ราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ดแห่งอียิปต์ หรือที่เรียกว่า มณฑลอียิปต์ที่ 2 เป็นราชวงศ์ของจักรวรรดิเปอร์เซียแห่งราชวงศ์อะคีเมนิด ระหว่าง 343 ถึง 332 ปีก่อนคริสตกาล สถาปนาขึ้นโดยกษัตริย์ กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย หลังจากการพิชิตอียิปต์และขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์ในเวลาต่อมา และราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ดสิ้นสุดลงเมื่อกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชทรงพิชิตอียิปต์
ราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ดแห่งอียิปต์ (อียิปต์แห่งจักรวรรดิอะคีเมนิด) | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มณฑลของจักรวรรดิอะคีเมนิด | |||||||||||
343 ปีก่อนคริสตกาล – 332 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||
ส่วนด้านตะวันตกของจักรวรรดิอะคีเมนิด และดินแดนอียิปต์ | |||||||||||
การปกครอง | |||||||||||
ฟาโรห์ | |||||||||||
• 343–338 ปีก่อนคริสตกาล | (พระองค์แรก) | ||||||||||
• 336–332 ปีก่อนคริสตกาล | (พระองค์สุดท้าย) | ||||||||||
ยุคทางประวัติศาสตร์ | สมัยอะคีเมนิด | ||||||||||
• การพิชิตของกษัตริย์ | 343 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||||
• การพิชิตของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช | 332 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||||
|
ช่วงเวลาของราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ดแห่งอียิปต์เป็นครั้งที่สองที่ผู้ปกครองชาวเปอร์เซียปกครองอียิปต์ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า "มณฑลอียิปต์ที่ 2" ก่อนการสถาปนาราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ด อียิปต์มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้รับเอกราช โดยราชวงศ์ของฟาโรห์ชาวพื้นเมืองจำนวน 3 ราชวงศ์ผลัดเข้ามาปกครอง (ราชวงศ์ที่ยี่สิบแปด, ยี่สิบเก้า และสามสิบ) ช่วงที่ชาวเปอร์เซียเข้ามาปกครองก่อนหน้านี้เรียกว่า "มณฑลอียิปต์ที่ 1" หรือราชวงศ์ที่ยี่สิบเจ็ดแห่งอียิปต์ (ระหว่าง 525–404 ปีก่อนคริสตกาล)
ประวัติราชวงศ์
การดำเนินการทางทหารมายังอียิปต์ครั้งแรก
ในราว 351 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสทรงได้เริ่มดำเนินการทหารเพื่อตีอียิปต์คืนกลับมา หลังจากการก่อจลาจลในรัชสมัยกษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระองค์ ในเวลาเดียวกัน การก่อจลาจลได้ปะทุขึ้นในเอเชียไมเนอร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธีบส์ ซึ่งจะกลายเหตุการณ์รุนแรง กษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสทรงเคลื่อนทัพไปยังอียิปต์โดยระดมกองทัพจำนวนมหาศาลและไปรบกับฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 หลังจากนั้นหนึ่งปีแห่งการต่อสู้กับฟาโรห์แห่งอียิปต์ พระองค์ทรงพ่ายแพ้ให้กับฟาโรห์เนคทาเนโบด้วยการสนับสนุนของทหารรับจ้างที่นำโดยนายพลชาวกรีกดิโอฟานตุสและลามิอุส กษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสทรงถูกบังคับให้ล่าถอยและเลื่อนแผนการพิชิตอียิปต์คืนออกไป
การดำเนินการทางทหารมายังอียิปต์ครั้งที่สอง
ใน 343 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพของกษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสนอกเหนือจากชาวเปอร์เซีย 330,000 คนของพระองค์แล้ว ตอนนี้มีกองกำลังชาวกรีก 14,000 คนโดยเมืองกรีกในเอเชียไมเนอร์: 4,000 คนในการควบคุมของเมนทอร์แห่งรอดส์ ซึ่งประกอบด้วยกองทหารที่นำมาช่วยเหลือของเทนเนสจากอียิปต์ ประกอบด้วย 3,000 คนส่งโดยอาร์กอส และอีก 1,000 คนจากธีบส์ โดยแบ่งกองทหารเหล่านี้ออกเป็นสามกอง และวางไว้แม่ทัพแต่ละฝ่ายเป็นชาวเปอร์เซียและชาวกรีก ผู้บัญชาการชาวกรีกคือ ลาคราเตสแห่งธีบส์, และนิคอสตราตุสแห่งอาร์กอส ในขณะที่ชาวเปอร์เซียนำโดย รอสซาเซส, อริสตาซาเนส และ หัวหน้าขันทีของฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 ได้ต่อต้านด้วยกองทัพ 100,000 คนโดย 20,000 คนเป็นทหารรับจ้างชาวกรีก ฟาโรห์เนคทาเนโบทรงยึดครองแม่น้ำไนล์และสาขาต่าง ๆ ด้วยกองทัพเรือขนาดใหญ่ของพระองค์ ลักษณะของภูมิประเทศที่ตัดผ่านด้วยลำคลองมากมายและเต็มไปด้วยเมืองที่มีป้อมปราการแน่นหนาเป็นประโยชน์ของพระองค์ และฟาโรห์เนคทาเนโบอาจจะทรงได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อหากไม่ประสบความสำเร็จ แต่พระองค์ขาดนายพลที่ดีและมั่นใจในอำนาจการบังคับบัญชาของพระองค์เองมากเกินไป พระองค์พบว่าพระองค์เองทรงถูกขับไล่โดยนายพลทหารรับจ้างชาวกรีก กองกำลังของพระองค์ได้พ่ายแพ้โดยกองทัพเปอร์เซียที่รวมกันใกล้กับ
หลังจากพ่ายแพ้ ฟาโรห์เนคทาเนโบทรงรีบหนีไปยังเมืองเมมฟิสโดยทิ้งเมืองที่มีป้อมปราการให้กองทหารรักษาการณ์ปกป้อง กองทหารรักษาการณ์เหล่านี้ประกอบด้วยกองกำลังกรีกบางส่วนและกองทัพอียิปต์บางส่วน ชาวเปอร์เซียสามารถเอาชนะเมืองต่างๆ ทั่วอียิปต์ตอนล่างได้อย่างรวดเร็ว และกำลังบุกโจมตีเมืองเมมฟิส เมื่อฟาโรห์เนคทาเนโบทรงตัดสินพระทัยหนีออกจากอียิปต์และหนีลงใต้ไปยังเอธิโอเปีย จากนั้นกองทัพเปอร์เซียก็ไล่ต้อนชาวอียิปต์จนหมดสิ้นและยึดครองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ตอนล่าง หลังจากที่ฟาโรห์เนคทาเนโบทรงหนีไปยังเอธิโอเปีย อียิปต์ทั้งหมดก็ยอมจำนนต่อกษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีส ชาวยิวในอียิปต์ถูกส่งไปยังบาบิโลนหรือชายฝั่งทางใต้ของทะเลแคสเปียน ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับที่ชาวยิวในเคยถูกส่งไปก่อนหน้านี้
