พระมหากัจจายนะ (บาลี: มหากจฺจายน, สันสกฤต: มหากาตฺยายน) เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระอสีติมหาสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร ในประเทศไทยนอกจากชื่อตามภาษาบาลีแล้ว ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "พระสังกัจจายน์" หรือ "พระสังกระจาย"
พระมหากัจจายนะเกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่งในกรุงอุชเชนี ได้ศึกษพระเวทตามอย่างตระกูลพราหมณ์ทั้งหลาย ท่านเป็นศิษย์ของอสิตดาบสแห่ง (ผู้ทำนายว่าเจ้าชายสิทธิตถะจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหรือพระพุทธเจ้าในอนาคต) พระมหากัจจายนะพร้อมด้วยมิตรอีก 7 คนได้อาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมเทศนา และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในระหว่างฟังธรรมนั้นเอง หลังจากนั้นท่านจึงทูลขออุปสมบทต่อพระพุทธเจ้า และได้เผยแผ่ศาสนาพุทธอยู่ในจนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกในพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก
ความเชื่อในนิกายมหายาน คัมภีร์สัทธรรมปุณฑรีกสูตร บรรพที่ 6 ว่าด้วยการพยากรณ์ กล่าวถึงพุทธพยากรณ์ว่า พระมหากัจจายนะ พระมหากัสสปะ และพระมหาโมคคัลลานะ (ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น) หลังจากได้สดับพระสูตรนี้แล้ว จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
ความเข้าใจผิดในพุทธศาสนิกชนชาวไทย
รูปเคารพของพระมหากัจจายนะหรือพระสังกัจจายน์ มักเป็นที่สับสนและเข้าใจผิดในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยว่าเป็นองค์เดียวกับพระสังกัจจายน์จีน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นรูปเคารพของ พระปู้ไต้หลอฮั่น หรือ พระปู้ไต้ (จีน: 布袋; พินอิน: Bùdài) หรือพระโฮไท่ในญี่ปุ่น เป็น 1 ในพระอรหันต์ 18 องค์ และเป็น 1 ใน 7 องค์ของพระนำโชคที่ชาวญี่ปุ่นเคารพนับถือ
พระปู้ไต้ เดิมชื่อ ฉวีคู ถือกำเนิดที่เมืองหมิงโจว เขตเฟิงหัว ในมณฑลเจ้อเจียง ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยราชวงศ์เหลียง (พ.ศ.1450-1466) ท่านได้ศึกษาธรรมฝ่ายพุทธศาสนามหายาน ต่อมาจึงบวชเป็นพระภิกษุมีฉายาว่า ฉิ้วฉื่อ และชางทิงฉวี่ มักเห็นรูปของท่านนั่งพุงพลุ้ย ถือกระสอบ หรือ ย่าม ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ ซึ่งแสดงถึงความมีเมตตากรุณาต่อคนทั่วไปให้พวกเขาได้รับความสุข เท้าทั้งสองอยู่บนพื้น เพราะถือว่าท่านยังไม่ได้สำเร็จมรรคผลชั้นสูงสุด เป็นพระสงฆ์ที่มีอารมณ์ดีและนิสัยดีน่ารัก และได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ที่ต้อนรับแขก ท่านชอบแจกขนมให้แก่เด็กๆ
ก่อนมรณภาพ ท่านได้กล่าวบทสวดว่า
彌勒真彌勒,化身千百億,時時示時人,時人自不識
เมตไตรยะ เมตไตรยะที่แท้
จุติลงมาเกิดในโลกเป็นพันล้านองค์
มักปรากฏให้ปวงชนเห็นเสมอ
บางช่วงเวลาคนเหล่านั้นมิได้ระลึกถึงเลย— ปู้ไต้หลอฮั่น
ท่านจึงได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนานิกายเซ็น ลัทธิเต๋า และชินโต ว่า ท่านเป็นปางหนึ่งของพระเมตไตรยโพธิสัตว์ลงมากำเนิด และถือว่าท่านเป็นหนึ่งในพระอรหันต์ 18 องค์ ในสมัยพุทธกาล คือ พระอังกิตา หรือ กาลิโก เดิมเป็นชาวอินเดีย ชอบจับงูมีพิษเอาไปปล่อยเพื่อไม่ต้องการให้คนที่สัญจรไปมาเหยียบถูกงูพิษกัด ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า เป็น โพธิ ทั้งพระปู้ไต้ และ อังกิตาเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาและถือย่ามหรือถุงสะพายหลัง
ส่วนพระสังกัจจายน์หรือพระมหากัจจายนะในประเทศไทย รูปจะต่างกันตรงที่ศีรษะมีผมม้วนเป็นก้นหอยคล้ายพระพุทธเจ้า และครองจีวรแบบเถรวาท แต่ก็ยังอ้วนท้วนเหมือนเดิม ส่วนของจีนศีรษะล้าน ครองจีวรแบบจีน
อ้างอิง
