หอนางอุสา ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เขตอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี มีลักษณะเป็นโขดหินคล้ายรูปดอกเห็ดหรือหอคอยขนาดเล็กตัวหอนางอุสาตั้งอยู่บนลานหินกว้าง ลักษณะประกอบด้วยหินขนาดใหญ่สองก้อนเรียงซ้อนทับกันในแนวดิ่งหินก้อนบนกว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร และมีความสูง 10 เมตรจากพื้นลานหินคาดว่าสภาพเห็นตั้งนี้เกิดจากธรรมชาติ แต่ภายหลังถูกดัดแปลงเพื่อเป็นที่พักของมนุษย์ในสมัยก่อน โดยแบ่งออกเป็นห้องมีลักษณะก่อหินเป็นรูปหน้าต่าง จากการสำรวจพบว่ามีใบเสมาหินเรียงอยู่โดยรอบจึงสันนิษฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นเขตพิธีกรรมทางศาสนามาก่อน นอกจากนี้บริเวณยังพบกิจกรรมของมนุษย์ในพื้นที่บริเวณนี้ประมาณ 2,000-3,000 ปีก่อนประวัติศาตร์ บริเวณใกล้เคียงยังมีโขดหินที่มีลักษณะเรียงซ้อนกันหลากหลายแบบ และยังพบลักษณะของหลุมคล้ายลักษณะครกหินอยู่ รวมทั้งภาพเขียนสีผนังถ้ำหรือแง่งหินอีกด้วย
ทั้งนี้ มีนิทานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับหอนางอุสาคือเรื่อง อุสา-บารส เล่าถึงเมื่อตอนนางอุสาเกิดมาจากดอกบัวฤษีจันทาได้นำนางอุสามาเลี้ยงเอาไว้ ต่อมาท้าวกงพานกษัตริย์เมืองพานซึ่งเป็นลูกศิษย์ของฤษีจันทาได้ขอรับนางอุสาไปเลี้ยงโดยให้มีฐานะเป็นธิดา ครั้นย่างเข้าวัยสาวธิดาของท้าวองค์นี้ก็มีศิริโฉมงดงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของเจ้าชายจากหลายเมือง แต่ทางท้าวกงพานก็มิได้ทรงยกนางให้ใครและเพราะหวงธิดาองค์นี้มากจึงได้สร้างหอสูง (เป็นที่มาของหอนางอุสา)ให้อยู่แต่เพียงองค์เดียว อยู่มาวันหนึ่งนางไปอาบน้ำและได้ร้อยมาลัยรูปหงส์อธิษฐานเสี่ยงทายคู่ครองแล้วปล่อยลงน้ำ มาลัยนี้ได้ลอยไปถึงเมืองปะโคเวียงงัวและท้าวบารสซึ่งเป็นเจ้าชายเมืองปะโคเวียงงัวนี้ได้เก็บมาลัยของนางอุสาเอาไว้ จากนั้นจึงออกตามหาผู้เป็นเจ้าของมาลัยจนทราบว่าเป็นของนางอุสา ทั้งสองได้เกิดความรักกันจนลึงขั้นลักลอบได้เสีย เมื่อข่าวทราบถึงท้าวกงพานท้าวเธอก็พิโรธมากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเกรงกลัวเจ้าเมืองปะโคเวียงงัวบิดาของท้าวบารส จึงได้ออกอุบายแข่งกันสร้างวัดหากผู้ใดแพ้ต้องถูกตัดเศียร กำลังคนของท้าวบารสน้อยกว่าท้าวกงพานแต่ได้พี่เลี้ยงของนางอุสาช่วยออกอุบายให้เอาโคมไฟไปหลอกคนของท้าวกงพานว่าดาวประกายพรึกขึ้นแล้ว คนของท้างกงพานจึงหยุดสร้างวัดแต่ฝั่งของท้าวบารสก็ฉวยโอกาสนี้สร้างวัดจนเสร็จ เมื่อถึงเวลาตัดสินท้าวกงพานพ่ายแพ้จึงถูกตัดเศียร นางอุสาจึงต้องติดตามท้าวบารสไปยังเมืองปะโคเวียงงัวและพบว่าท้าวบารสมีชายาอยู่แล้ว ต่อมาโหรได้ทำนายว่าท้าวบารสต้องแก้กรรมด้วยการเดินป่าองค์เดียวหนึ่งปีจึงจะพ้นเคราะห์กรรม ระหว่างนั้นนางอุสาโดนกลั่นแกล้งจากชายาของท้าวบารสจนทนไม่ไหวต้องหนีออกจากเมืองปะโคเวียงงัวแล้วกลับเพืองพานที่ตนเคยอาศัยอยู่แล้วจึงตรอมใจตาย และเมื่อครบหนึ่งปีท้าวบารสจึงกลับเข้าเมืองแต่ไม่พบชายาจึงออกตามจนถึงเมืองพานและพบว่านางอุสาตรอมใจตายไปแล้วท้าวบารสจึงตรอมใจตายตาม
นอกจากนี้ในบริเวณท้องถิ่นตามที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองพานในนิทานท้องถิ่นเรื่อง อุษาบารส ยังมีการตั้งชื่อถ้ำและสถานที่ตามนิทานนี้เช่น , -ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นต้น และยังมีประเพณีแห่นางอุสาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นประเพณีประจำปีด้วย
อ้างอิง
- นิทรรศการออนไลน์ หอนางอุสา
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-20. สืบค้นเมื่อ 2021-10-03.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-15. สืบค้นเมื่อ 2015-11-19.
- ภูพระบาท ตามรอยโศกนาฏกรรมรักบนเพิงผาหิน
- ตำนานรัก อุสา-บารส, ท่องเที่ยว... อีสาน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hxnangxusa tngxyuinxuthyanprawtisastrphuphrabath ekhtxaephxbanphux cnghwdxudrthani milksnaepnokhdhinkhlayrupdxkehdhruxhxkhxykhnadelktwhxnangxusatngxyubnlanhinkwang lksnaprakxbdwyhinkhnadihysxngkxneriyngsxnthbkninaenwdinghinkxnbnkwang 5 emtr yaw 7 emtr aelamikhwamsung 10 emtrcakphunlanhinkhadwasphaphehntngniekidcakthrrmchati aetphayhlngthukddaeplngephuxepnthiphkkhxngmnusyinsmykxn odyaebngxxkepnhxngmilksnakxhinepnruphnatang cakkarsarwcphbwamiibesmahineriyngxyuodyrxbcungsnnisthanwabriewnniekhyepnekhtphithikrrmthangsasnamakxn nxkcaknibriewnyngphbkickrrmkhxngmnusyinphunthibriewnnipraman 2 000 3 000 pikxnprawtisatr briewniklekhiyngyngmiokhdhinthimilksnaeriyngsxnknhlakhlayaebb aelayngphblksnakhxnghlumkhlaylksnakhrkhinxyu rwmthngphaphekhiynsiphnngthahruxaengnghinxikdwyphaphhxnangxusa thngni minithanthxngthinthiekiywkhxngkbhxnangxusakhuxeruxng xusa bars elathungemuxtxnnangxusaekidmacakdxkbwvsicnthaidnanangxusamaeliyngexaiw txmathawkngphankstriyemuxngphansungepnluksisykhxngvsicnthaidkhxrbnangxusaipeliyngodyihmithanaepnthida khrnyangekhawysawthidakhxngthawxngkhnikmisiriochmngdngamepnthitxngtatxngickhxngecachaycakhlayemuxng aetthangthawkngphankmiidthrngyknangihikhraelaephraahwngthidaxngkhnimakcungidsranghxsung epnthimakhxnghxnangxusa ihxyuaetephiyngxngkhediyw xyumawnhnungnangipxabnaaelaidrxymalyruphngsxthisthanesiyngthaykhukhrxngaelwplxylngna malyniidlxyipthungemuxngpaokhewiyngngwaelathawbarssungepnecachayemuxngpaokhewiyngngwniidekbmalykhxngnangxusaexaiw caknncungxxktamhaphuepnecakhxngmalycnthrabwaepnkhxngnangxusa thngsxngidekidkhwamrkkncnlungkhnlklxbidesiy emuxkhawthrabthungthawkngphanthawethxkphiorthmakaetimsamarththaxairidephraaekrngklwecaemuxngpaokhewiyngngwbidakhxngthawbars cungidxxkxubayaekhngknsrangwdhakphuidaephtxngthuktdesiyr kalngkhnkhxngthawbarsnxykwathawkngphanaetidphieliyngkhxngnangxusachwyxxkxubayihexaokhmifiphlxkkhnkhxngthawkngphanwadawprakayphrukkhunaelw khnkhxngthangkngphancunghyudsrangwdaetfngkhxngthawbarskchwyoxkasnisrangwdcnesrc emuxthungewlatdsinthawkngphanphayaephcungthuktdesiyr nangxusacungtxngtidtamthawbarsipyngemuxngpaokhewiyngngwaelaphbwathawbarsmichayaxyuaelw txmaohridthanaywathawbarstxngaekkrrmdwykaredinpaxngkhediywhnungpicungcaphnekhraahkrrm rahwangnnnangxusaodnklnaeklngcakchayakhxngthawbarscnthnimihwtxnghnixxkcakemuxngpaokhewiyngngwaelwklbephuxngphanthitnekhyxasyxyuaelwcungtrxmictay aelaemuxkhrbhnungpithawbarscungklbekhaemuxngaetimphbchayacungxxktamcnthungemuxngphanaelaphbwanangxusatrxmictayipaelwthawbarscungtrxmictaytam nxkcakniinbriewnthxngthintamthiechuxknwaepnemuxngphaninnithanthxngthineruxng xusabars yngmikartngchuxthaaelasthanthitamnithanniechn thitngxyuphayinxuthyanprawtisastrphuphrabath epntn aelayngmipraephniaehnangxusainphunthicnghwdxudrthaniepnpraephnipracapidwyxangxingnithrrskarxxniln hxnangxusa khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 09 20 subkhnemux 2021 10 03 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 11 15 subkhnemux 2015 11 19 phuphrabath tamrxyosknatkrrmrkbnephingphahin tananrk xusa bars thxngethiyw xisan