเดือด แต่การเล็งของพวกเขานั้นไม่แม่น และในไม่ช้าฝ่ายฝรั่งเศสและสเปนก็สามารถสยบการยิงของอีกฝ่ายได้ กองร้อยเบิกทางถูกส่งขึ้นบกมาเพื่อบุกยึดป้อมปราการ จนถึงเวลา 8 นาฬิกา ก็สามารถทำให้ป้อมทั้งสองอยู่ภายใต้การควบคุมของสเปน
ต่อมาในวันเดียวกัน นาวาโท อนาคตนายพลเรือและรัฐมนตรีกระทรวงนาวีของฝรั่งเศส ออกไปดูลาดเลาโดยแล่นเรืออาวาลอนช์ไป ในเช้าของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ฝ่ายฝรั่งเศสและสเปนสามารถยกพลขึ้นฝั่งและบุกยึดป้อมปราการได้ จ่าสิบเอกดีพัลเลียร์แห่งทหารราบนาวิกโยธินเป็นคนแรกที่บุกเข้าไปในป้อมปราการ และเมื่อฝ่ายพันธมิตรสามารถเข้าไป ทหารเวียดนามจึงจำต้องล่าถอยไป กองกำลังทหารเวียดนามประมาณ 1,000 นายพยายามที่จะโจมตีตอบโต้ พลเรือเอก ชาร์เน่ ซึ่งเข้าร่วมรบโดยตรง ตีโต้กลับไปด้วยทหารฟิลิปปินส์ของพันเอกลันซาโรเต จนกระทั่งเวลา 10 นาฬิกา ธงชาติฝรั่งเศสและสเปนก็ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาของป้อมปราการ
การยึดครองไซ่ง่อนของฝ่ายพันธมิตร (กุมภาพันธ์ 1859-กุมภาพันธ์ 1860)
ป้องปราการแห่งไซ่ง่อนมีขนาดใหญ่มาก ฝ่ายพันธมิตรมีคนไม่พอที่จะวางกำลังคุ้มกันป้อมได้อย่างเพียงพอ ริโก เดอ เยนูลีจึงตัดสินใจที่จะทำลายมันทิ้ง มีการเตรียมระเบิดไว้ 32 ลูก และในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1859 ป้อมปราการก็ถูกทำลาย ห้องเก็บข้าวยังถูกเผาอีกด้วย ส่งผลให้เกิดการเผาไหม้ไปหลายเดือน
ในเดือนเมษายน ปี 1859 ริโก เดอ เยนูลีก็กลับไปเมืองทูฮานพร้อมกองกำลังส่วนหนึ่ง โดยทิ้งทหารจำนวนน้อยไว้ภายใต้การบังคับบัญชาของนาวาโทเบอร์นาร์ด ฌองกีเบรีเพื่อเฝ้าเมืองไซ่ง่อนไว้ กองกำลังของฌองกีเบรีประกอบไปด้วยทหารราบนาวิกโยธินฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งกองร้อย, ทหารราบเบาชาวฟิลิปปินส์ภายใต้การสั่งการของสเปนจำนวนหนึ่งกองร้อย และกะลาสี 400 คนที่มีหน้าที่เป็นพลปืนของกองเรือฝรั่งเศส ริโกยังเดินทางกลับไปไซ่ง่อนพร้อมกับเรือคอร์เวตพริโมเกต์, เรือปืนอาวาลอนช์และดรากอน และเรือขนส่งดูฮองซ์ ฝ่ายฝรั่งเศสซ่อมแซมป้อมทางใต้ ที่ยึดมาจากฝ่ายเวียดนามในเดือนกุมภาพันธ์ แล้วดัดแปลงมันให้เป็นที่มั่นของกองประจำการ
ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1859 ฌองกีเบรีโจมตีป้อมปราการที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองอย่างไม่ทันตั้งตัว ฝ่ายพันธมิตรโจมตีได้สำเร็จ ทำให้ที่ตั้งของฝ่ายเวียดนามถูกเผาลงมา แต่ฝ่ายพันธมิตรมีผู้บาดเจ็บถึง 31 นาย และมีผู้เสียชีวิตถึง 14 นายจากจำนวนทหารที่ต่อสู้ทั้งหมด 800 นาย ซึ่งถือว่าเสียหายมาก เนื่องด้วยปริมาณกำลังที่น้อย จึงทำให้ฌองกีเบรีไม่โจมตีต่อ กองทหารฝรั่งเศส-สเปนประจำเมืองไซ่ง่อนจึงถอนกำลังไปจากป้อมทางทิศใต้และรอคอยเวลา
การล้อมเมืองไซง่อน (มีนาคม 1860-กุมภาพันธ์ 1861)
การยึดเมืองไซ่ง่อนปรากฏว่าเป็นชัยชนะที่ว่างเปล่าสำหรับฝ่ายฝรั่งเศสและสเปน เฉกเช่นการยึดเมืองดานังเมื่อก่อนหน้านี้ กองกำลังของฌองกีเบรีที่ไซ่ง่อนนั้นเล็กเกินกว่าที่จะออกจากแนวป้องกันไปได้ ในขณะที่กองประจำการอันน้อยนิดที่ดานังของร้อยเอกโตยงก็ถูกปิดล้อมโดยฝ่ายเวียดนาม อีกทั้งในตอนนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสก็ถูกทำให้ไขว้เขวจากความทะเยอทะยานในภูมิภาคตะวันออกไกลเนื่องจากเกิด ทำให้ทหารฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากต้องอยู่ในอิตาลี ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1850 ริโก เดอ เยนูลี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากผลงานในโคชินจีนที่ฝรั่งเศส ถูกแทนที่โดยพลเรือเอก ฟรังซัวส์ พาจ ผู้ได้รับคำสั่งให้เจรจาสนธิสัญญาเพื่อคุ้มครองศาสนาคริสต์คาทออลิกในเวียดนาม แต่ไม่ให้ทำการล่าดินแดนใด ๆ
ฝ่ายเวียดนามทราบถึงการไขว้เขวของฝรั่งเศสดี จึงปฏิเสธข้อเสนอที่จะประนีประนอมของฝรั่งเศส และเปลี่ยนเงื่อนไขการเจรจาไปในทางที่จะทำให้ฝ่ายพันธมิตรยอมตัดส่วนเสียและล้มเลิกการทัพทั้งหมดไป ในขณะเดียวกัน ฝ่ายฝรั่งเศสไม่สามารถที่จะเสริมกำลังทหารที่ประจำการอยู่ที่ดานังและไซ่ง่อนได้ และทันทีที่สงครามออสเตรีย-ซาร์ดิเนียจบลง ในช่วงต้นปี 1860 ฝรั่งเศสก็กลับมาทำสงครามกับจีนอีกครั้ง ทำให้พาจต้องโยกกำลังส่วนใหญ่ไปสนับสนุนกองกำลังบุกจีนของพลเรือเอก
ในเดือนเมษายน ปี 1860 พาจก็เดินทางออกจากโคชินจีนเพื่อไปร่วมทัพกับชาร์เน่ที่กวางตุ้ง และหน้าที่ป้องกันไซ่ง่อนกับ ย่านคนจีนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ ก็ถูกมอบหมายไปให้กับร้อยเอกดาเย เพื่อกระจายทหารไปประจำการยังเมืองทั้งสอง ดาเยมีทหารราบนาวิกโยธินเพียงแค่ 600 นายกับทหารสเปนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของพันเอกอีกูทีเรซ และเรือคอร์เวตพริโมเกต์, นอซาการาย และลาพลาเซ่เป็นกองเรือสนับสนุน เพื่อเสริมกำลังที่น้อยนิดนี้ ฝรั่งเศสติดอาวุธให้กับเรือสำเภาเพื่อลาดตระเวนแม่น้ำ และยังเกณฑ์ชาวญวนและชาวจีนมาเป็นกำลังสนับสนุนเพื่อช่วยออกลาดตระเวน และประจำป้อมที่อยู่แนวหน้า
ในเดือนมีนาคม ปี 1860 กองกำลังฝรั่งเศส-สเปนที่ไซ่ง่อนจำนวนแค่ 1,000 นาย ถูกปิดล้อมโดยกองทัพเวียดนามที่มีกำลังประมาณ 10,000 นาย ซึ่งจำเป็นต้องมีเสบียงเป็นจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการล้อมเมืองที่นานถึงสิบเอ็ดเดือน ในเวลาเดียวกัน กำลังของฝรั่งเศสลดลงอย่างรวดเร็วจากตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1858 ถึงเดือนมีนาคม ปี 1860 และท้ายที่สุดแล้วในเดือนมีนาคมนั้นเอง ฝ่ายฝรั่งเศสก็อพยพออกจากเมืองดานัง
จุดจบของการล้อมเมือง
ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากที่ฝรั่งเศสและอังกฤษชนะ ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1860 และทำให้สงครามกับจีนสิ้นสุดลง กำลังสนับสนุนเป็นเรือ 70 ลำภายใต้บังคับบัญชาของพลเรือเอก ชาร์แน่ และทหาร 3,500 นายของพลเอกดีวัสซวงก็ถูกส่งไปที่ไซ่ง่อน กองเรือของชาร์เน่ถือเป็นกองเรือรบที่ทรงอานุภาพที่สุดของฝรั่งเศสที่เคยแล่นเข้ามาในน่านน้ำเวียดนาม (ก่อนที่ฝรั่งเศสจะก่อตั้งก่อนสงครามจีน-ฝรั่งเศสในปี 1884) ประกอบไปด้วยกลไฟอัมพาราทรีซยูจีนี และเรนอมเม (ซึ่งเป็นเรือธงของชาร์เน่และพาจตามลำดับ), เรือคอร์เวตพริโมเกต์, ลาพลาเซ่ และ ดูเชเลอ, เรือกลไฟขับเคลื่อนด้วยสกรู 11 ลำ, เรือปืนชั้นหนึ่ง 5 ลำ, เรือขนส่ง 17 ลำและเรือพยาบาล 1 ลำ กองเรือรบยังได้รับเสริมกำลังด้วยติดอาวุธอีกครึ่งโหลที่ถูกซื้อมาจากเกาะมาเก๊า
หลังจากที่กำลังสนับสนุนจำนวนมหาศาลมาถึง ฝรั่งเศสก็สามารถเอาชนะฝ่ายเวียดนามที่ปิดล้อมอยู่ได้ที่ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 และยกการปิดล้อมออกไปได้
อ้างอิง
- Goldstein, 95
- Tucker, 29
- Gundry, 6 [1]; Thomazi, Conquête, 29
- Tucker, 29
- Chapuis, 48
- Thomazi, Conquête, 33
- Thomazi, Conquête, 33–4
- Thomazi, Conquête, 34
- Thomazi, Conquête, 34–5
- Thomazi, Conquête, 35
- Thomazi, Conquête, 35–6
- Thomazi, Conquête, 36
- Thomazi, Conquête, 37; Histoire militaire, 26
- Thomazi, Conquête, 39; Histoire militaire, 28
- Tucker, 29
- Thomazi, Conquête, 41
- Thomazi, La conquête de l'Indochine, 37–43
- Thomazi, Conquête, 45
- Goldstein, 95
บรรณานุกรม
- "Charles Rigault de Genouilly" Encyclopædia Britannica Online
- Chapuis, O., The Last Emperors of Vietnam: From Tu Duc to Bao Dai (Westport, Connecticut, 2000)
- Goldstein, E., Wars and Peace Treaties, 1816–1991 (Routledge, 1992)
- Gundry, R. S., China and Her Neighbours (London, 1893)
- Thomazi, A., La conquête de l'Indochine (Paris, 1934)
- Thomazi, A., Histoire militaire de l'Indochine français (Hanoi, 1931)
- Tucker, S. C., Vietnam (University Press of Kentucky, 1999) ISBN
- Bernard, Hervé, L'Amiral Ministre de la Marine - La vie extraordinaire d'un grand marin en quadrichromie, 718 pages format A4, autoédition Biarritz 2005 (ในภาษาฝรั่งเศส)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb ephraaichopraekrmaepl khunsamarthchwyphthnabthkhwamid karpidlxmisngxn ekidkhunepnewlanansxngpi odyfayewiydnam hlngcakthimnthukyudodykxngeruxfrngess sepnthinaodyphleruxexk inwnthi 17 kumphaphnth kh s 1859 yuththkarnithuxepnyuththkarsakhyin kh s 1856 1862 emuxngisngxnmikhwamsakhyxyangyingindanyuththsastr enuxngcakepnthngphunthiphlitxaharhlkkhxngewiydnam aelayngepnpratuipsuphumiphakhokhchincinthiehluxxikdwykaryudisngxnody inwnthi 17 kumphaphnth kh s 1859 wadody phumihlnginpi 1858 phleruxexk chals riok edx eynuliocmtiewiydnamphayitkhasngkhxngckrphrrdinopeliynthi 3 hlngcakthipharkickhxngthutlmehlw