น้ำเต้าลม | |
---|---|
หม้อล่างของ N. thorelii ที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอพฤกษศาสตร์,ปารีส | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | พืช (Plantae) |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Caryophyllales |
วงศ์: | Nepenthaceae |
สกุล: | Nepenthes |
สปีชีส์: | N. thorelii |
ชื่อทวินาม | |
Nepenthes thorelii (1909) | |
ชื่อพ้อง | |
|
น้ำเต้าลม (อังกฤษ: Nepenthes thorelii) เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงถิ่นเดียวของอินโดจีน เรารู้น้อยมากเกี่ยวกับมัน แม้แต่นักอนุกรมวิธานยังติดป้ายชื่อของ N. thorelii ผิดบ่อยๆในการค้าต้นไม้
ประวัติทางพฤกษศาสตร์
N. thorelii ถูกเก็บได้ครั้งแรกโดย ระหว่างปีค.ศ. 1862 และ ค.ศ. 1866 จาก , , , เวียดนาม ช่วงเวลานั้น Thorel ได้ตั้งชื่อตัวอย่างของ N. thorelii ว่า Thorel 1032 หนึ่งในตัวอย่างที่เก็บมาที่ถูกเลือกเป็นตัวอย่างต้นแบบเป็นต้นเพศผู้ที่มีหม้อล่างติดมาด้วย มันได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ ในปารีส ร่วมกับที่เป็นเพศเมียพร้อมหม้อบน ตัวอย่างคู่ตัวอย่างต้นแบบตัวอย่างที่สองถูกรักษาไว้ที่หอพรรณไม้แห่ง (Herbarium Bogoriense). ส่วนที่เหลือของ Thorel 1032 ถูกเก็บไว้ที่สวนพฤกษศาสตร์นิวยอร์ก
N. thorelii ถูกจัดจำแนกในปีค.ศ. 1909 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ ผู้ตั้งชื่อมันตามชื่อ Thorel รายละเอียดถูกตีพิมพ์ใน Lecomte's Notulae systematicae ตั้งแต่นั้นอนุกรมวิธานของ N. thorelii ก็ได้ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์: Nepenthes thorelii f. rubra ถูกอ้างโดย Leo C. Song ในบทความตีพิมพ์ปีค.ศ. 1979 ใน แต่ถูกพิจารณาเป็น ชื่อตั้งไร้คำบรรยาย
ปีค.ศ. 1983, Bruce Lee Bednar เขียนป้ายชื่อพืชเพาะเลี้ยงว่า ที่ถูกคิดว่าเป็นลูกผสมทางธรรมชาติระหว่าง N. mirabilis และ N. thorelii และปรากฏชื่อบนบางบัญชีรายชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า N. × lecouflei Bednar หมายเหตุว่าพืชที่รู้กันในการค้าพืชสวนว่า "thorelii-long green" ที่ถูกพิจารณาว่าเป็น N. mirabilis จากไทยนั้นนั้น มีต้นอื่นที่ถูกเรียกว่า "short round" ที่มีใบปกคลุมด้วยขนสั้นนุ่มและหม้อทรงกลมนั้นอาจจะเป็น N. thorelii ก็ได้ ถ้าในกรณีนี้มันอาจหมายความว่าลูกผสมที่ถูกผสมโดยมนุษย์ ดังเช่น N. 'Hachijo' และ N. 'Effulgent Koto' ที่เป็นลำดับการเปลี่ยนแปลงทางสายพันธุ์ () ของ N. mirabilis ดังที่ค้านสู่ลูกผสม
ในเอกสารปี 1997 ของสกุลหม้อข้าวหม้อแกงลิง และ ได้ให้ตัวอย่างเพศผู้ที่เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้แห่งปารีสเป็นตัวอย่างเลือกเป็นตัวอย่างต้นแบบของ N. thorelii ผู้เขียนหมายเหตุว่ามี "ปัญหาในการแบ่งแยก" ของ N. thorelii และญาติใกล้ชิดของมันอย่าง N. anamensis และ N. smilesii
สารประกอบของพืชที่ระบุว่าเป็น N.thorelii เป็นหัวข้อของการศึกษาในบางเรื่อง บทความในปี ค.ศ. 1998 รายงานว่า จาก N. thorelii แสดงถึงการต้านมาลาเรีย เอกสารในปี ค.ศ. 2007 มีการศึกษาเอนไซม์องค์ประกอบของ ในหม้อในหม้อข้าวหม้อแกงลิงบางชนิดซึ่งรวมถึง N. thorelii ด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
N. thorelii เป็นไม้พุ่มเตี้ย ลำต้นตรง เป็นวงกลมสม่ำเสมอเมื่อตัดขวาง สอบเรียว ต้นยาวประมาณ 40 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-8 มม. หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้มีการพัฒนาเหง้าพักตัวที่จะแตกต้นได้ใหม่เมื่อถึงฤดูฝน เหง้านี้มีกิ่งก้านไม่สม่ำเสมอและอาจกว้างได้ถึง 2 ซม.
ใบเป็นรูปใบหอกตรงถึงรูปใข่กลับแคบ ยาว 26 ซม. กว้าง 3 ซม. ปลายใบแหลม ฐานใบหุ้มลำต้นและเป็นครีบ 2 ครีบ ยาว 2.5 ซม.จรดลำต้น ปลายครีบกลม มีสองถึงสี่เส้นใบตามยาวจะแสดงบนข้างทั้งสองของ เส้นใบแบบขนนกมีจำนวนมากและโค้งไปหาส่วนปลายของแผ่นใบ
ใบกระจุกและหม้อล่างเป็นทรงรูปไข่และสูงถึง 11.5 ซม.กว้าง 4.5 ซม. พื้นมีสีเขียวมีลายแดงเรื่อยๆและฝาก็มีสีแดงเรื่อยๆเช่นกัน ปีกทั้งคู่กว้าง 8 มม.อยู่ทางด้านหน้าของหม้อ ปีกมีตะเข็บชายครุยยาว 5 มม.แต่ละชิ้นห่างกัน 2 มม. ปากหม้อเป็นทรงสามเหลี่ยมรูปไข่เฉียง มีเพอริสโตมล้อมรอบ กว้าง 2 ถึง 4 มม.ที่ด้านหน้า 7 มม.ที่ด้านหลัง มีซี่เป็นระเบียบห่างกัน 0.25 - 0.4 มม.ขอบภายในของเพอริสโตมเป็นฟันโดยรอบขนาด 0.2 - 0.5 มม. ฝาหม้อรูปไข่ถึงกลมยาว 3.5 ซม.กว้าง 2.8 ซม. มีต่อมมากมายใต้ฝาโดยเฉพาะบริเวณใกล้เส้นกลาง ขนาด 0.3 - 0.7 มม. ต่อมจะเล็กและหนาแน่นน้อยลงเมื่อไกลจากเส้นกลาง ( 0.15 มม.) เดือยเดี่ยวยาว 2 - 4 มม.อยู่ใกล้บริเวณฐานฝา
หม้อบนเกิดจากมือจับที่ตรงเป็นรูปไข่กลับและค่อยๆแคบลงไปทางปาก มีขนาดพอๆกับหม้อล่างคือสูง 12.5 ซม.กว้าง 4.5 ซม. ปีกในหม้อล่างจะแคบลงโดยกว้างประมาณ 1 - 1.5 มม.มีตะเข็บสายครุยเรียวแหลม (ยาว ≤1.5 มม.) ห่างกัน 3 - 7 มม. ปากหม้อเว้าและเอียงเหมือนกับหม้อล่าง เพอริสโตมกลมกว้างประมาณ 3 - 5 มม. ขอบนอกเป็นคลื่นแบบเป็นระเบียบ ฝาหม้อคล้ายกับหม้อล่าง
N. thorelii มีช่อดอกแบบขนาดใหญ่ ยาว 8 ถึง 18 ซม. ส่วนยาว 50 ถึง 70 ซม. 1 ก้านดอกย่อยมีดอก 1 ดอก อาจยาวถึง 6 มม. และอาจมีหรือไม่มีใบประดับสั้นๆ
N. thorelii มีเป็นขนสีขาวแบบเดี่ยวหรือแขนงยาว 0.3 ถึง 0.4 มม.
โครโมโซมของ N. thorelii เป็นโครโมโซมสองชุดมีจำนวน 78 ตามเอกสารของ ในปีค.ศ. 1969 อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1997 มีการศึกษาโดย และ พบจำนวนโครโมโซมเป็น 80
นิเวศวิทยา
N. thorelii สามารถพบได้ในเวียดนาม., กัมพูชา, ไทย หรืออาจจะในลาวN. thorelii พบในภูมิอากาศแห้งแบบทุ้งหญ้าซาวานน่า สูงจากระดับน้ำทะเล 200 เมตร ในฤดูแล้ง เชื่อว่ามันสามารถมีชีวิตรอดจากเหง้าที่เหลืออยู่ เมื่อถูกไฟป่าเผาใบและลำต้นไปหมด และแตกต้นขึ้นมาใหม่เมื่อถึงฤดูฝน
เนื่องจากการกระจายตัวตามธรรมชาติของมันไม่เป็นที่แน่นอน N. thorelii จึงถูกจัดอยู่เป็นพวกไม่มีข้อมูลในบัญชีแดงชนิดที่ถูกคุกคามของ IUCN 2006 บนพื้นฐานการประเมินในปี ค.ศ. 2000
ชนิดที่เกี่ยวข้อง
N. thorelii เป็นญาติใกล้ชิดกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดในอินโดจีนอย่าง N. anamensis และ N. smilesii มีลักษณะทางอนุกรมวิธานหลายๆอย่างที่คล้ายกัน เช่นมีใบแคบยาวคล้ายดาบ และ ฐานใบจะโอบรอบลำต้น N. anamensis อาจจะเติบโตในถิ่นอาศัยที่คล้ายกับ N. thorelii
ลักษณะเด่นของ N. thorelii คือมีเหง้าขนาดใหญ่สำหรับพักตัวในฤดูแล้งและแตกต้นใหม่เมื่อถึงฤดูฝน, สายดิ่งที่ยาวตรงของหม้อบน, ช่อดอกที่มีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามขอบเขตของความแตกต่างของชนิดหม้อข้าวหม้อแกงลิงในอินโดจีนนั้นยังไม่เป็นที่รู้กัน ทำให้การจำกัดวงนั้นยากเพิ่มมากขึ้น
อ้างอิง
- สำนักงานหอพรรณไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ -- กรุงเทพมหานคร : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, 2549
- Specimen Details: Nepenthes thorelii Lecomte. The New York Botanical Garden.
- Jebb, M.H.P. & M.R. Cheek 1997. A Skeletal Revision of Nepenthes (Nepenthaceae). Blumea 42 (1) : 1–106.
- Lecomte, H. 1909. Les Nepenthes d'indo-Chine. In: H. Lecomte (ed.) Notulae systematicae, I. pp. 59–65.
- Song, L.C. 1979. Nepenthes crosses made at California State University, Fullerton. 8 (1) : 13.
- Schlauer, J. 2006. Nepenthes thorelii 2012-02-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Carnivorous Plant Database.
- Bednar, B. 1983. Nepenthes mirabilis variation.PDF (111 ) 12 (3) : 64.
- Likhitwitayawuid, K., R. Kaewamatawong, N. Ruangrungsi & J. Krungkrai 1998. Antimalarial naphthoquinones from Nepenthes thorelii. Planta Medica 64 (3) : 237–241.
- Takahashi, K., M. Tanji & C. Shibata 2007. Variations in the content and isozymic composition of nepenthesin in the pitcher fluids among Nepenthes species. 36 (3) : 73–76.
- Kondo, K. 1969. Chromosome numbers of carnivorous plants. Bulletin of the Torrey Botanical Club 96 (3) : 322–328.
- Heubl, G.R. & A. Wistuba 1997. A cytological study of the genus Nepenthes L. (Nepenthaceae). Sendtnera 4: 169–174.
- Clarke, C.M., R. Cantley, J. Nerz, H. Rischer & A. Witsuba 2000. Nepenthes thorelii. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. IUCN 2006. Retrieved on 10 May 2006.
- Kurata, S. 1976. Nepenthes of Mount Kinabalu. Sabah National Parks Publications No. 2, Sabah National Parks Trustees, Kota Kinabalu.
