กัป หรือ กัลป์ (สันสกฤต: कल्प กลฺป) หมายถึง ช่วงระยะเวลาอันยาวนานของโลก จนไม่สามารถกำหนดเป็นวัน เดือน หรือปีได้ พบในหลายศาสนา เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู ลัทธิอนุตตรธรรม
ศาสนาพุทธ
ประเภทของกัปในฎีกามาเลยยสูตร
แบ่งกัปไว้ 4 แบบคือ
- อายุกัป คือ กำหนดอายุสัตว์ เกิดมามีอายุเท่าไร เมื่ออายุสิ้นสุดลง เรียก 1 กัป (ในยุคพุทธกาล 1 อายุกัปของมนุษย์ ประมาณ 100 ปี)
- อันตรกัป คือ กำหนดอายุมนุษย์ ระยะเวลาที่อายุขัยของมนุษย์ลดลงจากอสงไขยปีจนถึง 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นจาก 10 ปีกลับมาที่อสงไขยปี (อสงไขยปี หมายถึง เวลาอันยาวนานจนนับประมาณอายุไม่ได้
- อสงไขยกัป = 64 อันตรกัป
- มหากัป (คำว่า "มหากัป" มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "กัป" = 4 อสงไขยกัป = 256 อันตรกัป) กาลเวลา"มหากัป" หนึ่งนั้น พึงรู้ด้วยอุปมาประมาณว่า โลกธาตุ (จักรวาล) อุบัติขึ้นมา จนกระทั่งโลกธาตุนั้นดับไป
วิธีนับกัป
วิธีนับกัป กำหนดกาลว่านาน "มหากัป" หนึ่งนั้น พึงรู้ด้วยอุปมาประมาณว่า โลกธาตุ (จักรวาล) อุบัติขึ้นมา จนกระทั่งโลกธาตุนั้นดับไป
ช่วงเวลาในกัป
พระพุทธเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับช่วงเวลาใน 1มหากัป = 4 อสงไขยกัป ไว้ว่า
ภิกษุทั้งหลาย อสงไขยกัป 4 ประการนี้ อสงไขยกัป 4 ประการมีอะไรบ้าง คือ
- ในเวลาที่สังวัฏฏกัปดำเนินไป ไม่มีใครกำหนดนับได้ว่า จำนวนเท่านี้หลายปี จำนวนเท่านี้ 100 ปี จำนวนเท่านี้ 1,000 ปี หรือจำนวนเท่านี้ 100,000 ปี
- ในเวลาที่สังวัฏฏฐายีกัปดำเนินไป ไม่มีใครกำหนดนับได้ว่าจำนวนเท่านี้หลายปี จำนวนเท่านี้ 100 ปี จำนวนเท่านี้ 1,000 ปี หรือจำนวนเท่านี้ 100,000 ปี
- ในเวลาที่วิวัฏฏกัปดำเนินไป ไม่มีใครกำหนดนับได้ว่า จำนวนเท่านี้หลายปี จำนวนเท่านี้ 100 ปี จำนวนเท่านี้ 1,000 ปี หรือจำนวนเท่านี้ 100,000 ปี
- ในเวลาที่วิวัฏฏฐายีกัปดำเนินไป ไม่มีใครกำหนดนับได้ว่าจำนวนเท่านี้หลายปี จำนวนเท่านี้ 100 ปี จำนวนเท่านี้ 1,000 ปี หรือจำนวนเท่านี้ 100,000 ปี
ภิกษุทั้งหลาย อสงไขยกัป 4 ประการนี้แล
— กัปปสูตร
(4 อสงไขยกัป - สังวัฏฏกัป, สังวัฏฏฐายีกัป, วิวัฏฏกัป, วิวัฏฏฐายีกัป)
สรุปใจความก็คือ มหากัปนึงแบ่งเป็น 4 ช่วง แต่ละช่วงยาวนานมากยากจะนับได้ (อสงไขยกัปในที่นี้หมายถึง มากมาย หรือ นับไม่ถ้วน (infinity))
การแบ่งกัปตามจำนวนการอุบัติของพระพุทธเจ้า
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- สุญญกัป คือ กัปที่ปราศจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระเจ้าจักรพรรดิ
- อสุญญกัป คือ กัปที่ไม่ว่างจากพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระเจ้าจักรพรรดิ แบ่งเป็น 5 ประเภทย่อยคือ
- สารกัป คือกัปที่เป็นแก่นสาร มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 1 พระองค์
- มัณฑกัป คือ กัปที่ผ่องใส มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 2 พระองค์
- วรกัป คือ กัปที่ประเสริฐ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 3 พระองค์ (ในที่อื่น ว่า 4 พระองค์)
- สารมัณฑกัป คือกัปที่เป็นแก่นสารและผ่องใส มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 4 พระองค์ (ฉบับ มมร. ว่า 3 พระองค์)
- ภัทรกัป คือกัปที่เจริญ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 พระองค์. (กัปปัจจุบันเป็นภัทรกัปมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า และว่าที่พระเมตไตรยพุทธเจ้า รวมเรียกว่า พระเจ้าห้าพระองค์)
การประมาณความยาวนานของกัป
พระพุทธเจ้าได้ตรัสประมาณเกี่ยวกับความยาวนานของกัปไว้ดังนี้
1. ปัพพตสูตร (สังยุตตนิกาย อนมตัคคสังยุต ข้อ 128 หน้า 219-220 พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลขอให้พระพุทธเจ้าอุปมาความยาวนานของกัป พระองค์ตรัสตอบว่า
อาจอุปมาได้ ภิกษุ เปรียบเหมือนภูเขาศิลาแท่งทึบลูกใหญ่ มีความยาว 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง บุรุษพึงเอาผ้าแคว้นกาสีลูบภูเขานั้น 100 ปีต่อครั้ง ภูเขาศิลาลูกใหญ่นั้นพึงหมดสิ้นไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่า ส่วนกัปหนึ่งยังไม่หมดสิ้นไป กัปนานนักหนาอย่างนี้ บรรดากัปที่นานนักหนาอย่างนี้ เธอได้ท่องเที่ยวไป มิใช่ 1 กัป มิใช่ 100 กัป มิใช่ 1,000 กัป มิใช่ 100,000 กัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นและเบื้องปลายรู้ไม่ได้ ฯลฯ ภิกษุ เพราะเหตุนี้แหละจึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรเพื่อหลุดพ้นจากสังขารทั้งปวง
— ปัพพตสูตร
2. สาสปสูตร (สังยุตนิกาย อนมตัคคสังยุต ข้อ 129 หน้า 220-221 พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลขอให้พระพุทธเจ้าอุปมาความยาวนานของกัป พระองค์ตรัสตอบว่า
อาจอุปมาได้ ภิกษุ เปรียบเหมือนนครที่สร้างด้วยเหล็กมีความยาว 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ เต็มด้วยเมล็ดผักกาด รวมกันเป็นกลุ่มก้อน บุรุษพึงหยิบเมล็ดผักกาดออกจากนครนั้น 100 ปีต่อ 1 เมล็ด เมล็ดผักกาดกองใหญ่นั้นพึงหมดสิ้นไป เพราะความพยายามนี้ยังเร็วกว่า ส่วนกัปหนึ่ง ยังไม่หมดสิ้นไป กัปนานนักหนาอย่างนี้ บรรดากัปที่นานนักหนาอย่างนี้ เธอได้ท่องเที่ยวไป มิใช่ 1 กัป มิใช่ 100 กัป มิใช่ 1,000 กัป มิใช่ 100,000 กัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นและเบื้องปลายรู้ไม่ได้ ฯลฯ ควรเพื่อหลุดพ้นจาก สังขารทั้งปวง
— สาสปสูตร
จำนวนกัปที่ผ่านมาแล้ว
พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่าที่ผ่านมาในอดีตมีกัปที่ล่วงไปแล้วมากมายนับไม่ถ้วนดังนี้
1. สาวกสูตร (สังยุตนิกาย อนมตัคคสังยุต ข้อ 130 หน้า 221 พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) ภิกษุกลุ่มหนึ่งกราบทูลขอให้พระพุทธเจ้าแสดงอุปมาจำนวนกัปที่ผ่านไปแล้ว พะองค์ตรัสตอบว่า
อาจอุปมาได้ ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนสาวก 4 รูปในธรรมวินัยนี้ มีอายุ 100 ปี มีชีวิตอยู่ 100 ปี หากเธอเหล่านั้นพึงระลึกย้อนหลังไปได้ วันละ 100,000 กัป กัปที่เธอเหล่านั้นระลึกไปไม่ถึงยังมีอยู่ ต่อมาสาวก 4 รูป มีอายุ 100 ปี มีชีวิตอยู่ 100 ปี พึงมรณภาพไปทุก 100 ปี กัปที่ผ่านพ้นไปแล้วมากนักหนาอย่างนี้ มิใช่เรื่องง่ายที่จะนับกัปเหล่านั้นว่า เท่านี้กัป เท่านี้ 100 กัป เท่านี้ 1,000 กัป หรือว่าเท่านี้ 100,000 กัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นและเบื้องปลายรู้ไม่ได้ ฯลฯ ควรเพื่อหลุดพ้น
