มะพร้าวแฝด | |
---|---|
ผลมะพร้าวแฝด | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | พืช (Plantae) |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Liliopsida |
อันดับ: | |
วงศ์: | Arecaceae |
วงศ์ย่อย: | Coryphoideae |
เผ่า: | |
สกุล: | Lodoicea Comm. ex DC. |
สปีชีส์: | L. maldivica |
ชื่อทวินาม | |
Lodoicea maldivica () | |
ชื่อพ้อง | |
|
มะพร้าวแฝด, ตาลทะเล, มะพร้าวตูดนิโกร หรือ มะพร้าวทะเล มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า Coco de mer แปลว่า "มะพร้าวทะเล" สาเหตุที่ถูกขนานอย่างนี้ก็เพราะว่า พวกเดินเรือในอดีตจะพบลูกมะพร้าวทะเลอยู่ในมหาสมุทร แต่ไม่มีใครเห็นพบเห็นต้นของมัน จึงสันนิษฐานว่าคงมีต้นอยู่ใต้ทะเล บ้างก็ไปไกลยิ่งกว่านั้น คือเชื่อว่าคงเป็นผลไม้จากสวรรค์แน่ ๆ และอาจจะเป็นผลไม้แห่งความอมตะที่อีฟ ภรรยาอาดัม ถูกหลอกให้กินก็ได้ นาน ๆ ครั้งจะมีผู้พบเห็นมะพร้าวทะเลถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง มะพร้าวทะเลจึงกลายเป็นของแปลกและหายากยิ่งกว่าเพชรพลอย และแน่นอนผลไม้พิสดารนี้ก็จะถูกนำไปถวายให้แก่คนที่สำคัญที่สุดในแผ่นดิน นั่นคือกษัตริย์หรือสุลต่าน ไว้ประดับบารมีหรือเป็นยาวิเศษรักษาสารพัดโรค
ประวัติ
กษัตริย์ในมาลดีฟออกกฎว่า ผู้ใดพบเห็นมะพร้าวทะเล แล้วไม่นำไปถวายพระองค์จะถูกลงอาญาถึงขั้นประหารชีวิต มะพร้าวทะเลจะพบมากที่สุดในทะเลตามหมู่เกาะมัลดีฟ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนเรียกชื่อมะพร้าวทะเลนี้ว่า มะพร้าวมัลดีฟ เช่นกัน นอกจากนี้ยังพบในทะเลแถวอารเบีย ศรีลังกา และอินเดียใต้ เกาะสุมาตรา และชายฝั่งแหลมมลายูอีกด้วย แต่เนื่องจากเจอแถวหมู่เกาะมัลดีฟมากกว่าที่อื่น จึงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์เป็นภาษาละตินอีกว่า Lodoicea maldivica
ในอดีตราชินีแห่งโปรตุเกสเคยสั่งให้นำมะพร้าวทะเลไปถวายพระองค์บ่อยครั้ง แม้แต่กษัตริย์รูดอล์ฟก็ยังทรงเคยจ่ายทองจำนวน 4000 ฟลอรีน (ฟลอรีนละ 3.88 กรัมรวมเป็นทองหนัก 15,522 กรัม หรือประมาณ 9.4 ล้านบาท) เพื่อซื้อมะพร้าวทะเลเพียงใบเดียวจากครอบครัวของกัปตันวอลเฟิร์ท เฮอร์มันส์เซน (Wolfert Hermanszen) ชาวดัทช์ ซึ่งกัปตันคนนี้ได้รับราชทานลูกมะพร้าวทะเลนั้นจาก สุลต่านฮาโญโกรวาตี (Sultan Hanyokrowati ทรงมีพระนามเดิมว่า มัสโจลัง Mas Jolang) กษัตริย์แห่งบันตัม บนเกาะชวาตะวันตก (ครองราชย์ระหว่างปี 1601-1613 มีพระชนมายุเพียง 11 พรรษาเมื่อขึ้นครองราชย์) เนื่องจากกัปตันวอลเฟิร์ทได้ช่วยต่อสู้ เพื่อขับไล่ทัพเรือโปรตุเกสออกจากปีค.ศ. 1602 แต่กลับต้องตกภายใต้ฮอลแลนด์ในเวลาต่อมา
ชาวมลายูในอดีตเชื่อว่า มะพร้าวทะเลมีต้นเพียงต้นเดียวอยู่ใต้ทะเล ซึ่งอยู่ในเขตทะเลใต้ ที่สะดือทะเลมีน้ำวน มียอดขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งพญาครุฑใช้ทำรัง ต้นไม้นี้ว่านามว่าปาโอะห์ ญังกี (Pauh Janggi) แปลว่า มะม่วงญังกี ซึ่งกลายเป็นนิยายที่ใช้เล่น
มีบางครั้งบางคราวที่คนเถื่อนเก็บลูกมะพร้าวทะเลได้จากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสุมาตรา แล้วเอามาขายในเมืองปาดัง (Padang) และ ปรีอามัง (Priamang) บรรดาเจ้าชายมลายูยอมจ่ายในราคามหาศาลเพื่อให้ได้ครอบครองผลไม้วิเศษนี้ ในอินเดียเรียกมะพร้าวทะเลว่า ดัรยาย นาริยาล (แปลว่า มะพร้าวแห่งทะเล) ต่อมาเพี้ยนเป็น ญาฮารี ในสำเนียงบอมเบย์ ซึ่งแปลว่า "มีพิษ" พวกจึงท้าทายพิษของมันด้วยการเอากะลามาทำเป็นภาชนะใส่อาหาร ชาวฮินดูในอินเดียเอามะพร้าวตั้งแท่นแล้วกราบไหว้บูชาเสมือนเป็นโยนีของเจ้าแม่ (Philip Rawson, Tantra: Indian Cult of Ecstasy, p. 23) ในภาษามัลดีฟเรียกมะพร้าวทะเลนี้ว่า ตาวา กัรฮี (Tava Karhi) ซึ่งคำว่า กัรฮี แปลว่า มะพร้าว มะพร้าวทะเลนี้มีรูปร่างเหมือนมะพร้าวแฝด สองลูกติดกัน อังกฤษเรียกมะพร้าวทะเลอย่างง่าย ๆ ว่า ดับเบิลโคโคนัท (Double coconut) แปลว่า มะพร้าวคู่ ชาวมัลดีฟใช้มะพร้าวทะเลนี้ทำเป็นอาหารและเครื่องดื่ม และเชื่อว่าเป็นยาทิพย์รักษาสารพัดโรค สามารถแก้พิษ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นไวอากร้าของสมัยนั้น
มะพร้าวทะเลที่พบในอารเบียคงถูกนำเข้าไปถวายสุลต่านแห่งออตโตมาน เพื่อทำเครื่องประดับและทำลูกประคำ มีชื่อในภาษาตุรกีว่า กูกา ซึ่งชาวไทยเชื้อสายมลายูยืมคำนี้มาใช้ เรียกว่า โขะขะ
ในอัมสเตอร์ดัม ปี ค.ศ. 1634 Augerius Clutius ได้พิมพ์หนังสือเกี่ยวกับผลไม้ประหลาดนี้
แต่แล้ววันหนึ่งความลับของมะพร้าวทะเลก็ถูกเปิดเผย เมื่อชาวอังกฤษได้เดินทางกับเรือ Ascension และเรือ Good Hope เพื่อไปอินเดียตะวันออก ได้มาถึงเกาะ ซีเชลเลส ในปี ค.ศ. 1609 แต่ในครั้งนั้น อังกฤษไม่ได้จับจองหมู่เกาะในซีเชลเลสเป็นของพวกตน
ในปี ค.ศ. 1742 ชาวฝรั่งเศสชื่อ Lazare Picault ได้มาถึงเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะซีเชเลส แล้วตั้งชื่อเกาะนั้นว่า Mahe ซึ่งเป็นชื่อของ Mahe de Labourdonnais ผู้ว่าการในเวลานั้น ที่ได้ส่งเขามาที่เกาะนี้ 14 ปีต่อมา Mahe และเกาะอื่น ๆ ก็ถูกจับจองให้เป็นของกษัตริย์ฝรั่งเศส แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า Isle Sechelles ซึ่งภายหลังกลายเป็นชื่อหมู่เกาะแห่งนี้
ในปี ค.ศ. 1768 ชาวฝรั่งเศสได้เข้าจับจองเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ และตั้งชื่อเกาะนี้ว่า ปรัสลีน Praslin อันเป็นชื่อของรัฐมนตรีเดินเรือ นั่นคือดุ๊กแห่งปรัสลิน (Duke of Praslin) ส่วน Curieuse อันเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปรัสลีน เป็นชื่อเรือซึ่งพวกเขาใช้โดยสารมาถึงเกาะในครั้งนั้น เมื่อนั้นปริศนาของมะพร้าวทะเลก็ถูกคลี่คลาย นั่นก็เพราะว่า พวกเขาพบต้นมะพร้าวทะเลบนเกาะทั้งสอง และเริ่มเข้าใจว่า ลูกมะพร้าวแฝดที่ตกลงไปในทะเลนั้นเองที่ลอยข้ามมหาสมุทรอินเดียจนถึงมัลดีฟ ศรีลังกา และอินเดีย กัปตันชาวตะวันตกคนหนึ่งบรรทุกมะพร้าวทะเลเต็มลำเรือเพื่อเอาไปขาย ตั้งแต่นั้นมาปริศนามะพร้าวทะเลก็คลี่คลาย ราคาของมะพร้าววิเศษก็ตกไปด้วย
ในปี ค.ศ. 1772 ชาวฝรั่งเศสได้นำทาสเข้ามาทำการเพาะปลูกเครื่องเทศบนเกาะ และเริ่มกลายเป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่นั้นมา
ปัจจุบัน
ในวันนี้ราคาของมะพร้าวทะเลก็ยังแพงอยู่ จากการตรวจราคาการประมูลในอีเบย์พบว่า ตกใบละ 1000-1500 ดอลลาร์สหรัฐ
มะพร้าวทะเลได้รับการกล่าวถึงในหนังสือกินเนสว่าเป็นเมล็ดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักถึงลูกละ 20 กิโลกรัม กว่าผลจะสุกต้องใช้เวลา 7 ปี กว่าจะเติบโตออกดอกออกผลได้ต้องมีอายุ 20 ปีถึง 40 ปี และมีอายุยืนถึง 400 ปี แบ่งออกเป็นเพศผู้และเพศเมีย ผลตั้งบนดินหนึ่งปีถึงจะมีรากแก้วงอกออกมาแล้วชอนไชเข้าไปในดิน มีความยาวหลายฟุต ก่อนที่จะเริ่มมีใบออกมาปีละ 1 ใบ เพศผู้มีลำต้นสูงถึง 30 เมตร ในปี ค.ศ. 1983 องค์การยูเนสโกได้ระบุให้ Valee de Mai ป่าที่มีต้นมะพร้าวทะเลขึ้น เป็นป่าสงวน
สำหรับในประเทศไทย มะพร้าวทะเลมีปลูกและครอบครองเพียงไม่กี่แห่ง ได้แก่ สวนนงนุช ที่พัทยา ซึ่งสามารถเพาะขยายพันธุ์ได้สำเร็จ นับเป็นเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถทำเช่นนี้ได้ และสวนแสนปาล์ม ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และมีราคาซื้อขายที่แพงมาก เคยมีการตั้งราคาขายเฉพาะกะลาที่แห้งแล้วไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้ถึงลูกละ 26,000 บาท
ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวทะเล
ในอดีตผู้คนนิยมเอากะลาของมะพร้าวทะเลไปทำเป็นลูกประคำ เรียกในภาษามลายูว่า Buah tasbih koka (ลูกประคำโขะขะ) หรือแบ่งเป็นสองซีก เพื่อทำเป็นภาชนะเรียกว่า กัชกูล ซึ่งพวกฟากีรหรือพวกขอทานจะใช้เหมือนบาตร เพื่อขออาหารจากชาวบ้าน
ลูกประคำโขะขะที่ใช้ในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ไม่ได้ทำมาจากลูกมะพร้าวทะเลจริง แต่ทำมาจากลูกปาล์มชนิดหนึ่ง ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่ มีกะลาหนามาก ผลิตในตุรกี อิรัก โดยส่งเข้าซีเรีย ซึ่งมีรูปแบบสวยงาม ส่วนที่ผลิตในอิยิปต์ก็มีรูปแบบที่ไม่ค่อยสวยมากนัก นักศึกษาไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียในประเทศอาหรับ จะพาลูกประคำเหล่านี้มาขายในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีใครทราบว่า ลูกประคำเหล่านั้นไม่ได้ทำมาจากมะพร้าวทะเลจริง
มีความเชื่องมงายเกี่ยวกับลูกประคำโขะขะหลายอย่าง เช่น เป็นเครื่องรางของขลัง เป็นยารักษาโรค บางคนซื้อลูกปาล์มดังกล่าวจากประเทศอาหรับกลับมาเจียระไนทำเป็นลูกประคำ โดยสำคัญผิดคิดว่าเป็นลูกมะพร้าวทะเล ซึ่งพวกเขาจะเก็บขี้เลื่อยมาขายเป็นยารักษาสารพัดโรค
อ้างอิง
- www.ku.ac.th 2006-12-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Fleischer-Dogley, F., Huber, M.J. & Ismail, S. (2011). "Lodoicea maldivica". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2011.1. สืบค้นเมื่อ 10 November 2011.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - ปฏิบัติการกู้ชีพ มะพร้าวทะเล, คอลัมน์ V.I.P. (Very Important Plant) โดย กิตติพงษ์ จารุธาณินทร์ หน้า 118-127 นิตยสาร Aquarium Biz ฉบับที่ 22 ปีที่ 2: เมษายน 2012
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Lodoicea maldivica ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
maphrawaefdphlmaphrawaefdsthanakarxnurksiklsuyphnthu IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr phuch Plantae hmwd Magnoliophytachn Liliopsidaxndb wngs Arecaceaewngsyxy Coryphoideaeepha skul Lodoicea Comm ex DC spichis L maldivicachuxthwinamLodoicea maldivica chuxphxngBorassus sonneratii Giseke Cocos maldivica J F Gmel Cocos maritima Comm ex H Wendl Lodoicea callypige Comm ex J St Hil Lodoicea sechellarum Labill Lodoicea sonneratii Giseke Baill maphrawaefd talthael maphrawtudniokr hrux maphrawthael michuxinphasafrngesswa Coco de mer aeplwa maphrawthael saehtuthithukkhnanxyangnikephraawa phwkedineruxinxditcaphblukmaphrawthaelxyuinmhasmuthr aetimmiikhrehnphbehntnkhxngmn cungsnnisthanwakhngmitnxyuitthael bangkipiklyingkwann khuxechuxwakhngepnphlimcakswrrkhaen aelaxaccaepnphlimaehngkhwamxmtathixif phrryaxadm thukhlxkihkinkid nan khrngcamiphuphbehnmaphrawthaelthukkhlunsdekhafng maphrawthaelcungklayepnkhxngaeplkaelahayakyingkwaephchrphlxy aelaaennxnphlimphisdarnikcathuknaipthwayihaekkhnthisakhythisudinaephndin nnkhuxkstriyhruxsultan iwpradbbarmihruxepnyawiessrksasarphdorkhprawtikstriyinmaldifxxkkdwa phuidphbehnmaphrawthael aelwimnaipthwayphraxngkhcathuklngxayathungkhnpraharchiwit maphrawthaelcaphbmakthisudinthaeltamhmuekaamldif dwyehtunicungmikhneriykchuxmaphrawthaelniwa maphrawmldif echnkn nxkcakniyngphbinthaelaethwxarebiy srilngka aelaxinediyit ekaasumatra aelachayfngaehlmmlayuxikdwy aetenuxngcakecxaethwhmuekaamldifmakkwathixun cungmichuxthangwithyasastrepnphasalatinxikwa Lodoicea maldivica inxditrachiniaehngoprtueksekhysngihnamaphrawthaelipthwayphraxngkhbxykhrng aemaetkstriyrudxlfkyngthrngekhycaythxngcanwn 4000 flxrin flxrinla 3 88 krmrwmepnthxnghnk 15 522 krm hruxpraman 9 4 lanbath ephuxsuxmaphrawthaelephiyngibediywcakkhrxbkhrwkhxngkptnwxlefirth ehxrmnsesn Wolfert Hermanszen chawdthch sungkptnkhnniidrbrachthanlukmaphrawthaelnncak sultanhaoyokrwati Sultan Hanyokrowati thrngmiphranamedimwa msoclng Mas Jolang kstriyaehngbntm bnekaachwatawntk khrxngrachyrahwangpi 1601 1613 miphrachnmayuephiyng 11 phrrsaemuxkhunkhrxngrachy enuxngcakkptnwxlefirthidchwytxsu ephuxkhbilthpheruxoprtueksxxkcakpikh s 1602 aetklbtxngtkphayithxlaelndinewlatxma chawmlayuinxditechuxwa maphrawthaelmitnephiyngtnediywxyuitthael sungxyuinekhtthaelit thisaduxthaelminawn miyxdkhunehnuxna sungphyakhruthichtharng tnimniwanamwapaoxah yngki Pauh Janggi aeplwa mamwngyngki sungklayepnniyaythiicheln mibangkhrngbangkhrawthikhnethuxnekblukmaphrawthaelidcakfngtawntkechiyngitkhxngsumatra aelwexamakhayinemuxngpadng Padang aela prixamng Priamang brrdaecachaymlayuyxmcayinrakhamhasalephuxihidkhrxbkhrxngphlimwiessni inxinediyeriykmaphrawthaelwa dryay nariyal aeplwa maphrawaehngthael txmaephiynepn yahari insaeniyngbxmeby sungaeplwa miphis phwkcungthathayphiskhxngmndwykarexakalamathaepnphachnaisxahar chawhinduinxinediyexamaphrawtngaethnaelwkrabihwbuchaesmuxnepnoynikhxngecaaem Philip Rawson Tantra Indian Cult of Ecstasy p 23 inphasamldiferiykmaphrawthaelniwa tawa krhi Tava Karhi sungkhawa krhi aeplwa maphraw maphrawthaelnimiruprangehmuxnmaphrawaefd sxngluktidkn xngkvseriykmaphrawthaelxyangngay wa dbebilokhokhnth Double coconut aeplwa maphrawkhu chawmldifichmaphrawthaelnithaepnxaharaelaekhruxngdum aelaechuxwaepnyathiphyrksasarphdorkh samarthaekphis aelathisakhythisudkhuxepniwxakrakhxngsmynn maphrawthaelthiphbinxarebiykhngthuknaekhaipthwaysultanaehngxxtotman ephuxthaekhruxngpradbaelathalukprakha michuxinphasaturkiwa kuka sungchawithyechuxsaymlayuyumkhanimaich eriykwa okhakha phlmaphrawaefdthiotetmthi pxkepluxkaelw inxmsetxrdm pi kh s 1634 Augerius Clutius idphimphhnngsuxekiywkbphlimprahladni aetaelwwnhnungkhwamlbkhxngmaphrawthaelkthukepidephy emuxchawxngkvsidedinthangkberux Ascension aelaerux Good Hope ephuxipxinediytawnxxk idmathungekaa siechlels inpi kh s 1609 aetinkhrngnn xngkvsimidcbcxnghmuekaainsiechlelsepnkhxngphwktn inpi kh s 1742 chawfrngesschux Lazare Picault idmathungekaathiihythisudinhmuekaasiechels aelwtngchuxekaannwa Mahe sungepnchuxkhxng Mahe de Labourdonnais phuwakarinewlann thiidsngekhamathiekaani 14 pitxma Mahe aelaekaaxun kthukcbcxngihepnkhxngkstriyfrngess aelwtngchuxihmwa Isle Sechelles sungphayhlngklayepnchuxhmuekaaaehngni inpi kh s 1768 chawfrngessidekhacbcxngekaaaehnghnung sungimmiphukhnxasyxyu aelatngchuxekaaniwa prslin Praslin xnepnchuxkhxngrthmntriedinerux nnkhuxdukaehngprslin Duke of Praslin swn Curieuse xnepnekaaelk thixyuthangtawnxxkechiyngehnuxkhxngprslin epnchuxeruxsungphwkekhaichodysarmathungekaainkhrngnn emuxnnprisnakhxngmaphrawthaelkthukkhlikhlay nnkephraawa phwkekhaphbtnmaphrawthaelbnekaathngsxng aelaerimekhaicwa lukmaphrawaefdthitklngipinthaelnnexngthilxykhammhasmuthrxinediycnthungmldif srilngka aelaxinediy kptnchawtawntkkhnhnungbrrthukmaphrawthaeletmlaeruxephuxexaipkhay tngaetnnmaprisnamaphrawthaelkkhlikhlay rakhakhxngmaphrawwiessktkipdwy inpi kh s 1772 chawfrngessidnathasekhamathakarephaaplukekhruxngethsbnekaa aelaerimklayepnthixyuxasytngaetnnmapccubninwnnirakhakhxngmaphrawthaelkyngaephngxyu cakkartrwcrakhakarpramulinxiebyphbwa tkibla 1000 1500 dxllarshrth maphrawthaelidrbkarklawthunginhnngsuxkinenswaepnemldphlimthiihythisudinolk minahnkthunglukla 20 kiolkrm kwaphlcasuktxngichewla 7 pi kwacaetibotxxkdxkxxkphlidtxngmixayu 20 pithung 40 pi aelamixayuyunthung 400 pi aebngxxkepnephsphuaelaephsemiy phltngbndinhnungpithungcamirakaekwngxkxxkmaaelwchxnichekhaipindin mikhwamyawhlayfut kxnthicaerimmiibxxkmapila 1 ib ephsphumilatnsungthung 30 emtr inpi kh s 1983 xngkhkaryuensokidrabuih Valee de Mai pathimitnmaphrawthaelkhun epnpasngwn sahrbinpraethsithy maphrawthaelmiplukaelakhrxbkhrxngephiyngimkiaehng idaek swnnngnuch thiphthya sungsamarthephaakhyayphnthuidsaerc nbepnephiyngimkiaehnginolkthisamarththaechnniid aelaswnaesnpalm thixaephxkaaephngaesn cnghwdnkhrpthm aelamirakhasuxkhaythiaephngmak ekhymikartngrakhakhayechphaakalathiaehngaelwimsamarthnaipephaaplukidthunglukla 26 000 bathphlitphnthcakmaphrawthaelinxditphukhnniymexakalakhxngmaphrawthaelipthaepnlukprakha eriykinphasamlayuwa Buah tasbih koka lukprakhaokhakha hruxaebngepnsxngsik ephuxthaepnphachnaeriykwa kchkul sungphwkfakirhruxphwkkhxthancaichehmuxnbatr ephuxkhxxaharcakchawban lukprakhaokhakhathiichinpraethsithy maelesiy aelaxinodniesiy imidthamacaklukmaphrawthaelcring aetthamacaklukpalmchnidhnung sungmikhnadihyethaikhik mikalahnamak phlitinturki xirk odysngekhasieriy sungmirupaebbswyngam swnthiphlitinxiyiptkmirupaebbthiimkhxyswymaknk nksuksaithy maelesiy aelaxinodniesiyinpraethsxahrb caphalukprakhaehlanimakhayinpraethsithy maelesiy aelaxinodniesiy sungswnihyimmiikhrthrabwa lukprakhaehlannimidthamacakmaphrawthaelcring mikhwamechuxngmngayekiywkblukprakhaokhakhahlayxyang echn epnekhruxngrangkhxngkhlng epnyarksaorkh bangkhnsuxlukpalmdngklawcakpraethsxahrbklbmaeciyrainthaepnlukprakha odysakhyphidkhidwaepnlukmaphrawthael sungphwkekhacaekbkhieluxymakhayepnyarksasarphdorkhxangxingwww ku ac th 2006 12 13 thi ewyaebkaemchchinFleischer Dogley F Huber M J amp Ismail S 2011 Lodoicea maldivica IUCN Red List of Threatened Species Version 2011 1 subkhnemux 10 November 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint multiple names authors list lingk ptibtikarkuchiph maphrawthael khxlmn V I P Very Important Plant ody kittiphngs caruthaninthr hna 118 127 nitysar Aquarium Biz chbbthi 22 pithi 2 emsayn 2012aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Lodoicea maldivica khxmulthiekiywkhxngkb Lodoicea maldivica thiwikispichis