ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ตั๊กแตนตำข้าว หรือ ตั๊กแตนต่อยมวย (อังกฤษ: Mantis; ภาษาไทยถิ่นเหนือ: แมงม้า; ภาษาอีสาน: แมงพงม้า) เป็นอันดับของแมลงที่ประกอบไปด้วยแมลงมากกว่า 2,400 ชนิด 460 สกุล ใน 33 วงศ์ พบทั่วไปในภูมิอากาศเขตอบอุ่นและเขตร้อน ส่วนมากอยู่ในวงศ์
ตั๊กแตนตำข้าว ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 145–0Ma ยุคครีเทเชียส–ปัจจุบัน | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์ขาปล้อง |
ชั้น: | แมลง |
อันดับใหญ่: | |
อันดับ: | Mantodea , 1838 |
วงศ์ | |
ดูข้อความ | |
ชื่อพ้อง | |
|
อนุกรมวิธานและวิวัฒนาการ
มีตั๊กแตนตำข้าวมากกว่า 2,400 ชนิด ในประมาณ 430 สกุลเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ ส่วนใหญ่พบในแถบเขตร้อน แต่บางส่วนอาศัยอยู่ในเขตอบอุ่นการจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ของตั๊กแตนตำข้าวยังคงเป็นที่พิพาท โดยตั๊กแตนตำข้าวกับตั๊กแตนกิ่งไม้ () เคยอยู่ในอันดับ ซึ่งอยู่ในอันดับเดียวกันกับแมลงสาบ (ปัจจุบันอยู่ใน Blattodea) และจิ้งหรีดหิมะ (ice crawlers; ปัจจุบันอยู่ใน ) Kristensen (1991) รวม Mantodea ในแมลงสาบและปลวกเข้ากับอันดับ อันดับย่อย Mantodea ชื่อ mantodea มาจากศัพท์ภาษากรีกโบราณว่า μάντις (mantis) หมายถึง "ผู้เผยพระวจนะ" กับ εἶδος (eidos) หมายถึง "รูปร่าง" หรือ "ประเภท" ชื่อถูกตั้งโดยนักกีฏวิทยาชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1838
หนึ่งในการจัดหมวดหมู่แบบแรกสุดที่จัดตั๊กแตนตำข้าวไปอยู่ในวงศ์ต่าง ๆ ได้รับการเสนอโดย Beier ใน ค.ศ. 1968 ซึ่งแบ่งเป็นแปดวงศ์ ภายหลังจัดหมวดหมู่ใหม่เป็น 15 วงศ์ตามแบบเสนอของ Ehrmann ใน ค.ศ. 2002 ใน ค.ศ. 1997 Klass ได้ศึกษาอวัยวะเพศผู้ส่วนนอกและตั้งสมมติฐานว่าวงศ์ กับ มีความแตกต่างจากวงศ์อื่น ๆ ในยุคแรก อย่างไรก็ตาม ตามที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ กับ ถือเป็น (จากหลายสายพันธุ์) ดังนั้น วงศ์ของตั๊กแตนตำข้าวที่ปรับปรุงล่าสุดใน ค.ศ. 2019 มี 29 วงศ์
แผนภาพวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของวงศ์ตั๊กแตนตำข้าว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ลักษณะ
ตั๊กแตนตำข้าว มีอกปล้องแรกยาว มีลักษณะท่าทีชอบยืนขยับตัวขึ้นลง ๆ คล้ายอาการยงโย้ยงหยก จึงได้รับชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า "ตั๊กแตนโยงโย่" หรือ "ตั๊กแตนยงโย้" เนื่องจากมีขาคู่หน้าที่พัฒนาให้กลายเป็นขาหนีบใช้สำหรับจับเหยื่อ เวลาเมื่อไม่ได้ใช้งาน มักจะยกขึ้นประกบกันอยู่ที่ด้านหน้าคล้ายท่ายกมือไหว้หรือการจรดมวย อันเป็นที่มาของชื่อ ส่วนหัวของตั๊กแตนตำข้าว สามารถหมุนคอได้เกือบรอบ 360 องศา จัดเป็นแมลงที่สามารถมองผ่านไหล่ของตัวเองไปด้านหลังได้ นอกจากนี้แล้วยังมีตาเดี่ยวอีกสามดวงตาอยู่ตรงกลางหน้าผากระหว่างตารวมทั้งสองข้าง ตาเดี่ยวทำหน้าที่รับแสงมากกว่ารับภาพเหมือนตารวม
พฤติกรรม
ตั๊กแตนตำข้าวเป็นสัตว์ล่าเหยื่อเท่านั้น ดังนั้นมันจึงมักไม่กินเนื้อที่ไม่ได้ล่ามาด้วยตนเอง แต่ก็มีผู้เลี้ยงตั๊กแตนตำข้าวสามารถป้อนอาหารให้มันได้เป็นสัตว์เลี้ยง แมลงเป็นอาหารหลักของตั๊กแตนตำข้าว แต่ตั๊กแตนตำข้าวที่มีขนาดใหญ่สามารถกินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าได้ เช่น แมงป่อง, สัตว์เลื้อยคลาน, กบ, นก, งูขนาดเล็ก, ปลา แม้กระทั่งแมลงสาบ
ตั๊กแตนตำข้าวสามารถอำพรางตนให้เหมือนกับสิ่งแวดล้อมได้ โดยปกติแล้ว ตั๊กแตนตำข้าวตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้มาก และเมื่อผสมพันธุ์เสร็จแล้ว ตั๊กแตนตำข้าวเป็นแมลงที่มีพฤติกรรมดุร้าย ก้าวร้าว ตัวเมียจะจับตัวผู้กินเป็นอาหารตามสัญชาตญาณ
ตั๊กแตนตำข้าวเป็นแมลงที่มีขั้นตอนการเจริญเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ กล่าวคือไม่มีระยะดักแด้ ตั๊กแตนตำข้าวเมื่อฟักออกจากไข่มีขนาดเล็กมาก รูปร่างคล้ายมด แต่ละครั้งที่มีการลอกคราบขนาดและรูปร่างก็จะเปลี่ยนแปลงไปโดยปีกจะยาวขึ้น หลังการลอกคราบครั้งสุดท้าย 2-3 สัปดาห์ ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับชนิด การผสมพันธุ์อาจใช้เวลานานเป็นวัน หรือแล้วแต่ความพอใจของตั๊กแตนตำข้าว หลังจากการผสมพันธุ์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ตัวเมียจะเริ่มวางไข่เป็นกลุ่มอัดเรียงกันแน่นเป็นฝักซึ่งจะวางได้ติดต่อกันไปได้ 3-6 ฝัก ไข่ฟักเป็นตัวอ่อนภายใน 5-6 สัปดาห์
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-21. สืบค้นเมื่อ 2021-09-22.
- Otte, Daniel; Spearman, Lauren. "Mantodea Species File Online". สืบค้นเมื่อ 17 July 2012.
- Hurd, I. E. (1999). "Ecology of Praying Mantids". ใน Prete, Fredrick R.; Wells, Harrington; Wells, Patrick H.; Hurd, Lawrence E. (บ.ก.). The Praying Mantids. Johns Hopkins University Press. pp. 43–49. ISBN .
- Hurd, I. E. (1999). "Mantid in Ecological Research". ใน Prete, Fredrick R.; Wells, Harrington; Wells, Patrick H.; Hurd, Lawrence E. (บ.ก.). The Praying Mantids. Johns Hopkins University Press. p. 231. ISBN .
- Costa, James (2006). The Other Insect Societies. Harvard University Press. pp. 135–136. ISBN .
- Capinera, John L. (2008). Encyclopedia of Entomology. Vol. 4. Springer. pp. 3033–3037. ISBN .
- Essig, Edward Oliver (1947). College entomology. Macmillan Company. pp. 124, 900. OCLC 809878.
- Harper, Douglas. "mantis". .
- Beier, M. (1968). "Ordnung Mantodea (Fangheuschrecken)". Handbuch der Zoologie. 4 (2): 3–12.
- Ehrmann, R. 2002. Mantodea: Gottesanbeterinnen der Welt. Natur und Tier, Münster.
- Klass, Klaus-Dieter (1997). The external male genitalia and phylogeny of Blattaria and Mantodea. Zoologisches Forschungsinstitut. ISBN .
- Martill, David M.; Bechly, Günter; Loveridge, Robert F. (2007). The Crato Fossil Beds of Brazil: Window into an Ancient World. Cambridge University Press. pp. 236–238. ISBN .
