หอยชักตีน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Laevistrombus canarium) เป็นชื่อของหอยทะเลชนิดฝาเดียวเปลือกบางชนิดหนึ่ง โดยมีรูปร่างคล้ายหอยสังข์ขนาดเล็ก บางทีจึงเรียกว่า หอยสังข์ตีนเดียว หรือ หอยสังข์กระโดด
หอยชักตีน | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | มอลลัสกา |
ชั้น: | หอยฝาเดียว |
ชั้นย่อย: | |
อันดับ: | |
วงศ์: | |
สกุล: | (Linnaeus, ) |
สปีชีส์: | Laevistrombus canarium |
ชื่อทวินาม | |
Laevistrombus canarium (Linnaeus, ) | |
แผนที่การกระจายพันธุ์ตามรายงานจาก Poutiers, 1998. | |
ชื่อพ้อง | |
|
ลักษณะและการกระจายพันธุ์
เป็นหอยฝาเดียวที่จัดอยู่ใน (En:Strombidae) พบแพร่กระจายทั่วไปในทะเลเขต ตั้งแต่ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ไปทางตะวันตกสุดถึงเมลานีเซีย เหนือสุดถึงประเทศญี่ปุ่น และใต้สุดถึงควีนส์แลนด์และนิวแคลิโดเนีย พบอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นทรายปนโคลน และบริเวณหญ้าทะเลและสาหร่าย ตั้งแต่เขตน้ำขึ้นน้ำลงไปจนถึงในระดับความลึกถึงประมาณ 55 เมตร มีการเก็บมาใช้บริโภคเป็นอาหารในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมีการนำเปลือกมาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานหัตถกรรมเครื่องใช้และของประดับตกแต่งต่าง ๆ ขนาดใหญ่สุดมีความยาวเปลือก 10 เซนติเมตร แต่โดยทั่วไปมักพบขนาดประมาณ 6–7 เซนติเมตร ในประเทศไทยพบหอยชักตีนได้ทั่วไปทั้งในฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน ถือเป็นหอยฝาเดียวชนิดที่พบมาก สามารถพบเปลือกตามชายฝั่งทะเลทั่วไป แต่มีเพียงบางแหล่งที่มีการเก็บหอยชักตีนขึ้นมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริโภคอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่นแถบจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระยอง ชุมพร เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปการเก็บหอยชักตีนจะใช้วิธีงม หรือเดินเก็บในเวลาน้ำลงในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถพบหอยชักตีนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของทุกอำเภอ และปัจจุบันยังคงมีอยู่ สังเกตได้จากที่สามารถพบเปลือกหอยใหม่ ๆ ตามชายหาดทั่วไป แต่ไม่มีแหล่งที่ทำการประมงเก็บหอยชักตีนจากธรรมชาติมาบริโภคแพร่หลายเช่นในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน และไม่มีการศึกษาสำรวจอย่างจริงจัง จึงไม่ทราบสภาวะทรัพยากรหอยชักตีนในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
ชีววิทยาทั่วไป
หอยชักตีนเป็นหอยที่ขูดกินสาหร่ายและซากอินทรียสารต่าง ๆ เป็นอาหาร การสืบพันธุ์เป็นแบบผสมภายใน โดยมีเพศผู้ เพศเมียแยกกัน จับคู่ผสมพันธุ์กัน หลังจากนั้นจะวางไข่มีวุ้นหุ้มลักษณะเป็นสายยาวสีขาว ขดเป็นกระจุกคล้ายเส้นหมี่ ไข่จะพัฒนาใช้ระยะเวลาประมาณ 4–5 วัน จึงฟักออกเป็นตัวลูกหอย ซึ่งจะดำรงชีวิตว่ายน้ำ กรองกินแพลงก์ตอนพืชเล็ก ๆ เป็นอาหารอยู่ประมาณ 11–14 วัน จึงพัฒนาเข้าสู่ระยะลงพื้น เปลี่ยนการดำรงชีวิตเป็นขูดกินตะไคร่สาหร่ายหรืออินทรียสารต่าง ๆ ลูกหอยที่ได้จากการเพาะพันธุ์จะเติบโตได้ขนาดความยาวเปลือก 0.5–1 เซนติเมตร ภายในระยะเวลาประมาณ 1–2 เดือน
หอยชักตีนมักจะชอบอาศัยอยู่ตรงบริเวณชายหาดโคลนผสมกับทราย สามารถนำมารับประทานได้ เป็นหอยขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่
อ้างอิง
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPoutiers
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLinnaeusSN
- Issel, A.; Tapparone-Canefri, C. M. (1876). "Studio monografico sopra gli strombidi del Mar Rosso". Annali del Museo Civico di Storia Naturale di Genova (ภาษาอิตาลี). 8: 337–366.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCob4
- Man In 'T Veld, L. A.; De Turck, K. (1998). "Contributions to the knowledge of Strombacea. 6. A revision of the subgenus Laevistrombus Kira, 1955 including the description of a new species from the New Hebrides". Gloria Maris. 36 (5–6): 73–107.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อmaxwell
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hxychktin chuxwithyasastr Laevistrombus canarium epnchuxkhxnghxythaelchnidfaediywepluxkbangchnidhnung odymiruprangkhlayhxysngkhkhnadelk bangthicungeriykwa hxysngkhtinediyw hrux hxysngkhkraoddhxychktinkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm mxllskachn hxyfaediywchnyxy xndb wngs skul Linnaeus spichis Laevistrombus canariumchuxthwinamLaevistrombus canarium Linnaeus aephnthikarkracayphnthutamrayngancak Poutiers 1998 chuxphxngStrombus canarium Linnaeus Strombus gibbus amp 1876lksnaaelakarkracayphnthuepnhxyfaediywthicdxyuin En Strombidae phbaephrkracaythwipinthaelekht tngaetpraethsxinediy srilngka ipthangtawntksudthungemlaniesiy ehnuxsudthungpraethsyipun aelaitsudthungkhwinsaelndaelaniwaekhliodeniy phbxasyxyuinbriewnphunthraypnokhln aelabriewnhyathaelaelasahray tngaetekhtnakhunnalngipcnthunginradbkhwamlukthungpraman 55 emtr mikarekbmaichbriophkhepnxaharinhlaypraethsinexechiytawnxxkechiyngit rwmthngmikarnaepluxkmaichpraoychnodyechphaaxyangyinginnganhtthkrrmekhruxngichaelakhxngpradbtkaetngtang khnadihysudmikhwamyawepluxk 10 esntiemtr aetodythwipmkphbkhnadpraman 6 7 esntiemtr inpraethsithyphbhxychktinidthwipthnginfngxawithyaelafngthaelxndamn thuxepnhxyfaediywchnidthiphbmak samarthphbepluxktamchayfngthaelthwip aetmiephiyngbangaehlngthimikarekbhxychktinkhunmaichpraoychnephuxkarbriophkhxyangaephrhlay swnihyepnaehlngthxngethiyw echnaethbcnghwdkrabi phngnga phuekt rayxng chumphr epntn sungodythwipkarekbhxychktincaichwithingm hruxedinekbinewlanalnginekhtcnghwdpracwbkhirikhnth samarthphbhxychktininphunthichayfngthaelkhxngthukxaephx aelapccubnyngkhngmixyu sngektidcakthisamarthphbepluxkhxyihm tamchayhadthwip aetimmiaehlngthithakarpramngekbhxychktincakthrrmchatimabriophkhaephrhlayechninphunthifngthaelxndamn aelaimmikarsuksasarwcxyangcringcng cungimthrabsphawathrphyakrhxychktininekhtcnghwdpracwbkhirikhnthinpccubnchiwwithyathwipepluxkhxychktininhlaymum hxychktinepnhxythikhudkinsahrayaelasakxinthriysartang epnxahar karsubphnthuepnaebbphsmphayin odymiephsphu ephsemiyaeykkn cbkhuphsmphnthukn hlngcaknncawangikhmiwunhumlksnaepnsayyawsikhaw khdepnkracukkhlayesnhmi ikhcaphthnaichrayaewlapraman 4 5 wn cungfkxxkepntwlukhxy sungcadarngchiwitwayna krxngkinaephlngktxnphuchelk epnxaharxyupraman 11 14 wn cungphthnaekhasurayalngphun epliynkardarngchiwitepnkhudkintaikhrsahrayhruxxinthriysartang lukhxythiidcakkarephaaphnthucaetibotidkhnadkhwamyawepluxk 0 5 1 esntiemtr phayinrayaewlapraman 1 2 eduxn hxychktinmkcachxbxasyxyutrngbriewnchayhadokhlnphsmkbthray samarthnamarbprathanid epnhxykhunchuxkhxngcnghwdkrabixangxingxangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Poutiers xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux LinnaeusSN Issel A Tapparone Canefri C M 1876 Studio monografico sopra gli strombidi del Mar Rosso Annali del Museo Civico di Storia Naturale di Genova phasaxitali 8 337 366 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Cob4 Man In T Veld L A De Turck K 1998 Contributions to the knowledge of Strombacea 6 A revision of the subgenus Laevistrombus Kira 1955 including the description of a new species from the New Hebrides Gloria Maris 36 5 6 73 107 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux maxwellaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb hxychktin