อินทรีฮาสท์ (อังกฤษ: Haast's Eagle; ชื่อวิทยาศาสตร์: Hieraaetus moorei) คืออินทรีสายพันธุ์หนึ่งซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว ครั้งหนึ่งมันเคยอาศัยอยู่ที่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ โดยทั่วไปยอมรับเป็นในตำนานมาวรี เป็นสายพันธุ์อินทรีที่เชื่อกันว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีมา โดยมีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม (33 ปอนด์) เมื่อเทียบกับ นกอินทรีฮาร์ปี (Harpia harpyja) ที่มีขขนาดใหญ่รองลงมาที่ 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์) ด้วยขนาดที่ใหญ่มากได้รับการอธิบายว่าเป็นผลจากการวิวัฒนาการต่อขนาดของเหยื่อที่เป็นนกโมอาบินไม่ได้ ซึ่งตัวที่มีขนาดใหญสุดสามารถมีน้ำหนักถึง 230 กิโลกรัม (510 ปอนด์) อินทรีฮาสท์สูญพันธุ์ประมาณ ค.ศ. 1400 หลังการเข้ามาของชาวมาวรีที่ล่าเหยื่อโมอามากกว่ามัน
อินทรีฮาสท์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยไพลสโตซีนถึงสมัยโฮโลซีนตอนปลาย | |
---|---|
หัวกะโหลกอินทรีฮาสท์ที่ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์ปีก |
อันดับ: | เหยี่ยว |
วงศ์: | เหยี่ยวและนกอินทรี |
สกุล: | (, 1872) |
สปีชีส์: | †Hieraaetus moorei |
ชื่อทวินาม | |
†Hieraaetus moorei (, 1872) | |
ชื่อพ้อง | |
|
รายละเอียด
อินทรีฮาสท์มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นนกอินทรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมันมีความยาวจากปลายปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งกว่า 10 ฟุต หรือสามเมตร น้ำหนักราว 15 -20 กิโลกรัม กรงเล็บของอินทรีฮาสท์มีขนาดพอ ๆ กับเล็บเสือโคร่ง จัดว่าเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุดของนิวซีแลนด์ เนื่องจากนกอินทรีชนิดนี้อาศัยอยู่ในเกาะใต้ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าหนาทึบ มันจึงมีปีกที่ค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบตามสัดส่วนร่างกาย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ขณะที่บินล่าเหยื่อในป่า ช่วงปีกค่อนข้างสั้นและแผ่กว้างทำให้อินทรีฮาสท์ไม่ร่อนหาเหยื่อจากที่สูงเหมือนอย่างพวกแร้ง แต่มักจะบินไปตามแนวป่ามากกว่า
เหยื่อสำคัญของอินทรีฮาสท์คือบรรดานกโมอาชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะที่หนักกว่า 250 กิโลกรัม แม้ว่าโมอายักษ์จะใหญ่กว่าอินทรีฮาสท์หลายเท่า แต่มันก็ค่อนข้างเชื่องช้าและยังมีคอและศีรษะขนาดเล็กทำให้ง่ายต่อการโจมตี โดยอินทรีฮาสต์จะโฉบลงที่ลำคอหรือไม่ก็ศีรษะของเหยื่อ ก่อนใช้กรงเล็บสังหารเหยื่อของมัน เนื่องจากเหยื่อของมันมีขนาดใหญ่มาก อินทรีฮาสต์จึงมักกินเหยื่อที่พื้นและอยู่กับซากเป็นเวลาหลายวัน การที่อินทรีฮาสต์ล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างนกโมอายักษ์ ก็เพราะว่าในนิวซีแลนด์ มันเป็นนักล่าที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนแห่งนี้ ตามปกติสัตว์จำพวกเหยี่ยวและนกอินทรีจะล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าพวกมันเพื่อให้ง่ายต่อการนำขึ้นไปกินบนกิ่งไม้สูงทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ถูกสัตว์นักล่าบนพื้นดินชนิดอื่นที่แข็งแรงกว่ามาแย่งเหยื่อไป แต่ในนิวซีแลนด์ไม่มีสัตว์นักล่าบนพื้นดิน ที่แข็งแกร่งกว่าอินทรีฮาสท์ ทำให้พวกมันสามารถกินเหยื่อบนพื้นดินได้โดยไม่ต้องกลัวถูกแย่งไป ไม่เคยมีชาวผิวขาวคนใดได้เห็น นกอินทรีฮาสท์ คงมีเพียงชาวมาวรีเท่านั้นที่เคยเห็นมัน
กระดูกของอินทรียักษ์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1871 ระหว่างการขุดค้นกระดูกนกโมอาที่ (Glemmark) ในแคนเทอร์บรี (Canterbury) จากนั้นได้มีการศึกษา และตั้งชื่อในปีต่อมา กระดูกของอินทรีฮาสท์ไม่ได้พบทั่วไป แต่มีอยู่เฉพาะในเกาะใต้ และทางตอนใต้ของเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านกอินทรีฮาสท์เป็นนกนักล่าที่น่ากลัวที่สุดของนิวซีแลนด์ พวกมันสามารถล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างนกโมอาที่หนักกว่า 250 กิโลกรัมได้ โดยนกอินทรีฮาสท์จะใช้วิธีพุ่งเข้าชนเหยื่อ แรงปะทะของมันจะทำให้นกโมอาเสียหลักล้มลง จากนั้นมันจึงเล่นงานด้วยกรงเล็บ นอกจากนี้พวกมันก็อาจเล่นงานชาวพื้นเมืองเหมือนดังในตำนานก็ได้
สูญพันธุ์
งานวิจัยหนึ่งประมาณการจำนวนประชากรอินทรีฮาสท์ไว้ที่ 3,000 ถึง 4,500 คู่มนุษย์ที่ตั้งถิ่นฐานยุคแรกในนิวซีแลนด์ (บรรพบุรุษของชาวมาวรีเดินทางมาเมื่อประมาณ ค.ศ. 1280) ล่านกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้ ซึ่งรวมถึงโมอาทุกชนิด เป็นจำนวนมาก และทำให้พวกมันสูญพันธุ์เมื่อประมาณ ค.ศ. 1400 ทั้งอินทรีและชาวมาวรีน่าจะแข่งขันเพื่อหาอาหารชนิดเดียวกัน อินทรีชนิดนี้พึงพานกที่บินไม่ได้ขนาดปานกลางและขนาดใหญ่อย่างมาก ซึ่งต่างจากมนุษย์ การสูญเสียเหยื่อหลักทำให้อินทรีฮาสท์สูญพันธุ์เมื่อช่วงเดียวกันโดยประมาณ
ความสัมพันธ์กับมนุษย์
มีบางคนเชื่อว่านกชนิดนี้ปรากฏในตำนานของหลายแห่งภายใต้ชื่อ โปวาไก, หรือ ข้อมูลที่เซอร์ จอร์จ เกรย์ ผู้ว่าการนิวซีแลนด์ยุคต้น ได้รับมา รายงานว่า Hokioi เป็นนกขนาดใหญ่สีดำ-ขาว ที่มีหน้าอกสีแดงและปลายปีกสีเหลือง-เขียว ในตำนานของชาวมาวรีบางเรื่อง Pouakai ฆ่ามนุษย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าอาจมีความเป็นไปได้หากชื่อนี้เกี่ยวข้องกับนกอินทรี เนื่องด้วยขนาดและความแข็งแกร่งที่ใหญ่โตของนก อย่างไรก็ตาม มีผู้โต้แย้งว่าตำนาน "hakawai" และ "hokioi" สื่อถึงนกปากซ่อม นกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ในเกาะใต้
อ้างอิง
- "Aquila moorei. NZTCS". nztcs.org.nz. สืบค้นเมื่อ 21 July 2023.
- Giant eagle (Aquila moorei), Haast's eagle, or Pouakai. Museum of New Zealand: Te Papa Tongarewa. Retrieved 27 October 2010.
- Knapp, Michael; Thomas, Jessica E.; Haile, James; Prost, Stefan; Ho, Simon Y.W.; Dussex, Nicolas; Cameron-Christie, Sophia; Kardailsky, Olga; Barnett, Ross; Bunce, Michael; Gilbert, M. Thomas P. (May 2019). "Mitogenomic evidence of close relationships between New Zealand's extinct giant raptors and small-sized Australian sister-taxa". Molecular Phylogenetics and Evolution (ภาษาอังกฤษ). 134: 122–128. doi:10.1016/j.ympev.2019.01.026. PMID 30753886. S2CID 73420145.
- Davies, S.J.J.F. (2003)
- Perry, George L.W.; Wheeler, Andrew B.; Wood, Jamie R.; (2014-12-01). "A high-precision chronology for the rapid extinction of New Zealand moa (Aves, Dinornithiformes)". . 105: 126–135. Bibcode:2014QSRv..105..126P. doi:10.1016/j.quascirev.2014.09.025.
- Lerner, H. R., & Mindell, D. P. (2005). Phylogeny of eagles, Old World vultures, and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA. Molecular phylogenetics and evolution, 37(2), 327-346.
- Ladyguin, Alexander (2000). The morphology of the bill apparatus in the Steller’s Sea Eagle. First Symposium on Steller’s and White-tailed Sea Eagles in East Asia pp. 1–10; Ueta, M. & McGrady, M.J. (eds.) Wild Bird Society of Japan
- Blas R. Tabaranza Jr. "Haribon – Ha ring mga Ibon, King of Birds". Haring Ibon’s Flight…. สืบค้นเมื่อ 2013.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - Lerner, H. R., & Mindell, D. P. (2005). Phylogeny of eagles, Old World vultures, and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA. Molecular phylogenetics and evolution, 37(2), 327-346.
- Lerner, H. R., & Mindell, D. P. (2005). Phylogeny of eagles, Old World vultures, and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA. Molecular phylogenetics and evolution, 37(2), 327-346.
- Bunce, M. (2005). "Ancient DNA Provides New Insights into the Evolutionary History of New Zealand's Extinct Giant Eagle". PLoS Biology. 3 (1): e9. doi:10.1371/journal.pbio.0030009. PMC 539324. PMID 15660162.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - Brathwaite, D. H. (December 1992). (PDF). Notornis. 39 (4): 239–247. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2013-09-07.
Ornithology of the Southern Pacific
- Braithwaite, D.H. (PDF). Notornis, journal of the Ornithological Society of New Zealand (Inc.). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2013-03-28.
- Evans, Kate (November 2018). "Return of the Lost Birds". (ภาษาอังกฤษ) (154): 30. ISSN 0113-9967.
- Tennyson, A.; Martinson, P. (2006). Extinct Birds of New Zealand. Wellington, New Zealand: Te Papa Press. ISBN .
- Rodgers, Paul (14 September 2009). "Maori legend of man-eating bird is true". The Independent. สืบค้นเมื่อ 14 September 2009.
- Miskelly, C. M. (1987). "The identity of the hakawai" (PDF). Notornis. 34 (2): 95–116. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-09.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Martinson, Paul (2006). . Wellington: Te Papa Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2012. สืบค้นเมื่อ 6 May 2022.
Artwork produced for the book Extinct Birds of New Zealand by Alan Tennyson
- Wingspan Birds of Prey Trust
- "Haast Eagle". New Zealand Birds Limited.
- . NZ Conservation Trust. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2007.
Charles Douglas' reputed sighting
- "Harpagornis Moorei". Te Papa Tongarewa: Museum of New Zealand.
- Haast's Eagle on BBC
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xinthrihasth xngkvs Haast s Eagle chuxwithyasastr Hieraaetus moorei khuxxinthrisayphnthuhnungsungsuyphnthuipaelw khrnghnungmnekhyxasyxyuthiekaaitkhxngniwsiaelnd odythwipyxmrbepnintananmawri epnsayphnthuxinthrithiechuxknwamikhnadihythisudethathimima odyminahnkpraman 15 kiolkrm 33 pxnd emuxethiybkb nkxinthriharpi Harpia harpyja thimikhkhnadihyrxnglngmathi 9 kiolkrm 20 pxnd dwykhnadthiihymakidrbkarxthibaywaepnphlcakkarwiwthnakartxkhnadkhxngehyuxthiepnnkomxabinimid sungtwthimikhnadihysudsamarthminahnkthung 230 kiolkrm 510 pxnd xinthrihasthsuyphnthupraman kh s 1400 hlngkarekhamakhxngchawmawrithilaehyuxomxamakkwamnxinthrihasth chwngewlathimichiwitxyu smyiphlsotsinthungsmyoholsintxnplayhwkaohlkxinthrihasththisthanakarxnurksExtinct praman kh s 1400 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stwpikxndb ehyiywwngs ehyiywaelankxinthriskul 1872 spichis Hieraaetus mooreichuxthwinam Hieraaetus moorei 1872 chuxphxngAquila moorei Haast 1872 Harpagornis moorei Haast 1872raylaexiydxinthrihasthmithinkaenidinniwsiaelnd idchuxwaepnnkxinthrithiihythisudinolk odymnmikhwamyawcakplaypikkhanghnungipyngxikkhanghnungkwa 10 fut hruxsamemtr nahnkraw 15 20 kiolkrm krngelbkhxngxinthrihasthmikhnadphx kbelbesuxokhrng cdwaepnnklathinaklwthisudkhxngniwsiaelnd enuxngcaknkxinthrichnidnixasyxyuinekaaitsungphunthiswnihypkkhlumdwypahnathub mncungmipikthikhxnkhangsnemuxethiybtamsdswnrangkay thngniephuxihepnpraoychnkhnathibinlaehyuxinpa chwngpikkhxnkhangsnaelaaephkwangthaihxinthrihasthimrxnhaehyuxcakthisungehmuxnxyangphwkaerng aetmkcabiniptamaenwpamakkwa ehyuxsakhykhxngxinthrihasthkhuxbrrdankomxachnidtang odyechphaathihnkkwa 250 kiolkrm aemwaomxaykscaihykwaxinthrihasthhlayetha aetmnkkhxnkhangechuxngchaaelayngmikhxaelasirsakhnadelkthaihngaytxkarocmti odyxinthrihastcaochblngthilakhxhruximksirsakhxngehyux kxnichkrngelbsngharehyuxkhxngmn enuxngcakehyuxkhxngmnmikhnadihymak xinthrihastcungmkkinehyuxthiphunaelaxyukbsakepnewlahlaywn karthixinthrihastlaehyuxkhnadihyxyangnkomxayks kephraawainniwsiaelnd mnepnnklathiihythisudkhxngdinaednaehngni tampktistwcaphwkehyiywaelankxinthricalaehyuxthimikhnadelkkwaphwkmnephuxihngaytxkarnakhunipkinbnkingimsungthngni ephuximihthukstwnklabnphundinchnidxunthiaekhngaerngkwamaaeyngehyuxip aetinniwsiaelndimmistwnklabnphundin thiaekhngaekrngkwaxinthrihasth thaihphwkmnsamarthkinehyuxbnphundinidodyimtxngklwthukaeyngip imekhymichawphiwkhawkhnididehn nkxinthrihasth khngmiephiyngchawmawriethannthiekhyehnmn phaphwadnkxithriykshasthkalnglankomxa kradukkhxngxinthriyks thukkhnphbkhrngaerkinpi 1871 rahwangkarkhudkhnkraduknkomxathi Glemmark inaekhnethxrbri Canterbury caknnidmikarsuksa aelatngchuxinpitxma kradukkhxngxinthrihasthimidphbthwip aetmixyuechphaainekaait aelathangtxnitkhxngekaaehnuxkhxngpraethsniwsiaelndethann nkwithyasastrechuxwankxinthrihasthepnnknklathinaklwthisudkhxngniwsiaelnd phwkmnsamarthlaehyuxkhnadihyxyangnkomxathihnkkwa 250 kiolkrmid odynkxinthrihasthcaichwithiphungekhachnehyux aerngpathakhxngmncathaihnkomxaesiyhlklmlng caknnmncungelnngandwykrngelb nxkcakniphwkmnkxacelnnganchawphunemuxngehmuxndngintanankidsuyphnthunganwicyhnungpramankarcanwnprachakrxinthrihasthiwthi 3 000 thung 4 500 khumnusythitngthinthanyukhaerkinniwsiaelnd brrphburuskhxngchawmawriedinthangmaemuxpraman kh s 1280 lankkhnadihythibinimid sungrwmthungomxathukchnid epncanwnmak aelathaihphwkmnsuyphnthuemuxpraman kh s 1400 thngxinthriaelachawmawrinacaaekhngkhnephuxhaxaharchnidediywkn xinthrichnidniphungphankthibinimidkhnadpanklangaelakhnadihyxyangmak sungtangcakmnusy karsuyesiyehyuxhlkthaihxinthrihasthsuyphnthuemuxchwngediywknodypramankhwamsmphnthkbmnusyokhrngrangxinthrithi Macraes Flat mibangkhnechuxwankchnidnipraktintanankhxnghlayaehngphayitchux opwaik hrux khxmulthiesxr cxrc ekry phuwakarniwsiaelndyukhtn idrbma raynganwa Hokioi epnnkkhnadihysida khaw thimihnaxksiaedngaelaplaypiksiehluxng ekhiyw intanankhxngchawmawribangeruxng Pouakai khamnusy sungnkwithyasastrhlaykhnechuxwaxacmikhwamepnipidhakchuxniekiywkhxngkbnkxinthri enuxngdwykhnadaelakhwamaekhngaekrngthiihyotkhxngnk xyangirktam miphuotaeyngwatanan hakawai aela hokioi suxthungnkpaksxm nkchnidhnungthisuyphnthuinekaaitxangxing Aquila moorei NZTCS nztcs org nz subkhnemux 21 July 2023 Giant eagle Aquila moorei Haast s eagle or Pouakai Museum of New Zealand Te Papa Tongarewa Retrieved 27 October 2010 Knapp Michael Thomas Jessica E Haile James Prost Stefan Ho Simon Y W Dussex Nicolas Cameron Christie Sophia Kardailsky Olga Barnett Ross Bunce Michael Gilbert M Thomas P May 2019 Mitogenomic evidence of close relationships between New Zealand s extinct giant raptors and small sized Australian sister taxa Molecular Phylogenetics and Evolution phasaxngkvs 134 122 128 doi 10 1016 j ympev 2019 01 026 PMID 30753886 S2CID 73420145 Davies S J J F 2003 Perry George L W Wheeler Andrew B Wood Jamie R 2014 12 01 A high precision chronology for the rapid extinction of New Zealand moa Aves Dinornithiformes 105 126 135 Bibcode 2014QSRv 105 126P doi 10 1016 j quascirev 2014 09 025 Lerner H R amp Mindell D P 2005 Phylogeny of eagles Old World vultures and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA Molecular phylogenetics and evolution 37 2 327 346 Ladyguin Alexander 2000 The morphology of the bill apparatus in the Steller s Sea Eagle First Symposium on Steller s and White tailed Sea Eagles in East Asia pp 1 10 Ueta M amp McGrady M J eds Wild Bird Society of Japan Blas R Tabaranza Jr Haribon Ha ring mga Ibon King of Birds Haring Ibon s Flight subkhnemux 2013 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help Lerner H R amp Mindell D P 2005 Phylogeny of eagles Old World vultures and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA Molecular phylogenetics and evolution 37 2 327 346 Lerner H R amp Mindell D P 2005 Phylogeny of eagles Old World vultures and other Accipitridae based on nuclear and mitochondrial DNA Molecular phylogenetics and evolution 37 2 327 346 Bunce M 2005 Ancient DNA Provides New Insights into the Evolutionary History of New Zealand s Extinct Giant Eagle PLoS Biology 3 1 e9 doi 10 1371 journal pbio 0030009 PMC 539324 PMID 15660162 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help Brathwaite D H December 1992 PDF Notornis 39 4 239 247 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 01 19 subkhnemux 2013 09 07 Ornithology of the Southern Pacific Braithwaite D H PDF Notornis journal of the Ornithological Society of New Zealand Inc khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 01 19 subkhnemux 2013 03 28 Evans Kate November 2018 Return of the Lost Birds phasaxngkvs 154 30 ISSN 0113 9967 Tennyson A Martinson P 2006 Extinct Birds of New Zealand Wellington New Zealand Te Papa Press ISBN 978 0 909010 21 8 Rodgers Paul 14 September 2009 Maori legend of man eating bird is true The Independent subkhnemux 14 September 2009 Miskelly C M 1987 The identity of the hakawai PDF Notornis 34 2 95 116 ekb PDF cakaehlngedimemux 2022 10 09 aehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Harpagornis moorei Martinson Paul 2006 Wellington Te Papa Press khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 October 2012 subkhnemux 6 May 2022 Artwork produced for the book Extinct Birds of New Zealand by Alan Tennyson Wingspan Birds of Prey Trust Haast Eagle New Zealand Birds Limited NZ Conservation Trust khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 27 September 2007 Charles Douglas reputed sighting Harpagornis Moorei Te Papa Tongarewa Museum of New Zealand Haast s Eagle on BBC