Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
อัลโลพีเชีย อารีอาตา (อังกฤษ: Alopecia areata) หรือ ผมร่วงเป็นหย่อม (อังกฤษ: spot baldness) เป็นอาการเป็นบางจุดในร่างกาย บ่อยครั้งทำให้เกิดบนหนังศีรษะเป็นหย่อม ๆ ขนาดประมาณเหรียญความเครียดและการเจ็บป่วยอาจเพิ่มความเสี่ยง แต่ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่พบตัวกระตุ้นใด ๆ เป็นพิเศษ และผู้ป่วยโดยทั่วไปมักมีสุขภาพที่เี ในบางกรณีอาจเกิดผมร่วงทั้งศีรษะ (), หรือทั้งขนและผมร่วงทั้งร่างกาย () การร่วงของผมและขนอาจเป็นถาวรได้ ผมร่วงเป็นหย่อมนี้เป็นคนละโรคกันกับ
| ผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata | |
|---|---|
| ชื่ออื่น | Alopecia Celsi, vitiligo capitis, Jonston's alopecia |
 | |
| ผมร่วงเป็นหย่อมบนหนังศีรษะของผู้ป่วย | |
| การออกเสียง |
|
| สาขาวิชา | ตจวิทยา |
| อาการ | มักเป็นที่หนังศีรษะ |
| การตั้งต้น | เด็ก |
| สาเหตุ | ภูมิคุ้มกันตัวเอง |
| ปัจจัยเสี่ยง | ประวัติครอบครัว, ไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ |
| โรคอื่นที่คล้ายกัน | , , |
| การรักษา | ครีมกันแดด, คลุมศีรษะไม่ให้สัมผัสความร้อนความเย็น |
| ยา | |
| พยากรณ์โรค | ไม่ส่งผลต่อค่าการคาดหมายคงชีพ |
| ความชุก | ~2% (สหรัฐ) |
เข้าใจกันว่าผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากโรคภูมิต้านตนเอง ที่ซึ่งศูนย์เสียลักษณะพิเศษ ปัจจัยเสี่ยงรวมถึงประวัติครอบครัว นอกจากนี้ยังพบว่าในแฝดเหมือน หากคนหนึ่งมีอาการนี้ คู่แฝดอาจมีความเสี่ยงเกิดโรคได้ 50% กลไกเกิดโรคประกอบด้วยการที่ระบบภูมิคุ้มกันไม่รับรู้ว่าเป็นเซลล์ของร่างกาย และจึงโจมตีเซลล์เหล่านั้น
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษา แต่อาจมีการฉีดเพื่อเร่งการเติบโตของเส้นผม รวมถึงแนะนำให้ใช้สารกันแดด, การโพกปิดศีรษะจากความร้อนและความเย็น และในกรณีที่ร่วงก็แนะนำให้สวมแว่นตาด้วย ในบางกรณีผมและขนสามารถงอกขึ้นใหม่ได้โดยสมบูรณ์และก็ไม่เกิดอาการซ้ำขึ้นอีก และในบางรายอาจให้เวลาหลายปี ส่วนในกรณีที่เสียผมและขนทั้งหมด มี 10% ที่จะมีผมและขนงอกขึ้นใหม่
ความชุกของโรคอยู่ที่ 0.15% ถึง 2% ในสหรัฐ ส่วนมากพบเริ่มมีอาการตั้งแต่เป็นเด็ก และมีวคามชุกพอกันทั้งในเพศชายและหญิง อาการนี้ไม่ส่งผลต่อการคาดหมายคงชีพ
อ้างอิง
- "Alopecia Areata - NORD (National Organization for Rare Disorders)". NORD (National Organization for Rare Disorders). 2004. จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2017. สืบค้นเมื่อ 10 July 2017.
- Liaison, Ray Fleming, Office of Communications and Public (May 2016). "Questions and Answers About Alopecia Areata". NIAMS (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 July 2017. สืบค้นเมื่อ 10 July 2017.
- Rajabi, F.; Drake, L.A.; Senna, M.M.; Rezaei, N. (2018). "Alopecia areata: A review of disease pathogenesis". British Journal of Dermatology. 179 (5): 1033–1048. doi:10.1111/bjd.16808. PMID 29791718. S2CID 43940520.
