โกลด มอแน (ฝรั่งเศส: Claude Monet) หรือ อ็อสการ์-โกลด มอแน (Oscar-Claude Monet; 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1840 – 5 ธันวาคม ค.ศ. 1926) เป็นจิตรกรลัทธิประทับใจ และเป็นจิตรกรคนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึง 20 มีความสำคัญในการเป็นผู้ริเริ่มศิลปะในลัทธิประทับใจและมีบทบาทสำคัญในปรัชญาและการปฏิบัติของขบวนการนี้ ซึ่งเป็นการวาดภาพจากความประทับใจในสิ่งที่เห็นของผู้วาด (perception) แทนที่จะพยายามทำให้เหมือนจริงตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในจิตรกรรมภูมิทัศน์ (landscape painting) คำว่า “Impressionism” มาจากชื่อภาพเขียนของมอแนเองชื่อ ความประทับใจของพระอาทิตย์ขึ้น (“Impression, Sunrise”)
โกลด มอแน | |
---|---|
โกลด มอแน ภาพถ่ายโดยนาดาร์ ค.ศ. 1899 | |
เกิด | Oscar-Claude Monet 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1840 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส |
เสียชีวิต | 5 ธันวาคม ค.ศ. 1926 ประเทศฝรั่งเศส | (86 ปี)
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
มีชื่อเสียงจาก | จิตรกร |
ผลงานเด่น | ความประทับใจของพระอาทิตย์ขึ้น |
ขบวนการ | ลัทธิประทับใจ |
Patron(s) | , , ฌอร์ฌ เกลม็องโซ |
มอแนเป็นชาวฝรั่งเศส เกิดที่กรุงปารีสในปี 1840 เป็นชาวปารีสโดยกำเนิดแต่กลับไปเติบโตที่เมืองเลออาฟวร์ ในแคว้นนอร์มังดี เนื่องจากครอบครัวย้ายไปอยู่ที่นั่นตอนที่เขามีอายุได้ 5 ขวบ พ่อของมอแนอยากให้เขาสืบทอดธุรกิจร้านขายของชำและอุปกรณ์เรือ แต่ตัวเขาอยากเป็นศิลปิน ยังดีที่แม่ของเขาเป็นนักร้องจึงเข้าใจและให้การสนับสนุนต่อความปรารถนาแรงกล้าในการทำงานด้านศิลปะของเขา
ค.ศ. 1851 มอแนเข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะระดับมัธยมในเมืองเลออาฟวร์ ระหว่างการเรียนที่นี่เขาเริ่มฉายแววจิตรกรเอกของโลกในอนาคตด้วยการเขียนภาพการ์ตูนล้อเลียน (Caricature) ด้วยถ่านไม้ซึ่งเขาขายได้ในราคาราว 10–20 ฟรังก์ สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักกันทั่ว บุคคลที่เขามักนำใบหน้ามาเขียนภาพล้อเลียนคือครูของเขาเอง
ชีวิตเบื้องต้น
มอแนเกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1840 บนชั้น 5 ของบ้านเลขที่ 45 ถนนลาฟิตต์ เขต 9 ในปารีส เป็นลูกชายคนที่สองของโกลด อาดอลฟ์ และลุย จุสตีน โอเบรผู้เป็นนักร้อง ทั้งสองคนเป็นชาวปารีสชั่วคนที่สอง มอแนรับศึลจุ่มเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมปีต่อมาที่วัดนอเทรอดามเดอโลเร็ต ในชื่อ อ็อสการ์ โกลด เมื่อปี ค.ศ. 1845, ครอบครัวของมอแนย้ายไปเมืองเลออาฟวร์ (Le Havre) ในนอร์ม็องดีทางเหนือของฝรั่งเศส พ่อของมอแนอยากให้มอแนทำกิจการร้านขายของชำของครอบครัวแต่มอแนอยากเป็นศิลปิน
เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1851 มอแนก็เข้าเรียนศิลปะที่โรงเรียนมัธยมศิลปะที่เลออาฟวร์ และเป็นที่รู้จักกันในฝีมือการเขียนรูปการ์ตูน (caricature) ด้วยถ่านที่มอแนขายในราคา 10 ถึง 20 ฟรังส์ นอกจากนั้นมอแนก็ยังเรียนการเขียนภาพเป็นครั้งแรกกับฌัก-ฟร็องซัว โอชารด์ (Jacques-François Ochard) ผู้เป็นลูกศิษย์ของฌัก-หลุยส์ ดาวิด (Jacques-Louis David) ระหว่างปี ค.ศ. 1856-1857 มอแนพบ (Eugène Boudin) ผู้เป็นจิตรกรและผู้ที่มอแนถือว่าเป็นครูและเป็นผู้สอนให้มอแนวาดภาพด้วยด้วยสีน้ำมัน และสอนวิธีวาดภาพ “นอกสถานที่” (en plein air)
แม่ของมอแนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1857 เมื่อมอแนอายุได้ 16 มอแนก็ลาออกจากโรงเรียนไปอยู่กับน้ามารี-ฌาน เลอกาดร์ (Marie-Jeanne Lecadre) ผู้เป็นแม่ม่ายและไม่มีลูกของตนเอง
ปารีส
เมื่อมอแนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ปารีส มอแนพบว่างานเขียนที่เห็นในพิพิธภัณฑ์เป็นภาพที่ลอกมาจากภาพของครูบาสมัยเก่า แทนที่จะนั่งลอกภาพเขียนที่แขวนในพิพิธภัณฑ์ มอแนก็กลับเอาขาหยั่งไปตั้งริมหน้าต่างและวาดภาพสิ่งที่เห็นนอกหน้าต่าง มอแนอยู่ปารีสเป็นเวลาหลายปีและได้พบจิตรกรหลายคนผู้กลายมาเป็นเพื่อนและจิตรกรลัทธิประทับใจร่วมสมัยของมอแน เพื่อนคนหนึ่งของมอแนคือเอดวด มาเนท์
เมื่อเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1861 มอแนสมัครเป็นทหารกับกอง First Regiment of African Light Cavalry ในประเทศแอลจีเรีย มอแนเป็นทหารอยู่ได้สองปีก็เป็นไข้ไทฟอยด์ มาดามเลอคาเดรจึงให้มอแนลาออกจากการเป็นทหารโดยให้สัญญาว่าต้องไปเรียนวิชาศิลปะต่อให้จบที่มหาวิทยาลัย อาจจะเป็นได้ว่าโยฮันน์ ยองคินด์ (Johan Jongkind) จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ผู้มอแนรู้จัก มีส่วนในการให้ข้อเสนอแนะนี้ แต่มอแนก็ไม่พอใจกับทฤษฏีการสอนตามแบบที่ทำกันมาของมหาวิทยาลัย ในปี ค.ศ. 1862 มอแนก็ไปเป็นลูกศิษย์ของ (Marc-Charles-Gabriel Gleyre) ที่ปารีสซึ่งเป็นที่ที่มอแนได้พบปีแยร์ ออกุสต์ เรอนัวร์, เฟรเดริก บาซีย์ (Frédéric Bazille) และอัลเฟรด ซิสลีย์ สามคนนี้ก็มีแนวนิยมในการเขียนภาพแบบใหม่ร่วมกัน--การเขียนที่พิจารณาถึงผลของแสงที่มีต่อสิ่งที่วาดนอกสถานที่ การใช้แสงแตกหัก และฝีแปรงที่หยาบที่กลายมาเป็นลักษณะลัทธิประทับใจที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
เมื่อปี ค.ศ. 1866 มอแนเขียนภาพ “กามีย์” (Camille) และ “ผู้หญิงในชุดเขียว” (La Femme à la Robe Verte) ซึ่งเป็นภาพที่นำชื่อเสียงมาสู่มอแน และเป็นภาพในบรรดาหลายภาพที่มอแนเขียนโดยมีกามีย์ ดองโซเป็นแบบ หลังจากนั้นไม่นานกามีย์ก็ท้องและมีลูกคนแรกด้วยกันกับมอแน--ชอง มอแน เมื่อปี ค.ศ. 1866 มอแนพยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตายซึ่งคงมาจากปัญหาความขัดสน
สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ลัทธิประทับใจ และอาร์ฌ็องเตย
หลังจากเกิดสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 มอแนก็ลี้ภัยไปอยู่อังกฤษเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1870 ขณะที่อยู่ที่นั่นมอแนก็ศึกษางานภาพภูมิทัศน์ของ จอห์น คอนสตาเบิล (John Constable) และ วิลเลียม เทอร์เนอร์ (William Turner) ซึ่งมามีอิทธิพลต่อการศึกษาเรื่องการใช้สี เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1871 ทางราชสถาบันศิลปะ (Royal Academy) ไม่ยอมแสดงผลงานของมอแน
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1871 มอแนก็ย้ายจากลอนดอนไปซานดาม (Zaandam) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่มอแนเขียนภาพ 25 ภาพ (เป็นที่ที่ตำรวจสงสัยว่ามอแนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ) จากซานดามมอแนก็มีโอกาสไปอัมสเตอร์ดัมซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ประมาณเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1871 มอแนก็ย้ายกลับปารีส ระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ. 1871 ถึง ค.ศ. 1878 มอแนอาศัยอยู่ที่อาร์ฌ็องเตย (Argenteuil) ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำเซนใกล้ปารีส และเป็นที่ที่มอแนวาดภาพที่กลายมาเป็นภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของมอแน และเป็นภาพที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายหลายภาพ ในปี ค.ศ. 1874 มอแนกลับไปเนเธอร์แลนด์อยู่ระยะหนึ่ง
ประมาณปี ค.ศ. 1872 หรือ 1873 มอแนวาดภาพ “Impression, Sunrise” (Impression: soleil levant—ความประทับใจของพระอาทิตย์ขึ้น) ซึ่งเป็นภาพภูมิทัศน์ของเลออาฟวร์ ภาพนี้ตั้งแสดงที่งานนิทรรศการศิลปะลัทธิประทับใจครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1874 ในปัจจุบันตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์มาโมแตง-มอแน ที่ปารีส หลุยส์ เลอรอยนักวิจารณ์ศิลปะเริ่มใช้คำ “อิมเพรสชันนิสม์” จากชื่อภาพในการบรรยายศิลปะลักษณะนี้อย่างเยาะ ๆ แต่จิตรกรลัทธิประทับใจนิยมคำและเริ่มใช้เรียกตัวเองอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง อ้างอิงที่ไม่มีชื่อต้องมีเนื้อหา
มอแนและกามีย์ ดองโซแต่งงานกันเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1870 ไม่นานก่อนเกิดสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย พอปี ค.ศ. 1876 กามีย์ก็เริ่มป่วย หลังจากมีมิเชลลูกคนที่สองเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1878 สุขภาพของกามีย์ก็เสื่อมลง ในที่สุดก็เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 32 ปีด้วยวัณโรคเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1879 มอแนวาดภาพกามีย์บนเตียงที่กามีย์นอนป่วย
