Azərbaycanca AzərbaycancaБеларускі БеларускіDansk DanskDeutsch DeutschEspañola EspañolaFrançais FrançaisIndonesia IndonesiaItaliana Italiana日本語 日本語Қазақ ҚазақLietuvos LietuvosNederlands NederlandsPortuguês PortuguêsРусский Русскийසිංහල සිංහලแบบไทย แบบไทยTürkçe TürkçeУкраїнська Українська中國人 中國人United State United StateAfrikaans Afrikaans
สนับสนุน
www.wiki3.th-th.nina.az
  • วิกิพีเดีย

เล ฟสตอร อ งกฤษ Love Story เป นเพลงของน กร องน กแต งเพลงชาวอเมร ก น เทย เลอร สว ฟต เพลงเข ยนโดยสว ฟต และผล ตโดย ร วมก บส

Love Story (Taylor Swift song)

Love Story (Taylor Swift song)
www.wiki3.th-th.nina.azhttps://www.wiki3.th-th.nina.az

"เลิฟสตอรี" (อังกฤษ: Love Story) เป็นเพลงของนักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ เพลงเขียนโดยสวิฟต์ และผลิตโดย ร่วมกับสวิฟต์ เพลงออกจำหน่ายในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2008 ผ่านสังกัดบิกแมชีนเรเคิดส์ เป็นซิงเกิลนำของสตูดิโออัลบั้มที่สองของสวิฟต์ เฟียร์เลส (2008) เนื้อเพลงเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนรักของสวิฟต์ที่ไม่เป็นที่นิยมในครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเธอ จากเหตุการณ์จำลองดังกล่าว สวิฟต์นำบทกวี โรเมโอและจูเลียต (1597) ของวิลเลียม เชกสเปียร์ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจแต่งเพลงนี้ อย่างไรก็ตาม แทนที่จะจบด้วยเนื้อหา เธอแทนที่ด้วย (happy ending) เพลงมีจังหวะปานกลาง เสียงร้องแบบโซปราโนเหมือนฝัน ขณะที่เสียงดนตรีเพลงค่อย ๆ ดังขึ้นต่อเนื่อง เนื้อเพลงบอกเล่าจากมุมมองของ

"เลิฟสตอรี"
image
ซิงเกิลโดยเทย์เลอร์ สวิฟต์
จากอัลบั้มเฟียร์เลส
วางจำหน่าย15 กันยายน ค.ศ. 2008 (2008-09-15)
บันทึกเสียงมีนาคม 2008
แบล็กเบิร์ด (แนชวิลล์)
แนวเพลงคันทรีป็อป
ความยาว3:57
ค่ายเพลงบิกมะชีน
ผู้ประพันธ์เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์
โปรดิวเซอร์
  • เทย์เลอร์ สวิฟต์
ลำดับซิงเกิลของเทย์เลอร์ สวิฟต์
"ชูดัฟเซดโน"
(2008) 		"เลิฟสตอรี"
(2008) 		"ไวต์ฮอร์ส"
(2008)
มิวสิกวิดีโอ
"เลิฟสตอรี" ที่ยูทูบ

เพลงประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยนักวิจารณ์ชื่นชมรูปแบบการเขียนเพลงของสวิฟต์ และเนื้อเรื่องในเพลง เพลงยังประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ ขายได้มากกว่า 8 ล้านซิงเกิลทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ในสหรัฐ เพลงขึ้นอันดับที่สี่บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และขายได้ 5.8 ล้านซิงเกิลผ่านดิจิทัลดาวน์โหลด กลายเป็นซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของสวิฟต์นับถึงปัจจุบัน และเป็นซิงเกิลดาวน์โหลดของนักร้องคันทรีหญิงเดี่ยวที่ขายดีที่สุดด้วย เพลงยังเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ และเคยเป็นซิงเกิลคันทรีดิจิทัลที่ขายดีที่สุดตลอดกาลด้วย ซิงเกิลได้รับการรับรองระดับแพลตินัม 8 ครั้งจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (RIAA) ในต่างประเทศ "เลิฟสตอรี" เป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งเพลงแรกในประเทศออสเตรเลีย ตามด้วย "เชกอิตออฟ" ใน ค.ศ. 2014 เพลงได้รับการรับรองระดับแพลตินัม 3 ครั้งจาก (ARIA) เพลงเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดทั่วโลก ยอดขายมากกว่า 8 ล้านซิงเกิล (จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ หรือ IFPI)

มิวสิกวิดีโอกำกับโดย ซึ่งเคยกำกับวิดีโอให้กับสวิฟต์แล้วหลายเพลง วิดีโอเป็นที่มีอิทธิพลจากสมัยกลาง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และสมัยรีเจนซีของอังกฤษ (1813) เนื้อเรื่องติดตามสวิฟต์และนักแสดง จัสติน แกสตัน ขณะพบกันที่มหาวิทยาลัยและจินตการตนอยู่ในยุคเก่า "เลิฟสตอรี" ได้รับการสนับสนุนผ่านการแสดงสดหลายครั้ง เพลงนี้ถูกรวมในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 1-4 ของสวิฟต์ ได้แก่ (2009–10) (2011–12) เดอะเรดทัวร์ (2013–14) และ เดอะ 1989 เวิลด์ทัวร์ (2015) ตามลำดับ "เลิฟสตอรี" ยังถูกนำไปร้องใหม่โดยศิลปินหลายคน รวมถึงโจ แม็กเอลเดอร์รี และ

การแต่งเพลงและแรงบันดาลใจ

เพลง "เลิฟสตอรี" เกิดขึ้นช่วงท้ายการผลิตอัลบั้มเฟียร์เลส สวิฟต์แต่งเพลง "เลิฟสตอรี" เล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง เธอไม่เคยคบหาเขาจริงจัง เธอแนะนำเขาให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ รู้จัก แต่ครอบครัวและเพื่อน ๆ ต่างไม่ปลื้มชายคนนี้ "สถานการณ์กับเขานั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่ฉันไม่สนใจ" สวิฟต์กล่าว สวิฟต์ยังรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่เธอเชื่อมโยงเนื้อเพลงเข้ากับบทละครโรเมโอและจูเลียต ของวิลเลียม เชกสเปียร์ ซึ่งเป็นบทละครที่เธอโปรดปราน เธออธิบายว่า "คนที่อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกันก็คือพวกเขาเอง" เธอได้แนวคิดเกี่ยวกับเพลงนี้เมื่อเธอไตร่ตรองถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า "ฉันคิดว่า มันยาก แต่มันเป็นเรื่องจริง มันสำคัญ มันไม่ง่ายแต่มันเป็นเรื่องจริง" จากนั้นเธอแต่งเพลงให้ใจความเกี่ยวข้องกับความคิดดังกล่าว จนในที่สุดได้วางอยู่ในเนื้อเพลง "เลิฟสตอรี" ท่อนท่อนที่สอง ทุกเหตุการณ์ในเพลง ยกเว้นตอนจบ บรรยายตามเรื่องจริงของสวิฟต์ ตอนท้ายเพลงแตกต่างจากตอนจบของละครโรเมโอและจูเลียต "ฉันรู้สึกว่าพวกเขามีคำมั่นสัญญาต่อกัน และสำหรับพวกเขาแล้วมันต่างก็ดูบ้า และถ้าเนื้อเรื่องดำเนินแตกต่างออกไปบ้าง มันอาจจะเป็นเรื่องเล่าที่ดีที่สุด และเป็นเรื่องราวความรักที่ดีที่สุดเท่าที่มี แต่มันเป็นโศกนาฏกรรม" แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เธอเลือกแต่งให้ (happy ending) เนื้อเพลงทั้งเพลง ยกเว้นท่อนจบ บรรยายจากเหตุการณ์จริงของสวิฟต์ บทสรุปของเพลงแตกต่างจากละครโรเมโอและจูเลียต "ฉันรู้สึกว่าพวกเขามีคำสัญญาต่อกันและหลงใหลซึ่งกันและกันมาก และถ้าเรื่องราวแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย ก็คงจะเป็นเรื่องราวความรักที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีใครเล่าได้ และมันก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวความรักหลาย ๆ เรื่องที่ถูกเล่ามา แต่กลับเป็นโศกนาฏกรรม" แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เธอเลือกที่จะแต่งให้ เธอใช้ตัวละครที่เธอโปรดปราน และออกแบบแนวคิดในตอนจบใหม่ที่เธอเชื่อว่าเหมาะสมกับพวกเขา เธอเชื่อว่ามันจะเป็นฉากจบในอุดมคติที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนหวังให้เป็น รวมถึงเธอด้วย "คุณต้องการผู้ชายสักคนที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดอะไร ใครจะพูดอะไร" แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล่า สวิฟต์กล่าวว่ามันเป็นประสบการณ์ที่สนุกดีที่ได้แต่งเพลงออกมาเกี่ยวกับสิ่งนี้ สวิฟต์แต่งเพลงนี้บนพื้นห้องนอน ใช้เวลาประมาณ 12 นาที มีความรู้สึกได้แรงบันดาลใจจนนำมาใส่ในเพลงได้ไม่สิ้นสุด

สวิฟต์กับคนรักของเธอสานต่อความสัมพันธ์ต่อไป แต่แยกทางกันในเวลาต่อมา เนื่องจากมาพบกันได้ยาก สำหรับสวิฟต์แล้ว เพลงนี้คล้ายเป็นเกี่ยวกับความรักและประเด็นที่ว่าการพบเจอกับคนที่ใช่เป็นเรื่องที่เกินข้อสงสัย เธอมอง "เลิฟสตอรี" เป็นหนึ่งในเพลงที่โรแมนติกที่สุดของเธอ แม้ว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์จริงจังกับคนที่กล่าวถึงในเพลง สวิฟต์พูดถึงเพลงเมื่อนึกย้อนกลับไปว่า "มันเกี่ยวกับความรักที่คุณต้องซ่อนไว้เพราะมันไม่มีทางเป็นไปด้วยดี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ฉันนำเสนอในทิศทางของโรเมโอและจูเลียต พ่อแม่ของเราทะเลาะกัน ฉันเชื่อมโยงมันกับความรักที่คุณไม่สามารถประนีประนอมได้ ความรักที่บางครั้งสังคมก็ไม่ยอมรับ [หรือ] บางครั้งเพื่อน ๆ ของคุณก็ไม่ยอมรับ"

การบันทึกเสียง

image
"เลิฟสตอรี"
ตัวอย่างเพลง 24 วินาที
หากมีปัญหาในการเล่นไฟล์นี้ ดูที่วิธีใช้สื่อ

"เลิฟสตอรี" บันทึกเสียงในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ที่แบล็กเบิร์ดสตูดิโอส์ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยมี และอีกหลายคนเป็นโปรดิวเซอร์เพลง แชปแมนผลิตทุกเพลงยกเว้นหนึ่งเพลงในอัลบั้มแรก เทย์เลอร์ สวิฟต์ และร่วมผลิตทุกเพลงในอัลบั้มเฟียร์เลส สวิฟต์ร้องเพลงนี้ใส่ไมโครโฟนชนิดแท่งรุ่น เอแวนโทน ซีวี-12 ผลิตโดยเอแวนต์อิเล็กทรอนิกส์ ไมโครโฟนมีแท่งสำรองที่เรย์ เคนเนดี นักร้องคันทรี โปรดิวเซอร์เพลง และวิศวกรเสียง ออกแบบและผลิตให้แชปแมนยืม แชปแมนใช้ไมโครโฟนนี้เป็นการทดลองชั่วคราว แม้ว่าเขาเคยทดสอบไมโครโฟนหลายตัวให้สวิฟต์ เขาไม่เคยหาตัวที่เหมาะกับเสียงร้องของสวิฟต์อย่างสมบูรณ์แบบได้เลย เมื่อสวิฟต์มาที่บ้านของแชปแมนเพื่อปรับแต่งซิงเกิลจากอัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ เธอชอบไมโครโฟนตัวนี้ทันที "เมื่อเธอสวมไมโครโฟนและพูดว่า 'ทดสอบ' ทันใดนั้น แทบจะทันที เธอกล่าวว่า 'นี่คือไมค์ฉัน ฉันรักไมค์ตัวนี้ ฉันอยากจะใช้ไมค์ตัวนี้ไปตลอดเลย' เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร เธอแค่รักมัน ผมก็เลยตามเลยกับสิ่งที่เหมาะสมกับเธอ เราใช้ไมค์ตัวนี้ตั้งแต่นั้นมา และมันทำให้เสียงเธอไพเราะจริง ๆ" แชปแมนกล่าว

