บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ อาจมีข้อเสนอแนะ |
แฟรงก์ เจมส์ แลมพาร์ด (อังกฤษ: Frank James Lampard; เกิดวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1978) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพ ผู้ฝึกสอนฟุตบอล และนักเขียนหนังสือเด็กชาวอังกฤษ
แลมพาร์ดขณะเล่นให้กับ เชลซี ใน ค.ศ. 2008 | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แฟรงก์ เจมส์ แลมพาร์ด | ||
วันเกิด | 20 มิถุนายน ค.ศ. 1978 | ||
สถานที่เกิด | ลอนดอน อังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 1.84 เมตร (6 ฟุต 0 นิ้ว) | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1994–1995 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1995–2001 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 148 | (24) |
1995–1996 | → สวอนซีซิตี (ยืมตัว) | 9 | (1) |
2001–2014 | เชลซี | 648 | (211) |
2014–2015 | แมนเชสเตอร์ซิตี | 32 | (6) |
2015–2016 | นิวยอร์กซิตี | 29 | (15) |
รวม | 647 | (257) | |
ทีมชาติ | |||
1997–2000 | ทีมชาติอังกฤษ U21 | 19 | (9) |
1998 | 1 | (0) | |
1999–2014 | ทีมชาติอังกฤษ | 106 | (29) |
จัดการทีม | |||
2018–2019 | ดาร์บีเคาน์ตี | ||
2019–2021 | เชลซี | ||
2022–2023 | เอฟเวอร์ตัน | ||
2023 | เชลซี (ชั่วคราว) | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
ประวัติ
แฟรงก์ แลมพาร์ด มีชื่อเต็มว่า แฟรงก์ เจมส์ แลมพาร์ด เกิดวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1978 ที่กรุงลอนดอน ในตระกูลนักฟุตบอล โดยพ่อของเขาคือ แฟรงก์ แลมพาร์ด (ซีเนียร์) เป็นอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ ลุงของเขาคือ แฮร์รี เรดแนปป์ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ เป็นอดีตนักเตะของเซาแทมป์ตันเช่นเดียวกัน
การศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยลอนดอน เขาเป็นหนึ่งในอดีตนักเตะเยาวชนของเวสต์แฮมยูไนเต็ด และเคยถูกยืมตัวไปเล่นกับ สวอนซีซิตี ใน ค.ศ. 1995 และย้ายมาร่วมสโมสร เชลซี ใน ค.ศ. 2001 ติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1999 แลมพาร์ดเป็นกองกลางที่ทำประตูได้ 200 ประตู ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นกองกลางคนที่สองต่อจาก ที่ทำประตูมากว่า 100 ประตูในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ แลมพาร์ดยังทำสถิติเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกมากกว่า 10 ประตูติดต่อกันถึง 9 ฤดูกาลอีกด้วย
สโมสรอาชีพ
เวสต์แฮมยูไนเต็ด
แลมพาร์ด เริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับสโมสรเวสต์แฮมยูไนเต็ด โดยลงเล่นกับทีมเยาวชนตั้งแต่ ปี 1993 และสร้างผลงานได้ดีพอสมควร โดยเขายังเป็นลูกชายของแฟรงก์ แลมพาร์ด (ซีเนียร์) ผู้ช่วยคนสำคัญของแฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือของเวสต์แฮมในขณะนั้นซึ่งเป็นลุงของเขา
1994/1995 เซ็นสัญญาเป็นนักเตะกับสโมสรเวสต์แฮมยูไนเต็ด แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงเล่นในชุดใหญ่ โดยลงเล่นในทีมสำรองของสโมสรอื่น
1995/1996 แล้วโอกาสสัมผัสเกมกับทีมชุดใหญ่ก็เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ชิพ และเขาลงเล่นให้เวสต์แฮม 2 นัดก็ถูกปล่อยตัวให้สวอนซีซิตี ทีมในดิวิชัน 2 ยืมตัวไปใช้งาน โดยลงเล่นกับสวอนซี 9 นัด ทำได้ 1 ประตู
