เคนเนธ บรูซ กอลีลิกซ์ (อังกฤษ: Kenneth Bruce Gorelick) (เกิด: 5 มิถุนายน 1956) รู้จักกันดีในชื่อของ เคนนี จี เป็นนักดนตรีชาวอเมริกันที่เล่นดนตรีแนว และเป่าแซกโซโฟนแนวสมูธแจ๊ส เขาเริ่มประสบความสำเร็จจากอัลบั้มที่ 4 "ดูโอ้โทนส์ (Duotones)" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ขายได้ถึง 28 ล้านแผ่น จึงทำให้เขามีชื่อเสียงมากในช่วงปี 1980 ผลงานของ เคนนี จี นับเป็นผลงานทางดนตรีที่ประสบความสำเร็จในยอดขายสูงที่สุดในโลก ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านก็อปปี๊
เคนนี จี Kenny G | |
---|---|
เคนนี จี ขณะแสดงที่เซี่ยงไฮ้ | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | เคนเนธ บรูซ กอลีลิกซ์ |
รู้จักในชื่อ | เคนนี จี |
เกิด | มิถุนายน 5, 1956 |
ที่เกิด | ซีแอตเทิล, วอชิงตัน, สหรัฐอเมริกา |
แนวเพลง | สมูธแจ๊ส |
อาชีพ | นักดนตรี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์ |
เครื่องดนตรี | หลัก: รอง: ขลุ่ย |
ช่วงปี | 1973–1982 (งานกลุ่ม) 1982–ปัจจุบัน (งานเดี่ยว) |
ค่ายเพลง | (1982–2006) (2008–ปัจจุบัน) |
เว็บไซต์ | www.kennyg.com |
ในปี 1997 เขาได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ว่าเป็นบุคคลที่เล่นโน้ตแซ็กโซโฟนยาวนานที่สุดในโลก โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Circular breathing เคนนี จี ใช้แซ็กโซโฟน รุ่น E-Flat ซึ่งสามารถทำเวลาได้ถึง 45 นาที กับอีก 47 วินาที บันทึกไว้ที่ งาน เจแอนด์อาร์ มิวสิค เวิร์ด ณ นครนิวยอร์ก
ผลงานเพลง ที่มีชื่อเสียงเช่น The Moment, Forever in Love, Song Bird, Endless Love, You're Beautiful, Titanic เป็นต้น โดยปัจจุบันเคนนี จี ใช้แซ็กโซโฟนรุ่น เซลเมอร์ มาร์ก 6 โซปราโน, อัลโต และเทเนอร์ (Selmer Mark VI Soprano, Alto and Tenor Saxophones) นอกจากนี้เขายังไปเพิ่มบางส่วนของ แซ็กโซโฟน เข้าไปด้วย จึงเรียกแซ็กโซโฟนของเขาว่า "แซ็กโซโฟน เคนนี จี "
ชีวิตในวัยเด็ก
เคนนี จี เกิดที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน กับพ่อแม่ครอบครัวชาวยิว (แม่ของเขาพื้นเพเป็นคน รัฐซัสแคตเชวัน, ประเทศแคนาดา) และเติบโตย่านเมืองซีเวิร์ดพาร์ก(), ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของชุมชนชาวยิว. เค้าเริ่มเข้ามาสัมผัสกับกับแซกโซโฟนเมื่อเขาชมการแสดงของคนคนหนึ่งในรายการ ดิเอ็ดซัลลิแวนโชว์ เขาเริ่มเล่นแซกโซโฟนครั้งแรกในปี 1966 เมื่อเขาอายุได้ 10 ขวบ เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะเล่นภายใต้การดูแลของนักเป่าแตรของเมืองชื่อ เจอราลด์ ฟิสเตอร์() และฝึกซ้อมพร้อมกับเรคคอร์ด ส่วนใหญ่กับโกรเวอร์วอชิงตันจูเนียร์ () โดยวิธีการฝึกก็คือพยายามเลียนแบบเสียงที่เค้าได้ยิน แซ็กโซโฟนอันแรกของเขาก็คือ อัลโต้แซกโซโฟน ยี่ห้อ บิวเฟ่ต์ รุ่น คอมพอง ( alto)
เคนนี จี เข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่โรงเรียนวิทเวอร์ด อีลิเมนทารี่ สคูล () เรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่ชาร์ปเพิล () ศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่แฟรงคลิน () และจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ทั้งหมดอยู่ที่บ้านเกิดของเขาคือ ซีแอตเทิล เมื่อเขาเข้ามัธยมมีความพยายามที่จะเข้าร่วมกับวงดนตรีแจ๊สแต่ไม่สำเร็จ แต่เขาก็ความพยายามที่จะเข้าในปีถัดๆ ไปและจนกระทั่งเขาได้รับเข้าร่วมเป็นครั้งแรก. ในโรงเรียนสมัยมัธยมปลาย คือแฟรงคลินนั้นเขามีเพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อว่า โรเบิร์ต แดมเปอร์ (Robert Damper) นักเปียโนกับคีย์บอร์ดซึ่งเป็นผู้เล่นในวงของเขา. นอกเหนือจากการเรียนในสมัยมัธยม เค้าได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับแซกโซโฟน และคลาริเน็ตจากจอนนี่ เจสเซ่น (Johnny Jessen) 1 อาทิตย์ต่อปี
นอกจากนี้เขายังได้อยู่ในทีมกอล์ฟของโรงเรียนในสมัยมัธยมปลาย. เขารักและชื่นชอบการเล่นกีฬาเริ่มมาจากพี่ชายของเขา , เบรน กอลีลิกซ์(Brian Gorelick),ที่แนะนำเขาเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นตอนเดียวกันกับที่เขาเริ่มเล่นแซกโซโฟน.
เส้นทางอาชีพ
เส้นทางอาชีพของเคนนี จี เริ่มต้นงานของไซด์แมนในวงเบรี่ไวท์ เลิฟ อันลิมิเต็ด ออเคสตร้า (แบร์รี ไวต์'s ) ในปี 1973 ขณะนั้นเขามีอายุ 17 และยังอยู่มัธยม. เขายังคงเล่นดนตรีอาชีพขณะเรียนเมเจอร์ในสายบัญชีในมหาวิทยาลัยวอชิงตันในเมืองซีแอตเทิลและจบการศึกษาโดยได้รับเกียรตินิยม() เขาเข้าร่วมกับวงดนตรีสุดเจ๋งแนวฟังก์ ก่อนจะก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกของเจฟลอเบอร์ฟิวชั่น( Fusion) เขาเริ่มการแสดงเดี่ยวในสายอาชีพหลังจากช่วงเวลากับเจฟลอเบอร์
เคนนี จี เซ็นสัญญากับอริสต้า เรคคอร์ด () ในฐานะศิลปินเดี่ยวในปี 1982, หลังจากประธานอริสต้า เรคคอร์ด ไคลฟ์ เดวิส() ได้ยินการตีความของเพลง "แดนซ์ซิง ควีน(Dancing Queen)" เขาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นจำนวนมาก() และมีโอกาสร่วมกับศิลปินมากมายรวมถึงอันเดรอา โบเชลลี, วิตนีย์ ฮิวสตัน,พีโบ ไบรสัน, อารอน นิววิว (), โทนี แบรกซ์ตัน, ดีเจแจ๊สซี่ แจฟ แอนด์เดอะเฟรชปริ้น (),นาตาลี โคล, สตีฟ มิลเลอร์ (),วีเซอร์, ดัสลี่ มัวร์ (), ลี ริทนาวร์ (), เดอะริฟพิงตัน (), ไมเคิล โบลตัน, เซลีน ดิออน, แฟรงก์ ซินาตรา, สโมกีย์ โรบินสัน, เบเบิ้ล กลิลเบอร์โต้ (), จอร์จ เบนสัน, แชนซ์ มัวส์ () และอารีธา แฟรงคลิน ที่มีอิทธิพลมาจากแซกโซโฟน กอร์เวอร์ วอชิงตัน จูเนียร์ () และอัลบั้มของเขาถูกจัดอยู่ในสมูทแจ๊ส.
เคนนี จีได้รับความสำเร็จอย่างมากกับผลงาน จีฟอร์ต และ แกลฟ์วิตี้ ( and ) และมีอัลบั้มที่ 2 และ 3 ตามมาเป็นลำดับ,ความสำเร็จของเขาคือ แพลตตินั่ม สเตตัส () ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยอดขายติดอันดับสูงในอัลบั้มที่ 4, ดูโอ้โทน (), ถูกขายได้มากกว่า 5 ล้านก๊อปปี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว. ในอัลบั้มที่ 6 ของเขา "", กลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดเท่าที่เคยมี มียอดขายมากกว่า 15 ล้านก๊อปปี้ ซึ่งขายได้ 12 ล้านก๊อปปี้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาทำลายสถิติอีกในอัลบั้มที่เป็นวันหยุดแรกของเขา นั่นคืออัลบั้ม "", ถูกขายได้มากกว่า 13 ล้านก๊อปปี้, ทำให้มันเป็นอัลบั้มคริสมาสต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน.
ในปี 1997, เคนนี จี ได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ในการเล่นแซกโซโฟนที่ยาวนานที่สุดบรรดาในการเป่าแซ็กโซโฟนที่เคยถูกบันทึกไว้ โดยมีการใช้เทคนิควิธีการระบายลมหายใจคือการเป่าที่มีลมเป่าต่อเนื่องยาวนานต่อเนื่องไม่ขาดช่วงนั้นเอง ที่เรียกกันว่า "", เคนนี จีสามารถเป่าแซ็กโซโฟนรุ่น E-flat ได้เวลา 45 นาที 47 วินาที ที่เจแอนด์อาร์มิวสิคเวิลด์ ในเมืองนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา. ในปีเดียวกัน, เคนนี จี ได้มีเพลงชื่อ "", ในอัลบั้มของเขาที่ชื่อว่า "", ที่ถูกสร้างและเรียบเรียงใหม่โดย "DJs " และ"" และถูกปล่อยเพื่อโปรโมตในคลับเต้นรำในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกลายเป็นติดชาร์ตเบอร์ 1 ในบิลด์บอร์ดแดนด์คลับในเดือนเมษายน ปี 1997(บิลบอร์ด ฮอตแดนซ์คลับเพลย์)
เคนนี จี ในปี 1999 มีซิงเกิล "" ซึ่งได้รับคำวิจารณ์มันใช้วิธีการอัดเสียงลงไปอีกที กับเสียงที่มีอยู่แล้ว (overdubbing) เพลงคลาสสิคของหลุยส์ อาร์มสตรอง เขาได้รับคำวิจารณ์หลักๆ จากคนที่เขาเคารพนับถืออย่างศิลปินเช่น อาร์มสตรอง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีที่จะช่วยในการปรับปรุงผลงานของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักดนตรีที่มีความลึกซึ้งและมีความเข้าใจในด้านดนตรีคลาส สิคแจ๊สก็จะมีคำถาม บางคอลัมน์นิสต์ได้มีการวิจารณ์บอกว่าผลงานของ เคนนี จี เปิดกว้างสำหรับผู้ฟังในวงการดนตรีคลาสสิคแจ๊ส, แต่การวิจารณ์โดยรวมเป็นการวิจารณ์เป็นไปทางลบ.
ใน เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000, เคนนี จี ได้ถูกเชิญไปยังทำเนียบขาวและทำการแสดงบนเวทีให้กับผู้ว่าการรัฐและสมาชิก รัฐมนตรีของประธานาธิบดี บิล คลินตัน.
เคนนี จี มีการบันทึกเพลงจีน อย่างเช่น เพลง "โม่ลี่ฮัว" (茉莉花) หรือ "เยว่เหลียงไต้เปี่ยวหวอเตอซิน" (月亮代表我的心). เพลงของเขาได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน. เพลงของเขาอย่างเพลง "Going Home" มักจะถูกเล่นในเวลาปิดในที่สาธารณะหรือเวลาจบคลาสเรียนของโรงเรียน ระบบขนส่งมวลชนในเทียนจินและเซี่ยงไฮ้จะเล่นเพลงนี้เมื่อรถไฟเข้าใกล้สถานีปลายทาง
ในช่วงปี 2003, เคนนี จี เป็นหนึ่งใน 25 ศิลปินที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาที่ถูกจัดอันดับโดยสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา(RIAA), 48 ล้านอัลบั้มที่ขายในสหรัฐอเมริกาที่ถูกขายในสหรัฐอเมริกาในช่วง 31 กรกฎาคม ปี 2006. ในปี 1994, เคนนี จี ได้รับรางวัลชนะในแกรมมีอวอร์ดในฐานะเพลงรักตลอดกาล()
ในเดือนตุลาคม ปี 2009, เคนนี จี ปรากฏตัวขึ้นพร้อมวงวีเซอร์ ในบริษัทเอโอแอล มีการโปรโมตส่งเสริมการขายอัลบั้มของพวกเขาที่ชื่อว่า"" โดยมีการโซโลเพลง "I'm Your Daddy" เคนนี จี บอกว่าเขาไม่รู้จักการแสดงของวงวีเซอร์มาก่อน. แม้ว่านักวิจารณ์เพลงบางคนด้วยเหตุนี้ทำให้กลับมาวิจารณ์ในการกลับมาทำงานร่วมกันของพวกเขา โดยเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่น่าเชื่อโดยมีการตอบรับอย่างดีโดยนิตยสาร AOL magazines และ Popeater.com.
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2011 เคนนี จี และดนตรีของเขาเป็นส่วนสำคัญในโฆษณารถยนต์ซูปเปอร์โบลว์เอ็กซ์แอลวีของออดี้(Super Bowl XLV :เอาดี้) เรียกว่า "Release the Hounds."และเคนนี จี เริ่มเขาสู่หนังสั้นในหนังมีรายละเอียดเกี่ยวกับเขาเป็นหน่วยปราบปรามอยู่ในเรือนจำที่หรูหรา
เมื่อเร็วๆ นี้, เขาได้ปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอป๊อบสตาร์ของนักร้องคือ เคที เพร์รี(Katy Perry's single) ในเพลง" " กับลุงเคนนี่(เรียก เคนนี จี ว่าลุง) ในวันที่ 8 เดือนตุลาคม ปี 2011 เรื่องราวชีวิตของคืนวันเสาร์(),เคนนี จี ปรากฏตัวพร้อมกับเสียงนักร้องโซปราโนกับแซกโซโฟนของเขา เข้าร่วมกับวงดนตรีร๊อค(อัลเทอร์เนทีฟ) วงมีชื่อว่า"Foster the People" กับการแสดงในเพลงของพวกเขาที่ชื่อว่า "Houdini."
เคนนี จี ยังมีชื่อเสียงในการจัดรายการวิทยุและสามารถได้ยินเสียงของเขาทุกเช้าร่วมกับแซนดี้ โควัค (Sandy Kovach) ในรายการ ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา
ความนิยมที่แปลกใหม่ในประเทศจีน
ตั้งแต่ปี 1989, ที่เคนนี จี ได้มีการบันทึกเพลง "Going Home" ซึ่งกลายเป็นสิ่งแปลกใหม่ในจีนที่เป็นกระแสเพลงฮิตเป็นอย่างมาก มันได้กลายเป็นเพลงที่ใช้เปิดอย่างไม่เป็นทางการอย่างเช่นในศูนย์อาหาร, ตลาดกลางแจ้ง,สโมสรเกี่ยวกับสุขภาพ,ห้างสรรพสินค้า,สถานีรถไฟ เป็นต้น.ที่เปิดไปทั่วประเทศ ในหลายธุรกิจมีการใช้เพลงของเคนนี จีเปิดออกเครื่องกระจายเสียงก่อนที่จะทำการปิดทำการในเวลาคืน สถานีโทรทัศน์ยังมีการเล่นเพลงของเขาก่อนจะจบการออกอากาศจากสถานีในเวลา กลางคืน ชาวจีนส่วนมาก มีคำถามว่าพวกเขามีความเชื่อมโยงเพลงที่ได้ฟังแต่ทำกิจกรรมทั้งวันนอกบ้าน หรือว่าเป็นการทำงานไปจนถึงกระทั่งกลับถึงบ้าน (แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักชื่อเพลงหรือชื่อศิลปินเลยก็ตาม).
อุปกรณ์
เคนนี จี เล่นเพลงโดยใช้ โซปราโน่แซกโซโฟน ยี่ห้อ เซลเมอร์ รุ่น มาร์ค ซิค (Selmer Mark VI Soprano Saxophones), อัลโต้แซกโซโฟน (Alto Saxophone) และ เทเนอร์แซกโซโฟน (Tenor Saxophone) เขาได้สร้างสายของแซกโซโฟนของเขาเองโดยเรียกว่า "เคนนี จี แซกโซโฟน: Kenny G Saxophones".
ชีวิตส่วนตัว
เคน นี จี ได้แต่งานกับ ลินดี้ เบนสัน กอลีลิกซ์ ในปี 1992, และมีลูกชาย 2 คน. ในเดือนมกราคม ปี 2012, เบลสันและเคนนี จี ได้ยื่นเอกสารขอแยกทางกฎหมาย. เคนนี จี ได้ฟ้องหย่าในเดือนสิงหาคม 2012.
เคนนี จี ได้อาศัยอยู่ที่เมืองมาลิบู(Malibu), รัฐแคลิฟอร์เนีย(California) นอกจากนี้เขายังเป็นนักกอล์ฟตัวยงและมีแต้มต่อ () อยู่ 0.6. เขายังมีส่วนร่วมในการแข่งขันในรายการทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อว่า "" ครั้งที่ 7 ในปี 2007และร่วมกับฟิล มิเคลสัน ร่วมกันในรายกาย "AT&T pro-am " ในปี 2001 ซึ่งมีทีมของไทเกอร์ วูดส์ และ เจรี่ ชาง (Jerry Chang) เขายังเป็นนักกอล์ฟไดเจส() ที่ติดอันดับ 1 ใน 100 ในเพลง,ตามดัชนีกอล์ฟแต้มต่อของนักดนตรีที่สำคัญ, เขาเริ่มต้นในปี 2006 และครั้งที่ 2 ในปี 2008. เขายังเป็นสมาชิคในแชร์วูดส์คันที่คลับ() ในเมืองเธาว์สันโอ๊ค()
เคนนี จี เป็นนักบิน () และมีเครื่องบิน "" ที่เขาบินอย่างสม่ำเสมอ. เขาเองยังเป็นนักลงทุน มีธุรกิจที่ลงทุนคือ กาแฟสตาร์บัคส์
อ้างอิง
- . Barnes & Noble.com. October 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-04-21. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- Hwang, Kellie (2013-07-02). "7/5: Kenny G performing at Wild Horse Pass Casino". . สืบค้นเมื่อ 2013-09-23.
- http://music.yahoo.com/
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-15. สืบค้นเมื่อ 2013-05-04.
- Kenny G (June 19, 2009). . Kenny G Rhythm and Romance. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-24. สืบค้นเมื่อ April 1, 2010.
- Diaz, Jaime (December 2006). "After selling millions of records, Grammy winner Kenny G wants to conquer golf". GolfDigest.com. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- Kroichick, Ron (February 7, 2007). . Scripps News. ScrippsNews.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-04. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-24. สืบค้นเมื่อ 2014-08-23.
- Gene Stout. Seattle-bred sax star Kenny G wows crowd in Jazz Alley debut. The Seattle Times, April 27, 2012.
- Wissmuller, Christian (2006). . Jazzed (December/January). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-18. สืบค้นเมื่อ April 1, 2010.
- Glenn, Alan (1995). "Kenny G". Encyclopedia.com. HighBeam Research, Inc. สืบค้นเมื่อ April 1, 2010.
- Yanow, Scott. "Kenny G Biography". AllMusic.com. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- Zimmerman, Kevin (September 30, 2002). "Kenny G Has Time on his Side". BMI.com. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- (2007). "Kenny G". Microsoft Encarta. ไมโครซอฟท์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-01. สืบค้นเมื่อ May 4, 2007.
- "The Moment – Credits". Allmusic. สืบค้นเมื่อ May 7, 2007.
- "Everlasting – Credits". Allmusic. สืบค้นเมื่อ May 7, 2007.
- "Living in the 20th Century – Credits". Allmusic. สืบค้นเมื่อ May 7, 2007.
- . Yahoo!. December 2, 1997. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-17. สืบค้นเมื่อ 2012-01-08.
- "Dance/Club Play Songs – Week of April 26, 1997". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 9, 2010.
- Ben Ratliff MUSIC; Jazz Can Take Itself Too Seriously เดอะนิวยอร์กไทมส์, July 16, 2000
- Mark Sabbatini Kenny G: At Last...The Duets Album , December 30, 2004
- George Varga Kenny G: Changes His Tune 2009-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน May 1999
- Mike Joyce Who's overrated? Who's Underrated? , September 1997
- Pat Metheny MUSIC; Pat Metheny on Kenny G , October 5, 2000
- Maldonado, Shirley (August 10, 2000). . Boston Herald. Boston Herald and Herald Media. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-07. สืบค้นเมื่อ April 7, 2010.
- Anne Gearan. Clinton hosts governors minus Bush. The Associated Press, Feb. 27, 2000.
- "Top Artists". RIAA.com. July 31, 2006. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-04. สืบค้นเมื่อ April 7, 2007.
- Charley Rogulewski Weezer Run With Chamillionaire, Sara Bareilles and ... Kenny G? เก็บถาวร 2012-09-10 ที่ , October 23, 2009
- Tom Breihan Weezer Team Up With Kenny G, Chamillionaire, Sara Bareilles , October 23, 2009
- Mike Burr Weezer Breaks Out Rolodex, Brings Kenny G., Chamillionaire, and Sara Bareilles To AOL Session 2020-08-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Prefix Magazine , October 23, 2009
- Kenny G Steps Back Into the Spotlight 2020-08-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน popeater.com, October 26, 2009
- Audi Big Game Commercial 2011 – Release the Hounds youtube.com, February 2, 2011
- Audi Big Game 2011 Teaser – Kenny G Riot Suppressor (Part 2) youtube.com, February 1, 2011
- "Kenny G & Sandy Kovach - Orlando's Smooth Jazz". 1025wloq.com. 2011-08-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-15. สืบค้นเมื่อ 2012-12-27.
- . 2014-05-11 http://www.nytimes.com/2014/05/11/world/asia/china-says-goodbye-in-the-key-of-g-kenny-g.html?hp&_r=0. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
{{}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า ((help)) - . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-15. สืบค้นเมื่อ September 8, 2012.
- Everett, Christina (January 20, 2011). "Kenny G's wife files for legal separation". . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-22. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
- Fleeman, Mike (August 13, 2012). "Kenny G Files for Divorce After 20 Years of Marriage". People. สืบค้นเมื่อ August 14, 2012.
- "Girl hurt by item cast from Kenny G's home". ลอสแอนเจลิสไทมส์. June 30, 2007. สืบค้นเมื่อ May 25, 2011.
- Furlong, Lisa; Craig Bestrom (November 2008). "The Top 100 in Music". Golf Digest. Condé Nast Digital. สืบค้นเมื่อ April 3, 2010.
- Strauss, Neil (October 31, 2006). "... And Two if by Seaplane". The New York Times. สืบค้นเมื่อ April 3, 2010.
- Harding, Cortney (January 25, 2008). "Q&A: Kenny G explores Latin "Rhythm"". Thomson Reuters. Reuters. สืบค้นเมื่อ April 3, 2010.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Kenny G's official website
- Kenny G at Myspace
- Kenny G at Legacy Recordings 2009-01-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Kenny G 2010-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at วีเอชวัน.com
- Kenny G Interview – Billboard en Español 2009-01-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Kenny G at ออลมิวสิก
- เคนนี จี ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
[[วิกิพีเดีย:|ข้อมูลบุคคล]] | |
---|---|
ชื่อ | G, Kenny} |
ชื่ออื่น | Gorelick, Kenneth |
รายละเอียดโดยย่อ | Saxophonist, Songwriter |
วันเกิด | 1956-6-5 |
สถานที่เกิด | ซีแอตเทิล, Washington (U.S. state) |
วันตาย | |
สถานที่ตาย |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha ekhnenth brus kxliliks xngkvs Kenneth Bruce Gorelick ekid 5 mithunayn 1956 ruckkndiinchuxkhxng ekhnni ci epnnkdntrichawxemriknthielndntriaenw aelaepaaeskosofnaenwsmuthaecs ekhaerimprasbkhwamsaerccakxlbmthi 4 duoxothns Duotones sungepnxlbmthikhayidthung 28 lanaephn cungthaihekhamichuxesiyngmakinchwngpi 1980 phlngankhxng ekhnni ci nbepnphlnganthangdntrithiprasbkhwamsaercinyxdkhaysungthisudinolk dwyyxdkhaythwolkmakkwa 75 lankxppiekhnni ci Kenny Gekhnni ci khnaaesdngthiesiyngihkhxmulphunthanchuxekidekhnenth brus kxliliksruckinchuxekhnni ciekid 1956 06 05 mithunayn 5 1956 68 pi thiekidsiaextethil wxchingtn shrthxemrikaaenwephlngsmuthaecsxachiphnkdntri nkaetngephlng oprdiwesxrekhruxngdntrihlk rxng khluychwngpi1973 1982 nganklum 1982 pccubn nganediyw khayephlng 1982 2006 2008 pccubn ewbistwww kennyg com inpi 1997 ekhaidrbkarbnthukinbnthuksthitiolkkinensswaepnbukhkhlthielnontaeskosofnyawnanthisudinolk odyichethkhnikhthieriykwa Circular breathing ekhnni ci ichaeskosofn run E Flat sungsamarththaewlaidthung 45 nathi kbxik 47 winathi bnthukiwthi ngan ecaexndxar miwsikh ewird n nkhrniwyxrk phlnganephlng thimichuxesiyngechn The Moment Forever in Love Song Bird Endless Love You re Beautiful Titanic epntn odypccubnekhnni ci ichaeskosofnrun eslemxr mark 6 ospraon xlot aelaethenxr Selmer Mark VI Soprano Alto and Tenor Saxophones nxkcakniekhayngipephimbangswnkhxng aeskosofn ekhaipdwy cungeriykaeskosofnkhxngekhawa aeskosofn ekhnni ci chiwitinwyedkekhnni ci ekidthiemuxngsiaextethil rthwxchingtn kbphxaemkhrxbkhrwchawyiw aemkhxngekhaphunephepnkhn rthssaekhtechwn praethsaekhnada aelaetibotyanemuxngsiewirdphark sungepnemuxngthiepnsunyklangkhxngchumchnchawyiw ekhaerimekhamasmphskbkbaeskosofnemuxekhachmkaraesdngkhxngkhnkhnhnunginraykar diexdslliaewnochw ekhaerimelnaeskosofnkhrngaerkinpi 1966 emuxekhaxayuid 10 khwb ekhaerimeriynruthicaelnphayitkarduaelkhxngnkepaaetrkhxngemuxngchux ecxrald fisetxr aelafuksxmphrxmkberkhkhxrd swnihykbokrewxrwxchingtncueniyr odywithikarfukkkhuxphyayameliynaebbesiyngthiekhaidyin aeskosofnxnaerkkhxngekhakkhux xlotaeskosofn yihx biweft run khxmphxng alto ekhnni ci ekhaorngeriynprathmsuksathiorngeriynwithewxrd xiliemnthari skhul eriynorngeriynmthymsuksatxntnthicharpephil suksaorngeriynmthymsuksatxnplaythiaefrngkhlin aelacbkarsuksainradbmhawithyalythimhawithyalywxchingtn thnghmdxyuthibanekidkhxngekhakhux siaextethil emuxekhaekhamthymmikhwamphyayamthicaekharwmkbwngdntriaecsaetimsaerc aetekhakkhwamphyayamthicaekhainpithd ipaelacnkrathngekhaidrbekharwmepnkhrngaerk inorngeriynsmymthymplay khuxaefrngkhlinnnekhamiephuxnrwmchnthichuxwa orebirt aedmepxr Robert Damper nkepiyonkbkhiybxrdsungepnphuelninwngkhxngekha nxkehnuxcakkareriyninsmymthym ekhaidmioxkaseriynruprasbkarnswntwekiywkbaeskosofn aelakhlarientcakcxnni ecsesn Johnny Jessen 1 xathitytxpi nxkcakniekhayngidxyuinthimkxlfkhxngorngeriyninsmymthymplay ekharkaelachunchxbkarelnkilaerimmacakphichaykhxngekha ebrn kxliliks Brian Gorelick thiaenanaekhaemuxtxnxayu 10 khwb sungepntxnediywknkbthiekhaerimelnaeskosofn esnthangxachiphekhnni ci aesdnginechiyngih inpi 2007 esnthangxachiphkhxngekhnni ci erimtnngankhxngisdaemninwngebriiwth elif xnlimietd xxekhstra aebrri iwt s inpi 1973 khnannekhamixayu 17 aelayngxyumthym ekhayngkhngelndntrixachiphkhnaeriynemecxrinsaybychiinmhawithyalywxchingtninemuxngsiaextethilaelacbkarsuksaodyidrbekiyrtiniym ekhaekharwmkbwngdntrisudecngaenwfngk kxncakawekhamaepnsmachikkhxngecflxebxrfiwchn Fusion ekhaerimkaraesdngediywinsayxachiphhlngcakchwngewlakbecflxebxr ekhnni ci esnsyyakbxrista erkhkhxrd inthanasilpinediywinpi 1982 hlngcakprathanxrista erkhkhxrd ikhlf edwis idyinkartikhwamkhxngephlng aednssing khwin Dancing Queen ekhaidxxkxlbmediywepncanwnmak aelamioxkasrwmkbsilpinmakmayrwmthungxnedrxa obechlli witniy hiwstn phiob ibrsn xarxn niwwiw othni aebrkstn diecaecssi aecf aexndedxaefrchprin natali okhl stif milelxr wiesxr dsli mwr li rithnawr edxarifphingtn imekhil obltn eslin dixxn aefrngk sinatra somkiy orbinsn ebebil klilebxrot cxrc ebnsn aechns mws aelaxaritha aefrngkhlin thimixiththiphlmacakaeskosofn kxrewxr wxchingtn cueniyr aelaxlbmkhxngekhathukcdxyuinsmuthaecs ekhnni ciidrbkhwamsaercxyangmakkbphlngan cifxrt aela aeklfwiti and aelamixlbmthi 2 aela 3 tammaepnladb khwamsaerckhxngekhakhux aephlttinm setts inpraethsshrthxemrika yxdkhaytidxndbsunginxlbmthi 4 duoxothn thukkhayidmakkwa 5 lankxppiinpraethsshrthxemrikaephiyngxyangediyw inxlbmthi 6 khxngekha klayepnxlbmthikhaydithisudethathiekhymi miyxdkhaymakkwa 15 lankxppi sungkhayid 12 lankxppithipraethsshrthxemrika ekhathalaysthitixikinxlbmthiepnwnhyudaerkkhxngekha nnkhuxxlbm thukkhayidmakkwa 13 lankxppi thaihmnepnxlbmkhrismastthiprasbkhwamsaercmakthisudinpccubn inpi 1997 ekhnni ci idrbkarbnthukinbnthuksthitiolkkinenss inkarelnaeskosofnthiyawnanthisudbrrdainkarepaaeskosofnthiekhythukbnthukiw odymikarichethkhnikhwithikarrabaylmhayickhuxkarepathimilmepatxenuxngyawnantxenuxngimkhadchwngnnexng thieriykknwa ekhnni cisamarthepaaeskosofnrun E flat idewla 45 nathi 47 winathi thiecaexndxarmiwsikhewild inemuxngniwyxrkpraethsshrthxemrika inpiediywkn ekhnni ci idmiephlngchux inxlbmkhxngekhathichuxwa thithuksrangaelaeriyberiyngihmody DJs aela aelathukplxyephuxopromtinkhlbetnrainshrthxemrika sungklayepntidchartebxr 1 inbildbxrdaedndkhlbineduxnemsayn pi 1997 bilbxrd hxtaednskhlbephly ekhnni ci inpi 1999 misingekil sungidrbkhawicarnmnichwithikarxdesiynglngipxikthi kbesiyngthimixyuaelw overdubbing ephlngkhlassikhkhxnghluys xarmstrxng ekhaidrbkhawicarnhlk cakkhnthiekhaekharphnbthuxxyangsilpinechn xarmstrxng sungepnthirukndithicachwyinkarprbprungphlngankhxngekha odyechphaaxyangyingnkdntrithimikhwamluksungaelamikhwamekhaicindandntrikhlas sikhaecskcamikhatham bangkhxlmnnistidmikarwicarnbxkwaphlngankhxng ekhnni ci epidkwangsahrbphufnginwngkardntrikhlassikhaecs aetkarwicarnodyrwmepnkarwicarnepnipthanglb in eduxnkumphaphnth pi 2000 ekhnni ci idthukechiyipyngthaeniybkhawaelathakaraesdngbnewthiihkbphuwakarrthaelasmachik rthmntrikhxngprathanathibdi bil khlintn ekhnni ci mikarbnthukephlngcin xyangechn ephlng omlihw 茉莉花 hrux eywehliyngitepiywhwxetxsin 月亮代表我的心 ephlngkhxngekhaidrbkhwamniymxyangmakinpraethscin ephlngkhxngekhaxyangephlng Going Home mkcathukelninewlapidinthisatharnahruxewlacbkhlaseriynkhxngorngeriyn rabbkhnsngmwlchninethiyncinaelaesiyngihcaelnephlngniemuxrthifekhaiklsthaniplaythang inchwngpi 2003 ekhnni ci epnhnungin 25 silpinthimiyxdkhaysungsudinxemrikathithukcdxndbodysmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrika RIAA 48 lanxlbmthikhayinshrthxemrikathithukkhayinshrthxemrikainchwng 31 krkdakhm pi 2006 inpi 1994 ekhnni ci idrbrangwlchnainaekrmmixwxrdinthanaephlngrktlxdkal ineduxntulakhm pi 2009 ekhnni ci prakttwkhunphrxmwngwiesxr inbristhexoxaexl mikaropromtsngesrimkarkhayxlbmkhxngphwkekhathichuxwa odymikarosolephlng I m Your Daddy ekhnni ci bxkwaekhaimruckkaraesdngkhxngwngwiesxrmakxn aemwankwicarnephlngbangkhndwyehtunithaihklbmawicarninkarklbmathanganrwmknkhxngphwkekha odyepnkarrwmtwknxyangimnaechuxodymikartxbrbxyangdiodynitysar AOL magazines aela Popeater com ineduxnkumphaphnth pi 2011 ekhnni ci aeladntrikhxngekhaepnswnsakhyinokhsnarthyntsupepxroblwexksaexlwikhxngxxdi Super Bowl XLV exadi eriykwa Release the Hounds aelaekhnni ci erimekhasuhnngsninhnngmiraylaexiydekiywkbekhaepnhnwyprabpramxyuineruxncathihruhra emuxerw ni ekhaidprakttwinmiwsikhwidioxpxbstarkhxngnkrxngkhux ekhthi ephrri Katy Perry s single inephlng kblungekhnni eriyk ekhnni ci walung inwnthi 8 eduxntulakhm pi 2011 eruxngrawchiwitkhxngkhunwnesar ekhnni ci prakttwphrxmkbesiyngnkrxngospraonkbaeskosofnkhxngekha ekharwmkbwngdntrirxkh xlethxrenthif wngmichuxwa Foster the People kbkaraesdnginephlngkhxngphwkekhathichuxwa Houdini ekhnni ci yngmichuxesiynginkarcdraykarwithyuaelasamarthidyinesiyngkhxngekhathukecharwmkbaesndi okhwkh Sandy Kovach inraykar inemuxngxxraelnod rthflxridakhwamniymthiaeplkihminpraethscintngaetpi 1989 thiekhnni ci idmikarbnthukephlng Going Home sungklayepnsingaeplkihmincinthiepnkraaesephlnghitepnxyangmak mnidklayepnephlngthiichepidxyangimepnthangkarxyangechninsunyxahar tladklangaecng somsrekiywkbsukhphaph hangsrrphsinkha sthanirthif epntn thiepidipthwpraeths inhlaythurkicmikarichephlngkhxngekhnni ciepidxxkekhruxngkracayesiyngkxnthicathakarpidthakarinewlakhun sthaniothrthsnyngmikarelnephlngkhxngekhakxncacbkarxxkxakascaksthaniinewla klangkhun chawcinswnmak mikhathamwaphwkekhamikhwamechuxmoyngephlngthiidfngaetthakickrrmthngwnnxkban hruxwaepnkarthanganipcnthungkrathngklbthungban aemwaekhacaimruckchuxephlnghruxchuxsilpinelyktam xupkrnekhnni ci elnephlngodyich ospraonaeskosofn yihx eslemxr run markh sikh Selmer Mark VI Soprano Saxophones xlotaeskosofn Alto Saxophone aela ethenxraeskosofn Tenor Saxophone ekhaidsrangsaykhxngaeskosofnkhxngekhaexngodyeriykwa ekhnni ci aeskosofn Kenny G Saxophones chiwitswntwekhn ni ci idaetngankb lindi ebnsn kxliliks inpi 1992 aelamilukchay 2 khn ineduxnmkrakhm pi 2012 eblsnaelaekhnni ci idyunexksarkhxaeykthangkdhmay ekhnni ci idfxnghyaineduxnsinghakhm 2012 ekhnni ci idxasyxyuthiemuxngmalibu Malibu rthaekhlifxreniy California nxkcakniekhayngepnnkkxlftwyngaelamiaetmtx xyu 0 6 ekhayngmiswnrwminkaraekhngkhninraykarthwrnaemntthimichuxwa khrngthi 7 inpi 2007aelarwmkbfil miekhlsn rwmkninraykay AT amp T pro am inpi 2001 sungmithimkhxngithekxr wuds aela ecri chang Jerry Chang ekhayngepnnkkxlfidecs thitidxndb 1 in 100 inephlng tamdchnikxlfaetmtxkhxngnkdntrithisakhy ekhaerimtninpi 2006 aelakhrngthi 2 inpi 2008 ekhayngepnsmachikhinaechrwudskhnthikhlb inemuxngethawsnoxkh ekhnni ci epnnkbin aelamiekhruxngbin thiekhabinxyangsmaesmx ekhaexngyngepnnklngthun mithurkicthilngthunkhux kaaefstarbkhsxangxing Barnes amp Noble com October 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 04 21 subkhnemux April 7 2007 Hwang Kellie 2013 07 02 7 5 Kenny G performing at Wild Horse Pass Casino subkhnemux 2013 09 23 http music yahoo com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 15 subkhnemux 2013 05 04 Kenny G June 19 2009 Kenny G Rhythm and Romance khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 03 24 subkhnemux April 1 2010 Diaz Jaime December 2006 After selling millions of records Grammy winner Kenny G wants to conquer golf GolfDigest com subkhnemux April 7 2007 Kroichick Ron February 7 2007 Scripps News ScrippsNews com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 05 04 subkhnemux April 7 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 24 subkhnemux 2014 08 23 Gene Stout Seattle bred sax star Kenny G wows crowd in Jazz Alley debut The Seattle Times April 27 2012 Wissmuller Christian 2006 Jazzed December January khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 12 18 subkhnemux April 1 2010 Glenn Alan 1995 Kenny G Encyclopedia com HighBeam Research Inc subkhnemux April 1 2010 Yanow Scott Kenny G Biography AllMusic com subkhnemux April 7 2007 Zimmerman Kevin September 30 2002 Kenny G Has Time on his Side BMI com subkhnemux April 7 2007 2007 Kenny G Microsoft Encarta imokhrsxfth khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 11 01 subkhnemux May 4 2007 The Moment Credits Allmusic subkhnemux May 7 2007 Everlasting Credits Allmusic subkhnemux May 7 2007 Living in the 20th Century Credits Allmusic subkhnemux May 7 2007 Yahoo December 2 1997 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 17 subkhnemux 2012 01 08 Dance Club Play Songs Week of April 26 1997 Billboard subkhnemux April 9 2010 Ben Ratliff MUSIC Jazz Can Take Itself Too Seriously edxaniwyxrkithms July 16 2000 Mark Sabbatini Kenny G At Last The Duets Album December 30 2004 George Varga Kenny G Changes His Tune 2009 09 30 thi ewyaebkaemchchin May 1999 Mike Joyce Who s overrated Who s Underrated September 1997 Pat Metheny MUSIC Pat Metheny on Kenny G October 5 2000 Maldonado Shirley August 10 2000 Boston Herald Boston Herald and Herald Media khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 07 subkhnemux April 7 2010 Anne Gearan Clinton hosts governors minus Bush The Associated Press Feb 27 2000 Top Artists RIAA com July 31 2006 cakaehlngedimemux 2007 03 04 subkhnemux April 7 2007 Charley Rogulewski Weezer Run With Chamillionaire Sara Bareilles and Kenny G ekbthawr 2012 09 10 thi October 23 2009 Tom Breihan Weezer Team Up With Kenny G Chamillionaire Sara Bareilles October 23 2009 Mike Burr Weezer Breaks Out Rolodex Brings Kenny G Chamillionaire and Sara Bareilles To AOL Session 2020 08 13 thi ewyaebkaemchchin Prefix Magazine October 23 2009 Kenny G Steps Back Into the Spotlight 2020 08 12 thi ewyaebkaemchchin popeater com October 26 2009 Audi Big Game Commercial 2011 Release the Hounds youtube com February 2 2011 Audi Big Game 2011 Teaser Kenny G Riot Suppressor Part 2 youtube com February 1 2011 Kenny G amp Sandy Kovach Orlando s Smooth Jazz 1025wloq com 2011 08 18 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 01 15 subkhnemux 2012 12 27 2014 05 11 http www nytimes com 2014 05 11 world asia china says goodbye in the key of g kenny g html hp amp r 0 subkhnemux 2014 05 11 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a title immihruxwangepla help khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 15 subkhnemux September 8 2012 Everett Christina January 20 2011 Kenny G s wife files for legal separation ekbcakaehlngedimemux 2012 02 22 subkhnemux February 22 2011 Fleeman Mike August 13 2012 Kenny G Files for Divorce After 20 Years of Marriage People subkhnemux August 14 2012 Girl hurt by item cast from Kenny G s home lxsaexneclisithms June 30 2007 subkhnemux May 25 2011 Furlong Lisa Craig Bestrom November 2008 The Top 100 in Music Golf Digest Conde Nast Digital subkhnemux April 3 2010 Strauss Neil October 31 2006 And Two if by Seaplane The New York Times subkhnemux April 3 2010 Harding Cortney January 25 2008 Q amp A Kenny G explores Latin Rhythm Thomson Reuters Reuters subkhnemux April 3 2010 aehlngkhxmulxunKenny G s official website Kenny G at Myspace Kenny G at Legacy Recordings 2009 01 22 thi ewyaebkaemchchin Kenny G 2010 12 03 thi ewyaebkaemchchin at wiexchwn com Kenny G Interview Billboard en Espanol 2009 01 22 thi ewyaebkaemchchin Kenny G at xxlmiwsik ekhnni ci thixinethxrentmuwiedtaebs wikiphiediy khxmulbukhkhl chux G Kenny chuxxun Gorelick Kennethraylaexiydodyyx Saxophonist Songwriterwnekid 1956 6 5sthanthiekid siaextethil Washington U S state wntaysthanthitay