พระราชวังมัณฑะเลย์ (อังกฤษ: Mandalay Palace, พม่า: မန္တလေး နန်းတော်) เป็นพระราชวังหลวงในประเทศพม่า และเป็นพระราชวังสุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของอาณาจักรพม่า ถูกก่อสร้างโดยพระเจ้ามินดง ระหว่างปี ค.ศ. 1857–ค.ศ. 1859 หลังการย้ายเมืองหลวงจากอมรปุระมายังมัณฑะเลย์ เพื่อหนีกองกำลังของจักรวรรดิอังกฤษ ระหว่างสงครามพม่า–อังกฤษ ตามความเชื่อ
พระราชวังมัณฑะเลย์ | |
---|---|
မန္တလေး နန်းတော် | |
บริเวณพระราชวังมัณฑะเลย์ | |
ที่ตั้งในประเทศพม่า | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | พระราชวังหลวง |
ที่ตั้ง | มัณฑะเลย์ |
ประเทศ | พม่า |
พิกัด | 21°59′34.59″N 96°5′45.28″E / 21.9929417°N 96.0959111°E |
เริ่มสร้าง | ค.ศ. 1857 |
แล้วเสร็จ | ค.ศ. 1859 |
เจ้าของ | รัฐบาลพม่า |
พระราชวังมัณฑะเลย์เป็นที่พำนักของกษัตริย์มินดงและกษัตริย์ธีบอซึ่งเป็นกษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของประเทศ พระราชวังยุติการเป็นเป็นที่รโหฐานของราชวงศ์และเป็นที่ตั้งของรัฐบาลเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428 ช่วงสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สาม กองกำลังทหารได้เข้าไปสนามด้านในพระราชวังเพื่อควบคุมตัวพระราชวงศ์ อังกฤษเปลี่ยนพระราชวังให้กลายเป็นป้อมปราการดัฟเฟอริน โดยตั้งชื่อตามอุปราชแห่งอินเดียในเวลานั้น ตลอดยุคอาณานิคมของอังกฤษพระราชวังถูกมองเป็นสัญลักษณ์หลักของอำนาจอธิปไตยและอัตลักษณ์ของพม่า
บริเวณพระราชวังส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยการทิ้งระเบิดของฝ่ายพันธมิตร เหลือเพียงส่วนกรมธนารักษ์และหอนาฬิกาเท่านั้นที่เหลือรอดจากการทำลาย แบบจำลองของวังปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1990 ด้วยวัสดุสมัยใหม่โดยรัฐบาลพม่า โดยการลอกแบบโครงสร้างเดิม ปัจจุบันพระราชวังมัณฑะเลย์เป็นสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของมัณฑะเลย์
ชื่อ
ชื่อทางการของพระราชวังมัณฑะเลย์ในภาษาพม่าคือ မြနန်းစံကျော် (Mya Nan San Kyaw) อันหมายความว่า "พระราชวังมรกตลือเลื่อง" แต่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ရွှေနန်းတော်ကြီး อันหมายถึง "พระราชวังทองคำ"
ประวัติ
พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการก่อตั้งเมืองหลวงมัณฑะเลย์ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1857 สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ของพระราชวังมัณฑะเลย์ถูกย้ายจากพระราชวังในอมรปุระ มาตั้ง ณ มัณฑะเลย์ แผนผังเมืองแบ่งเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัส 144 บล็อก โดยพระราชวังมีขนาด 16 บล็อกอยู่ตรงกลางจากเนินเขามัณฑะเลย์ พระราชวังกินบริเวณพื้นที่ 2,581 ไร่ล้อมรอบด้วยกำแพงยาว 2 กิโลเมตร (6,666 ฟุต) และคูเมืองกว้าง 64 ม. (210 ฟุต) ลึก 4.5 ม. (15 ฟุต) ตามกำแพงมีมุขป้อมที่มียอดแหลมทองคำตามช่วงระยะทาง 169 ม. (555 ฟุต) กำแพงแต่ละด้านมีประตูสามบานรวมทั้งหมดสิบสองประตูแต่ละหลังมีสัญลักษณ์จักรราศี และแต่ละป้อมปราการมีสะพานห้าแห่งทอดข้ามคูเมือง
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2400 เริ่มการก่อสร้างพระราชวัง หลังจากสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2395 อาณาจักรพม่าที่เผชิญศึกมีทรัพยากรไม่มากนักในการสร้างวังอันโอ่อ่าแห่งใหม่ อดีตวังของอมรปุระถูกรื้อถอนและย้ายโดยช้างไปยังตำแหน่งใหม่ที่เชิงเขามัณฑะเลย์ การก่อสร้างบริเวณพระราชวังเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2402
หลังจากจักรวรรดิบริติชยึดครองอาณาจักรพม่าอย่างสมบูรณ์ ชาวอังกฤษได้เข้าบุกและรื้อค้นพระราชวังและเผาหอสมุดหลวงที่ซึ่งเคยเป็นสถานที่สำคัญที่ใช้เก็บต้นฉบับคัมภีร์ใบลานชั้นสูงภาษาบาลีและพม่าดั้งเดิมจำนวนมาก อีกทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของพม่าถูกปล้นสะดมและไปปรากฏจัดแสดงเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑ์เซาท์เคนซิงตัน (ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียและอัลเบิร์ต, ลอนดอน) ในปี พ.ศ. 2507 เครื่องราชกกุธภัณฑ์ถูกส่งคืนกลับมาพม่าเพื่อแสดงไมตรีจิตร อังกฤษเปลี่ยนชื่อเป็นป้อมปราการดัฟเฟอรินและใช้เป็นค่ายกองทหาร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองพระราชวังได้กลายเป็นคลังพัสดุของจักรวรรดิญี่ปุ่น และถูกเผาจากความประมาทโดยการวางระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร เหลือเพียงส่วนกรมธนารักษ์และหอนาฬิกาเท่านั้นที่เหลือรอดจากการทำลาย
การบูรณะพระราชวังเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2532 โดยกรมโบราณคดี แต่ด้วยเงินทุนของรัฐบาลไม่เพียงพอ จึงมีการก่อตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูพระราชวังมัณฑะเลย์ด้วยเงินทุนที่มาจากสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ รัฐบาลระดับภูมิภาคของมัณฑะเลย์, มะกเว และซะไกง์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการวาดแผนสถาปัตยกรรมและสร้างส่วนต่าง ๆ ของพระราชวังขึ้นมาใหม่ โดยแบ่งออกเป็น
- ส่วนรับผิดชอบมัณฑะเลย์: หอประชุมใหญ่ สีหาสนบัลลังก์
- ส่วนรับผิดชอบมะกเว: หอสังเกตการณ์ ปทุมาสนราชบัลลังก์
- ส่วนรับผิดชอบซะไกง์; หงสาสนบัลลังก์
ในขณะที่การออกแบบโดยรวมพยายามยึดถือตามแผน กระบวนการก่อสร้างได้รวมเทคนิคการก่อสร้างทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ มีการใช้แผ่นโลหะลูกฟูกใช้สำหรับมุงหลังคาของอาคารส่วนใหญ่ ยังมีการใช้คอนกรีตเป็นส่วนมากของสถาปัตยกรรม (พระราชวังเดิมถูกสร้างขึ้นโดยใช้เพียงไม้สักเท่านั้น)
โดยหนึ่งในอาคารที่ถูกรื้อถอนในช่วงการปกครองของกษัตริย์ธีบอ และสร้างใหม่เป็นวัดชเวนันดอว์ เป็นเพียงอาคารหลังเดียวที่เหลืออยู่ของพระราชวังไม้แบบดั้งเดิม
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-29. สืบค้นเมื่อ 2012-01-30.
- (PDF). Directorate of Archaeological Survey, Burma. 1963. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 28 January 2018. สืบค้นเมื่อ 2006-08-22.
- List of Ancient Monuments in Burma (I. Mandalay Division). Vol. 1. Rangoon: Office of the Superintendent, Government Printing, Burma. 1910. p. 2.
- Kyaw Thein (1996). The Management of Secondary Cities in Southeast Asia. Case Study: Mandalay. United Nations Centre for Human Settlements. UN-Habitat. ISBN .
- Lowry, John,1974, Burmese Art, London
- Bird, George W. (1897). Wanderings in Burma. London: F. J. Bright & Son. p. 254.