pharkickhxngekhakhuxkarhyudkardaeninkhdikbphuephyaephrsasnakhristnikaykhathxlikinewiydnam aelathaihkarephyaephrsasnaepnipxyangimtidkhd ephuxykphlkhunewiydnam riok edx eynulinaeruxrb 14 la thharnawikoythinfrngess 1 000 nay aelathharsepnthipracakarxyuinfilippinsxik 1 000 nay prakxbipdwythharrabchawsepn 550 nay aelathharrabebachawfilippinsxik 450 nay kxngkalngphnthmitrykphlkhunbkthithaeruxkhxngemuxngthuhan danng ineduxnknyayn pi 1858 aelayudemuxngid hlngcakradmyingdwypunihyskphkhnung xyangirktam yudemuxngidimnanethair fayphnthmitrkthukpidlxmodyfayewiydnam thaihimsamarthekhluxnthphekhaipidiklekinwakarkhumkncakpunihykhxngkxngerux aelacatxngpracakarxyuthiemuxngthuhankaryudemuxngisngxn 17 kumphaphnth 1859 phleruxexk chals riok edx eynuli kh s 1807 73 karyudemuxngisngxnkhxngfrngessin kh s 1859 enuxngdwytrahnkdiwathharthipracakarxyuthiemuxngthuhanimsamarththapraoychnid riok edx eynulicungtdsinicthicatiemuxngxuninewiydnam ekhaphicarnaaelaptiesthkhwamkhidthicaykphlkhunbkthiemuxngtngekiy aelaineduxnmkrakhm pi 1850 ekhakesnxtxrthmntrikrathrwngnawithicaykphlkhunbkthiemuxngisngxnaehngphumiphakhokhchincin emuxngthimikhwamsakhythangyuththsastrinradbsakhy enuxngcakepnehlngxaharkhxngkxngthphewiydnam khxesnxidrbkarxnumti aelainwnthi 2 kumphaphnth odyplxyemuxngthuhanihxyuitkarkhwbkhumkhxngrxyexkotyngkbthharpracakarxikelknxyaelaxiksxngla riok edx eynulilxngeruxipthangitkhxngisngxn kxngeruxkhxngekhaprakxbdwyeruxkhxrewtflicitng aelaphriomekt eruxpunxlarm xawalxnch aeladrakxn eruxexl khaon thisepnsngmachwy aelaeruxkhnsngoswn duhxngs aelaemirth riok edx eynulihyudphkthixawkhamranephuxrxeruxesbiyngsilathicaekhamarwmkarbuk aelaidwnthi 9 kumphaphnth ekhakklbmaedinthangtx inwnthi 10 kxngeruxphnthmitrradmyingpunihyispxmprakarthipxngknthacxderuxthixyulukekhaipinaehlmaesngaechkh hwungtaw aelaskphkesiyngpunihyksalng txmakxngrxyebikthang sungprakxbipdwykxngkalngphsmrahwangthharfrngessaelasepn thixyuphayitkarnakhxngrxyexkernxd kykphlkhunbkaelabukyudpxmprakar emuxmathungwnthi 11 kumphaphnth karedinthangkhuniptamaemnaepnewlahawnkerimtnkhun eruxkhnsngaelasmpharathukthingiwthiaehlmaesngaechkh eruxpundrakxnnahnaipkxn tamdwyeruxpunsxngla eruxkhxrewtsxngla aelaeruxthisepnsngmachwy kxngrxyebikthangprakxbdwythharrabnawikoythinsamkxngrxyaelathharsepnxiksxngkxngrxy rwmthnghmdmi 2 000 nay thukkracayipyngeruxlatang thiphwngmakbkxngerux kxngeruxphnthmitrekhluxnthphipkhanghnaxyangramdrawngemuximrukraaesthisthangna aelaemuxtkkha kthxdsmxklangaemna rahwangkaredinthang eruxkhxngfrngessaelasepntxnghyudephuxradmyingpxmrimaemnahkpxm aelahmuthharchangphayitbngkhbbychakhxngthharchangexkaekllimard thukplxykhunbkephuxepharwimthiechuxmpxmprakarekhaiwdwykn fayewiydnampxngkntnexngxyangaekhngkhn eruxdrakxnthukkrasunpunihyyingissamnd inkhnathixwalxnchodnecdnd phurukrancdkarihaenicwaaemnacaimthukpidlxmcakdanhlng hlngcakthiaetlapxmthukyudaelw punihykhxngpxmcathukxudhruximkthuknakhunerux pxmprakaraehngisngxn srangodychawfrngessin kh s 1790 intxneynkhxngwnthi 15 kumphaphnth kxngeruxthimieruxphrichxngephimekhamakekhamaiklpxmprakarsxngpxmthithuksrangodythharchangchawfrngesskhxng pxmthngsxngthahnathipxngknisngxncakthangthisit intxnklangkhun kmikarsngkxngkalngtidxawuthipthalaythanbthisrangmacakeruxthithuktxekhaiwdwyknaelathukydraebidiw inrungsangkhxngwnthi 16 eruxflicitng phriomekt xlarm aelaxawalxnchthxdsmxhangcakpxmprakarip 800 emtr chxngaekhbnnaekhbmakesiycnphleruxexk charenthixyubnsamarthtaoknsngkptnkhxngeruxlaxun id inkhnathieruxphrichxng drakxnaelaexl khaontamhlngmaimhang kxngeruxphnthmitrepidchakyingispxmprakarkhxngfayewiydnam aelaphayinewlaimnankharayayingid phlaemnpunaehngkxngthharrabnawikoythinsngharphlpunkhxngewiydnamcakesaeruxkhxngfrngessaelasepn fayewiydnamtxbotxyangdueduxd aetkarelngkhxngphwkekhannimaemn aelainimchafayfrngessaelasepnksamarthsybkaryingkhxngxikfayid kxngrxyebikthangthuksngkhunbkmaephuxbukyudpxmprakar cnthungewla 8 nalika ksamarththaihpxmthngsxngxyuphayitkarkhwbkhumkhxngsepn txmainwnediywkn nawaoth xnakhtnayphleruxaelarthmntrikrathrwngnawikhxngfrngess xxkipduladelaodyaelneruxxawalxnchip inechakhxngwnthi 17 kumphaphnth fayfrngessaelasepnsamarthykphlkhunfngaelabukyudpxmprakarid casibexkdiphleliyraehngthharrabnawikoythinepnkhnaerkthibukekhaipinpxmprakar aelaemuxfayphnthmitrsamarthekhaip thharewiydnamcungcatxnglathxyip kxngkalngthharewiydnampraman 1 000 nayphyayamthicaocmtitxbot phleruxexk charen sungekharwmrbodytrng tiotklbipdwythharfilippinskhxngphnexklnsaoret cnkrathngewla 10 nalika thngchatifrngessaelasepnkthukchkkhunsuyxdesakhxngpxmprakarkaryudkhrxngisngxnkhxngfayphnthmitr kumphaphnth 1859 kumphaphnth 1860 pxngprakaraehngisngxnmikhnadihymak fayphnthmitrmikhnimphxthicawangkalngkhumknpxmidxyangephiyngphx riok edx eynulicungtdsinicthicathalaymnthing mikaretriymraebidiw 32 luk aelainwnthi 8 minakhm kh s 1859 pxmprakarkthukthalay hxngekbkhawyngthukephaxikdwy sngphlihekidkarephaihmiphlayeduxn ineduxnemsayn pi 1859 riok edx eynulikklbipemuxngthuhanphrxmkxngkalngswnhnung odythingthharcanwnnxyiwphayitkarbngkhbbychakhxngnawaothebxrnard chxngkiebriephuxefaemuxngisngxniw kxngkalngkhxngchxngkiebriprakxbipdwythharrabnawikoythinfrngesscanwnhnungkxngrxy thharrabebachawfilippinsphayitkarsngkarkhxngsepncanwnhnungkxngrxy aelakalasi 400 khnthimihnathiepnphlpunkhxngkxngeruxfrngess riokyngedinthangklbipisngxnphrxmkberuxkhxrewtphriomekt eruxpunxawalxnchaeladrakxn aelaeruxkhnsngduhxngs fayfrngesssxmaesmpxmthangit thiyudmacakfayewiydnamineduxnkumphaphnth aelwddaeplngmnihepnthimnkhxngkxngpracakar inwnthi 21 emsayn kh s 1859 chxngkiebriocmtipxmprakarthixyuthangtawntkkhxngemuxngxyangimthntngtw fayphnthmitrocmtiidsaerc thaihthitngkhxngfayewiydnamthukephalngma aetfayphnthmitrmiphubadecbthung 31 nay aelamiphuesiychiwitthung 14 naycakcanwnthharthitxsuthnghmd 800 nay sungthuxwaesiyhaymak enuxngdwyprimankalngthinxy cungthaihchxngkiebriimocmtitx kxngthharfrngess sepnpracaemuxngisngxncungthxnkalngipcakpxmthangthisitaelarxkhxyewlakarlxmemuxngisngxn minakhm 1860 kumphaphnth 1861 karyudemuxngisngxnpraktwaepnchychnathiwangeplasahrbfayfrngessaelasepn echkechnkaryudemuxngdanngemuxkxnhnani kxngkalngkhxngchxngkiebrithiisngxnnnelkekinkwathicaxxkcakaenwpxngknipid inkhnathikxngpracakarxnnxynidthidanngkhxngrxyexkotyngkthukpidlxmodyfayewiydnam xikthngintxnnn rthbalfrngesskthukthaihikhwekhwcakkhwamthaeyxthayaninphumiphakhtawnxxkiklenuxngcakekid thaihthharfrngessepncanwnmaktxngxyuinxitali ineduxnphvscikayn pi 1850 riok edx eynuli thithukwiphakswicarnxyanghnkcakphlnganinokhchincinthifrngess thukaethnthiodyphleruxexk frngsws phac phuidrbkhasngihecrcasnthisyyaephuxkhumkhrxngsasnakhristkhathxxlikinewiydnam aetimihthakarladinaednid fayewiydnamthrabthungkarikhwekhwkhxngfrngessdi cungptiesthkhxesnxthicapranipranxmkhxngfrngess aelaepliynenguxnikhkarecrcaipinthangthicathaihfayphnthmitryxmtdswnesiyaelalmelikkarthphthnghmdip inkhnaediywkn fayfrngessimsamarththicaesrimkalngthharthipracakarxyuthidanngaelaisngxnid aelathnthithisngkhramxxsetriy sardieniycblng inchwngtnpi 1860 frngesskklbmathasngkhramkbcinxikkhrng thaihphactxngoykkalngswnihyipsnbsnunkxngkalngbukcinkhxngphleruxexk ineduxnemsayn pi 1860 phackedinthangxxkcakokhchincinephuxiprwmthphkbcharenthikwangtung aelahnathipxngknisngxnkb yankhncinthixyuiklekhiyng sungepnsunyklangkarkhathisakhy kthukmxbhmayipihkbrxyexkdaey ephuxkracaythharippracakaryngemuxngthngsxng daeymithharrabnawikoythinephiyngaekh 600 naykbthharsepnthixyuitbngkhbbychakhxngphnexkxikuthiers aelaeruxkhxrewtphriomekt nxsakaray