สมาคมเขมรอิสระ (อังกฤษ: United Issarak Front; เขมร: សមាគមខ្មែរឥស្សរៈ) เป็นขบวนการต่อต้านการปกครองแบบอาณานิคมของฝรั่งเศสในกัมพูชาระหว่าง พ.ศ. 2493 – 2497 และเป็นฝ่ายซ้ายของขบวนการเขมรอิสระ เป็นกลุ่มที่ต่อต้านสหภาพฝรั่งเศส ในช่วงที่มีการประชุมที่เจนีวา พ.ศ. 2497 กองกำลังของสมาคมเขมรอิสระควบคุมประเทศได้ครึ่งหนึ่ง
การก่อตั้ง
การประชุมเพื่อจัดตั้งสมาคมเขมรอิสระมีขึ้นที่กำปงโสม จังหวัดกำปอต เมื่อ 17 – 19 เมษายน พ.ศ. 2493 มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน และมีนายพลอุง เซาจากเวียดมิญมาร่วมสังเกตการณ์ โดยในการประชุมมีการประดับธงของเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ที่ประชุมได้เลือกเซิง งอกมิญเป็นผู้นำสูงสุด คณะกรรมการคนอื่นมี จัน ดารา มีตัวแทนจากพนมเปญ (เชื่อว่าเป็น แกว เมียส) และอีก 2 คนเป็นตัวแทนของ มีสมาชิกของคณะกรรมการ 5 คนอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน
รัฐบาลของฝ่ายต่อต้าน
การประชุมเพื่อก่อตั้งสมาคมเขมรอิสระ นำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลปฏิวัติที่เรียกคณะกรรมการศูนย์เพื่อเสรีภาพประชาชน ผู้ที่เป็นประธานคือเซิง งอกมิญ และผู้ที่เป็นรองประธานมี จัน สมัย เซียว เฮง ตู สามุต เซิง ฟอกรัตนาเป็นเลขาธิการทั่วไป นอน ซวนเป็นสมาชิกคนที่หกของคณะกรรมการ ต่อมา 19 มิถุนายน พ.ศ. 2493 เซิง งอกมิญประกาศเอกราชของกัมพูชา โดยสามารถควบคุมพื้นที่ได้หนึ่งในสามของประเทศ ใน พ.ศ. 2495 สมาคมได้รวมกับคณะกรรมการปลดปล่อยแห่งชาติเขมรที่นำโดย ซึ่งมีฐานที่มั่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยฝ่ายที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์ของคณะกรรมการปลดปล่อยแห่งชาติเขมรได้แยกตัวออกไปต่างหาก สมาคมจึงประกาศจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายต่อต้านเขมร ซึ่งประกอบไปด้วย เซิง งอกมิญเป็นประธานาธิบดี จัน สมัยเป็นรองประธานาธิบดี ตู สามุตเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แก้ว โมนีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจา ยิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เซียว เฮงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลียบ แก้ว โมนีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงจริยธรรมและสอส มันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนา
ความขัดแย้งทางการทหาร
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2493 สมาคมได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดทหารโดยมีกำลังทหารประมาณ 100 คน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2493 ฝรั่งเศสเริ่มดำเนินการปราบปรามสมาคม โดยทางสมาคมได้รับการสนับสนุนทางทหารจากเวียดมิญราว 3,000 คน ใน เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 สมาคมและเวียดมิญได้เข้าโจมตีและฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัดเปรยแวงตาย ซึ่งได้นำมาใช้ในการโฆษณาความสำเร็จของสมาคม
การประชุมเจนีวา
ในการประชุมเจนีวา สมาคมส่งตัวแทนไปร่วมสองคนคือแก้ว โมนี และเมย โพ ในการประชุมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในอินโดจีนนี้ เวียดมิญได้เสนอให้รัฐบาลฝ่ายต่อต้านของเขมรมีสิทธิในการเจรจากับรัฐบาลนี้เทียบเท่ากับรัฐบาลของราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและจีน ในขณะที่ฝ่ายตะวันตกต้องการให้ถอนการรับรองสมาคมเขมรอิสระ ผลสำเร็จจากการประชุมครั้งนี้คือ ข้อตกลงสงบศึกซึ่งรวมทั้งฝ่ายสมาคมเขมรอิสระด้วย กัมพูชาได้รับเอกราชภายใต้การปกครองของพระนโรดม สีหนุ และการถอนกำลังของเวียดมิญออกจากกัมพูชา
สมาคมเขมรอิสระกับพุทธศาสนา
เนื่องจากผู้นำของสมาคม 2 คนคือ เซิง งอกมิญและตู สามุตเคยเป็นพระภิกษุมาก่อน สมาคมจึงได้รับอิทธิพลความเชื่อจากพุทธศาสนาด้วย ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 สมาคมได้จัดตั้งการประชุมทางด้านพุทธศาสนาในกัมพูชา ใน พ.ศ. 2495 เซิง งอกมิญและ (พระภิกษุที่เข้าร่วมในสมาคมและเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อิสระ "Issarak") จัน ดาราและพระภิกษุอีก 5 รูป ได้เดินทางไปยัง โดยได้กล่าวถึงบทบาทของพระพุทธศาสนาในการต่อสู้เพื่อเอกราช
อ้างอิง
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 80
- Cambodia - The Cambodian Left: The Early Phases
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 82, 130
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 125
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985.. p. 81
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 85
- Kiernan, Ben. How Pol Pot Came to Power. London: Verso, 1985. p. 141-155
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smakhmekhmrxisra xngkvs United Issarak Front ekhmr សម គមខ ម រ ឥស សរ epnkhbwnkartxtankarpkkhrxngaebbxananikhmkhxngfrngessinkmphucharahwang ph s 2493 2497 aelaepnfaysaykhxngkhbwnkarekhmrxisra epnklumthitxtanshphaphfrngess inchwngthimikarprachumthiecniwa ph s 2497 kxngkalngkhxngsmakhmekhmrxisrakhwbkhumpraethsidkhrunghnungthngkhxngsmakhmekhmrxisra txmathukprbichepnthngchatikhxngsatharnrthprachachnkmphucha sngektthirupprasathnkhrwdmihayxd swnthngkhxngekhmrxisrathiimidrwmmuxkbewiydmiycamisamyxd sungtxmathukprbmaichepnthngkhxngkmphuchaprachathipity karkxtngkarprachumephuxcdtngsmakhmekhmrxisramikhunthikapngosm cnghwdkapxt emux 17 19 emsayn ph s 2493 miphuekharwmprachumpraman 200 khn aelaminayphlxung esacakewiydmiymarwmsngektkarn odyinkarprachummikarpradbthngkhxngewiydnam law aelakmphucha thiprachumideluxkesing ngxkmiyepnphunasungsud khnakrrmkarkhnxunmi cn dara mitwaethncakphnmepy echuxwaepn aekw emiys aelaxik 2 khnepntwaethnkhxng mismachikkhxngkhnakrrmkar 5 khnxyuinphrrkhkhxmmiwnistxinodcinrthbalkhxngfaytxtankarprachumephuxkxtngsmakhmekhmrxisra naipsukarkxtngrthbalptiwtithieriykkhnakrrmkarsunyephuxesriphaphprachachn phuthiepnprathankhuxesing ngxkmiy aelaphuthiepnrxngprathanmi cn smy esiyw ehng tu samut esing fxkrtnaepnelkhathikarthwip nxn swnepnsmachikkhnthihkkhxngkhnakrrmkar txma 19 mithunayn ph s 2493 esing ngxkmiyprakasexkrachkhxngkmphucha odysamarthkhwbkhumphunthiidhnunginsamkhxngpraeths in ph s 2495 smakhmidrwmkbkhnakrrmkarpldplxyaehngchatiekhmrthinaody sungmithanthimnthangtawntkechiyngehnuxkhxngpraeths odyfaythitxtankhxmmiwnistkhxngkhnakrrmkarpldplxyaehngchatiekhmridaeyktwxxkiptanghak smakhmcungprakascdtngrthbalfaytxtanekhmr sungprakxbipdwy esing ngxkmiyepnprathanathibdi cn smyepnrxngprathanathibdi tu samutepnrthmntriwakarkrathrwngmhadithy aekw omniepnrthmntriwakarkrathrwngkartangpraeths eca yin epnrthmntriwakarkrathrwngsuksathikar esiyw ehngepnrthmntriwakarkrathrwngklaohm eliyb aekw omniepnrthmntriwakarkrathrwngcriythrrmaelasxs mnepnrthmntriwakarkrathrwngsasnakhwamkhdaeyngthangkarthharineduxnsinghakhm ph s 2493 smakhmidcdtngorngeriynfukhdthharodymikalngthharpraman 100 khn ineduxnknyayn ph s 2493 frngesserimdaeninkarprabpramsmakhm odythangsmakhmidrbkarsnbsnunthangthharcakewiydmiyraw 3 000 khn in eduxnkumphaphnth ph s 2496 smakhmaelaewiydmiyidekhaocmtiaelakhaphuwarachkarcnghwdepryaewngtay sungidnamaichinkarokhsnakhwamsaerckhxngsmakhmkarprachumecniwainkarprachumecniwa smakhmsngtwaethniprwmsxngkhnkhuxaekw omni aelaemy oph inkarprachumephuxaekpyhakhwamkhdaeynginxinodcinni ewiydmiyidesnxihrthbalfaytxtankhxngekhmrmisiththiinkarecrcakbrthbalniethiybethakbrthbalkhxngrachxanackrkmphucha sungidrbkarsnbsnuncakshphaphosewiytaelacin inkhnathifaytawntktxngkarihthxnkarrbrxngsmakhmekhmrxisra phlsaerccakkarprachumkhrngnikhux khxtklngsngbsuksungrwmthngfaysmakhmekhmrxisradwy kmphuchaidrbexkrachphayitkarpkkhrxngkhxngphranordm sihnu aelakarthxnkalngkhxngewiydmiyxxkcakkmphuchasmakhmekhmrxisrakbphuththsasnaenuxngcakphunakhxngsmakhm 2 khnkhux esing ngxkmiyaelatu samutekhyepnphraphiksumakxn smakhmcungidrbxiththiphlkhwamechuxcakphuththsasnadwy ineduxnkumphaphnth ph s 2494 smakhmidcdtngkarprachumthangdanphuththsasnainkmphucha in ph s 2495 esing ngxkmiyaela phraphiksuthiekharwminsmakhmaelaepnbrrnathikarhnngsuxphimphxisra Issarak cn daraaelaphraphiksuxik 5 rup idedinthangipyng odyidklawthungbthbathkhxngphraphuththsasnainkartxsuephuxexkrachxangxingKiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 80 Cambodia The Cambodian Left The Early Phases Kiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 82 130 Kiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 125 Kiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 81 Kiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 85 Kiernan Ben How Pol Pot Came to Power London Verso 1985 p 141 155