เนอร์วานา (อังกฤษ: Nirvana) เป็นวงกรันจ์ และอัลเทอร์เนทีฟ ร็อก สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นโดยมือกีตาร์และร้องนำ เคิร์ต โคเบน และมือเบส คริสต์ โนโวเซลิช เมื่อปี ค.ศ. 1987 ที่เมืองอาเบอร์ดีน รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา วงได้ตัวมือกลอง เดฟ โกรล ซึ่งเข้ามาในปี ค.ศ. 1990 และได้อยู่ร่วมกับยาวนานที่สุดจวบจนวงแตก แม้ว่าเนอร์วานาจะออกสตูดิโออัลบั้มเพียง 3 อัลบั้ม ในช่วงเวลาสั้น ๆ 7 ปี แต่วงก็ได้รับการยอมรับอย่างสูงให้เป็นหนึ่งในวงที่ทรงอิทธิพลและสำคัญที่สุดในยุคสมัยใหม่นี้ แม้ว่าดนตรีของวงได้หายในช่วงปี ค.ศ. 1994 แต่งานเพลงของพวกเขาก็ยังคงได้รับกระแสนิยมต่อแรงบันดาลใจและอิทธิพลวัฒนธรรมร็อกแอนด์โรลสมัยใหม่จวบจนถึงปัจจุบัน
เนอร์วานา | |
---|---|
เนอร์วานาในปี 2535 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ที่เกิด | เมืองอาเบอร์ดีน, รัฐวอชิงตัน, สหรัฐอเมริกา |
แนวเพลง | อัลเทอร์เนทีฟร็อก, กรันจ์ |
ช่วงปี | ค.ศ. 1987 — 1994 |
ค่ายเพลง |
|
สมาชิก | เคิร์ต โคเบน คริสต์ โนโวเซลิช เดฟ โกรล |
อดีตสมาชิก | อารอน บรุกฮาร์ด ชาด แชนนิง เดล โครเวอร์ เจสัน เอฟเวอร์แมน เดฟ ฟอสเตอร์ แดน ปีเทอรส์ |
เว็บไซต์ | nirvana |
ในช่วงปลายยุค 1980 เนอร์วานา ได้ร่วมก่อกำเนิดแนวเพลงใหม่ซึ่งเป็นหนึ่งในคลื่นเพลงซีแอตเทิล กรันจ์ วงได้เริ่มงานดนตรีด้วยการออกอัลบั้มแรก Bleach ภายใต้ค่ายเพลงซัปป็อป (Sub Pop) ซึ่งเป็นค่ายเพลงอิสระ ในปี ค.ศ. 1989 วงได้กลับมาพัฒนาเสียงให้ไพเราะและน่าฟัง รวมถึงใช้ความต่างในดนตรี ทั้งการเล่นเสียงเบาและสูง ใส่อารมณ์ในท่อนคอรัส ภายหลังวงได้เซ็นสัญญากับค่ายดีจีซีเรเคิดส์แล้ว เนอร์วานาก็ได้ประสบความสำเร็จกับ "Smells Like Teen Spirit" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม Nevermind (1991) อย่างไม่คาดคิด วงได้ประสบความสำเร็จทั่วโลกเพียงข้ามคืน จนแฟนเพลงถึงกับยกย่องให้โคเบนเป็น "นักพูดแห่งเจเนอเรชัน" และสำหรับเนอร์วานาแล้วถือเป็น "วงหลักแห่งเจเนอเรชันเอกซ์" ในอัลบั้มที่สามหรือสุดท้ายของวง In Utero (1993) ที่ประสบความสำเร็จด้วยการขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ด 200
เส้นทางดนตรีของเนอร์วานาได้ยุติลงเมื่อ เคิร์ต โคเบน เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1994 ด้วยอายุเพียง 27 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวอัลบั้มแรก วงทำยอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 25 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกาที่เดียว และกว่า 75 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้เนอร์วานา กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาล วงได้รับการจัดอันดับที่ 27 จากนิตยสารโรลลิงสโตน บนหัวข้อ "100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" ในปี ค.ศ. 2004 นอกจากนี้วงยังได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในปี ค.ศ. 2014 ซึ่งเป็นวงแรกของปีนั้นที่ได้รับคัดเลือกอีกด้วย
ประวัติ
ก่อตั้งวงและช่วงแรก
เคิร์ต โคเบน (ร้องนำ, กีต้าร์) พบกับคริส โนโวเซลิก (มือเบส) ในปี 1985 ที่เมืองอาเบอร์ดีน รัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมป่าไม้เมืองเล็ก ๆ ห่างจากซีแอ็ทเทิล 100 ไมล์ ภูมิหลังของ คริสราบเรียบกว่าเคิร์ท เพราะตอนอายุ 8 ปีเคิร์ทต้องเผชิญกับปัญหาจากการหย่าร้าง ของบิดามารดา หลังจากทั้งคู่หย่ากันแล้ว เคิร์ทก็ต้องเวียนไปอยู่ตามบ้านญาติ เขาชอบเพลงของเดอะ บีทเทิ้ลส์ จากนั้นก็หันมาชอบเพลง เฮฟวี่เมทัล ในที่สุดเคิร์ท ก็หลงรักเพลง ฮาร์ดคอร์พังค์ ทั้งยังได้พบกับวงThe Melvins ซึ่งเป็นวงเฮฟวี่พังค์อันเดอร์กราวด์ ต่อมา เคิร์ทก็เริ่มเล่นดนตรีให้วงพังค์อย่าง Fecal Matter โดยส่วนใหญ่จะไปกับเดล โครเวอร์ มือเบสของ The Melvins