aelalaphlaesepnkxngeruxsnbsnun ephuxesrimkalngthinxynidni frngesstidxawuthihkberuxsaephaephuxladtraewnaemna aelayngeknthchawywnaelachawcinmaepnkalngsnbsnunephuxchwyxxkladtraewn aelapracapxmthixyuaenwhna ineduxnminakhm pi 1860 kxngkalngfrngess sepnthiisngxncanwnaekh 1 000 nay thukpidlxmodykxngthphewiydnamthimikalngpraman 10 000 nay sungcaepntxngmiesbiyngepncanwnmakephuxsnbsnunkarlxmemuxngthinanthungsibexdeduxn inewlaediywkn kalngkhxngfrngessldlngxyangrwderwcaktngaeteduxnknyayn pi 1858 thungeduxnminakhm pi 1860 aelathaythisudaelwineduxnminakhmnnexng fayfrngesskxphyphxxkcakemuxngdanngcudcbkhxngkarlxmemuxngthaythisudaelw hlngcakthifrngessaelaxngkvschna inwnthi 21 knyayn kh s 1860 aelathaihsngkhramkbcinsinsudlng kalngsnbsnunepnerux 70 laphayitbngkhbbychakhxngphleruxexk charaen aelathhar 3 500 naykhxngphlexkdiwsswngkthuksngipthiisngxn kxngeruxkhxngcharenthuxepnkxngeruxrbthithrngxanuphaphthisudkhxngfrngessthiekhyaelnekhamainnannaewiydnam kxnthifrngesscakxtngkxnsngkhramcin frngessinpi 1884 prakxbipdwyklifxmpharathrisyucini aelaernxmem sungepneruxthngkhxngcharenaelaphactamladb eruxkhxrewtphriomekt laphlaes aela duechelx eruxklifkhbekhluxndwyskru 11 la eruxpunchnhnung 5 la eruxkhnsng 17 laaelaeruxphyabal 1 la kxngeruxrbyngidrbesrimkalngdwytidxawuthxikkhrungohlthithuksuxmacakekaamaeka hlngcakthikalngsnbsnuncanwnmhasalmathung frngessksamarthexachnafayewiydnamthipidlxmxyuidthi inwnthi 25 kumphaphnth kh s 1861 aelaykkarpidlxmxxkipidxangxingGoldstein 95 Tucker 29 Gundry 6 1 Thomazi Conquete 29 Tucker 29 Chapuis 48 Thomazi Conquete 33 Thomazi Conquete 33 4 Thomazi Conquete 34 Thomazi Conquete 34 5 Thomazi Conquete 35 Thomazi Conquete 35 6 Thomazi Conquete 36 Thomazi Conquete 37 Histoire militaire 26 Thomazi Conquete 39 Histoire militaire 28 Tucker 29 Thomazi Conquete 41 Thomazi La conquete de l Indochine 37 43 Thomazi Conquete 45 Goldstein 95brrnanukrm Charles Rigault de Genouilly Encyclopaedia Britannica Online Chapuis O The Last Emperors of Vietnam From Tu Duc to Bao Dai Westport Connecticut 2000 Goldstein E Wars and Peace Treaties 1816 1991 Routledge 1992 Gundry R S China and Her Neighbours London 1893 Thomazi A La conquete de l Indochine Paris 1934 Thomazi A Histoire militaire de l Indochine francais Hanoi 1931 Tucker S C Vietnam University Press of Kentucky 1999 ISBN 0813109663 Bernard Herve L Amiral Ministre de la Marine La vie extraordinaire d un grand marin en quadrichromie 718 pages format A4 autoedition Biarritz 2005 inphasafrngess