- Schwarz CJ, Roy R (2019) The systematics of Mantodea revisited: an updated classification incorporating multiple data sources (Insecta: Dictyoptera) Annales de la Société entomologique de France (N.S.) International Journal of Entomology 55 [2]: 101–196.
- Grimaldi, David (28 July 2003). "A Revision of Cretaceous Mantises and Their Relationships, Including New Taxa (Insecta: Dictyoptera: Mantodea)". American Museum Novitates (3412): 1–47. doi:10.1206/0003-0082(2003)412<0001:AROCMA>2.0.CO;2. :2246/2838.
- พิสุทธิ์ เอกอำนวย, คู่มือคนรักแมลง 2 การเลี้ยงด้วง (มีนาคม พ.ศ. 2552) หน้า 250. 255 หน้า
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Mantodea ที่วิกิสปีชีส์
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Mantodea
- Mantis Study Group – Information on mantises, phylogenetics and evolution.
- Mantodea Species File
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud tkaetntakhaw hrux tkaetntxymwy xngkvs Mantis phasaithythinehnux aemngma phasaxisan aemngphngma epnxndbkhxngaemlngthiprakxbipdwyaemlngmakkwa 2 400 chnid 460 skul in 33 wngs phbthwipinphumixakasekhtxbxunaelaekhtrxn swnmakxyuinwngstkaetntakhaw chwngewlathimichiwitxyu 145 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N yukhkhriethechiys pccubnkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwkhaplxngchn aemlngxndbihy xndb Mantodea 1838wngsdukhxkhwamchuxphxngManteodea Burmeister 1829 Mantearia Mantopteraxnukrmwithanaelawiwthnakartkaetntakhawekhiywinswnhlngbanthisidniy kh s 2020 mitkaetntakhawmakkwa 2 400 chnid inpraman 430 skulethannthiidrbkaryxmrb swnihyphbinaethbekhtrxn aetbangswnxasyxyuinekhtxbxunkarcaaenkchnthangwithyasastrkhxngtkaetntakhawyngkhngepnthiphiphath odytkaetntakhawkbtkaetnkingim ekhyxyuinxndb sungxyuinxndbediywknkbaemlngsab pccubnxyuin Blattodea aelacinghridhima ice crawlers pccubnxyuin Kristensen 1991 rwm Mantodea inaemlngsabaelaplwkekhakbxndb xndbyxy Mantodea chux mantodea macaksphthphasakrikobranwa mantis mantis hmaythung phuephyphrawcna kb eἶdos eidos hmaythung ruprang hrux praephth chuxthuktngodynkkitwithyachaweyxrmn inpi kh s 1838 hnunginkarcdhmwdhmuaebbaerksudthicdtkaetntakhawipxyuinwngstang idrbkaresnxody Beier in kh s 1968 sungaebngepnaepdwngs phayhlngcdhmwdhmuihmepn 15 wngstamaebbesnxkhxng Ehrmann in kh s 2002 in kh s 1997 Klass idsuksaxwywaephsphuswnnxkaelatngsmmtithanwawngs kb mikhwamaetktangcakwngsxun inyukhaerk xyangirktam tamthikahndiwkxnhnani kb thuxepn cakhlaysayphnthu dngnn wngskhxngtkaetntakhawthiprbprunglasudin kh s 2019 mi 29 wngs aephnphaphwiwthnakarchatiphnthukhxngwngstkaetntakhawMantodea skulthisuyphnthuEumantodea ChaeteessoideaSpinomantodea MantoidoideaSchizomantodea MetallyticoideaArtimantodea Amerimantodea ThespoideaAcanthopoideaCernomantodea Nanomantodea ChroicopteroideaNanomantoideaMetamantodea SUBCLADE Metamantodea lksnatkaetntakhaw mixkplxngaerkyaw milksnathathichxbyunkhybtwkhunlng khlayxakaryngoyynghyk cungidrbchuxeriykeln wa tkaetnoyngoy hrux tkaetnyngoy enuxngcakmikhakhuhnathiphthnaihklayepnkhahnibichsahrbcbehyux ewlaemuximidichngan mkcaykkhunprakbknxyuthidanhnakhlaythaykmuxihwhruxkarcrdmwy xnepnthimakhxngchux swnhwkhxngtkaetntakhaw samarthhmunkhxidekuxbrxb 360 xngsa cdepnaemlngthisamarthmxngphanihlkhxngtwexngipdanhlngid nxkcakniaelwyngmitaediywxiksamdwngtaxyutrngklanghnaphakrahwangtarwmthngsxngkhang taediywthahnathirbaesngmakkwarbphaphehmuxntarwmphvtikrrmtkaetntakhawepnstwlaehyuxethann dngnnmncungmkimkinenuxthiimidlamadwytnexng aetkmiphueliyngtkaetntakhawsamarthpxnxaharihmnidepnstweliyng aemlngepnxaharhlkkhxngtkaetntakhaw aettkaetntakhawthimikhnadihysamarthkinstwxunthimikhnadelkkwaid echn aemngpxng stweluxykhlan kb nk ngukhnadelk pla aemkrathngaemlngsab tkaetntakhawsamarthxaphrangtnihehmuxnkbsingaewdlxmid odypktiaelw tkaetntakhawtwemiycamikhnadihykwatwphumak aelaemuxphsmphnthuesrcaelw tkaetntakhawepnaemlngthimiphvtikrrmduray kawraw twemiycacbtwphukinepnxahartamsychatyan tkaetntakhawepnaemlngthimikhntxnkarecriyetibotthiimsmburn klawkhuximmirayadkaed tkaetntakhawemuxfkxxkcakikhmikhnadelkmak ruprangkhlaymd aetlakhrngthimikarlxkkhrabkhnadaelaruprangkcaepliynaeplngipodypikcayawkhun hlngkarlxkkhrabkhrngsudthay 2 3 spdah chahruxerwkhunxyukbchnid karphsmphnthuxacichewlananepnwn hruxaelwaetkhwamphxickhxngtkaetntakhaw hlngcakkarphsmphnthupraman 1 2 spdah twemiycaerimwangikhepnklumxderiyngknaennepnfksungcawangidtidtxknipid 3 6 fk ikhfkepntwxxnphayin 5 6 spdahxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 09 21 subkhnemux 2021 09 22 Otte Daniel Spearman Lauren Mantodea Species File Online subkhnemux 17 July 2012 Hurd I E 1999 Ecology of Praying Mantids in Prete Fredrick R Wells Harrington Wells Patrick H Hurd Lawrence E b k The Praying Mantids Johns Hopkins University Press pp 43 49 ISBN 978 0 8018 6174 1 Hurd I E 1999 Mantid in Ecological Research in Prete Fredrick R Wells Harrington Wells Patrick H Hurd Lawrence E b k The Praying Mantids Johns Hopkins University Press p 231 ISBN 978 0 8018 6174 1 Costa James 2006 The Other Insect Societies Harvard University Press pp 135 136 ISBN 978 0 674 02163 1 Capinera John L 2008 Encyclopedia of Entomology Vol 4 Springer pp 3033 3037 ISBN 978 1 4020 6242 1 Essig Edward Oliver 1947 College entomology Macmillan Company pp 124 900 OCLC 809878 Harper Douglas mantis Beier M 1968 Ordnung Mantodea Fangheuschrecken Handbuch der Zoologie 4 2 3 12 Ehrmann R 2002 Mantodea Gottesanbeterinnen der Welt Natur und Tier Munster Klass Klaus Dieter 1997 The external male genitalia and phylogeny of Blattaria and Mantodea Zoologisches Forschungsinstitut ISBN 978 3 925382 45 1 Martill David M Bechly Gunter Loveridge Robert F 2007 The Crato Fossil Beds of Brazil Window into an Ancient World Cambridge University Press pp 236 238 ISBN 978 1 139 46776 6 Schwarz CJ Roy R 2019 The systematics of Mantodea revisited an updated classification incorporating multiple data sources Insecta Dictyoptera Annales de la Societe entomologique de France N S International Journal of Entomology 55 2 101 196 Grimaldi David 28 July 2003 A Revision of Cretaceous Mantises and Their Relationships Including New Taxa Insecta Dictyoptera Mantodea American Museum Novitates 3412 1 47 doi 10 1206 0003 0082 2003 412 lt 0001 AROCMA gt 2 0 CO 2 2246 2838 phisuththi exkxanwy khumuxkhnrkaemlng 2 kareliyngdwng minakhm ph s 2552 hna 250 255 hna ISBN 978 974 660 832 9aehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Mantodea thiwikispichis wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Mantodeawikisxrs mibthkhwamcak ekiywkb Mantis Mantis Study Group Information on mantises phylogenetics and evolution Mantodea Species File