— สาวกสูตร
2. คังคาสูตร (สังยุตนิกาย อนมตัคคสังยุต ข้อ 131 หน้า 222 พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) มีพราหมณ์คนหนึ่งกราบทูลขอให้พระพุทธเจ้าแสดงอุปมาจำนวนกัปที่ผ่านไปแล้ว พระองค์ตรัสตอบว่า
อาจอุปมาได้ พราหมณ์ เปรียบเหมือนแม่น้ำคงคานี้เริ่มต้นจากที่ใด และถึงมหาสมุทร ณ ที่ใด เม็ดทรายในระหว่างนี้ง่ายที่จะนับได้ว่า เท่านี้เม็ด เท่านี้ 100 เม็ด เท่านี้ 1,000 เม็ด หรือว่าเท่านี้ 100,000 เม็ด กัปทั้งหลายที่ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าเม็ดทรายเหล่านั้น มิใช่เรื่องง่ายที่จะนับกัปเหล่านั้นว่า เท่านี้กัป เท่านี้ 100 กัป เท่านี้ 1,000 กัป หรือว่าเท่านี้ 100,000 กัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้มีเบื้องต้นและเบื้องปลายรู้ไม่ได้ ที่สุดเบื้องต้น ที่สุดเบื้องปลาย ไม่ปรากฏแก่เหล่าสัตว์ผู้ถูกอวิชชากีดขวาง ถูกตัณหาผูกไว้ วนเวียนท่องเที่ยวไปสัตว์เหล่านั้นก็เสวยความทุกข์ เสวยความลำบาก ได้รับความพินาศเต็มป่าช้าเป็นเวลายาวนาน พราหมณ์ เพราะเหตุนี้แหละจึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรเพื่อหลุดพ้นจากสังขารทั้งปวง
— คังคาสูตร
ศาสนาฮินดู
ตามคติในศาสนาฮินดู เชื่อว่าพระพรหมทรงสร้างโลกเสร็จแล้วจะบรรทมไป 1 คืน ซึ่งยาวนานเท่ากับ 1 กัลป์ แต่ละกัลป์นาน 4,320 ล้านปี และแต่ละกัลป์แบ่งออกเป็น 14 แต่ละมันวันดรนาน 306,720,000 ปี และแบ่งออกเป็น 71 ยุค
เมื่อครบ 1 กัลป์ โลกจะถึงอวสานพอดี พระพรหมจะตื่นบรรทม แล้วทรงใช้เวลา 1 วันของพระองค์ ซึ่งเท่ากับ 1 กัลป์ เพื่อสร้างโลกขึ้นใหม่ ดังนั้น 30 วันคืนพระพรหม หรือนับเป็น 1 เดือนพระพรหม จะเท่ากับประมาณ 259,200 ล้านปี
ลัทธิอนุตตรธรรม
ลัทธิอนุตตรธรรมถือว่าระยะเวลาตั้งแต่ฟ้าดินก่อกำเนิดขึ้นสำเร็จเป็นสรรพสิ่ง แล้วกลับเสื่อมสลายจบสิ้นดินฟ้าเรียกว่า 1 กัป หรือ 1 อุบัติกาล (จีน: 元 เอวี๋ยน) ซึ่งยาวนาน 129,600 ปี แต่ละอุบัติกาลแบ่งเป็น 12 บรรจบกาล (จีน: 會 ฮุ่ย) โดยแต่ละบรรจบกาลนาน 10,800 ปี และมีชื่อตาม 12 ปีนักษัตร
ยุคปัจจุบันอยู่ในช่วงบรรจบกาลมะแม ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1912 และเป็นจุดเริ่มต้นธรรมกาลยุคขาวของพระศรีอริยเมตไตรย ยุคนี้จะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น 81 ครั้ง และมีวิถีอนุตตรธรรมลงมาพร้อมกันเพื่อฉุดช่วยสรรพสัตว์กลับสู่แดนนิพพาน
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ราชกิจจานุเบกษา. พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2552. 734 หน้า. หน้า 287-90. ISBN
- กัปปสูตร, พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [๔.จตุตถปัณณาสก์] ๑.อินทริยวรรค
- อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค ๘. โลมสติยเถราปทาน
- พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้าที่ 401
- ปัพพตสูตร, พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [๔. อนมตัคคสังยุต] ๑. ปฐมวรรค ๕.