1996/1997 หลังจากกลับมาจากการยืมตัวเขาก็ได้ลงเล่นให้ทีมมากขึ้นในฤดูกาลต่อมา โดยลงเล่นอีก 13 นัด แต่ก็มาโชคร้ายกระดูกขาขวาแตกในนัดปะทะกับแอสตันวิลลา ทำให้ต้องพักยาว
1997/1998 กลับมาเล่นให้ทีมอีกครั้ง โดยยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ และลงเล่นทั้งหมด 31 นัด ทำได้ 4 ประตู กลายเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งขวัญใจกองเชียร์ทีมขุนค้อน จากผลงานอย่างต่อเนื่องกับทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก
1998/1999 ยังคงเล่นกับอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ผลงานของทีมจะไปได้ไม่ไกลนัก แต่ชื่อของแฟรงก์ แลมพาร์ดก็เริ่มเข้าไปอยู่ในใจของบรรดากุนซือทั้งหลาย โดยเขาลงเล่นให้ 38 นัด ทำได้ 5 ประตู
1999/2000 ฤดูกาลนี้เวสต์แฮมผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่าคัพ โดยผ่านการคัดเลือกจากถ้วยอินเตอร์โตโตคัพด้วย ซึ่งแลมพาร์ดก็ยังเล่นให้ทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเขาลงเล่นทั้งสิ้น 34 นัด ทำได้ 7 ประตู และเขาก็มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ โดยเขาลงเล่นครั้งแรกในนัดกระชับมิตรกับเบลเยียมที่สเตเดียมออฟไลต์ (สนามเหย้าของซันเดอร์แลนด์) ในวันที่ 10 ตุลาคม 1999
2000/2001 เขาเป็นนักเตะที่ผลงานคงเส้นคงวามากที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ชิพ โดยปีนี้เขาลงเล่น 30 นัด ทำได้ 7 ประตู แต่ผลงานของทีมก็ไม่น่าประทับใจนัก ซึ่งหลังจบฤดูกาลมีหลายทีมต่างให้ความสนใจในตัวเขา และก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นในทีม พ่อและลุงของเขาถูกสโมสรไล่ออก ทำให้เขาเริ่มไม่มีความสุขกับทีมต้นสังกัด และก็เป็นกุนซือ เกลาดีโอ รานีเอรี ของเชลซีที่เสนอเงิน 11 ล้านปอนด์เพื่อซื้อตัวเขาไปร่วมทีม
เชลซี
2001/2002 เขากลายมาเป็นนักเตะของเชลซีโดยเซ็นสัญญาในวันที่ 14 มิถุนายน 2001 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ และเริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งที่ท้าทายใหม่อีกครั้ง โดยเขาลงเล่นเป็นกองกลางเคียงข้างกับแอมานุแอล เปอตี ซึ่งถือว่าเป็นคู่กองกลางที่แข็งแกร่งมาก เขาพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในฤดูกาลแรกของทีมสิงโตน้ำเงินคราม แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อนัดชิงพ่ายกับอาร์เซนอล ซึ่งฤดูกาลนี้เองที่อาร์เซนอลคว้าดับเบิลแชมป์เป็นครั้งที่สอง โดยแลมพาร์ดลงเล่นในลีกทั้งสิ้น 37 นัด ทำได้ 5 ประตู และ 1 ประตูจาก 4 เกมในยูฟ่าคัพ ถึงแม้ว่าฤดูกาลนี้เขาจะโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่มีชื่อติดทีมชาติไปร่วมฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
2002/2003 จากความผิดหวังที่ไม่ได้ร่วมทีมไปฟุตบอลโลกทำให้เขาตั้งใจเล่นมากขึ้นกว่าเดิม และพยายามอย่างยิ่งที่จะไปยึดตัวจริงในทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีเลยทีเดียวโดยพาทีมคว้าอันดับ 4 ของลีก แย่งตำแหน่งการไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้ทีมได้สำเร็จ โดยฤดูกาลนี้เขาลงเล่นในลีก 38 นัด ทำได้ 6 ประตู และ 1 ประตูจาก 2 เกมในยูฟ่าคัพ จากผลงานที่ดีวันดีคืนของเขาทำให้เขามีโอกาสก้าวขึ้นไปติดทีมชาติบ่อยครั้งขึ้น
2003/2004 ปีนี้เขาโชว์ฟอร์มได้ดีพอสมควร ทั้งในนามทีมชาติ และกับสโมสรโดยเขาลงเล่นในลีก 38 นัด ทำได้ 10 ประตู และ 4 ประตูจาก 14 เกมในยูฟ่าแชมเปียนลีก เขาได้รางวัลอันดับ 2 นักเตะยอดเยี่ยมของ PFA โดยเป็นรองตีแยรี อ็องรี นักเตะระดับโลกของอาร์เซนอล และปีนี้เองเขายังทำประตูในนามทีมชาติเป็นครั้งแรกในนัดกระชับมิตรพบกับโครเอเชีย ในวันที่ 20 สิงหาคม 2003
ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2004 ที่โปรตุเกสปีนี้เขามีชื่อเป็นตัวจริง ในฐานะนักเตะคนสำคัญของทีม เขาลงเล่นนัดแรกพบฝรั่งเศส และอังกฤษชนะไป 2-1 โดยแลมพาร์ด ทำได้ 1 ประตู ซึ่งนัดต่อมาพบ สวิตเซอร์แลนด์ เขาก็พาทีมชนะไป 3-0 โดยต่อมาพบกับ โครเอเชีย และแลมพาร์ดก็ยิงอีก 1 ประตูในชัยชนะ 4-2 แต่แล้วอังกฤษก็ต้องตกรอบต่อมาด้วยฝีมือเจ้าภาพ ในการดวลจุดโทษ
2004/2005 ปีนี้เองเชลซีมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งโดยการมาของโชเซ มูริญโญ ผู้จัดการทีมคนใหม่ซึ่งพกดีกรีมามากมายทั้งแชมป์ลีกโปรตุเกส แชมป์ยูฟ่าคัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เขาเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่โดยซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเสริมมากมาย แต่แฟรงก์ แลมพาร์ดก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมรวมดาราโลกอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ทีมผิดหวังเขาพาทีมขึ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ และทะลุไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของแชมป์เปียนลีกแต่ก็พ่ายกับลิเวอร์พูลซึ่งเป็นแชมป์ของแชมป์เปียนลีกในเวลาต่อมาไปด้วยประตูคาใจของแฟนเชลซีทั่วโลก นอกจากนี้ยังพาทีมได้แชมป์ลีกคัพอีกด้วย โดยในฤดูกาลนี้เขาลงเล่นทั้งสิ้น 38 นัด ทำได้ 13 ประตู และ 4 ประตูจาก 12 เกมในยูฟ่าแชมเปียนลีก
2005/2006 เขายังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างสม่ำเสมอ พาต้นสังกัดขึ้นสู่จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ด้วยคะแนนท่วมท้น และยังยิงประตูอย่างต่อเนื่อง โดยทำลายสถิติลงสนามติดต่อกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ชิพของเดวิด เจมส์ที่ทำไว้ 159 นัดลงอย่างสิ้นเชิง โดยฤดูกาลนี้เขาทำได้ 20 ประตู เป็นประตูจากพรีเมียร์ลีก 16 ประตู จากการลงเตะ 35 นัด ซึ่งสูงที่สุดในบรรดากองกลางจาก[[พรีเมียร์ลีก] และ 2 ประตูจากลีกคัพและอีก 2 ประตูจากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และพาเชลซีได้แชมป์[[พรีเมียร์ลีก] อีกสมัย
2006/2007 ปีนี้เขาก็ยังยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ทำได้ถึง 21 ประตูจากพรีเมียร์ลีก 11 ประตู จากการลงเตะ 36 นัด เอฟเอคัพ 6 ประตู ลีกคัพ 3 ประตู ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 ประตู
2007/2008 ในปีนี้อาจเป็นปีที่โชคไม่ค่อยดีสำหรับเขา เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บและสูญเสียมารดา แต่ก็ยังสามารถทำประตูสำคัญได้จากจุดโทษในนัดเจอลิเวอร์พูล เกมรอบรองชนะเลิศ และฤดูกาลนี้เขาทำประตูได้ถึง 20 ประตู จากพรีเมียร์ลีก 10 ประตูจากการลงเตะ 23 (1) นัด เอฟเอคัพ 2 ประตู ลีกคัพ 4 ประตู และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 ประตู
2008/2009 เขาต่อสัญญาใหม่ออกไปอีก 5 ปี และยังรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างดี ทำประตูในทุกรายการ 20 ประตู จากพรีเมียร์ลีก 12 ประตู จากการลงเตะ 37 นัด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 ประตู ลีกคัพ 2 ประตู และเอฟเอคัพ 3 ประตู และเป็นประตูสำคัญให้ทีมกลับมาเอาชนะเอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์ไปในที่สุด ด้วยฟอร์มของเขา ทำให้ได้รับการโหวตให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของเชลซี ประจำฤดูกาลนี้
2009/2010 เขาสามารถคว้าดับเบิลแชมป์กับเชลซีเป็นสมัยแรกของสโมสรได้สำเร็จ โดยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ โดยยิงไปทั้งสิ้น 27 ประตูรวมทุกรายการในตำแหน่งกองกลาง
2010/2011 เป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่สำหรับเขา ด้วยอาการบาดเจ็บที่รบกวนทำให้ในฤดูกาลนี้เขาได้ลงเล่นแค่ 32 เกม ยิงได้ 13 ประตู รวมทุกรายการ โดยแบ่งเป็นในพรีเมียร์ลีก 10ประตู และเอฟเอคัพ 3 ประตู
2011/2012 ด้วยการเข้ามาของ อังเดร วิลลาส โบอาส ทำให้เขาไม่ค่อยถูกส่งลงสนาม แต่ผลงานของทีมที่ไม่ดี และสโมสรจึงแต่งตั้ง โรแบร์โต ดี มัตเตโอ เป็นผู้จัดการทีมแทน ทำให้ เขาได้กลับมาเป็นตัวหลักของทีมอีกครั้ง โดยปีนี้ เขาทำประตูได้ 17 ประตู รวมทุกรายการ
นิวยอร์กซิตี
2014/2015 แลมพาร์ดได้ย้ายออกจากเชลซี สโมสรที่เขาประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงไปยัง ในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา แต่ทว่ายังมิได้ทันได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัด ก็ถูกแมนเชสเตอร์ซิตีขอยืมตัวกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทันที พร้อมกับได้ประกาศยุติการเล่นให้กับทีมชาติไป โดยทำสถิติติดทีมชาติทั้งสิ้น 106 นัด ยิงประตูได้ทั้งหมด 29 ลูก
แมนเชสเตอร์ซิตี (ยืม)
แลมพาร์ดลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ซิตีครั้งแรก ในนัดที่พบกับอาร์เซนอล ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม แต่ปรากฏว่าถูกใบเหลืองในนาทีที่ 22 และถูกเปลี่ยนตัวออกเมื่อหมดครึ่งแรก
แลมพาร์ดลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ซิตีนัดที่สอง ในนัดที่พบกับเชลซี ทีมเก่าของตัวเอง ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม แต่ปรากฏว่าผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ซิตีถูกใบแดงในนาทีที่ 66 จึงทำให้เชลซีขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 71 จนกระทั่งถึงช่วงท้ายในนาทีที่ 85 แลมพาร์ดทำประตูตีเสมอให้กับทีม ช่วยให้ผลการแข่งขันกลับมาเสมอได้สำเร็จ
เกียรติประวัติ
- เวสต์แฮมยูไนเต็ด
- แชมป์ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ ฤดูกาล 1999
- เชลซี
- แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2011-2012
- แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2013
- แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2004-2005, 2005-2006, 2009-2010
- แชมป์เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2007, 2009, 2010, 2012
- แชมป์ลีกคัพ ฤดูกาล 2005, 2007
- แชมป์เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ ฤดูกาล 2005, 2009
- รางวัลส่วนตัว
อ้างอิง
- Hugman, Barry J. (2005). The PFA Premier & Football League Players' Records 1946–2005. Queen Anne Press. p. 358. ISBN .
- "Frank Lampard finally signs MLS contract to play with NYCFC". ESPN FC. 10 January 2015. สืบค้นเมื่อ 11 January 2015.
- . ผู้จัดการออนไลน์. 26 August 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 27 August 2014.
- "ปืนใหญ่จมเรือใบไม่ลง!เปิดรังเจ๊าสุดมัน2-2". สยามสปอร์ต. 13 September 2014. สืบค้นเมื่อ 14 September 2014.
- "แลมพ์สยิงทีมเก่า!เรือ 10 ตัวเจ๊าสิงห์ดราม่า 1-1". สยามสปอร์ต. 22 September 2014. สืบค้นเมื่อ 22 September 2014.
แหล่งข้อมูลอื่น
ก่อนหน้า | แฟรงก์ แลมพาร์ด | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ตีแยรี อ็องรี | นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ (ค.ศ. 2005) | ตีแยรี อ็องรี |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngekhiynihmthnghmdephuxihepniptammatrthankhunphaphkhxngwikiphiediy hruxkalngdaeninkarxyu khunchwyeraid hnaxphiprayxacmikhxesnxaena aefrngk ecms aelmphard xngkvs Frank James Lampard ekidwnthi 20 mithunayn kh s 1978 epnxditnkfutbxlxachiph phufuksxnfutbxl aelankekhiynhnngsuxedkchawxngkvsaefrngk aelmphardaelmphardkhnaelnihkb echlsi in kh s 2008khxmulswntwchuxetmaefrngk ecms aelmphardwnekid 1978 06 20 20 mithunayn kh s 1978 46 pi sthanthiekidlxndxn xngkvsswnsung1 84 emtr 6 fut 0 niw taaehnngkxngklangsomsreyawchn1994 1995ewstaehmyuinetdsomsrxachiph pithimlngeln pratu 1995 2001ewstaehmyuinetd148 24 1995 1996 swxnsisiti yumtw 9 1 2001 2014echlsi648 211 2014 2015aemnechsetxrsiti32 6 2015 2016niwyxrksiti29 15 rwm647 257 thimchati1997 2000thimchatixngkvs U2119 9 19981 0 1999 2014thimchatixngkvs106 29 cdkarthim2018 2019darbiekhanti2019 2021echlsi2022 2023exfewxrtn2023echlsi chwkhraw ndthilngelnaelapratuthiyingihaeksomsrechphaalikinpraethsethannprawtiaefrngk aelmphard michuxetmwa aefrngk ecms aelmphard ekidwnthi 20 mithunayn kh s 1978 thikrunglxndxn intrakulnkfutbxl odyphxkhxngekhakhux aefrngk aelmphard sieniyr epnxditkxnghlngthimchatixngkvs lungkhxngekhakhux aehrri erdaenpp aelaepnlukphiluknxngkb epnxditnketakhxngesaaethmptnechnediywkn karsuksacbcakmhawithyalylxndxn ekhaepnhnunginxditnketaeyawchnkhxngewstaehmyuinetd aelaekhythukyumtwipelnkb swxnsisiti in kh s 1995 aelayaymarwmsomsr echlsi in kh s 2001 tidthimchatixngkvskhrngaerkemux kh s 1999 aelmphardepnkxngklangthithapratuid 200 pratu sungmakthisudinprawtisastrkhxngsomsr aelaepnkxngklangkhnthisxngtxcak thithapratumakwa 100 pratuinphriemiyrlik nxkcakni aelmphardyngthasthitiepnphuelnkhnediywthithapratuinphriemiyrlikmakkwa 10 pratutidtxknthung 9 vdukalxikdwysomsrxachiphewstaehmyuinetd aelmphard erimtnxachiphfutbxlkbsomsrewstaehmyuinetd odylngelnkbthimeyawchntngaet pi 1993 aelasrangphlnganiddiphxsmkhwr odyekhayngepnlukchaykhxngaefrngk aelmphard sieniyr phuchwykhnsakhykhxngaehrri erdaenpp kunsuxkhxngewstaehminkhnannsungepnlungkhxngekha 1994 1995 esnsyyaepnnketakbsomsrewstaehmyuinetd aetekhakyngimidlngelninchudihy odylngelninthimsarxngkhxngsomsrxun 1995 1996 aelwoxkassmphsekmkbthimchudihykekidkhuninvdukalni odylngelnepntwsarxnginekmphriemiyrchiph aelaekhalngelnihewstaehm 2 ndkthukplxytwihswxnsisiti thimindiwichn 2 yumtwipichngan odylngelnkbswxnsi 9 nd thaid 1 pratu 1996 1997 hlngcakklbmacakkaryumtwekhakidlngelnihthimmakkhuninvdukaltxma odylngelnxik 13 nd aetkmaochkhraykradukkhakhwaaetkinndpathakbaexstnwilla thaihtxngphkyaw 1997 1998 klbmaelnihthimxikkhrng odyyudtaaehnngtwcringidsaerc aelalngelnthnghmd 31 nd thaid 4 pratu klayepnmidfilddawrungkhwyickxngechiyrthimkhunkhxn cakphlnganxyangtxenuxngkbthaihekhamichuxtidthimchatixngkvschudelk 1998 1999 yngkhngelnkbxyangtxenuxng thungaemphlngankhxngthimcaipidimiklnk aetchuxkhxngaefrngk aelmphardkerimekhaipxyuinickhxngbrrdakunsuxthnghlay odyekhalngelnih 38 nd thaid 5 pratu 1999 2000 vdukalniewstaehmphanekhaipelnyufakhph odyphankarkhdeluxkcakthwyxinetxrototkhphdwy sungaelmphardkyngelnihthimxyangtxenuxng odyekhalngelnthngsin 34 nd thaid 7 pratu aelaekhakmichuxtidthimchatixngkvschudihy odyekhalngelnkhrngaerkinndkrachbmitrkbebleyiymthisetediymxxfilt snamehyakhxngsnedxraelnd inwnthi 10 tulakhm 1999 2000 2001 ekhaepnnketathiphlngankhngesnkhngwamakthisudkhnhnunginphriemiyrchiph odypiniekhalngeln 30 nd thaid 7 pratu aetphlngankhxngthimkimnaprathbicnk sunghlngcbvdukalmihlaythimtangihkhwamsnicintwekha aelakekidkarepliynaeplngkhrngihykhuninthim phxaelalungkhxngekhathuksomsrilxxk thaihekhaerimimmikhwamsukhkbthimtnsngkd aelakepnkunsux ekladiox raniexri khxngechlsithiesnxengin 11 lanpxndephuxsuxtwekhaiprwmthim echlsi 2001 2002 ekhaklaymaepnnketakhxngechlsiodyesnsyyainwnthi 14 mithunayn 2001 dwykhatw 11 lanpxnd aelaerimtnchiwitkarkhaaekhngthithathayihmxikkhrng odyekhalngelnepnkxngklangekhiyngkhangkbaexmanuaexl epxti sungthuxwaepnkhukxngklangthiaekhngaekrngmak ekhaphathimekhathungrxbchingchnaelisexfexkhphinvdukalaerkkhxngthimsingotnaenginkhram aetktxngphidhwngemuxndchingphaykbxaresnxl sungvdukalniexngthixaresnxlkhwadbebilaechmpepnkhrngthisxng odyaelmphardlngelninlikthngsin 37 nd thaid 5 pratu aela 1 pratucak 4 ekminyufakhph thungaemwavdukalniekhacaochwphlnganidyxdeyiym aetkimmichuxtidthimchatiiprwmfutbxlolk 2002 thiekahliitaelayipun 2002 2003 cakkhwamphidhwngthiimidrwmthimipfutbxlolkthaihekhatngicelnmakkhunkwaedim aelaphyayamxyangyingthicaipyudtwcringinthimchatixngkvs sungekhakthaiddielythiediywodyphathimkhwaxndb 4 khxnglik aeyngtaaehnngkaripelnyufaaechmepiynslikihthimidsaerc odyvdukalniekhalngelninlik 38 nd thaid 6 pratu aela 1 pratucak 2 ekminyufakhph cakphlnganthidiwndikhunkhxngekhathaihekhamioxkaskawkhuniptidthimchatibxykhrngkhun 2003 2004 piniekhaochwfxrmiddiphxsmkhwr thnginnamthimchati aelakbsomsrodyekhalngelninlik 38 nd thaid 10 pratu aela 4 pratucak 14 ekminyufaaechmepiynlik ekhaidrangwlxndb 2 nketayxdeyiymkhxng PFA odyepnrxngtiaeyri xxngri nketaradbolkkhxngxaresnxl aelapiniexngekhayngthapratuinnamthimchatiepnkhrngaerkinndkrachbmitrphbkbokhrexechiy inwnthi 20 singhakhm 2003 infutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp hruxyuor 2004 thioprtuekspiniekhamichuxepntwcring inthananketakhnsakhykhxngthim ekhalngelnndaerkphbfrngess aelaxngkvschnaip 2 1 odyaelmphard thaid 1 pratu sungndtxmaphb switesxraelnd ekhakphathimchnaip 3 0 odytxmaphbkb okhrexechiy aelaaelmphardkyingxik 1 pratuinchychna 4 2 aetaelwxngkvsktxngtkrxbtxmadwyfimuxecaphaph inkardwlcudoths 2004 2005 piniexngechlsimikarepliynaeplngxikkhrngodykarmakhxngoches muriyoy phucdkarthimkhnihmsungphkdikrimamakmaythngaechmplikoprtueks aechmpyufakhph aelayufaaechmepiynslik ekhaepliynaeplngthimkhrngihyodysuxnketaihmekhamaesrimmakmay aetaefrngk aelmphardkyngepnnketakhnsakhykhxngthimrwmdaraolkxyu sungkimidthaihthimphidhwngekhaphathimkhunkhwaaechmpliksungsudkhxngxngkvs aelathaluipthungrxb 4 thimsudthaykhxngaechmpepiynlikaetkphaykbliewxrphulsungepnaechmpkhxngaechmpepiynlikinewlatxmaipdwypratukhaickhxngaefnechlsithwolk nxkcakniyngphathimidaechmplikkhphxikdwy odyinvdukalniekhalngelnthngsin 38 nd thaid 13 pratu aela 4 pratucak 12 ekminyufaaechmepiynlik 2005 2006 ekhayngochwfxrmiddixyangsmaesmx phatnsngkdkhunsucafungphriemiyrlik dwykhaaennthwmthn aelayngyingpratuxyangtxenuxng odythalaysthitilngsnamtidtxknyawnanthisudinprawtisastrphriemiyrchiphkhxngedwid ecmsthithaiw 159 ndlngxyangsineching odyvdukalniekhathaid 20 pratu epnpratucakphriemiyrlik 16 pratu cakkarlngeta 35 nd sungsungthisudinbrrdakxngklangcak phriemiyrlik aela 2 pratucaklikkhphaelaxik 2 pratucakyufaaechmepiynslik aelaphaechlsiidaechmp phriemiyrlik xiksmy 2006 2007 piniekhakyngyingpratuidxyangtxenuxng thaidthung 21 pratucakphriemiyrlik 11 pratu cakkarlngeta 36 nd exfexkhph 6 pratu likkhph 3 pratu yufaaechmepiynslik 1 pratu 2007 2008 inpinixacepnpithiochkhimkhxydisahrbekha enuxngcakmixakarbadecbaelasuyesiymarda aetkyngsamarththapratusakhyidcakcudothsinndecxliewxrphul ekmrxbrxngchnaelis aelavdukalniekhathapratuidthung 20 pratu cakphriemiyrlik 10 pratucakkarlngeta 23 1 nd exfexkhph 2 pratu likkhph 4 pratu aelayufaaechmepiynslik 4 pratu 2008 2009 ekhatxsyyaihmxxkipxik 5 pi aelayngrksamatrthankarelnidxyangdi thapratuinthukraykar 20 pratu cakphriemiyrlik 12 pratu cakkarlngeta 37 nd yufaaechmepiynslik 3 pratu likkhph 2 pratu aelaexfexkhph 3 pratu aelaepnpratusakhyihthimklbmaexachnaexfewxrtnkhwaaechmpipinthisud dwyfxrmkhxngekha thaihidrbkarohwtihepnnkfutbxlyxdeyiymkhxngechlsi pracavdukalni 2009 