ภาพเขียนสมัยแรก
- “Le dejeuner sur lherbe” – ค.ศ. 1865-1866, พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งพุชคิน, มอสโก
- “Le dejeuner sur lherbe” (ด้านขวาเป็นกุสตาฟ คูเบท์) – ค.ศ. 1865-1866, พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “สวนดอกไม้ที่แซ็งตาแดร็ส” (Flowering Garden at Sainte-Adresse) – ค.ศ. 1866, พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “ผู้หญิงในสวน” (Woman in a Garden) – ค.ศ. 1867, พิพิธภัณฑ์เฮอร์มืทาจ, เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก
- “สวนที่แซ็งตาแดร็ส” (Jardin à Sainte-Adresse) – ค.ศ. 1867, พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
- “La Grenouillère” – ค.ศ. 1869, พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
- “ลุ่มแม่น้ำเซนกับอาร์ฌ็องเตย” (Seine Basin with Argenteuil) – ค.ศ. 1875, พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “ผู้หญิงกางร่ม” (Woman with a Parasol) – ค.ศ. 1867, พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ, วอชิงตัน ดี.ซี., สหรัฐอเมริกา
- “อาร์ฌ็องเตย” (Argenteuil) – ค.ศ. 1875, Musée de l'Orangerie, ปารีส
- “เวทุยในหมอก” (Vétheuil in the Fog) – ค.ศ. 1879, พิพิธภัณฑ์มาโมแตง-มอแน, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
ชีวิตสมัยหลัง
หลังจากมอแนโศกเศร้ากับการตายของกามีย์อยู่หลายเดือนมอแนก็สัญญากับตนเองว่าจะไม่ยอมเป็นทาสความยากไร้อีก โดยเริ่มเขียนภาพจริง ๆ จัง ๆ และสร้างงานที่ดึที่สุดของตนเองของสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อต้นคริสต์ทศศตวรรษ 1880 มอแนก็วาดภาพภูมิทัศน์ของชนบทฝรั่งเศสด้วยความตั้งใจที่จะทำเป็นหลักฐานของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เกิดการวาดภาพเป็นชุดหลายชุดที่เกี่ยวกับภูมิทัศน์ของชนบทฝรั่งเศส
ภาพชุดพอพพลา
- ลมแรง
- ฤดูใบไม้ร่วง
- ฤดูใบไม้ร่วง
- แดดออก
-
เมื่อปีค.ศ. 1878 มอแนและกามีย์ย้ายไปอยู่ที่บ้านของเอิร์นเนส โอเชด (Ernest Hoschedé) เป็นการชั่วคราว โอเชดเป็นเจ้าของร้านสรรพสินค้าผู้มีฐานะและเป็นผู้อุปถัมป์ศิลปิน สองครอบครัวนี้ก็อยู่ด้วยกันที่เวทุย (Vétheuil) ระหว่างหน้าร้อน หลังจากที่เอิร์นเนสล้มละลายและย้ายไปประเทศเบลเยียมเมื่อปีค.ศ. 1878 และหลังจากที่กามีย์เสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1879 มอแนก็ยังคงอาศัยอยู่ที่เวทุย โดยมีอลิซ ภรรยาของเอิร์นเนส โอเชดก็ช่วยมอแนดูแลบุตรชายสองคน อลิซนำลูกของมอแนไปเลี้ยงร่วมกับลูกของอลิซเองอีก 6 คนที่ปารีสอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะย้ายกลับมาเวทุยพร้อมกับลูก ๆ อีกครั้งเมื่อปีค.ศ. 1880 ในปีค.ศ. 1881 ทั้งสองครอบครัวก็ย้ายไปปอยซี (Poissy) ซึ่งเป็นที่ที่มอแนไม่ชอบ จากหน้าต่างรถไฟระหว่างแวร์นองและกาสนีมอแนก็พบจิแวร์นีย์ (Giverny) ในนอร์ม็องดี ในเดือนเมษายนปีค.ศ. 1883 มอแนก็ย้ายไปแวร์นองและต่อมาจิแวร์นีย์ ซึ่งเป็นที่ที่มอแนทำสวนขนาดใหญ่และเป็นที่ที่มอแนเขียนภาพตลอดในบั้นปลายของชีวิต หลังจากเอิร์นเนสเสียชีวิต อลิซก็แต่งงานกับมอแนเมื่อปีค.ศ. 1892
จิแวร์นีย์
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1883 มอแนก็เช่าที่ดินสองเอเคอร์ที่จิแวร์นีย์จากเจ้าของที่ดินบริเวณนั้น ตัวบ้านตั้งอยู่ใกล้ถนนสายหลักระหว่างแวร์นองกับกาสนี ตัวบ้านมีโรงนาที่มอแนใช้เป็นห้องสำหรับเขียนภาพ ภูมิทัศน์บริเวณนั้นก็เหมาะกับการเขียนภาพของมอแน นอกจากนั้นครอบครัวก็ยังช่วยกันทำสวนดอกไม้ใหญ่ ฐานะของมอแนก็เริ่มดีขึ้นเมื่อมีพอล ดูรานด์ รูลเป็นนายหน้าขายภาพเขียนให้ ในปี ค.ศ. 1890 มอแนก็มีฐานะดีพอที่จะซื้อบ้าน สิ่งก่อสร้างในบริเวณนั้น และที่ดินเป็นของตนเอง ต่อมามอแนก็สร้างห้องเขียนภาพอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่กว่าเดิมและเป็นเพดานที่มีแสงส่องเข้ามาได้ ตั้งแต่คริสต์ทศศตวรรษ 1880 จนกระทั่งมอแนเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1926 มอแนเขียนภาพหลายชุดสำหรับการแสดงภาพเขียน ซึ่งแต่ละชุดมอแนก็จะวาดตัวแบบเดียวกันแต่จากมุมต่าง ๆ กันและต่างเวลากันตามแต่แสงและภาวะอากาศจะเปลี่ยนแสงสีของสิ่งที่วาด เช่นภาพชุดกองฟางที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1890-1891 ซึ่งเขียนจากหลายมุมและต่างฤดูและต่างเวลากันในแต่ละวัน ภาพเขียนชุดอื่น ๆ ที่มอแนก็ได้แก่ ชุดมหาวิหารรูอ็อง, ชุดต้นพอพพลา, ชุดตึกรัฐสภาอังกฤษ, ชุดยามเช้าบนฝั่งแม่น้ำเซน, และชุดดอกบัวซึ่งมอแนเขียนที่จิแวร์นีย์