แหล่งข้อมูลอื่น
- รายละเอียดของ N. anamensis, N. smilesii, และ N. thorelii 2009-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
naetalmhmxlangkhxng N thorelii thithukekbrksaiwthihxphvkssastr parissthanakarxnurksimmikhxmul IUCN 2 3 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr phuch Plantae hmwd Magnoliophytachn Magnoliopsidaxndb Caryophyllaleswngs Nepenthaceaeskul Nepenthesspichis N thoreliichuxthwinamNepenthes thorelii 1909 chuxphxng Nepenthes thorelii f rubra Hort Kondo ex 1979 naetalm xngkvs Nepenthes thorelii epnhmxkhawhmxaeknglingthinediywkhxngxinodcin erarunxymakekiywkbmn aemaetnkxnukrmwithanyngtidpaychuxkhxng N thorelii phidbxyinkarkhatnimprawtithangphvkssastrN thorelii thukekbidkhrngaerkody rahwangpikh s 1862 aela kh s 1866 cak ewiydnam chwngewlann Thorel idtngchuxtwxyangkhxng N thorelii wa Thorel 1032 hnungintwxyangthiekbmathithukeluxkepntwxyangtnaebbepntnephsphuthimihmxlangtidmadwy mnidthukekbrksaiwthi inparis rwmkbthiepnephsemiyphrxmhmxbn twxyangkhutwxyangtnaebbtwxyangthisxngthukrksaiwthihxphrrnimaehng Herbarium Bogoriense swnthiehluxkhxng Thorel 1032 thukekbiwthiswnphvkssastrniwyxrk twxyangxangxingephsemiythithukekbrksainhxphvkssastr paris N thorelii thukcdcaaenkinpikh s 1909 odynkphvkssastrchawfrngessthichux phutngchuxmntamchux Thorel raylaexiydthuktiphimphin Lecomte s Notulae systematicae tngaetnnxnukrmwithankhxng N thorelii kidpraktinsingtiphimph Nepenthes thorelii f rubra thukxangody Leo C Song inbthkhwamtiphimphpikh s 1979 in aetthukphicarnaepn chuxtngirkhabrryay pikh s 1983 Bruce Lee Bednar ekhiynpaychuxphuchephaaeliyngwa thithukkhidwaepnlukphsmthangthrrmchatirahwang N mirabilis aela N thorelii aelapraktchuxbnbangbychiraychuxxyangimepnthangkarwa N lecouflei Bednar hmayehtuwaphuchthirukninkarkhaphuchswnwa thorelii long green thithukphicarnawaepn N mirabilis cakithynnnn mitnxunthithukeriykwa short round thimiibpkkhlumdwykhnsnnumaelahmxthrngklmnnxaccaepn N thorelii kid thainkrninimnxachmaykhwamwalukphsmthithukphsmodymnusy dngechn N Hachijo aela N Effulgent Koto thiepnladbkarepliynaeplngthangsayphnthu khxng N mirabilis dngthikhansulukphsm inexksarpi 1997 khxngskulhmxkhawhmxaekngling aela idihtwxyangephsphuthiekbrksaiwthihxphrrnimaehngparisepntwxyangeluxkepntwxyangtnaebbkhxng N thorelii phuekhiynhmayehtuwami pyhainkaraebngaeyk khxng N thorelii aelayatiiklchidkhxngmnxyang N anamensis aela N smilesii sarprakxbkhxngphuchthirabuwaepn N thorelii epnhwkhxkhxngkarsuksainbangeruxng bthkhwaminpi kh s 1998 raynganwa cak N thorelii aesdngthungkartanmalaeriy exksarinpi kh s 2007 mikarsuksaexnismxngkhprakxbkhxng inhmxinhmxkhawhmxaeknglingbangchnidsungrwmthung N thorelii dwylksnathangphvkssastrN thorelii epnimphumetiy latntrng epnwngklmsmaesmxemuxtdkhwang sxberiyw tnyawpraman 40 sm esnphasunyklang 4 8 mm hmxkhawhmxaeknglingchnidnimikarphthnaehngaphktwthicaaetktnidihmemuxthungvdufn ehnganimikingkanimsmaesmxaelaxackwangidthung 2 sm latnaelaibkhxngtwxyang ibepnrupibhxktrngthungrupikhklbaekhb yaw 26 sm kwang 3 sm playibaehlm thanibhumlatnaelaepnkhrib 2 khrib yaw 2 5 sm crdlatn playkhribklm misxngthungsiesnibtamyawcaaesdngbnkhangthngsxngkhxng esnibaebbkhnnkmicanwnmakaelaokhngiphaswnplaykhxngaephnib ibkracukaelahmxlangepnthrngrupikhaelasungthung 11 5 sm kwang 4 5 sm phunmisiekhiywmilayaedngeruxyaelafakmisiaedngeruxyechnkn pikthngkhukwang 8 mm xyuthangdanhnakhxnghmx pikmitaekhbchaykhruyyaw 5 mm aetlachinhangkn 2 mm pakhmxepnthrngsamehliymrupikhechiyng miephxrisotmlxmrxb kwang 2 thung 4 mm thidanhna 7 mm thidanhlng misiepnraebiybhangkn 0 25 0 4 mm khxbphayinkhxngephxrisotmepnfnodyrxbkhnad 