บทความนี้ไม่มีจาก |
วิทยาการรหัสลับ (อังกฤษ: cryptography/cryptology) วิชาเกี่ยวกับการเข้ารหัสลับคือการแปลงข้อความปกติให้กลายเป็นข้อความลับ โดยข้อความลับคือข้อความที่ผู้อื่น นอกเหนือจากคู่สนทนาที่ต้องการ ไม่สามารถเข้าใจได้
มนุษย์ได้คิดค้นวิธีการรักษาความลับของเรามาตั้งนาน นับตั้งแต่สมัยจูเลียส ซีซาร์ จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยเข้ารหัสลับและถอดรหัสลับ การเข้ารหัสแบบซีซ่าร์ทำได้โดยการนำตัวอักษรที่อยู่ถัดไปอีกสองตำแหน่งมาแทนที่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการเข้ารหัสคำว่า HELLO เราก็นำตัวอักษรที่ถัดจากตัว H ไปอีกสองตัวนั่นคือตัว J มาแทน ตัว E แทนด้วย G ตัว L แทนด้วย N ตัว O แทนด้วย Q ดังนั้นข้อความ HELLO จึงถูกแปลงให้เป็นคำว่า JGNNQ
การเข้ารหัสลับแตกต่างกับวิทยาการอำพรางข้อมูล ข้อมูลที่ถูกอำพรางนั้นจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง ในขณะที่การเข้ารหัสลับจะเปลี่ยนแปลงข้อมูล
(Modern Cryptography) เป็นวิชาการที่ใช้แนวทางคณิตศาสตร์เพื่อแปลงข้อความปกติให้กลายเป็นข้อความลับ โดยให้เฉพาะคู่สนทนาที่ต้องการสามารถอ่านเข้าใจได้เท่านั้น ขั้นตอนวิธีของการเข้ารหัสลับสมัยใหม่ ได้แก่ Data Encryption Standard, Advanced Encryption Standard หรือ One-Time Padding ฯลฯ
หลักการเบื้องต้นของการเข้ารหัสลับ ประการแรกคือ ขั้นตอนวิธีต้องเป็นที่รู้โดยทั่วไป และประการต่อมา รหัสจะต้องใหม่เสมอ
ระบบการเข้ารหัสข้อมูล
เป็นกระบวนการสำหรับการแปรรูปข้อมูลเล็กทรอนิกส์ธรรมดาให้อยู่ในรูปที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถอ่านเข้าใจได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเข้ารหัสจะกระทำก่อนการจัดเก็บข้อมูลหรือก่อนการส่งข้อมูล โดยการนำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ธรรมดากับกุญแจ (key) ซึ่งเป็นตัวเลขสุ่มใดๆ มาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผลที่ได้ก็คือข้อมูลที่เข้ารหัส ขั้นตอนที่กล่าวมานี้จะเรียกว่า “การเข้ารหัส” (encryption) และเมื่อต้องการอ่านข้อมูล ก็นำเอาข้อมูลที่เข้ารหัสกับกุญแจมาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือข้อมูลดั้งเดิม ซึ่งขั้นตอนนี้จะเรียกว่า “การถอดรหัส” (decryption) ระบบเข้ารหัสสามารถแบ่งตามวิธีการใช้กุญแจได้เป็น 2 วิธีดังนี้
- ระบบเข้ารหัสแบบกุญแจสมมาตร (symmetric-key cryptography) คือการเข้ารหัสข้อมูลด้วยกุญแจเดี่ยว ทั้งผู้ส่งและผู้รับ โดยวิธีการนี้ผู้รับกับผู้ส่งต้องตกลงกันก่อนว่าจะใช้รูปแบบไหนในการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งรูปแบบไหนในการเข้ารหัสข้อมูลที่ผู้รับกับผู้ส่งตกลงกันแท้ที่จริงก็คือ กุญแจลับ นั่นเอง เช่น ผู้ส่งกับผู้รับตกลงจะใช้เทคนิดการแทนที่ตัวอักษรที่อยู่ถัดไป 1 ตำแหน่ง เช่น ถ้าเห็นตัวอักษร A ก็ให้เปลี่ยนไปเป็น B หรือเห็นตัวอักษร B ก็ให้เปลี่ยนไปเป็น C เป็นต้น นั้นก็คือผู้ส่งกับผู้รับตกลงใช้รูปแบบนี้เป็นกุญแจลับ
- ระบบเข้ารหัสแบบกุญแจอสมมาตร (asymmetric-key cryptography หรือ Public Key Technology) ระบบการเข้ารหัสแบบนี้ได้ถูกคิดค้นโดย นายวิทฟิลด์ ดิฟฟี (Whitfield Diffie) ซึ่งเป็นนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2518 โดยการเข้ารหัสแบบนี้จะใช้หลักกุญแจคู่ทำการเข้ารหัสและถอดรหัส โดยกุญแจคู่ที่ว่านี้จะประกอบไปด้วย กุญแจส่วนตัว (private key) และกุญแจสาธารณะ (public key) โดยหลักการทำงานจะทำดังนี้ ถ้าใช้กุญแจลูกใดเข้ารหัส ก็ต้องใช้กุญแจอีกลูกหนึ่งถอดรหัส สำหรับการเข้ารหัสและถอดรหัสด้วยกุญแจคู่นี้จะใช้ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยโดยที่ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ที่นำมาใช้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจะมีเฉพาะกุญแจคู่ของมันเท่านั้นที่จะสามารถถอดรหัสได้ ไม่สามารถนำกุญแจคู่อื่นมาถอดรหัสได้อย่างเด็ดขาด
ดูเพิ่ม
- การเข้ารหัส
- เครื่องอินิกมา
- (Symmetric Key Cryptosystem)
- การเข้ารหัสแบบกุญแจอสมมาตร (Asymmetric Key Cryptosystem)
- วิทยาการอำพรางข้อมูล
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir withyakarrhslb xngkvs cryptography cryptology wichaekiywkbkarekharhslbkhuxkaraeplngkhxkhwampktiihklayepnkhxkhwamlb odykhxkhwamlbkhuxkhxkhwamthiphuxun nxkehnuxcakkhusnthnathitxngkar imsamarthekhaicid mnusyidkhidkhnwithikarrksakhwamlbkhxngeramatngnan nbtngaetsmycueliys sisar cnkrathngthungpccubnthiichkhxmphiwetxrmachwyekharhslbaelathxdrhslb karekharhsaebbsisarthaidodykarnatwxksrthixyuthdipxiksxngtaaehnngmaaethnthi yktwxyangechn thatxngkarekharhskhawa HELLO eraknatwxksrthithdcaktw H ipxiksxngtwnnkhuxtw J maaethn tw E aethndwy G tw L aethndwy N tw O aethndwy Q dngnnkhxkhwam HELLO cungthukaeplngihepnkhawa JGNNQ karekharhslbaetktangkbwithyakarxaphrangkhxmul khxmulthithukxaphrangnncaimthukepliynaeplng inkhnathikarekharhslbcaepliynaeplngkhxmul Modern Cryptography epnwichakarthiichaenwthangkhnitsastrephuxaeplngkhxkhwampktiihklayepnkhxkhwamlb odyihechphaakhusnthnathitxngkarsamarthxanekhaicidethann khntxnwithikhxngkarekharhslbsmyihm idaek Data Encryption Standard Advanced Encryption Standard hrux One Time Padding l hlkkarebuxngtnkhxngkarekharhslb prakaraerkkhux khntxnwithitxngepnthiruodythwip aelaprakartxma rhscatxngihmesmxrabbkarekharhskhxmulepnkrabwnkarsahrbkaraeprrupkhxmulelkthrxniksthrrmdaihxyuinrupthibukhkhlthwipimsamarthxanekhaicid sungodythwipaelwkarekharhscakrathakxnkarcdekbkhxmulhruxkxnkarsngkhxmul odykarnakhxmulxielkthrxniksthrrmdakbkuyaec key sungepntwelkhsumid maphankrabwnkarthangkhnitsastr phlthiidkkhuxkhxmulthiekharhs khntxnthiklawmanicaeriykwa karekharhs encryption aelaemuxtxngkarxankhxmul knaexakhxmulthiekharhskbkuyaecmaphankrabwnkarthangkhnitsastr phllphththiidkkhuxkhxmuldngedim sungkhntxnnicaeriykwa karthxdrhs decryption rabbekharhssamarthaebngtamwithikarichkuyaecidepn 2 withidngni rabbekharhsaebbkuyaecsmmatr symmetric key cryptography khuxkarekharhskhxmuldwykuyaecediyw thngphusngaelaphurb odywithikarniphurbkbphusngtxngtklngknkxnwacaichrupaebbihninkarekharhskhxmul sungrupaebbihninkarekharhskhxmulthiphurbkbphusngtklngknaeththicringkkhux kuyaeclb nnexng echn phusngkbphurbtklngcaichethkhnidkaraethnthitwxksrthixyuthdip 1 taaehnng echn thaehntwxksr A kihepliynipepn B hruxehntwxksr B kihepliynipepn C epntn nnkkhuxphusngkbphurbtklngichrupaebbniepnkuyaeclb rabbekharhsaebbkuyaecxsmmatr asymmetric key cryptography hrux Public Key Technology rabbkarekharhsaebbniidthukkhidkhnody naywithfild diffi Whitfield Diffie sungepnnkwicyaehngmhawithyalysaetnfxrd shrthxemrika inpi ph s 2518 odykarekharhsaebbnicaichhlkkuyaeckhuthakarekharhsaelathxdrhs odykuyaeckhuthiwanicaprakxbipdwy kuyaecswntw private key aelakuyaecsatharna public key odyhlkkarthangancathadngni thaichkuyaeclukidekharhs ktxngichkuyaecxiklukhnungthxdrhs sahrbkarekharhsaelathxdrhsdwykuyaeckhunicaichfngkchnthangkhnitsastrekhamachwyodythifngkchnthangkhnitsastrthinamaich idrbkarphisucnaelwwacamiechphaakuyaeckhukhxngmnethannthicasamarththxdrhsid imsamarthnakuyaeckhuxunmathxdrhsidxyangeddkhadduephimkarekharhs ekhruxngxinikma Symmetric Key Cryptosystem karekharhsaebbkuyaecxsmmatr Asymmetric Key Cryptosystem withyakarxaphrangkhxmulaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb withyakarrhslb bthkhwamethkhonolyi hrux singpradisthniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk