ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งอยู่ริมคูเมืองด้านทิศเหนือ ตรงมุมถนนมนัสตัดกับถนนพลแสน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก | |
---|---|
Chang Phueak Shrine | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | ศาลเจ้า |
เมือง | ริมคูเมืองด้านทิศเหนือ ถนนพลแสน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา |
ประเทศ | |
พิกัด | 14°58′46″N 102°06′12″E / 14.979556°N 102.103420°E |
ประวัติ
ในสมัยรัชกาลที่ 1 เกิดช้างเผือกพัง (เพศเมีย) 2 ช้าง คล้องได้ในแขวงเมืองภูเขียว ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของเมืองนครราชสีมา กรมการเมืองภูเขียวนำช้างมามอบให้เจ้าพระยานครราชสีมา เพื่อนำไปถวายในหลวงต่อไป และได้นำช้างมาพักอยู่นอกเมืองทางด้านเหนือผูกไว้กับเสาที่ได้นำมาด้วย เมื่อนำช้างเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เอาเสาไปด้วย หลังจากพนักงานกรมคชบาลตรวจลักษณะช้างแล้วนำความกราบบังคมทูลถวายรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดให้ขึ้นระวางรับไว้เป็นพระราชพาหนะและพระราชทานนามว่า พระอินทรไอยราช้าง และ พระเทพกุญชรช้าง
พระอินทรไอยรา
พระอินทรไอยรา พระยาช้างที่พระยานครราชสีมานำทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นช้างพังเผือกตรี ลูกเถื่อน สมโภชขึ้นระวาง ณ เดือนสี่ ปีขาล 1156 (พ.ศ. 2337) พระราชทานนามว่า พระอินทรไอยรา รัตนาเคนทร์ คเชนทรบดินทร์ อินทรังสรรค์ อนันตคุณ สมบูรณเลิศฟ้า
ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ณ เดือนสี่ ปีวอก 1174 (พ.ศ.2355) ได้พระราชทานนามใหม่ว่า พระอินทรไอยรา คชาชาติฉัททันต์ พิศผิวพรรณเผือกตรีสียอดตองตากแห้ง วิศณุแกล้งรังรักษ์ มงคลลักษณเลิศฟ้า
พระเทพกุญชร
พระเทพกุญชร เป็นช้างเผือกพังเอก ลูกเถื่อน สมโภชขึ้นระวาง ณ เดือนสอง ปีระกา 1163 (พ.ศ.2344) พระราชทานนามว่า พระเทพกุญชร บวรศรีเศวต เอกชาติฉัททันต์ อนันตคุณ สมบูรณเลิศฟ้า
ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ณ เดือนสอง ปีวอก 1174 (พ.ศ.2355) ได้พระราชทานนามใหม่ว่า พระเทพกุญชร บวรศรีเศวต อมเรศนฤมิตร เผือกผ่องพิศโสภณ มิ่งมงคลนาเคนทร์ คเชนทรเฉลิมขวัญ ชาติฉัททันต์สูงศักดิ์ วิไลลักษณเลิศฟ้า
เสาที่ผูกช้างเผือก
เสาที่ผูกช้างเผือกเป็นไม้ตะเคียนหิน ไม่ปรากฏเป็นหลักฐานว่าขุดฝังเพื่อผูกช้างในวันเดือนปีใด แต่ที่ว่าอยู่นอกเมืองทางด้านเหนือนั้น ก็คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโรงเรียนสุรนารีวิทยาปัจจุบัน (มุมโรงเรียนสุนารีวิทยา ตรงข้ามกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัด)
เนื่องจากเป็นเสาที่ผูกช้างเผือกซึ่งถือว่าเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมือง จึงมีผู้คนไปสักการะกราบไว้ เอาผ้าแพรไปผูก ชาวเมืองเรียกกันว่า หลักช้างเผือก ในช่วงนั้นยังมีลักษณะไม่เป็นศาลเจ้า เป็นเพียงเพิงหลังคาสังกะสีเท่านั้น
ประมาณปี พ.ศ.2504 มีการขยายถนนมิตรภาพด้านหน้าโรงเรียนสุรนารี โดยบริษัทฝรั่งเป็นผู้ก่อสร้างให้รื้อถอนเสาหลักช้างเผือกออก โดยยอมให้มีการตั้งศาลทำพิธีย้ายไปตั้งที่ฝั่งตรงข้าม ในพื้นที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปัจจุบัน ต่อมานายช่างฝรั่งคนนั้นขับรถไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผู้คนเชื่อกันว่า เป็นเพราะไปถอนเสาหลักช้างเผือก
เนื่องจากหลักช้างเผือก เป็นที่เคารพชาวเมือง แต่ตั้งอยู่ในที่ไม่เหมาะสม และมีภูมิทัศน์ที่ไม่สวยงาม จึงย้ายมาตั้งอยู่ตรงมุมถนนมนัสตัดกับถนนพลแสน ในที่สวนสาธารณะริมคูเมืองของเทศบาลนครนครราชสีมาในปัจจุบัน ห่างจากที่เดิมประมาณ 100 เมตร
ต่อมาการตั้งชื่อถนนเส้นจากที่ตั้งเสาหลักช้างเผือกเดิม ซึ่งเริ่มจากถนนมิตรภาพตรงไปผ่านโรงพยาบาลมหาราชถึงบ้านประโดกและบ้านหมื่นไวย จึงให้ชื่อถนนเส้นนี้ว่า ถนนช้างเผือก
อ้างอิง
- ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก, สารสนเทศท้องถิ่นนครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี .สืบค้นเมื่อ 25/9/2565
- ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก, นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๓๐ วันพุธที่ ๓ - วันอังคารที่ ๙ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ .สืบค้นเมื่อ 25/9/2565
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์