แวร์มัคท์ (เยอรมัน: Wehrmacht), แปลว่า กองกำลังป้องกัน) เป็นชื่อเรียกกองทัพของนาซีเยอรมนี ดำรงอยู่ตั้งแต่ปีค.ศ. 1935 ถึง 1945 ประกอบด้วยแฮร์ (กองทัพบก), ครีคส์มารีเนอ (กองทัพเรือ) และลุฟท์วัฟเฟอ (กองทัพอากาศ) แวร์มัคท์ถูกตั้งขึ้นมาทดแทนกองกำลังป้องกันประเทศที่เรียกว่า ไรชส์แวร์ การก่อตั้งแวร์มัคท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานฟื้นฟูแสนยานุภาพของเยอรมนีในระดับที่เกินกว่าข้อบังคับของสนธิสัญญาแวร์ซาย
แวร์มัคท์ | |
---|---|
Wehrmacht | |
ธงศึกไรช์ (ค.ศ. 1938–1945) | |
คำขวัญ | "หนึ่งชน หนึ่งไรช์ หนึ่งฟือเรอร์" |
ก่อตั้ง | 16 มีนาคม ค.ศ. 1935 |
ยุบเลิก | 20 กันยายน ค.ศ. 1945 |
เหล่า | กองทัพบก (แฮร์) กองทัพเรือ (ครีคส์มารีเนอ) กองทัพอากาศ (ลุฟท์วัฟเฟอ) |
กองบัญชาการ | วึนส์ดอร์ฟ (Wünsdorf) |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผบ.สส.แวร์มัคท์ | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
กำลังพล | |
อายุเริ่มบรรจุ | 18 ถึง 45 ปี |
ยอดประจำการ | 18,000,000 (ทั้งหมดที่เคยรับประจำการ) |
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
ยศ | ตารางเทียบยศทหารเหล่าทัพแวร์มัคท์ ตารางเทียบยศทหารบกกับเอ็สเอ็ส |
ภายหลังจากนาซีเถลิงอำนาจในปี ค.ศ. 1933 หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่โจ่งแจ้งและไม่เกรงกลัวของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์คือการก่อตั้งแวร์มัคท์ กองทัพที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการรุกราน เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวของระบอบนาซีในการฟื้นฟูดินแดนที่เสียไปรวมทั้งการได้รับดินแดนใหม่และครอบครองประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยความต้องการสิ่งนี้จึงได้มีการฟื้นฟูการเกณฑ์ทหารขึ้นมาใหม่ และการลงทุนขนาดใหญ่ และค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันในโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตอาวุธ
แวร์มัคท์ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของอำนาจทางการเมือง-ทางทหารของเยอรมนี ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง แวร์มัคท์ได้คิดค้นกลยุทธ์กองกำลังรวมผสม(การสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด รถถัง และทหารราบ) เพื่อมีประสิทธิภาพการทำลายล้างในสิ่งที่ได้เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ บลิทซ์ครีค (สงครามสายฟ้าแลบ) ที่การทัพในฝรั่งเศส(1940) สหภาพโซเวียต(1941) และแอฟริกาเหนือ(1941/42) ได้ถือว่าเป็นการกระทำที่อาจหาญ ในเวลาเดียวกันการรุกแผ่ขยายอย่างกว้างใหญ่ไพศาลทำให้ขีดความสามารถของแวร์มัคท์ได้ถึงจุดแตกหักลง ซึ่งถึงที่สุดแล้วในความปราชัยครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในยุทธการที่มอสโก (1941) ในปลายปี ค.ศ. 1942 เยอรมนีได้สูญเสียการรุกในทุกเขตสงคราม ยุทธศิลป์นั้นไม่เท่าเทียบกับความสามารถในการทำสงครามของประเทศที่ร่วมมือกันของฝ่ายสัมพันธมิตร จึงทำให้กลายเป็นจุดอ่อนของแวร์มัคท์ในหลักสูตรทางด้านกลยุทธ์ และทางด้านโลจิสติกส์ที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
การให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยเอ็สเอ็สและไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองทัพเยอรมันได้ก่อเอาไว้หลายครั้ง อย่างไรก็ตามในภายหลังได้มีการออกมากล่าวปฏิเสธและส่งเสริมเรื่องปรัมปราถึงความบริสุทธิ์ของแวร์มัคท์ อาชญกรรมสงครามส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสหภาพโซเวียต โปแลนด์ ยูโกสลาเวีย กรีซ และอิตาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการทำลายล้างต่อสหภาพโซเวียต ฮอโลคอสต์ และการสงครามความมั่นคงของนาซี
ในช่วงสงคราม มีทหารจำนวนประมาณ 18 ล้านนายที่ประจำการในกองทัพแวร์มัคท์ ในช่วงเวลาที่สงครามได้ยุติลงในทวีปยุโรปในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1945 กองทัพเยอรมัน(ประกอบไปด้วยกองทัพบก กองทัพเรือ และลุฟท์วัฟเฟอ วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส ฟ็อลคส์ชตวร์ม และหน่วยทหารต่างชาติที่ให้ความร่วมมือ) ได้สูญเสียไปประมาณ 11,300,000 นาย ซึ่งจำนวนประมาณครึ่งนึงของทหารที่เป็นผู้สูญหายหรือเสียชีวิตในช่วงระหว่างสงคราม มีผู้นำระดับชั้นสูงของกองทัพแวร์มัคท์เพียวไม่กี่คนที่ถูกนำตัวขึ้นศาลสำหรับข้อหาอาชญากรรมสงคราม แม้ว่าจะมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดกฏ ส่วนใหญ่ของทหารแวร์มัคท์จำนวนสามล้านนายที่ได้เข้าร่วมในการรุกรานสหภาพโซเวียตซึ่งได้มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมสงคราม
โครงสร้าง
กองบัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการใหญ่ กองทัพบก | กองบัญชาการใหญ่ กองทัพเรือ | กองบัญชาการใหญ่ กองทัพอากาศ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
จอมทัพโดยตำแหน่งประมุขแห่งไรช์
- ผู้บัญชาการเหนือทั้งทัพแวร์มัคท์ (Oberbefehl über die gesamte Wehrmacht)
- 1. จอมพล เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค (05/1933 ถึง 08/1934)
- 2. ฟือเรอร์ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (08/1934 ถึง 05/1935)
- ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแวร์มัคท์ (Oberste befehlshaber der Wehrmacht)
- 1. ฟือเรอร์ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (05/1935 ถึง 04/1945)
- 2. จอมพลเรือ คาร์ล เดอนิทซ์ (05/1945)
ผู้ทำการแทนจอมทัพโดยตำแหน่งนายทหารสูงสุด
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสงครามและผู้บัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์ (Reichskriegsminister und Oberbefehlshabers der Wehrmacht)
- 1. จอมพล แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค (05/1935 ถึง 01/1938)
- หัวหน้ากองบัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์ (Chef des Oberkommandos der Wehrmacht)
- 1. จอมพล วิลเฮล์ม ไคเทิล (02/1938 ถึง 05/1945)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Taylor 1995, pp. 90–119.
- Kitchen 1994, pp. 39–65.
- Van Creveld 1982, p. 3.
- Müller 2016, pp. 58–59.
- Hartmann 2013, pp. 85–108.
- Overmans 2004, p. 215; Müller 2016, p. 16; Wette 2006, p. 77.
- Fritz 2011, p. 470.
- Wette 2006, pp. 195–250.
- USHMM n.d.
- Kershaw 1997, p. 150.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aewrmkhth eyxrmn Wehrmacht aeplwa kxngkalngpxngkn epnchuxeriykkxngthphkhxngnasieyxrmni darngxyutngaetpikh s 1935 thung 1945 prakxbdwyaehr kxngthphbk khrikhsmarienx kxngthpherux aelalufthwfefx kxngthphxakas aewrmkhththuktngkhunmathdaethnkxngkalngpxngknpraethsthieriykwa irchsaewr karkxtngaewrmkhthsungepnswnhnunginaephnnganfunfuaesnyanuphaphkhxngeyxrmniinradbthiekinkwakhxbngkhbkhxngsnthisyyaaewrsayaewrmkhthWehrmachtekhruxnghmaykangekhnehlk blekhnkhrxys aelatrathangkarkhxng aewrmkhththngsukirch kh s 1938 1945 khakhwy hnungchn hnungirch hnungfuxerxr kxtng16 minakhm kh s 1935yubelik20 knyayn kh s 1945ehlakxngthphbk aehr kxngthpherux khrikhsmarienx kxngthphxakas lufthwfefx kxngbychakarwunsdxrf Wunsdorf phubngkhbbychaphb ss aewrmkhthxdxlf hitelxrkalngphlxayuerimbrrcu18 thung 45 piyxdpracakar18 000 000 thnghmdthiekhyrbpracakar bthkhwamthiekiywkhxngystarangethiybysthharehlathphaewrmkhth tarangethiybysthharbkkbexsexs phayhlngcaknasiethlingxanacinpi kh s 1933 hnunginkhwamekhluxnihwthiocngaecngaelaimekrngklwkhxngxdxlf hitelxrkhuxkarkxtngaewrmkhth kxngthphthimikhwamthnsmyaelamiprasiththiphaphxyangmakinkarrukran ephuxbrrluepahmayrayayawkhxngrabxbnasiinkarfunfudinaednthiesiyiprwmthngkaridrbdinaednihmaelakhrxbkhrxngpraethsephuxnbanthixyuiklekhiyng dwykhwamtxngkarsingnicungidmikarfunfukareknththharkhunmaihm aelakarlngthunkhnadihy aelakhaichcaydankarpxngkninorngnganxutsahkrrmkarphlitxawuth aewrmkhthidklayepnhwicsakhykhxngxanacthangkaremuxng thangthharkhxngeyxrmni inchwngtnkhxngsngkhramolkkhrngthisxng aewrmkhthidkhidkhnklyuththkxngkalngrwmphsm karsnbsnunthangxakasxyangiklchid rththng aelathharrab ephuxmiprasiththiphaphkarthalaylanginsingthiidepnthiruckknepnxyangdikhux blithskhrikh sngkhramsayfaaelb thikarthphinfrngess 1940 shphaphosewiyt 1941 aelaaexfrikaehnux 1941 42 idthuxwaepnkarkrathathixachay inewlaediywknkarrukaephkhyayxyangkwangihyiphsalthaihkhidkhwamsamarthkhxngaewrmkhthidthungcudaetkhklng sungthungthisudaelwinkhwamprachykhrngihyepnkhrngaerkinyuththkarthimxsok 1941 inplaypi kh s 1942 eyxrmniidsuyesiykarrukinthukekhtsngkhram yuththsilpnnimethaethiybkbkhwamsamarthinkarthasngkhramkhxngpraethsthirwmmuxknkhxngfaysmphnthmitr cungthaihklayepncudxxnkhxngaewrmkhthinhlksutrthangdanklyuthth aelathangdanolcistiksthipraktihehnxyangchdecn karihkhwamrwmmuxxyangiklchidkbhnwyexsexsaelaixnsthskruphephin kxngthpheyxrmnidkxexaiwhlaykhrng xyangirktaminphayhlngidmikarxxkmaklawptiesthaelasngesrimeruxngprmprathungkhwambrisuththikhxngaewrmkhth xachykrrmsngkhramswnihyekidkhuninshphaphosewiyt opaelnd yuokslaewiy kris aelaxitali sungepnswnhnungkhxngsngkhramkarthalaylangtxshphaphosewiyt hxolkhxst aelakarsngkhramkhwammnkhngkhxngnasi inchwngsngkhram mithharcanwnpraman 18 lannaythipracakarinkxngthphaewrmkhth inchwngewlathisngkhramidyutilnginthwipyuorpineduxnphvsphakhm pi kh s 1945 kxngthpheyxrmn prakxbipdwykxngthphbk kxngthpherux aelalufthwfefx wfefin exsexs fxlkhschtwrm aelahnwythhartangchatithiihkhwamrwmmux idsuyesiyippraman 11 300 000 nay sungcanwnpramankhrungnungkhxngthharthiepnphusuyhayhruxesiychiwitinchwngrahwangsngkhram miphunaradbchnsungkhxngkxngthphaewrmkhthephiywimkikhnthithuknatwkhunsalsahrbkhxhaxachyakrrmsngkhram aemwacamihlkthanthibngchiwaidmiswnekiywkhxnginkarptibtihnathithiphidkt swnihykhxngthharaewrmkhthcanwnsamlannaythiidekharwminkarrukranshphaphosewiytsungidmiswnrwminkarkxxachyakrrmsngkhramokhrngsrang kxngbychakarihyaehngaewrmkhth kxngbychakarihy kxngthphbk kxngbychakarihy kxngthpherux kxngbychakarihy kxngthphxakas cxmthphodytaaehnngpramukhaehngirch phubychakarehnuxthngthphaewrmkhth Oberbefehl uber die gesamte Wehrmacht 1 cxmphl ephal fxn hinedinbwrkh 05 1933 thung 08 1934 2 fuxerxr xdxlf hitelxr 08 1934 thung 05 1935 phubychakarsungsudaehngaewrmkhth Oberste befehlshaber der Wehrmacht 1 fuxerxr xdxlf hitelxr 05 1935 thung 04 1945 2 cxmphlerux kharl edxniths 05 1945 phuthakaraethncxmthphodytaaehnngnaythharsungsud rthmntriwakarkrathrwngkarsngkhramaelaphubychakarihyaehngaewrmkhth Reichskriegsminister und Oberbefehlshabers der Wehrmacht 1 cxmphl aewrenxr fxn blxmaebrkh 05 1935 thung 01 1938 hwhnakxngbychakarihyaehngaewrmkhth Chef des Oberkommandos der Wehrmacht 1 cxmphl wilehlm ikhethil 02 1938 thung 05 1945 duephimkxngthphprsesiy irchsaewr kxngthphprachachnaehngchatixangxingTaylor 1995 pp 90 119 sfn error no target CITEREFTaylor1995 Kitchen 1994 pp 39 65 sfn error no target CITEREFKitchen1994 Van Creveld 1982 p 3 sfn error no target CITEREFVan Creveld1982 Muller 2016 pp 58 59 sfn error no target CITEREFMuller2016 Hartmann 2013 pp 85 108 sfn error no target CITEREFHartmann2013 Overmans 2004 p 215 Muller 2016 p 16 Wette 2006 p 77 Fritz 2011 p 470 sfn error no target CITEREFFritz2011 Wette 2006 pp 195 250 sfn error no target CITEREFWette2006 USHMM n d sfn error no target CITEREFUSHMMn d Kershaw 1997 p 150 sfn error no target CITEREFKershaw1997 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk