พระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษ หรือ สตีเฟนแห่งบลัว (อังกฤษ: Stephen of England; Stephen of Blois) (ราว ค.ศ. 1096 – 25 ตุลาคม ค.ศ. 1154) เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ พระองค์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 และองค์สุดท้ายของราชวงศ์นอร์มัน ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1135 จนสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1154 พระองค์เป็นตั้งแต่ ค.ศ. 1125 ถึง ค.ศ. 1147 และดยุคแห่งนอร์มังดีตั้งแต่ ค.ศ. 1135 ถึง ค.ศ. 1144 รัชสมัยของพระองค์มีเหตุการณ์สำคัญคือดิแอนะคีซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างพระองค์กับพระราชภาติยะ (ลูกพี่ลูกน้อง) และคู่แข่งของพระองค์คือจักรพรรดินีมาทิลดาซึ่งมีพระราชโอรสคือพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ที่ได้สืบราชบัลลังก์อังกฤษต่อจากพระเจ้าสตีเฟน
พระเจ้าสตีเฟน | |
---|---|
พระมหากษัตริย์อังกฤษ | |
ครองราชย์ | 22 ธันวาคม ค.ศ. 1135 – เมษายน ค.ศ. 1141 |
ราชาภิเษก | 26 ธันวาคม ค.ศ. 1135 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษ |
ถัดไป | จักรพรรดินีมาทิลดา |
ครองราชย์ | พฤศจิกายน ค.ศ. 1141 – 25 ตุลาคม ค.ศ. 1154 |
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีมาทิลดา |
ถัดไป | พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ |
พระราชสมภพ | ราว ค.ศ. 1096 |
สวรรคต | 25 ตุลาคม ค.ศ. 1154 ~(56 ปี) |
พระมเหสี | มาทิลดาแห่งบูลอญ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ |
พระราชบุตร | 7 พระองค์ |
ราชวงศ์ | นอร์มัน |
พระราชบิดา | |
พระราชมารดา | |
ช่วงเวลา | |
เหตุการณ์สำคัญ |
|
วัยเยาว์
เอเตียงหรือสตีเฟนแห่งบลัวส์เสด็จพระราชสมภพเมื่อราวปี ค.ศ. 1097 ในบลัว ประเทศฝรั่งเศส โดยทรงเป็นพระนัดดาของพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต พระบิดาของพระองค์คือเอเตียง-อ็องรี เคานต์แห่งบลัวส์ซึ่งถูกสังหารในสมรภูมิรัมลาระหว่างทำสงครามครูเสดเมื่อสตีเฟนยังเยาว์วัย ส่วนพระมารดาของพระองค์คืออาเดลาแห่งนอร์ม็องดี พระธิดาของพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต พระนางได้ส่งสตีเฟนซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สามมายังอังกฤษเพื่อเสี่ยงโชคในราชสำนักของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ผู้เป็นพระมาตุลา สตีเฟนขึ้นมีหน้ามีตาในราชสำนักของพระเจ้าเฮนรี ด้วยความเป็นคนสุภาพ, มีมารยาท และหล่อเหลาทำให้พระองค์เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเฮนรีที่แต่งตั้งให้พระองค์เป็นอัศวินหลังทำสมรภูมิแต็งเชอเบรย์ ทรงได้รับพระราชทานเคานตีมอร์แตงตอนพระชนมายุ 18 พรรษา
หลายปีต่อมาทรงสมรสกับแมธีลด์แห่งบูลอญทำให้ได้รับดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลมาจากชายา โดยแมธีลด์เป็นธิดาของยูซตาสที่ 3 เคานต์แห่งบูลอญกับแมรีแห่งสกอตแลนด์ซึ่งเป็นพระธิดาของกับซึ่งเป็นชาวแองโกลแซ็กซัน ทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่หนึ่งของพระราชบุตรของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ที่เกิดจากมาทิลดา (หรืออีดิธ) แห่งสกอตแลนด์ซึ่งเป็นพี่น้องกับแมรีแห่งสกอตแลนด์ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสามคน คือ
- เบาด์วิน (ประสูติ ค.ศ. 1126)
- อูสตาช (หรือยูซตาส) ที่ 4 เคานต์แห่งบูลอญ (ประสูติ ค.ศ. 1132) สมรสกับกงสต็องแห่งตูลูส พระธิดาคนเดียวของพระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศสกับอาเดอแลดแห่งซาวอย พระเหสีคนที่สอง
- กีโยม (หรือวิลเลียม) แห่งบลัวส์ (ประสูติ ค.ศ. 1134) เคานต์แห่งมอร์แตง, บูลอญ และเอิร์ลแห่งเซอร์รีย์ สมรสกับ สืบทอดตำแหน่งเคานต์แห่งบูลอญต่อจากพระเชษฐา
- มารี (หรือแมรี) แห่งบูลอญ (ประสูติ ค.ศ. 1136) สืบทอดตำแหน่งเคานเตสแห่งบูลอญต่อจากพระเชษฐา พระองค์ถูกลักพาตัวและบังคับให้สมรสกับมาตีเยอแห่งอาลซัส
การราชาภิเษกและการครองราชย์
ในปี ค.ศ. 1120 สตีเฟนรอดชีวิตจากเหตุอับปางของเรือขาวนอกชายฝั่งนอร์ม็องดี ขณะที่วิลเลียมอาเดลิน พระโอรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ได้สิ้นพระชนม์ในหายนะครั้งดังกล่าว การสิ้นพระชนม์ของวิลเลียมก่อให้เกิดข้อกังขาในลำดับการสืบราชบัลลังก์ของอังกฤษ จักรพรรดินีมาทิลดา พระราชบุตรตามกฎหมายเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 ได้รับการประกาศชื่อเป็นทายาทของพระบิดาซึ่งได้ให้บารอนของพระองค์สาบานและปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระนาง สตีเฟนเป็นหนึ่งในบารอนกลุ่มดังกล่าว
ทว่าเมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 1 สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1135 สตีเฟนอาศัยช่วงที่มาทิลดาอยู่ในฝรั่งเศสข้ามช่องแคบอังกฤษมาแสดงสิทธิ์ในบัลลังก์ อันแสดงถึงความไม่ยอมรับในตัวมาทิลดา เหล่าบารอนเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่จะให้ผู้หญิงปกครองพวกตนจึงยอมรับสตีเฟนเป็นกษัตริย์ พิธีราชาภิเษกของสตีเฟนถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1135 โดยแมธีลด์แห่งบูลอญ ชายาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของพระองค์ได้รับการสวมมงกุฎเป็นพระราชินีในปีต่อมา
แม้จะเป็นพระมาตุลาของพระมเหสีของพระเจ้าสตีเฟนเช่นกันแต่ได้สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ของจักรพรรดินีมาทิลดา พระธิดาของอีดิธแห่งสกอตแลนด์ พระขนิษฐาซึ่งสมรสกับพระเจ้าเฮนรีที่ 1 พระเจ้าดาวิดบุกตอนเหนือของอังกฤษสองครั้งในปี ค.ศ. 1138 แต่ถูกกองทัพของพระเจ้าสตีเฟนขับไล่ไปได้ทั้งสองครั้ง ในปี ค.ศ. 1136 พระเจ้าดาวิดเก็บคัมเบอร์แลนด์ไว้ได้ ปีต่อมาทรงบรรลุสนธิสัญญาพักรบชั่วคราวกับพระเจ้าสตีเฟนหลังสู้รบกันเป็นเวลาสั้นๆ เดือนธันวาคมเมื่อสนธิสัญญาพักรบสิ้นสุดลงพระเจ้าดาวิดขอพื้นที่ทั้งหมดของนอร์ทัมเบอร์แลนด์แต่พระเจ้าสตีเฟนไม่ให้ ในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1138 ทรงบุกอังกฤษเป็นครั้งที่สาม กองทัพของพระเจ้าดาวิดถูกกองทัพอังกฤษนำโดยกีโยม เคานต์แห่งอูแมลปราบที่สมรภูมิซึ่งสู้รบกันในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1138 ที่คาวตันมัวร์ใกล้กับนอร์แธเลอร์ตันในยอร์กเชอร์
ในช่วงปีแรกของการเป็นกษัตริย์ พระเจ้าสตีเฟนสามารถรักษาเสถียรภาพไว้ได้ ทรงประความสำเร็จในการปกป้องดินแดนในอังกฤษและฝรั่งเศสของตนจากการรุกรานของพระเจ้าดาวิดที่ 1 แห่งสกอตแลนด์และจูฟเฟรย์แห่งอ็องฌู ทว่าในปี ค.ศ. 1139 พระเจ้าสตีเฟนเผชิญกับความท้าทายทางทหารครั้งใหญ่จากจักรพรรดินีมาทิลดา (ซึ่งได้รับยศจักรพรรดินีมาจากการสมรสกับจักพรรดิไฮน์ริชที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) ที่เฝ้าดูการทรยศหักหลังของสตีเฟนอย่างโกรธจัด ในตอนที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ พระนางกำลังตั้งครรภ์กีโยม (หรือวิลเลียม) บุตรชายคนที่สาม จึงตอบโต้พระเจ้าสตีเฟนได้อย่างล่าช้า แต่สุดท้ายในปี ค.ศ. 1139 จักรพรรดินีมาทิลดาก็ได้นำทัพเข้าโจมตีอังกฤษเพื่อท้าชิงมงกุฎกับพระเจ้าสตีเฟนโดยมีโรเบิร์ตแห่งกลอสเตอร์ พระอนุชาต่างมารดาให้การสนับสนุน ยุคแห่งความขัดแย้งระหว่างจักรพรรดินีกับพระเจ้าสตีเฟนถูกเรียกว่า "ยุคแห่งอนาธิปไตย" ที่ประเทศแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยสงครามกลางเมือง
สุดท้ายพระเจ้าสตีเฟนก็เสียนอร์ม็องดีให้แก่จูฟเฟรย์ เคานต์แห่งอ็องฌู สวามีของจักรพรรดินีมาทิลดา เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1141 พระองค์ถูกโรเบิร์ตแห่งกลอสเตอร์จับกุมที่สมรภูมิลิงคอล์น ทรงถูกล่ามโซ่จองจำโดยมาทิลดาที่แสนยินดีปรีดา ผู้สนับสนุนหลายคนได้ทอดทิ้งพระเจ้าสตีเฟน มาทิลดาได้รับการยอมรับเป็นพระราชินีแต่กลับถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากชาวเมืองลอนดอนเนื่องจากทรงหยิ่งผยองและทะนงตน พระนางถูกขับไล่ออกจากเมืองโดยฝูงชนที่โกรธเกรี้ยว
วงล้อแห่งโชคชะตาที่พลิกไปพลิกมาพลิกผันอีกครั้งเมื่อกองทัพของแมธีลด์ พระราชินีของพระเจ้าสตีเฟนสามารถจับกุมตัวโรเบิร์ตได้ในการแตกพ่ายที่วินเชสเตอร์ ภายหลังเขาได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับการปล่อยตัวพระเจ้าสตีเฟน ทว่าความขัดแย้งไม่ได้สิ้นสุดลง ตัวมาทิลดาเองเกือบถูกจับกุมตัวได้ขณะถูกพระเจ้าสตีเฟนปิดล้อมที่ออกซฟอร์ด แต่พระนางสามารถหนีข้ามแม่น้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งโดยอำพรางตัวอยู่ใต้เสื้อคลุมสีขาว ความขัดแย้งสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1148 เมื่อจักรพรรดินีมาทิลดายอมรามือจากการต่อสู้และไปจากอังกฤษ
อาณาจักรที่ตกอยู่ในความชุลมุนวุ่นวายและบัลลังก์ที่อยู่ในอันตรายทำให้พระเจ้าสตีเฟนต้องสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สถานะของตนโดยหันไปพึ่งพาศาสนจักร พระองค์ร้องขอให้ สวมมงกุฎให้อูสตาช พระโอรสคนโตเพื่อเป็นการการันตีว่าจะได้สืบทอดตำแหน่งของพระบิดา แต่สมเด็จพระสันตะปาปาไม่รับฟังคำร้องขอของพระเจ้าสตีเฟน
สนธิสัญญาวอลลิงฟอร์ด
ในปี ค.ศ. 1153 พระเจ้าสตีเฟนเผชิญกับการโจมตีอีกครั้งโดยครั้งนี้ผู้นำคือเฮนรี ฟิตซ์เอ็มเพรส (เฮนรี บุตรแห่งจัรพรรดินี) พระโอรสของจักรพรรดินีมาทิลดา ฟิตซ์เอ็มเพรสได้บุกอังกฤษและสร้างสัมพันธไมตรีกับลอร์ดประจำท้องถิ่นเพื่อให้สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ของตน หลังอูสตาช พระโอรสของพระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าสตีเฟนตัดสินใจเจรจาสันติภาพ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1153 สนธิสัญญาวอลลิงฟอร์ดหรือสนธิสัญญาวินเชสเตอร์ได้บรรลุข้อตกลงอันเป็นการยุติสงครามที่ยาวนานถึง 15 ปี ตามเงื่อนไขในสนธิสัญญาพระเจ้าสตีเฟนจะได้ครองบัลลังก์ไปจนกว่าจะสิ้นพระชนม์ หลังการสิ้นพระชนม์ เฮนรี ฟิตซ์เอ็มเพรสจะได้สืบทอดบัลลังก์ต่อ เดือนต่อมาศาสนจักรได้รับรองสนธิสัญญาโดยผู้ที่ทำผิดข้อตกลงจะถูกตัดขาดจากศาสนา เดือนมกราคมปีต่อมาเหล่าบารอนอังกฤษได้เข้าถวายบังคมต่อเฮนรีที่ออกซฟอร์ดโดยที่ยังคงจงรักภักดีต่อพระเจ้าสตีเฟน
การสิ้นพระชนม์
พระเจ้าสตีเฟนฉลองชัยในตอนเหนือของอังกฤษแต่มีเวลาดื่มด่ำกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่นาน ในเดือนตุลาคมพระองค์ล้มป่วยที่โดเวอร์ด้วยโรคลำไส้และอาการตกเลือดภายใน เมื่อใกล้จะสิ้นพระชนม์ราล์ฟ พระสหายในโบสถ์ตรีเอกนุภาพที่อัล์ดเกตถูกเรียกตัวมาโดเวอร์เพื่อเข้าพบพระองค์ในช่วงสุดท้ายชีวิต อาร์ชบิชอปเธโอบอลด์แห่งแคนเทอร์บรีน่าจะอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เขาได้ส่งสาส์นข้ามช่องแคบไปหาเฮนรีและได้บริหารบ้านเมืองชั่วคราวหลังพระเจ้าสตีเฟนสิ้นพระชนม์ด้วยอาการตกเลือดในสมองด้วยวัย 51 พรรษาที่โดเวอร์ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1154 ร่างของกษัตริย์ถูกนำไปที่โบสถ์กลูว์นีในฟาเวอร์ชัมที่พระองค์เป็นผู้ก่อตั้งและถูกฝังที่บริเวณร้องเพลงสวด อาร์ชบิชอปเธโอบอลด์รีบเดินทางไปลอนดอนซึ่งลอร์ดจากทั่วทั้งประเทศได้มารวมตัวกันเพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์คนใหม่ที่ออกเดินทางมาจากนอร์ม็องดีในเดือนธันวาคมและเข้ารับการสวมมงกุฎเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์แพลนทาเจเนตที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ในวันที่ 19 ธันวาคม
พงศาวดารแองโกลแซ็กซันได้กล่าวถึงความทุกข์ทนของประชาชนทั่วไปในช่วง 19 ปีแห่งการครองราชย์ของพระเจ้าสตีเฟนไว้ว่า
"สิบเก้าปีอันยาวนานที่พระเจ้าสตีเฟนเป็นกษัตริย์ ดินแดนต่างๆ ตกอยู่ในเงื้อมมือของความหายนะและความมืดมิด ผู้คนต่างพูดกันไปทั่วว่าพระคริสต์และนักบุญของพระองค์ได้หลับใหล"
อ้างอิง
- Stephen of Blois Biography 2018-03-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Death of King Stephen: History Today
- King Stephen: English Monarchs
- The Children of King Stephen: History The Interesting Bit 2019-04-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ราชบัณฑิตยสถาน, สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 243
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | พระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าเฮนรีที่ 1 | พระมหากษัตริย์อังกฤษ (ราชวงศ์นอร์มัน) (ค.ศ. 1135 – ค.ศ. 1154) | พระเจ้าเฮนรีที่ 2 อ้างสิทธิ์โดยจักรพรรดินีมาทิลดา |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecastiefnaehngxngkvs hrux stiefnaehngblw xngkvs Stephen of England Stephen of Blois raw kh s 1096 25 tulakhm kh s 1154 epnkstriyaehngxngkvs phraxngkhepnkstriyxngkhthi 4 aelaxngkhsudthaykhxngrachwngsnxrmn tngaetwnthi 22 thnwakhm kh s 1135 cnsinphrachnminpi kh s 1154 phraxngkhepntngaet kh s 1125 thung kh s 1147 aeladyukhaehngnxrmngditngaet kh s 1135 thung kh s 1144 rchsmykhxngphraxngkhmiehtukarnsakhykhuxdiaexnakhisungepnsngkhramklangemuxngrahwangphraxngkhkbphrarachphatiya lukphiluknxng aelakhuaekhngkhxngphraxngkhkhuxckrphrrdinimathildasungmiphrarachoxrskhuxphraecaehnrithi 2 thiidsubrachbllngkxngkvstxcakphraecastiefnphraecastiefnphramhakstriyxngkvskhrxngrachy22 thnwakhm kh s 1135 emsayn kh s 1141rachaphiesk26 thnwakhm kh s 1135kxnhnaphraecaehnrithi 1 aehngxngkvsthdipckrphrrdinimathildakhrxngrachyphvscikayn kh s 1141 25 tulakhm kh s 1154kxnhnackrphrrdinimathildathdipphraecaehnrithi 2 aehngxngkvsphrarachsmphphraw kh s 1096swrrkht25 tulakhm kh s 1154 56 pi phramehsimathildaaehngbulxy smedcphrarachiniaehngxngkvsphrarachbutr7 phraxngkhrachwngsnxrmnphrarachbidaphrarachmardachwngewlaehtukarnsakhyekiddiaexnakhisungepnsngkhramklangemuxngxangsiththiinrachbllngkxngkvswyeyawtxnehnuxkhxngfrngessinchwngthiphraecastiefnesdcphrarachsmphph exetiynghruxstiefnaehngblwsesdcphrarachsmphphemuxrawpi kh s 1097 inblw praethsfrngess odythrngepnphranddakhxngphraecawileliymphuphichit phrabidakhxngphraxngkhkhuxexetiyng xxngri ekhantaehngblwssungthuksngharinsmrphumirmlarahwangthasngkhramkhruesdemuxstiefnyngeyawwy swnphramardakhxngphraxngkhkhuxxaedlaaehngnxrmxngdi phrathidakhxngphraecawileliymphuphichit phranangidsngstiefnsungepnbutrchaykhnthisammayngxngkvsephuxesiyngochkhinrachsankkhxngphraecaehnrithi 1 phuepnphramatula stiefnkhunmihnamitainrachsankkhxngphraecaehnri dwykhwamepnkhnsuphaph mimaryath aelahlxehlathaihphraxngkhepnthioprdprankhxngphraecaehnrithiaetngtngihphraxngkhepnxswinhlngthasmrphumiaetngechxebry thrngidrbphrarachthanekhantimxraetngtxnphrachnmayu 18 phrrsa hlaypitxmathrngsmrskbaemthildaehngbulxythaihidrbdinaednxnkwangihyiphsalmacakchaya odyaemthildepnthidakhxngyustasthi 3 ekhantaehngbulxykbaemriaehngskxtaelndsungepnphrathidakhxngkbsungepnchawaexngoklaesksn thrngepnlukphiluknxngchnthihnungkhxngphrarachbutrkhxngphraecaehnrithi 1 thiekidcakmathilda hruxxidith aehngskxtaelndsungepnphinxngkbaemriaehngskxtaelnd thngkhumiphraoxrsthidadwyknsamkhn khux ebadwin prasuti kh s 1126 xustach hruxyustas thi 4 ekhantaehngbulxy prasuti kh s 1132 smrskbkngstxngaehngtulus phrathidakhnediywkhxngphraecahluysthi 6 aehngfrngesskbxaedxaeldaehngsawxy phraehsikhnthisxng kioym hruxwileliym aehngblws prasuti kh s 1134 ekhantaehngmxraetng bulxy aelaexirlaehngesxrriy smrskb subthxdtaaehnngekhantaehngbulxytxcakphraechstha mari hruxaemri aehngbulxy prasuti kh s 1136 subthxdtaaehnngekhanetsaehngbulxytxcakphraechstha phraxngkhthuklkphatwaelabngkhbihsmrskbmatieyxaehngxalsskarrachaphieskaelakarkhrxngrachyphaphphithirachaphieskkhxngphraecastiefn wadodymatieyxchawparis khriststwrrsthi 13 inpi kh s 1120 stiefnrxdchiwitcakehtuxbpangkhxngeruxkhawnxkchayfngnxrmxngdi khnathiwileliymxaedlin phraoxrskhxngphraecaehnrithi 1 idsinphrachnminhaynakhrngdngklaw karsinphrachnmkhxngwileliymkxihekidkhxkngkhainladbkarsubrachbllngkkhxngxngkvs ckrphrrdinimathilda phrarachbutrtamkdhmayephiyngkhnediywthiyngmichiwitxyukhxngphraecaehnrithi 1 idrbkarprakaschuxepnthayathkhxngphrabidasungidihbarxnkhxngphraxngkhsabanaelaptiyanwacacngrkphkditxphranang stiefnepnhnunginbarxnklumdngklaw thwaemuxphraecaehnrithi 1 sinphrachnminpi kh s 1135 stiefnxasychwngthimathildaxyuinfrngesskhamchxngaekhbxngkvsmaaesdngsiththiinbllngk xnaesdngthungkhwamimyxmrbintwmathilda ehlabarxnexngkimehndwykbkhwamkhidthicaihphuhyingpkkhrxngphwktncungyxmrbstiefnepnkstriy phithirachaphieskkhxngstiefnthukcdkhuninwnthi 22 thnwakhm kh s 1135 odyaemthildaehngbulxy chayasungepnphusnbsnunkhnsakhykhxngphraxngkhidrbkarswmmngkudepnphrarachiniinpitxma aemcaepnphramatulakhxngphramehsikhxngphraecastiefnechnknaetidsnbsnunkarxangsiththikhxngckrphrrdinimathilda phrathidakhxngxidithaehngskxtaelnd phrakhnisthasungsmrskbphraecaehnrithi 1 phraecadawidbuktxnehnuxkhxngxngkvssxngkhrnginpi kh s 1138 aetthukkxngthphkhxngphraecastiefnkhbilipidthngsxngkhrng inpi kh s 1136 phraecadawidekbkhmebxraelndiwid pitxmathrngbrrlusnthisyyaphkrbchwkhrawkbphraecastiefnhlngsurbknepnewlasn eduxnthnwakhmemuxsnthisyyaphkrbsinsudlngphraecadawidkhxphunthithnghmdkhxngnxrthmebxraelndaetphraecastiefnimih invdurxnkhxngpi kh s 1138 thrngbukxngkvsepnkhrngthisam