บางครั้งมอแนยังชอบเขียนภาพธรรมชาติที่ตกแต่งแล้วเช่นภายในสวนที่มอแนจัดตกแต่งเองที่บ้านจิแวร์นีย์[1] ซึ่งเป็นสวนที่มีสระน้ำ, สะพานเล็ก ๆ ข้ามสระ, ต้นวิลโลร้องไห้, และดอกบัว ซึ่งสวนจริงยังมีให้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ นอกจากนั้นก็ยังเดินขึ้นล่องริมฝั่งแม่น้ำเซนเพื่อเขียนรูป ระหว่างปี ค.ศ. 1883 ถึงปี ค.ศ. 1908 มอแนเดินทางไปเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมอแนเขียนภาพสิ่งที่น่าสนใจ, ภูมิทัศน์ และ ทะเลทัศน์ เมื่อไปเวนิสมอแนก็เขียนภาพชุดเวนิส และลอนดอนเป็นชุดตึกรัฐสภาอังกฤษ และสะพานชาริงครอส
อลิซและลูกชายคนโตของมอแนผู้แต่งงานกับแบลนช์ ลูกสาวคนโตของอลิซเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1911 หลังจากนั้นแบลนช์ก็ดูแลมอแน ระหว่างนี้มอแนก็เริ่มเป็นต้อ
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งลูกชายคนที่สองเป็นทหารและจอร์จ เคลมองโซ (Georges Clemenceau) ผู้เป็นเพื่อนและผู้นำฝรั่งเศส มอแนเขียนภาพชุด “วิลโลร้องไห้” (Weeping Willow) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวฝรั่งเศสผู้เสียชีวิตในสงคราม มอแนได้รับการผ่าตัดต้อสองครั้งในปี ค.ศ. 1923 ต้อของมอแนมีผลต่อสีของภาพเขียนๆ ระหว่างที่เป็นต้อจะออกโทนแดงซึ่งเป็นลักษณะของผู้เป็นต้อ นอกจากนั้นมอแนยังสามารถมองเห็นคลื่นแสงอัลตราไวโอเล็ทที่ตาปกติจะมองไม่เห็นซึ่งอาจจะทำให้มีผลต่อการเห็นสีของมอแน หลังจากผ่าตัดแล้วมอแนก็พยายามทาสีบางภาพใหม่ เช่นภาพชุดดอกบัวที่เป็นสีน้ำเงินกว่าเมื่อก่อนได้รับการผ่าตัด
ภาพเขียนสมัยหลัง
- “หน้าผาที่เอทเทรทาท์” (The Cliffs at Etretat) – ค.ศ. 1885, สถาบันศิลปะคลาร์ก, วิลเลียมสทาวน์, รัฐแมสซาชูเซตส์, สหรัฐอเมริกา
- “ภาพนิ่งกับดอกแอนนิโมนี” (Still-Life with Anemones) – ค.ศ. 1885, ภาพสะสมส่วนบุคคล, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “กองฟาง (พระอาทิตย์ตก)” (The Cliffs at Etretat) – ค.ศ. 1890-1891, พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอสตัน, สหรัฐอเมริกา
- “มหาวิหารรูอ็อง (พระอาทิตย์ตก)” – ค.ศ. 1892-1894, พิพิธภัณฑ์มาโมแตง-มอแน, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “สะพานข้ามสระบัว” (Bridge over a Pool of Water Lilies) – ค.ศ. 1899, พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
- “พอพพลาบนฝั่งน้ำเอพ” (Pappeln on the Epte) – ค.ศ. 1900, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์
- “ตึกรัฐสภาอังกฤษ ลอนดอน” (Houses of Parliament, London) – ค.ศ. 1904, พิพิธภัณฑ์มาโมแตง-มอแน, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “วังที่เวนิส” (Palace From Mula, Venice) – ค.ศ. 1908, พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ, วอชิงตัน ดี.ซี., สหรัฐอเมริกา
- “Nympheas” – ราว ค.ศ. 1916, พิพิธภัณฑ์มาโมแตง-มอแน, ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
- “บัวน้ำ” (Water Lilies) – ค.ศ. 1916, พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ, โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
บั้นปลาย
มอแนเสียชีวิตจากโรคมะเร็งที่ปอดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1926 เมื่ออายุ 86 ปี ร่างของมอแนถูกฝังไว้ที่วัดที่จิแวร์นีย์ มอแนขอให้เป็นพิธีง่าย ๆ ฉะนั้นจึงมีผู้ร่วมงานศพเพียง 50 คน
เมื่อปี ค.ศ. 1966 ลูกหลานของมอแนก็ยกบ้าน สวนและบึงบัวให้กับสถาบันศิลปะแห่งฝรั่งเศส (Academy of Fine Arts) ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 นอกจากสิ่งของของมอแนแล้ว ภายในบ้านยังเป็นภาพพิมพ์แกะไม้ของญี่ปุ่น (Japanese woodcut prints) ที่มอแนสะสมด้วย
อ้างอิง
- Biography of Claude Monet giverny.org. Retrieved 6 January 2007
- House, John, et al: Monet in the 20th Century, page 2. Yale University Press, 1998.
- P. Tucker Claude Monet: Life and Art, p.5
- Biography for Claude Monet 2007-01-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Guggenheim Collection. Retrieved 6 January 2007.
- Monet, Claude Nicolas Pioch, www.ibiblio.org, 19 September 2002. Retrieved 6 January 2007
- Charles Stuckey "Monet, a Retrospective", Hugh Lauter Levin Associates, 195
- The texts of seven police reports, written on 2 June – 9 October 1871 are included in Monet in Holland, the catalog of an exhibition in the Amsterdam Van Gogh Museum (1986).
- His paintings are shown and discussed here 2007-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- http://www.artelino.com/articles/la_japonaise.asp accessed 25 September 2007
- accessed 25 September 2007
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-29. สืบค้นเมื่อ 2008-02-14.
- Charles Merrill Mount, Monet a biography, Simon and Schuster publisher, copyright 1966, pp.309-322.
- Forge, Andrew, and Gordon, Robert, Monet, page 224. Harry N. Abrams, 1989.
- Let the light shine in Guardian News, 30 May 2002. Retrieved 6 January 2007.
- The village of Giverny giverny.org. Retrieved 6 January 2007
- P. Tucker Claude Monet: Life and Art, p.224
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-13. สืบค้นเมื่อ 2008-02-14.
ข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ โกลด มอแน
- ภาพเขียนของโกลด มอแน (อังกฤษ)
- โกลด มอแน ที่ Webmuseum (อังกฤษ)
- โกลด มอแนเขียนเอง (อังกฤษ)
- ตารางชีวิตของโกลด มอแน (อังกฤษ)
- มอแนแกเลอรี 2008-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)
- มอแน (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
okld mxaen frngess Claude Monet hrux xxskar okld mxaen Oscar Claude Monet 14 phvscikayn kh s 1840 5 thnwakhm kh s 1926 epncitrkrlththiprathbic aelaepncitrkrkhnsakhykhxngpraethsfrngessinkhriststwrrsthi 19 thung 20 mikhwamsakhyinkarepnphurierimsilpainlththiprathbicaelamibthbathsakhyinprchyaaelakarptibtikhxngkhbwnkarni sungepnkarwadphaphcakkhwamprathbicinsingthiehnkhxngphuwad perception aethnthicaphyayamthaihehmuxncringtamthrrmchati odyechphaaincitrkrrmphumithsn landscape painting khawa Impressionism macakchuxphaphekhiynkhxngmxaenexngchux khwamprathbickhxngphraxathitykhun Impression Sunrise okld mxaenokld mxaen phaphthayodynadar kh s 1899ekidOscar Claude Monet 14 phvscikayn kh s 1840 1840 11 14 paris praethsfrngessesiychiwit5 thnwakhm kh s 1926 1926 12 05 86 pi praethsfrngesssychatifrngessmichuxesiyngcakcitrkrphlnganednkhwamprathbickhxngphraxathitykhunkhbwnkarlththiprathbicPatron s chxrch eklmxngos mxaenepnchawfrngess ekidthikrungparisinpi 1840 epnchawparisodykaenidaetklbipetibotthiemuxngelxxafwr inaekhwnnxrmngdi enuxngcakkhrxbkhrwyayipxyuthinntxnthiekhamixayuid 5 khwb phxkhxngmxaenxyakihekhasubthxdthurkicrankhaykhxngchaaelaxupkrnerux aettwekhaxyakepnsilpin yngdithiaemkhxngekhaepnnkrxngcungekhaicaelaihkarsnbsnuntxkhwamprarthnaaerngklainkarthangandansilpakhxngekha kh s 1851 mxaenekhaeriynthiorngeriynsilparadbmthyminemuxngelxxafwr rahwangkareriynthiniekhaerimchayaewwcitrkrexkkhxngolkinxnakhtdwykarekhiynphaphkartunlxeliyn Caricature dwythanimsungekhakhayidinrakharaw 10 20 frngk srangchuxcnepnthiruckknthw bukhkhlthiekhamknaibhnamaekhiynphaphlxeliynkhuxkhrukhxngekhaexngchiwitebuxngtn bnfngaemnaaesn bxnkur On the Bank of the Seine Bennecourt kh s 1868 twxyangaerkkhxngkarwadphaphinlththiprathbicnxksthanthi Impression Sunrise kh s 1872 1873 mxaenekidemuxwnthi 14 phvscikayn kh s 1840 bnchn 5 khxngbanelkhthi 45 thnnlafitt ekht 9 inparis epnlukchaykhnthisxngkhxngokld xadxlf aelaluy custin oxebrphuepnnkrxng thngsxngkhnepnchawparischwkhnthisxng mxaenrbsulcumemuxwnthi 20 phvsphakhmpitxmathiwdnxethrxdamedxolert inchux xxskar okld emuxpi kh s 1845 khrxbkhrwkhxngmxaenyayipemuxngelxxafwr Le Havre innxrmxngdithangehnuxkhxngfrngess phxkhxngmxaenxyakihmxaenthakickarrankhaykhxngchakhxngkhrxbkhrwaetmxaenxyakepnsilpin emuxwnthi 1 emsayn kh s 1851 mxaenkekhaeriynsilpathiorngeriynmthymsilpathielxxafwr aelaepnthiruckkninfimuxkarekhiynrupkartun caricature dwythanthimxaenkhayinrakha 10 thung 20 frngs nxkcaknnmxaenkyngeriynkarekhiynphaphepnkhrngaerkkbchk frxngsw oxchard Jacques Francois Ochard phuepnluksisykhxngchk hluys dawid Jacques Louis David rahwangpi kh s 1856 1857 mxaenphb Eugene Boudin phuepncitrkraelaphuthimxaenthuxwaepnkhruaelaepnphusxnihmxaenwadphaphdwydwysinamn aelasxnwithiwadphaph nxksthanthi en plein air aemkhxngmxaenesiychiwitemuxwnthi 28 mkrakhm kh s 1857 emuxmxaenxayuid 16 mxaenklaxxkcakorngeriynipxyukbnamari chan elxkadr Marie Jeanne Lecadre phuepnaemmayaelaimmilukkhxngtnexng paris emuxmxaenipeyiymchmphiphithphnthlufwrthiparis mxaenphbwanganekhiynthiehninphiphithphnthepnphaphthilxkmacakphaphkhxngkhrubasmyeka aethnthicannglxkphaphekhiynthiaekhwninphiphithphnth mxaenkklbexakhahyngiptngrimhnatangaelawadphaphsingthiehnnxkhnatang mxaenxyuparisepnewlahlaypiaelaidphbcitrkrhlaykhnphuklaymaepnephuxnaelacitrkrlththiprathbicrwmsmykhxngmxaen ephuxnkhnhnungkhxngmxaenkhuxexdwd maenth emuxeduxnminakhm pi kh s 1861 mxaensmkhrepnthharkbkxng First Regiment of African Light Cavalry inpraethsaexlcieriy mxaenepnthharxyuidsxngpikepnikhithfxyd madamelxkhaedrcungihmxaenlaxxkcakkarepnthharodyihsyyawatxngiperiynwichasilpatxihcbthimhawithyaly xaccaepnidwaoyhnn yxngkhind Johan Jongkind citrkrchawenethxraelndphumxaenruck miswninkarihkhxesnxaenani aetmxaenkimphxickbthvstikarsxntamaebbthithaknmakhxngmhawithyaly inpi kh s 1862 mxaenkipepnluksisykhxng Marc Charles Gabriel Gleyre thiparissungepnthithimxaenidphbpiaeyr xxkust erxnwr efredrik basiy Frederic Bazille aelaxlefrd sisliy samkhnnikmiaenwniyminkarekhiynphaphaebbihmrwmkn karekhiynthiphicarnathungphlkhxngaesngthimitxsingthiwadnxksthanthi karichaesngaetkhk aelafiaeprngthihyabthiklaymaepnlksnalththiprathbicthieraruckknthukwnni emuxpi kh s 1866 mxaenekhiynphaph kamiy Camille aela phuhyinginchudekhiyw La Femme a la Robe Verte sungepnphaphthinachuxesiyngmasumxaen aelaepnphaphinbrrdahlayphaphthimxaenekhiynodymikamiy dxngosepnaebb hlngcaknnimnankamiykthxngaelamilukkhnaerkdwyknkbmxaen chxng mxaen emuxpi kh s 1866 mxaenphyayamkraoddnakhatwtaysungkhngmacakpyhakhwamkhdsn sngkhramfrngess prsesiy lththiprathbic aelaxarchxngety eruxpramngxxkcakxaw elxxafwr hlngcakekidsngkhramfrngess prsesiyemuxwnthi 19 krkdakhm kh s 1870 mxaenkliphyipxyuxngkvsemuxeduxnknyayn kh s 1870 khnathixyuthinnmxaenksuksanganphaphphumithsnkhxng cxhn khxnstaebil John Constable aela wileliym ethxrenxr William Turner sungmamixiththiphltxkarsuksaeruxngkarichsi emuxvduibimphlipi kh s 1871 thangrachsthabnsilpa Royal Academy imyxmaesdngphlngankhxngmxaen emuxeduxnphvsphakhm pi kh s 1871 mxaenkyaycaklxndxnipsandam Zaandam inpraethsenethxraelnd sungepnthimxaenekhiynphaph 25 phaph epnthithitarwcsngsywamxaenmiswnekiywkhxngkbkarptiwti caksandammxaenkmioxkasipxmsetxrdmsungxyuimiklnk pramaneduxntulakhm hruxphvscikayn pi kh s 1871 mxaenkyayklbparis rahwangeduxnthnwakhm kh s 1871 thung kh s 1878 mxaenxasyxyuthixarchxngety Argenteuil sungepnhmubanrimfngaemnaesniklparis aelaepnthithimxaenwadphaphthiklaymaepnphaphthimichuxesiyngthisudkhxngmxaen aelaepnphaphthiepnthiruckknaephrhlayhlayphaph inpi kh s 1874 mxaenklbipenethxraelndxyurayahnung pramanpi kh s 1872 hrux 1873 mxaenwadphaph Impression Sunrise Impression soleil levant khwamprathbickhxngphraxathitykhun sungepnphaphphumithsnkhxngelxxafwr phaphnitngaesdngthingannithrrskarsilpalththiprathbickhrngaerkemuxpi kh s 1874 inpccubntngxyuthiphiphithphnthmaomaetng mxaen thiparis hluys elxrxynkwicarnsilpaerimichkha ximephrschnnism cakchuxphaphinkarbrryaysilpalksnanixyangeyaa aetcitrkrlththiprathbicniymkhaaelaerimicheriyktwexngxangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng xangxingthiimmichuxtxngmienuxha mxaenaelakamiy dxngosaetngnganknemuxwnthi 28 mithunayn kh s 1870 imnankxnekidsngkhramfrngess prsesiy phxpi kh s 1876 kamiykerimpwy hlngcakmimiechllukkhnthisxngemuxwnthi 17 minakhm kh s 1878 sukhphaphkhxngkamiykesuxmlng inthisudkesiychiwitemuxxayuid 32 pidwywnorkhemuxwnthi 5 knyayn kh s 1879 mxaenwadphaphkamiybnetiyngthikamiynxnpwy phaphekhiynsmyaerk Le dejeuner sur lherbe kh s 1865 1866 phiphithphnthsilpaaehngphuchkhin mxsok Le dejeuner sur lherbe dankhwaepnkustaf khuebth kh s 1865 1866 phiphithphnthdxres paris praethsfrngess swndxkimthiaesngtaaedrs Flowering Garden at Sainte Adresse kh s 1866 phiphithphnthdxres paris praethsfrngess phuhyinginswn Woman in a Garden kh s 1867 phiphithphnthehxrmuthac esntpietxsebirk swnthiaesngtaaedrs Jardin a Sainte Adresse kh s 1867 phiphithphnthemothroplitn nkhrniwyxrk shrthxemrika La Grenouillere kh s 1869 phiphithphnthemothroplitn nkhrniwyxrk shrthxemrika lumaemnaesnkbxarchxngety Seine Basin with Argenteuil kh s 1875 phiphithphnthdxres paris praethsfrngess phuhyingkangrm Woman with a Parasol kh s 1867 phiphithphnthsilpaaehngchati wxchingtn di si shrthxemrika xarchxngety Argenteuil kh s 1875 Musee de l Orangerie paris ewthuyinhmxk Vetheuil in the Fog kh s 1879 phiphithphnthmaomaetng mxaen paris praethsfrngesschiwitsmyhlnghlngcakmxaenoskesrakbkartaykhxngkamiyxyuhlayeduxnmxaenksyyakbtnexngwacaimyxmepnthaskhwamyakirxik odyerimekhiynphaphcring cng aelasrangnganthiduthisudkhxngtnexngkhxngsmykhriststwrrsthi 19 emuxtnkhristthsstwrrs 1880 mxaenkwadphaphphumithsnkhxngchnbthfrngessdwykhwamtngicthicathaepnhlkthankhxngpraethsfrngess sungthaihekidkarwadphaphepnchudhlaychudthiekiywkbphumithsnkhxngchnbthfrngess phaphchudphxphphla lmaerng vduibimrwng vduibimrwng aeddxxk emuxpikh s 1878 mxaenaelakamiyyayipxyuthibankhxngexirnens oxechd Ernest Hoschede epnkarchwkhraw oxechdepnecakhxngransrrphsinkhaphumithanaaelaepnphuxupthmpsilpin sxngkhrxbkhrwnikxyudwyknthiewthuy Vetheuil rahwanghnarxn hlngcakthiexirnenslmlalayaelayayippraethsebleyiymemuxpikh s 1878 aelahlngcakthikamiyesiychiwitemuxeduxnknyayn kh s 1879 mxaenkyngkhngxasyxyuthiewthuy odymixlis phrryakhxngexirnens oxechdkchwymxaenduaelbutrchaysxngkhn xlisnalukkhxngmxaenipeliyngrwmkblukkhxngxlisexngxik 6 khnthiparisxyurayahnung kxnthicayayklbmaewthuyphrxmkbluk xikkhrngemuxpikh s 1880 inpikh s 1881 thngsxngkhrxbkhrwkyayippxysi Poissy sungepnthithimxaenimchxb cakhnatangrthifrahwangaewrnxngaelakasnimxaenkphbciaewrniy Giverny innxrmxngdi ineduxnemsaynpikh s 1883 mxaenkyayipaewrnxngaelatxmaciaewrniy sungepnthithimxaenthaswnkhnadihyaelaepnthithimxaenekhiynphaphtlxdinbnplaykhxngchiwit hlngcakexirnensesiychiwit xliskaetngngankbmxaenemuxpikh s 1892 ciaewrniy banaelaswnthiciaewrniy emuxtneduxnphvsphakhm kh s 1883 mxaenkechathidinsxngexekhxrthiciaewrniycakecakhxngthidinbriewnnn twbantngxyuiklthnnsayhlkrahwangaewrnxngkbkasni twbanmiorngnathimxaenichepnhxngsahrbekhiynphaph phumithsnbriewnnnkehmaakbkarekhiynphaphkhxngmxaen nxkcaknnkhrxbkhrwkyngchwyknthaswndxkimihy thanakhxngmxaenkerimdikhunemuxmiphxl durand rulepnnayhnakhayphaphekhiynih inpi kh s 1890 mxaenkmithanadiphxthicasuxban singkxsranginbriewnnn aelathidinepnkhxngtnexng txmamxaenksranghxngekhiynphaphxikhxnghnungsungepnhxngthiihykwaedimaelaepnephdanthimiaesngsxngekhamaid tngaetkhristthsstwrrs 1880 cnkrathngmxaenesiychiwitinpi kh s 1926 mxaenekhiynphaphhlaychudsahrbkaraesdngphaphekhiyn sungaetlachudmxaenkcawadtwaebbediywknaetcakmumtang knaelatangewlakntamaetaesngaelaphawaxakascaepliynaesngsikhxngsingthiwad echnphaphchudkxngfangthiekhiynrahwangpi kh s 1890 1891 sungekhiyncakhlaymumaelatangvduaelatangewlakninaetlawn phaphekhiynchudxun thimxaenkidaek chudmhawiharruxxng chudtnphxphphla chudtukrthsphaxngkvs chudyamechabnfngaemnaesn aelachuddxkbwsungmxaenekhiynthiciaewrniy bangkhrngmxaenyngchxbekhiynphaphthrrmchatithitkaetngaelwechnphayinswnthimxaencdtkaetngexngthibanciaewrniy 1 sungepnswnthimisrana saphanelk khamsra tnwilolrxngih aeladxkbw sungswncringyngmiihehnknxyuthukwnni nxkcaknnkyngedinkhunlxngrimfngaemnaesnephuxekhiynrup rahwangpi kh s 1883 thungpi kh s 1908 mxaenedinthangipemdietxrereniyn sungmxaenekhiynphaphsingthinasnic phumithsn aela thaelthsn emuxipewnismxaenkekhiynphaphchudewnis aelalxndxnepnchudtukrthsphaxngkvs aelasaphancharingkhrxs xlisaelalukchaykhnotkhxngmxaenphuaetngngankbaeblnch luksawkhnotkhxngxlisesiychiwitemuxpi kh s 1911 hlngcaknnaeblnchkduaelmxaen rahwangnimxaenkerimepntx rahwangsngkhramolkkhrngthi 2 sunglukchaykhnthisxngepnthharaelacxrc ekhlmxngos Georges Clemenceau phuepnephuxnaelaphunafrngess mxaenekhiynphaphchud wilolrxngih Weeping Willow ephuxepnxnusrnaekchawfrngessphuesiychiwitinsngkhram mxaenidrbkarphatdtxsxngkhrnginpi kh s 1923 txkhxngmxaenmiphltxsikhxngphaphekhiyn rahwangthiepntxcaxxkothnaedngsungepnlksnakhxngphuepntx nxkcaknnmxaenyngsamarthmxngehnkhlunaesngxltraiwoxelththitapkticamxngimehnsungxaccathaihmiphltxkarehnsikhxngmxaen hlngcakphatdaelwmxaenkphyayamthasibangphaphihm echnphaphchuddxkbwthiepnsinaenginkwaemuxkxnidrbkarphatd phaphekhiynsmyhlng hnaphathiexthethrthath The Cliffs at Etretat kh s 1885 sthabnsilpakhlark wileliymsthawn rthaemssachuests shrthxemrika phaphningkbdxkaexnniomni Still Life with Anemones kh s 1885 phaphsasmswnbukhkhl paris praethsfrngess kxngfang phraxathitytk The Cliffs at Etretat kh s 1890 1891 phiphithphnthsilpabxstn shrthxemrika mhawiharruxxng phraxathitytk kh s 1892 1894 phiphithphnthmaomaetng mxaen paris praethsfrngess saphankhamsrabw Bridge over a Pool of Water Lilies kh s 1899 phiphithphnthemothroplitn nkhrniwyxrk shrthxemrika phxphphlabnfngnaexph Pappeln on the Epte kh s 1900 phiphithphnthaehngchatiskxtaelnd tukrthsphaxngkvs lxndxn Houses of Parliament London kh s 1904 phiphithphnthmaomaetng mxaen paris praethsfrngess wngthiewnis Palace From Mula Venice kh s 1908 phiphithphnthsilpaaehngchati wxchingtn di si shrthxemrika Nympheas raw kh s 1916 phiphithphnthmaomaetng mxaen paris praethsfrngess bwna Water Lilies kh s 1916 phiphithphnthsilpatawntkaehngchati otekiyw praethsyipunbnplay srabw kh s 1920 1926 mxaenesiychiwitcakorkhmaerngthipxdemuxwnthi 5 thnwakhm kh s 1926 emuxxayu 86 pi rangkhxngmxaenthukfngiwthiwdthiciaewrniy mxaenkhxihepnphithingay channcungmiphurwmngansphephiyng 50 khn emuxpi kh s 1966 lukhlankhxngmxaenkykban swnaelabungbwihkbsthabnsilpaaehngfrngess Academy of Fine Arts pccubnepidihekhachmtngaetpi kh s 1980 nxkcaksingkhxngkhxngmxaenaelw phayinbanyngepnphaphphimphaekaimkhxngyipun Japanese woodcut prints thimxaensasmdwyxangxing200pxth khwa inswnthi aewrnxng kh s 1922Biography of Claude Monet giverny org Retrieved 6 January 2007 House John et al Monet in the 20th Century page 2 Yale University Press 1998 P Tucker Claude Monet Life and Art p 5 Biography for Claude Monet 2007 01 20 thi ewyaebkaemchchin Guggenheim Collection Retrieved 6 January 2007 Monet Claude Nicolas Pioch www ibiblio org 19 September 2002 Retrieved 6 January 2007 Charles Stuckey Monet a Retrospective Hugh Lauter Levin Associates 195 The texts of seven police reports written on 2 June 9 October 1871 are included in Monet in Holland the catalog of an exhibition in the Amsterdam Van Gogh Museum 1986 His paintings are shown and discussed here 2007 05 24 thi ewyaebkaemchchin http www artelino com articles la japonaise asp accessed 25 September 2007 accessed 25 September 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 29 subkhnemux 2008 02 14 Charles Merrill Mount Monet a biography Simon and Schuster publisher copyright 1966 pp 309 322 Forge Andrew and Gordon Robert Monet page 224 Harry N Abrams 1989 Let the light shine in Guardian News 30 May 2002 Retrieved 6 January 2007 The village of Giverny giverny org Retrieved 6 January 2007 P Tucker Claude Monet Life and Art p 224 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 13 subkhnemux 2008 02 14 khxmulephimetimlththiprathbicaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb okld mxaen phaphekhiynkhxngokld mxaen xngkvs okld mxaen thi Webmuseum xngkvs okld mxaenekhiynexng xngkvs tarangchiwitkhxngokld mxaen xngkvs mxaenaekelxri 2008 05 17 thi ewyaebkaemchchin xngkvs mxaen xngkvs