- Moore, Elizabeth (1993). "The Reconstruction of mandalay Palace". Bulletin of the School of Oriental and African Studies. University of London. 56 (2). doi:10.1017/s0041977x0000553x.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Wanderings in Burma by George W Bird, 1897 F J Bright & Son, London
- Recent photos of Mandalay Palace
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrarachwngmnthaely xngkvs Mandalay Palace phma မန တလ နန တ epnphrarachwnghlwnginpraethsphma aelaepnphrarachwngsudthayaehngrabxbsmburnayasiththirachykhxngxanackrphma thukkxsrangodyphraecamindng rahwangpi kh s 1857 kh s 1859 hlngkaryayemuxnghlwngcakxmrpuramayngmnthaely ephuxhnikxngkalngkhxngckrwrrdixngkvs rahwangsngkhramphma xngkvs tamkhwamechuxphrarachwngmnthaelyမန တလ နန တ briewnphrarachwngmnthaelythitnginpraethsphmakhxmulthwippraephthphrarachwnghlwngthitngmnthaelypraeths phmaphikd21 59 34 59 N 96 5 45 28 E 21 9929417 N 96 0959111 E 21 9929417 96 0959111erimsrangkh s 1857aelwesrckh s 1859ecakhxngrthbalphma phrarachwngmnthaelyepnthiphankkhxngkstriymindngaelakstriythibxsungepnkstriysxngphraxngkhsudthaykhxngpraeths phrarachwngyutikarepnepnthirohthankhxngrachwngsaelaepnthitngkhxngrthbalemuxwnthi 28 phvscikayn ph s 2428 chwngsngkhramxngkvs phmakhrngthisam kxngkalngthharidekhaipsnamdaninphrarachwngephuxkhwbkhumtwphrarachwngs xngkvsepliynphrarachwngihklayepnpxmprakardfefxrin odytngchuxtamxuprachaehngxinediyinewlann tlxdyukhxananikhmkhxngxngkvsphrarachwngthukmxngepnsylksnhlkkhxngxanacxthipityaelaxtlksnkhxngphma briewnphrarachwngswnihythukthalayinchwngsngkhramolkkhrngthisxngodykarthingraebidkhxngfayphnthmitr ehluxephiyngswnkrmthnarksaelahxnalikaethannthiehluxrxdcakkarthalay aebbcalxngkhxngwngpccubnthuksrangkhunihminchwngpi kh s 1990 dwywsdusmyihmodyrthbalphma odykarlxkaebbokhrngsrangedim pccubnphrarachwngmnthaelyepnsylksnaelaaehlngthxngethiywsakhyaehnghnungkhxngmnthaelychuxchuxthangkarkhxngphrarachwngmnthaelyinphasaphmakhux မ နန စ က Mya Nan San Kyaw xnhmaykhwamwa phrarachwngmrktluxeluxng aetepnthiruckkndiinchux ရ နန တ က xnhmaythung phrarachwngthxngkha prawtikxngkalngxananikhmkhxngxngkvsinphrarachwngmnthaelykxnkarthukplnsadm ph s 2430 phaphwadaebbphmadngedimbriewnphrarachwngmnthaelyinsmyrachwngsoknbxngkxngthph xngkvs ehlathharxnanikhm brietn ykkalngmayunthunghnawnghlwngthxng phrarachwng mnthaely inwnsudthay sngkhramxngkvs phmakhrngthi 3 wnthi 28 phvscikayn pi 1885 emuxphraecath i bx eehngrachwngs oknbxng thrngprakas yxmeephtxckrwrrdi britich phrarachwngmnthaelysrangkhunephuxepnswnhnungkhxngkarkxtngemuxnghlwngmnthaelyineduxnkumphaphnth kh s 1857 sthaptykrrmswnihykhxngphrarachwngmnthaelythukyaycakphrarachwnginxmrpura matng n mnthaely aephnphngemuxngaebngepnruptarangsiehliymcturs 144 blxk odyphrarachwngmikhnad 16 blxkxyutrngklangcakeninekhamnthaely phrarachwngkinbriewnphunthi 2 581 irlxmrxbdwykaaephngyaw 2 kiolemtr 6 666 fut aelakhuemuxngkwang 64 m 210 fut luk 4 5 m 15 fut tamkaaephngmimukhpxmthimiyxdaehlmthxngkhatamchwngrayathang 169 m 555 fut kaaephngaetladanmipratusambanrwmthnghmdsibsxngpratuaetlahlngmisylksnckrrasi aelaaetlapxmprakarmisaphanhaaehngthxdkhamkhuemuxng ineduxnmithunayn ph s 2400 erimkarkxsrangphrarachwng hlngcaksngkhramxngkvs phmakhrngthisxng inpi ph s 2395 xanackrphmathiephchiysukmithrphyakrimmaknkinkarsrangwngxnoxxaaehngihm xditwngkhxngxmrpurathukruxthxnaelayayodychangipyngtaaehnngihmthiechingekhamnthaely karkxsrangbriewnphrarachwngesrcsmburnxyangepnthangkarinwncnthrthi 23 phvsphakhm ph s 2402 hlngcakckrwrrdibritichyudkhrxngxanackrphmaxyangsmburn chawxngkvsidekhabukaelaruxkhnphrarachwngaelaephahxsmudhlwngthisungekhyepnsthanthisakhythiichekbtnchbbkhmphiriblanchnsungphasabaliaelaphmadngedimcanwnmak xikthngekhruxngrachkkuthphnthkhxngphmathukplnsadmaelaippraktcdaesdngepnhnunginobranwtthukhxngphiphithphnthesathekhnsingtn pccubnklayepnphiphithphnthwikhtxeriyaelaxlebirt lxndxn inpi ph s 2507 ekhruxngrachkkuthphnththuksngkhunklbmaphmaephuxaesdngimtricitr xngkvsepliynchuxepnpxmprakardfefxrinaelaichepnkhaykxngthhar inchwngsngkhramolkkhrngthisxngphrarachwngidklayepnkhlngphsdukhxngckrwrrdiyipun aelathukephacakkhwampramathodykarwangraebidkhxngfaysmphnthmitr ehluxephiyngswnkrmthnarksaelahxnalikaethannthiehluxrxdcakkarthalay karburnaphrarachwngerimkhuninpi ph s 2532 odykrmobrankhdi aetdwyenginthunkhxngrthbalimephiyngphx cungmikarkxtngkhnakrrmkarfunfuphrarachwngmnthaelydwyenginthunthimacaksphasntiphaphaelakarphthnaaehngrthsungepnphusnbsnunokhrngkarni rthbalradbphumiphakhkhxngmnthaely makew aelasaikng mihnathirbphidchxbinkarwadaephnsthaptykrrmaelasrangswntang khxngphrarachwngkhunmaihm odyaebngxxkepn swnrbphidchxbmnthaely hxprachumihy sihasnbllngk swnrbphidchxbmakew hxsngektkarn pthumasnrachbllngk swnrbphidchxbsaikng hngsasnbllngk inkhnathikarxxkaebbodyrwmphyayamyudthuxtamaephn krabwnkarkxsrangidrwmethkhnikhkarkxsrangthngaebbdngedimaelasmyihm mikarichaephnolhalukfukichsahrbmunghlngkhakhxngxakharswnihy yngmikarichkhxnkritepnswnmakkhxngsthaptykrrm phrarachwngedimthuksrangkhunodyichephiyngimskethann odyhnunginxakharthithukruxthxninchwngkarpkkhrxngkhxngkstriythibx aelasrangihmepnwdchewnndxw epnephiyngxakharhlngediywthiehluxxyukhxngphrarachwngimaebbdngedimxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 29 subkhnemux 2012 01 30 PDF Directorate of Archaeological Survey Burma 1963 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 28 January 2018 subkhnemux 2006 08 22 List of Ancient Monuments in Burma I Mandalay Division Vol 1 Rangoon Office of the Superintendent Government Printing Burma 1910 p 2 Kyaw Thein 1996 The Management of Secondary Cities in Southeast Asia Case Study Mandalay United Nations Centre for Human Settlements UN Habitat ISBN 9789211313130 Lowry John 1974 Burmese Art London Bird George W 1897 Wanderings in Burma London F J Bright amp Son p 254 Moore Elizabeth 1993 The Reconstruction of mandalay Palace Bulletin of the School of Oriental and African Studies University of London 56 2 doi 10 1017 s0041977x0000553x aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phrarachwngmnthaely Wanderings in Burma by George W Bird 1897 F J Bright amp Son London Recent photos of Mandalay Palace 21 59 34 59 N 96 5 45 28 E 21 9929417 N 96 0959111 E 21 9929417 96 0959111