จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์

จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ (อังกฤษ: John D. Rockefeller) เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์และนักให้ทาน ต่อมาได้บริจาคทุนทรัพย์ 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อตั้งมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์ขึ้นสำหรับช่วยเหลือด้านการศึกษาและการสาธารณสุข

จอห์น เดวิดสัน ร็อกเกอะเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller)
จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ในปี ค.ศ. 1885
เกิด	8 กรกฎาคม ค.ศ. 1839(1839-07-08) , สหรัฐอเมริกา
เสียชีวิต	พฤษภาคม 23, 1937(1937-05-23) (97 ปี) ,
สุสาน	, , โอไฮโอ 41°30′40″N 81°35′28″W / 41.511°N 81.591°W / 41.511; -81.591
อาชีพ	ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานบริษัทสแตนดาร์ดออยล์ ผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยชิคาโก และ ผู้ออกทุนสนับสนุนในการก่อตั้ง ผู้ก่อตั้ง ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์
คู่สมรส	(m. 1864—1915; เสียชีวิต)
บุตร	อลิซ ร็อกเกอะเฟลเลอร์
บิดามารดา	เอลิซา เดวิสัน
ญาติ	(น้องชาย) (น้องชาย) (หลานชาย) (หลานชาย) (หลานสาว) (หลานสาว) (หลานชาย) (หลานสาว) (หลานชาย) (หลานชาย) (หลานชาย) (หลานชาย) (หลานชาย)

จอห์น ดี ร็อกเกอะเฟลเลอร์ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นชาวอเมริกันผู้ซึ่งร่ำรวยที่สุดตลอดกาล และยังเป็นผู้ซึ่งร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ร็อกเกอะเฟลเลอร์เกิดในครอบใหญ่ใหญ่แห่งหนึ่งในตอนเหนือของนิวยอร์ก ได้ถูกอบรมสั่งสอนจากพ่อของเขาซึ่งเป็น นักการค้าหัวใสและแม่ซึ่งเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ แปปติส อย่างเคร่งครัด ครอบครัวของร็อกเกอะเฟลเลอร์ได้เคลื่อนย้ายถิ่นฐานหลายครั้งก่อนที่จะลงหลักปักฐานอย่างถาวรใน เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ร็อกเกอะเฟลเลอร์มาเป็นผู้ช่วยพนักงานบัญชีเมื่ออายุได้ราว 16 ปี และได้ร่วมหุ้นกับ มอริช บี. คลาร์คและพี่น้องเมื่ออายุได้ 20 ทำธุรกิจด้านอาหาร หลังจากนั้นร็อกเกอะเฟลเลอร์และพี่ชาย วิลเลียม ร็อกเกอะเฟลเลอร์ได้เล็งเห็นช่องทางว่าราคาของน้ำมันไขปลาวาฬมีราคาสูงมากและราคาน้ำมันขุดจากดินกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ราคาสูงขึ้น แทนที่จะขุดหาน้ำมัน พวกเขากลับสนใจในการกลั่นน้ำมันแทน จึงได้ก่อตั้งบริษัท ร็อกเกอะเฟลเลอร์แอนดริวส์แอนด์แฟรกซ์เลอร์ขึ้น พวกเขาเริ่มซื้อโรงกลั่นท้องถิ่นในเคฟแลนด์ และทำการกลั่นน้ำมันให้กับบริษัทของตนเอง ในปี ค.ศ. 1870 ร็อกเกอะเฟลเลอร์ได้ก่อตั้งบริษัทน้ำมันอย่างเป็นทางการขึ้น ในนามว่า

อาชีพก่อนทำธุรกิจสแตนดาร์ด ออยล์

ผู้ช่วยพนักงานบัญชี

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1855 เมื่อร็อกเกอะเฟลเลอร์อายุได้สิบหกปี เขาได้ทำงานแรกด้วยการเป็นผู้ช่วยโดยทำงานให้กับบริษัทนายหน้าขนาดเล็กชื่อเฮวิตต์แอนด์ทัตเทิล เขาทำงานเป็นเวลานานหลายชั่วโมงด้วยความพึงพอใจ ในขณะที่เขาเล่าภายหลังใน"วิธีการทั้งหมดและระบบของสำนักงาน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณค่าใช้จ่ายการขนส่ง ซึ่งส่งผลดีให้แก่อาชีพของเขาในเวลาต่อมา

สแตนดาร์ดออยล์

ร็อกเกอะเฟลเลอร์ ได้ร่วมมือกับนักเคมีชาวยิวที่เกิดในอังกฤษผู้ได้รับฉายาว่าเป็นอัจฉริยะทางเคมี ชื่อ ทำการจัดตั้งบริษัทขุดเจาะน้ำมันชื่อว่า ที่เมืองคลีฟแลนด์ จนกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในระดับยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจน้ำมันของสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่นั้น และในช่วงปี ค.ศ. 1822 หลังจากที่เกิดการรวมประเทศอิตาลีซึ่งมีผลทำให้ธุรกิจธนาคารในเครือข่ายของตระกูลรอทไชลด์ ในอิตาลีต้องปิดตัวลง รอทไชลด์ก็ได้ย้ายฐานการลงทุนจากอิตาลีไปยังอเมริกาด้วยการร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันกับจอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ในเวลาต่อมา

แหล่งข้อมูลอื่น

• ผลงานของ จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ ที่โครงการกูเทินแบร์ค
• The Rockefeller Archive Center: The authorised Rockefeller family bibliography 2008-03-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• American Experience: The Rockefellers 2012-02-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน A full transcript of the PBS documentary on the family history, with contributions from and author .
• The History of the Standard Oil Company, by Ida Tarbell, full text, HTML 2004-02-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• John D. Rockefeller Biography
• Timeline of the Rockefeller family history since his birth 2012-03-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• A genealogy of his family
• Illustrated article about John D Rockefeller and the Standard Oil Company
• ผลงานของ John D. Rockefeller ที่โครงการกูเทินแบร์ค
• Financier's Fortune in Oil Amassed in Industrial Era of 'Rugged Individualism' NY Times Obituary, May 24, 1937
• A Capital Life A New York Times book review of "Titan" by Ron Chernow (1998).

1. Chernow 1998, p. 46. sfn error: no target: CITEREFChernow1998 ()