มายาเทวี (บาลี: मायादेवी) หรือ สิริมหามายา เป็นพระมารดาของพระโคตมพุทธเจ้า พระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ และเป็นพระเชษฐภคินีของพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา
สิริมหามายา | |
---|---|
รูปเคารพพระนางสิริมหามายาขณะเหนี่ยวกิ่งสาละ ราวศตวรรษที่ 19 ศิลปะเนปาล | |
เกิด | ไม่ปรากฏ เทวทหะ |
เสียชีวิต | 80 ปีก่อนพุทธศักราช กบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ |
คู่สมรส | พระเจ้าสุทโธทนะ |
บุตร | พระโคตมพุทธเจ้า |
บิดามารดา | กับพระนางยโสธรา |
ญาติ | พระเจ้าสุปปพุทธะและ (พระเชษฐา) พระนางมหาปชาบดีโคตมี (พระขนิษฐา) |
เอกสารทางพุทธศาสนาระบุว่า พระนางสิริมหามายาสวรรคตหลังประสูติการพระโคตมพุทธเจ้าได้เพียง 7 วัน เพราะสงวนครรภ์ไว้แด่พระโพธิสัตว์เพียงพระองค์เดียว หลังจากนั้นพระองค์จึงจุติบนสวรรค์ตามคติฮินดู-พุทธ ส่วนพระราชกุมารนั้นได้รับการอภิบาลโดยพระนางมหาปชาบดีโคตมี พระขนิษฐาที่ต่อมาได้เป็นอัครมเหสีในพระเจ้าสุทโธทนะ
พระนาม "มายา" เป็นคำสันสกฤตมีความหมายว่า "ภาพลวงตา" บ้างออกพระนามเป็นมหามายา (महामाया มายาผู้ยิ่งใหญ่) หรือมายาเทวี (मायादेवी พระนางมายา)
พระประวัติ
พระประวัติตอนต้น
พระนางสิริมหามายามีพระชนม์ชีพตอนต้นเป็นอย่างไรไม่เป็นที่ทราบ ปรากฏความเพียงว่าเสด็จพระราชสมภพในวงศ์เจ้าผู้ปกครอง เป็นพระราชธิดาของแห่งโกลิยะกับพระนางยโสธราแห่งสักกะ มีพระเชษฐาสองพระองค์คือพระเจ้าสุปปพุทธะและ และมีพระขนิษฐาคือพระนางมหาปชาบดีโคตมี พระราชบิดาและพระราชชนนีเป็นเครือญาติกัน สืบมาแต่พระเจ้าโอกกากราช (Okkākarāj)
ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าโอกกากราชนี้แบ่งออกเป็นสองตระกูลคือสักกะ (ศากยะ) กับโกลิยะ ซึ่งสายตระกูลโกลิยะสืบมาจากเจ้าหญิงปิยา (หรือปริยา) พระราชธิดาของพระเจ้าโอกกากราชที่ถูกพี่น้องเนรเทศออกมาจากวังไปประทับอยู่ในป่าเพราะเป็นทรงประชวรพระโรคเรื้อนน่ารังเกียจปรากฏบนพระวรกายเหมือนดอก ต่อมาได้ทรงพบกับพระเจ้ารามะ อดีตเจ้าผู้ครองพาราณสีที่ทรงพระประชวรพระโรคผิวหนังเช่นกันซึ่งสละราชสมบัติแก่พระราชโอรสและครองเพศฤๅษี ภายหลังทั้งสองพระองค์จึงอยู่กินกันและต่อมาได้เสวยผลจากไม้โกลัน (ต้น) จึงทรงหายจากพระโรคผิวหนัง ด้วยสำนึกในบุญคุณของต้นไม้นี้จึงเรียกนามวงศ์ตระกูลตนเองว่า "โกลิยะ" แต่ใน สัมมาปริพพาชนิยสูตร อธิบายว่าที่ชื่อโกลนคร เพราะสร้างพระนครบริเวณที่เคยเป็นป่ากระเบามาก่อน ส่วนที่หายจากพระโรคเรื้อนนั้นก็เพราะเสวยรากไม้และผลไม้ในป่า พระฉวีจึงหายจากการเป็นพระโรคเรื้อน กลับผ่องพรรณดุจทอง
อย่างไรก็ตามสองตระกูลคือสักกะและโกลิยะถือตัวในระบบวรรณะยิ่ง ด้วยแต่งงานเกี่ยวดองกันภายในสองตระกูลเท่านั้น จะไม่แต่งงานกับตระกูลอื่นเด็ดขาดแม้ว่าจะเป็นวรรณะกษัตริย์จากเมืองอื่นก็ตาม แต่ดอนัลด์ เอส. โลเปซ (Donald S. Lopez) ศาสตราจารย์ด้านพุทธศาสนาและทิเบตศึกษา และริชาร์ด เอฟ. กอมบริช (Richard F. Gombrich) นักภารตวิทยาและนักวิชาการด้านภาษาบาลี-สันสกฤตและพุทธศึกษา อธิบายว่าช่วงเวลานั้นอิทธิพลของพระเวทไม่น่าจะเข้าถึงแคว้นทั้งสอง รวมทั้งการเสกสมรสในหมู่เครือญาตินั้นเป็นเรื่องต้องห้ามของสังคม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าตระกูลทั้งสองนี้อาจมิได้สืบเชื้อสายชาวอารยัน
อรรถกถาอัปปายุกาสูตร ระบุว่าแต่เดิมพระนางสิริมหามายาเป็นเทพบุตรอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่ได้อธิษฐานขอเป็นพุทธมารดา ชาตินี้จึงประสูติมาเป็นสตรี ทั้งได้ขอมีพระชนม์เพียงเจ็ดวันหลังประสูติกาล เพราะสงวนพระครรภ์ไว้แก่พระโพธิสัตว์เพียงพระองค์เดียว และเพื่ออยู่เชยชมพระโฉมพระโพธิสัตว์ ก่อนเสด็จสวรรคตกลับไปจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต
พุทธมารดา