0 2 0 5 mm fahmxrupikhthungklmyaw 3 5 sm kwang 2 8 sm mitxmmakmayitfaodyechphaabriewniklesnklang khnad 0 3 0 7 mm txmcaelkaelahnaaennnxylngemuxiklcakesnklang 0 15 mm eduxyediywyaw 2 4 mm xyuiklbriewnthanfa hmxbnekidcakmuxcbthitrngepnrupikhklbaelakhxyaekhblngipthangpak mikhnadphxkbhmxlangkhuxsung 12 5 sm kwang 4 5 sm pikinhmxlangcaaekhblngodykwangpraman 1 1 5 mm mitaekhbsaykhruyeriywaehlm yaw 1 5 mm hangkn 3 7 mm pakhmxewaaelaexiyngehmuxnkbhmxlang ephxrisotmklmkwangpraman 3 5 mm khxbnxkepnkhlunaebbepnraebiyb fahmxkhlaykbhmxlang chxdxktwphu say aela chxphltwemiy khwa N thorelii michxdxkaebbkhnadihy yaw 8 thung 18 sm swnyaw 50 thung 70 sm 1 kandxkyxymidxk 1 dxk xacyawthung 6 mm aelaxacmihruximmiibpradbsn N thorelii miepnkhnsikhawaebbediywhruxaekhnngyaw 0 3 thung 0 4 mm okhromosmkhxng N thorelii epnokhromosmsxngchudmicanwn 78 tamexksarkhxng inpikh s 1969 xyangirktaminpi kh s 1997 mikarsuksaody aela phbcanwnokhromosmepn 80niewswithyaN thorelii samarthphbidinewiydnam kmphucha ithy hruxxaccainlawN thorelii phbinphumixakasaehngaebbthunghyasawanna sungcakradbnathael 200 emtr invduaelng echuxwamnsamarthmichiwitrxdcakehngathiehluxxyu emuxthukifpaephaibaelalatniphmd aelaaetktnkhunmaihmemuxthungvdufn enuxngcakkarkracaytwtamthrrmchatikhxngmnimepnthiaennxn N thorelii cungthukcdxyuepnphwkimmikhxmulinbychiaedngchnidthithukkhukkhamkhxng IUCN 2006 bnphunthankarpraemininpi kh s 2000chnidthiekiywkhxnghmxbnkhxng N thorelii thithukekbrksaiw aesdnglksnasaydingyawtrng N thorelii epnyatiiklchidkbhmxkhawhmxaeknglingchnidinxinodcinxyang N anamensis aela N smilesii milksnathangxnukrmwithanhlayxyangthikhlaykn echnmiibaekhbyawkhlaydab aela thanibcaoxbrxblatn N anamensis xaccaetibotinthinxasythikhlaykb N thorelii lksnaednkhxng N thorelii khuxmiehngakhnadihysahrbphktwinvduaelngaelaaetktnihmemuxthungvdufn saydingthiyawtrngkhxnghmxbn chxdxkthimikhnadihy xyangirktamkhxbekhtkhxngkhwamaetktangkhxngchnidhmxkhawhmxaeknglinginxinodcinnnyngimepnthirukn thaihkarcakdwngnnyakephimmakkhunxangxingsanknganhxphrrnim chuxphrrnimaehngpraethsithy etm smitinnthn krungethphmhankhr krmxuthyanaehngchati stwpa aelaphnthuphuch 2549 Specimen Details Nepenthes thorelii Lecomte The New York Botanical Garden Jebb M H P amp M R Cheek 1997 A Skeletal Revision of Nepenthes Nepenthaceae Blumea 42 1 1 106 Lecomte H 1909 Les Nepenthes d indo Chine In H Lecomte ed Notulae systematicae I pp 59 65 Song L C 1979 Nepenthes crosses made at California State University Fullerton 8 1 13 Schlauer J 2006 Nepenthes thorelii 2012 02 07 thi ewyaebkaemchchin Carnivorous Plant Database Bednar B 1983 Nepenthes mirabilis variation PDF 111 12 3 64 Likhitwitayawuid K R Kaewamatawong N Ruangrungsi amp J Krungkrai 1998 Antimalarial naphthoquinones from Nepenthes thorelii Planta Medica 64 3 237 241 Takahashi K M Tanji amp C Shibata 2007 Variations in the content and isozymic composition of nepenthesin in the pitcher fluids among Nepenthes species 36 3 73 76 Kondo K 1969 Chromosome numbers of carnivorous plants Bulletin of the Torrey Botanical Club 96 3 322 328 Heubl G R amp A Wistuba 1997 A cytological study of the genus Nepenthes L Nepenthaceae Sendtnera 4 169 174 Clarke C M R Cantley J Nerz H Rischer amp A Witsuba 2000 Nepenthes thorelii 2006 IUCN Red List of Threatened Species IUCN 2006 Retrieved on 10 May 2006 Kurata S 1976 Nepenthes of Mount Kinabalu Sabah National Parks Publications No 2 Sabah National Parks Trustees Kota Kinabalu aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb naetalm raylaexiydkhxng N anamensis N smilesii aela N thorelii 2009 01 05 thi ewyaebkaemchchin