- สาสปสูตร, พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [๔. อนมตัคคสังยุต] ๑. ปฐมวรรค
- สาวกสูตร, พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [๔. อนมตัคคสังยุต] ๑. ปฐมวรรค
- คังคาสูตร, พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [๔. อนมตัคคสังยุต] ๑. ปฐมวรรค
- Manu[], สารานุกรมบริแทนนิกา
- พุทธระเบียบพิธีการอนุตตรธรรม, ปกหลัง
- สายทอง, หน้า 33-34
- บรรณานุกรม
- ประภาส สุระเสน. พระคัมภีร์อนาคตวงศ์. กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2540. ISBN
- พระพรหมโมลี (วิลาศ ญาณวโร), ภูมิวิลาสินี, หน้า 453-456
- พุทธระเบียบพิธีการอนุตตรธรรม, นครปฐม : เทิดคุณธรรม, ม.ป.ป.
- ศุภนิมิต (นามแฝง), สายทอง (พงศาธรรม 1), กรุงเทพฯ : ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, ม.ป.ป.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kp hrux klp snskvt कल प kl p hmaythung chwngrayaewlaxnyawnankhxngolk cnimsamarthkahndepnwn eduxn hruxpiid phbinhlaysasna echn sasnaphuthth sasnahindu lththixnuttrthrrmsasnaphuththpraephthkhxngkpindikamaelyysutr aebngkpiw 4 aebbkhux xayukp khux kahndxayustw ekidmamixayuethair emuxxayusinsudlng eriyk 1 kp inyukhphuththkal 1 xayukpkhxngmnusy praman 100 pi xntrkp khux kahndxayumnusy rayaewlathixayukhykhxngmnusyldlngcakxsngikhypicnthung 10 pi aelwephimkhuncak 10 piklbmathixsngikhypi xsngikhypi hmaythung ewlaxnyawnancnnbpramanxayuimid xsngikhykp 64 xntrkp mhakp khawa mhakp mkthukeriyksn wa kp 4 xsngikhykp 256 xntrkp kalewla mhakp hnungnn phungrudwyxupmapramanwa olkthatu ckrwal xubtikhunma cnkrathngolkthatunndbipwithinbkp withinbkp kahndkalwanan mhakp hnungnn phungrudwyxupmapramanwa olkthatu ckrwal xubtikhunma cnkrathngolkthatunndbip chwngewlainkp phraphuththecaidtrsekiywkbchwngewlain 1mhakp 4 xsngikhykp iwwa phiksuthnghlay xsngikhykp 4 prakarni xsngikhykp 4 prakarmixairbang khuxinewlathisngwttkpdaeninip immiikhrkahndnbidwa canwnethanihlaypi canwnethani 100 pi canwnethani 1 000 pi hruxcanwnethani 100 000 pi inewlathisngwttthayikpdaeninip immiikhrkahndnbidwacanwnethanihlaypi canwnethani 100 pi canwnethani 1 000 pi hruxcanwnethani 100 000 pi inewlathiwiwttkpdaeninip immiikhrkahndnbidwa canwnethanihlaypi canwnethani 100 pi canwnethani 1 000 pi hruxcanwnethani 100 000 pi inewlathiwiwttthayikpdaeninip immiikhrkahndnbidwacanwnethanihlaypi canwnethani 100 pi canwnethani 1 000 pi hruxcanwnethani 100 000 pi phiksuthnghlay xsngikhykp 4 prakarniael kppsutr 4 xsngikhykp sngwttkp sngwttthayikp wiwttkp wiwttthayikp srupickhwamkkhux mhakpnungaebngepn 4 chwng aetlachwngyawnanmakyakcanbid xsngikhykpinthinihmaythung makmay hrux nbimthwn infinity karaebngkptamcanwnkarxubtikhxngphraphuththeca aebngxxkepn 2 praephthhlk khux suyykp khux kpthiprascakphrasmmasmphuththeca phrapceckphuththeca aelaphraecackrphrrdi xsuyykp khux kpthiimwangcakphraphuththeca phrapceckphuththeca aelaphraecackrphrrdi aebngepn 5 praephthyxykhux sarkp khuxkpthiepnaeknsar miphraphuththecamatrsru 1 phraxngkh mnthkp khux kpthiphxngis miphraphuththecamatrsru 2 phraxngkh wrkp khux kpthipraesrith miphraphuththecamatrsru 3 phraxngkh inthixun wa 4 phraxngkh sarmnthkp khuxkpthiepnaeknsaraelaphxngis miphraphuththecamatrsru 4 phraxngkh chbb mmr wa 3 phraxngkh phthrkp khuxkpthiecriy miphraphuththecamatrsru 5 phraxngkh kppccubnepnphthrkpmiphraphuththecamatrsru idaek phrakkusnthphuththeca phraoknakhmnphuththeca phraksspphuththeca phraokhtmphuththeca aelawathiphraemtitryphuththeca rwmeriykwa phraecahaphraxngkh karpramankhwamyawnankhxngkp phraphuththecaidtrspramanekiywkbkhwamyawnankhxngkpiwdngni 1 pphphtsutr sngyuttnikay xnmtkhkhsngyut khx 128 hna 219 220 phraitrpidkphasaithy chbbmhaculalngkrnrachwithyaly phiksuruphnungkrabthulkhxihphraphuththecaxupmakhwamyawnankhxngkp phraxngkhtrstxbwa xacxupmaid phiksu epriybehmuxnphuekhasilaaethngthublukihy mikhwamyaw 1 oychn kwang 1 oychn sung 1 oychn immichxng immiophrng burusphungexaphaaekhwnkasilubphuekhann 100 pitxkhrng phuekhasilalukihynnphunghmdsinip ephraakhwamphyayamni yngerwkwa swnkphnungyngimhmdsinip kpnannkhnaxyangni brrdakpthinannkhnaxyangni ethxidthxngethiywip miich 1 kp miich 100 kp miich 1 000 kp miich 100 000 kp khxnnephraaehtuir ephraawasngsarnimiebuxngtnaelaebuxngplayruimid l phiksu ephraaehtuniaehlacungkhwrebuxhnay khwrkhlaykahnd khwrephuxhludphncaksngkharthngpwng pphphtsutr 2 saspsutr sngyutnikay xnmtkhkhsngyut khx 129 hna 220 221 phraitrpidkphasaithy chbbmhaculalngkrnrachwithyaly phiksuruphnungkrabthulkhxihphraphuththecaxupmakhwamyawnankhxngkp phraxngkhtrstxbwa xacxupmaid phiksu epriybehmuxnnkhrthisrangdwyehlkmikhwamyaw 1 oychn kwang 1 oychn sung 1 oychn etmdwyemldphkkad rwmknepnklumkxn burusphunghyibemldphkkadxxkcaknkhrnn 100 pitx 1 emld emldphkkadkxngihynnphunghmdsinip ephraakhwamphyayamniyngerwkwa swnkphnung yngimhmdsinip kpnannkhnaxyangni brrdakpthinannkhnaxyangni ethxidthxngethiywip miich 1 kp miich 100 kp miich 1 000 kp miich 100 000 kp khxnnephraaehtuir ephraawasngsarnimiebuxngtnaelaebuxngplayruimid l khwrephuxhludphncak sngkharthngpwng saspsutr canwnkpthiphanmaaelw phraphuththecaidtrswathiphanmainxditmikpthilwngipaelwmakmaynbimthwndngni 1 sawksutr sngyutnikay xnmtkhkhsngyut khx 130 hna 221 phraitrpidkphasaithy chbbmhaculalngkrnrachwithyaly phiksuklumhnungkrabthulkhxihphraphuththecaaesdngxupmacanwnkpthiphanipaelw phaxngkhtrstxbwa xacxupmaid phiksuthnghlay epriybehmuxnsawk 4 rupinthrrmwinyni mixayu 100 pi michiwitxyu 100 pi hakethxehlannphungralukyxnhlngipid wnla 100 000 kp kpthiethxehlannralukipimthungyngmixyu txmasawk 4 rup mixayu 100 pi michiwitxyu 100 pi phungmrnphaphipthuk 100 pi kpthiphanphnipaelwmaknkhnaxyangni miicheruxngngaythicanbkpehlannwa ethanikp ethani 100 kp ethani 1 000 kp hruxwaethani 100 000 kp khxnnephraaehtuir ephraawasngsarnimiebuxngtnaelaebuxngplayruimid l khwrephuxhludphn sawksutr 2 khngkhasutr sngyutnikay xnmtkhkhsngyut khx 131 hna 222 phraitrpidkphasaithy chbbmhaculalngkrnrachwithyaly miphrahmnkhnhnungkrabthulkhxihphraphuththecaaesdngxupmacanwnkpthiphanipaelw phraxngkhtrstxbwa xacxupmaid phrahmn epriybehmuxnaemnakhngkhanierimtncakthiid aelathungmhasmuthr n thiid emdthrayinrahwangningaythicanbidwa ethaniemd ethani 100 emd ethani 1 000 emd hruxwaethani 100 000 emd kpthnghlaythiphanphnipaelwmakkwaemdthrayehlann miicheruxngngaythicanbkpehlannwa ethanikp ethani 100 kp ethani 1 000 kp hruxwaethani 100 000 kp khxnnephraaehtuir ephraawasngsarnimiebuxngtnaelaebuxngplayruimid thisudebuxngtn thisudebuxngplay impraktaekehlastwphuthukxwichchakidkhwang thuktnhaphukiw wnewiynthxngethiywipstwehlannkeswykhwamthukkh eswykhwamlabak idrbkhwamphinasetmpachaepnewlayawnan phrahmn ephraaehtuniaehlacungkhwrebuxhnay khwrkhlaykahnd khwrephuxhludphncaksngkharthngpwng khngkhasutrsasnahindutamkhtiinsasnahindu echuxwaphraphrhmthrngsrangolkesrcaelwcabrrthmip 1 khun sungyawnanethakb 1 klp aetlaklpnan 4 320 lanpi aelaaetlaklpaebngxxkepn 14 aetlamnwndrnan 306 720 000 pi aelaaebngxxkepn 71 yukh emuxkhrb 1 klp olkcathungxwsanphxdi phraphrhmcatunbrrthm aelwthrngichewla 1 wnkhxngphraxngkh sungethakb 1 klp ephuxsrangolkkhunihm dngnn 30 wnkhunphraphrhm hruxnbepn 1 eduxnphraphrhm caethakbpraman 259 200 lanpilththixnuttrthrrmlththixnuttrthrrmthuxwarayaewlatngaetfadinkxkaenidkhunsaercepnsrrphsing aelwklbesuxmslaycbsindinfaeriykwa 1 kp hrux 1 xubtikal cin 元 exwiyn sungyawnan 129 600 pi aetlaxubtikalaebngepn 12 brrcbkal cin 會 huy odyaetlabrrcbkalnan 10 800 pi aelamichuxtam 12 pinkstr yukhpccubnxyuinchwngbrrcbkalmaaem sungerimmatngaet kh s 1912 aelaepncuderimtnthrrmkalyukhkhawkhxngphrasrixriyemtitry yukhnicamiphyphibtiekidkhun 81 khrng aelamiwithixnuttrthrrmlngmaphrxmknephuxchudchwysrrphstwklbsuaednniphphanxangxingechingxrrthrachkiccanuebksa phcnanukrmsphthsasnasakl chbbrachbnthitysthan phimphkhrngthi 3 krungethph rachbnthitysthan 2552 734 hna hna 287 90 ISBN 978 616 7073 03 3 kppsutr phrasuttntpidk xngkhuttrnikay ctukknibat 4 ctutthpnnask 1 xinthriywrrkh xrrthktha khuththknikay xpthan phakh 2 55 phththiywrrkh 8 olmstiyethrapthan phrasuttntpidk khuththknikay xpthan elm 9 phakh 1 hnathi 401 pphphtsutr phrasuttntpidk sngyuttnikay nithanwrrkh 4 xnmtkhkhsngyut 1 pthmwrrkh 5 saspsutr phrasuttntpidk sngyuttnikay nithanwrrkh 4 xnmtkhkhsngyut 1 pthmwrrkh sawksutr phrasuttntpidk sngyuttnikay nithanwrrkh 4 xnmtkhkhsngyut 1 pthmwrrkh khngkhasutr phrasuttntpidk sngyuttnikay nithanwrrkh 4 xnmtkhkhsngyut 1 pthmwrrkh Manu lingkesiy saranukrmbriaethnnika phuththraebiybphithikarxnuttrthrrm pkhlng saythxng hna 33 34 brrnanukrmpraphas suraesn phrakhmphirxnakhtwngs krungethph mhamkutrachwithyaly 2540 ISBN 974 580 742 7 phraphrhmomli wilas yanwor phumiwilasini hna 453 456 phuththraebiybphithikarxnuttrthrrm nkhrpthm ethidkhunthrrm m p p suphnimit namaefng saythxng phngsathrrm 1 krungethph sngesrimkhunphaphchiwit m p p