Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
| ตะบูนขาว | |
|---|---|
 | |
| การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
| อาณาจักร: | Plantae |
| หมวด: | |
| ชั้น: | Magnoliopsida |
| อันดับ: | Sapindales |
| วงศ์: | Meliaceae |
| สกุล: | |
| สปีชีส์: | X. granatum |
| ชื่อทวินาม | |
| Xylocarpus granatum | |
ตะบูนขาว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Xylocarpus granatum) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Meliaceae เป็นไม้ผลัดใบ พบในป่าชายเลน พบได้ทั่วไปในเอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก รากมีพูพอน แผ่ออกจากโคนต้น มีรากหายใจค่อนข้างแบน เปลือกเรียบ สีน้ำตาลอมเหลือง เปลือกหลุดออกเป็นแผ่นบางๆ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ใบสีเขียวอ่อน ผิวใบเป็นมัน ดอกเป็นดอกช่อ แตกออกจากง่ามใบ ดอกสีขาว กลีบดอกมีสี่กลีบ ผลเป็นผลกลม สีน้ำตาลอมเขียว แก่แล้วเป็นสีน้ำตาลแก่ ภายในมีเมล็ดขนาดใหญ่ อัดแน่นภายในผล
การนำตะบูนขาวมาใช้ประโยชน์นั้น เปลือกให้น้ำฝาดใช้ย้อมผ้า เปลือกและผลแก้อหิวาตกโรค
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตะบูนขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสั้นแตกกิ่งใกล้โคนต้น มีพูพอนแผ่ออกคดเคี้ยว ต่อเนื่องกับรากหายใจที่แบนคล้ายแผ่นกระดาษ เปลือกเรียบบางสีเหลืองแต้มเขียวอ่อน หรือสีน้ำตาลอ่อน ถึงน้ำตาลแกมชมพู ลักษณะคล้ายเปลือกต้นฝรั่ง หรือตะแบก เปลือกหลุดออกเป็นแผ่นรูปทรงไม่แน่นอน ใบประกอบแบบขนนกปลาย ไม่มีใบยอด เรียงสลับ ใบย่อยมักมี 1-2 คู่เรียงตรงข้าม หรือเยื้องกันเล็กน้อย แผ่นใบรูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับขนาด 2-5 x 7-14 ซม. แผ่นใบสมมาตรกันปลายใบกลม ฐานใบรูปลิ่มใบ ดอกออกเป็นช่อที่ง่ามใบ ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ยาว 3-8 ซม. แต่ละช่อมี 8-20 ดอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 ซม. เป็นดอกแยกเพศ ก้านดอกย่อยยาว 0.4-1 ซม. กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ยาว 0.2 ซม. กลีบดอก 4 กลีบไม่ติดกัน สีขาวครีม เกสรเพศผู้ 8 อัน ดอกมีกลิ่นหอม ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ผลมีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 ซม. แบ่งเป็น 4 พู เท่าๆกัน แต่ละผลมี 7-17 เมล็ด ลักษณะโค้งนูนหนึ่งด้าน กว้าง 6-10 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลแดงคล้ายผลทับทิม ออกดอกและผลตลอดทั้งปี
อ้างอิง
- มัณฑนา นวลเจริญ. 2552. สารานุกรมความหลากหลายทางชีวภาพตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่. กทม. สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- J. S. Bunt, & N. C. Duke (March 1982). "Mangrove distributions in north-east Australia". . 9 (2): 111–120. JSTOR 2844696.
- . Germplasm Resources Information Network (GRIN). United States Department of Agriculture, Agricultural Research Service, Beltsville Area. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-11. สืบค้นเมื่อ 27 March 2011.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
tabunkhawkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaehmwd chn Magnoliopsidaxndb Sapindaleswngs Meliaceaeskul spichis X granatumchuxthwinamXylocarpus granatum tabunkhaw chuxwithyasastr Xylocarpus granatum epnimyuntninwngs Meliaceae epnimphldib phbinpachayeln phbidthwipinexechiy aexfrika xxsetreliy aelahmuekaainmhasmuthraepsifik rakmiphuphxn aephxxkcakokhntn mirakhayickhxnkhangaebn epluxkeriyb sinatalxmehluxng epluxkhludxxkepnaephnbang ibepnibprakxbaebbkhnnkchnediyw ibsiekhiywxxn phiwibepnmn dxkepndxkchx aetkxxkcakngamib dxksikhaw klibdxkmisiklib phlepnphlklm sinatalxmekhiyw aekaelwepnsinatalaek phayinmiemldkhnadihy xdaennphayinphl karnatabunkhawmaichpraoychnnn epluxkihnafadichyxmpha epluxkaelaphlaekxhiwatkorkhlksnathangphvkssastrtabunkhawepnimyuntnkhnadelkthungklang sung 10 15 emtr imphldib latnsnaetkkingiklokhntn miphuphxnaephxxkkhdekhiyw txenuxngkbrakhayicthiaebnkhlayaephnkradas epluxkeriybbangsiehluxngaetmekhiywxxn hruxsinatalxxn thungnatalaekmchmphu lksnakhlayepluxktnfrng hruxtaaebk epluxkhludxxkepnaephnrupthrngimaennxn ibprakxbaebbkhnnkplay immiibyxd eriyngslb ibyxymkmi 1 2 khueriyngtrngkham hruxeyuxngknelknxy aephnibrupikhklb hruxrupkhxbkhnanaekmrupikhklbkhnad 2 5 x 7 14 sm aephnibsmmatrknplayibklm thanibruplimib dxkxxkepnchxthingamib chxdxkaebbchxaeykaekhnng yaw 3 8 sm aetlachxmi 8 20 dxk esnphansunyklang 1 1 2 sm epndxkaeykephs kandxkyxyyaw 0 4 1 sm klibeliyng 4 klib yaw 0 2 sm klibdxk 4 klibimtidkn sikhawkhrim eksrephsphu 8 xn dxkmiklinhxm tngaetbaythungkha phlmilksnaklm esnphasunyklang 15 20 sm aebngepn 4 phu ethakn aetlaphlmi 7 17 emld lksnaokhngnunhnungdan kwang 6 10 sm phlaeksinatalaedngkhlayphlthbthim xxkdxkaelaphltlxdthngpixangxingmnthna nwlecriy 2552 saranukrmkhwamhlakhlaythangchiwphaphtablkhlxngprasngkh xaephxemuxng cnghwdkrabi kthm sanknganpldkrathrwngthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxmJ S Bunt amp N C Duke March 1982 Mangrove distributions in north east Australia 9 2 111 120 JSTOR 2844696 Germplasm Resources Information Network GRIN United States Department of Agriculture Agricultural Research Service Beltsville Area khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 10 11 subkhnemux 27 March 2011