ศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย (อังกฤษ: Ban Vinai Holding Center) หรือ ค่ายผู้อพยพบ้านวินัย (อังกฤษ: Ban Vinai Refugee Camp) เป็นในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2518 จนถึง 2535 บ้านวินัยเป็นที่อยู่ของชาวภูเขาโดยเฉพาะชาวม้งที่หลบหนีในลาว บ้านวินัยมีประชากรสูงสุดประมาณ 45,000 คน ประกอบด้วยชาวม้งและชาวภูเขาอื่น ๆ จำนวนมาก ชาวลาวบนภูเขาได้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ขณะที่อีกหลายคนอาศัยอยู่ในค่ายเป็นเวลาหลายปี ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมู่บ้านม้งขนาดใหญ่ที่แออัด รัฐบาลไทยปิดค่ายนี้ในปี พ.ศ. 2535 โดยบังคับให้ชาวภูเขาบางส่วนกลับประเทศลาว และย้ายส่วนที่เหลือไปยังค่ายผู้ลี้ภัยอื่น
ศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย | |
---|---|
พื้นที่ภายในศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย | |
ศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย ที่ตั้งในประเทศไทย ศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย ศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัย (ประเทศไทย) | |
พิกัด: 17°55′50″N 101°54′51″E / 17.93056°N 101.91417°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | เลย |
อำเภอ | ปากชม |
เปิดโดย รัฐบาลไทย | ธันวาคม 2518 |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 1.6 ตร.กม. (0.6 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2528) | |
• ทั้งหมด | 45,000 คน |
จุดเริ่มต้น
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2518 ทหารของพรรคคอมมิวนิสต์ปะเทดลาวและกองทัพเวียดนามเหนือได้ยึดเมืองลองเตี๊ยง ซึ่งเป็นกองบัญชาการของนายพล วังเปา ซึ่งเป็นชาวม้ง และกองทัพที่ได้รับการสนับสนุนจากซีไอเอจำนวน 30,000 นาย ซึ่งต่อสู้กับคอมมิวนิสต์มานานเกือบ 15 ปี วังเปาและผู้นำชาวม้งคนอื่น ๆ ได้รับการอพยพมายังประเทศไทยโดย เจอร์รี แดเนียลส์ จากซีไอเอ และนักบินพลเรือนชาวอเมริกัน พวกเขาได้หลบภัยในค่ายทหารน้ำพอง วังเปาและคนอื่น ๆ อีกไม่กี่คนได้รับอนุญาตให้เดินทางมายังสหรัฐไม่นานหลังจากนั้น หลังจากการอพยพ ชาวม้งหลายหมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารและครอบครัวของพวกเขา ได้หลบหนีออกจากลาวด้วยการเดินเท้าในช่วงไม่กี่ปีต่อมา โดยข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่ประเทศไทย ในขณะที่ชะตากรรมของชาวม้งยังคงไม่แน่นอน ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2518 พันเอก เซี๊ยะ ดัง เซียง (เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2521) และอาสาสมัครอีก 80 คนของเขาได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยของไทยให้ไปถางป่าเล็ก ๆ ในอำเภอปากชม จังหวัดเลย เพื่อสร้างที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ขอลี้ภัย ทีมงานตั้งชื่อพื้นที่นี้ว่า Vinai เพื่อแสดงถึงความภักดีและกิริยามารยาทของพวกเขา ในช่วงปลายเดือนตุลาคมมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 4,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวของผู้ลี้ภัยกลุ่มแรก ถูกย้ายจากค่ายทหารน้ำพองไปยังบ้านวินัย บันทึกอย่างเป็นทางการระบุว่าบ้านวินัยก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2518 เพื่อรองรับผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามา โดยรองรับผู้ลี้ภัยในช่วงแรกจำนวน 12,000 คน รายงานระบุว่า ซีไอเอได้บริจาคเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อสร้างและบริหารค่าย
รายละเอียด
ที่ตั้งของบ้านวินัยตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในอำเภอปากชม จังหวัดเลย ประมาณ 10 ไมล์ (16 กิโลเมตร) จากทางใต้ของแม่น้ำโขงและชายแดนลาว ค่ายนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 400 เอเคอร์ (1.6 ตารางกิโลเมตร) และเต็มไปด้วยกระท่อมชั่วคราวที่สร้างโดยผู้ลี้ภัยเอง รวมถึงอาคารบริหาร หอพัก โกดัง ศูนย์ดูแลสุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ บ้านวินัยมีลักษณะเหมือนหมู่บ้านชาวม้งที่รกร้าง แม้ว่าจะมีผู้คนพลุกพล่านหนาแน่น
ประชากรของบ้านวินัยมีอยู่ประมาณ 12,000 คนจนกระทั่งปี พ.ศ. 2522 ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอันเป็นผลจากการไหลบ่าเข้ามาของชาวม้งจากลาวที่เพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ. 2528 จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดประมาณ 45,000 คน เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์เป็นชาวม้ง แต่กลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่เป็นตัวแทน ได้แก่ ทิน (ชาวไผ่), เย้า (เมี่ยน), ไทลื้อ, , ลาวเทิง, ไทดำ, มูเซอ (ลาหู่), ฮอว์ () และลาวที่ราบลุ่ม
ผู้บัญชาการค่ายเป็นคนไทยที่ได้รับเลือกจากผู้ว่าราชการจังหวัดและกระทรวงมหาดไทยของไทยซึ่งดูแลค่าย เดิมที (ระหว่างปี พ.ศ. 2519 และ พ.ศ. 2522) ค่ายนี้แบ่งออกเป็น 5 ส่วน โดยแต่ละส่วนมีผู้นำผู้ลี้ภัยที่ร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการผู้ลี้ภัย กระทั่งในปี พ.ศ. 2522 เมื่อรัฐบาลไทยปิดศูนย์รับผู้อพยพที่หนองคาย ผู้ลี้ภัยจากศูนย์ฯ หนองคายจึงกลายมาเป็นประชากรในส่วนที่ 6, 7 และ 8 เพื่อให้มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับผู้ลี้ภัยที่มาจากค่ายหนองคาย ส่วน 9 เป็นที่รู้จักกันในบ้านวินัยว่าเป็นส่วนที่ไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับผู้เสียชีวิตในค่าย หรือส่วนของสุสาน ต่อมาในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 เมื่อศูนย์รับผู้อพยพบ้านน้ำยาวถูกปิดลง จึงได้จัดตั้งส่วน 9 ขึ้นโดยสร้างทับบนที่ฝังร่างของผู้เสียชีวิต ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ร่วมกับเงินบริจาคจากสหรัฐและประเทศอื่น ๆ เป็นผู้ให้ทุนช่วยเหลือผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ รวมถึงอาหาร ที่อยู่อาศัย การศึกษา และสุขภาพ องค์กรการกุศลระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ภาครัฐมากกว่าสิบแห่งทำงานในค่ายเพื่อดำเนินโครงการและดำเนินการสิ่งอำนวยความสะดวกในนามของ UNHCR ในนามผู้บริจาครายอื่นและผู้ลี้ภัย
การย้ายถิ่นฐาน การส่งตัวกลับประเทศ และการปิดศูนย์
ในตอนแรก ผู้ลี้ภัยทั้งหมดในบ้านวินัยได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยชั่วคราวในประเทศไทย โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถกลับไปยังลาวได้ในไม่ช้า หรืออาจจะย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม เพราะประเทศไทยปฏิเสธที่จะให้สิทธิแก่ชาวม้งในการพำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม ในช่วงครีสต์ทศวรรษ 1980 ผู้ลี้ภัยจำนวนมากปฏิเสธที่จะกลับไปลาวและไม่ขอตั้งถิ่นฐานใหม่ในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่น พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลลาวรับรองความปลอดภัยในการกลับลาวและการปกครองตนเองแทน ความไม่เต็มใจของชาวม้งบางส่วนในการตั้งถิ่นฐานใหม่เกิดจากความกลัวต่อความท้าทายในการย้ายไปอยู่ในสังคมอุตสาหกรรม ในบ้านวินัย ชาวม้งสามารถรักษาวัฒนธรรมและสังคมดั้งเดิมเอาไว้ได้ ความไม่เต็มใจดังกล่าวยังเกิดจากอิทธิพลของนายพล วังเปา และผู้นำคนอื่น ๆ ที่เรียกร้องให้พวกเขาอยู่ในประเทศไทยเพื่อเป็นการปูทางไปสู่การกลับลาวและการโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ชาวม้งบางส่วนใช้บ้านวินัยเป็นฐานในการต่อต้านรัฐบาลลาว ความลังเลใจในการตั้งถิ่นฐานใหม่เริ่มเปลี่ยนไปในปี พ.ศ. 2528 ชาวม้งรุ่นใหม่เต็มใจที่จะรับเอาประเพณีและวิถีชีวิตใหม่ และรัฐบาลไทยกดดันให้ผู้ลี้ภัยยอมรับการตั้งถิ่นฐานใหม่หรือส่งตัวกลับประเทศลาวโดยบังคับภายในปี พ.ศ. 2529 ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้อยู่อาศัยอาศัยอยู่ในค่ายคือเกือบเจ็ดปี
รัฐบาลไทยได้ริเริ่มโครงการที่เรียกว่า "การป้องปรามอย่างมีมนุษยธรรม" เพื่อทำให้ชีวิตของผู้ลี้ภัยยากขึ้นและเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ลี้ภัยเพิ่มเติมเข้ามาในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2526 ประเทศไทยได้ปิดบ้านวินัยสำหรับผู้มาใหม่ แม้ว่าชาวม้งหลายพันคนจะสามารถหลบเข้าไปในค่ายได้ในช่วงหลายปีถัดมา ในปี พ.ศ. 2528 รัฐบาลไทยได้เริ่ม "ผลักดัน" ชาวม้งและชาวลาวอื่น ๆ ที่พยายามข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทย และเริ่มส่งชาวม้งกลับประเทศลาวโดยใช้กำลังจากบ้านวินัย องค์กรสิทธิมนุษยชนคัดค้านการส่งกลับโดยบังคับและอ้างหลักฐานในปี พ.ศ. 2530 ว่าผู้ที่ถูกผลักดันกลับมาถูกจับกุมเมื่อพวกเขากลับมายังลาว เพื่อปลอบใจรัฐบาลไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่และลดการผลักดันชาวม้งกลับประเทศโดยบังคับ รัฐบาลสหรัฐได้เพิ่มโควตาการตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับชาวลาว รวมทั้งชาวม้ง เป็นสองเท่า จาก 4,000 คนเป็น 8,000 คนต่อปีในต้นปี พ.ศ. 2531
หลังจากที่ชาวม้งอพยพไปตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศมากขึ้นเป็นเวลาหลายปี จำนวนผู้ลี้ภัยในศูนย์เริ่มลดลง และการส่งตัวกลับประเทศลาว ประเทศไทยได้ปิดศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัยเมื่อปลายปี พ.ศ. 2535 ผู้ลี้ภัยชาวม้งและลาวที่เหลือในประเทศไทยถูกกระจายไปยังค่ายและศูนย์รับผู้อพยพอื่น ๆ โดยเฉพาะวัดถ้ำกระบอก
สถานะปัจจุบัน
หลังจากการยุบปิดศูนย์รับผู้อพยพบ้านวินัยไปแล้ว รัฐบาลไทยได้จัดตั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นหมุ่บ้านวินัย ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2538 ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 11 ตำบลปากชม อำเภอแกชม จังหวัดเลย มีนายสมพงษ์ สีคะปัสสะ เป็นประธานหมู่บ้านอาสารักษาดินแดน และมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือ นายสมาน ประสมทรัพย์ ปัจจุบันมีหมู่บ้านอยู่ประมาณ 49 ครัวเรือน มีพื้นที่ของหมู่บ้านทั้งหมดประมาณ 2,085 ไร่
หมายเหตุ
- ชื่อที่ใช้เรียกขานและติดบนป้ายหน้าศูนย์เป็นภาษาไทยในประเภทเดียวกัน คือรับผู้อพยพชาวม้ง จากแหล่งข้อมูลเปิดที่สืบค้นได้บนภาพถ่ายในเฟสบุ๊กแฟนเพจ คลิปม้ง รูปม้ง ชุมชนม้งออนไลน์
- ชื่อแปลตามภาษาอังกฤษที่เรียกขานโดยชาวต่างชาติ
อ้างอิง
- "Learn Uake - The Hmong Refugee Experience". Learn Uake (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-08-11.
- Thompson, Larry Clinton (2010). Refugee Workers in the Indochina Exodus, 1975-1982 (ภาษาEnglish). McFarland & Company (ตีพิมพ์ April 28, 2010). pp. 47–61. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: unrecognized language () - "Hmong Children: A Changing World in Ban Vinai", Cultural Survival, 10:4 (Winter 1986) ; "The Hmong: An Introduction to their History and Culture" (June 2004), Country Profile No. 18, Center for Applied Linguistics, Washington, D.C.. pp. 20-21
- ""Report From United Nations - Brief on Ban Vinai Refugee Camp"". . 1 April 1985. สืบค้นเมื่อ 2015-12-31.
Folder 01, Box 13, Garnett Bell Collection, The Vietnam Center and Archive
- Robinson, Court (1998), Terms or Refuge: The Indochinese Exoduds and the International Response, London: Zed books, pp. 116-119
- ""White Paper on Action Plan on Lao and Hmong Refugee Crisis in Thailand and Laos"". . 27 May 1995. สืบค้นเมื่อ 2016-01-01.
Folder 12, Box 09, Douglas Pike Collection: Unit 11 - Monographs, The Vietnam Center and Archive
- Robinson, p. 120
- "The Hmong: An Introduction to their History and Culture" (June 2004), Country Profile No. 18, Center for Applied Linguistics, Washington, D.C., p. 21
- "บ้านวินัย หมู่ที่ 11 ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย". GotoLoie.com.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sunyrbphuxphyphbanwiny xngkvs Ban Vinai Holding Center hrux khayphuxphyphbanwiny xngkvs Ban Vinai Refugee Camp epninpraethsithytngaet ph s 2518 cnthung 2535 banwinyepnthixyukhxngchawphuekhaodyechphaachawmngthihlbhniinlaw banwinymiprachakrsungsudpraman 45 000 khn prakxbdwychawmngaelachawphuekhaxun canwnmak chawlawbnphuekhaidtngthinthanihminshrthaelapraethsxun khnathixikhlaykhnxasyxyuinkhayepnewlahlaypi sungmilksnakhlayhmubanmngkhnadihythiaexxd rthbalithypidkhayniinpi ph s 2535 odybngkhbihchawphuekhabangswnklbpraethslaw aelayayswnthiehluxipyngkhayphuliphyxunsunyrbphuxphyphbanwinyphunthiphayinsunyrbphuxphyphbanwinysunyrbphuxphyphbanwinythitnginpraethsithyaesdngaephnthicnghwdelysunyrbphuxphyphbanwinysunyrbphuxphyphbanwiny praethsithy aesdngaephnthipraethsithyphikd 17 55 50 N 101 54 51 E 17 93056 N 101 91417 E 17 93056 101 91417praeths ithycnghwd elyxaephxpakchmepidody rthbalithythnwakhm 2518phunthi thnghmd1 6 tr km 0 6 tr iml prachakr 2528 thnghmd45 000 khncuderimtnineduxnphvsphakhm ph s 2518 thharkhxngphrrkhkhxmmiwnistpaethdlawaelakxngthphewiydnamehnuxidyudemuxnglxngetiyng sungepnkxngbychakarkhxngnayphl wngepa sungepnchawmng aelakxngthphthiidrbkarsnbsnuncaksiixexcanwn 30 000 nay sungtxsukbkhxmmiwnistmananekuxb 15 pi wngepaaelaphunachawmngkhnxun idrbkarxphyphmayngpraethsithyody ecxrri aedeniyls caksiixex aelankbinphleruxnchawxemrikn phwkekhaidhlbphyinkhaythharnaphxng wngepaaelakhnxun xikimkikhnidrbxnuyatihedinthangmayngshrthimnanhlngcaknn hlngcakkarxphyph chawmnghlayhmunkhn sungswnihyepnxditthharaelakhrxbkhrwkhxngphwkekha idhlbhnixxkcaklawdwykaredinethainchwngimkipitxma odykhamaemnaokhngekhasupraethsithy inkhnathichatakrrmkhxngchawmngyngkhngimaennxn inwnthi 8 singhakhm ph s 2518 phnexk esiya dng esiyng esiychiwitemuxwnthi 15 minakhm ph s 2521 aelaxasasmkhrxik 80 khnkhxngekhaidrbmxbhmaycakkrathrwngmhadithykhxngithyihipthangpaelk inxaephxpakchm cnghwdely ephuxsrangthiphkchwkhrawsahrbphukhxliphy thimngantngchuxphunthiniwa Vinai ephuxaesdngthungkhwamphkdiaelakiriyamaryathkhxngphwkekha inchwngplayeduxntulakhmmiphuxyuxasypraman 4 000 khn sungswnihyepnkhrxbkhrwkhxngphuliphyklumaerk thukyaycakkhaythharnaphxngipyngbanwiny bnthukxyangepnthangkarrabuwabanwinykxtngkhunineduxnthnwakhm ph s 2518 ephuxrxngrbphuxphyphthihlngihlekhama odyrxngrbphuliphyinchwngaerkcanwn 12 000 khn raynganrabuwa siixexidbricakhenginhlaylandxllarephuxsrangaelabriharkhayraylaexiydthitngkhxngbanwinytngxyuinphakhtawnxxkechiyngehnuxkhxngpraethsithyinxaephxpakchm cnghwdely praman 10 iml 16 kiolemtr cakthangitkhxngaemnaokhngaelachayaednlaw khaynikhrxbkhlumphunthipraman 400 exekhxr 1 6 tarangkiolemtr aelaetmipdwykrathxmchwkhrawthisrangodyphuliphyexng rwmthungxakharbrihar hxphk okdng sunyduaelsukhphaph aelasingxanwykhwamsadwkxun banwinymilksnaehmuxnhmubanchawmngthirkrang aemwacamiphukhnphlukphlanhnaaennthngkkekbnaphayinsunyrbphuxphyphbanwiny prachakrkhxngbanwinymixyupraman 12 000 khncnkrathngpi ph s 2522 prachakrephimkhunxyangrwderwxnepnphlcakkarihlbaekhamakhxngchawmngcaklawthiephimkhun inpi ph s 2528 canwnprachakrephimkhunthungcudsungsudpraman 45 000 khn ekasibhaepxresntepnchawmng aetklumchatiphnthuxun thiepntwaethn idaek thin chawiph eya emiyn ithlux lawething ithda muesx lahu hxw aelalawthirablum phubychakarkhayepnkhnithythiidrbeluxkcakphuwarachkarcnghwdaelakrathrwngmhadithykhxngithysungduaelkhay edimthi rahwangpi ph s 2519 aela ph s 2522 khayniaebngxxkepn 5 swn odyaetlaswnmiphunaphuliphythirwmkncdtngkhnakrrmkarphuliphy krathnginpi ph s 2522 emuxrthbalithypidsunyrbphuxphyphthihnxngkhay phuliphycaksuny hnxngkhaycungklaymaepnprachakrinswnthi 6 7 aela 8 ephuxihmiphunthimakkhunsahrbphuliphythimacakkhayhnxngkhay swn 9 epnthiruckkninbanwinywaepnswnthiimmiwnsinsudsahrbphuesiychiwitinkhay hruxswnkhxngsusan txmainchwngklangkhristthswrrs 1980 emuxsunyrbphuxphyphbannayawthukpidlng cungidcdtngswn 9 khunodysrangthbbnthifngrangkhxngphuesiychiwit sungsankngankhahlwngihyphuliphyaehngshprachachati UNHCR rwmkbenginbricakhcakshrthaelapraethsxun epnphuihthunchwyehluxphuliphyswnihy rwmthungxahar thixyuxasy karsuksa aelasukhphaph xngkhkrkarkuslrahwangpraethsthiimichphakhrthmakkwasibaehngthanganinkhayephuxdaeninokhrngkaraeladaeninkarsingxanwykhwamsadwkinnamkhxng UNHCR innamphubricakhrayxunaelaphuliphykaryaythinthan karsngtwklbpraeths aelakarpidsunybrikarsatharnsukhinsunyrbphuxphyphbanwiny intxnaerk phuliphythnghmdinbanwinyidrbxnuyatihliphychwkhrawinpraethsithy odyhwngwaphwkekhacasamarthklbipynglawidinimcha hruxxaccayayiptngthinthanihminpraethsthisam ephraapraethsithyptiesththicaihsiththiaekchawmnginkarphankxyuinpraethsithyxyangthawr xyangirktam inchwngkhristthswrrs 1980 phuliphycanwnmakptiesththicaklbiplawaelaimkhxtngthinthanihminshrthxemrikahruxpraethsxun phwkekhaeriykrxngihrthballawrbrxngkhwamplxdphyinkarklblawaelakarpkkhrxngtnexngaethn khwamimetmickhxngchawmngbangswninkartngthinthanihmekidcakkhwamklwtxkhwamthathayinkaryayipxyuinsngkhmxutsahkrrm inbanwiny chawmngsamarthrksawthnthrrmaelasngkhmdngedimexaiwid khwamimetmicdngklawyngekidcakxiththiphlkhxngnayphl wngepa aelaphunakhnxun thieriykrxngihphwkekhaxyuinpraethsithyephuxepnkarputhangipsukarklblawaelakarokhnlmrthbalkhxmmiwnist chawmngbangswnichbanwinyepnthaninkartxtanrthballaw khwamlngelicinkartngthinthanihmerimepliynipinpi ph s 2528 chawmngrunihmetmicthicarbexapraephniaelawithichiwitihm aelarthbalithykddnihphuliphyyxmrbkartngthinthanihmhruxsngtwklbpraethslawodybngkhbphayinpi ph s 2529 rayaewlaechliythiphuxyuxasyxasyxyuinkhaykhuxekuxbecdpi rthbalithyidrierimokhrngkarthieriykwa karpxngpramxyangmimnusythrrm ephuxthaihchiwitkhxngphuliphyyakkhunaelaephuxpxngknimihmiphuliphyephimetimekhamainpraethsithy inpi ph s 2526 praethsithyidpidbanwinysahrbphumaihm aemwachawmnghlayphnkhncasamarthhlbekhaipinkhayidinchwnghlaypithdma inpi ph s 2528 rthbalithyiderim phlkdn chawmngaelachawlawxun thiphyayamkhamphrmaednekhamainpraethsithy aelaerimsngchawmngklbpraethslawodyichkalngcakbanwiny xngkhkrsiththimnusychnkhdkhankarsngklbodybngkhbaelaxanghlkthaninpi ph s 2530 waphuthithukphlkdnklbmathukcbkumemuxphwkekhaklbmaynglaw ephuxplxbicrthbalithysungepnecakhxngphunthiaelaldkarphlkdnchawmngklbpraethsodybngkhb rthbalshrthidephimokhwtakartngthinthanihmihkbchawlaw rwmthngchawmng epnsxngetha cak 4 000 khnepn 8 000 khntxpiintnpi ph s 2531 hlngcakthichawmngxphyphiptngthinthanintangpraethsmakkhunepnewlahlaypi canwnphuliphyinsunyerimldlng aelakarsngtwklbpraethslaw praethsithyidpidsunyrbphuxphyphbanwinyemuxplaypi ph s 2535 phuliphychawmngaelalawthiehluxinpraethsithythukkracayipyngkhayaelasunyrbphuxphyphxun odyechphaawdthakrabxksthanapccubnhlngcakkaryubpidsunyrbphuxphyphbanwinyipaelw rthbalithyidcdtngphunthidngklawepnhmubanwiny tamraebiybkhxngkrathrwngmhadithyinpi ph s 2538 tngxyuinhmuthi 11 tablpakchm xaephxaekchm cnghwdely minaysmphngs sikhapssa epnprathanhmubanxasarksadinaedn aelamiphuihybankhnaerkkhux naysman prasmthrphy pccubnmihmubanxyupraman 49 khrweruxn miphunthikhxnghmubanthnghmdpraman 2 085 irhmayehtuwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sunyrbphuxphyphbanwiny chuxthiicheriykkhanaelatidbnpayhnasunyepnphasaithyinpraephthediywkn khuxrbphuxphyphchawmng cakaehlngkhxmulepidthisubkhnidbnphaphthayinefsbukaefnephc khlipmng rupmng chumchnmngxxniln chuxaepltamphasaxngkvsthieriykkhanodychawtangchatixangxing Learn Uake The Hmong Refugee Experience Learn Uake phasaxngkvsaebbxemrikn 2023 08 11 Thompson Larry Clinton 2010 Refugee Workers in the Indochina Exodus 1975 1982 phasaEnglish McFarland amp Company tiphimph April 28 2010 pp 47 61 ISBN 978 0786445295 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint unrecognized language lingk Hmong Children A Changing World in Ban Vinai Cultural Survival 10 4 Winter 1986 The Hmong An Introduction to their History and Culture June 2004 Country Profile No 18 Center for Applied Linguistics Washington D C pp 20 21 Report From United Nations Brief on Ban Vinai Refugee Camp 1 April 1985 subkhnemux 2015 12 31 Folder 01 Box 13 Garnett Bell Collection The Vietnam Center and Archive Robinson Court 1998 Terms or Refuge The Indochinese Exoduds and the International Response London Zed books pp 116 119 White Paper on Action Plan on Lao and Hmong Refugee Crisis in Thailand and Laos 27 May 1995 subkhnemux 2016 01 01 Folder 12 Box 09 Douglas Pike Collection Unit 11 Monographs The Vietnam Center and Archive Robinson p 120 The Hmong An Introduction to their History and Culture June 2004 Country Profile No 18 Center for Applied Linguistics Washington D C p 21 banwiny hmuthi 11 tablpakchm xaephxpakchm cnghwdely GotoLoie com