พระนางสิริมหามายาทรงอภิเษกสมรสระหว่างเครือญาติกับพระเจ้าสุทโธทนะแห่งสักกะตามพระราชประเพณี หลังการอภิเษกสมรส 20 ปี พระองค์ก็มิได้ทรงพระครรภ์ จนกระทั่งในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ก่อนพุทธศักราช 81 ปี ขณะนั้นพระองค์ในช่วงมัชฌิมวัย พระองค์ทรงพระสุบินว่าจาตุมหาราชิกายกพระแท่นบรรทมของพระองค์ไปยังป่าหิมพานต์ เทพทั้งสี่ได้กราบบังคมทูลเชิญให้พระองค์สรงน้ำในสระอโนดาต ชำระพระองค์ด้วยเครื่องหอมนานาชนิด แล้วเสด็จขึ้นบรรทม ณ พระแท่นภายในวิมานทองบนภูเขาสีเงิน ทรงบ่ายพระพักตร์ไปทิศตะวันออก ขณะนั้นมีพญาช้างเผือกนำดอกบัวขาวกลิ่นหอมแรกแย้มมาถวาย ก่อนร้องเสียงดัง แล้วเดินทักษิณาวัตรรอบพระแท่นสามรอบ ครั้นรุ่งขึ้นจึงกราบบังคมทูลแก่พระภัสดาถึงนิมิตนั้น พระเจ้าสุทโธทนะจึงมีรับสั่งให้โหรประจำราชสำนักทำนาย ซึ่งโหรหลวงได้ทำนายไว้ว่า "พระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์พระองค์จักมีพระราชโอรส พระราชโอรสนั้นถ้าอยู่ครองราชย์ก็จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ถ้าเสด็จออกบวชจักได้เป็นพระพุทธเจ้า"
ครั้นเมื่อพระครรภ์ครบถ้วนทศมาสกับอีกเจ็ดวัน พระนางสิริมหามายาจึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระราชสวามี เพื่อเสด็จแปรพระราชฐานไปยังเทวทหะอันเป็นมาตุภูมิเพื่อประสูติการพระราชโอรสตามราชประเพณีนิยม ระหว่างเสด็จแปรพระราชฐาน ได้ทรงหยุดพักพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ ป่าลุมพินี ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อนั้นพระองค์จึงประชวรพระครรภ์และทรงยืนเหนี่ยวกิ่งสาละประสูติการพระราชโอรส เมื่อวันศุกร์ เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี เมื่อพระกุมารประสูติขึ้นทรงพระดำเนิน 7 ก้าวโดยมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ผินพระพักตร์ไปทางทิศอุดร ทรงยกพระหัตถ์ขวา แล้วทรงชี้พระดัชนีขึ้นฟ้าแล้วกล่าวอภิวาทวาจาอย่างน่าอัศจรรย์ว่า "อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฎฺโหมสฺมิ โลกสฺส เสฎฺโหมสฺมิ โลกสฺส อนมนฺติมา เม ชาติ นฺตถิทานิ ปุนพฺภโวติ" อันมีความหมายว่า "เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ชาติอื่น ภพอื่นจะไม่มีอีก" หรืออาจแปลว่า "เราเป็นยอดของโลก เราเป็นใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก ความเกิดของเรานี้เป็นครั้งที่สุด บัดนี้ความเกิดอีกมิได้มี" ซึ่งกรณีที่พระพุทธเจ้าเดินได้เมื่อแรกประสูตินั้น พุทธทาสภิกขุ อธิบายว่าการเดินได้เจ็ดก้าวนั้นเป็นปริศนาธรรมมากกว่า เพราะสื่อถึงโพชฌงค์ 7 ประการ หาใช่เกิดจากอภินิหาริย์พิเศษจาการเป็นโพธิสัตว์จึงทำให้เดินได้แต่ประการใด
หลังประสูติกาลพระราชกุมารได้สามวัน (Asita) หรือกาฬเทวิลดาบส (Kāḷadevil) นักบวชที่คุ้นเคยกับพระเจ้าสุทโธทนะได้เดินทางมาชื่นชมพระบารมีของพระกุมาร และเมื่อได้ตรวจลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการอย่างละเอียด จึงก้มกราบพระกุมารด้วยความเคารพ พร้อมกับกำสรวลและหัวเราะไปด้วย สร้างความแปลกพระทัยแก่พระเจ้าสุทโธทนะยิ่งนัก พระเจ้าสุทโธทนะจึงทูลถามดาบสว่าเป็นเช่นนี้เพราะเหตุใด อสิตดาบสจึงตอบพระราชปุจฉาว่า "ที่หัวเราะเพราะตื้นตันใจที่ได้เจอพระกุมารที่มีบุญญาบารมี มีลักษณะมหาบุรุษครบ 32 ประการ นับว่าหาไม่ได้ในภัททกัปป์นี้ อาตมามีวาสนาแท้ที่ได้เห็น และที่ร้องไห้เพราะพระโอรสเจริญวัยขึ้นจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาเอกของโลก พระองค์จะแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลางและที่สุด เสียดายที่อายุอาตมาภาพแก่เกินไป คงไม่อาจได้สดับฟังคำสอนของพระองค์ จึงอดกลั้นน้ำตาไม่ไหว"
หลังจากประสูติกาลพระราชกุมารได้ห้าวัน พระเจ้าสุทโธทนะได้อัญเชิญพราหมณ์ 108 ตนที่เจนจบมาในพระราชวัง พราหมณ์ทั้งหลายขนานพระนามพระกุมารว่า "สิทธัตถะ" แปลว่า "ผู้มีความต้องการอันสำเร็จ"
สวรรคต
หลังประสูติกาลพระราชกุมารได้เจ็ดวัน พระนางสิริมายามายาก็สวรรคต สร้างความโศกาอาดูรแก่พระเจ้าสุทโธทนะและพระประยูรญาติอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้เจ้าชายสิทธัตถะจึงอยู่ภายใต้การอภิบาลของพระนางปชาบดีโคตมี พระขนิษฐาพระนางสิริมหามายา ซึ่งต่อมาได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ มีพระราชโอรส-ธิดาสองพระองค์คือ เจ้าชายนันทะ (Nanda) และเจ้าหญิงรูปนันทา (Rūpanandā) ส่วนพระนางสิริมหามายาได้ไปจุติเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิต
หลังพระโคตมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้มีดำริที่จะสนองพระคุณพุทธมารดาด้วยการแสดงธรรมเทศนาด้วยกตัญญูกตเวทิตาธรรม จึงเสด็จขึ้นไปแสดงธรรมบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระอินทร์เห็นพุทธองค์เสด็จขึ้นมายังสรวงสวรรค์นั้นก็เกิดปีติเกษมสานต์ ประณมหัตถ์อภิวาท ขอประกาศให้เทวดาทุกชั้นฟ้ามาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อสดับพระธรรมเทศนา ซึ่งพระพุทธเจ้าได้มีพระประสงค์ให้พุทธมารดาขึ้นมา ณ ที่ประชุมเทวดา แต่มิทรงทอดพระเนตรเห็น จึงทูลถามพระอินทร์ เมื่อพระอินทร์ทราบถึงความประสงค์ของพุทธองค์ จึงเสด็จไปทูลเชิญพุทธมารดาที่ประทับอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามพุทธประสงค์ เมื่อพระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็นพระนางสิริมหามายาแล้ว ก็ทรงปีติโสมนัสยิ่ง จึงยกพระหัตถ์เบื้องขวากวักทูลเชิญพระมารดาเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อประกาศพระคุณแห่งมารดาแก่เทวดาทั้งหลายที่มาชุมนุม ณ ที่นั้น ก่อนจะแสดงพระอภิธรรมเจ็ดพระคัมภีร์ เมื่อจบพระคัมภีร์ที่เจ็ด พระนางสิริมหามายาก็บรรลุพระโสดาปัตติผล สมประสงค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจึงเสด็จกลับโลกมนุษย์เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
ประติมานวิทยา
ในวรรณคดีทางพุทธศาสนาและงานพุทธศิลป์ พระนางสิริมหามายาจะมีภาพลักษณ์ของพระชนนีที่ทรงพระสิริโฉม ดังปรากฏใน ลลิตวิสตรสูตร ความว่า
"ประกายความงามของพระนางดุจทองคำบริสุทธิ์ พระเกศาหยักหอมจรุงขลิบนิลคล้ายผึ้งสีดำใหญ่ ดวงเนตรดุจกลีบปทุมชาติ พระทันต์เรียงงามดั่งดวงดาราบนฟ้าสุราลัย"
ประติมากรรมเกี่ยวกับพระองค์มักจะมาจากฉากที่พระองค์ทรงสุบินนิมิตเห็นพระยาช้างเผือก และฉากที่พระองค์ได้ให้ประสูติกาลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ป่าลุมพินี โดยทรงยืนหนี่ยวกิ่งสาละ มิแรนดา ชอว์ (Miranda Shaw) นักวิชาการพุทธศาสนาอธิบายว่าในฉากที่พระนางสิริมหามายาประสูติพระพุทธเจ้านั้นจะมีการสอดแทรกภาพของยักขินีซึ่งเป็นนางไม้ชนิดหนึ่งไว้ด้วย
ศาสนาเปรียบเทียบ
จากพระสุบินนิมิตของพระนางสิริมหามายาก่อนจะมีการปฏิสนธิในครรภ์ ตามพุทธประวัติฉบับบาลีได้ระบุว่าพระนางสิริมหามายาไม่ได้มีการร่วมเพศกับพระราชสวามีช่วงทรงครรภ์หรือเสพกามรสอื่นใด แต่เหตุผลนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าชายสิตธัตถะไม่ได้เกิดจากการร่วมเพศระหว่างพระบิดาและพระมารดา อย่างไรก็ตามด้วยความคล้ายคลึงบางประการนี้จึงถูกผูกเข้ากับเรื่องราวการประสูติของพระเยซูด้วย
ซี. พี. ทุนดี (Z. P. Thundy) ได้ตรวจสอบความคล้ายคลึงกันระหว่างของการประสูติพระพุทธเจ้าโดยพระนางสิริมหามายา กับพระเยซูโดยพระนางมารีย์พรหมจารี ซึ่งพบว่ามีส่วนคล้ายกัน แต่ก็มีส่วนที่ต่างออกไป เช่น พระนางมารีย์ถึงแก่มรณกรรมจึงถูกยกขึ้นสวรรค์ แต่พระนางสิริมหามายาสวรรคตหลังประสูติกาลพระพุทธเจ้าไม่นานเช่นเดียวกับพุทธมารดาองค์ก่อนหน้า แม้ทุนดีจะมิได้ยืนยันว่ามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใด ๆ ที่เชื่อมโยงว่าการประสูติของพระเยซูรับความเชื่อมาจากคติพุทธศาสนา แต่เขาระบุว่า "คงถึงเวลาแล้วที่นักวิชาการคริสต์ศาสนาจะพิจารณาความเชื่อทางพุทธศาสนาสำหรับการค้นหาแนวคิด [เรื่องการประสูติ] นี้"
ทั้งนี้ได้มีนักวิชาการบางส่วนออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกันของการกำเนิดพระศาสดา เป็นต้นว่า (Paula Fredriksen) กล่าวว่าไม่มีงานวิจัยใดพบว่าพระเยซูทรงออกจากความเป็นยิวปาเลสไตน์ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 ส่วนเอ็ดดีและบอยด์ (Eddy and Boyd) กล่าวว่าไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากแหล่งข้อมูลภายนอกของผู้เขียนพันธสัญญาใหม่ และนักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าอิทธิพลที่เข้ามาในศาสนาคริสต์ช่วงศตวรรษแรกนั้นไม่เชื่อถืออย่างสิ้นเชิง เพราะชาวยิวกาลิลีที่ยึดถือความเชื่ออย่างเอกเทวนิยมนั้นจะไม่ยอมรับความเชื่อของลัทธินอกศาสนา
อ้างอิง
- พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ. "ศากยวงศ์". ประตูสู่ธรรม. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - . พุทธะ. 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-05. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . พุทธะ. 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-05. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - Buddhist Goddesses of India by Miranda Shaw (Oct 16, 2006) ISBN pages 45-46
- History of Buddhist Thought by E. J. Thomas (Dec 1, 2000) ISBN pages
- "อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน โสณเถรวรรคที่ ๕ อัปปายุกาสูตร". ภิกษุณี เอตทัคคะ 84000. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ดาวสยาม วชิรปัญโญ, พระมหา. ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย. กรุงเทพ : เม็ดทรายพริ้นติ้ง, พิมพ์ครั้งที่ 2, หน้า 27-31
- "อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต จูฬวรรค สัมมาปริพพาชนิยสูตร". ภิกษุณี เอตทัคคะ 84000. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - อดิเทพ พันธ์ทอง (20 พฤษภาคม 2559). "พุทธประวัตินอกกระแส (ในไทย): "สิทธัตถะ" เกิดในสังคมแบบชนเผ่า ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-18. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . พุทธะ. 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-29. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-10. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ดาวสยาม วชิรปัญโญ, พระมหา. ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย. กรุงเทพ : เม็ดทรายพริ้นติ้ง, พิมพ์ครั้งที่ 2, หน้า 33-37
- . บ้านเมือง. 31 พฤษภาคม 2560. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-11. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - สุรพศ ทวีศักดิ์ (7 กันยายน 2556). "พุทธศาสนากับความเป็นมนุษย์". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . พุทธะ. 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-29. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "พระมหาปชาบดีโคตรมีเถรี". ภิกษุณี เอตทัคคะ 84000. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-07. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . พุทธะ. 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-08. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - http://www.accesstoinsight.org
- Buddha and Christ by Zacharias P. Thundy (1993), ISBN , pp. 95–96
- Fredriksen, Paula. From Jesus to Christ. Yale University Press, 2000, p. xxvi.
- The Jesus legend: a case for the historical reliability of the synoptic gospels by Paul R. Eddy, Gregory A. Boyd (2007), ISBN , pp. 53–54
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สิริมหามายา
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mayaethwi bali म य द व hrux sirimhamaya epnphramardakhxngphraokhtmphuththeca phrasasdaaehngsasnaphuthth aelaepnphraechsthphkhinikhxngphramhapchabdiokhtmiethri phiksunirupaerkinphraphuththsasnasirimhamayarupekharphphranangsirimhamayakhnaehniywkingsala rawstwrrsthi 19 silpaenpalekidimprakt ethwthhaesiychiwit80 pikxnphuththskrach kbilphsdu aekhwnskkakhusmrsphraecasuthoththnabutrphraokhtmphuththecabidamardakbphranangyosthrayatiphraecasuppphuththaaela phraechstha phranangmhapchabdiokhtmi phrakhnistha exksarthangphuththsasnarabuwa phranangsirimhamayaswrrkhthlngprasutikarphraokhtmphuththecaidephiyng 7 wn ephraasngwnkhrrphiwaedphraophthistwephiyngphraxngkhediyw hlngcaknnphraxngkhcungcutibnswrrkhtamkhtihindu phuthth swnphrarachkumarnnidrbkarxphibalodyphranangmhapchabdiokhtmi phrakhnisthathitxmaidepnxkhrmehsiinphraecasuthoththna phranam maya epnkhasnskvtmikhwamhmaywa phaphlwngta bangxxkphranamepnmhamaya मह म य mayaphuyingihy hruxmayaethwi म य द व phranangmaya phraprawtiphraprawtitxntn phranangsirimhamayamiphrachnmchiphtxntnepnxyangirimepnthithrab praktkhwamephiyngwaesdcphrarachsmphphinwngsecaphupkkhrxng epnphrarachthidakhxngaehngokliyakbphranangyosthraaehngskka miphraechsthasxngphraxngkhkhuxphraecasuppphuththaaela aelamiphrakhnisthakhuxphranangmhapchabdiokhtmi phrarachbidaaelaphrarachchnniepnekhruxyatikn submaaetphraecaoxkkakrach Okkakaraj phusubechuxsaycakphraecaoxkkakrachniaebngxxkepnsxngtrakulkhuxskka sakya kbokliya sungsaytrakulokliyasubmacakecahyingpiya hruxpriya phrarachthidakhxngphraecaoxkkakrachthithukphinxngenrethsxxkmacakwngipprathbxyuinpaephraaepnthrngprachwrphraorkheruxnnarngekiycpraktbnphrawrkayehmuxndxk txmaidthrngphbkbphraecarama xditecaphukhrxngpharansithithrngphraprachwrphraorkhphiwhnngechnknsungslarachsmbtiaekphrarachoxrsaelakhrxngephsvisi phayhlngthngsxngphraxngkhcungxyukinknaelatxmaideswyphlcakimokln tn cungthrnghaycakphraorkhphiwhnng dwysanukinbuykhunkhxngtnimnicungeriyknamwngstrakultnexngwa okliya aetin smmapriphphachniysutr xthibaywathichuxoklnkhr ephraasrangphrankhrbriewnthiekhyepnpakraebamakxn swnthihaycakphraorkheruxnnnkephraaeswyrakimaelaphliminpa phrachwicunghaycakkarepnphraorkheruxn klbphxngphrrnducthxng xyangirktamsxngtrakulkhuxskkaaelaokliyathuxtwinrabbwrrnaying dwyaetngnganekiywdxngknphayinsxngtrakulethann caimaetngngankbtrakulxuneddkhadaemwacaepnwrrnakstriycakemuxngxunktam aetdxnld exs oleps Donald S Lopez sastracarydanphuththsasnaaelathiebtsuksa aelarichard exf kxmbrich Richard F Gombrich nkphartwithyaaelankwichakardanphasabali snskvtaelaphuththsuksa xthibaywachwngewlannxiththiphlkhxngphraewthimnacaekhathungaekhwnthngsxng rwmthngkaresksmrsinhmuekhruxyatinnepneruxngtxnghamkhxngsngkhm sungxacepnipidwatrakulthngsxngnixacmiidsubechuxsaychawxaryn xrrthkthaxppayukasutr rabuwaaetedimphranangsirimhamayaepnethphbutrxyuswrrkhchndusit aetidxthisthankhxepnphuththmarda chatinicungprasutimaepnstri thngidkhxmiphrachnmephiyngecdwnhlngprasutikal ephraasngwnphrakhrrphiwaekphraophthistwephiyngphraxngkhediyw aelaephuxxyuechychmphraochmphraophthistw kxnesdcswrrkhtklbipcutibnswrrkhchndusit phuththmarda phranangsirimayamayakhnathrngsubinnimitphranangsirimhamayakhnaehniywkingsalaprasutikarphraphuththeca silpayukh rawstwrrsthi 2 3 phranangsirimhamayathrngxphiesksmrsrahwangekhruxyatikbphraecasuthoththnaaehngskkatamphrarachpraephni hlngkarxphiesksmrs 20 pi phraxngkhkmiidthrngphrakhrrph cnkrathnginwnkhun 15 kha eduxn 8 kxnphuththskrach 81 pi khnannphraxngkhinchwngmchchimwy phraxngkhthrngphrasubinwacatumharachikaykphraaethnbrrthmkhxngphraxngkhipyngpahimphant ethphthngsiidkrabbngkhmthulechiyihphraxngkhsrngnainsraxondat charaphraxngkhdwyekhruxnghxmnanachnid aelwesdckhunbrrthm n phraaethnphayinwimanthxngbnphuekhasiengin thrngbayphraphktripthistawnxxk khnannmiphyachangephuxknadxkbwkhawklinhxmaerkaeymmathway kxnrxngesiyngdng aelwedinthksinawtrrxbphraaethnsamrxb khrnrungkhuncungkrabbngkhmthulaekphraphsdathungnimitnn phraecasuthoththnacungmirbsngihohrpracarachsankthanay sungohrhlwngidthanayiwwa phranangsirimhamayathrngphrakhrrphphraxngkhckmiphrarachoxrs phrarachoxrsnnthaxyukhrxngrachykckepnphraecackrphrrdi aetthaesdcxxkbwchckidepnphraphuththeca khrnemuxphrakhrrphkhrbthwnthsmaskbxikecdwn phranangsirimhamayacungkrabbngkhmthulkhxphrarachthanphrabrmrachanuyatphrarachswami ephuxesdcaeprphrarachthanipyngethwthhaxnepnmatuphumiephuxprasutikarphrarachoxrstamrachpraephniniym rahwangesdcaeprphrarachthan idthrnghyudphkphraxiriyabthittnsala n palumphini sungxyukungklangrahwangemuxngkbilphsdukbethwthha emuxnnphraxngkhcungprachwrphrakhrrphaelathrngyunehniywkingsalaprasutikarphrarachoxrs emuxwnsukr ephyeduxn 6 picx kxnphuththskrach 80 pi emuxphrakumarprasutikhunthrngphradaenin 7 kawodymidxkbwphudkhunmarxngrb phinphraphktripthangthisxudr thrngykphrahtthkhwa aelwthrngchiphradchnikhunfaaelwklawxphiwathwacaxyangnaxscrrywa xkh okhhms mi olks s echd o hms mi olks s esd o hms mi olks s xnmn tima em chati n tthithani punph phowti xnmikhwamhmaywa eraepnphuelisthisudinolk eraepnphuecriythisudinolk eraepnphupraesriththisudinolk chatiniepnchatisudthaykhxngera chatixun phphxuncaimmixik hruxxacaeplwa eraepnyxdkhxngolk eraepnihyaehngolk eraepnphupraesrithaehngolk khwamekidkhxngeraniepnkhrngthisud bdnikhwamekidxikmiidmi sungkrnithiphraphuththecaedinidemuxaerkprasutinn phuthththasphikkhu xthibaywakaredinidecdkawnnepnprisnathrrmmakkwa ephraasuxthungophchchngkh 7 prakar haichekidcakxphinihariyphiesscakarepnophthistwcungthaihedinidaetprakarid hlngprasutikalphrarachkumaridsamwn Asita hruxkalethwildabs Kaḷadevil nkbwchthikhunekhykbphraecasuthoththnaidedinthangmachunchmphrabarmikhxngphrakumar aelaemuxidtrwclksnamhaburus 32 prakarxyanglaexiyd cungkmkrabphrakumardwykhwamekharph phrxmkbkasrwlaelahweraaipdwy srangkhwamaeplkphrathyaekphraecasuthoththnayingnk phraecasuthoththnacungthulthamdabswaepnechnniephraaehtuid xsitdabscungtxbphrarachpucchawa thihweraaephraatuntnicthiidecxphrakumarthimibuyyabarmi milksnamhaburuskhrb 32 prakar nbwahaimidinphththkppni xatmamiwasnaaeththiidehn aelathirxngihephraaphraoxrsecriywykhuncaidepnphrasmmasmphuththeca sasdaexkkhxngolk phraxngkhcaaesdngthrrmngaminebuxngtn ngaminthamklangaelathisud esiydaythixayuxatmaphaphaekekinip khngimxacidsdbfngkhasxnkhxngphraxngkh cungxdklnnataimihw hlngcakprasutikalphrarachkumaridhawn phraecasuthoththnaidxyechiyphrahmn 108 tnthiecncbmainphrarachwng phrahmnthnghlaykhnanphranamphrakumarwa siththttha aeplwa phumikhwamtxngkarxnsaerc swrrkht hlngprasutikalphrarachkumaridecdwn phranangsirimayamayakswrrkht srangkhwamoskaxaduraekphraecasuthoththnaaelaphraprayuryatixyangying dwyehtuniecachaysiththtthacungxyuphayitkarxphibalkhxngphranangpchabdiokhtmi phrakhnisthaphranangsirimhamaya sungtxmaidepnphraxkhrmehsikhxngphraecasuthoththna miphrarachoxrs thidasxngphraxngkhkhux ecachaynntha Nanda aelaecahyingrupnntha Rupananda swnphranangsirimhamayaidipcutiepnethphbutrbnswrrkhchndusit hlngphraokhtmphuththecatrsruaelw idmidarithicasnxngphrakhunphuththmardadwykaraesdngthrrmethsnadwyktyyuktewthitathrrm cungesdckhunipaesdngthrrmbnswrrkhchndawdungs emuxphraxinthrehnphuththxngkhesdckhunmayngsrwngswrrkhnnkekidpitieksmsant pranmhtthxphiwath khxprakasihethwdathukchnfamaekhaefaphraphumiphraphakhecaephuxsdbphrathrrmethsna sungphraphuththecaidmiphraprasngkhihphuththmardakhunma n thiprachumethwda aetmithrngthxdphraentrehn cungthulthamphraxinthr emuxphraxinthrthrabthungkhwamprasngkhkhxngphuththxngkh cungesdcipthulechiyphuththmardathiprathbxyuswrrkhchndusitipekhaefaphraphuththecatamphuththprasngkh emuxphraphuththxngkhthxdphraentrehnphranangsirimhamayaaelw kthrngpitiosmnsying cungykphrahtthebuxngkhwakwkthulechiyphramardaekhamaikl ephuxprakasphrakhunaehngmardaaekethwdathnghlaythimachumnum n thinn kxncaaesdngphraxphithrrmecdphrakhmphir emuxcbphrakhmphirthiecd phranangsirimhamayakbrrluphraosdapttiphl smprasngkhkhxngsmedcphrasmmasmphuththeca aelwcungesdcklbolkmnusyemuxwnkhun 15 kha eduxn 11pratimanwithyapratimakrrmrupphranangsirimhamayathipraktinllitwistrsutr n oborbudur praethsxinodniesiy inwrrnkhdithangphuththsasnaaelanganphuththsilp phranangsirimhamayacamiphaphlksnkhxngphrachnnithithrngphrasiriochm dngpraktin llitwistrsutr khwamwa prakaykhwamngamkhxngphranangducthxngkhabrisuththi phraeksahykhxmcrungkhlibnilkhlayphungsidaihy dwngentrducklibpthumchati phrathnteriyngngamdngdwngdarabnfasuraly pratimakrrmekiywkbphraxngkhmkcamacakchakthiphraxngkhthrngsubinnimitehnphrayachangephuxk aelachakthiphraxngkhidihprasutikalsmedcphrasmmasmphuththeca n palumphini odythrngyunhniywkingsala miaernda chxw Miranda Shaw nkwichakarphuththsasnaxthibaywainchakthiphranangsirimhamayaprasutiphraphuththecanncamikarsxdaethrkphaphkhxngykkhinisungepnnangimchnidhnungiwdwysasnaepriybethiybcakphrasubinnimitkhxngphranangsirimhamayakxncamikarptisnthiinkhrrph tamphuththprawtichbbbaliidrabuwaphranangsirimhamayaimidmikarrwmephskbphrarachswamichwngthrngkhrrphhruxesphkamrsxunid aetehtuphlnikimidhmaykhwamwaecachaysitthtthaimidekidcakkarrwmephsrahwangphrabidaaelaphramarda xyangirktamdwykhwamkhlaykhlungbangprakarnicungthukphukekhakberuxngrawkarprasutikhxngphraeysudwy si phi thundi Z P Thundy idtrwcsxbkhwamkhlaykhlungknrahwangkhxngkarprasutiphraphuththecaodyphranangsirimhamaya kbphraeysuodyphranangmariyphrhmcari sungphbwamiswnkhlaykn aetkmiswnthitangxxkip echn phranangmariythungaekmrnkrrmcungthukykkhunswrrkh aetphranangsirimhamayaswrrkhthlngprasutikalphraphuththecaimnanechnediywkbphuththmardaxngkhkxnhna aemthundicamiidyunynwamihlkthanthangprawtisastrid thiechuxmoyngwakarprasutikhxngphraeysurbkhwamechuxmacakkhtiphuththsasna aetekharabuwa khngthungewlaaelwthinkwichakarkhristsasnacaphicarnakhwamechuxthangphuththsasnasahrbkarkhnhaaenwkhid eruxngkarprasuti ni thngniidminkwichakarbangswnxxkmaptiesthkhwamekiywkhxngknkhxngkarkaenidphrasasda epntnwa Paula Fredriksen klawwaimminganwicyidphbwaphraeysuthrngxxkcakkhwamepnyiwpaelsitnchwngkhriststwrrsthi 1 swnexddiaelabxyd Eddy and Boyd klawwaimmihlkthanthangprawtisastrcakaehlngkhxmulphaynxkkhxngphuekhiynphnthsyyaihm aelankwichakarswnihyehnphxngwaxiththiphlthiekhamainsasnakhristchwngstwrrsaerknnimechuxthuxxyangsineching ephraachawyiwkalilithiyudthuxkhwamechuxxyangexkethwniymnncaimyxmrbkhwamechuxkhxnglththinxksasnaxangxingphramhadawsyam wchirpyoy sakywngs pratusuthrrm subkhnemux 16 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy phuththa 2553 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 08 05 subkhnemux 16 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phuththa 2553 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 08 05 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help Buddhist Goddesses of India by Miranda Shaw Oct 16 2006 ISBN 0 691 12758 1 pages 45 46 History of Buddhist Thought by E J Thomas Dec 1 2000 ISBN 81 206 1095 4 pages xrrthktha khuththknikay xuthan osnethrwrrkhthi 5 xppayukasutr phiksuni extthkhkha 84000 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help dawsyam wchirpyoy phramha prawtisastrphraphuththsasnainxinediy krungethph emdthrayphrinting phimphkhrngthi 2 hna 27 31 xrrthktha khuththknikay suttnibat culwrrkh smmapriphphachniysutr phiksuni extthkhkha 84000 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help xdiethph phnththxng 20 phvsphakhm 2559 phuththprawtinxkkraaes inithy siththttha ekidinsngkhmaebbchnepha imidpkkhrxngdwyrabxbkstriy silpwthnthrrm subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help withyalysasnsuksa mhawithyalymhidl khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 18 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phuththa 2553 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 06 29 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help withyalysasnsuksa mhawithyalymhidl khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 08 10 subkhnemux 17 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help dawsyam wchirpyoy phramha prawtisastrphraphuththsasnainxinediy krungethph emdthrayphrinting phimphkhrngthi 2 hna 33 37 banemuxng 31 phvsphakhm 2560 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 11 subkhnemux 18 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help surphs thwiskdi 7 knyayn 2556 phuththsasnakbkhwamepnmnusy prachaith subkhnemux 18 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phuththa 2553 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 06 29 subkhnemux 18 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phramhapchabdiokhtrmiethri phiksuni extthkhkha 84000 subkhnemux 16 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help withyalysasnsuksa mhawithyalymhidl khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 08 07 subkhnemux 18 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phuththa 2553 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 08 subkhnemux 18 krkdakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help http www accesstoinsight org Buddha and Christ by Zacharias P Thundy 1993 ISBN 90 04 09741 4 pp 95 96 Fredriksen Paula From Jesus to Christ Yale University Press 2000 p xxvi The Jesus legend a case for the historical reliability of the synoptic gospels by Paul R Eddy Gregory A Boyd 2007 ISBN 0 8010 3114 1 pp 53 54aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb sirimhamaya