หลังจากชัยชนะเหนือชาวอียิปต์ กษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสทรงได้ทำลายกำแพงเมือง ทรงเริ่มการปกครองด้วยความหวาดกลัว และเริ่มปล้นวิหารทั้งหมด เปอร์เซียได้รับความมั่งคั่งจำนวนมากจากการปล้นครั้งนี้ พระองค์ยังทรงเก็บภาษีสูงและพยายามทำให้อียิปต์อ่อนแอลงมากพอที่จะไม่ก่อกบฏต่อเปอร์เซียอีก ในช่วง 10 ปีที่เปอร์เซียควบคุมอียิปต์ ผู้เชื่อในศาสนาพื้นเมืองถูกข่มเหงและหนังสือศักดิ์สิทธิ์ถูกขโมย ก่อนที่พระองค์จะกลับไปเปอร์เซีย พระองค์ทรงแต่งตั้งให้ฟีเรนดาเรสเป็นผู้ว่าการมณฑลอียิปต์ ด้วยความมั่งคั่งที่ได้รับจากการพิชิตอียิปต์ กษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสทรงสามารถให้รางวัลแก่ทหารรับจ้างของพระองค์ได้อย่างเพียงพอ จากนั้นพระองค์ก็เสด็จกลับเมืองหลวง หลังจากสำเร็จการรุกรานและยึดครองอียิปต์แล้ว
การปกครองของผู้ว่าการมณฑลอียิปต์
ไม่ทราบว่าใครเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลหลังจากรัชสมัยกษัตริย์ แต่ ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการมณฑลในช่วงแรกๆ ของอียิปต์ ในรัชสมัยกษัตริย์ (ระหว่าง 336–330 ปีก่อนคริสตกาล) มีผู้ว่าการฯ นามว่า ซึ่งต่อสู้และเสียชีวิตที่อิสซูส และ ซึ่งเข้ามารั้งตำแหน่งต่อ ชาวอียิปต์ยังต่อสู้ที่อิสซูส เช่น ขุนนางซอมทูเทฟเนเคตแห่งเฮราคลีโอโพลิส ผู้เขียน "จารึกเนเปิลส์" ว่าเขาหลบหนีอย่างไรในระหว่างการต่อสู้กับชาวกรีกและ อาร์ซาเฟส เทพเจ้าประจำเมืองของเขา ปกป้องเขาและให้เขากลับบ้านได้อย่างไร
ใน 332 ปีก่อนคริสตกาล มาซาเซสได้ให้อียิปต์ให้กับกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชโดยไม่มีการต่อสู้ ซึ่งจักรวรรดิอะคีเมนิดได้ล่มสลายไปแล้วนั้น ในขณะที่อียิปต์ได้กลายมาเป็นมณฑลหนึ่งในอาณาจักรของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ต่อมาทอเลมีและโรมันได้ปกครองลุ่มแม่น้ำไนล์อย่างต่อจากนั้น
วัฒนธรรม
บางครั้งชาวอียิปต์สวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับจากต่างประเทศ รสนิยมของแฟชั่นที่ไม่ใช่ของอียิปต์เกิดขึ้นในช่วงที่มีการค้ากว้างขวางหรือมีการติดต่อทางการทูตกับราชสำนักที่อยู่ห่างไกล หรือเมื่ออียิปต์ถูกควบคุมโดยอำนาจต่างชาติ ชาวเปอร์เซียซึ่งรุกรานลุ่มแม่น้ำไนล์สองครั้งจากถิ่นฐานในเอเชียตะวันตก เข้ามาปกครองอียิปต์ในช่วงราชวงศ์ที่ยี่สิบเจ็ดแห่งอียิปต์ (ระหว่าง 525–404 ปีก่อนคริสตกาล) และราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ดแห่งอียิปต์ (ระหว่าง 342–332 ปีก่อนคริสตกาล) รูปสลักนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยหลังการปกครองของเปอร์เซียในอียิปต์
จากการอ้างอิงจาก "กระโปรงยาวที่แสดงรอบร่างของรูปสลักนี้และซ่อนไว้ที่ขอบด้านบนของเสื้อผ้าโดยทั่วไปแล้วเป็นแบบเปอร์เซีย สร้อยคอที่เรียกว่า ทอร์ก ซึ่งประดับด้วยรูปตัวไอเบ็กซ์ สัญลักษณ์แห่งความว่องไวในเปอร์เซียโบราณ และความกล้าหาญทางเพศ ซึ่งรูปสลักนี้แสดงให้เห็นถึงขุนนางผู้นี้ในชุดเปอร์เซียอาจจะเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อผู้ปกครองพระองค์ใหม่”
เหรียญกษาปณ์
เหรียญกษาปณ์อียิปต์แห่งราชวงศ์อะคีเมนิด
- เหรียญของผู้ว่าการมณฑล ซึ่งเลียนแบบเหรียญของเอเธนส์ ประมาณ 340-333 ปีก่อนคริสตกาล จากสมัยอียิปต์แห่งราชวงศ์อะคีเมนิด
