กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 海上自衛隊; โรมาจิ: Kaijō Jieitai) มีชื่อเรียกอย่างง่ายว่า กองทัพเรือญี่ปุ่น เป็นกองกำลังที่ก่อตั้งขึ้นหลังการยุบกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งเป็นสอง
กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น | |
---|---|
海上自衛隊 | |
ประจำการ | 1 กรกฎาคม 1954 |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
รูปแบบ | กองทัพเรือ |
บทบาท | |
กำลังรบ | กำลังพล 50,800 นาย เรือมากกว่า 150 ลำ อากาศยาน 346 ลำ |
ขึ้นกับ | กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น |
กองบัญชาการ | เขตชินจูกุ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
เพลงหน่วย | |
Fleet | เรือบรรทุกอากาศยานเบา 1 ลำ เรือดำน้ำ 19 ลำ เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เรือพิฆาต 26 ลำ เรือฟริเกต 10 ลำ เรือพิฆาตคุ้มกัน 6 ลำ เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ 3 ลำ เรือกวาดทุ่นระเบิด 30 ลำ เรือตรวจการณ์ 6 ลำ เรือฝึก 8 ลำ (เรือช่วยรบ 21 ลำ) |
เว็บไซต์ | www |
ผู้บังคับบัญชา | |
จอมทัพ | นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | พลเอก |
ผู้บัญชาการทหารเรือ | พลเรือเอก |
เครื่องหมายสังกัด | |
ธงผู้บังคับการเรือ | |
ธงกองทัพเรือ |
กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลก็ค่อย ๆ เติบโตบวกกับประสบการณ์การสร้างเรือรบมาตลอดของญี่ปุ่น ทำให้วันนี้กองทัพเรือญี่ปุ่นหรือกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล เป็นกองทัพเรือที่ทันสมัยอย่างมากและมีเรือรบที่เพียงพอต่อยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศญี่ปุ่น
การจัดวางกำลัง
ประเทศญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่มาก ๆ ถึง 4 เกาะและเกาะเล็ก ๆ อีกสามพันกว่า ๆ มีทะเลล้อมรอบทั้งทะเลญี่ปุ่นที่ใกล้ทวีปเอเซีย และทางมหาสมุทรแปซิฟิค ที่เป็นทะเลเปิด เพราะฉะนั้น กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จึงต้องจัดวางกำลังและขีดความสามารถในการป้องกันตนเองให้มากที่สุด กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีกำลังพลประมาณ 45,800 นาย
กองเรือภาคที่ 1 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ โยโกซูกะ ซึ่งรับผิดชอบด้านตะวันออกและตอนกลางของเกาะญี่ปุ่นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค
กองเรือภาคที่ 2 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ ซาเซโบะ รับผิดชอบทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะญี่ปุ่นหรือทะเลญี่ปุ่นตอนล่าง
กองเรือภาคที่ 3 มีฐานทัพเรืออยู่ 2 แห่งคือที่ มาอิซุรุ และ โอมินาโตะ มีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของญี่ปุ่นที่ติดทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น และตอนเหนือของญี่ปุ่นคือรอบ ๆ เกาะฮกไกโด
กองเรือภาคที่ 4 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ คุเระ มีพื้นที่รับผิดชอบตอนกลางช่วงล่างของญี่ปุ่นและพื้นที่โดยรอบเกาะชิโกกุ ที่ติดกับฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค
เรือรบ
กองเรือหลักป้องกันตนเอง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 กองเรือหลัก ในแต่ละกองเรือหลักจะมีอยู่ 2 หมวดเรือ ซึ่งจะกระจายไปในกองเรือภาคและฐานทัพเรือประจำภาคต่าง ๆ มีหน้าที่หลักโดยตรงก็คือป้องกันตนเอง รักษาดูแลน่านน้ำรอบ ๆ เกาะญี่ปุ่น ปกป้องผละประโยชน์และทรัพยาการทางทะเลเหมือนกับกองทัพเรือของทุกประเทศนั่น การจัดกำลังหมวดเรือจะมี เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (DDH) , เรือพิฆาต (หนัก) ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG), เรือพิฆาต (DD) รวมถึงเรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต (DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ กองเรือประจำภูมิภาค ซึ่งอาจจะคล้าย ๆ กับภารกิจกองเรือตรวจอ่าวของบ้านเรา กองเรือประจำภูมิภาคจะมีอยู่ 5 หมวดเรือซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคและฐานทัพเรือทั้ง 5 ฐานทัพเรือและรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ จากภูมิศาสตร์ที่เป็นเกาะ ซึ่งจะมีหน้าที่ลาดตระเวนตรวจการณ์หรืออาจร่วมกับกองเรือหลักป้องกันตนเอง เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เรือที่มีขนาดใหญ่และมี เช่น เรือพิฆาต (DD) และ เรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต (DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ เป็นกองกำลัง
กองเรือดำน้ำ ของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะมีอยู่ 2 กองเรือดำน้ำคือกองเรือดำน้ำที่1 (หมวด 1, 3 และ5) กับกองเรือดำน้ำที่ 2 (หมวด 2 และ 4) หมวดละ 3-4 ลำ ซึ่งกองเรือดำน้ำญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำประจำการอยู่ทั้งหมด 17 ลำ (อนาคตเพิ่มอีก 3 ลำ) ซึ่งถือว่ามากพอสมควรนะครับ มีฐานทัพอยู่ 2 แห่งคือ โยโกซูกะ ที่กองเรือดำน้ำที่ 2 ใช้เป็นฐานทัพและ คิเระ ที่มีกองเรือดำน้ำที่ 1 ประจำการอยู่และอย่างที่ทราบเรือดำน้ำทุกลำผลิตเองใช้งานในประเทศ
กองเรือกวาดทุ่นระเบิด ถือว่าเป็นกองเรือที่มีความจำเป็นต่อทุกกองทัพเรือนอกเหนือจากเรือรบหลัก เพราะสงครามทุ่นระเบิดก็มีผลมากถ้าถูกปิดล้อมโดยการวางทุ่นระเบิด ถึงแม้รอบ ๆ เกาะญี่ปุ่นจะเป็นทะเลเปิดแต่ก็มีบางพื้นที่ถ้าถูกปิดอย่างทะเลญี่ปุ่นก็จะส่งผลต่อการเดินทางทางทะเล กองเรือกวาดทุ่นระบิดของของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนเรือกวาดทุ่นระเบิด, เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่งและเรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง รวม ๆ กันประมาณ 30 ลำซึ่งกองเรือกวาดทุ่นระเบิดจะมีฐานทัพอยู่ที่โยโกซูกะ และ คิเระ เหมือนกับกองเรือดำน้ำ
กองเรือยกพลขึ้นบกและลำเลียง จะเป็นกองเรือที่ให้การสนับสนุนการรบยกพลขึ้นบกทั้งทหารราบและรถถัง ยานเกราะขนาดต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งมีเรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่ (LST) จำนวน 3 ลำสามารถบรรทุก ยาน LCAC รถถังและยานเกราะ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์, เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LSU), เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (LCU) อย่างละ 2 ลำ, เรือระบายพลขนาดต่าง ๆ (LCM) รวมถึงยานสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC) อีก 6 ลำ ซึ่งกองเรือยกพลจะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะ และบางส่วนก็กระจายไปตามอีก 4 ฐานทัพเรือที่เหลือ
กองเรือสนับสนุน จะเป็นกองเรือสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ (AMS) , เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) ซึ่งเรือทั้งสองประเภทสามารถส่งเสบียงและเติมน้ำมันได้ในกลางทะเล มีไม่กี่ประเทศที่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งที่มีศักยภาพด้านนี้นะครับ นอกจากนี้ก็ยังมี เรือตัดน้ำแข็ง (AGB), เรือสำรวจทะเลลึกและเรืออุทกศาสตร์ (AGS-ASE), เรือกู้ภัยช่วยเหลือโดยใช้เรือดำน้ำและเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR-AS) และเรือประเภทต่าง ๆ สำหรับใช้งานในการสนับสนุน ซึ่งกองเรือสนับสนุนนี้จะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะและฐานทัพเรืออื่น ๆ ตามภารกิจ
กองเรือฝึก จะมีหน้าที่สำหรับฝึกฝึกนักเรียนนายเรือและกำลังพลโดยเฉพาะ ซึ่งทางกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือที่ออกแบบมาเป็นเรือฝึกโดยตรงอยู่ 1 ลำ และก็ได้ทำการปรับปรุงเรือพิฆาตชั้น ฮัทซูยุกิ และ อซากิริ อย่างละ 2 ลำมาปรับปรุงเป็นเรือฝึก ซึ่งกำลังพลหรือนักเรียนนายเรือ สามารถทำการฝึกฝนได้เหมือนจริง เพราะระบบอาวุธและระบบต่าง ๆ ก็ไม่แตกต่างจากเรือรบหลักที่ประจำการเท่าไหร่ รวมไปถึงการปรับปรุงเรือดำน้ำชั้น ฮารุชิโอะ 2 ลำให้เป็นเรือดำน้ำฝึกด้วย เพื่อสร้างศักยภาพให้กำลังพลเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ยังกองบัญชาการฝึกทางเรือและทางอากาศ และหน่วยงานด้านอื่น ๆ
กำลังรบทางเรือของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะประกอบด้วย
เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (DDH) 4 ลำ
(ชั้น Hyuga 2 ลำและชั้น Shirane 2 ลำ)
ชั้น Hyuga
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 13,950 ตัน เต็มที่ 19,000 ตัน
- ความยาว 197 เมตร กว้าง 33 เมตร
- เครื่องจักร
- เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ จำนวน 4 เครื่องขนาด 75,000 KW มีเพลาใบจักร 2 เพลา
- ความเร็ว
- 30 นอต
- ระบบอำนวยการรบ
ATECS (advanced technology command system)
- OYQ-10 advanced combat direction system
- FCS-3 AAW system
- OQQ-21 ASW system
- NOLQ-3C EW system
- OPS-20C surface search radar
ระบบอาวุธ
- MK 41 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM-139 VL ASROC
ระวางขับน้ำ 18,000 ตัน(สูงสุด)
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำแฝดสาม 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนกลขนาด 12.7 มม.
เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH-60 3 เครื่อง
- MCH-101 1 เครื่อง
ชั้น Shirane
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 5,200 ตัน เต็มที่ 7,500 ตัน
- เครื่องจักร
- เครื่องยนต์กังหันไอน้ำเทอร์โบชาร์จ 2 ตัวและเครื่องยนต์เทอร์ไบน์อีก 2 ตัว ให้กำลังขนาด 52 MW โดยมีเพลาใบจักร 2 เพลา
- ความเร็ว
31 นอต
- ระบบอาวุธ
- อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยใกล้แบบ Sea Sparrow Missile บนแท่นยิง 8 ท่อยิง
- จรวดปราบเรือดำน้ำ ASROC MK 112 (8 ท่อยิง)
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ MK 32 จำนวน 2 แท่นยิง,
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Mark 42 จำนวน 2 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 3 เครื่อง
เรือพิฆาต (หนัก) ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) 8 ลำ
(ชั้น Kongo 4 ลำ, ชั้น Atago 2 ลำ, ชั้น Tachikaze 2 ลำ)
ชั้น Kongo
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 7,500 ตัน เต็มที่ 9,500 ตัน
- เครื่องจักร
- เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ขนาด 75 MW มีเพลาใบจักร 2 เพลา
- มีความยาว 161 เมตร กว้าง 21 เมตร
- ความเร็ว
- 30 นอต
- ระบบอำนวยการรบ
- AN/SPY-1D
- OPS-28 surface search radar
- OQS-102 bow mounted sonar
- Electronic warfare
& decoys: NOLQ-2 intercept / jammer
- ระบบอาวุธ
- อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon 2 แท่น ๆ ละ 4 ท่อยิง
- ระบบแท่นยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard และรุ่น SM 3 Standard IA (หัวเรือ 29 ลูกและท้ายเรือ 61 ลูก) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM VL 139 ASROC (ยิงแนวดิ่ง)
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Oto-Breda จำนวน 1 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้น Atago
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 7,700 ตัน เต็มที่ 10,000+ ตัน
- มีความยาว 170 เมตร กว้าง 21 เมตร
- เครื่องจักร
ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ขนาด 75 MW มีเพลาใบจักร 2 เพลา
- ความเร็ว
- 30 นอต
- ระบบอำนวยการรบ
processing systems: AN/SPY-1D(V) radar OPS-28E surface search radar AN/SQS-53C sonar
3 x AN/SPG-62 FCS AN/SQQ-89 Mk 46 Optronic director Mk 160 FCS Mk 116 FCS Electronic warfare & decoys: ESM/ECM:NOLQ-2 4 x Mark 36 SRBOC
- ระบบอาวุธ
- อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90) ที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ
- ระบบแท่นยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS ใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard (หัวเรือ 64 ลูกและท้ายเรือ 32 ลูก) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC (ยิงแนวดิ่ง)
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) MK 45 Mod 4,จำนวน 1 กระบอกและปืน 12.7 มม.