บัซซ์ ออสบอร์น หัวหน้าวง The Melvins แนะนำให้เคิร์ท รู้จักกับคริส โนโวเซลิก ซึ่งสนใจดนตรีพังค์เช่นกัน การสนใจแนวเพลงพังค์ ทำให้ทั้งเคิร์ทกับคริสรู้สึกแปลกแยก จากคนส่วนใหญ่ในอาเบอร์ดีน ที่เป็นคนงาน ทั้งคู่จึงตัดสินใจ ตั้งวงชื่อว่า The Stiff Woodies โดยเคิร์ท เป็นมือกลอง คริสเป็นมือเบส ส่วนตำแหน่งกีต้าร์ กับร้องนำนั้น มีหลายคนสลับสับเปลี่ยนกันไป จนในที่สุดเคิร์ทก็เล่นกีต้าร์และร้องเอง หลังจากเปลี่ยนชื่อวงเป็น Skid Row วงของเคิร์ท ก็มีสมาชิกทั้งหมดเป็น 3 คน ผู้ที่มาเพิ่มคือ แอรอน เบิร์คฮาร์ท มือกลอง แต่พอถึงปี 1986 แอรอนก็ออกจากวง ผู้ที่มาแทนคือแช้ด แชนนิ่ง ต่อมาในปี 1987 Skid Row ก็เปลี่ยนชื่อเป็น เนอร์วานา เนอร์วานา เริ่มจากการเล่นดนตรี ตามงานเลี้ยง ในเมืองโอลิมเปีย จนมีแฟนเพลงกลุ่มใหญ่พอควร
ในปี 1987 เนอร์วานา ทำเดโมเทป 10 ม้วน กับโปรดิวเซอร์ แจ็ค เอ็นดิโน่ ซึ่งได้นำเทปตัวอย่างไปเสนอ โจนาธาน โพนแมน หนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัทแผ่นเสียงอิสระ ในซีแอ็ทเทิล ชื่อ Sub Pop ในที่สุดเนอร์วานา ก็ได้เซ็นสัญญาบริษัท และเดือนธันวาคม ปี 1988 เนอร์วานา ก็ออกซิงเกิลแรก เป็นเพลงเก่าของวง Shocking Blue ชื่อ Love Buzz
ค่าย Sub Pop วางแผนการตลาด โดยให้สร้างภาพให้ เนอร์วานา เป็นวงหลังเขาจากเมืองอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งทำให้เคิร์ท กับคริสไม่พอใจ เพลง Love Buzz ได้รับการยอมรับพอสมควร แต่ผลงานที่ทำให้ เนอร์วานา เป็นที่รู้จักคืออัลบั้ม Bleach ซึ่งใช้เงินในการบันทึกเสียงกว่า 600 เหรียญเท่านั้น แต่เมื่อออกขายในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1989 Bleach ก็ค่อย ๆ ฮิตตามสถานีวิทยุมหาวิทยาลัย เนื่องจาก เนอร์วานา ออกทัวร์คอนเสิร์ตสม่ำเสมอ แม้ในปกอัลบั้ม Bleach จะระบุชื่อมือกีต้าร์คนที่ 2 ไว้ว่าเป็น เจสัน เอฟเวอร์แมน แต่เขาไม่ได้ร่วมบันทึกเสียงด้วยเลย เจสัน เพียงแต่ออกทัวร์คอนเสิร์ตเท่านั้น ก่อนจะออกจากวงไปในช่วงปลายปี เพื่อไปอยู่กับวง Soundgarden และ Mindfunk
อัลบั้ม Bleach ขายได้ถึง 35,000 ชุด และ เนอร์วานา ก็ได้รับความนิยมจากสถานีวิทยุตามมหาวิทยาลัย และ นิตยสารดนตรีในอังกฤษ นอกจากนี้ วง Sonic Youth Mudhoney และ Dinosaur Jr. ก็ชื่นชม เนอร์วานา ด้วย ทำให้ค่ายเทปใหญ่ ๆ หันมาสนใจ เนอร์วานา ในช่วงฤดูร้อน เนอร์วานา ออกซิงเกิล Sliver กับ Dive ซึ่งมีแดน ปีเตอร์สจากวง Mudhoneyมาเล่นกลองให้ ส่วนโปรดิวเซอร์คือ บุช วิค นอกจากจะบันทึกเสียง เพลงทั้งสองกับวิคแล้ว เนอร์วานายังทำเดโมเทปอีก 6 เพลงกับวิคด้วย เดโมชุดนี้ ไปถึงมือค่ายยักษ์ซึ่งแย่งกัน เซ็นสัญญากับ เนอร์วานา
Nevermind
ปลายฤดูร้อน อดีตสมาชิกวง Scream วงแนวฮาร์ดคอร์จากวอชิงตันดีซี ก็เข้ามาเป็นมือกลองของ เนอร์วานา หลังจากนั้นก็เซ็นสัญญากับค่ายดีจีซีด้วยค่าตัว 287,000 เหรียญ เนอร์วานา บันทึกเสียงอัลบั้มที่ 2 กับวิค จนเสร็จในฤดูร้อนปีนั้นเอง ช่วงปลายฤดูร้อน หลังจาก เนอร์วานา ออกทัวร์คอนเสิร์ตกับ Sonic Youth พวกเขา ออกอัลบั้มชุดที่ 2 ในเดือนกันยายน ชื่อ Nevermind หลังออกอัลบั้ม เนอร์วานา ก็ออกทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกาทันที ค่ายดีจีซี ต้นสังกัดของ เนอร์วานา ตั้งเป้าว่า Nevermind จะขายได้ประมาณ 100,000 ชุด แต่ปรากฏว่า Nevermind ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และขายชุดแรกจำนวน 50,000 แผ่นได้ในเวลาไม่นาน จนขาดตลาดทั่วอเมริกา
เพลงที่ช่วยให้อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จคือ Smells Like Teen Spirit เพลงร็อก 4 คอร์ดที่มีการนำ ออกกระหน่ำฉายทางเอ็มทีวี ต้นปี 1992 เพลง Smells Like Teen Spirit ก็ขึ้นถึงท็อป 10 ในอเมริกา และ Nevermind ก็ทำให้อัลบั้ม Dangerous ที่สร้างชื่อให้ ไมเคิล แจ็คสัน อีกครั้ง ต้องตกจากอันดับที่ 1 นอกจากนี้ Nevermind ยังติดท็อป 10 ที่อังกฤษหลังจากนั้นไม่นานด้วย ในเดือนกุมภาพันธ์ Nevermind ก็ได้แผ่นเสียงทองคำขาวถึงสามแผ่น ความสำเร็จของ เนอร์วานา เป็นเรื่องน่าประหลาดใจในวงการเพลง พวกเขาเองก็แปลกใจเช่นกัน
เนื่องจากปัญหาส่วนตัวของ เคิร์ท โคเบน ตกเป็นข่าวไปทั่ว เนอร์วานา จึงบันทึกเสียงอัลบั้มต่อจาก Nevermind ไม่ได้จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิปี 1993 ในช่วงที่หยุดไป ดีจีซี ได้ออกอัลบั้มรวมเพลงของ เนอร์วานา ชื่อว่า Incesticide ในช่วงปลายปี 1992 อัลบั้มนี้ ขึ้นถึงอันดับ 39 ในอเมริกา และอันดับ 14 ในอังกฤษ ผลงานอีกชิ้นที่ออกมาก่อนออกอัลบั้มที่ 3 คือซิงเกิลที่ เนอร์วานา ร่วมทำกับวง The Jesus Lizard ที่ชื่อ Oh, The Guilt โดยซิงเกิลนี้ มีค่าย ทัชแอนด์โก เป็นต้นสังกัด ในอัลบั้มที่ 3 เนอร์วานา เลือกสตีฟ อัลบินี่ โปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานกับ Pixies Breeders Big Black และ Jesus Lizard มาเป็นโปรดิวเซอร์
In Utero
อัลบั้ม In Utero ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 3 ของ เนอร์วานา ออกมาในฤดูใบไม้ผลิ 1993 หลังทำอัลบั้มนี้เสร็จ เนอร์วานา ก็ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้ง เคิร์ทเสพย์เฮโรอีนเกินขนาด ในวันที่ 2 พฤษภาคม แต่ข่าวนี้ถูกปิดไว้ เดือนต่อมา คอร์ทนีย์เรียกตำรวจไปที่บ้านในซีแอ็ทเทิ่ล หลังจากเคิร์ท ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ และขู่จะฆ่าตัวตาย ก่อนออกอัลบั้ม In Utero เคิร์ทเคยเสพย์ยาเกินขนาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ใน งานสัมมนาดนตรีแนวใหม่ที่ห้องโรสแลนด์บอลรูมในนิวยอร์ก ในเดือนกรกฎาคม ช่วงนั้นเอง เริ่มมีข่าวในนิวสวีค และสื่ออื่น ๆ ว่าดีจีซีไม่พอใจอัลบั้มใหม่ ทั้งยังกล่าวหา เนอร์วานา ว่าตั้งใจออกอัลบั้ม ไม่ให้ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ ทางวง และต้นสังกัดปฏิเสธข่าวดังกล่าว
แต่ต่อมา เนอร์วานา ตัดสินใจปลด สตีฟ อัลบินี่ เพราะเห็นว่า ผลงานของสตีฟเรียบเกินไป และดึง สก็อต ลิทท์ โปรดิวเซอร์ของ R.E.M.มาปรับปรุงเพลง In Utero ออกวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 1993 และได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ ทั้งยังทำยอดขายช่วงแรกได้ดี ทำให้เข้าอันดับเป็นอันดับ 1 ทั้งในอังกฤษ และอเมริกา เนอร์วานา ออกคอนเสิร์ตในอเมริกา เพื่อโปรโมตอัลบั้มชุดนี้ โดยได้จ้าง แพ็ท สเมียร์ อดีตมือกีต้าร์วง Germs มาช่วยเล่นกีต้าร์เสริม แม้ตัวอัลบั้ม กับการแสดงคอนเสิร์ต จะประสบความสำเร็จ แต่ยอดขายกลับไม่สูงอย่างที่คาดไว้ การแสดงสดหลายครั้งขายบัตรได้ไม่มาก ต้องรอจนถึงสัปดาห์ที่มีการแสดง จึงขายหมด ด้วยเหตุนี้ เนอร์วานา จึงยอมรับปากเล่นคอนเสิร์ตแบบอะคูสติกที่ชื่อ Unplugged ของเอ็มทีวีตอนปลายปี
การตายของเคิร์ท โคเบน