kxngthphkhxngphraecadawidthukkxngthphxngkvsnaodykioym ekhantaehngxuaemlprabthismrphumisungsurbkninwnthi 22 singhakhm kh s 1138 thikhawtnmwriklkbnxraethelxrtninyxrkechxr phaorebirtaehngklxsetxrinothngcdphithieliyng prasathkhardiff praethsewls inchwngpiaerkkhxngkarepnkstriy phraecastiefnsamarthrksaesthiyrphaphiwid thrngprakhwamsaercinkarpkpxngdinaedninxngkvsaelafrngesskhxngtncakkarrukrankhxngphraecadawidthi 1 aehngskxtaelndaelacufefryaehngxxngchu thwainpi kh s 1139 phraecastiefnephchiykbkhwamthathaythangthharkhrngihycakckrphrrdinimathilda sungidrbysckrphrrdinimacakkarsmrskbckphrrdiihnrichthi 5 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi thiefadukarthryshkhlngkhxngstiefnxyangokrthcd intxnthiphrabidasinphrachnm phranangkalngtngkhrrphkioym hruxwileliym butrchaykhnthisam cungtxbotphraecastiefnidxyanglacha aetsudthayinpi kh s 1139 ckrphrrdinimathildakidnathphekhaocmtixngkvsephuxthachingmngkudkbphraecastiefnodymiorebirtaehngklxsetxr phraxnuchatangmardaihkarsnbsnun yukhaehngkhwamkhdaeyngrahwangckrphrrdinikbphraecastiefnthukeriykwa yukhaehngxnathipity thipraethsaetkxxkepnesiyng dwysngkhramklangemuxng phaphehmuxnckrphrrdinimathildainexksar prawtisastrxngkvs odykhnankbwchkhxngxasnwiharnkbuyxxlbn khriststwrrsthi 15 sudthayphraecastiefnkesiynxrmxngdiihaekcufefry ekhantaehngxxngchu swamikhxngckrphrrdinimathilda eduxnkumphaphnth kh s 1141 phraxngkhthukorebirtaehngklxsetxrcbkumthismrphumilingkhxln thrngthuklamoscxngcaodymathildathiaesnyindiprida phusnbsnunhlaykhnidthxdthingphraecastiefn mathildaidrbkaryxmrbepnphrarachiniaetklbthuktxtanxyangrunaerngcakchawemuxnglxndxnenuxngcakthrnghyingphyxngaelathanngtn phranangthukkhbilxxkcakemuxngodyfungchnthiokrthekriyw wnglxaehngochkhchatathiphlikipphlikmaphlikphnxikkhrngemuxkxngthphkhxngaemthild phrarachinikhxngphraecastiefnsamarthcbkumtworebirtidinkaraetkphaythiwinechsetxr phayhlngekhaidrbkarplxytwephuxaelkkbkarplxytwphraecastiefn thwakhwamkhdaeyngimidsinsudlng twmathildaexngekuxbthukcbkumtwidkhnathukphraecastiefnpidlxmthixxksfxrd aetphranangsamarthhnikhamaemnathicbtwepnnaaekhngodyxaphrangtwxyuitesuxkhlumsikhaw khwamkhdaeyngsinsudlnginpi kh s 1148 emuxckrphrrdinimathildayxmramuxcakkartxsuaelaipcakxngkvs xanackrthitkxyuinkhwamchulmunwunwayaelabllngkthixyuinxntraythaihphraecastiefntxngsrangkhwamaekhngaekrngihaeksthanakhxngtnodyhnipphungphasasnckr phraxngkhrxngkhxih swmmngkudihxustach phraoxrskhnotephuxepnkarkarntiwacaidsubthxdtaaehnngkhxngphrabida aetsmedcphrasntapapaimrbfngkharxngkhxkhxngphraecastiefnsnthisyyawxllingfxrdinpi kh s 1153 phraecastiefnephchiykbkarocmtixikkhrngodykhrngniphunakhuxehnri fitsexmephrs ehnri butraehngcrphrrdini phraoxrskhxngckrphrrdinimathilda fitsexmephrsidbukxngkvsaelasrangsmphnthimtrikblxrdpracathxngthinephuxihsnbsnunkarxangsiththiinbllngkkhxngtn hlngxustach phraoxrskhxngphraxngkhsinphrachnm phraecastiefntdsinicecrcasntiphaph ineduxnphvscikayn kh s 1153 snthisyyawxllingfxrdhruxsnthisyyawinechsetxridbrrlukhxtklngxnepnkaryutisngkhramthiyawnanthung 15 pi tamenguxnikhinsnthisyyaphraecastiefncaidkhrxngbllngkipcnkwacasinphrachnm hlngkarsinphrachnm ehnri fitsexmephrscaidsubthxdbllngktx eduxntxmasasnckridrbrxngsnthisyyaodyphuthithaphidkhxtklngcathuktdkhadcaksasna eduxnmkrakhmpitxmaehlabarxnxngkvsidekhathwaybngkhmtxehnrithixxksfxrdodythiyngkhngcngrkphkditxphraecastiefnkarsinphrachnmphraecastiefnchlxngchyintxnehnuxkhxngxngkvsaetmiewladumdakbsingthiekidkhunimnan ineduxntulakhmphraxngkhlmpwythiodewxrdwyorkhlaisaelaxakartkeluxdphayin emuxiklcasinphrachnmralf phrashayinobsthtriexknuphaphthixldektthukeriyktwmaodewxrephuxekhaphbphraxngkhinchwngsudthaychiwit xarchbichxpethoxbxldaehngaekhnethxrbrinacaxyuthinndwyechnkn ekhaidsngsasnkhamchxngaekhbiphaehnriaelaidbriharbanemuxngchwkhrawhlngphraecastiefnsinphrachnmdwyxakartkeluxdinsmxngdwywy 51 phrrsathiodewxrinwnthi 25 tulakhm kh s 1154 rangkhxngkstriythuknaipthiobsthkluwniinfaewxrchmthiphraxngkhepnphukxtngaelathukfngthibriewnrxngephlngswd xarchbichxpethoxbxldribedinthangiplxndxnsunglxrdcakthwthngpraethsidmarwmtwknephuxekhaefakstriykhnihmthixxkedinthangmacaknxrmxngdiineduxnthnwakhmaelaekharbkarswmmngkudepnphraecaehnrithi 2 aehngxngkvs pthmkstriyaehngrachwngsaephlnthaecentthiwiharewstminsetxrinwnthi 19 thnwakhm phngsawdaraexngoklaesksnidklawthungkhwamthukkhthnkhxngprachachnthwipinchwng 19 piaehngkarkhrxngrachykhxngphraecastiefniwwa sibekapixnyawnanthiphraecastiefnepnkstriy dinaedntang tkxyuinenguxmmuxkhxngkhwamhaynaaelakhwammudmid phukhntangphudknipthwwaphrakhristaelankbuykhxngphraxngkhidhlbihl xangxingStephen of Blois Biography 2018 03 23 thi ewyaebkaemchchin Death of King Stephen History Today King Stephen English Monarchs The Children of King Stephen History The Interesting Bit 2019 04 05 thi ewyaebkaemchchinrachbnthitysthan saranukrmpraethsinthwipyuorp chbbrachbnthitysthan rachbnthitysthan 2550 hna 243duephimrachwngsnxrmnkxnhna phraecastiefnaehngxngkvs thdipphraecaehnrithi 1 phramhakstriyxngkvs rachwngsnxrmn kh s 1135 kh s 1154 phraecaehnrithi 2 xangsiththiodyckrphrrdinimathilda bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk