วัดไฮสร้อย หรือ วัดพระธาตุไฮสร้อย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ใน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ คำว่า "ไฮสร้อย" หมายถึงรากไทรที่ห้อยย้อยลงมา
วัดไฮสร้อย | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดไฮสร้อย, วัดพระธาตุไฮสร้อย |
ที่ตั้ง | อำเภอลอง จังหวัดแพร่ |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
เจ้าอาวาส | พระครูพิศาลอรรถกิจ |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
วัดพระธาตุไฮสร้อยเป็นวัดที่สร้างขึ้นตามคติวัดหลวงกลางเวียงของเมืองลอง ตามตำนานระบุว่า สร้างโดยพญาสุรมาลัยยะ (เจ้าสุรมาลัย) เจ้าเมืองลอง โดยมีการสร้างพระธาตุไฮสร้อยไว้เป็นพระมหาธาตุกลางเวียง ซึ่งภายในตำนานระบุว่าบรรจุพระธาตุส่วนสมองของพระพุทธเจ้า ด้วยวัดพระธาตุไฮสร้อยเป็นวัดหลวงกลางเวียงลองและพระธาตุไฮสร้อยเป็นพระมหาธาตุกลางเวียงลอง จึงได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้าเมืองลองและชาวเมืองลองตลอดมา
จนกระทั่งหลังสงครามระหว่างอยุธยากับล้านนาใน พ.ศ. 2020 พญาหัวเมืองแก้ว ชาวเมืองเชียงใหม่ เสนาบดีของพระเจ้าติโลกราชได้ถูกส่งมาเป็นเจ้าเมืองลองแทนพญาเป็กขะจา อดีตเจ้าเมืองลองซึ่งถึงแก่อนิจกรรม จึงได้ย้ายศูนย์กลางการปกครองมาตั้งมั่นชั่วคราวที่บ้านก่อนดอนหัวนา (บริเวณโรงเรียนบ้านห้วยอ้อในปัจจุบัน) เหตุที่ย้ายน่าจะเพราะเวียงลองเก่าได้รับความเสียหายจากสงครามระหว่างล้านนากับอยุธยา วัดจึงร้างไประยะหนึ่ง ภายหลังได้มีชาวนครเชียงตุงบางส่วนเข้ามาตั้งถิ่นฐานด้วย กลุ่มที่เข้ามาเมืองลองนำโดยครูบาจองสูง หรือ ครูบาจอสุงจนฺทวโร พร้อมช่างฝีมือและชาวเมืองนครเชียงตุง โดยกลุ่มครูบาจองสูงตั้งถิ่นฐานที่บ้านไฮสร้อย และได้ฟื้นฟูวัดพระธาตุไฮสร้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าตั้งวัดเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 1906 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2470
อาคารเสนาสนะ
ผังวัดพระธาตุไฮสร้อยเดิมมีกำแพงแก้วแบ่งเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสอย่างชัดเจน แต่ปัจจุบันกำแพงดังกล่าวรื้อออกไปแล้ว พระธาตุไฮสร้อยเป็นศูนย์กลางในเขตพุทธาวาส วิหารตั้งติดกับพระธาตุทางทิศตะวันออก หันหน้าไปยังแม่น้ำยม (หรือด้านทิศตะวันออก) หันด้านหลังให้พระธาตุ ส่วนด้านทิศเหนือติดกับพระธาตุเป็นอุโบสถ หันด้านหน้าไปทางทิศเหนืออยู่ด้านทิศเหนือ
พระธาตุไฮสร้อย องค์ที่เห็นปัจจุบันได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2535 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2536 รูปแบบไม่เหมือนเดิม ลักษณะพระธาตุแต่เดิมคงเหมือนกับองค์พระธาตุลำปางหลวง
ปูชนียวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ พระเจ้าสามพี่น้อง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น 3 องค์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2345 มีรูปแบบทางศิลปะแบบไทเขิน–ไทใหญ่ แต่เนื่องด้วยมีการบูรณะหลายสมัยจึงปรากฏมีศิลปะล้านนาผสมอยู่ พระพุทธรูปปางไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านนา อายุหลายร้อยปี ประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ และ พระเจ้าปูนปั้น ประดิษฐานอยู่ร่วมกันพระเจ้าสามพี่น้อง ภายในมณฑปพระเจ้าสามพี่น้อง พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุประมาณร้อยปี ปั้นโดยครูบาอินทวิไชยอรัญวาสี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีดอนคำ
รายนามเจ้าอาวาส
- ครูบาจอสูง (จอสุง) จนฺทวโร
- ครูบายศ
- ครูบาแก้ว
- ครูบาจุมปู
- ครูบาจันธิมา
- ครูบาอินต๊ะ
- ครูบามา
- พระอธิการเขียน อินฺตโร
- พระอธิการสวัสดิ์ ธมฺมรโต
- พระครูพิศาลอรรถกิจ
อ้างอิง
- ภูเดช แสนสา. . มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-18. สืบค้นเมื่อ 2022-11-18.
- "วัดไฮสร้อย". สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
- "พระธาตุไฮสร้อย". ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdihsrxy hrux wdphrathatuihsrxy epnwdrasdrsngkdkhnasngkhfaymhanikay tngxyuin xaephxlxng cnghwdaephr khawa ihsrxy hmaythungrakithrthihxyyxylngmawdihsrxychuxsamywdihsrxy wdphrathatuihsrxythitngxaephxlxng cnghwdaephrpraephthwdrasdrnikaymhanikayecaxawasphrakhruphisalxrrthkicswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtiwdphrathatuihsrxyepnwdthisrangkhuntamkhtiwdhlwngklangewiyngkhxngemuxnglxng tamtananrabuwa srangodyphyasurmalyya ecasurmaly ecaemuxnglxng odymikarsrangphrathatuihsrxyiwepnphramhathatuklangewiyng sungphayintananrabuwabrrcuphrathatuswnsmxngkhxngphraphuththeca dwywdphrathatuihsrxyepnwdhlwngklangewiynglxngaelaphrathatuihsrxyepnphramhathatuklangewiynglxng cungidrbkarxupthmphcakecaemuxnglxngaelachawemuxnglxngtlxdma cnkrathnghlngsngkhramrahwangxyuthyakblannain ph s 2020 phyahwemuxngaekw chawemuxngechiyngihm esnabdikhxngphraecatiolkrachidthuksngmaepnecaemuxnglxngaethnphyaepkkhaca xditecaemuxnglxngsungthungaekxnickrrm cungidyaysunyklangkarpkkhrxngmatngmnchwkhrawthibankxndxnhwna briewnorngeriynbanhwyxxinpccubn ehtuthiyaynacaephraaewiynglxngekaidrbkhwamesiyhaycaksngkhramrahwanglannakbxyuthya wdcungrangiprayahnung phayhlngidmichawnkhrechiyngtungbangswnekhamatngthinthandwy klumthiekhamaemuxnglxngnaodykhrubacxngsung hrux khrubacxsungcn thwor phrxmchangfimuxaelachawemuxngnkhrechiyngtung odyklumkhrubacxngsungtngthinthanthibanihsrxy aelaidfunfuwdphrathatuihsrxy sanknganphraphuththsasnaaehngchatirabuwatngwdemuxwnthi 30 emsayn ph s 1906 idrbphrarachthanwisungkhamsimaemux ph s 2470xakharesnasnaphngwdphrathatuihsrxyedimmikaaephngaekwaebngekhtphuththawasaelasngkhawasxyangchdecn aetpccubnkaaephngdngklawruxxxkipaelw phrathatuihsrxyepnsunyklanginekhtphuththawas wihartngtidkbphrathatuthangthistawnxxk hnhnaipyngaemnaym hruxdanthistawnxxk hndanhlngihphrathatu swndanthisehnuxtidkbphrathatuepnxuobsth hndanhnaipthangthisehnuxxyudanthisehnux phrathatuihsrxy xngkhthiehnpccubnidrbkarburnaemux ph s 2535 aelwesrcemux ph s 2536 rupaebbimehmuxnedim lksnaphrathatuaetedimkhngehmuxnkbxngkhphrathatulapanghlwng puchniywtthuthisakhy idaek phraecasamphinxng epnphraphuththruppunpn 3 xngkh srangkhunemuxpraman ph s 2345 mirupaebbthangsilpaaebbithekhin ithihy aetenuxngdwymikarburnahlaysmycungpraktmisilpalannaphsmxyu phraphuththruppangisyasnepnphraphuththrupsilpalanna xayuhlayrxypi pradisthanepnphraprathaninxuobsth aela phraecapunpn pradisthanxyurwmknphraecasamphinxng phayinmnthpphraecasamphinxng phraphuththrupxngkhnimixayupramanrxypi pnodykhrubaxinthwiichyxrywasi xditecaxawaswdphrathatusridxnkharaynamecaxawaskhrubacxsung cxsung cn thwor khrubays khrubaaekw khrubacumpu khrubacnthima khrubaxinta khrubama phraxthikarekhiyn xin tor phraxthikarswsdi thm mrot phrakhruphisalxrrthkicxangxingphuedch aesnsa mulnithielk praiph wiriyaphnthu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 11 18 subkhnemux 2022 11 18 wdihsrxy sanknganphraphuththsasnaaehngchati phrathatuihsrxy thankhxmulaehlngobrankhdithisakhyinpraethsithy