- ประวัติโดยย่อ พระปู้ไต้หล่อฮั่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phramhakccayna bali mhakc cayn snskvt mhakat yayn epnphraxrhntxngkhhnunginphraxsitimhasawkkhxngphraokhtmphuththeca idrbkarykyxngwaepnextthkhkhainthangphuxthibaykhwamyxihphisdar inpraethsithynxkcakchuxtamphasabaliaelw yngepnthiruckinchux phrasngkccayn hrux phrasngkracay ruppnkhxngphramhakccaynahruxphrasngkccayn phramhakccaynaekidintrakulphrahmntrakulhnunginkrungxuchechni idsuksphraewthtamxyangtrakulphrahmnthnghlay thanepnsisykhxngxsitdabsaehng phuthanaywaecachaysiththitthacaidepnphraecackrphrrdihruxphraphuththecainxnakht phramhakccaynaphrxmdwymitrxik 7 khnidxarathnaphraphuththecaihthrngaesdngthrrmethsna aelaidbrrluthrrmepnphraxrhntinrahwangfngthrrmnnexng hlngcaknnthancungthulkhxxupsmbthtxphraphuththeca aelaidephyaephsasnaphuththxyuincnmiphuekhamaepnsawkinphuththsasnaepncanwnmak khwamechuxinnikaymhayan khmphirsththrrmpunthriksutr brrphthi 6 wadwykarphyakrn klawthungphuththphyakrnwa phramhakccayna phramhaksspa aelaphramhaomkhkhllana thnghmdlwnaelwaetepnphraxrhntthngsin hlngcakidsdbphrasutrniaelw ckidtrsruepnphraphuththecainxnakhtkhwamekhaicphidinphuththsasnikchnchawithywdnwlnaram xaephxekaasmuy cnghwdsurastrthani rupekharphkhxngphramhakccaynahruxphrasngkccayn mkepnthisbsnaelaekhaicphidinhmuphuththsasnikchnchawithywaepnxngkhediywkbphrasngkccayncin sungaethcringaelwepnrupekharphkhxng phrapuithlxhn hrux phrapuit cin 布袋 phinxin Budai hruxphraohithinyipun epn 1 inphraxrhnt 18 xngkh aelaepn 1 in 7 xngkhkhxngphranaochkhthichawyipunekharphnbthux phrapuit edimchux chwikhu thuxkaenidthiemuxnghmingocw ekhtefinghw inmnthlecxeciyng thanmichiwitxyuinchwngsmyrachwngsehliyng ph s 1450 1466 thanidsuksathrrmfayphuththsasnamhayan txmacungbwchepnphraphiksumichayawa chiwchux aelachangthingchwi mkehnrupkhxngthannngphungphluy thuxkrasxb hrux yam ibhnayimaeymxyuesmx sungaesdngthungkhwammiemttakrunatxkhnthwipihphwkekhaidrbkhwamsukh ethathngsxngxyubnphun ephraathuxwathanyngimidsaercmrrkhphlchnsungsud epnphrasngkhthimixarmndiaelanisydinark aelaidchuxwaepnphrasngkhthitxnrbaekhk thanchxbaeckkhnmihaekedk kxnmrnphaph thanidklawbthswdwa 彌勒真彌勒 化身千百億 時時示時人 時人自不識 emtitrya emtitryathiaeth cutilngmaekidinolkepnphnlanxngkh mkpraktihpwngchnehnesmx bangchwngewlakhnehlannmiidralukthungely puithlxhn thancungidrbkarykyxngcakphrasngkh inphraphuththsasnanikayesn lththieta aelachinot wa thanepnpanghnungkhxngphraemtitryophthistwlngmakaenid aelathuxwathanepnhnunginphraxrhnt 18 xngkh insmyphuththkal khux phraxngkita hrux kaliok edimepnchawxinediy chxbcbngumiphisexaipplxyephuximtxngkarihkhnthisycripmaehyiybthuknguphiskd chawbancungeriykthanwa epn ophthi thngphrapuit aela xngkitaehmuxnknxyanghnungkhux ibhnayimaeymtlxdewlaaelathuxyamhruxthungsaphayhlng swnphrasngkccaynhruxphramhakccaynainpraethsithy rupcatangkntrngthisirsamiphmmwnepnknhxykhlayphraphuththeca aelakhrxngciwraebbethrwath aetkyngxwnthwnehmuxnedim swnkhxngcinsirsalan khrxngciwraebbcinxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phramhakccayna 2002 Dictionary of Buddhist Iconography pp 1652 1653 ISBN 8177420496 2003 A Dictionary of Buddhism p 140 ISBN 0198605609 hna 3 phraphuththruphwrx ody kieln pralxngeching chkthngrb ithyrthpithi 69 chbbthi 21933 wnphvhsbdithi 8 kumphaphnth ph s 2561 aerm 8 kha eduxn 3 piraka bthkhwamsasnaphuththniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk prawtiodyyx phrapuithlxhn