หลังจากคอนเสิร์ตของเอ็มทีวีครั้งนี้ ออกอากาศในเดือนธันวาคม ยอดขาย In Utero ก็สูงขึ้น หลังจบการทัวร์คอนเสิร์ตในอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มกราคม 1994 ที่เซ็นเตอร์ อารีน่าในซีแอ็ทเทิ่ล เนอร์วานา ก็เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรปในเดือน กุมภาพันธ์ หลังจากแสดงคอนเสิร์ตในมิวนิกวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เคิร์ทก็อยู่ที่กรุงโรมกับคอร์ทนีย์ต่อ เพื่อพักผ่อน วันที่ 4 มีนาคม เมื่อคอร์ทนีย์ตื่นมาก็พบว่า เคิร์ทพยายามฆ่าตัวตาย โดยทานยาโรฟีนอล ซึ่งเป็นยานอนหลับพร้อมกับ แม้ข่าวจะออกมาว่า เคิร์ทไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย แต่สมาชิกวง เนอร์วานา ทราบดีว่า เคิร์ททิ้งจดหมายลาตายไว้
หลังอยู่โรงพยาบาล 1 สัปดาห์ เคิร์ทก็กลับซีแอ็ทเทิ่ล สุขภาพจิตของเขาเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ในวันที่ 18 มีนาคม ตำรวจต้องกล่อมให้เคิร์ท เลิกคิดฆ่าตัวตายอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาขังตัวเองไว้ในห้อง และขู่จะฆ่าตัวตาย คอร์ทนีย์ กับผู้จัดการวง เนอร์วานา จัดการให้เคิร์ท เข้ารับการบำบัดที่ศูนย์บำบัดเอ็กโซดัส ในลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 30 มีนาคม แต่เคิร์ทก็หนีออกมาได้ในวันที่ 1 เมษายน แล้วกลับไปซีแอ็ทเทิ่ล มารดาของเคิร์ท แจ้งความว่าเคิร์ทหายไปในวันที่ 4 เมษายน ในวันที่ 5 เคิร์ทก็ยิงศีรษะตนเองที่บ้านในซีแอ็ทเทิ่ล แต่ยังไม่มีใครพบศพ จนกระทั่งวันที่ 8 เมษายน เมื่อช่างไฟที่ไปติดตั้งระบบสัญญาณเตือน ที่บ้านของเคิร์ท ไปสะดุดร่าง ของเขาเข้า
หลังเสียชีวิต เคิร์ท โคเบน กลายเป็นเสมือนกระบอกเสียง ของคนรุ่นเจนเนอเรชั่น เอกซ์ ทันที ทั้งยังกลายเป็น สัญลักษณ์ของความทรมาน และความกดดัน ของคนรุ่นนี้
หลังการตายของเคิร์ต
คริส โนโวเซลิก กับเดฟ โกรลห์ วางแผนจะออกอัลบั้มซีดีแผ่นคู่ รวมการแสดงสดในช่วงปลายปี 1994 แต่การเลือกเพลงจากเทป ทำให้ทั้งสองเจ็บปวดมาก ดังนั้นจึงมีการนำเพลงในรายการ MTV Unplugged in New York มาออกแทน อัลบั้มนี้เป็นอันดับ 1 ตั้งแต่เข้าอันดับ ทั้งในอังกฤษและอเมริกา ในปี 1996 ก็มีการออกอัลบั้ม From The Muddy Banks Of The Wishkah ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกา ในสัปดาห์แรกที่เข้าอันดับ
หลังจากเคิร์ท โคเบนเสียชีวิต เดฟ โกรลห์ก็ตั้งวงThe Foo Fighters ซึ่งออกอัลบั้มชุดแรกในฤดูร้อนปี 1995 ส่วนคริส โนโวเซลิกก็ตั้งวง Sweet 75 และออกอัลบั้มแรก ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1997 และตอนนี้ ฟอร์มวงที่มีชื่อว่า Eyes Adrift
แนวเพลง
แม้เพลงของ เนอร์วานา น่าจะฟังดูคล้ายส่วนผสม ระหว่าง เพลงของ แบล็กแซ็บบาธ กับ Cheap Trick แต่เพลงของ เนอร์วานา เป็นอินดี้ร็อกขนานแท้ เนอร์วานา นำเพลงของ Vaselines มาร้อง และยังปลุกกระแส นิวเวฟด้วย เคิร์ต โคเบน หัวหน้าวง เนอร์วานา ผลักดัน วงดนตรีที่เขาชื่นชอบอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรี แนวอย่าง Raincoats หรือวงแนวฮาร์ดคอร์ อย่าง The Meat Puppets จนดูเหมือนว่า เพลงในดวงใจของเคิร์ท สำคัญกว่าเพลงของตัวเขาเอง เนื่องจาก เนอร์วานา มีพื้นฐานจากแนวอินดี้ แต่ชอบเพลงป็อป แนวเพลงของวง ที่ออกมาระหว่าง การเดินทางไปสู่ความสำเร็จ จึงแปรผันไปตามเวลา จนกระทั่ง เนอร์วานา กลายเป็นวงแอนตี้ร็อก ที่อื้อฉาวที่สุดวงหนึ่ง ในประวัติศาสตร์วงการเพลง
ภาพลักษณ์
ช่วงที่ออกอัลบั้ม Nevermind เนอร์วานา มักยั่วยุกลุ่มแฟนเพลง เช่น เมื่อ เคิร์ต โคเบน ไปออกรายการ Headbanger's Ball ของเอ็มทีวี โดยแต่งตัวเป็นผู้หญิง นอกจากนี้ สมาชิกวงยังล้อเลียนรายการ Top Of The Pops ของสถานีโทรทัศน์บีบีซีด้วย โดยคริส โนโวเซลิก โยนเบสขึ้นลงตลอดเวลา และเคิร์ทก็ร้องเพลงแบบ เอียน เคอร์ทิส เวลาแสดงสด การทำลายเครื่องดนตรีของ เนอร์วานา ก็มีให้เห็นกันประจำ ภาพเช่นนั้น กลายเป็นภาพติดตาเมื่อ เนอร์วานา ทำลายเครื่องดนตรี ในรายการ Saturday Night Live แล้วลงเอยด้วยการที่ คริส โนโวเซลิก กับ เดฟ โกรลห์ จูบกัน
ผลงาน
อ้างอิง
- Azerrad, Michael.. Rolling Stone. April 16, 1992. Archived from the original on January 9, 2008. Retrieved August 23, 2010.
- "Nirvana catalogue to be released on vinyl". CBC.ca. March 21, 2009. Retrieved March 7, 2012.
- "Rolling Stone: The Immortals: 100 Greatest Artists of All-Time". Rock On The Net. 2004. Retrieved October 3, 2013.
- "Rock and Roll Hall of Fame: Inductees". Rockhall.com. 2013-04-15. สืบค้นเมื่อ 2014-03-12.
- ประวัติของวงเนอร์วานา 2007-05-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha enxrwana xngkvs Nirvana epnwngkrnc aelaxlethxrenthif rxk sychatixemrikn kxtngkhunodymuxkitaraelarxngna ekhirt okhebn aelamuxebs khrist onoweslich emuxpi kh s 1987 thiemuxngxaebxrdin rthwxchingtn shrthxemrika wngidtwmuxklxng edf okrl sungekhamainpi kh s 1990 aelaidxyurwmkbyawnanthisudcwbcnwngaetk aemwaenxrwanacaxxkstudioxxlbmephiyng 3 xlbm inchwngewlasn 7 pi aetwngkidrbkaryxmrbxyangsungihepnhnunginwngthithrngxiththiphlaelasakhythisudinyukhsmyihmni aemwadntrikhxngwngidhayinchwngpi kh s 1994 aetnganephlngkhxngphwkekhakyngkhngidrbkraaesniymtxaerngbndalicaelaxiththiphlwthnthrrmrxkaexndorlsmyihmcwbcnthungpccubnenxrwanaenxrwanainpi 2535khxmulphunthanthiekidemuxngxaebxrdin rthwxchingtn shrthxemrikaaenwephlngxlethxrenthifrxk krncchwngpikh s 1987 1994khayephlngsppxp dicisierekhidssmachikekhirt okhebn khrist onoweslich edf okrlxditsmachikxarxn brukhard chad aechnning edl okhrewxr ecsn exfewxraemn edf fxsetxr aedn piethxrsewbistnirvana wbr com inchwngplayyukh 1980 enxrwana idrwmkxkaenidaenwephlngihmsungepnhnunginkhlunephlngsiaextethil krnc wngiderimngandntridwykarxxkxlbmaerk Bleach phayitkhayephlngsppxp Sub Pop sungepnkhayephlngxisra inpi kh s 1989 wngidklbmaphthnaesiyngihipheraaaelanafng rwmthungichkhwamtangindntri thngkarelnesiyngebaaelasung isxarmninthxnkhxrs phayhlngwngidesnsyyakbkhaydicisierekhidsaelw enxrwanakidprasbkhwamsaerckb Smells Like Teen Spirit sungepnsingekilaerkcakxlbm Nevermind 1991 xyangimkhadkhid wngidprasbkhwamsaercthwolkephiyngkhamkhun cnaefnephlngthungkbykyxngihokhebnepn nkphudaehngecenxerchn aelasahrbenxrwanaaelwthuxepn wnghlkaehngecenxerchnexks inxlbmthisamhruxsudthaykhxngwng In Utero 1993 thiprasbkhwamsaercdwykarkhunxndb 1 bnbilbxrd 200 esnthangdntrikhxngenxrwanaidyutilngemux ekhirt okhebn esiychiwitinpi kh s 1994 dwyxayuephiyng 27 pi nbtngaetepidtwxlbmaerk wngthayxdcahnayipaelwkwa 25 lanchudinshrthxemrikathiediyw aelakwa 75 lanchudthwolk thaihenxrwana klayepnhnunginsilpinthimiyxdcahnaysungsudtlxdkal wngidrbkarcdxndbthi 27 caknitysarorllingsotn bnhwkhx 100 silpinthiyingihythisudtlxdkal inpi kh s 2004 nxkcakniwngyngidrbkarbrrcuekhasuhxekiyrtiysrxkaexndorl inpi kh s 2014 sungepnwngaerkkhxngpinnthiidrbkhdeluxkxikdwyprawtikxtngwngaelachwngaerk ekhirt okhebn rxngna kitar phbkbkhris onoweslik muxebs inpi 1985 thiemuxngxaebxrdin rthwxchingtn sungepnemuxngxutsahkrrmpaimemuxngelk hangcaksiaexthethil 100 iml phumihlngkhxng khrisraberiybkwaekhirth ephraatxnxayu 8 piekhirthtxngephchiykbpyhacakkarhyarang khxngbidamarda hlngcakthngkhuhyaknaelw ekhirthktxngewiynipxyutambanyati ekhachxbephlngkhxngedxa bithethils caknnkhnmachxbephlng ehfwiemthl inthisudekhirth khlngrkephlng hardkhxrphngkh thngyngidphbkbwngThe Melvins sungepnwngehfwiphngkhxnedxrkrawd txma ekhirthkerimelndntriihwngphngkhxyang Fecal Matter odyswnihycaipkbedl okhrewxr muxebskhxng The Melvins bss xxsbxrn hwhnawng The Melvins aenanaihekhirth ruckkbkhris onoweslik sungsnicdntriphngkhechnkn karsnicaenwephlngphngkh thaihthngekhirthkbkhrisrusukaeplkaeyk cakkhnswnihyinxaebxrdin thiepnkhnngan thngkhucungtdsinic tngwngchuxwa The Stiff Woodies odyekhirth epnmuxklxng khrisepnmuxebs swntaaehnngkitar kbrxngnann mihlaykhnslbsbepliynknip cninthisudekhirthkelnkitaraelarxngexng hlngcakepliynchuxwngepn Skid Row wngkhxngekhirth kmismachikthnghmdepn 3 khn phuthimaephimkhux aexrxn ebirkhharth muxklxng aetphxthungpi 1986 aexrxnkxxkcakwng phuthimaaethnkhuxaechd aechnning txmainpi 1987 Skid Row kepliynchuxepn enxrwana enxrwana erimcakkarelndntri tamnganeliyng inemuxngoxlimepiy cnmiaefnephlngklumihyphxkhwr inpi 1987 enxrwana thaedomethp 10 mwn kboprdiwesxr aeckh exndion sungidnaethptwxyangipesnx ocnathan ophnaemn hnunginphukxtng bristhaephnesiyngxisra insiaexthethil chux Sub Pop inthisudenxrwana kidesnsyyabristh aelaeduxnthnwakhm pi 1988 enxrwana kxxksingekilaerk epnephlngekakhxngwng Shocking Blue chux Love Buzz khay Sub Pop wangaephnkartlad odyihsrangphaphih enxrwana epnwnghlngekhacakemuxngxutsahkrrmpaim sungthaihekhirth kbkhrisimphxic ephlng Love Buzz idrbkaryxmrbphxsmkhwr aetphlnganthithaih enxrwana epnthiruckkhuxxlbm Bleach sungichengininkarbnthukesiyngkwa 600 ehriyyethann aetemuxxxkkhayinvduibimphli pi 1989 Bleach kkhxy hittamsthaniwithyumhawithyaly enuxngcak enxrwana xxkthwrkhxnesirtsmaesmx aeminpkxlbm Bleach carabuchuxmuxkitarkhnthi 2 iwwaepn ecsn exfewxraemn aetekhaimidrwmbnthukesiyngdwyely ecsn ephiyngaetxxkthwrkhxnesirtethann kxncaxxkcakwngipinchwngplaypi ephuxipxyukbwng Soundgarden aela Mindfunk xlbm Bleach khayidthung 35 000 chud aela enxrwana kidrbkhwamniymcaksthaniwithyutammhawithyaly aela nitysardntriinxngkvs nxkcakni wng Sonic Youth Mudhoney aela Dinosaur Jr kchunchm enxrwana dwy thaihkhayethpihy hnmasnic enxrwana inchwngvdurxn enxrwana xxksingekil Sliver kb Dive sungmiaedn pietxrscakwng Mudhoneymaelnklxngih swnoprdiwesxrkhux buch wikh nxkcakcabnthukesiyng ephlngthngsxngkbwikhaelw enxrwanayngthaedomethpxik 6 ephlngkbwikhdwy edomchudni ipthungmuxkhayykssungaeyngkn esnsyyakb enxrwana Nevermind playvdurxn xditsmachikwng Scream wngaenwhardkhxrcakwxchingtndisi kekhamaepnmuxklxngkhxng enxrwana hlngcaknnkesnsyyakbkhaydicisidwykhatw 287 000 ehriyy enxrwana bnthukesiyngxlbmthi 2 kbwikh cnesrcinvdurxnpinnexng chwngplayvdurxn hlngcak enxrwana xxkthwrkhxnesirtkb Sonic Youth phwkekha xxkxlbmchudthi 2 ineduxnknyayn chux Nevermind hlngxxkxlbm enxrwana kxxkthwrkhxnesirtinshrthxemrikathnthi khaydicisi tnsngkdkhxng enxrwana tngepawa Nevermind cakhayidpraman 100 000 chud aetpraktwa Nevermind idrbkhwamniymxyangrwderw aelakhaychudaerkcanwn 50 000 aephnidinewlaimnan cnkhadtladthwxemrika ephlngthichwyihxlbmniprasbkhwamsaerckhux Smells Like Teen Spirit ephlngrxk 4 khxrdthimikarna xxkkrahnachaythangexmthiwi tnpi 1992 ephlng Smells Like Teen Spirit kkhunthungthxp 10 inxemrika aela Nevermind kthaihxlbm Dangerous thisrangchuxih imekhil aeckhsn xikkhrng txngtkcakxndbthi 1 nxkcakni Nevermind yngtidthxp 10 thixngkvshlngcaknnimnandwy ineduxnkumphaphnth Nevermind kidaephnesiyngthxngkhakhawthungsamaephn khwamsaerckhxng enxrwana epneruxngnaprahladicinwngkarephlng phwkekhaexngkaeplkicechnkn enuxngcakpyhaswntwkhxng ekhirth okhebn tkepnkhawipthw enxrwana cungbnthukesiyngxlbmtxcak Nevermind imidcnkrathngvduibimphlipi 1993 inchwngthihyudip dicisi idxxkxlbmrwmephlngkhxng enxrwana chuxwa Incesticide inchwngplaypi 1992 xlbmni khunthungxndb 39 inxemrika aelaxndb 14 inxngkvs phlnganxikchinthixxkmakxnxxkxlbmthi 3 khuxsingekilthi enxrwana rwmthakbwng The Jesus Lizard thichux Oh The Guilt odysingekilni mikhay thchaexndok epntnsngkd inxlbmthi 3 enxrwana eluxkstif xlbini oprdiwesxrthiekhythangankb Pixies Breeders Big Black aela Jesus Lizard maepnoprdiwesxr In Utero xlbm In Utero sungepnxlbmthi 3 khxng enxrwana xxkmainvduibimphli 1993 hlngthaxlbmniesrc enxrwana ktkepnkhawxuxchawxikkhrng ekhirthesphyehorxinekinkhnad inwnthi 2 phvsphakhm aetkhawnithukpidiw eduxntxma khxrthniyeriyktarwcipthibaninsiaexthethil hlngcakekhirth khngtwexngxyuinhxngna aelakhucakhatwtay kxnxxkxlbm In Utero ekhirthekhyesphyyaekinkhnadmaaelwkhrnghnung in ngansmmnadntriaenwihmthihxngorsaelndbxlruminniwyxrk ineduxnkrkdakhm chwngnnexng erimmikhawinniwswikh aelasuxxun wadicisiimphxicxlbmihm thngyngklawha enxrwana watngicxxkxlbm imihprasbkhwamsaercechingphanichy thangwng aelatnsngkdptiesthkhawdngklaw aettxma enxrwana tdsinicpld stif xlbini ephraaehnwa phlngankhxngstiferiybekinip aeladung skxt lithth oprdiwesxrkhxng R E M maprbprungephlng In Utero xxkwangcahnayineduxnkumphaphnth 1993 aelaidrbkhachmcaknkwicarn thngyngthayxdkhaychwngaerkiddi thaihekhaxndbepnxndb 1 thnginxngkvs aelaxemrika enxrwana xxkkhxnesirtinxemrika ephuxopromtxlbmchudni odyidcang aephth semiyr xditmuxkitarwng Germs machwyelnkitaresrim aemtwxlbm kbkaraesdngkhxnesirt caprasbkhwamsaerc aetyxdkhayklbimsungxyangthikhadiw karaesdngsdhlaykhrngkhaybtridimmak txngrxcnthungspdahthimikaraesdng cungkhayhmd dwyehtuni enxrwana cungyxmrbpakelnkhxnesirtaebbxakhustikthichux Unplugged khxngexmthiwitxnplaypi kartaykhxngekhirth okhebn hlngcakkhxnesirtkhxngexmthiwikhrngni xxkxakasineduxnthnwakhm yxdkhay In Utero ksungkhun hlngcbkarthwrkhxnesirtinxemrika emuxwnthi 8 mkrakhm 1994 thiesnetxr xarinainsiaexthethil enxrwana kerimthwrkhxnesirtinyuorpineduxn kumphaphnth hlngcakaesdngkhxnesirtinmiwnikwnthi 29 kumphaphnth ekhirthkxyuthikrungormkbkhxrthniytx ephuxphkphxn wnthi 4 minakhm emuxkhxrthniytunmakphbwa ekhirthphyayamkhatwtay odythanyaorfinxl sungepnyanxnhlbphrxmkb aemkhawcaxxkmawa ekhirthimidtngickhatwtay aetsmachikwng enxrwana thrabdiwa ekhirththingcdhmaylatayiw hlngxyuorngphyabal 1 spdah ekhirthkklbsiaexthethil sukhphaphcitkhxngekhaerimaeylngeruxy inwnthi 18 minakhm tarwctxngklxmihekhirth elikkhidkhatwtayxikkhrng odykhrngniekhakhngtwexngiwinhxng aelakhucakhatwtay khxrthniy kbphucdkarwng enxrwana cdkarihekhirth ekharbkarbabdthisunybabdexkosds inlxsaexneclis emuxwnthi 30 minakhm aetekhirthkhnixxkmaidinwnthi 1 emsayn aelwklbipsiaexthethil mardakhxngekhirth aecngkhwamwaekhirthhayipinwnthi 4 emsayn inwnthi 5 ekhirthkyingsirsatnexngthibaninsiaexthethil aetyngimmiikhrphbsph cnkrathngwnthi 8 emsayn emuxchangifthiiptidtngrabbsyyanetuxn thibankhxngekhirth ipsadudrang khxngekhaekha hlngesiychiwit ekhirth okhebn klayepnesmuxnkrabxkesiyng khxngkhnrunecnenxerchn exks thnthi thngyngklayepn sylksnkhxngkhwamthrman aelakhwamkddn khxngkhnrunni hlngkartaykhxngekhirt khris onoweslik kbedf okrlh wangaephncaxxkxlbmsidiaephnkhu rwmkaraesdngsdinchwngplaypi 1994 aetkareluxkephlngcakethp thaihthngsxngecbpwdmak dngnncungmikarnaephlnginraykar MTV Unplugged in New York maxxkaethn xlbmniepnxndb 1 tngaetekhaxndb thnginxngkvsaelaxemrika inpi 1996 kmikarxxkxlbm From The Muddy Banks Of The Wishkah sungkhunxndb 1 inxemrika inspdahaerkthiekhaxndb hlngcakekhirth okhebnesiychiwit edf okrlhktngwngThe Foo Fighters sungxxkxlbmchudaerkinvdurxnpi 1995 swnkhris onoweslikktngwng Sweet 75 aelaxxkxlbmaerk invduibimphli pi 1997 aelatxnni fxrmwngthimichuxwa Eyes Adriftaenwephlngaemephlngkhxng enxrwana nacafngdukhlayswnphsm rahwang ephlngkhxng aeblkaesbbath kb Cheap Trick aetephlngkhxng enxrwana epnxindirxkkhnanaeth enxrwana naephlngkhxng Vaselines marxng aelayngplukkraaes niwewfdwy ekhirt okhebn hwhnawng enxrwana phlkdn wngdntrithiekhachunchxbxyangimldla imwacaepnwngdntri aenwxyang Raincoats hruxwngaenwhardkhxr xyang The Meat Puppets cnduehmuxnwa ephlngindwngickhxngekhirth sakhykwaephlngkhxngtwekhaexng enuxngcak enxrwana miphunthancakaenwxindi aetchxbephlngpxp aenwephlngkhxngwng thixxkmarahwang karedinthangipsukhwamsaerc cungaeprphniptamewla cnkrathng enxrwana klayepnwngaexntirxk thixuxchawthisudwnghnung inprawtisastrwngkarephlngphaphlksnchwngthixxkxlbm Nevermind enxrwana mkywyuklumaefnephlng echn emux ekhirt okhebn ipxxkraykar Headbanger s Ball khxngexmthiwi odyaetngtwepnphuhying nxkcakni smachikwngynglxeliynraykar Top Of The Pops khxngsthaniothrthsnbibisidwy odykhris onoweslik oynebskhunlngtlxdewla aelaekhirthkrxngephlngaebb exiyn ekhxrthis ewlaaesdngsd karthalayekhruxngdntrikhxng enxrwana kmiihehnknpraca phaphechnnn klayepnphaphtidtaemux enxrwana thalayekhruxngdntri inraykar Saturday Night Live aelwlngexydwykarthi khris onoweslik kb edf okrlh cubknphlnganBleach 1989 Nevermind 1991 Incesticide 1992 1993 xangxingAzerrad Michael Rolling Stone April 16 1992 Archived from the original on January 9 2008 Retrieved August 23 2010 Nirvana catalogue to be released on vinyl CBC ca March 21 2009 Retrieved March 7 2012 Rolling Stone The Immortals 100 Greatest Artists of All Time Rock On The Net 2004 Retrieved October 3 2013 Rock and Roll Hall of Fame Inductees Rockhall com 2013 04 15 subkhnemux 2014 03 12 prawtikhxngwngenxrwana 2007 05 18 thi ewyaebkaemchchin https www nirvanaclub com