- เหรียญของผู้ว่าการมณฑล จากสมัยอียิปต์แห่งราชวงศ์อะคีเมนิด ประมาณ 335-333 ปีก่อนคริสตกาล
เหรียญกษาปณ์ซิลีเซียกับผู้ปกครองราชวงศ์อะคีเมนิดในฐานะฟาโรห์
รายพระนามฟาโรห์
พระนาม | รูปภาพ | รัชสมัย | พระนามครองราชย์ | คำอธิบาย |
---|---|---|---|---|
343–338 ปีก่อนคริสตกาล | ทรงผนวกอียิปต์ให้อยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซียเป็นครั้งที่สอง | |||
338–336 ปีก่อนคริสตกาล | ทรงปกครองเฉพาะในอียิปต์ล่าง | |||
338–335 ปีก่อนคริสตกาล | เซเนน-เซเตปุ-นิ-พทาห์ | ทรงนำการปฏิวัติต่อต้านการปกครองของเปอร์เซียในอียิปต์บนประกาศ และทรงตั้งตนเป็นฟาโรห์ | ||
336–332 ปีก่อนคริสตกาล | ทรงทำให้อียิปต์บนกลับสู่การควบคุมของเปอร์เซียอีกครั้งเมื่อ 335 ปีก่อนคริสตกาล |
เส้นเวลาของราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ด
ผู้ว่าการมณฑลของราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ด
รายนาม | ช่วงเวลาปกครอง | รัชสมัย | คำอธิบาย |
---|---|---|---|
343–335 ปีก่อนคริสตกาล | อาร์ตาเซอร์ซีสที่ 3 | ||
335-333 ปีก่อนคริสตกาล | ดาริอุสที่ 3 | ถูกสังหารใน | |
333–332 ปีก่อนคริสตกาล | ดาริอุสที่ 3 |
อ้างอิง
- O'Brien, Patrick Karl (2002). Atlas of World History (ภาษาอังกฤษ). Oxford University Press. pp. 42–43. ISBN .
- . 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-17. สืบค้นเมื่อ 2023-06-02.
- Davidson, Peter (2018). Atlas of Empires: The World's Great Powers from Ancient Times to Today (ภาษาอังกฤษ). i5 Publishing LLC. ISBN .
- Barraclough, Geoffrey (1989). The Times Atlas of World History (ภาษาอังกฤษ). Times Books. p. 79. ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2023-06-02.
- Miller, James M. (1986). A History of Ancient Israel and Judah. John Haralson Hayes (photographer). Westminster John Knox Press. pp. 465. ISBN .
- Kovacs, Frank L. (2002). "Two Persian Pharaonic Portraits". Jahrbuch für Numismatik und Geldgeschichte (ภาษาอังกฤษ). R. Pflaum. pp. 55–60.
- "a Persian hero slaughtering an Egyptian pharaoh while leading four other Egyptian captives" Hartley, Charles W.; Yazicioğlu, G. Bike; Smith, Adam T. (2012). The Archaeology of Power and Politics in Eurasia: Regimes and Revolutions (ภาษาอังกฤษ). Cambridge University Press. p. ix, photograph 4.6. ISBN .
- "Victor, apparently wearing the tall Persian headdress rather than a crown, leads four bareheaded Egyptian captives by a rope tied to his belt. Victor spears a figure wearing Egyptian type crown." in Root, Margaret Cool (1979). The king and kingship in Achaemenid art: essays on the creation of an iconography of empire (ภาษาอังกฤษ). Diffusion, E.J. Brill. p. 182. ISBN .
- "Another seal, also from Egypt, shows a Persian king, his left hand grasping an Egyptian with an Egyptian hairdo (pschent), whom he thrusts through with his lance while holding four prisoners with a rope around their necks." Briant, Pierre (2002). From Cyrus to Alexander: A History of the Persian Empire (ภาษาอังกฤษ). Eisenbrauns. p. 215. ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ March 2, 2008.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFK3
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 17, 2008. สืบค้นเมื่อ March 6, 2008.
- "The long skirt shown wrapped around this statue’s body and tucked in at the upper edge of the garment is typically Persian. The necklace, called a torque, is decorated with images of ibexes, symbols in ancient Persia of agility and sexual prowess. The depiction of this official in Persian dress may have been a demonstration of loyalty to the new rulers." "Egyptian Man in a Persian Costume". www.brooklynmuseum.org. Brooklyn Museum.
- CNG: CILICIA, Myriandros. Mazaios. Satrap of Cilicia, 361/0-334 BC. AR Obol (10mm, 0.64 g).
- Stewart, John (2006). African States and Rulers (Third ed.). London: McFarland. p. 83. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rachwngsthisamsibexdaehngxiyipt hruxthieriykwa mnthlxiyiptthi 2 epnrachwngskhxngckrwrrdiepxresiyaehngrachwngsxakhiemnid rahwang 343 thung 332 pikxnkhristkal sthapnakhunodykstriy kstriyaehngepxresiy hlngcakkarphichitxiyiptaelakhunkhrxngrachyepnfaorhaehngxiyiptinewlatxma aelarachwngsthisamsibexdsinsudlngemuxkstriyxelksanedxrmharachthrngphichitxiyiptrachwngsthisamsibexdaehngxiyipt xiyiptaehngckrwrrdixakhiemnid mnthlkhxngckrwrrdixakhiemnid343 pikxnkhristkal 332 pikxnkhristkalswndantawntkkhxngckrwrrdixakhiemnid aeladinaednxiyiptkarpkkhrxngfaorh 343 338 pikxnkhristkal phraxngkhaerk 336 332 pikxnkhristkal phraxngkhsudthay yukhthangprawtisastrsmyxakhiemnid karphichitkhxngkstriy343 pikxnkhristkal karphichitkhxngkstriyxelksanedxrmharach332 pikxnkhristkalkxnhna thdiprachwngsthisamsibaehngxiyipt ckrwrrdimasiodeniyrachxanackrthxelmi chwngewlakhxngrachwngsthisamsibexdaehngxiyiptepnkhrngthisxngthiphupkkhrxngchawepxresiypkkhrxngxiyipt dngnncungepnthimakhxngkhawa mnthlxiyiptthi 2 kxnkarsthapnarachwngsthisamsibexd xiyiptmichwngewlasn thiidrbexkrach odyrachwngskhxngfaorhchawphunemuxngcanwn 3 rachwngsphldekhamapkkhrxng rachwngsthiyisibaepd yisibeka aelasamsib chwngthichawepxresiyekhamapkkhrxngkxnhnanieriykwa mnthlxiyiptthi 1 hruxrachwngsthiyisibecdaehngxiyipt rahwang 525 404 pikxnkhristkal prawtirachwngskardaeninkarthangthharmayngxiyiptkhrngaerk inraw 351 pikxnkhristkal kstriyxartaesxrsisthrngiderimdaeninkarthharephuxtixiyiptkhunklbma hlngcakkarkxclaclinrchsmykstriy sungepnphrarachbidakhxngphraxngkh inewlaediywkn karkxclaclidpathukhuninexechiyimenxr sungidrbkarsnbsnuncakthibs sungcaklayehtukarnrunaerng kstriyxartaesxrsisthrngekhluxnthphipyngxiyiptodyradmkxngthphcanwnmhasalaelaiprbkbfaorhenkhthaenobthi 2 hlngcaknnhnungpiaehngkartxsukbfaorhaehngxiyipt phraxngkhthrngphayaephihkbfaorhenkhthaenobdwykarsnbsnunkhxngthharrbcangthinaodynayphlchawkrikdioxfantusaelalamixus kstriyxartaesxrsisthrngthukbngkhbihlathxyaelaeluxnaephnkarphichitxiyiptkhunxxkip kardaeninkarthangthharmayngxiyiptkhrngthisxng kstriy inthanafaorhcakehriyyksapnsiliesiyepnphaphkstriyepxresiyaethnghxkisfaorhxiyipt khnathicbechlysikhndwyechuxk in 343 pikxnkhristkal kxngthphkhxngkstriyxartaesxrsisnxkehnuxcakchawepxresiy 330 000 khnkhxngphraxngkhaelw txnnimikxngkalngchawkrik 14 000 khnodyemuxngkrikinexechiyimenxr 4 000 khninkarkhwbkhumkhxngemnthxraehngrxds sungprakxbdwykxngthharthinamachwyehluxkhxngethnenscakxiyipt prakxbdwy 3 000 khnsngodyxarkxs aelaxik 1 000 khncakthibs odyaebngkxngthharehlanixxkepnsamkxng aelawangiwaemthphaetlafayepnchawepxresiyaelachawkrik phubychakarchawkrikkhux lakhraetsaehngthibs aelanikhxstratusaehngxarkxs inkhnathichawepxresiynaody rxssaess xristasaens aela hwhnakhnthikhxngfaorhenkhthaenobthi 2 idtxtandwykxngthph 100 000 khnody 20 000 khnepnthharrbcangchawkrik faorhenkhthaenobthrngyudkhrxngaemnainlaelasakhatang dwykxngthpheruxkhnadihykhxngphraxngkh lksnakhxngphumipraethsthitdphandwylakhlxngmakmayaelaetmipdwyemuxngthimipxmprakaraennhnaepnpraoychnkhxngphraxngkh aelafaorhenkhthaenobxaccathrngidrbkarkhadhmaywacaepnkartxsuthiyudeyuxhakimprasbkhwamsaerc aetphraxngkhkhadnayphlthidiaelamnicinxanackarbngkhbbychakhxngphraxngkhexngmakekinip phraxngkhphbwaphraxngkhexngthrngthukkhbilodynayphlthharrbcangchawkrik kxngkalngkhxngphraxngkhidphayaephodykxngthphepxresiythirwmkniklkb xaccaepnphaphkhxngyuwkstriy thrngswmmngkudfaorh hlngcakphayaeph faorhenkhthaenobthrngribhniipyngemuxngemmfisodythingemuxngthimipxmprakarihkxngthharrksakarnpkpxng kxngthharrksakarnehlaniprakxbdwykxngkalngkrikbangswnaelakxngthphxiyiptbangswn chawepxresiysamarthexachnaemuxngtang thwxiyipttxnlangidxyangrwderw aelakalngbukocmtiemuxngemmfis emuxfaorhenkhthaenobthrngtdsinphrathyhnixxkcakxiyiptaelahnilngitipyngexthioxepiy caknnkxngthphepxresiykiltxnchawxiyiptcnhmdsinaelayudkhrxngsamehliympakaemnainltxnlang hlngcakthifaorhenkhthaenobthrnghniipyngexthioxepiy xiyiptthnghmdkyxmcanntxkstriyxartaesxrsis chawyiwinxiyiptthuksngipyngbabiolnhruxchayfngthangitkhxngthaelaekhsepiyn sungepntaaehnngediywkbthichawyiwinekhythuksngipkxnhnani hlngcakchychnaehnuxchawxiyipt kstriyxartaesxrsisthrngidthalaykaaephngemuxng thrngerimkarpkkhrxngdwykhwamhwadklw aelaerimplnwiharthnghmd epxresiyidrbkhwammngkhngcanwnmakcakkarplnkhrngni phraxngkhyngthrngekbphasisungaelaphyayamthaihxiyiptxxnaexlngmakphxthicaimkxkbttxepxresiyxik inchwng 10 pithiepxresiykhwbkhumxiyipt phuechuxinsasnaphunemuxngthukkhmehngaelahnngsuxskdisiththithukkhomy kxnthiphraxngkhcaklbipepxresiy phraxngkhthrngaetngtngihfierndaersepnphuwakarmnthlxiyipt dwykhwammngkhngthiidrbcakkarphichitxiyipt kstriyxartaesxrsisthrngsamarthihrangwlaekthharrbcangkhxngphraxngkhidxyangephiyngphx caknnphraxngkhkesdcklbemuxnghlwng hlngcaksaerckarrukranaelayudkhrxngxiyiptaelw karpkkhrxngkhxngphuwakarmnthlxiyipt phaphkhxng phurngtaaehnngphuwakarmnthlxiyiptaehngckrwrrdixakhiemnid praman 340 333 pikxnkhristkal imthrabwaikhrekhamarbtaaehnngphuwakarmnthlhlngcakrchsmykstriy aet idrbtaaehnngepnphuwakarmnthlinchwngaerk khxngxiyipt inrchsmykstriy rahwang 336 330 pikxnkhristkal miphuwakar namwa sungtxsuaelaesiychiwitthixissus aela sungekhamarngtaaehnngtx chawxiyiptyngtxsuthixissus echn khunnangsxmthuethfenekhtaehngehrakhlioxophlis phuekhiyn carukenepils waekhahlbhnixyangirinrahwangkartxsukbchawkrikaela xarsaefs ethphecapracaemuxngkhxngekha pkpxngekhaaelaihekhaklbbanidxyangir in 332 pikxnkhristkal masaessidihxiyiptihkbkstriyxelksanedxrmharachodyimmikartxsu sungckrwrrdixakhiemnididlmslayipaelwnn inkhnathixiyiptidklaymaepnmnthlhnunginxanackrkhxngkstriyxelksanedxrmharach txmathxelmiaelaormnidpkkhrxnglumaemnainlxyangtxcaknnwthnthrrmburuschawxiyiptinchudepxresiy raw 343 332 pikxnkhristkal elkhthaebiyn 71 139 phiphithphnthbrukhlin bangkhrngchawxiyiptswmekhruxngaetngkayaelaekhruxngpradbcaktangpraeths rsniymkhxngaefchnthiimichkhxngxiyiptekidkhuninchwngthimikarkhakwangkhwanghruxmikartidtxthangkarthutkbrachsankthixyuhangikl hruxemuxxiyiptthukkhwbkhumodyxanactangchati chawepxresiysungrukranlumaemnainlsxngkhrngcakthinthaninexechiytawntk ekhamapkkhrxngxiyiptinchwngrachwngsthiyisibecdaehngxiyipt rahwang 525 404 pikxnkhristkal aelarachwngsthisamsibexdaehngxiyipt rahwang 342 332 pikxnkhristkal rupslknithuksrangkhuninsmyhlngkarpkkhrxngkhxngepxresiyinxiyipt cakkarxangxingcak kraoprngyawthiaesdngrxbrangkhxngrupslkniaelasxniwthikhxbdanbnkhxngesuxphaodythwipaelwepnaebbepxresiy srxykhxthieriykwa thxrk sungpradbdwyruptwixebks sylksnaehngkhwamwxngiwinepxresiyobran aelakhwamklahaythangephs sungrupslkniaesdngihehnthungkhunnangphuniinchudepxresiyxaccaepnkaraesdngthungkhwamcngrkphkditxphupkkhrxngphraxngkhihm ehriyyksapnehriyyksapnxiyiptaehngrachwngsxakhiemnid ehriyykhxngphuwakarmnthl sungeliynaebbehriyykhxngexethns praman 340 333 pikxnkhristkal caksmyxiyiptaehngrachwngsxakhiemnid ehriyykhxngphuwakarmnthl caksmyxiyiptaehngrachwngsxakhiemnid praman 335 333 pikxnkhristkalehriyyksapnsiliesiykbphupkkhrxngrachwngsxakhiemnidinthanafaorh xikehriyythikhlaykn phuwakarmnthlsiliesiy 361 0 334 pikxnkhristkal xikehriyythikhlaykn phuwakarmnthlsiliesiy 361 0 334 pikxnkhristkal ehriyyaehngsiliesiy raw 343 332 pikxnkhristkal khadwaepnrupkhxngkstriy danhna aelakstriy yuwkstriy danhlng odythithngsxngphraxngkhthrngswmmngkudfaorhrayphranamfaorhphranam rupphaph rchsmy phranamkhrxngrachy khaxthibay343 338 pikxnkhristkal thrngphnwkxiyiptihxyuphayitkarpkkhrxngkhxngepxresiyepnkhrngthisxng338 336 pikxnkhristkal thrngpkkhrxngechphaainxiyiptlang338 335 pikxnkhristkal esenn esetpu ni phthah thrngnakarptiwtitxtankarpkkhrxngkhxngepxresiyinxiyiptbnprakas aelathrngtngtnepnfaorh336 332 pikxnkhristkal thrngthaihxiyiptbnklbsukarkhwbkhumkhxngepxresiyxikkhrngemux 335 pikxnkhristkalesnewlakhxngrachwngsthisamsibexdphuwakarmnthlkhxngrachwngsthisamsibexdraynam chwngewlapkkhrxng rchsmy khaxthibay343 335 pikxnkhristkal xartaesxrsisthi 3335 333 pikxnkhristkal darixusthi 3 thuksngharin333 332 pikxnkhristkal darixusthi 3xangxingO Brien Patrick Karl 2002 Atlas of World History phasaxngkvs Oxford University Press pp 42 43 ISBN 9780195219210 1999 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 10 17 subkhnemux 2023 06 02 Davidson Peter 2018 Atlas of Empires The World s Great Powers from Ancient Times to Today phasaxngkvs i5 Publishing LLC ISBN 9781620082881 Barraclough Geoffrey 1989 The Times Atlas of World History phasaxngkvs Times Books p 79 ISBN 0723003041 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 03 subkhnemux 2023 06 02 Miller James M 1986 A History of Ancient Israel and Judah John Haralson Hayes photographer Westminster John Knox Press pp 465 ISBN 0 664 21262 X Kovacs Frank L 2002 Two Persian Pharaonic Portraits Jahrbuch fur Numismatik und Geldgeschichte phasaxngkvs R Pflaum pp 55 60 a Persian hero slaughtering an Egyptian pharaoh while leading four other Egyptian captives Hartley Charles W Yazicioglu G Bike Smith Adam T 2012 The Archaeology of Power and Politics in Eurasia Regimes and Revolutions phasaxngkvs Cambridge University Press p ix photograph 4 6 ISBN 9781139789387 Victor apparently wearing the tall Persian headdress rather than a crown leads four bareheaded Egyptian captives by a rope tied to his belt Victor spears a figure wearing Egyptian type crown in Root Margaret Cool 1979 The king and kingship in Achaemenid art essays on the creation of an iconography of empire phasaxngkvs Diffusion E J Brill p 182 ISBN 9789004039025 Another seal also from Egypt shows a Persian king his left hand grasping an Egyptian with an Egyptian hairdo pschent whom he thrusts through with his lance while holding four prisoners with a rope around their necks Briant Pierre 2002 From Cyrus to Alexander A History of the Persian Empire phasaxngkvs Eisenbrauns p 215 ISBN 9781575061207 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 03 subkhnemux March 2 2008 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux FK3 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux February 17 2008 subkhnemux March 6 2008 The long skirt shown wrapped around this statue s body and tucked in at the upper edge of the garment is typically Persian The necklace called a torque is decorated with images of ibexes symbols in ancient Persia of agility and sexual prowess The depiction of this official in Persian dress may have been a demonstration of loyalty to the new rulers Egyptian Man in a Persian Costume www brooklynmuseum org Brooklyn Museum CNG CILICIA Myriandros Mazaios Satrap of Cilicia 361 0 334 BC AR Obol 10mm 0 64 g Stewart John 2006 African States and Rulers Third ed London McFarland p 83 ISBN 0 7864 2562 8