"เลิฟสตอรี" บันทึกเสียงด้วยโปรแกรมและใช้เสียงร้องตามร่องเสียง ซึ่งสวิฟต์ร้องสดร่วมกับวงดนตรี วงดนตรีประกอบด้วยกีตาร์โปร่ง กีตาร์เบส และกลองชุด เครื่องดนตรีชนิดอื่น แชปแมนบันทึกทับอีกที เขากล่าวว่า "ผมคิดว่ามีกีตาร์โปร่งเก้าตัวบรรเลงอยู่ในเพลง และผมบันทึกเสียงร้องเบื้องหลังทับกันหลายชั้น ซึ่งเป็นเสียงของผมเองร้องว่า 'อา'" การปรับแต่งเสียงทำโดยแชด คาร์ลสัน ที่สตูดิโอดี ในแบล็กเบิร์ดสตูดิโอส์ โดยใช้เครื่องมือชุดเอพีไอเลกาซีพลัส ได้แก่ ไมโครโฟนอะแวนโทน ซีวี-12 เนเว 1073 และทิวบ์เทค ซีแอล-1บี ผสมเสียงโดยจัสติน เนียแบงก์ ที่สตูดิโอเอฟ ด้วยอุปกรณ์ชุดโซลิดสเตตลอจิก 9080 เค และเจเนเลก 1032 ในระหว่างนั้น แชปแมนบันทึกเสียงทับที่สตูดิโออี "เลิฟสตอรี" และเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม ผ่านกระบวนการมาสเตอร์โดยแฮงก์ วิลเลียมส์ ที่มาสเตอร์มิกซ์สตูดิโอส์ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เพลงผสมเสียงด้วยแอร์เพลย์โดยแชปแมน เขาดึงสิ่งที่เนียแบงก์ทำไว้ในแล็ปท็อป และใช้สร้างเพลงเวอร์ชันป็อป แชปแมนใช้แล็ปท็อปทำเวอร์ชันรีมิกซ์และสร้างองค์ประกอบดนตรีใหม่ ๆ ด้วย เขาปิดเสียงเครื่องดนตรีคันทรีและแทนที่ด้วยองค์ประกอบดนตรีที่ทำให้เป็นดนตรีป็อป โดยแทนที่แบนโจและด้วยกีตาร์ไฟฟ้า ดนตรีท่อนเปิดเพลงเวอร์ชันป็อปเป็นวงวนลอจิกในเครื่องกำหนดจังหวะดนตรี อัลตราบีต เสียงกีตาร์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมดทำด้วยอุปกรณ์แอมพลิทิวบ์สตอมป์ไอ/โอ

การตอบรับ

"เลิฟสตอรี" เป็นที่ชื่นชมของนักวิจารณ์ เคต คีเฟอร์จากนิตยสารจัดให้เป็นเพลงที่ดีที่สุดของสวิฟต์ และเสริมว่า เมื่อรู้เนื้อเพลงเพลงนี้แล้ว ถ้าไม่ร้องตามคงเป็นไปไม่ได้ ชอน ดูลีย์ จากเว็บไซต์จัดให้เป็นเพลงที่เปลี่ยนผ่านสวิฟต์จาก "ดาราหน้าใสเป็นซูเปอร์สตาร์ข้ามแนวเพลง" ดูลีย์มองว่าเพลงประสบความสำเร็จเนื่องจากเนื้อหาในเนื้อเพลงที่แตกต่างไป ซึ่งสรุปได้ว่า "ฉันปรารถนาว่าชายหนุ่มคนนี้จะรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา" ขณะที่วิจารณ์อัลบั้มเฟียร์เลส ดูลีย์เลือกเพลง "เลิฟสตอรี" ให้เป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม โจนาธาน คีฟ จากชื่นชมสวิฟต์ในความพยายามที่จะรวมองค์ประกอบที่ซับซ้อน อย่างละครโรเมโอและจูเลียต และตราบาปสีเลือด แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากความงุ่มง่าม อธิบายไม่ได้ และจินตนาการที่ไม่มีจุดหมาย คีฟมองว่าความสำเร็จมาจากท่อนสร้อยที่โดดเด่น เจมส์ รี้ด จากหนังสือพิมพ์คิดเป็นเช่นอื่นว่า เสน่ห์ของสวิฟต์อยู่ที่ทักษะการแต่งเพลงของเธอ

เฟรเซอร์ แม็กอัลไพน์จากบีบีซีกล่าวว่า "เลิฟสตอรี" เป็นเพลงป็อปที่น่าประหลาดใจ และเนื่องจากมันเล่าเรื่องราวความรักจริง ๆ มันจึงอบอุ่นหัวใจและดึงผู้ฟังเข้าสู่โลกนิทานที่น่าตื่นเต้นและโรแมนติก อย่างไรก็ตม เธอรู้สึกว่าการร้องเพลงของสวิฟต์นั้นไม่น่าแปลกใจ แต่อดไม่ได้ที่จะชื่นชมการถ่ายทอดอารมณ์ แม็กอัลไพน์กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าจะเป็นเพลงโรแมนติกชัดเจนและมีเป้าหมายคือผู้ฟังอายุน้อย แต่ "เลิฟสตอรี" แค่เป็นเพลงที่น่ารักที่สวิฟต์พิสูจน์ตนเองว่าเป็นเจ้าหญิงเพลงป็อปที่แท้จริง คริส นีล จากนิตยสารเรียกเพลง "เลิฟสตอรี" ว่า "เพลงดังเพลงแรกที่เดือดพล่าน" เดบอราห์ อีแวนส์ ไพรซ์ จากนิตยสารบิลบอร์ดวิจารณ์เพลงไปในทางชื่นชอบและเรียกว่า "ข้อเสนอที่มีเสน่ห์" ไพรซ์กล่าวว่า "เลิฟสตอรี" แสดงให้เห็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของสวิฟต์ ซึ่งก็คือการแต่งเพลงและการร้องเพลงที่เหมาะสมกับอายุที่เกี่ยวข้องกับผู้ฟังของเธอและคนอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงคาดการณ์ว่าเพลงจะประสบความสำเร็จมากในอุตสาหกรรมดนตรีคันทรี อะเล็กซ์ แม็กเฟอร์สัน จากหนังสือพิมพ์บริติช เดอะการ์เดียน บรรยายว่าเพลงเกิดจาก "ความรู้สึกสนุกสนานแบบกะทันหัน" ซึ่งเขากล่าวว่าความรู้สึกนี้เกิดกับเพลง "ไมน์" (2010) ด้วย เทสต์ออฟคันทรีจัดเพลงให้อยู่อันดับที่ 17 ในรายชื่อเพลงคันทรีที่ดีที่สุดตลอดกาล

รางวัล

"เลิฟสตอรี" เข้าชิงรางวัลพีเพิลส์ชอยส์อะวอดส์ สาขา "คันทรียอดนิยม" ในงานประกาศรางวัล แต่พ่ายให้กับเพลง "" (2008) ของแคร์รี อันเดอร์วูด เพลงได้เข้าชิงรางวัล "เพลงยอดนิยม" ในงานประกาศรางวัล แต่พ่ายให้กับเพลง "ไอก็อตตาฟิลิง" (2009) ของเดอะแบล็กอายด์พีส์ และในงานประกาศรางวัล 2009 ก็มีผลรางวัลเหมือนกัน โดยพ่ายให้กับเพลง "" (2008) ของเดวิด อาร์ชูเลตา ซึ่งเข้าชิงรางวัล "ชอยส์มิวสิก: เลิฟซอง" ในปี ค.ศ. 2009 "เลิฟสตอรี" ได้เป็น "เพลงคันทรีแห่งปี" ประกาศโดยองค์กรเผยแพร่ดนตรี

พฤติการณ์เชิงพาณิชย์

อเมริกาเหนือ

ในชาร์ตประจำวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2008 "เลิฟสตอรี" เปิดตัวที่อันดับ 16 ในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ขายได้มากกว่า 97,000 ดิจิทัลดาวน์โหลด ในสัปดาห์ต่อมา "เลิฟสตอรี" ขึ้นไปถึงอันดับที่ 5 ขายได้ 159,000 ดาวน์โหลด หลังจากอยู่ในสิบอันดับแรกได้สองสัปดาห์ ในชาร์ตประจำวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2008 เพลงตกลงมาอันดับที่ 13 และอยู่ในยี่สิบอันดับแรกนาน 11 สัปดาห์ติดต่อกัน และกลับไปที่สิบอันดับแรก ในอันดับที่ 7 ในชาร์ตประจำวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2009 ในชาร์ตประจำวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2009 เพลงขึ้นอันดับที่ 4 กลายเป็นซิงเกิลที่ขึ้นชาร์ตสูงที่สุดของสวิฟต์ในขณะนั้น หลายสัปดาห์ต่อมา "เลิฟสตอรี" ยังคงทำยอดขายได้ดีตลอด ใช้เวลาในสิบอันดับแรกนาน 14 สัปดาห์ และอยู่ในชาร์ตทั้งหมด 49 สัปดาห์ ซิงเกิลนี้เป็นหนึ่งในเพลงจากอัลบั้มเฟียร์เลส 13 เพลงที่ติดสี่สิบอันดับแรกในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ทำลายสถิติเพลงจากอัลบั้มเดียวเข้าชาร์ตที่สี่สิบอันดับแรกได้มากที่สุด อัลบั้มได้รับจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา และขายได้มากกว่า 5 ล้าน จนถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 กลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของสวิฟต์ และเคยเป็นซิงเกิลคันทรีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล (ถูกแทนที่ด้วยเพลง "" ของ) และเป็นซิงเกิลดิจิทัลที่ขายดีที่สุดอันดับที่ 9 นับถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 "เลิฟสตอรี" ขายได้ 5,872,000 หน่วยในสหรัฐ

"เลิฟสตอรี" ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตโดยมีจำนวนการฟังในทุกช่องทางการรับฟังทั้งหมด 106 ล้านครั้ง และถูกโค่นอันดับโดยเพลง "" ของคานเย เวสต์ ในชาร์ต "เลิฟสตอรี" เปิดตัวที่อันดับ 25 ในชาร์ตประจำวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2008 เพลงขึ้นถึงสิบอันดับแรกในสัปดาห์ที่สี่ที่อันดับเก้า และในสัปดาห์ที่เก้า เพลงขึ้นอันดับหนึ่งกลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งเพลงที่สามของสวิฟต์ และเป็นเพลงที่ขึ้นอันดับหนึ่งได้เร็วที่สุด เพลงอยู่ในอันดับที่หนึ่งได้นานสองสัปดาห์และอยู่ในชาร์ตบิลบอร์ดฮอตเพลงคันทรีได้รวม 13 สัปดาห์ ในชาร์ตบิลบอร์ดป็อปซองส์ เพลงเปิดตัวที่อันดับ 34 ในชาร์ตประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 เพลงขึ้นอันดับหนึ่งในสัปดาห์ที่ 15 ในชาร์ตประจำวีนที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 กลายเป็นเพลงคันทรีที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนชาร์ตนี้ได้นับตั้งแต่เพลง "" ของชะไนยา ทเวน ที่เคยขึ้นสูงสุดที่อันดับสามในปี ค.ศ. 1998 "เลิฟสตอรี" ยังขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต และอันดับสามบนชาร์ต และปรากฏในชาร์ตที่อันดับ 35 ด้วย

ใน "เลิฟสตอรี" เข้าชาร์ตที่อันดับ 88 ในชาร์ตประจำวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2008 เพลงขึ้นสูงสุดที่อันดับที่สี่ในชาร์ตประจำวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2008 กลายเป็นเพลงของสวิฟต์เพลงแรกที่ขึ้นสิบอันดับแรกได้ในประเทศ ซิงเกิลอยู่ในสิบอันดับแรกได้นาน 10 สัปดาห์ และอยู่ในชาร์ตนาน 52 สัปดาห์ เพลงอยู่อันดับที่แปดในชาร์ตสิ้นปีของแคนาดา และได้รับการรับรองระดับแพลตินัมสองครั้งโดยองค์กร จากยอดขายดิจิทัลดาวน์โหลด 160,000 ครั้ง

ยุโรปและโอเชียเนีย

"เลิฟสตอรี" เปิดตัวที่อันดับที่ 22 ในสหราชอาณาจักร ในชาร์ตประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ในสัปดาห์ถัดมา เพลงขึ้นถึงอันดับสอง กลายเป็นซิงเกิลของสวิฟต์ที่ขึ้นชาร์ตสูงที่สุด ร่วมกับเพลง "ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล" และ "เชกอิตออฟ" และเป็นเพลงที่ติดสิบอันดับเพลงแรกในสหราชอาณาจักร เพลงอยู่ในสิบอันดับแรกนาน 7 สัปดาห์ และอยู่ในชาร์ตรวม 32 สัปดาห์ ซิงเกิลได้รับการรับรองระดับแพลตินัมโดยองค์กรตัวแทนอุตสาหกรรมสิ่งบันทึกเสียงบริติช (BPI) หลังจากขายได้เกิน 600,000 หน่วย ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2012 "เลิฟสตอรี" เข้าชาร์ตในสหราชอาณาจักรอีกครั้งที่อันดับ 55 ในประเทศไอร์แลนด์ "เลิฟสตอรี" ขึ้นถึงอันดับที่สาม ในแผ่นดินใหญ่ เพลงขึ้นอันดับสิบในชาร์ต อันดับที่หกในประเทศฮังการี อันดับที่เจ็ดในประเทศนอร์เวย์ และอันดับที่สิบในประเทศสวีเดน เพลงติดชาร์ตได้ดีในประเทศอื่น ๆ เช่น เดนมาร์ก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส โดยขึ้นถึงยี่สิบอันดับแรก

ใน "เลิฟสตอรี" เปิดตัวที่อันดับ 38 บนชาร์ตประจำวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2009 หลังจากขึ้นชาร์ตได้สองสัปดาห์ "เลิฟสตอรี" ขึ้นอันดับสอง และค้างอยู่นานหกสัปดาห์ก่อนขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตประจำวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2009 กลายเป็นเพลงแรกและเพลงเดียวของสวิฟต์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในประเทศ จนถึงเพลง "เชกอิตออฟ" ในปี ค.ศ. 2014 ในสัปดาห์ถัดมา เพลงตกลงมาอันดับสองและขึ้นอันดับหนึ่งอีกสัปดาห์ และอยู่ในห้าสิบอันดับแรกสัปดาห์สุดท้ายในชาร์ตประจำวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 2009 ซิงเกิลได้รับการรับรองระดับแพลตินัมสามครั้งจากหลังขายได้มากกว่า 210,000 หน่วย "เลิฟสตอรี" ติดอันดับสิบในชาร์ตสิ้นปีของชาร์ตซิงเกิลออสเตรเลีย ในชาร์ตประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 "เลิฟสตอรี" เข้าชาร์ตในประเทศนิวซีแลนด์ที่อันดับ 33 หลังอยู่ในชาร์ตได้เก้าสัปดาห์ เพลงขึ้นถึงอันดับสามในชาร์ตประจำวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2009 เพลงได้รับการรับรองระดับแพลตินัมโดยหลังขายได้มากกว่า 15,000 หน่วย โดยรวมแล้ว "เลิฟสตอรี" ขายได้มากกว่า 7.9 ล้านหน่วยทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

มิวสิกวิดีโอ

มิวสิกวิดีโอของเพลง "เลิฟสตอรี" กำกับโดย ซึ่งเคยกำกับวิดีโอให้สวิฟต์หลายซิงเกิลจากอัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ สวิฟต์ตัดสินใจร่วมงานกับแฟนจอยอีกครั้งเพราะเธอสามารถหาจุดสมดุลเกี่ยวกับแนวคิดของมิวสิกวิดีโอระหว่างเขาและเธอได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอชื่นชมอยู่ลึก ๆ วิดีโอมีท้องเรื่องย้อนยุคที่มีอิทธิพลจากสมัยกลาง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และสมัยรีเจนซี สวิฟต์เคยต้องการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอย้อนยุคมานานแล้วเพราะมันแตกต่างจากมิวสิกวิดีโอสมัยใหม่ที่เธอเคยถ่ายทำ ขณะที่เธอแต่งเพลงนี้ เธอจินตนาการถึงยุคเก่า และแฝงกลิ่นอายยุคเก่าไว้ในเนื้อเพลง เธอเชื่อว่าโครงเรื่องของเพลง "เลิฟสตอรี" เป็นบทที่ไม่กำหนดเวลาตายตัว "ฉันคิดว่ามันอาจเกิดขึ้นในยุค 1700 1800 หรือ 2008 ก็ได้" ดังนั้น เธอจึงมองหาคุณสมบัติที่ตรงกับพฤติกรรมของคนรักของเธอ สวิฟต์มองหาคุณสมบัติดังกล่าวโดยชมภาพยนตร์ล่วงหน้าหกเดือนเพื่อมองหานักแสดงชายเพื่อตีความบทบาท คนรู้จักคนหนึ่งของสวิฟต์ที่เคยติดตามรายการ ซีซันหก แนะนำผู้เข้าแข่งขันชื่อ จัสติน แกสตัน จากนั้นสวิฟต์มองดูรูปเขา และสรุปว่าเขาเหมาะสมกับมิวสิกวิดีโอของเธอ แกสตันตรงกับความต้องการของสวิฟต์ ซึ่งสวิฟต์ให้เขาเป็น "ที่มีชีวิตในยุค 1800" อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแกสตันเข้าแข่งขันรายการแนชวิลล์สตาร์อยู่ เขาจึงมาแสดงในมิวสิกวิดีโอไม่ได้ สุดท้ายแล้วแกสตันถูกคัดออกและสวิฟต์ติดต่อเขาทันทีเพื่อให้มาแสดงในมิวสิกวิดีโอ สวิฟต์ประทับใจการแสดงของแกสตันมาก "ฉันประทับใจการแสดง [อารมณ์] ของเขาในวิดีโอมาก เขาไม่ต้องพูดอะไร เขาแค่ต้องจ้องตานิ่ง ๆ และมันออกมาดูดีมาก"

วิดีโอถ่ายทำที่ปราสาทแห่งหนึ่ง ฝ่ายบุคลากรศึกษาปราสาทหลายแห่งในสหรัฐและไม่สามารถเลือกหลังที่มีสภาพเหมาะสมต่อการถ่ายทำได้ พวกเขาพิจารณาเดินทางไปยุโรปเพื่อหาปราสาท แต่ได้รับแจ้งว่าพบปราสาทแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ชื่อว่า ปราสาทกวินน์ สร้างในปี ค.ศ. 1973 และได้รับเลือกให้เป็นฉากของมิวสิกวิดีโอ เสื้อผ้าของนักแสดงจัดหาโดยแจ็กการ์ดแฟบริกส์ ยกเว้นชุดเดรสของสวิฟต์ในฉากระเบียง ชุดของสวิฟต์ออกแบบโดยแซนดี สปิกา ออกแบบตามแรงบันดาลใจและคำแนะนำของสวิฟต์ "เธอชอบที่จะใส่ตัวเธอเป็นอินพุตลงในชุดเดรสของเธอ" สปิกากล่าว สองคนคุยกันเกี่ยวกับชุดเดรสสองเดือนก่อนถ่ายทำ มีการเตรียมฉากให้สมจริง วิดีโอใช้เวลาถ่ายทำสองวันในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 ในเทนเนสซี ในวันแรก ถ่ายทำฉากที่ระเบียงและสนามหญ้า ในฉาก มีคนวางแผ่นซีดีเพลย์แบ็กฉบับดัดแปลงที่มีเสียงแหลมสูง ด้วยเหตุนี้ สวิฟต์ให้กองถ่ายคนหนึ่งยืมไอพอดเพื่อเล่นเพลงฉบับดั้งเดิม ขณะถ่ายทำอีกฉากหนึ่ง ดวงอาทิตย์กำลังจะตก และการถ่ายทำค่อนข้างจะเป็นไปอย่างเร็ว ในฉากนั้น แฟนจอยแนะนำให้สวิฟต์จูบกับแกสตัน แต่สวิฟต์ปฏิเสธเพราะเธอเชื่อว่ามันเหมาะกับฉากที่หวานกว่า ในวันที่สอง ถ่ายทำที่ ใน โดยถ่ายทำที่ห้องเต้นรำ สวิฟต์เรียนท่าเต้นในห้องเต้นรำก่อนถ่ายทำสิบห้านาที มีนักเต้นรำประมาณ 20 คนเต้นอยู่ในฉาก

วิดีโอเริ่มด้วยสวิฟต์ สวมเสื้อกันหนาวสีดำและกางเกงยีนส์ เดินอยู่ในมหาวิทยาลัยและสังเกตเห็นแกสตันนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ ขณะที่พวกเขาสบตากัน วิดีโอเปลี่ยนยุคเป็นยุคเก่าที่ดูเหมือนศตวรรษที่ 18 (แต่ปราสาทสร้างในปี ค.ศ. 1973) โดยสวิฟต์ยืน สวมชุดรัดรูปและเสื้อคลุม ร้องเพลงอยู่ที่ระเบียง หลังจากนั้น แกสตันร่วมงานสังสรรค์และเห็นสวิฟต์ใส่ชุดคลุมที่ดูประณีต กำลังคุยกับผู้หญิงคนอื่น ๆ อยู่ สวิฟต์และแกสตันและคนอื่น ๆ ร่วมเต้นรำในห้องเต้นรำ หลังเต้นรำ แกสตันกระซิบที่หูสวิฟต์ จากนั้นฉากแสดงสวิฟต์กำลังถือโคมไฟมองหาบางอย่างตอนกลางคืน เธอพบกับแกสตันและทั้งสองคนเดินด้วยกัน จับมือกัน และให้อาหารม้าที่บ่อน้ำ จากนั้นทั้งสองคนเดินแยกทางกัน หลังจากนั้น สวิฟต์ยืนบนระเบียงมองออกไปที่หน้าต่าง เธอพบแกสตันวิ่งมาหาเธอ และเธอรีบวิ่งลงบันไดทันที สวิฟต์และแกสตันพบกันและจับมือกัน จากนั้นวิดีโอกลับมาที่ยุคปัจจุบัน แสดงแกสตันเดินมาหาสวิฟต์และจ้องตากัน และวิดีโอจบลง ฉากคัตซีนแสดงการเต้นรำในห้องเต้นรำและสวิฟต์ร้องเพลงที่ฉากระเบียง ในยูทูบ วิดีโอนี้มีผู้ชมมากกว่า 340 ล้านครั้ง

การตอบรับของวิดีโอ

วิดีโอฉายครั้งแรกในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2008 ทางช่อง แมนดี เบียร์ลีจากเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลีมีประเด็นว่าวิดีโอแสดงวิวัฒนาการความเป็นศิลปินในตัวสวิฟต์เพราะมันดูแพงและทำให้เธอสงสัยว่ามีอะไรเกี่ยวกับสวิฟต์ที่จะเปลี่ยนไปบ้าง อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า "กังวลแต่ฉันไม่อาจต้านทานวิวัฒนาการของเทย์เลอร์ สวิฟต์ จากเพลง 'ทิม แม็กกรอว์' จนถึงเพลงล่าสุด 'เลิฟสตอรี'" เบียร์ลียังเปรียบเทียบการแสดงของสวิฟต์กับการแสดงของเคียรา ไนต์ลีย์ด้วย เฟรเซอร์ แม็กอัลไพน์จากบีบีซีเชื่อว่าสวิฟต์เล่นเป็นเจ้าหญิง ดังนั้นมันจะทำให้ผู้หญิงหลายคนอิจฉา วิดีโอได้เข้าชิงรางวัล "วิดีโอแห่งปี" ในงานประกาศรางวัลอะคาเดมีออฟคันทรีมิวสิกอะวอดส์ ครั้งที่ 45 แต่พ่ายให้กับเพลง "" ของ ในงานซีเอ็มทีมิวสิกอะวอดส์ 2009 วิดีโอได้รับรางวัล "วิดีโอแห่งปี" และ "วิดีโอนักร้องหญิงแห่งปี" เพลงยังได้รับรางวัลคันทรีมิวสิกแอสโซซิเอชันอะวอร์ด สาขา "มิวสิกวิดีโอแห่งปี" ในงานมิวสิกแอสโซซิเอชันอะวอดส์ ครั้งที่ 43 วิดีโอได้รับรางวัล "วิดีโอเพลงสากลที่ชื่นชอบ" ในงานมิกซ์มิวสิกอะวอดส์ 2010 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ด้วย

เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)

"เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
image
ซิงเกิลโดยเทย์เลอร์ สวิฟต์
จากอัลบั้มเฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)
วางจำหน่าย12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 (2021-02-12)
แบล็กเบิร์ด (แนชวิลล์)
แนวเพลงคันทรีป็อป
ความยาว3:56
ค่ายเพลงรีพับลิก
ผู้ประพันธ์เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์
โปรดิวเซอร์
  • เทย์เลอร์ สวิฟต์
  • คริสโตเฟอร์ โรว์
ลำดับซิงเกิลของเทย์เลอร์ สวิฟต์
"คอนีย์ไอแลนด์"
(2021) 		"เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
(2021) 		""
(2021)
Lyric video
"เลิฟสตอรี" (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ที่ยูทูบ

หลังจากเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับรีพับลิกเรเคิดส์ สวิฟต์เริ่มบันทึกสตูดิโออัลบั้มแรกของเธอจากหกอัลบั้มแรกใหม่ รวมถึงเฟียร์เลสในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 การตัดสินใจเกิดขึ้นหลังจากข้อพิพาทสิทธิ์ในการถือครองเพลง ค.ศ. 2019 ระหว่างสวิฟต์กับผู้จัดการ สกูตเตอร์ เบราน์ ซึ่งซื้อกิจการบิกมะชีนเร็กเคิดส์ รวมถึงมาสเตอร์ในอัลบั้มของสวิฟต์ที่ค่ายเพลงได้ออกจำหน่าย การบันทึกแคตตาล็อกของเธอใหม่ทำให้สวิฟต์เป็นเจ้าของต้นฉบับเพลงมาสเตอร์ใหม่โดยสมบูรณ์ รวมถึงการอนุญาตลิขสิทธิ์เพลงของเธอ ซึ่งจะลดคุณค่าของเพลงมาสเตอร์ที่มีเจ้าของโดยบิกมะชีน

สวิฟต์บันทึกเพลง "เลิฟสตอรี" อีกครั้งและตั้งชื่อว่า "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)" ข้อความที่ตัดตอนมาจากการบันทึกซ้ำถูกนำมาใช้ในโฆษณาของ แมตช์.คอม ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)" เป็นเพลงที่บันทึกซ้ำเพลงแรกที่เธอปล่อยออกมา พร้อมให้ดาวน์โหลดและสตรีมในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 ก่อนการเปิดตัวอัลบั้มที่บันทึกซ้ำในชื่อ เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ในเดือนเมษายน "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)" เวอร์ชันอีดีเอ็ม รีมิกซ์โดยโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดน เอลวิรา วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2021 และรวมอยู่ใน เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) เวอร์ชันดีลักซ์

ชาร์ต

ชาร์ตประจำสัปดาห์

ตารางการแสดงชาร์ตประจำสัปดาห์ของ "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
ชาร์ต (2021–2022) ตำแหน่ง
สูงสุด
ออสเตรเลีย () 21
Belgium ( แฟลนเดอส์) 24
Canada () 7
(Billboard) 23
(Billboard) 10
(Billboard) 7
Ireland () 7
Latvia () 2
Malaysia () 1
Netherlands () 6
New Zealand () 18
Portugal () 68
Singapore () 3
Sweden () 62
UK Singles () 12
US Billboard Hot 100 11
US (Billboard) 25
US (Billboard) 39
US (Billboard) 57
US (Billboard) 1
US 4

ชาร์ตสิ้นปี

ตารางการแสดงชาร์ตสิ้นปีของ "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
ชาร์ต (2021) ตำแหน่ง
US Hot Country Songs (Billboard) 80

การรับรอง

การรับรองยอดการจำหน่ายของ "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
ประเทศ การรับรอง /ยอดขาย
United Kingdom (BPI) Silver 200,000image

imageตัวเลขสตรีมมิงและยอดขายขึ้นอยู่กับการรับรองเพียงอย่างเดียว

ประวัติการจำหน่าย

รายการวันที่วางจำหน่ายและรูปแบบของ "เลิฟสตอรี (เทย์เลอร์เวอร์ชัน)"
ภูมิภาค วันที่ รูปแบบ เวอร์ชัน ค่าย อ้างอิง
หลากหลาย 12 กุมภาพันธ์ 2021
  • ดิจิทัลดาวน์โหลด
  • การสตรีม
 ต้นฉบับ รีพับลิก
26 มีนาคม 2021 เอลวิรารีมิกซ์

อ้างอิง

  1. Scaggs, Austin (January 25, 2010). "Taylor's Time: Catching Up With Taylor Swift". Rolling Stone. Jann Wenner. สืบค้นเมื่อ February 1, 2010.
  2. . Time. Time Warner. April 23, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-31. สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  3. Swift, Taylor. "Cut By But". Bigmachinerecords.com. Big Machine Records. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-27. สืบค้นเมื่อ March 12, 2010.
  4. Bells, Leigh (November 28, 2008). . . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-02-25. สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  5. Lewis, Randy (October 26, 2008). "She's writing her future". Los Angeles Times. . สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  6. Roznovsky, Lindsey (November 10, 2008). "Taylor Swift's fascination with Fairy Tales comes through on new album". . Viacom. สืบค้นเมื่อ February 13, 2011.
  7. . . . September 15, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-11. สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  8. Walsh, Christopher (March 17, 2009). "Taylor Swift — Love Story". ProAudio Review. The Wicks Group. สืบค้นเมื่อ February 14, 2011.
  9. Morris, Edward (December 1, 2006). "When She Thinks "Tim McGraw," Taylor Swift Savors Payoff: Hardworking Teen to Open for George Strait Next Year". CMT News. Viacom. สืบค้นเมื่อ March 11, 2010.
  10. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ liner
  11. Kiefer, Kate (June 4, 2009). "Six Great Taylor Swift Songs". . Paste Media Group LLC. สืบค้นเมื่อ April 17, 2010.
  12. Dooley, Sean. "Top 10 Taylor Swift Songs". About.com. The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ March 15, 2010.
  13. Dooley, Sean. "The Blossoming of Taylor Swift – The Artist". About.com. The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  14. Keefe, Jonathan (November 16, 2008). "Taylor Swift: Fearless". . สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  15. Reed, James (November 10, 2008). "Young country star's 'Fearless' proves she's just that, and more". . The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  16. McAlpine, Fraser (February 28, 2009). "Taylor Swift – 'Love Story'". . BBC. สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  17. Neal, Chris (December 29, 2008). "Fearless: Taylor Swift". . . สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  18. Caulfield, Keith (October 11, 2008). "Singles: Love Story". Billboard. New York: Nielsen Business Media, Inc. 120 (41): 68. ISSN 0006-2510. สืบค้นเมื่อ March 8, 2011.
  19. Macpherson, Alex (December 9, 2010). "Taylor Swift: Speak Now: The albums we missed". The Guardian. . สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  20. Pacella, Megan (June 24, 2012). "No. 17: Taylor Swift, 'Love Story' – Top 100 Country Songs". . . สืบค้นเมื่อ May 29, 2014.
  21. "People's Choice Awards 2009 Nominees". Pleopleschoice.com. . สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  22. Knox, David (September 20, 2009). "2009 Kid's Choice Awards: Nominees". . สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  23. "Teen Choice Awards 2009 nominees". . . June 15, 2009. สืบค้นเมื่อ March 12, 2011.
  24. "Teen Choice Awards 2009 Music". . . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-19. สืบค้นเมื่อ October 19, 2009.
  25. "BMI Country Awards 2009 Big Winners". BMI.com. Broadcast Music Incorporated. สืบค้นเมื่อ March 12, 2011.
  26. Cohen, Jonathan (September 18, 2008). "Pink Notches First Solo Hot 100 No. 1". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  27. Cohen, Jonathan (September 25, 2008). "T.I. Back Atop Hot 100, Kanye Debuts High". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  28. "Hot 100 – Week of October 18, 2008". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  29. Cohen, Jonathan (December 24, 2008). "Beyonce Celebrates Xmas Atop Hot 100". Billboard. Nielsen Business Media. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  30. "Love Story – Taylor Swift". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  31. "Taylor Swift – Love Story – Music Charts". aCharts.us. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  32. Pietroluongo, Silvio (November 12, 2009). "Rihanna's 'Roulette' Lands In Hot 100's Top 10". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ January 3, 2010.
  33. "American single certifications – Taylor Swift – Love Story". Recording Industry Association of America. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  34. Grein, Paul (May 25, 2011). . . Yahoo!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-30. สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  35. Grein, Paul (April 7, 2011). . Yahoo! Music. Yahoo!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-25. สืบค้นเมื่อ April 9, 2011.
  36. Grein, Paul (August 6, 2010). . Yahoo! Music. Yahoo!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-15. สืบค้นเมื่อ October 2, 2010.
  37. Matt Bjorke (July 22, 2015). "The Top 30 Digital Country Singles: July 22, 2015". Roughstock.
  38. "Radio Songs: week-ending March 7, 2009". Billboard.com. Billboard.com. March 7, 2009. สืบค้นเมื่อ March 7, 2009.
  39. "Hot Country Songs: week-ending October 18, 2008". Billboard.com. Billboard.com. October 18, 2008. สืบค้นเมื่อ October 18, 2008.
  40. "Hot Country Songs: week-ending November 22, 2008". Billboard.com. Billboard.com. November 22, 2008. สืบค้นเมื่อ November 22, 2008.
  41. "Hot Country Songs: week-ending November 22, 2008". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. November 22, 2008. สืบค้นเมื่อ November 22, 2008.
  42. "Pop Songs: week-ending November 29, 2008". Billboard.com. Billboard.com. November 29, 2008. สืบค้นเมื่อ November 29, 2008.
  43. Trust, Gary (December 15, 2009). "Best of 2009: Part 1". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  44. "Love Story [Music Video] – Taylor Swift". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  45. "Canadian Hot 100 – Week of October 18, 2008". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  46. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ canada
  47. "Best of 2009 – Canadian Hot 100 Songs". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  48. "Canadian certifications – Taylor Swift – Love Story". . สืบค้นเมื่อ July 11, 2011.
  49. "Chart Stats – Taylor Swift – Love Story". Chartstats.com. . สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  50. "Chart Stats – Taylor Swift". Chartstats.com. The Official Charts Company. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-30. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  51. "British single certifications – Taylor Swift – Love Story". British Phonographic Industry. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011. Select singles in the Format field. Type Love Story in the "Search BPI Awards" field and then press Enter.
  52. "Discography Taylor Swift". Irish-charts.com. . สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  53. "Top 40 album- és válogatáslemez- lista – 200952". (ภาษาฮังการี). Magyar Hanglemezkiadók Szövetsége. สืบค้นเมื่อ June 18, 2010.
  54. "Taylor Swift – Love Story (Song)". Norwegieancharts.com. . สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  55. "Taylor Swift – Love Story (Song)". Swedishcharts.com. . สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  56. "Taylor Swift – Love Story (Song)". Australian-charts.com. . สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  57. "ARIA Charts – Accreditations – 2009 Singles" (PDF). . สืบค้นเมื่อ January 2, 2010.
  58. . Charts.org.nz. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-14. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  59. . RadioScope. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 2, 2010. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  60. "Digital Music Sales Around the World" (PDF). IFPI.org. International Federation of the Phonographic Industry. January 21, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-03-26. สืบค้นเมื่อ March 6, 2011.
  61. http://www.billboard.com/articles/chartbeat/480278/ask-billboard-taylor-swifts-career-sales
  62. http://www.mtv.com/news/articles/1627833/eminem-best-selling-artist-decade.jhtml
  63. "On the Set Behind the Scenes at 'Love Story'". Taylor Swift: On the Set. 22:00 นาที. Great American Country. {{}}: |access-date= ต้องการ |url= ((help))
  64. "Video Replay: Taylor Swift – Love Story". . Viacom. สืบค้นเมื่อ February 16, 2011.
  65. "On the Set Behind the Scenes 'White Horse'". Taylor Swift: On the Set. 22:00 นาที. Great American Country. {{}}: |access-date= ต้องการ |url= ((help))
  66. Lewis, Randy (October 16, 2008). "Who's that Romeo in Taylor Swift's "Love Story" video?". Los Angeles Times. Tribune Company. สืบค้นเมื่อ February 17, 2011.
  67. . Great American Country. Scripps Network Interactive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-11. สืบค้นเมื่อ February 16, 2011.
  68. "Taylor Swift Premiering New Video on CMT". CMT News. Viacom. September 12, 2008. สืบค้นเมื่อ February 16, 2011.
  69. Bierly, Mandi (September 17, 2008). "How much do you love Taylor Swift's 'Love Story' video?". Entertainment Weekly. Time Warner. สืบค้นเมื่อ February 17, 2011.
  70. (Press release). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-11. สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  71. (Press release). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-07. สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  72. "2009 CMT Music Awards: Winners". CMT. Viacom. สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  73. "2009 CMA Awards: Winners". CMT. Viacom. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-22. สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  74. "The MYX Music Awards 2010 Winners". MYXph.com. . สืบค้นเมื่อ March 11, 2011.
  75. Melas, Chloe (November 16, 2020). "Taylor Swift Speaks Out about Sale of Her Masters". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 18, 2020. สืบค้นเมื่อ November 19, 2020.
  76. "Taylor Swift Wants to Re-record Her Old Hits". BBC News. August 22, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 22, 2019. สืบค้นเมื่อ August 22, 2019.
  77. Finnis, Alex (November 17, 2020). "Taylor Swift Masters: The Controversy around Scooter Braun Selling the Rights to Her Old Music Explained". . จากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2021. สืบค้นเมื่อ February 13, 2021.
  78. Shah, Neil (2021-04-09). "Taylor Swift Releases New Fearless Album, Reclaiming Her Back Catalog". The Wall Street Journal. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2021. สืบค้นเมื่อ 2022-09-25.
  79. Shaffer, Claire (2020-12-02). "Taylor Swift Drops Her First Re-Recorded Song – in an Ad for Match". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-02-12.
  80. Lipshutz, Jason (February 11, 2021). "Taylor Swift Announces Re-Recorded Fearless Album: Updated 'Love Story' Out Tonight". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2021. สืบค้นเมื่อ February 11, 2021.
  81. Willman, Chris (February 11, 2021). "Taylor Swift Sets Fearless: Taylor's Version as First in Her Series of Full-Album Do-Overs". . จากแหล่งเดิมเมื่อ February 11, 2021. สืบค้นเมื่อ February 11, 2021.
  82. Legaspi, Claire Shaffer (February 12, 2021). "Taylor Swift Releases Lyric Video for Re-Recorded 'Love Story'". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2021. สืบค้นเมื่อ February 12, 2021.
  83. Kaufman, Gil (March 26, 2021). "Taylor Swift Surprise Releases Dancefloor 'Elvira Remix' of 'Love Story'". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2021. สืบค้นเมื่อ April 13, 2021.
  84. "Taylor Swift – Love Story (Taylor's Version)". . สืบค้นเมื่อ February 20, 2021.
  85. "Taylor Swift – Love Story (Taylor's Version)" (in Dutch). . สืบค้นเมื่อ March 5, 2021.
  86. "Taylor Swift Chart History (Euro Digital Song Sales)". Billboard. สืบค้นเมื่อ November 18, 2021.
  87. "Taylor Swift Chart History (Global 200)". Billboard. สืบค้นเมื่อ February 23, 2020.
  88. "Official Irish Singles Chart Top 50". . สืบค้นเมื่อ February 19, 2021.
  89. "EHR Top 40 – 2021.03.05". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2021. สืบค้นเมื่อ 30 August 2021.
  90. "Top 20 Most Streamed International & Domestic Singles in Malaysia". จากแหล่งเดิมเมื่อ July 18, 2021. สืบค้นเมื่อ March 6, 2021 – โดยทาง Facebook.
  91. "Netherlands Single Tip Chart". . February 20, 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2021. สืบค้นเมื่อ February 20, 2021.
  92. "Taylor Swift – Love Story (Taylor's Version)". . สืบค้นเมื่อ February 20, 2021.
  93. "Taylor Swift – Love Story". . สืบค้นเมื่อ March 3, 2021.
  94. "RIAS Top Charts". . February 23, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2021. สืบค้นเมื่อ March 2, 2021.
  95. "Veckolista Singlar, vecka 7" (ภาษาสวีเดน). . จากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2021. สืบค้นเมื่อ February 19, 2021.
  96. "Official Singles Chart Top 100". . สืบค้นเมื่อ February 20, 2021.
  97. Cohen, Jonathan (September 25, 2008). . Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 2, 2013. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
  98. "Taylor Swift Chart History (Country Airplay)". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 13, 2021.
  99. . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2021. สืบค้นเมื่อ February 25, 2021.
  100. "Hot Country Songs – Year-End 2021". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ December 3, 2021. สืบค้นเมื่อ December 2, 2021.
  101. "British single certifications – Taylor Swift – Love Story (Taylor's Version)". British Phonographic Industry. สืบค้นเมื่อ August 19, 2022.
  102. "Love Story (Taylor's Version) – Single by Taylor Swift". Spotify. February 12, 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2021. สืบค้นเมื่อ February 17, 2021.
  103. "Love Story (Taylor's Version) [Elvira Remix] – Single by Taylor Swift". Spotify. March 23, 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ March 26, 2021. สืบค้นเมื่อ March 26, 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น

  • "เลิฟสตอรี" มิวสิกวิดีโอบนวีโว
  • เนื้อเพลงที่เว็บไซต์ทางการของเทย์เลอร์ สวิฟต์ 2012-12-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน

wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์

elifstxri xngkvs Love Story epnephlngkhxngnkrxngnkaetngephlngchawxemrikn ethyelxr swift ephlngekhiynodyswift aelaphlitody rwmkbswift ephlngxxkcahnayinwnthi 12 knyayn kh s 2008 phansngkdbikaemchinerekhids epnsingekilnakhxngstudioxxlbmthisxngkhxngswift efiyrels 2008 enuxephlngelaeruxngekiywkbkhnrkkhxngswiftthiimepnthiniyminkhrxbkhrwaelaephuxn khxngethx cakehtukarncalxngdngklaw swiftnabthkwi oremoxaelacueliyt 1597 khxngwileliym echksepiyr maichepnaerngbndalicaetngephlngni xyangirktam aethnthicacbdwyenuxha ethxaethnthidwy happy ending ephlngmicnghwapanklang esiyngrxngaebbospraonehmuxnfn khnathiesiyngdntriephlngkhxy dngkhuntxenuxng enuxephlngbxkelacakmummxngkhxng elifstxri singekilodyethyelxr swiftcakxlbmefiyrelswangcahnay15 knyayn kh s 2008 2008 09 15 bnthukesiyngminakhm 2008aeblkebird aenchwill aenwephlngkhnthripxpkhwamyaw3 57khayephlngbikmachinphupraphnthephlngethyelxr swiftoprdiwesxrethyelxr swiftladbsingekilkhxngethyelxr swift chudfesdon 2008 elifstxri 2008 iwthxrs 2008 miwsikwidiox elifstxri thiyuthub ephlngprasbkhwamsaercxyangmak odynkwicarnchunchmrupaebbkarekhiynephlngkhxngswift aelaenuxeruxnginephlng ephlngyngprasbkhwamsaercinechingphanichy khayidmakkwa 8 lansingekilthwolk klayepnhnunginsingekilthikhaydithisudtlxdkal inshrth ephlngkhunxndbthisibnchartbilbxrdhxt 100 aelakhayid 5 8 lansingekilphandicithldawnohld klayepnsingekilthikhaydithisudkhxngswiftnbthungpccubn aelaepnsingekildawnohldkhxngnkrxngkhnthrihyingediywthikhaydithisuddwy ephlngyngepnhnunginsingekilthikhaydithisudinshrth aelaekhyepnsingekilkhnthridicithlthikhaydithisudtlxdkaldwy singekilidrbkarrbrxngradbaephltinm 8 khrngcaksmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrika RIAA intangpraeths elifstxri epnsingekilxndbhnungephlngaerkinpraethsxxsetreliy tamdwy echkxitxxf in kh s 2014 ephlngidrbkarrbrxngradbaephltinm 3 khrngcak ARIA ephlngepnhnunginsingekilthikhaydithisudthwolk yxdkhaymakkwa 8 lansingekil cakkhxmulkhxngsmaphnthphuphlitsingbnthukesiyngrahwangpraeths hrux IFPI miwsikwidioxkakbody sungekhykakbwidioxihkbswiftaelwhlayephlng widioxepnthimixiththiphlcaksmyklang smyfunfusilpwithya aelasmyriecnsikhxngxngkvs 1813 enuxeruxngtidtamswiftaelankaesdng cstin aekstn khnaphbknthimhawithyalyaelacintkartnxyuinyukheka elifstxri idrbkarsnbsnunphankaraesdngsdhlaykhrng ephlngnithukrwminthwrkhxnesirtkhrngthi 1 4 khxngswift idaek 2009 10 2011 12 edxaerdthwr 2013 14 aela edxa 1989 ewildthwr 2015 tamladb elifstxri yngthuknaiprxngihmodysilpinhlaykhn rwmthungoc aemkexledxrri aelakaraetngephlngaelaaerngbndalicephlng elifstxri ekidkhunchwngthaykarphlitxlbmefiyrels swiftaetngephlng elifstxri elaeruxngekiywkbphuchaykhnhnung ethximekhykhbhaekhacringcng ethxaenanaekhaihkhrxbkhrwaelaephuxn ruck aetkhrxbkhrwaelaephuxn tangimplumchaykhnni sthankarnkbekhannkhxnkhangsbsxn aetchnimsnic swiftklaw swiftyngrusukwaepnkhrngaerkthiethxechuxmoyngenuxephlngekhakbbthlakhroremoxaelacueliyt khxngwileliym echksepiyr sungepnbthlakhrthiethxoprdpran ethxxthibaywa khnthixyakihphwkekhaxyudwyknkkhuxphwkekhaexng ethxidaenwkhidekiywkbephlngniemuxethxitrtrxngthungsthankarndngklawwa chnkhidwa mnyak aetmnepneruxngcring mnsakhy mnimngayaetmnepneruxngcring caknnethxaetngephlngihickhwamekiywkhxngkbkhwamkhiddngklaw cninthisudidwangxyuinenuxephlng elifstxri thxnthxnthisxng thukehtukarninephlng ykewntxncb brryaytameruxngcringkhxngswift txnthayephlngaetktangcaktxncbkhxnglakhroremoxaelacueliyt chnrusukwaphwkekhamikhamnsyyatxkn aelasahrbphwkekhaaelwmntangkduba aelathaenuxeruxngdaeninaetktangxxkipbang mnxaccaepneruxngelathidithisud aelaepneruxngrawkhwamrkthidithisudethathimi aetmnepnosknatkrrm aethnthicaepnechnnn ethxeluxkaetngih happy ending enuxephlngthngephlng ykewnthxncb brryaycakehtukarncringkhxngswift bthsrupkhxngephlngaetktangcaklakhroremoxaelacueliyt chnrusukwaphwkekhamikhasyyatxknaelahlngihlsungknaelaknmak aelathaeruxngrawaetktangcakedimelknxy kkhngcaepneruxngrawkhwamrkthidithisudethathicamiikhrelaid aelamnkepnhnungineruxngrawkhwamrkhlay eruxngthithukelama aetklbepnosknatkrrm aethnthicaepnechnnn ethxeluxkthicaaetngih ethxichtwlakhrthiethxoprdpran aelaxxkaebbaenwkhidintxncbihmthiethxechuxwaehmaasmkbphwkekha ethxechuxwamncaepnchakcbinxudmkhtithiphuhyinghlay khnhwngihepn rwmthungethxdwy khuntxngkarphuchayskkhnthiimidsnicwaikhrcakhidxair ikhrcaphudxair aemwamncaepneruxngela swiftklawwamnepnprasbkarnthisnukdithiidaetngephlngxxkmaekiywkbsingni swiftaetngephlngnibnphunhxngnxn ichewlapraman 12 nathi mikhwamrusukidaerngbndaliccnnamaisinephlngidimsinsud swiftkbkhnrkkhxngethxsantxkhwamsmphnthtxip aetaeykthangkninewlatxma enuxngcakmaphbknidyak sahrbswiftaelw ephlngnikhlayepnekiywkbkhwamrkaelapraednthiwakarphbecxkbkhnthiichepneruxngthiekinkhxsngsy ethxmxng elifstxri epnhnunginephlngthioraemntikthisudkhxngethx aemwaethximekhymikhwamsmphnthcringcngkbkhnthiklawthunginephlng swiftphudthungephlngemuxnukyxnklbipwa mnekiywkbkhwamrkthikhuntxngsxniwephraamnimmithangepnipdwydi imwacadwyehtuphlid chnnaesnxinthisthangkhxngoremoxaelacueliyt phxaemkhxngerathaelaakn chnechuxmoyngmnkbkhwamrkthikhunimsamarthpranipranxmid khwamrkthibangkhrngsngkhmkimyxmrb hrux bangkhrngephuxn khxngkhunkimyxmrb karbnthukesiyng elifstxri source source twxyangephlng 24 winathi hakmipyhainkarelniflni duthiwithiichsux elifstxri bnthukesiyngineduxnminakhm kh s 2008 thiaeblkebirdstudioxsinaenchwill rthethnenssi odymi aelaxikhlaykhnepnoprdiwesxrephlng aechpaemnphlitthukephlngykewnhnungephlnginxlbmaerk ethyelxr swift aelarwmphlitthukephlnginxlbmefiyrels swiftrxngephlngniisimokhrofnchnidaethngrun exaewnothn siwi 12 phlitodyexaewntxielkthrxniks imokhrofnmiaethngsarxngthiery ekhnendi nkrxngkhnthri oprdiwesxrephlng aelawiswkresiyng xxkaebbaelaphlitihaechpaemnyum aechpaemnichimokhrofnniepnkarthdlxngchwkhraw aemwaekhaekhythdsxbimokhrofnhlaytwihswift ekhaimekhyhatwthiehmaakbesiyngrxngkhxngswiftxyangsmburnaebbidely emuxswiftmathibankhxngaechpaemnephuxprbaetngsingekilcakxlbmethyelxr swift ethxchxbimokhrofntwnithnthi emuxethxswmimokhrofnaelaphudwa thdsxb thnidnn aethbcathnthi ethxklawwa nikhuximkhchn chnrkimkhtwni chnxyakcaichimkhtwniiptlxdely ethximruwamnkhuxxair ethxaekhrkmn phmkelytamelykbsingthiehmaasmkbethx eraichimkhtwnitngaetnnma aelamnthaihesiyngethxipheraacring aechpaemnklaw elifstxri bnthukesiyngdwyopraekrmaelaichesiyngrxngtamrxngesiyng sungswiftrxngsdrwmkbwngdntri wngdntriprakxbdwykitaroprng kitarebs aelaklxngchud ekhruxngdntrichnidxun aechpaemnbnthukthbxikthi ekhaklawwa phmkhidwamikitaroprngekatwbrrelngxyuinephlng aelaphmbnthukesiyngrxngebuxnghlngthbknhlaychn sungepnesiyngkhxngphmexngrxngwa xa karprbaetngesiyngthaodyaechd kharlsn thistudioxdi inaeblkebirdstudioxs odyichekhruxngmuxchudexphiixelkasiphls idaek imokhrofnxaaewnothn siwi 12 enew 1073 aelathiwbethkh siaexl 1bi phsmesiyngodycstin eniyaebngk thistudioxexf dwyxupkrnchudoslidsettlxcik 9080 ekh aelaecenelk 1032 inrahwangnn aechpaemnbnthukesiyngthbthistudioxxi elifstxri aelaephlngxun inxlbm phankrabwnkarmasetxrodyaehngk wileliyms thimasetxrmiksstudioxsinaenchwill rthethnenssi ephlngphsmesiyngdwyaexrephlyodyaechpaemn ekhadungsingthieniyaebngkthaiwinaelpthxp aelaichsrangephlngewxrchnpxp aechpaemnichaelpthxpthaewxrchnrimiksaelasrangxngkhprakxbdntriihm dwy ekhapidesiyngekhruxngdntrikhnthriaelaaethnthidwyxngkhprakxbdntrithithaihepndntripxp odyaethnthiaebnocaeladwykitariffa dntrithxnepidephlngewxrchnpxpepnwngwnlxcikinekhruxngkahndcnghwadntri xltrabit esiyngkitariffaihmthnghmdthadwyxupkrnaexmphlithiwbstxmpix oxkartxbrb elifstxri epnthichunchmkhxngnkwicarn ekht khiefxrcaknitysarcdihepnephlngthidithisudkhxngswift aelaesrimwa emuxruenuxephlngephlngniaelw thaimrxngtamkhngepnipimid chxn duliy cakewbistcdihepnephlngthiepliynphanswiftcak darahnaisepnsuepxrstarkhamaenwephlng duliymxngwaephlngprasbkhwamsaercenuxngcakenuxhainenuxephlngthiaetktangip sungsrupidwa chnprarthnawachayhnumkhnnicaruwachnrusukxyangirkbekha khnathiwicarnxlbmefiyrels duliyeluxkephlng elifstxri ihepnephlngthidithisudinxlbm ocnathan khif cakchunchmswiftinkhwamphyayamthicarwmxngkhprakxbthisbsxn xyanglakhroremoxaelacueliyt aelatrabapsieluxd aemwacaimprasbkhwamsaercenuxngcakkhwamngumngam xthibayimid aelacintnakarthiimmicudhmay khifmxngwakhwamsaercmacakthxnsrxythioddedn ecms rid cakhnngsuxphimphkhidepnechnxunwa esnhkhxngswiftxyuthithksakaraetngephlngkhxngethx efresxr aemkxliphncakbibisiklawwa elifstxri epnephlngpxpthinaprahladic aelaenuxngcakmnelaeruxngrawkhwamrkcring mncungxbxunhwicaeladungphufngekhasuolknithanthinatunetnaelaoraemntik xyangirktm ethxrusukwakarrxngephlngkhxngswiftnnimnaaeplkic aetxdimidthicachunchmkarthaythxdxarmn aemkxliphnklawtxipwa aemwacaepnephlngoraemntikchdecnaelamiepahmaykhuxphufngxayunxy aet elifstxri aekhepnephlngthinarkthiswiftphisucntnexngwaepnecahyingephlngpxpthiaethcring khris nil caknitysareriykephlng elifstxri wa ephlngdngephlngaerkthieduxdphlan edbxrah xiaewns iphrs caknitysarbilbxrdwicarnephlngipinthangchunchxbaelaeriykwa khxesnxthimiesnh iphrsklawwa elifstxri aesdngihehnesnhxyanghnungkhxngswift sungkkhuxkaraetngephlngaelakarrxngephlngthiehmaasmkbxayuthiekiywkhxngkbphufngkhxngethxaelakhnxun dwyehtuni ethxcungkhadkarnwaephlngcaprasbkhwamsaercmakinxutsahkrrmdntrikhnthri xaelks aemkefxrsn cakhnngsuxphimphbritich edxakarediyn brryaywaephlngekidcak khwamrusuksnuksnanaebbkathnhn sungekhaklawwakhwamrusukniekidkbephlng imn 2010 dwy ethstxxfkhnthricdephlngihxyuxndbthi 17 inraychuxephlngkhnthrithidithisudtlxdkal rangwl elifstxri ekhachingrangwlphiephilschxysxawxds sakha khnthriyxdniym innganprakasrangwl aetphayihkbephlng 2008 khxngaekhrri xnedxrwud ephlngidekhachingrangwl ephlngyxdniym innganprakasrangwl aetphayihkbephlng ixkxttafiling 2009 khxngedxaaeblkxaydphis aelainnganprakasrangwl 2009 kmiphlrangwlehmuxnkn odyphayihkbephlng 2008 khxngedwid xarchuelta sungekhachingrangwl chxysmiwsik elifsxng inpi kh s 2009 elifstxri idepn ephlngkhnthriaehngpi prakasodyxngkhkrephyaephrdntriphvtikarnechingphanichyxemrikaehnux inchartpracawnthi 27 knyayn kh s 2008 elifstxri epidtwthixndb 16 inchartbilbxrdhxt 100 khayidmakkwa 97 000 dicithldawnohld inspdahtxma elifstxri khunipthungxndbthi 5 khayid 159 000 dawnohld hlngcakxyuinsibxndbaerkidsxngspdah inchartpracawnthi 18 tulakhm kh s 2008 ephlngtklngmaxndbthi 13 aelaxyuinyisibxndbaerknan 11 spdahtidtxkn aelaklbipthisibxndbaerk inxndbthi 7 inchartpracawnthi 3 mkrakhm kh s 2009 inchartpracawnthi 17 mkrakhm kh s 2009 ephlngkhunxndbthi 4 klayepnsingekilthikhunchartsungthisudkhxngswiftinkhnann hlayspdahtxma elifstxri yngkhngthayxdkhayidditlxd ichewlainsibxndbaerknan 14 spdah aelaxyuinchartthnghmd 49 spdah singekilniepnhnunginephlngcakxlbmefiyrels 13 ephlngthitidsisibxndbaerkinchartbilbxrdhxt 100 thalaysthitiephlngcakxlbmediywekhachartthisisibxndbaerkidmakthisud xlbmidrbcaksmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrika aelakhayidmakkwa 5 lan cnthungeduxnphvsphakhm kh s 2011 klayepnephlngthikhaydithisudkhxngswift aelaekhyepnsingekilkhnthrithikhaydithisudtlxdkal thukaethnthidwyephlng khxng aelaepnsingekildicithlthikhaydithisudxndbthi 9 nbthungeduxnkrkdakhm kh s 2015 elifstxri khayid 5 872 000 hnwyinshrth elifstxri khunxndbhnungbnchartodymicanwnkarfnginthukchxngthangkarrbfngthnghmd 106 lankhrng aelathukokhnxndbodyephlng khxngkhaney ewst inchart elifstxri epidtwthixndb 25 inchartpracawnthi 27 knyayn kh s 2008 ephlngkhunthungsibxndbaerkinspdahthisithixndbeka aelainspdahthieka ephlngkhunxndbhnungklayepnephlngxndbhnungephlngthisamkhxngswift aelaepnephlngthikhunxndbhnungiderwthisud ephlngxyuinxndbthihnungidnansxngspdahaelaxyuinchartbilbxrdhxtephlngkhnthriidrwm 13 spdah inchartbilbxrdpxpsxngs ephlngepidtwthixndb 34 inchartpracawnthi 22 phvscikayn kh s 2008 ephlngkhunxndbhnunginspdahthi 15 inchartpracawinthi 28 kumphaphnth kh s 2009 klayepnephlngkhnthrithikhunxndbsungsudbnchartniidnbtngaetephlng khxngchainya thewn thiekhykhunsungsudthixndbsaminpi kh s 1998 elifstxri yngkhunxndbhnunginchart aelaxndbsambnchart aelapraktinchartthixndb 35 dwy in elifstxri ekhachartthixndb 88 inchartpracawnthi 18 tulakhm kh s 2008 ephlngkhunsungsudthixndbthisiinchartpracawnthi 29 tulakhm kh s 2008 klayepnephlngkhxngswiftephlngaerkthikhunsibxndbaerkidinpraeths singekilxyuinsibxndbaerkidnan 10 spdah aelaxyuinchartnan 52 spdah ephlngxyuxndbthiaepdinchartsinpikhxngaekhnada aelaidrbkarrbrxngradbaephltinmsxngkhrngodyxngkhkr cakyxdkhaydicithldawnohld 160 000 khrng yuorpaelaoxechiyeniy elifstxri epidtwthixndbthi 22 inshrachxanackr inchartpracawnthi 28 kumphaphnth kh s 2009 inspdahthdma ephlngkhunthungxndbsxng klayepnsingekilkhxngswiftthikhunchartsungthisud rwmkbephlng ixnuwyuewxrthrbebil aela echkxitxxf aelaepnephlngthitidsibxndbephlngaerkinshrachxanackr ephlngxyuinsibxndbaerknan 7 spdah aelaxyuinchartrwm 32 spdah singekilidrbkarrbrxngradbaephltinmodyxngkhkrtwaethnxutsahkrrmsingbnthukesiyngbritich BPI hlngcakkhayidekin 600 000 hnwy inwnthi 22 tulakhm kh s 2012 elifstxri ekhachartinshrachxanackrxikkhrngthixndb 55 inpraethsixraelnd elifstxri khunthungxndbthisam inaephndinihy ephlngkhunxndbsibinchart xndbthihkinpraethshngkari xndbthiecdinpraethsnxrewy aelaxndbthisibinpraethsswiedn ephlngtidchartiddiinpraethsxun echn ednmark eyxrmni enethxraelnd aelafrngess odykhunthungyisibxndbaerk in elifstxri epidtwthixndb 38 bnchartpracawnthi 25 mkrakhm kh s 2009 hlngcakkhunchartidsxngspdah elifstxri khunxndbsxng aelakhangxyunanhkspdahkxnkhunxndbhnunginchartpracawnthi 29 minakhm kh s 2009 klayepnephlngaerkaelaephlngediywkhxngswiftthikhunxndbhnunginpraeths cnthungephlng echkxitxxf inpi kh s 2014 inspdahthdma ephlngtklngmaxndbsxngaelakhunxndbhnungxikspdah aelaxyuinhasibxndbaerkspdahsudthayinchartpracawnthi 12 emsayn kh s 2009 singekilidrbkarrbrxngradbaephltinmsamkhrngcakhlngkhayidmakkwa 210 000 hnwy elifstxri tidxndbsibinchartsinpikhxngchartsingekilxxsetreliy inchartpracawnthi 2 kumphaphnth kh s 2009 elifstxri ekhachartinpraethsniwsiaelndthixndb 33 hlngxyuinchartidekaspdah ephlngkhunthungxndbsaminchartpracawnthi 6 emsayn kh s 2009 ephlngidrbkarrbrxngradbaephltinmodyhlngkhayidmakkwa 15 000 hnwy odyrwmaelw elifstxri khayidmakkwa 7 9 lanhnwythwolk klayepnhnunginsingekilthikhaydithisudtlxdkalmiwsikwidioxmiwsikwidioxkhxngephlng elifstxri kakbody sungekhykakbwidioxihswifthlaysingekilcakxlbmethyelxr swift swifttdsinicrwmngankbaefncxyxikkhrngephraaethxsamarthhacudsmdulekiywkbaenwkhidkhxngmiwsikwidioxrahwangekhaaelaethxid sungepnsingthiethxchunchmxyuluk widioxmithxngeruxngyxnyukhthimixiththiphlcaksmyklang smyfunfusilpwithya aelasmyriecnsi swiftekhytxngkarthaythamiwsikwidioxyxnyukhmananaelwephraamnaetktangcakmiwsikwidioxsmyihmthiethxekhythaytha khnathiethxaetngephlngni ethxcintnakarthungyukheka aelaaefngklinxayyukhekaiwinenuxephlng ethxechuxwaokhrngeruxngkhxngephlng elifstxri epnbththiimkahndewlataytw chnkhidwamnxacekidkhuninyukh 1700 1800 hrux 2008 kid dngnn ethxcungmxnghakhunsmbtithitrngkbphvtikrrmkhxngkhnrkkhxngethx swiftmxnghakhunsmbtidngklawodychmphaphyntrlwnghnahkeduxnephuxmxnghankaesdngchayephuxtikhwambthbath khnruckkhnhnungkhxngswiftthiekhytidtamraykar sisnhk aenanaphuekhaaekhngkhnchux cstin aekstn caknnswiftmxngdurupekha aelasrupwaekhaehmaasmkbmiwsikwidioxkhxngethx aekstntrngkbkhwamtxngkarkhxngswift sungswiftihekhaepn thimichiwitinyukh 1800 xyangirktam enuxngcakaekstnekhaaekhngkhnraykaraenchwillstarxyu ekhacungmaaesdnginmiwsikwidioximid sudthayaelwaekstnthukkhdxxkaelaswifttidtxekhathnthiephuxihmaaesdnginmiwsikwidiox swiftprathbickaraesdngkhxngaekstnmak chnprathbickaraesdng xarmn khxngekhainwidioxmak ekhaimtxngphudxair ekhaaekhtxngcxngtaning aelamnxxkmadudimak widioxthaythathiprasathaehnghnung faybukhlakrsuksaprasathhlayaehnginshrthaelaimsamartheluxkhlngthimisphaphehmaasmtxkarthaythaid phwkekhaphicarnaedinthangipyuorpephuxhaprasath aetidrbaecngwaphbprasathaehnghnungthangtxnitkhxngaenchwill rthethnenssi chuxwa prasathkwinn sranginpi kh s 1973 aelaidrbeluxkihepnchakkhxngmiwsikwidiox esuxphakhxngnkaesdngcdhaodyaeckkardaefbriks ykewnchudedrskhxngswiftinchakraebiyng chudkhxngswiftxxkaebbodyaesndi spika xxkaebbtamaerngbndalicaelakhaaenanakhxngswift ethxchxbthicaistwethxepnxinphutlnginchudedrskhxngethx spikaklaw sxngkhnkhuyknekiywkbchudedrssxngeduxnkxnthaytha mikaretriymchakihsmcring widioxichewlathaythasxngwnineduxnsinghakhm kh s 2008 inethnenssi inwnaerk thaythachakthiraebiyngaelasnamhya inchak mikhnwangaephnsidiephlyaebkchbbddaeplngthimiesiyngaehlmsung dwyehtuni swiftihkxngthaykhnhnungyumixphxdephuxelnephlngchbbdngedim khnathaythaxikchakhnung dwngxathitykalngcatk aelakarthaythakhxnkhangcaepnipxyangerw inchaknn aefncxyaenanaihswiftcubkbaekstn aetswiftptiesthephraaethxechuxwamnehmaakbchakthihwankwa inwnthisxng thaythathi in odythaythathihxngetnra swifteriynthaetninhxngetnrakxnthaythasibhanathi minketnrapraman 20 khnetnxyuinchak widioxerimdwyswift swmesuxknhnawsidaaelakangekngyins edinxyuinmhawithyalyaelasngektehnaekstnnngxanhnngsuxxyuittnim khnathiphwkekhasbtakn widioxepliynyukhepnyukhekathiduehmuxnstwrrsthi 18 aetprasathsranginpi kh s 1973 odyswiftyun swmchudrdrupaelaesuxkhlum rxngephlngxyuthiraebiyng hlngcaknn aekstnrwmngansngsrrkhaelaehnswiftischudkhlumthidupranit kalngkhuykbphuhyingkhnxun xyu swiftaelaaekstnaelakhnxun rwmetnrainhxngetnra hlngetnra aekstnkrasibthihuswift caknnchakaesdngswiftkalngthuxokhmifmxnghabangxyangtxnklangkhun ethxphbkbaekstnaelathngsxngkhnedindwykn cbmuxkn aelaihxaharmathibxna caknnthngsxngkhnedinaeykthangkn hlngcaknn swiftyunbnraebiyngmxngxxkipthihnatang ethxphbaekstnwingmahaethx aelaethxribwinglngbnidthnthi swiftaelaaekstnphbknaelacbmuxkn caknnwidioxklbmathiyukhpccubn aesdngaekstnedinmahaswiftaelacxngtakn aelawidioxcblng chakkhtsinaesdngkaretnrainhxngetnraaelaswiftrxngephlngthichakraebiyng inyuthub widioxnimiphuchmmakkwa 340 lankhrng kartxbrbkhxngwidiox widioxchaykhrngaerkinwnthi 12 knyayn kh s 2008 thangchxng aemndi ebiyrlicakexnetxrethnemntwiklimipraednwawidioxaesdngwiwthnakarkhwamepnsilpinintwswiftephraamnduaephngaelathaihethxsngsywamixairekiywkbswiftthicaepliynipbang xyangirktam ethxklawwa kngwlaetchnimxactanthanwiwthnakarkhxngethyelxr swift cakephlng thim aemkkrxw cnthungephlnglasud elifstxri ebiyrliyngepriybethiybkaraesdngkhxngswiftkbkaraesdngkhxngekhiyra intliydwy efresxr aemkxliphncakbibisiechuxwaswiftelnepnecahying dngnnmncathaihphuhyinghlaykhnxiccha widioxidekhachingrangwl widioxaehngpi innganprakasrangwlxakhaedmixxfkhnthrimiwsikxawxds khrngthi 45 aetphayihkbephlng khxng inngansiexmthimiwsikxawxds 2009 widioxidrbrangwl widioxaehngpi aela widioxnkrxnghyingaehngpi ephlngyngidrbrangwlkhnthrimiwsikaexsossiexchnxawxrd sakha miwsikwidioxaehngpi innganmiwsikaexsossiexchnxawxds khrngthi 43 widioxidrbrangwl widioxephlngsaklthichunchxb innganmiksmiwsikxawxds 2010 thipraethsfilippinsdwyelifstxri ethyelxrewxrchn elifstxri ethyelxrewxrchn singekilodyethyelxr swiftcakxlbmefiyrels ethyelxrewxrchn wangcahnay12 kumphaphnth kh s 2021 2021 02 12 aeblkebird aenchwill aenwephlngkhnthripxpkhwamyaw3 56khayephlngriphblikphupraphnthephlngethyelxr swiftoprdiwesxrethyelxr swift khrisotefxr orwladbsingekilkhxngethyelxr swift khxniyixaelnd 2021 elifstxri ethyelxrewxrchn 2021 2021 Lyric video elifstxri ethyelxrewxrchn thiyuthub hlngcakesnsyyachbbihmkbriphblikerekhids swifterimbnthukstudioxxlbmaerkkhxngethxcakhkxlbmaerkihm rwmthungefiyrelsineduxnphvscikayn kh s 2020 kartdsinicekidkhunhlngcakkhxphiphathsiththiinkarthuxkhrxngephlng kh s 2019 rahwangswiftkbphucdkar skutetxr ebran sungsuxkickarbikmachinerkekhids rwmthungmasetxrinxlbmkhxngswiftthikhayephlngidxxkcahnay karbnthukaekhttalxkkhxngethxihmthaihswiftepnecakhxngtnchbbephlngmasetxrihmodysmburn rwmthungkarxnuyatlikhsiththiephlngkhxngethx sungcaldkhunkhakhxngephlngmasetxrthimiecakhxngodybikmachin swiftbnthukephlng elifstxri xikkhrngaelatngchuxwa elifstxri ethyelxrewxrchn khxkhwamthitdtxnmacakkarbnthuksathuknamaichinokhsnakhxng aemtch khxm ineduxnthnwakhm kh s 2020 elifstxri ethyelxrewxrchn epnephlngthibnthuksaephlngaerkthiethxplxyxxkma phrxmihdawnohldaelastriminwnthi 12 kumphaphnth kh s 2021 kxnkarepidtwxlbmthibnthuksainchux efiyrels ethyelxrewxrchn ineduxnemsayn elifstxri ethyelxrewxrchn ewxrchnxidiexm rimiksodyoprdiwesxrchawswiedn exlwira wangcahnayemuxwnthi 26 minakhm kh s 2021 aelarwmxyuin efiyrels ethyelxrewxrchn ewxrchndilks chart chartpracaspdah tarangkaraesdngchartpracaspdahkhxng elifstxri ethyelxrewxrchn chart 2021 2022 taaehnng sungsudxxsetreliy 21Belgium aeflnedxs 24Canada 7 Billboard 23 Billboard 10 Billboard 7Ireland 7Latvia 2Malaysia 1Netherlands 6New Zealand 18Portugal 68Singapore 3Sweden 62UK Singles 12US Billboard Hot 100 11US Billboard 25US Billboard 39US Billboard 57US Billboard 1US 4 chartsinpi tarangkaraesdngchartsinpikhxng elifstxri ethyelxrewxrchn chart 2021 taaehnngUS Hot Country Songs Billboard 80 karrbrxng karrbrxngyxdkarcahnaykhxng elifstxri ethyelxrewxrchn praeths karrbrxng yxdkhayUnited Kingdom BPI Silver 200 000twelkhstrimmingaelayxdkhaykhunxyukbkarrbrxngephiyngxyangediywprawtikarcahnay raykarwnthiwangcahnayaelarupaebbkhxng elifstxri ethyelxrewxrchn phumiphakh wnthi rupaebb ewxrchn khay xangxinghlakhlay 12 kumphaphnth 2021 dicithldawnohldkarstrim tnchbb riphblik26 minakhm 2021 exlwirarimiksxangxingScaggs Austin January 25 2010 Taylor s Time Catching Up With Taylor Swift Rolling Stone Jann Wenner subkhnemux February 1 2010 Time Time Warner April 23 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 31 subkhnemux February 12 2011 Swift Taylor Cut By But Bigmachinerecords com Big Machine Records ekbcakaehlngedimemux 2010 07 27 subkhnemux March 12 2010 Bells Leigh November 28 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 02 25 subkhnemux February 12 2011 Lewis Randy October 26 2008 She s writing her future Los Angeles Times subkhnemux February 12 2011 Roznovsky Lindsey November 10 2008 Taylor Swift s fascination with Fairy Tales comes through on new album Viacom subkhnemux February 13 2011 September 15 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 11 subkhnemux February 12 2011 Walsh Christopher March 17 2009 Taylor Swift Love Story ProAudio Review The Wicks Group subkhnemux February 14 2011 Morris Edward December 1 2006 When She Thinks Tim McGraw Taylor Swift Savors Payoff Hardworking Teen to Open for George Strait Next Year CMT News Viacom subkhnemux March 11 2010 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux liner Kiefer Kate June 4 2009 Six Great Taylor Swift Songs Paste Media Group LLC subkhnemux April 17 2010 Dooley Sean Top 10 Taylor Swift Songs About com The New York Times Company subkhnemux March 15 2010 Dooley Sean The Blossoming of Taylor Swift The Artist About com The New York Times Company subkhnemux March 8 2011 Keefe Jonathan November 16 2008 Taylor Swift Fearless subkhnemux March 8 2011 Reed James November 10 2008 Young country star s Fearless proves she s just that and more The New York Times Company subkhnemux March 8 2011 McAlpine Fraser February 28 2009 Taylor Swift Love Story BBC subkhnemux March 8 2011 Neal Chris December 29 2008 Fearless Taylor Swift subkhnemux March 8 2011 Caulfield Keith October 11 2008 Singles Love Story Billboard New York Nielsen Business Media Inc 120 41 68 ISSN 0006 2510 subkhnemux March 8 2011 Macpherson Alex December 9 2010 Taylor Swift Speak Now The albums we missed The Guardian subkhnemux March 11 2011 Pacella Megan June 24 2012 No 17 Taylor Swift Love Story Top 100 Country Songs subkhnemux May 29 2014 People s Choice Awards 2009 Nominees Pleopleschoice com subkhnemux March 11 2011 Knox David September 20 2009 2009 Kid s Choice Awards Nominees subkhnemux March 11 2011 Teen Choice Awards 2009 nominees June 15 2009 subkhnemux March 12 2011 Teen Choice Awards 2009 Music ekbcakaehlngedimemux 2009 10 19 subkhnemux October 19 2009 BMI Country Awards 2009 Big Winners BMI com Broadcast Music Incorporated subkhnemux March 12 2011 Cohen Jonathan September 18 2008 Pink Notches First Solo Hot 100 No 1 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Cohen Jonathan September 25 2008 T I Back Atop Hot 100 Kanye Debuts High Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Hot 100 Week of October 18 2008 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Cohen Jonathan December 24 2008 Beyonce Celebrates Xmas Atop Hot 100 Billboard Nielsen Business Media subkhnemux March 5 2011 Love Story Taylor Swift Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Taylor Swift Love Story Music Charts aCharts us subkhnemux March 5 2011 Pietroluongo Silvio November 12 2009 Rihanna s Roulette Lands In Hot 100 s Top 10 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux January 3 2010 American single certifications Taylor Swift Love Story Recording Industry Association of America subkhnemux March 5 2011 Grein Paul May 25 2011 Yahoo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 30 subkhnemux February 12 2011 Grein Paul April 7 2011 Yahoo Music Yahoo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 04 25 subkhnemux April 9 2011 Grein Paul August 6 2010 Yahoo Music Yahoo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 08 15 subkhnemux October 2 2010 Matt Bjorke July 22 2015 The Top 30 Digital Country Singles July 22 2015 Roughstock Radio Songs week ending March 7 2009 Billboard com Billboard com March 7 2009 subkhnemux March 7 2009 Hot Country Songs week ending October 18 2008 Billboard com Billboard com October 18 2008 subkhnemux October 18 2008 Hot Country Songs week ending November 22 2008 Billboard com Billboard com November 22 2008 subkhnemux November 22 2008 Hot Country Songs week ending November 22 2008 Billboard Nielsen Business Media Inc November 22 2008 subkhnemux November 22 2008 Pop Songs week ending November 29 2008 Billboard com Billboard com November 29 2008 subkhnemux November 29 2008 Trust Gary December 15 2009 Best of 2009 Part 1 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Love Story Music Video Taylor Swift Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 5 2011 Canadian Hot 100 Week of October 18 2008 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 6 2011 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux canada Best of 2009 Canadian Hot 100 Songs Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux March 6 2011 Canadian certifications Taylor Swift Love Story subkhnemux July 11 2011 Chart Stats Taylor Swift Love Story Chartstats com subkhnemux March 5 2011 Chart Stats Taylor Swift Chartstats com The Official Charts Company ekbcakaehlngedimemux 2012 06 30 subkhnemux March 5 2011 British single certifications Taylor Swift Love Story British Phonographic Industry subkhnemux March 6 2011 Selectsinglesin the Format field TypeLove Story in the Search BPI Awards field and then press Enter Discography Taylor Swift Irish charts com subkhnemux March 6 2011 Top 40 album es valogataslemez lista 200952 phasahngkari Magyar Hanglemezkiadok Szovetsege subkhnemux June 18 2010 Taylor Swift Love Story Song Norwegieancharts com subkhnemux March 6 2011 Taylor Swift Love Story Song Swedishcharts com subkhnemux March 6 2011 Taylor Swift Love Story Song Australian charts com subkhnemux March 6 2011 ARIA Charts Accreditations 2009 Singles PDF subkhnemux January 2 2010 Charts org nz khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 11 14 subkhnemux March 6 2011 RadioScope khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 2 2010 subkhnemux March 6 2011 Digital Music Sales Around the World PDF IFPI org International Federation of the Phonographic Industry January 21 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 03 26 subkhnemux March 6 2011 http www billboard com articles chartbeat 480278 ask billboard taylor swifts career sales http www mtv com news articles 1627833 eminem best selling artist decade jhtml On the Set Behind the Scenes at Love Story Taylor Swift On the Set 22 00 nathi Great American Country a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite episode title aemaebb Cite episode cite episode a access date txngkar url help Video Replay Taylor Swift Love Story Viacom subkhnemux February 16 2011 On the Set Behind the Scenes White Horse Taylor Swift On the Set 22 00 nathi Great American Country a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite episode title aemaebb Cite episode cite episode a access date txngkar url help Lewis Randy October 16 2008 Who s that Romeo in Taylor Swift s Love Story video Los Angeles Times Tribune Company subkhnemux February 17 2011 Great American Country Scripps Network Interactive khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 11 subkhnemux February 16 2011 Taylor Swift Premiering New Video on CMT CMT News Viacom September 12 2008 subkhnemux February 16 2011 Bierly Mandi September 17 2008 How much do you love Taylor Swift s Love Story video Entertainment Weekly Time Warner subkhnemux February 17 2011 Press release khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 03 11 subkhnemux March 11 2011 Press release khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 07 subkhnemux March 11 2011 2009 CMT Music Awards Winners CMT Viacom subkhnemux March 11 2011 2009 CMA Awards Winners CMT Viacom khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 07 22 subkhnemux March 11 2011 The MYX Music Awards 2010 Winners MYXph com subkhnemux March 11 2011 Melas Chloe November 16 2020 Taylor Swift Speaks Out about Sale of Her Masters cakaehlngedimemux November 18 2020 subkhnemux November 19 2020 Taylor Swift Wants to Re record Her Old Hits BBC News August 22 2019 cakaehlngedimemux August 22 2019 subkhnemux August 22 2019 Finnis Alex November 17 2020 Taylor Swift Masters The Controversy around Scooter Braun Selling the Rights to Her Old Music Explained cakaehlngedimemux February 12 2021 subkhnemux February 13 2021 Shah Neil 2021 04 09 Taylor Swift Releases New Fearless Album Reclaiming Her Back Catalog The Wall Street Journal cakaehlngedimemux October 8 2021 subkhnemux 2022 09 25 Shaffer Claire 2020 12 02 Taylor Swift Drops Her First Re Recorded Song in an Ad for Match Rolling Stone cakaehlngedimemux February 13 2021 subkhnemux 2021 02 12 Lipshutz Jason February 11 2021 Taylor Swift Announces Re Recorded Fearless Album Updated Love Story Out Tonight Billboard cakaehlngedimemux February 13 2021 subkhnemux February 11 2021 Willman Chris February 11 2021 Taylor Swift Sets Fearless Taylor s Version as First in Her Series of Full Album Do Overs cakaehlngedimemux February 11 2021 subkhnemux February 11 2021 Legaspi Claire Shaffer February 12 2021 Taylor Swift Releases Lyric Video for Re Recorded Love Story Rolling Stone cakaehlngedimemux February 13 2021 subkhnemux February 12 2021 Kaufman Gil March 26 2021 Taylor Swift Surprise Releases Dancefloor Elvira Remix of Love Story Billboard cakaehlngedimemux November 12 2021 subkhnemux April 13 2021 Taylor Swift Love Story Taylor s Version subkhnemux February 20 2021 Taylor Swift Love Story Taylor s Version in Dutch subkhnemux March 5 2021 Taylor Swift Chart History Euro Digital Song Sales Billboard subkhnemux November 18 2021 Taylor Swift Chart History Global 200 Billboard subkhnemux February 23 2020 Official Irish Singles Chart Top 50 subkhnemux February 19 2021 EHR Top 40 2021 03 05 cakaehlngedimemux November 13 2021 subkhnemux 30 August 2021 Top 20 Most Streamed International amp Domestic Singles in Malaysia cakaehlngedimemux July 18 2021 subkhnemux March 6 2021 odythang Facebook Netherlands Single Tip Chart February 20 2021 cakaehlngedimemux April 13 2021 subkhnemux February 20 2021 Taylor Swift Love Story Taylor s Version subkhnemux February 20 2021 Taylor Swift Love Story subkhnemux March 3 2021 RIAS Top Charts February 23 2021 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim emux December 26 2021 subkhnemux March 2 2021 Veckolista Singlar vecka 7 phasaswiedn cakaehlngedimemux April 13 2021 subkhnemux February 19 2021 Official Singles Chart Top 100 subkhnemux February 20 2021 Cohen Jonathan September 25 2008 Billboard khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux May 2 2013 subkhnemux March 5 2011 Taylor Swift Chart History Country Airplay Billboard subkhnemux April 13 2021 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux February 22 2021 subkhnemux February 25 2021 Hot Country Songs Year End 2021 Billboard cakaehlngedimemux December 3 2021 subkhnemux December 2 2021 British single certifications Taylor Swift Love Story Taylor s Version British Phonographic Industry subkhnemux August 19 2022 Love Story Taylor s Version Single by Taylor Swift Spotify February 12 2021 cakaehlngedimemux February 12 2021 subkhnemux February 17 2021 Love Story Taylor s Version Elvira Remix Single by Taylor Swift Spotify March 23 2021 cakaehlngedimemux March 26 2021 subkhnemux March 26 2021 aehlngkhxmulxun elifstxri miwsikwidioxbnwiow enuxephlngthiewbistthangkarkhxngethyelxr swift 2012 12 11 thi ewyaebkaemchchin

วันที่เผยแพร่: กรกฎาคม 09, 2024, 05:39 am
อ่านมากที่สุด
  • สิงหาคม 13, 2024

    เจ้าชายปีศาจบ้านโมโมจิ

  • ตุลาคม 03, 2024

    เจ้าชายนายิฟ บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด

  • กันยายน 20, 2024

    เจ้าชายดูวาร์ตึ นูโน ดยุกแห่งบรากังซา

  • กันยายน 18, 2024

    เจ้าชายดูวาร์ตึ ปียู ดยุกแห่งบรากังซา

  • สิงหาคม 10, 2024

    เจ้าชายชาร์ล หลุยส์ ดยุกแห่งชาตร์

รายวัน

  • ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ

  • พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส

  • สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 3 และพระราชนัดดา

  • กาลิลี

  • พระเยซู

  • อนุระ กุมาระ ทิสานายกะ

  • การเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา พ.ศ. 2567

  • สหรัฐอเมริกา

  • พ.ศ. 2437

  • เส้นควบคุมแท้จริง

NiNa.Az - สตูดิโอ

  • วิกิพีเดีย

การลงทะเบียนจดหมายข่าว

โดยการสมัครรับรายชื่อผู้รับจดหมายของเราคุณจะได้รับข่าวสารล่าสุดจากเราเสมอ
ได้รับการติดต่อ
ติดต่อเรา
DMCA Sitemap Feeds
© 2019 nina.az - สงวนลิขสิทธิ์.
ลิขสิทธิ์: Dadaş Mammedov
สูงสุด