2010 ekhasamarthkhwadbebilaechmpkbechlsiepnsmyaerkkhxngsomsridsaerc odykarepnaechmpphriemiyrlikaelaexfexkhph odyyingipthngsin 27 praturwmthukraykarintaaehnngkxngklang 2010 2011 epnvdukalthiyaaeysahrbekha dwyxakarbadecbthirbkwnthaihinvdukalniekhaidlngelnaekh 32 ekm yingid 13 pratu rwmthukraykar odyaebngepninphriemiyrlik 10pratu aelaexfexkhph 3 pratu 2011 2012 dwykarekhamakhxng xngedr willas obxas thaihekhaimkhxythuksnglngsnam aetphlngankhxngthimthiimdi aelasomsrcungaetngtng oraebrot di mtetox epnphucdkarthimaethn thaih ekhaidklbmaepntwhlkkhxngthimxikkhrng odypini ekhathapratuid 17 pratu rwmthukraykar niwyxrksiti 2014 2015 aelmphardidyayxxkcakechlsi somsrthiekhaprasbkhwamsaercaelamichuxesiyngipyng inemecxrlik shrthxemrika aetthwayngmiidthnidlngelnihkbtnsngkd kthukaemnechsetxrsitikhxyumtwklbmaelninphriemiyrlik xngkvs thnthi phrxmkbidprakasyutikarelnihkbthimchatiip odythasthititidthimchatithngsin 106 nd yingpratuidthnghmd 29 luk aemnechsetxrsiti yum aelmphardlngelnihaemnechsetxrsitikhrngaerk inndthiphbkbxaresnxl thisnamexmiertssetediym aetpraktwathukibehluxnginnathithi 22 aelathukepliyntwxxkemuxhmdkhrungaerk aelmphardlngelnihaemnechsetxrsitindthisxng inndthiphbkbechlsi thimekakhxngtwexng thisnamexmiertssetediym aetpraktwaphuelnkhxngaemnechsetxrsitithukibaednginnathithi 66 cungthaihechlsikhunnakxn 1 0 innathithi 71 cnkrathngthungchwngthayinnathithi 85 aelmphardthapratutiesmxihkbthim chwyihphlkaraekhngkhnklbmaesmxidsaercekiyrtiprawtiewstaehmyuinetd aechmpyufaxinetxrototkhph vdukal 1999 echlsi aechmpyufaaechmepiynslik vdukal 2011 2012 aechmpyufayuorpalik vdukal 2013 aechmpphriemiyrlik vdukal 2004 2005 2005 2006 2009 2010 aechmpexfexkhph vdukal 2007 2009 2010 2012 aechmplikkhph vdukal 2005 2007 aechmpexfexkhxmmiwnitichild vdukal 2005 2009 rangwlswntw nkfutbxlyxdeyiymkhxngsmakhmphusuxkhawxngkvs pi 2005xangxingHugman Barry J 2005 The PFA Premier amp Football League Players Records 1946 2005 Queen Anne Press p 358 ISBN 1 85291 665 6 Frank Lampard finally signs MLS contract to play with NYCFC ESPN FC 10 January 2015 subkhnemux 11 January 2015 phucdkarxxniln 26 August 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 05 subkhnemux 27 August 2014 punihycmeruxibimlng epidrngecasudmn2 2 syamspxrt 13 September 2014 subkhnemux 14 September 2014 aelmphsyingthimeka erux 10 twecasinghdrama 1 1 syamspxrt 22 September 2014 subkhnemux 22 September 2014 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb aefrngk aelmphard kxnhna aefrngk aelmphard thdiptiaeyri xxngri nkfutbxlyxdeyiymkhxngsmakhmphusuxkhawxngkvs kh s 2005 tiaeyri xxngri bthkhwamnkkila phufuksxn hruxphuekiywkhxnginwngkarkilaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmul duephimthiokhrngkarwikikiladk