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้น Tachikaze
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 4,700 ตัน
- ความยาว 150 เมตร กว้าง 16.4 เมตร
- เครื่องจักร
เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Spey และ Rolsl-Royce Olympus อย่างละ 2 เครื่องมีเพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 54,000 KW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต
- ระบบอาวุธ
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ2 แท่น ๆ ละ 4 ท่อยิง
- อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard บนแท่นยิงเดี่ยว
- จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Mark 42 จำนวน 2 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DD) 33 ลำ
(ชั้นMurasame 9 ลำ, ชั้นTakanami 5 ลำ, ชั้น Asagirii 6 ลำ ชั้น Akizuki 4 ลำ)
ชั้น Murasame
- ขนาด
- ระวางขับน้ำปกติ 4,550 ตัน เต็มที่ 6,100 ตัน
- มีความยาว151 เมตร กว้าง 17.4 เมตร
- เครื่องจักร
- ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Kawasaki Rolls-Royce Spey และ Ishikawajima Harima LM-2500 อย่างละ 2 เครื่องและ 2 เพลา
- ระบบอาวุธ
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90)
- ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 48 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile)
- ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 VL ASROC
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ปืนใหญ่ขนาด 76 มม. OTO Melara 3 จำนวน 1 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้นTakanami
- ระวางขับน้ำปกติ 4,650 ตัน เต็มที่ 6,300 ตัน
- มีความยาว151 เมตร กว้าง 17.4 เมตร
- เครื่องจักร
- ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Kawasaki Rolls-Royce Spey และ Ishikawajima Harima LM-2500 อย่างละ 2 เครื่องและ 2 เพลา
- ระบบอาวุธ
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B
- ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 32 ท่อยิงใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile)
- จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 VL ASROC, ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- เรือพิฆาต (เบา) หรือเรือฟริเกต (DE) 6 ลำ
- ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) รุ่นOto-Breda จำนวน 1 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้นAsagiri
- ระวางขับน้ำปกติ 3,500 ตัน เต็มที่ 4,900 ตัน
- มีความยาว 137 เมตร กว้าง 14.6 เมตร
- เครื่องจักร
ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง เครื่องมีเพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 54,000 KW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต
- ระบบอาวุธ
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ 2 แท่น ๆ ละ 4 ท่อยิง
- อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยใกล้แบบ Sea Sparrow Missile Mark 29 บนแท่นยิง 8 ท่อ
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC และตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ HOS-301 จำนวน 2 แท่นยิง
- ปืนใหญ่ขนาด 76 มม. Otobreda จำนวน 1 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้น Akizuki
- ระวางขับน้ำปกติ 5,000 ตัน เต็มที่ 6,800 ตัน
- มีความยาว 150.5 เมตร กว้าง 18.3 เมตร
- เครื่องจักร
- เคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่องเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต
- ระบบอำนวยการรบ
- ATECS (advanced technology command system)
- OYQ-11 ACDS
- FCS-3A AAW system
- OQQ-22 ASW system
- NOLQ-3D EW system
- ระบบอาวุธ
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น Type 90 ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ 2 แท่น ๆ ละ 4 ท่อยิง
- ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 32 ท่อยิงใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile)
- จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC (DD 115) และ Type07 VL-ASROC (DD 116 to DD 118)
- ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ
- ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ HOS-301 จำนวน 2 แท่นยิง
- ปืนใหญ่ขนาด 127 มม. caliber Mark 45 จำนวน 1 กระบอก
- เฮลิคอปเตอร์ประจำบนเรือ
- SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
ชั้น Abukuma
6 ลำ
- เริ่มประจำการปี 1989
- ระวางขับน้ำ 2000 ตัน
- ระวางขับน้ำเต็มที่ 2,550 ตัน
- อาวุธ ปืนเรือ 76 มม., อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon 2 ท่อยิง 8 ลูก, ASROC 8 ลูก, ตอร์ปิโดแบบ HOS-301 2 แท่นยิง 6 ลูก, Phalanx CIWS 1 ระบบ
เรือตรวจการณ์ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (PG)
ชั้น Hayabusa
- เรือตรวจการณ์ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (Guided Missile Patrol craft) ชั้น Hayabusa เรือตรวจการ หรือ Patrol Boats (PB)-(PG) ความเร็วสูง ของญี่ปุ่น
Hayabusa ถูกสร้างตั้งแต่ปี 2000 ถึงปี 2004 โดยทาง JMSDF ตั้งใจจะเอามาทดแทน PG 1 Go ที่ไม่เหมาะกับทะเลเปิดขนาดใหญ่แบบญี่ปุ่น (PG 1 Go ที่ได้แบบมาจาก Sparviero-class ของอิตาลีนั้น เหมาะกับทะเลปิดมากกว่าโดยตัวเรือนั้น ถูกต่อขึ้นที่อู่ ชิโมโนะเซกิ(Shimonoseki) ซึ่งเป็นอู่เอกชนขนาดเล็ก (แต่เป็นคนละอู่กับที่สร้าง เรือเร็วโจมตีขีปนาวุธ PG 1 Go) โดยเริ่มต้นวางกระดูกงู ในเดือน พฤศจิกายน ปี 2000 และทยอยต่อเข้าประจำการ จนครบ 6 ลำในเดือน มีนาคม ปี 2004 เพื่อลบข้อด้อยของ PG 1 Go ที่มีขนาดเล็ก ทางผู้ออกแบบจึงได้ขยายแบบเรือ ให้ใหญ่ขึ้น 4 เท่าติดอาวุธให้หนักขึ้น และใช้เครืองยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้น โดยได้นำระบบ Water Jet ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ใหม่มากๆ ในสมัยนั้นมาใช้ จึงทำให้ Hayabusa เป็นเรือเร็วโจมตี ติดอาวุธปล่อยนำวิถี ที่ทำความเร็วสูงและมีอาวุธที่หนักมากในยุคนั้น
- ระบบอาวุธ Weapon systems
มีระบบอาวุธปล่อยพื้น-สู่-พื้น แบบท่อคู่ SSM 1 B (Type 90 ship-to-ship missile) ซึ่งมีช่วงหมัดยาวถึง 200 km แต่มีน้ำหนักเพียง 260 kg เท่านั้น สำหรับทำลายเรือรบ, ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda รุ่น super rapid จำนวน 1 กระบอก และปืนกลขนาด 12.7 มม จำนวน 2 กระบอก
- ระบบตรวจจับ Sensors / radars
เรดาร์JRC OPS-20 ที่มีรูปแบบเป็น I-band ที่คลื่นความถี่ 8 ถึง 10 GHz
- ระบบขับเคลื่อน Propulsion
เรือชั้น Hayabusa มีระวางขับน้ำสูงสุด 240 ตัน มีความยาว 50.1 เมตรและกว้าง 8.4 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ General electric LM 500-G07 Gas-turbine จำนวน 3 เครื่อง สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 46 นอต(ประมาณ 85 กม.ต่อชั่วโมง) มีพลประจำเรือ 21 นาย เรือชั้นนี้ถูกสร้างขึ้นมา จำนวนทั้งสิ้น 6 ลำคือ PG 824 Hayabusa,PG 825 Wakataka,PG 826 Otaka,PG 827 Kumataka,PG 828 Umitaka และ PG 829 Shirataka
- Hayabusa class Patrol boats
- PG-824 - PG-829
- เริ่มประจำการปี 2002
- จำนวน 6ลำ
- ข้อมูลเรือ
- ผู้สร้าง MHI's Shimonoseki Shipyard & Machinery Works
- ยาว 50.1 ม.
- กว้าง 8.4 ม.
- กินน้ำลึก 1.7 ม.
- ระวางขับน้ำ ปกติ 200 ตัน, สูงสุด 240 ตัน
- ระบบขับเคลื่อน แก๊สเทอร์ไบน์ 3 เครื่อง
- ความเร็ว 46 น็อต
- ระวางขับน้ำ 200 ตัน
- อาวุธ ปืนประจำเรือขนาด 76มม., ปืนกล 12.7มม. 2 กระบอก, ขีปนาวุธโจมตีเรือ SSM-1B 4 ลูก
- เป้าลวง Mk 36 decoys จำนวน 2 ชุด
เรือสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิด (MST-MCL) 4 ลำ (ชั้น Uraga มี 2 ลำ, ชั้น Nijima มี 1 ลำ, ชั้น Ieshima มี 1 ลำ) เรือดำน้ำ (SS) 17 ลำ (ชั้น Soiyu 4 ลำ, ชั้น Harushio 2 ลำ, ชั้น Oyashio 11 ลำ)
เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง (ทะเลลึก) (MSO) 3 ลำ (ชั้น Yaeyama มี 3 ลำ)
เรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง (MSC) 19 ลำ (ชั้น Sugashima 12 ลำ, ชั้น Uwajima 7 ลำ)
เรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่ (LST) 3 ลำ (ชั้น Osumi 3 ลำ)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LSU) 2 ลำ (ชั้น Yura 2 ลำ)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (LCU) 2 ลำ (ชั้น I-Go 2 ลำ)
เรือระบายพล (LCM) 12 ลำ (LCM ชั้น YF 2121 จำนวน 10 ลำ, LCM ชั้น YF 2150 จำนวน 2 ลำ)
ยานเบาะอากาศสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC) 6 ลำ
เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ (AMS) 5 ลำ (ชั้น Hiuchi 5 ลำ)
เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) 5 ลำ (ชั้น Mashu 2 ลำ, ชั้น Towada 3 ลำ)
เรือสำรวจอุทกศาสตร์ (AGS) 4 ลำ เรือสำรวจทางทะเล (ASE) 2 ลำ เรือตัดน้ำแข็ง (AGB) 1 ลำ เรือสำหรับวางเคเบิลใต้น้ำ (ARC) 1 ลำ เรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR) 1 ลำ เรือสนับสนุนกู้ภัยเรือดำน้ำ (AS) 1 ลำ
เรือฝึก (TV) 5 ลำ (ชั้น Kashima 1 ลำ, ชั้น Hatsuyuki 2 ลำ, ชั้น Asagiri 2 ลำ)
เรือดำน้ำฝึก (TSS) 2 ลำ (ชั้น Harushio 2 ลำ)
เรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนการฝึก (ATS) 2 ลำ (ชั้น Tenryu 1 ลำ, ชั้น Kurobe 1 ลำ)
เรือรบในอนาคต
- เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นฮารุกะ (ปล่อยลงน้ำ 1 ลำส่วนอีกลำกำลังก่อสร้างคาดว่าจะปล่อยลงน้ำในปี 2009)
- เรือพิฆาต 5000 ตัน (4 ลำกำลังก่อสร้าง)
- เรือดำน้ำชั้นโซริว (ปล่อยลงน้ำ1ลำกำลังก่อสร้าง 2 ลำ 1 ลำกำลังวางแผน)
- เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ 22DDH DDH -183 (วางแผนต่อ 2 ลำ วางกระดูกแล้ว 1 ลำ คาดแล้วเสร็จปี 2015)
อากาศยาน
กองบินนาวีของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (JMSDF)
นอกจากกำลังทางเรือแล้วก็ยังมีกำลังทางอากาศในส่วนของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น หรือเรียกกันเข้าใจง่าย ๆ ว่า กองบินนาวี ซึ่งมีสำนักงานหรือกองบัญชาการตั้งอยู่ที่ อัทซูกิ และมีฐานบินอยู่ถึง 7 แห่ง คือ อัทซูกิ, เคโนยะ, ฮาชิโนเฮะ, นาฮา, ทาเทะยะมะ, โอมูระ และอิวาคูนิ ซึ่งส่วนใหญ่มีภารกิจตรวจการณ์ทางทะเล ค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ลำเลียงทางยุทธวิธี ปราบเรือดำน้ำอย่างเช่น เครื่องบิน P 3 C Orion ที่มีประจำการถึง 80 เครื่อง (ประเทศไทยมีใช้งานตั้ง 3 เครื่อง) หรือ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J/K Seahawk ที่มีประจำการแค่ 130 เครื่องกองบินนาวีของญี่ปุ่นถือว่าเป็นกองบินนาวีที่มีขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งของโลกซึ่งแบ่งออกเป็น
อากาศยาน | ประเภท | รุ่น | ประจำการ | หมายเหตุ | ||
---|---|---|---|---|---|---|
Fixed-wing aircraft | ||||||
ลาดตระเวนทางทะเล ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลาดตระเวน ทดสอบอาวุธ ฝึกลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ | P-3C EP-3C OP-3C UP-3C UP-3D | 80 5 4 1 3 | *P-3C ต่อต้านเรือเรือดำน้ำและต่อต้านเรือรบ | |||
ลาดตระเวนทางทะเล | XP-1 | 2 | มีแผนจะนำมาทดแทน P-3C ทั้งหมด | |||
เครื่องบินขนส่ง | YS-11T | 3 | มีแผนจะทดแทนด้วยเครื่องบิน KC-130R | |||
เติมน้ำมันทางอากาศ | KC-130R | 6 ลำที่ปลดประจำการ ได้รับการปรับปรุงกลับเข้าประจำการ | ||||
เครื่องบินขนส่ง | U-36A | 4 | ||||
เครื่องบินขนส่ง/สื่อสาร เครื่องบินฝึก | LC-90 TC-90 | 5 27 | ||||
เครื่องบินฝึก | T-5 | 50 | ||||
ค้นหาและกู้ภัย | US-1A | 2 | ||||
ชินเมวะ ยูเอส-2 | ค้นหาและกู้ภัย | US-2 | 5 | ทดแทนเครื่องบิน US-1A | ||
เฮลิคอปเตอร์ | ||||||
ลาดตระเวนทางทะเล | SH-60J SH-60K | 97 | ต่อต้านเรือดำน้ำ | |||
เฮลิคอปเตอร์กวาดทุ่นระเบิด | MH-53E | 10 | ||||
เฮลิคอปเตอร์กวาดทุ่นระเบิด เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง | MCH-101 CH-101 | 7 | 7 ลำและมีคำสั่งซื้อเพิ่ม ทดแทน MH-53E | |||
เฮลิคอปเตอร์ฝึก | OH-6D OH-6J | 5 4 | ||||
เฮลิคอปเตอร์ฝึก | TH-135 | 6 | 9 ลำและมีคำสั่งซื้อเพิ่ม | |||
ค้นหาและกู้ภัย | UH-60J | 19 |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- "History - Japanese Maritime Self Defense Force". Japan Ministry of Defense. สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.
- "C㎩qFM[Fʐ^M[Fq́i͒j". สืบค้นเมื่อ 25 December 2014.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-22. สืบค้นเมื่อ 25 December 2014.
- "Flightglobal - World Air Forces 2015" (PDF). .
- Kyle, Mizokami (16 October 2016). "Sorry, China: Why the Japanese Navy is the Best in Asia". The National Interest. สืบค้นเมื่อ 5 June 2020.
- "Japan> National Security> Self-Defense Forces> Early Development". . สืบค้นเมื่อ 9 May 2015.
- "World Air Forces 2013".
- Kyle Mizokami (2012-02-27). . Japan Security Watch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-03.
- Sale Gives New Life to Excess C-130s 2019-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Defense-Aerospace.com, March 7, 2013
อ่านเพิ่ม
- Agawa, Naoyuki. Friendship across the Seas: The US Navy and the Japan Maritime Self-Defense Force. Tokyo: Japan Publishing Industry Foundation for Culture, 2019. ISBN
- Auer, James. The Postwar Rearmament of Japanese Maritime Forces, 1945–1971. New York: Praeger, 1973. ISBN
- Auer, James. "Japan's Changing Defense Policy," The New Pacific Security Environment. Ralph A. Cossa, ed. Wash. D.C.: , 1993.
- , February 1992.
- 17 August 1991
- . "Japan’s Response to Terror: Dispatching the SDF to the Arabian Sea," , 43:2 (March/April 2003).
- Rubinstein, G.A. and J. O'Connell. "Japan's Maritime Self-Defense Forces," Naval Forces. 11: 2 (1990).
- Sekino, Hideo. "Japan and Her Maritime Defense," , (May 1971).
- Sekino, Hideo. "A Diagnosis of our Maritime Self-Defense Force," Sekai no Kansen (Ships of the World), November 1970.
- Takei, Tomohisa,"Japan Maritime Self Defense Force in the New Maritime Era," 2018-12-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Hatou, 34: 4(November 2008).
- Tsukigi, Shinji, "External and Internal Factors Shaping The Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF)." Monterey, Cal.: , June 1993. Master's thesis.
- Wile, Ted Shannon. Sealane Defense: An Emerging Role for the JMSDF?. Master's Thesis, (1981).
- Woolley, Peter J (1996). "Japan's 1991 Minesweeping Decision: An Organizational Response". . 36 (8): 804–817. doi:10.1525/as.1996.36.8.01p0159v.