- Beigi, Pooya Khan Mohammad (2018). Alopecia Areata: A Clinician's Guide (ภาษาอังกฤษ). Springer. p. 14. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- National Institute of Arthritis and Musculoskeletal and Skin Diseases at NIH
| การจำแนกโรค | D |
|---|---|
| ทรัพยากรภายนอก |
|
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xlolphiechiy xarixata xngkvs Alopecia areata hrux phmrwngepnhyxm xngkvs spot baldness epnxakarepnbangcudinrangkay bxykhrngthaihekidbnhnngsirsaepnhyxm khnadpramanehriyykhwamekhriydaelakarecbpwyxacephimkhwamesiyng aetinphupwyswnihyimphbtwkratunid epnphiess aelaphupwyodythwipmkmisukhphaphthiei inbangkrnixacekidphmrwngthngsirsa hruxthngkhnaelaphmrwngthngrangkay karrwngkhxngphmaelakhnxacepnthawrid phmrwngepnhyxmniepnkhnlaorkhknkbphmrwngepnhyxm Alopecia AreatachuxxunAlopecia Celsi vitiligo capitis Jonston s alopeciaphmrwngepnhyxmbnhnngsirsakhxngphupwykarxxkesiyngal oh PEE shah ar ee AH tahsakhawichatcwithyaxakarmkepnthihnngsirsakartngtnedksaehtuphumikhumkntwexngpccyesiyngprawtikhrxbkhrw ikhkhxxkesbrumatxydorkhxunthikhlaykn karrksakhrimknaedd khlumsirsaimihsmphskhwamrxnkhwameynyaphyakrnorkhimsngphltxkhakarkhadhmaykhngchiphkhwamchuk 2 shrth ekhaicknwaphmrwngepnhyxmekidcakorkhphumitantnexng thisungsunyesiylksnaphiess pccyesiyngrwmthungprawtikhrxbkhrw nxkcakniyngphbwainaefdehmuxn hakkhnhnungmixakarni khuaefdxacmikhwamesiyngekidorkhid 50 klikekidorkhprakxbdwykarthirabbphumikhumknimrbruwaepnesllkhxngrangkay aelacungocmtiesllehlann pccubnyngimmikarrksa aetxacmikarchidephuxerngkaretibotkhxngesnphm rwmthungaenanaihichsarknaedd karophkpidsirsacakkhwamrxnaelakhwameyn aelainkrnithirwngkaenanaihswmaewntadwy inbangkrniphmaelakhnsamarthngxkkhunihmidodysmburnaelakimekidxakarsakhunxik aelainbangrayxacihewlahlaypi swninkrnithiesiyphmaelakhnthnghmd mi 10 thicamiphmaelakhnngxkkhunihm khwamchukkhxngorkhxyuthi 0 15 thung 2 inshrth swnmakphberimmixakartngaetepnedk aelamiwkhamchukphxknthnginephschayaelahying xakarniimsngphltxkarkhadhmaykhngchiphxangxing Alopecia Areata NORD National Organization for Rare Disorders NORD National Organization for Rare Disorders 2004 cakaehlngedimemux 21 February 2017 subkhnemux 10 July 2017 Liaison Ray Fleming Office of Communications and Public May 2016 Questions and Answers About Alopecia Areata NIAMS phasaxngkvs cakaehlngedimemux 4 July 2017 subkhnemux 10 July 2017 Rajabi F Drake L A Senna M M Rezaei N 2018 Alopecia areata A review of disease pathogenesis British Journal of Dermatology 179 5 1033 1048 doi 10 1111 bjd 16808 PMID 29791718 S2CID 43940520 Beigi Pooya Khan Mohammad 2018 Alopecia Areata A Clinician s Guide phasaxngkvs Springer p 14 ISBN 9783319721347 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb orkhphmrwngepnhyxm National Institute of Arthritis and Musculoskeletal and Skin Diseases at NIHkarcaaenkorkhDICD 10 L63ICD 704 01 104000MeSH D000506 430thrphyakrphaynxk 001450 derm 14