- . Japan’s Navy: Politics and Paradox 1971–2000. London: Lynne-Reinner: 2000. ISBN
- Yamaguchi, Jiro. "The Gulf War and the Transformation of Japanese Constitutional Politics," , Vol. 18 (Winter 1992).
- Young, P. Lewis. "The Japanese Maritime Self-Defense Forces: Major Surface Combatants Destroyers and Frigates," Asian Defense Journal (1985).
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น
- JMSDF ที่ยูทูบ
- Japan Maritime Self-Defense Force News[]
- Japan Maritime Self-Defense Force (English)
- JMSDF overview at GlobalSecurity
- Introduction of a paper "JMSDF in the New Maritime Era"
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kxngkalngpxngkntnexngthangthaelkhxngyipun yipun 海上自衛隊 ormaci Kaijō Jieitai michuxeriykxyangngaywa kxngthpheruxyipun epnkxngkalngthikxtngkhunhlngkaryubkxngthpheruxckrwrrdiyipunhlngsngkhramolkkhrngepnsxngkxngkalngpxngkntnexngthangthaelyipun海上自衛隊pracakar1 krkdakhm 1954 69 pikxn 1954 07 01 praeths yipunrupaebbkxngthpheruxbthbathkalngrbkalngphl 50 800 nay eruxmakkwa 150 la xakasyan 346 lakhunkbkxngkalngpxngkntnexngyipunkxngbychakarekhtchincuku otekiyw praethsyipunephlnghnwyFleeteruxbrrthukxakasyaneba 1 la eruxdana 19 la eruxbrrthukehlikhxpetxr 2 la eruxphikhat 26 la eruxfriekt 10 la eruxphikhatkhumkn 6 la eruxykphlkhunbkkhnadihy 3 la eruxkwadthunraebid 30 la eruxtrwckarn 6 la eruxfuk 8 la eruxchwyrb 21 la ewbistwww wbr mod wbr go wbr jp wbr msdf wbr en wbr phubngkhbbychacxmthphnaykrthmntri fumioxa khichidaphubychakarthharsungsudphlexkphubychakarthhareruxphleruxexkekhruxnghmaysngkdthngphubngkhbkareruxthngkxngthpherux kxngkalngpxngkntnexngthangthaelkkhxy etibotbwkkbprasbkarnkarsrangeruxrbmatlxdkhxngyipun thaihwnnikxngthpheruxyipunhruxkxngkalngpxngkntnexngthangthael epnkxngthpheruxthithnsmyxyangmakaelamieruxrbthiephiyngphxtxyuththsastrpxngknpraethsyipunkarcdwangkalngpraethsyipunepnhmuekaa miekaakhnadihymak thung 4 ekaaaelaekaaelk xiksamphnkwa mithaellxmrxbthngthaelyipunthiiklthwipexesiy aelathangmhasmuthraepsifikh thiepnthaelepid ephraachann kxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF cungtxngcdwangkalngaelakhidkhwamsamarthinkarpxngkntnexngihmakthisud kxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF mikalngphlpraman 45 800 nay kxngeruxphakhthi 1 mithanthpheruxxyuthi oyoksuka sungrbphidchxbdantawnxxkaelatxnklangkhxngekaayipunthitidkbmhasmuthraepsifikh kxngeruxphakhthi 2 mithanthpheruxxyuthi saesoba rbphidchxbthangtawntkechiyngitkhxngekaayipunhruxthaelyipuntxnlang kxngeruxphakhthi 3 mithanthpheruxxyu 2 aehngkhuxthi maxisuru aela oxminaota miphunthirbphidchxbkhrxbkhlumphunthitxnklangkhxngyipunthitidthangfngthaelyipun aelatxnehnuxkhxngyipunkhuxrxb ekaahkikod kxngeruxphakhthi 4 mithanthpheruxxyuthi khuera miphunthirbphidchxbtxnklangchwnglangkhxngyipunaelaphunthiodyrxbekaachiokku thitidkbfngmhasmuthraepsifikheruxrbkxngeruxhlkpxngkntnexng sungmixyuthnghmd 4 kxngeruxhlk inaetlakxngeruxhlkcamixyu 2 hmwderux sungcakracayipinkxngeruxphakhaelathanthpheruxpracaphakhtang mihnathihlkodytrngkkhuxpxngkntnexng rksaduaelnannarxb ekaayipun pkpxngphlapraoychnaelathrphyakarthangthaelehmuxnkbkxngthpheruxkhxngthukpraethsnn karcdkalnghmwderuxcami eruxphikhatbrrthukehlikhxpetxr DDH eruxphikhat hnk tidxawuthplxynawithi DDG eruxphikhat DD rwmthungeruxphikhatebahruxcdxyupraephtheruxfriekt DE inxtrahmwdla 3 4 la kxngeruxpracaphumiphakh sungxaccakhlay kbpharkickxngeruxtrwcxawkhxngbanera kxngeruxpracaphumiphakhcamixyu 5 hmwderuxsungpracakarxyuinphumiphakhaelathanthpheruxthng 5 thanthpheruxaelarbphidchxbinaetlaphunthi cakphumisastrthiepnekaa sungcamihnathiladtraewntrwckarnhruxxacrwmkbkxngeruxhlkpxngkntnexng ephraachanncungtxngicheruxthimikhnadihyaelami echn eruxphikhat DD aela eruxphikhatebahruxcdxyupraephtheruxfriekt DE inxtrahmwdla 3 4 la epnkxngkalng kxngeruxdana khxngkxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF camixyu 2 kxngeruxdanakhuxkxngeruxdanathi1 hmwd 1 3 aela5 kbkxngeruxdanathi 2 hmwd 2 aela 4 hmwdla 3 4 la sungkxngeruxdanayipunmieruxdanapracakarxyuthnghmd 17 la xnakhtephimxik 3 la sungthuxwamakphxsmkhwrnakhrb mithanthphxyu 2 aehngkhux oyoksuka thikxngeruxdanathi 2 ichepnthanthphaela khiera thimikxngeruxdanathi 1 pracakarxyuaelaxyangthithraberuxdanathuklaphlitexngichnganinpraeths kxngeruxkwadthunraebid thuxwaepnkxngeruxthimikhwamcaepntxthukkxngthpheruxnxkehnuxcakeruxrbhlk ephraasngkhramthunraebidkmiphlmakthathukpidlxmodykarwangthunraebid thungaemrxb ekaayipuncaepnthaelepidaetkmibangphunthithathukpidxyangthaelyipunkcasngphltxkaredinthangthangthael kxngeruxkwadthunrabidkhxngkhxngkxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF mieruxphieliyngaelasnbsnuneruxkwadthunraebid eruxkwadthunraebidiklfngaelaeruxkwadthunraebidiklfng rwm knpraman 30 lasungkxngeruxkwadthunraebidcamithanthphxyuthioyoksuka aela khiera ehmuxnkbkxngeruxdana kxngeruxykphlkhunbkaelalaeliyng caepnkxngeruxthiihkarsnbsnunkarrbykphlkhunbkthngthharrabaelarththng yanekraakhnadtang tamkhwamehmaasm sungmieruxsngkhramsaethinnasaethinbkkhnadihy LST canwn 3 lasamarthbrrthuk yan LCAC rththngaelayanekraa rwmthungehlikhxpetxr eruxykphlkhunbkkhnadihy LSU eruxykphlkhunbkkhnadklang LCU xyangla 2 la eruxrabayphlkhnadtang LCM rwmthungyansaethinnasaethinbk LCAC xik 6 la sungkxngeruxykphlcamithanthphhlkxyuthi oyoksuka aelabangswnkkracayiptamxik 4 thanthpheruxthiehlux kxngeruxsnbsnun caepnkxngeruxsnbsnunindantang echn eruxsngkalngbarungkhnadihy AMS eruxetimnamnkhnadihy AOE sungeruxthngsxngpraephthsamarthsngesbiyngaelaetimnamnidinklangthael miimkipraethsthisamarththapharkicaebbniid praethsithykepnhnungthimiskyphaphdanninakhrb nxkcaknikyngmi eruxtdnaaekhng AGB eruxsarwcthaellukaelaeruxxuthksastr AGS ASE eruxkuphychwyehluxodyicheruxdanaaelaeruxkuphyeruxdana ASR AS aelaeruxpraephthtang sahrbichnganinkarsnbsnun sungkxngeruxsnbsnunnicamithanthphhlkxyuthi oyoksukaaelathanthpheruxxun tampharkic kxngeruxfuk camihnathisahrbfukfuknkeriynnayeruxaelakalngphlodyechphaa sungthangkxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF mieruxthixxkaebbmaepneruxfukodytrngxyu 1 la aelakidthakarprbprungeruxphikhatchn hthsuyuki aela xsakiri xyangla 2 lamaprbprungepneruxfuk sungkalngphlhruxnkeriynnayerux samarththakarfukfnidehmuxncring ephraarabbxawuthaelarabbtang kimaetktangcakeruxrbhlkthipracakarethaihr rwmipthungkarprbprungeruxdanachn haruchioxa 2 laihepneruxdanafukdwy ephuxsrangskyphaphihkalngphleruxdana nxkcakni yngkxngbychakarfukthangeruxaelathangxakas aelahnwyngandanxun kalngrbthangeruxkhxngkxngkalngpxngkntnexngthangeruxkhxngyipun JMSDF caprakxbdwy eruxphikhatbrrthukehlikhxpetxr DDH 4 la chn Hyuga 2 laaelachn Shirane 2 la chn Hyuga khnadrawangkhbnapkti 13 950 tn etmthi 19 000 tn khwamyaw 197 emtr kwang 33 emtrekhruxngckrekhruxngyntaeksethxribn canwn 4 ekhruxngkhnad 75 000 KW miephlaibckr 2 ephlakhwamerw30 nxtrabbxanwykarrb ATECS advanced technology command system OYQ 10 advanced combat direction system FCS 3 AAW system OQQ 21 ASW system NOLQ 3C EW system OPS 20C surface search radar rabbxawuth MK 41 VLS canwn 16 thxyingichsahrbxawuthplxynawithiphun su xakasaebb ESSM Evolved Sea Sparrow Missile aelacrwdpraberuxdana RUM 139 VL ASROC rawangkhbna 18 000 tn sungsud txrpiodpraberuxdanaaefdsam 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punklkhnad 12 7 mm ehlikhxpetxrpracabnerux SH 60 3 ekhruxng MCH 101 1 ekhruxngchn Shirane khnadrawangkhbnapkti 5 200 tn etmthi 7 500 tnekhruxngckrekhruxngyntknghnixnaethxrobcharc 2 twaelaekhruxngyntethxribnxik 2 tw ihkalngkhnad 52 MW odymiephlaibckr 2 ephlakhwamerw 31 nxt rabbxawuthxawuthplxynawithiphun su xakasphisyiklaebb Sea Sparrow Missile bnaethnying 8 thxying crwdpraberuxdana ASROC MK 112 8 thxying txrpiodpraberuxdana MK 46 bnaethnyingaefdsamaebb MK 32 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punihykhnad 5 niw 127 mm Mark 42 canwn 2 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 3 ekhruxngeruxphikhat hnk tidxawuthplxynawithi DDG 8 la chn Kongo 4 la chn Atago 2 la chn Tachikaze 2 la chn Kongo khnadrawangkhbnapkti 7 500 tn etmthi 9 500 tn ekhruxngckrekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng khnad 75 MW miephlaibckr 2 ephla mikhwamyaw 161 emtr kwang 21 emtrkhwamerw30 nxtrabbxanwykarrbAN SPY 1D OPS 28 surface search radar OQS 102 bow mounted sonar Electronic warfare amp decoys NOLQ 2 intercept jammer rabbxawuthxawuthplxynawithiphun su phun RGM 84 Harpoon 2 aethn la 4 thxying rabbaethnyingaenwdingaebb MK 41 VLS sahrbxawuthplxynawithiphun su xakasphisyklangaebb SM 2 MR Standard aelarun SM 3 Standard IA hwerux 29 lukaelathayerux 61 luk aelacrwdpraberuxdana RUM VL 139 ASROC yingaenwding txrpiodpraberuxdana MK 46 hrux Type 73 bnaethnyingaefdsamaebb Type 68 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punihykhnad 5 niw 127 mm Oto Breda canwn 1 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchn Atago khnadrawangkhbnapkti 7 700 tn etmthi 10 000 tn mikhwamyaw 170 emtr kwang 21 emtrekhruxngckr khbekhluxndwyrabb ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng khnad 75 MW miephlaibckr 2 ephla khwamerw30 nxtrabbxanwykarrb processing systems AN SPY 1D V radar OPS 28E surface search radar AN SQS 53C sonar 3 x AN SPG 62 FCS AN SQQ 89 Mk 46 Optronic director Mk 160 FCS Mk 116 FCS Electronic warfare amp decoys ESM ECM NOLQ 2 4 x Mark 36 SRBOC rabbxawuthxawuthplxynawithiphun su phun SSM 1 B Type 90 thiyipunphthnaexngichyingocmtithalayeruxrb rabbaethnyingaenwdingaebb MK 41 VLS ichsahrbxawuthplxynawithiphun su xakasphisyklangaebb SM 2 MR Standard hwerux 64 lukaelathayerux 32 luk aelacrwdpraberuxdana RUM 139 ASROC yingaenwding txrpiodpraberuxdana MK 46 hrux Type 73 bnaethnyingaefdsamaebb Type 68 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punihykhnad 5 niw 127 mm MK 45 Mod 4 canwn 1 krabxkaelapun 12 7 mm ehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchn Tachikaze khnadrawangkhbnapkti 4 700 tn khwamyaw 150 emtr kwang 16 4 emtrekhruxngckr ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng khxng Rolsl Royce Spey aela Rolsl Royce Olympus xyangla 2 ekhruxngmiephlaibckr 2 ephla khnad 54 000 KW thakhwamerwidthung 30 nxt rabbxawuthrabbxawuthplxynawithiphun su phun RGM 84 Harpoon ichyingocmtithalayeruxrb2 aethn la 4 thxying xawuthplxynawithiphun su xakasphisyklangaebb SM 2 MR Standard bnaethnyingediyw crwdpraberuxdana RUM 139 ASROC txrpiodpraberuxdana MK 46 bnaethnyingaefdsamaebb Type 68 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punihykhnad 5 niw 127 mm Mark 42 canwn 2 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngeruxphikhattidxawuthplxynawithi DD 33 la chnMurasame 9 la chnTakanami 5 la chn Asagirii 6 la chn Akizuki 4 la chn Murasame khnadrawangkhbnapkti 4 550 tn etmthi 6 100 tn mikhwamyaw151 emtr kwang 17 4 emtrekhruxngckrkhbekhluxndwyrabb ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng khxng Kawasaki Rolls Royce Spey aela Ishikawajima Harima LM 2500 xyangla 2 ekhruxngaela 2 ephlarabbxawuthrabbxawuthplxynawithiphun su phun SSM 1 B Type 90 rabbthxyingaenwdingaebb MK 48 VLS canwn 16 thxyingichsahrbplxynawithiphun su xakasaebb ESSM Evolved Sea Sparrow Missile rabbthxyingaenwdingaebb MK 41 VLS canwn 16 thxyingichsahrbcrwdpraberuxdana RUM 139 VL ASROC txrpiodpraberuxdana MK 46 hrux Type 73 bnaethnyingaefdsamaebb Type 68 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb punihykhnad 76 mm OTO Melara 3 canwn 1 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchnTakanami rawangkhbnapkti 4 650 tn etmthi 6 300 tn mikhwamyaw151 emtr kwang 17 4 emtrekhruxngckrkhbekhluxndwyrabb ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng khxng Kawasaki Rolls Royce Spey aela Ishikawajima Harima LM 2500 xyangla 2 ekhruxngaela 2 ephlarabbxawuthrabbxawuthplxynawithiphun su phun SSM 1 B rabbthxyingaenwdingaebb MK 41 VLS canwn 32 thxyingichsahrbxawuthplxynawithiphun su xakasaebb ESSM Evolved Sea Sparrow Missile crwdpraberuxdana RUM 139 VL ASROC txrpiodpraberuxdana MK 46 hrux Type 73 bnaethnyingaefdsamaebb Type 68 canwn 2 aethnying rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb eruxphikhat eba hruxeruxfriekt DE 6 la punihykhnad 5 niw 127 mm runOto Breda canwn 1 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchnAsagiri rawangkhbnapkti 3 500 tn etmthi 4 900 tn mikhwamyaw 137 emtr kwang 14 6 emtrekhruxngckr khbekhluxndwyrabb ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxng ekhruxngmiephlaibckr 2 ephla khnad 54 000 KW thakhwamerwidthung 30 nxt rabbxawuthrabbxawuthplxynawithiphun su phun RGM 84 Harpoon ichyingocmtithalayeruxrb 2 aethn la 4 thxying xawuthplxynawithiphun su xakasphisyiklaebb Sea Sparrow Missile Mark 29 bnaethnying 8 thx rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb crwdpraberuxdana RUM 139 ASROC aelatxrpiodpraberuxdana MK 46 bnaethnyingaefdsamaebb HOS 301 canwn 2 aethnying punihykhnad 76 mm Otobreda canwn 1 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchn Akizuki rawangkhbnapkti 5 000 tn etmthi 6 800 tn mikhwamyaw 150 5 emtr kwang 18 3 emtrekhruxngckrekhluxndwyrabb ekhruxngyntaeksethxribn 4 ekhruxngephlaibckr 2 ephla thakhwamerwidthung 30 nxtrabbxanwykarrbATECS advanced technology command system OYQ 11 ACDS FCS 3A AAW system OQQ 22 ASW system NOLQ 3D EW systemrabbxawuthrabbxawuthplxynawithiphun su phun Type 90 ichyingocmtithalayeruxrb 2 aethn la 4 thxying rabbthxyingaenwdingaebb MK 41 VLS canwn 32 thxyingichsahrbxawuthplxynawithiphun su xakasaebb ESSM Evolved Sea Sparrow Missile crwdpraberuxdana RUM 139 ASROC DD 115 aela Type07 VL ASROC DD 116 to DD 118 rabbpxngknrayaprachid Phalanx CIWS canwn 2 rabb txrpiodpraberuxdana MK 46 bnaethnyingaefdsamaebb HOS 301 canwn 2 aethnying punihykhnad 127 mm caliber Mark 45 canwn 1 krabxkehlikhxpetxrpracabneruxSH 60 J K Seahawk 1 ekhruxngchn Abukuma 6 la erimpracakarpi 1989 rawangkhbna 2000 tn rawangkhbnaetmthi 2 550 tn xawuth punerux 76 mm xawuthplxynawithiphun su phun RGM 84 Harpoon 2 thxying 8 luk ASROC 8 luk txrpiodaebb HOS 301 2 aethnying 6 luk Phalanx CIWS 1 rabberuxtrwckarntidxawuthplxynawithi PG chn Hayabusa eruxtrwckarntidxawuthplxynawithi Guided Missile Patrol craft chn Hayabusa eruxtrwckar hrux Patrol Boats PB PG khwamerwsung khxngyipun Hayabusa thuksrangtngaetpi 2000 thungpi 2004 odythang JMSDF tngiccaexamathdaethn PG 1 Go thiimehmaakbthaelepidkhnadihyaebbyipun PG 1 Go thiidaebbmacak Sparviero class khxngxitalinn ehmaakbthaelpidmakkwaodytweruxnn thuktxkhunthixu chiomonaeski Shimonoseki sungepnxuexkchnkhnadelk aetepnkhnlaxukbthisrang eruxerwocmtikhipnawuth PG 1 Go odyerimtnwangkradukngu ineduxn phvscikayn pi 2000 aelathyxytxekhapracakar cnkhrb 6 laineduxn minakhm pi 2004 ephuxlbkhxdxykhxng PG 1 Go thimikhnadelk thangphuxxkaebbcungidkhyayaebberux ihihykhun 4 ethatidxawuthihhnkkhun aelaichekhruxngyntthimikalngsungkhun odyidnarabb Water Jet thithuxwaepnnwtkrrmthiihmmak insmynnmaich cungthaih Hayabusa epneruxerwocmti tidxawuthplxynawithi thithakhwamerwsungaelamixawuththihnkmakinyukhnn rabbxawuth Weapon systems mirabbxawuthplxyphun su phun aebbthxkhu SSM 1 B Type 90 ship to ship missile sungmichwnghmdyawthung 200 km aetminahnkephiyng 260 kg ethann sahrbthalayeruxrb punihykhnad 76 mm Otobreda run super rapid canwn 1 krabxk aelapunklkhnad 12 7 mm canwn 2 krabxk rabbtrwccb Sensors radars erdarJRC OPS 20 thimirupaebbepn I band thikhlunkhwamthi 8 thung 10 GHz rabbkhbekhluxn Propulsion eruxchn Hayabusa mirawangkhbnasungsud 240 tn mikhwamyaw 50 1 emtraelakwang 8 4 emtr khbekhluxndwyrabb General electric LM 500 G07 Gas turbine canwn 3 ekhruxng samarththakhwamerwidsungsud 46 nxt praman 85 km txchwomng miphlpracaerux 21 nay eruxchnnithuksrangkhunma canwnthngsin 6 lakhux PG 824 Hayabusa PG 825 Wakataka PG 826 Otaka PG 827 Kumataka PG 828 Umitaka aela PG 829 Shirataka Hayabusa class Patrol boats PG 824 PG 829 erimpracakarpi 2002 canwn 6la khxmulerux phusrang MHI s Shimonoseki Shipyard amp Machinery Works yaw 50 1 m kwang 8 4 m kinnaluk 1 7 m rawangkhbna pkti 200 tn sungsud 240 tn rabbkhbekhluxn aeksethxribn 3 ekhruxng khwamerw 46 nxt rawangkhbna 200 tn xawuth punpracaeruxkhnad 76mm punkl 12 7mm 2 krabxk khipnawuthocmtierux SSM 1B 4 luk epalwng Mk 36 decoys canwn 2 chud eruxsnbsnunkarkwadthunraebid MST MCL 4 la chn Uraga mi 2 la chn Nijima mi 1 la chn Ieshima mi 1 la eruxdana SS 17 la chn Soiyu 4 la chn Harushio 2 la chn Oyashio 11 la eruxkwadthunraebidiklfng thaelluk MSO 3 la chn Yaeyama mi 3 la eruxkwadthunraebidiklfng MSC 19 la chn Sugashima 12 la chn Uwajima 7 la eruxsngkhramsaethinnasaethinbkkhnadihy LST 3 la chn Osumi 3 la eruxykphlkhunbkkhnadihy LSU 2 la chn Yura 2 la eruxykphlkhunbkkhnadklang LCU 2 la chn I Go 2 la eruxrabayphl LCM 12 la LCM chn YF 2121 canwn 10 la LCM chn YF 2150 canwn 2 la yanebaaxakassaethinnasaethinbk LCAC 6 la eruxsngkalngbarungkhnadihy AMS 5 la chn Hiuchi 5 la eruxetimnamnkhnadihy AOE 5 la chn Mashu 2 la chn Towada 3 la eruxsarwcxuthksastr AGS 4 la eruxsarwcthangthael ASE 2 la eruxtdnaaekhng AGB 1 la eruxsahrbwangekhebilitna ARC 1 la eruxkuphyeruxdana ASR 1 la eruxsnbsnunkuphyeruxdana AS 1 la eruxfuk TV 5 la chn Kashima 1 la chn Hatsuyuki 2 la chn Asagiri 2 la eruxdanafuk TSS 2 la chn Harushio 2 la eruxphieliyngaelasnbsnunkarfuk ATS 2 la chn Tenryu 1 la chn Kurobe 1 la thngpracakxngkalngpxngkntnexngthangthaelyipuneruxrbinxnakhteruxbrrthukehlikhxpetxrchnharuka plxylngna 1 laswnxiklakalngkxsrangkhadwacaplxylngnainpi 2009 eruxphikhat 5000 tn 4 lakalngkxsrang eruxdanachnosriw plxylngna1lakalngkxsrang 2 la 1 lakalngwangaephn eruxphikhatbrrthukehlikhxpetxr 22DDH DDH 183 wangaephntx 2 la wangkradukaelw 1 la khadaelwesrcpi 2015 xakasyankxngbinnawikhxngkxngkalngpxngkntnexngthangthaelkhxngyipun JMSDF nxkcakkalngthangeruxaelwkyngmikalngthangxakasinswnkhxngkxngkalngpxngkntnexngthangthaelkhxngyipun hruxeriykknekhaicngay wa kxngbinnawi sungmisanknganhruxkxngbychakartngxyuthi xthsuki aelamithanbinxyuthung 7 aehng khux xthsuki ekhonya hachioneha naha thaethayama oxmura aelaxiwakhuni sungswnihymipharkictrwckarnthangthael khnhachwyehluxphuprasbphy laeliyngthangyuththwithi praberuxdanaxyangechn ekhruxngbin P 3 C Orion thimipracakarthung 80 ekhruxng praethsithymiichngantng 3 ekhruxng hrux ehlikhxpetxrpraberuxdana SH 60 J K Seahawk thimipracakaraekh 130 ekhruxngkxngbinnawikhxngyipunthuxwaepnkxngbinnawithimikhnadihypraethshnungkhxngolksungaebngxxkepn xakasyan praephth run pracakar hmayehtuFixed wing aircraftladtraewnthangthaelladtraewnthangxielkthrxniksladtraewnthdsxbxawuthfukladtraewnthangxielkthrxniks P 3CEP 3COP 3CUP 3CUP 3D 805413 P 3C txtaneruxeruxdanaaelatxtaneruxrbladtraewnthangthael XP 1 2 miaephncanamathdaethn P 3C thnghmdekhruxngbinkhnsng YS 11T 3 miaephncathdaethndwyekhruxngbin KC 130Retimnamnthangxakas KC 130R 6 lathipldpracakar idrbkarprbprungklbekhapracakarekhruxngbinkhnsng U 36A 4ekhruxngbinkhnsng suxsarekhruxngbinfuk LC 90TC 90 527ekhruxngbinfuk T 5 50khnhaaelakuphy US 1A 2chinemwa yuexs 2 khnhaaelakuphy US 2 5 thdaethnekhruxngbin US 1Aehlikhxpetxrladtraewnthangthael SH 60JSH 60K 97 txtaneruxdanaehlikhxpetxrkwadthunraebid MH 53E 10ehlikhxpetxrkwadthunraebid ehlikhxpetxrlaeliyng MCH 101CH 101 7 7 laaelamikhasngsuxephim thdaethn MH 53Eehlikhxpetxrfuk OH 6DOH 6J 54ehlikhxpetxrfuk TH 135 6 9 laaelamikhasngsuxephimkhnhaaelakuphy UH 60J 19duephimkxngthpheruxckrwrrdiyipunxangxing History Japanese Maritime Self Defense Force Japan Ministry of Defense subkhnemux 23 May 2020 C qFM Fʐ M Fq i j subkhnemux 25 December 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 12 22 subkhnemux 25 December 2014 Flightglobal World Air Forces 2015 PDF Kyle Mizokami 16 October 2016 Sorry China Why the Japanese Navy is the Best in Asia The National Interest subkhnemux 5 June 2020 Japan gt National Security gt Self Defense Forces gt Early Development subkhnemux 9 May 2015 World Air Forces 2013 Kyle Mizokami 2012 02 27 Japan Security Watch khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 08 03 Sale Gives New Life to Excess C 130s 2019 12 08 thi ewyaebkaemchchin Defense Aerospace com March 7 2013xanephimAgawa Naoyuki Friendship across the Seas The US Navy and the Japan Maritime Self Defense Force Tokyo Japan Publishing Industry Foundation for Culture 2019 ISBN 978 4 86658 055 5 Auer James The Postwar Rearmament of Japanese Maritime Forces 1945 1971 New York Praeger 1973 ISBN 0 275 28633 9 Auer James Japan s Changing Defense Policy The New Pacific Security Environment Ralph A Cossa ed Wash D C 1993 February 1992 17 August 1991 Japan s Response to Terror Dispatching the SDF to the Arabian Sea 43 2 March April 2003 Rubinstein G A and J O Connell Japan s Maritime Self Defense Forces Naval Forces 11 2 1990 Sekino Hideo Japan and Her Maritime Defense May 1971 Sekino Hideo A Diagnosis of our Maritime Self Defense Force Sekai no Kansen Ships of the World November 1970 Takei Tomohisa Japan Maritime Self Defense Force in the New Maritime Era 2018 12 15 thi ewyaebkaemchchin Hatou 34 4 November 2008 Tsukigi Shinji External and Internal Factors Shaping The Japan Maritime Self Defense Force JMSDF Monterey Cal June 1993 Master s thesis Wile Ted Shannon Sealane Defense An Emerging Role for the JMSDF Master s Thesis 1981 Woolley Peter J 1996 Japan s 1991 Minesweeping Decision An Organizational Response 36 8 804 817 doi 10 1525 as 1996 36 8 01p0159v Japan s Navy Politics and Paradox 1971 2000 London Lynne Reinner 2000 ISBN 1 55587 819 9 Yamaguchi Jiro The Gulf War and the Transformation of Japanese Constitutional Politics Vol 18 Winter 1992 Young P Lewis The Japanese Maritime Self Defense Forces Major Surface Combatants Destroyers and Frigates Asian Defense Journal 1985 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb kxngkalngpxngkntnexngthangthaelyipun JMSDF thiyuthub Japan Maritime Self Defense Force News lingkesiy Japan Maritime Self Defense Force English JMSDF overview at GlobalSecurity Introduction of a paper JMSDF in the New Maritime Era 35 18 40 N 139 38 10 E 35 31111 N 139 63611 E 35 31111 139 63611 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk